หัวข้อ: บ้านเกิดของเรา เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 17, 2014, 11:30:13 AM บ้านเกิดของเรา หน้าต่างศาสนา พระอาจารย์ศุภชัย สีลสังวโร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ "เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้" เป็นประโยคที่ ผู้เขียนได้ยินบ่อยพอสมควร ไม่ว่าจะเกิดในดินแดนยากจนขาดแคลนเพียงใด หรือในเขตแคว้นที่เจริญด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันสบาย สถานที่เหล่านั้นไม่อาจการันตีว่าจะทำให้เราดีได้เสมอไป เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายในการดำรงอยู่ของการมีชีวิตแตกต่างกันไป บางคนอยู่เพื่อตนเอง บางคนอยู่เพื่อผู้อื่น เมื่อไม่นานมานี้มีหนังสือเล่มหนึ่ง "I Am Malala" เรื่องราวชีวิตเด็กหญิงชาวปากีสถาน จากแรงสั่นสะเทือนทางอารมณ์ที่ทั่วโลกรับรู้จากหนังสือเล่มนี้ ทำให้เธอได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ มาลาลา ยูซัฟไซ เด็กน้อยที่เกิดในดินแดนหุบเขาชื่อว่าสวัตในปากีสถาน เธอเกิดมาท่ามกลางดินแดนสวยงามอันแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่บันดาลความสุขสดใส แต่ในท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติก็ยังแอบแฝงความวุ่นวายอันเกิดจากเพื่อนมนุษย์เป็น ผู้กระทำ มาลาลาและครอบครัวใช้ชีวิตส่วนมากอยู่กับการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อย ต่อสู้กับความไม่รู้หนังสือของเด็กๆ ที่ขาดโอกาสทางการศึกษาท่ามกลางความรุนแรงภายในประเทศและกลุ่มคนที่ไม่หวังดีที่คอยปิดกั้น ทำร้ายกันเอง เธอไม่มีอาวุธอะไรจะไปต่อกรนอกเสียจากปากที่จะพูดความจริงเพื่อให้สังคมโลกได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเกิดของเธอ ยิ่งอ่านเรื่องราวของเธอยิ่งเห็นความยากลำบากในการใช้ชีวิตและเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีมากยิ่งขึ้น ในสมัยพุทธกาลก็มีเรื่องราวของท่านพระปุณณะ แต่เดิมท่านเป็นชาวสุนาปรันตะ เมื่อบวชแล้วการทำสมาธิภาวนาไม่ได้ผลเพราะไม่คุ้นกับสถานที่ ท่านคิดว่าภูมิอากาศที่บ้านเดิมของท่านเหมาะกับตัวท่านมากกว่าจึงทูลลาพระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า "ชาวสุนาปรันตะเป็นคนดุร้าย ถ้าเขาด่าว่า ท่านจะวางใจต่อคนเหล่านั้นอย่างไร" พระปุณณะทูลตอบว่า "ยังดีนักหนาที่เขาไม่ตบตีเรา พระองค์ผู้เจริญ" "ถ้าเขาตบตีจะวางใจอย่างไร" "ก็ยังดีที่เขาไม่ขว้างปาด้วยก้อนดิน" "ถ้าเขาขว้างด้วยก้อนดิน จะวางใจอย่างไร" "ก็ยังดีนักหนาที่เขาไม่ทุบตีด้วยท่อนไม้" "ถ้าเขาทุบตีด้วยท่อนไม้ จะวางใจอย่างไร" "ก็ยังดีนักหนาที่เขาไม่ฟันแทงด้วยศัสตรา" "ถ้าเขาฟันแทงด้วยศัสตรา จะวางใจอย่างไร" "ก็ยังดีนักหนาที่เขาไม่เอาศัสตราอันคมฆ่าเสีย" "ถ้าเขาเอาศัสตราอันคมปลิดชีพเสีย จะวางใจอย่างไร" "ก็คิดว่ามีสาวกบางท่านเบื่อหน่ายร่างกายและชีวิตต้องเที่ยวหาศัสตรามาสังหารตนเอง แต่เราไม่ต้องเที่ยวหาเลย ก็ได้ศัสตราแล้ว" พระผู้มีพระภาคประทานสาธุการ และตรัสว่า "ท่านฝึกข่มใจและความสงบใจจากกิเลสอย่างนี้ สามารถไปอยู่ในแคว้นสุนาปรันตะได้" พระปุณณะกลับไปเมืองสุนาปรันตะแล้วทำความเพียรจนบรรลุธรรมไปสำเร็จเป็นพระอรหันต์และยังกลับใจของคนในหมู่บ้านที่เคยโหดร้ายให้หันมาศรัทธาพระพุทธศาสนาได้อีกด้วย ทั้งสองเหตุการณ์นี้ล้วนเกิดขึ้นในที่ที่เราเรียกกันว่า "บ้านเกิด" แม้จะดูโหดร้ายกว่าจะเป็นบ้านที่น่าอยู่ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราหนีไปไม่พ้น เหมือนหนีจากความเป็นตัวเราหรือโรคภัยที่เรามีไปไม่ได้ จำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจ หาวิธีอยู่อย่างไรให้มีความสุขที่สุด นั่นคือสิ่งที่พระปุณณะและมาลาลาพยายามทำให้โลกได้รับรู้ถึงวิธีการอยู่กับ "บ้านเกิด" หรือ "ตัวตน" อย่างเข้าใจ คัดลอกจาก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOekUxTVRFMU53PT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE5DMHhNUzB4TlE9PQ== หัวข้อ: Re: บ้านเกิดของเรา เริ่มหัวข้อโดย: Hang Forever ที่ พฤศจิกายน 17, 2014, 12:03:39 PM ผมยอมรับบ้านเกิดครับ และรักที่จะอยู่กับบ้านเกิดแห่งนี้
แม้ว่าจะทุกข์บ้าง เจ็บบ้าง จนบ้าง เมาบ้าง รัก จนกว่าจะตาย จากมัน จากกัน ก็เกิดมาชาติหนึ่งเนาะ ::014:: |