หัวข้อ: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: paoza ที่ สิงหาคม 10, 2015, 10:24:47 PM คือผมโดนนายทะเบียนปฏิเสธการออก ป3 อ้างว่า มีปืนอยู่เเล้วหลายกระบอก ผมเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับตัวเอง เเถมยังโดนขู่มาอีกว่าถ้าทำเรื่องอุธรณ์จะเรียกตรวจปืนทั้งหมดเเล้วก็ยึดด้วยผมควรทำอย่างไรดีครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ สิงหาคม 10, 2015, 10:58:10 PM ปืนไม่ได้เอาไปทำผิดกฏหมายยึดได้ด้วยหรือครับ
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ สิงหาคม 10, 2015, 11:48:22 PM รอเขาย้าย
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: rambo1th ที่ สิงหาคม 11, 2015, 12:10:23 AM รอเขาย้าย ตามที่พี่เขาแนะนำข้างต้น ...... บางครั้งหลักกฎหมาย กับในชีวิตจริงมันก็ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: SIN_JUNG ที่ สิงหาคม 11, 2015, 02:01:18 PM 1567
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: paoza ที่ สิงหาคม 11, 2015, 02:10:36 PM ::014::ทุกคำเเนะนำครับ
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ สิงหาคม 11, 2015, 03:11:29 PM นายทะเบียนพวกนี้กลั่นแกล้งรังแกสารพัดครับ ถ้าสู้จริง หลายท่านในเวบนี้ ช่วยได้
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ สิงหาคม 11, 2015, 04:48:12 PM บ้านผมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านขอป3สวัสดิการ บอกว่ายังเป็นผู้ช่วยไม่ถึงปีไม่ให้ครับ
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: saw ที่ สิงหาคม 13, 2015, 12:57:19 PM 1.ปัจจุบัน พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 มีการบังคับใช้แล้ว ผมคิดว่าการขอใบ ป.3 เป็นการอนุญาตอันหนึ่งที่อยู่ในข่ายบังคับตาม พ.ร.บ.นี้
2.จำได้ว่ามาตรา 7 กำหนดให้ผู้อนุญาตต้องจัดทำคู่มือประชาชน ที่ต้องมีรายละเอียดว่าต้องใช้เอกสารใดบ้าง 3.มาตรา 8 ระบุว่าหากประชาชนยื่นคำขอฯ พร้อมเอกสารตามรายการในคู่มือประชาชนครบถ้วน/ถูกต้องแล้ว เจ้าหน้าที่จะต้องรับไว้ดำเนินการต่อไป หากเห็นว่าเอกสารไม่ครบถ้วน/ถูกต้อง จะต้องให้ผู้ขอฯแก้ไขหรือนำกลับมาเพิ่มเติมในระยะเวลาที่กำหนด 4.การพิจารณาอนุญาตหรือไม่ หากไม่มีการกำหนดระยะเวลาไว้ใน พ.ร.บ.อาวุธปืน ก็ให้พิจารณาให้แล้วเสร็จใน 30 วัน หากการพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ผู้อนุญาตต้องทำหนังสือแจ้งผู้ขอฯ ว่ามีเหตุขัดข้องใดทกๆ 7 วัน ขอให้ลองศึกษากฎหมายนี้ดูก่อนครับ(ขออภัยไม่มีรายละเอียดของกฎหมาย ขอให้หาดูในGoogle) หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: saw ที่ สิงหาคม 13, 2015, 01:02:54 PM ลองศึกษากฎหมายตามนี้ครับ http://www.opdc.go.th/uploads/files/2558/23012015.pdf
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: SIN_JUNG ที่ สิงหาคม 13, 2015, 02:45:47 PM 1.ปัจจุบัน พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 มีการบังคับใช้แล้ว ผมคิดว่าการขอใบ ป.3 เป็นการอนุญาตอันหนึ่งที่อยู่ในข่ายบังคับตาม พ.ร.บ.นี้ 2.จำได้ว่ามาตรา 7 กำหนดให้ผู้อนุญาตต้องจัดทำคู่มือประชาชน ที่ต้องมีรายละเอียดว่าต้องใช้เอกสารใดบ้าง 3.มาตรา 8 ระบุว่าหากประชาชนยื่นคำขอฯ พร้อมเอกสารตามรายการในคู่มือประชาชนครบถ้วน/ถูกต้องแล้ว เจ้าหน้าที่จะต้องรับไว้ดำเนินการต่อไป หากเห็นว่าเอกสารไม่ครบถ้วน/ถูกต้อง จะต้องให้ผู้ขอฯแก้ไขหรือนำกลับมาเพิ่มเติมในระยะเวลาที่กำหนด 4.การพิจารณาอนุญาตหรือไม่ หากไม่มีการกำหนดระยะเวลาไว้ใน พ.ร.บ.อาวุธปืน ก็ให้พิจารณาให้แล้วเสร็จใน 30 วัน หากการพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ผู้อนุญาตต้องทำหนังสือแจ้งผู้ขอฯ ว่ามีเหตุขัดข้องใดทกๆ 7 วัน ขอให้ลองศึกษากฎหมายนี้ดูก่อนครับ(ขออภัยไม่มีรายละเอียดของกฎหมาย ขอให้หาดูในGoogle) ::002:: หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ สิงหาคม 13, 2015, 04:26:23 PM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: SIN_JUNG ที่ สิงหาคม 13, 2015, 09:00:00 PM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ??? หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ สิงหาคม 13, 2015, 09:20:17 PM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ??? อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: rambo1th ที่ สิงหาคม 13, 2015, 09:34:17 PM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ??? อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ + ถูกใจมากครับพี่ ผมชอบแนวการตอบแบบพี่นี่แหละครับ ผมถามพี่หน่อยครับ ระยะเวลา 7 ปี ค่าเหนื่อย ค่าเสียเวลา ค่าเซลล์สมอง คุ้มกันไหมครับ เพราะผมเชื่อว่า 7 ปี คงเปลี่ยนเจ้าหน้าที่มาหลายชุดแล้ว ถือว่าแลกเปลี่ยนครับ หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ สิงหาคม 13, 2015, 09:49:34 PM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ??? อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ + ถูกใจมากครับพี่ ผมชอบแนวการตอบแบบพี่นี่แหละครับ ผมถามพี่หน่อยครับ ระยะเวลา 7 ปี ค่าเหนื่อย ค่าเสียเวลา ค่าเซลล์สมอง คุ้มกันไหมครับ เพราะผมเชื่อว่า 7 ปี คงเปลี่ยนเจ้าหน้าที่มาหลายชุดแล้ว ถือว่าแลกเปลี่ยนครับ ผมอายุยังน้อยครับ อย่าเรียกว่าพี่เลยครับ สำหรับระยะเวลา ๗ ปีผมว่าคุ้มครับ เพราะแม้นายอำเภอจะเปลี่ยนไปหลายชุดแต่ปลัดอำเภอไม่เปลี่ยนยังคงเป็นคนเดิม ผลจากการฟ้องคดีทำให้ได้ใบอนุญาตเพราะผลการฟ้องมาอีก ๒ กระบอกครับ ได้ความรู้ในการฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครองเยอะมากครับ คำอุทธรณ์ คำฟ้อง คำคัดค้านทั้งหมดก็ได้จากผู้การสุพิมท์และทีมงาน สพป. ดำเนินการให้ครับ ค่าใช้จ่ายในการฟ้องไม่มีเพาระไม่ต้องมีทนายเราเสียเฉพาะค่าส่งเอกสารทางไปรษณีย์ครับ ในช่วงระยะเวลา ๗ ปีมีการเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ครั้งใหญ่ไป ๑ ครั้งเนื่องจากปลัดอำเภอคนใหม่ที่ดูแลงานด้านอาวุธปืนได้ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่อีกคนเสียชีวิตบนที่ว่าการอำเภอเมืองตรังครับ หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: SIN_JUNG ที่ สิงหาคม 13, 2015, 10:51:51 PM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ??? อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ ผมเข้าใจท่านครับ ที่ศาลท่านพิพากษาก็ว่าตามกฏหมายที่นายทะเบียนใช้ดุลพินิจใด้เพราะกฏหมายเขียนไว้อย่างนั้น ::014:: แต่ผมมองในเรื่องกฏหมายที่ระบุคำว่า ดุลย์พินิจไว้ มันไม่ควรมี หรือถ้ามีก็ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากกวานี้ให้ผู้บังคับใช้กฏหมายปฏิบัติเช่นเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ใช่ว่ากฏหมายฉบับเดียวกัน ข้อความในกฏหมายเหมือนกัน แต่ผู้บังคับใช้แต่ละท้องที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจจนเป็นเหมือนการเลือกปฏิบัติ ประเทศไทยเป็นรัฐเดียวนะครับ เพราะฉนั้นกฏหมายฉบับเดียวกันเมื่อผู้ใช้สองคนที่มีคุณสมบัติเหมือนกันน่าที่จะได้รับผลทางกฏหมายที่เหมือนกัน นี่อะไรคนมีคุณสมบัติครบเหมือนกันคนหนึ่งขอได้ อีกคนขอไม่ได้ คนหนึ่งมีได้สัน้น 1 ยาว 1 อีกคนมีเท่าไหร่ก็ได้แค่รู้จักหรือสนิทกับคนบางคน หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ สิงหาคม 14, 2015, 11:35:57 AM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ??? อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ ผมเข้าใจท่านครับ ที่ศาลท่านพิพากษาก็ว่าตามกฏหมายที่นายทะเบียนใช้ดุลพินิจใด้เพราะกฏหมายเขียนไว้อย่างนั้น ::014:: แต่ผมมองในเรื่องกฏหมายที่ระบุคำว่า ดุลย์พินิจไว้ มันไม่ควรมี หรือถ้ามีก็ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากกวานี้ให้ผู้บังคับใช้กฏหมายปฏิบัติเช่นเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ใช่ว่ากฏหมายฉบับเดียวกัน ข้อความในกฏหมายเหมือนกัน แต่ผู้บังคับใช้แต่ละท้องที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจจนเป็นเหมือนการเลือกปฏิบัติ ประเทศไทยเป็นรัฐเดียวนะครับ เพราะฉนั้นกฏหมายฉบับเดียวกันเมื่อผู้ใช้สองคนที่มีคุณสมบัติเหมือนกันน่าที่จะได้รับผลทางกฏหมายที่เหมือนกัน นี่อะไรคนมีคุณสมบัติครบเหมือนกันคนหนึ่งขอได้ อีกคนขอไม่ได้ คนหนึ่งมีได้สัน้น 1 ยาว 1 อีกคนมีเท่าไหร่ก็ได้แค่รู้จักหรือสนิทกับคนบางคน นี่คือปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทยครับ ประกอบกับเมืองไทย คนไทยมักจะนิยมระบบอุปถัมภ์กันมากกว่าที่จะทำให้เรื่องถูกต้องตามตัวบทกฎหมายครับ หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: yutthakarn ที่ สิงหาคม 16, 2015, 04:53:23 PM แค่อ่าน ก็เหนื่อยไปด้วยละครับ
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ สิงหาคม 16, 2015, 06:56:36 PM อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ ใช้มาตรฐานความรู้สึกของตัวเองครับ ต้องเข้าใจก่อนว่าคนไทยส่วนใหญ่เกลียดปืน กลัวปืน คนเล่นปืนเป็นคนส่วนน้อยของสังคม หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 19, 2015, 04:20:07 PM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ??? อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ ผมเข้าใจท่านครับ ที่ศาลท่านพิพากษาก็ว่าตามกฏหมายที่นายทะเบียนใช้ดุลพินิจใด้เพราะกฏหมายเขียนไว้อย่างนั้น ::014:: แต่ผมมองในเรื่องกฏหมายที่ระบุคำว่า ดุลย์พินิจไว้ มันไม่ควรมี หรือถ้ามีก็ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากกวานี้ให้ผู้บังคับใช้กฏหมายปฏิบัติเช่นเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ใช่ว่ากฏหมายฉบับเดียวกัน ข้อความในกฏหมายเหมือนกัน แต่ผู้บังคับใช้แต่ละท้องที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจจนเป็นเหมือนการเลือกปฏิบัติ ประเทศไทยเป็นรัฐเดียวนะครับ เพราะฉนั้นกฏหมายฉบับเดียวกันเมื่อผู้ใช้สองคนที่มีคุณสมบัติเหมือนกันน่าที่จะได้รับผลทางกฏหมายที่เหมือนกัน นี่อะไรคนมีคุณสมบัติครบเหมือนกันคนหนึ่งขอได้ อีกคนขอไม่ได้ คนหนึ่งมีได้สัน้น 1 ยาว 1 อีกคนมีเท่าไหร่ก็ได้แค่รู้จักหรือสนิทกับคนบางคน ชี้แจงคำจำกัดความกันก่อนครับ 1. คำว่าดุลย์พินิจ หมายความว่า การใช้ความคิดตัดสินใจภายใต้เหตุผลกฎหมาย ระเบียบที่กำหนดไว้ ถ้าใช้ดุลย์พินิจ แล้วไม่มีระเบียบหรือกฎหมายรับรอง เขาเรียกว่า ใช้อำนาจตามอำเภอใจ 2. กรณีสั้น 1 ยาว 1 ที่ชอบอ้างเป็นดุลย์พินิจ ศาลเคยตัดสินว่า ไม่สามารถนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้บังคับกับประชาชนได้ เป็นหนังสือเวียนแจ้งภายในหน่วยงานว่า "อยากให้ประชาชนมีแค่สั้น 1 ยาว 1" ซึ่งเป็นเรื่องที่นายทะเบียนต้องแบกความเสี่ยงในการใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมาย หรือระเบียบกำหนด และการอนุญาตหรือไม่อนุญาต ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง 3. คำสั่งทางปกครอง สามารถอุธรได้ ฟ้องศาลปกครองได้ แก้ไขคำสั่งทางปกครองได้ และในขณะเดียวกันถ้านายทะเบียนใช้ดุลย์พินิจไม่ถูกก็เท่ากับใช้อำนาจตามอำเภอใจ อาจเข้าข่ายถูกฟ้องคดีอาญาถ้าผู้ร้อง มองว่าถูกกลั่นแกล้งไม่เป็นธรรม เลือกปฎิบัติ 4. กรณีพี่นายกระจง เราก็เคารพในคำตัดสินของศาลเสมอครับ มีแต่ฝ่ายนายทะเบียนนั้นแหละที่พยามใช้ทุกวิถีทาง เพื่อที่จะแถไปเรื่อย ปัญหามันมีอยู่ข้อเดียวครับ เลือกทางไหน แต่ไม่ว่าเลือกทางไหนมันไม่ผิดครับ เพราะถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไปบีบบังคับให้เลือกไม่ได้ ไม่งั้นก็เข้าข่าย ตัดสินคนตามอำเภอใจ ซึ่งมันก็แย่พอ ๆ กับใช้อำนาจตามอำเภอใจ ดีกว่าตรงที่ไม่ต้องขึ้นศาล 5555+ ที่ต้องเข้ามาตอบเพราะผมมาตอบในฐานะคนยุชาวบ้านฟ้องนายทะเบียนครับ ;D ;D ;D ;D แต่เป็นแค่คนยุนะครับ คนฟ้องคือพี่นายกระจง คนให้คำปรึกษามีผู้การสุพินท์นำทีม หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: SIN_JUNG ที่ สิงหาคม 20, 2015, 10:24:15 AM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ??? อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ ผมเข้าใจท่านครับ ที่ศาลท่านพิพากษาก็ว่าตามกฏหมายที่นายทะเบียนใช้ดุลพินิจใด้เพราะกฏหมายเขียนไว้อย่างนั้น ::014:: แต่ผมมองในเรื่องกฏหมายที่ระบุคำว่า ดุลย์พินิจไว้ มันไม่ควรมี หรือถ้ามีก็ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากกวานี้ให้ผู้บังคับใช้กฏหมายปฏิบัติเช่นเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ใช่ว่ากฏหมายฉบับเดียวกัน ข้อความในกฏหมายเหมือนกัน แต่ผู้บังคับใช้แต่ละท้องที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจจนเป็นเหมือนการเลือกปฏิบัติ ประเทศไทยเป็นรัฐเดียวนะครับ เพราะฉนั้นกฏหมายฉบับเดียวกันเมื่อผู้ใช้สองคนที่มีคุณสมบัติเหมือนกันน่าที่จะได้รับผลทางกฏหมายที่เหมือนกัน นี่อะไรคนมีคุณสมบัติครบเหมือนกันคนหนึ่งขอได้ อีกคนขอไม่ได้ คนหนึ่งมีได้สัน้น 1 ยาว 1 อีกคนมีเท่าไหร่ก็ได้แค่รู้จักหรือสนิทกับคนบางคน ชี้แจงคำจำกัดความกันก่อนครับ 1. คำว่าดุลย์พินิจ หมายความว่า การใช้ความคิดตัดสินใจภายใต้เหตุผลกฎหมาย ระเบียบที่กำหนดไว้ ถ้าใช้ดุลย์พินิจ แล้วไม่มีระเบียบหรือกฎหมายรับรอง เขาเรียกว่า ใช้อำนาจตามอำเภอใจ 2. กรณีสั้น 1 ยาว 1 ที่ชอบอ้างเป็นดุลย์พินิจ ศาลเคยตัดสินว่า ไม่สามารถนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้บังคับกับประชาชนได้ เป็นหนังสือเวียนแจ้งภายในหน่วยงานว่า "อยากให้ประชาชนมีแค่สั้น 1 ยาว 1" ซึ่งเป็นเรื่องที่นายทะเบียนต้องแบกความเสี่ยงในการใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมาย หรือระเบียบกำหนด และการอนุญาตหรือไม่อนุญาต ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง 3. คำสั่งทางปกครอง สามารถอุธรได้ ฟ้องศาลปกครองได้ แก้ไขคำสั่งทางปกครองได้ และในขณะเดียวกันถ้านายทะเบียนใช้ดุลย์พินิจไม่ถูกก็เท่ากับใช้อำนาจตามอำเภอใจ อาจเข้าข่ายถูกฟ้องคดีอาญาถ้าผู้ร้อง มองว่าถูกกลั่นแกล้งไม่เป็นธรรม เลือกปฎิบัติ 4. กรณีพี่นายกระจง เราก็เคารพในคำตัดสินของศาลเสมอครับ มีแต่ฝ่ายนายทะเบียนนั้นแหละที่พยามใช้ทุกวิถีทาง เพื่อที่จะแถไปเรื่อย ปัญหามันมีอยู่ข้อเดียวครับ เลือกทางไหน แต่ไม่ว่าเลือกทางไหนมันไม่ผิดครับ เพราะถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไปบีบบังคับให้เลือกไม่ได้ ไม่งั้นก็เข้าข่าย ตัดสินคนตามอำเภอใจ ซึ่งมันก็แย่พอ ๆ กับใช้อำนาจตามอำเภอใจ ดีกว่าตรงที่ไม่ต้องขึ้นศาล 5555+ ที่ต้องเข้ามาตอบเพราะผมมาตอบในฐานะคนยุชาวบ้านฟ้องนายทะเบียนครับ ;D ;D ;D ;D แต่เป็นแค่คนยุนะครับ คนฟ้องคือพี่นายกระจง คนให้คำปรึกษามีผู้การสุพินท์นำทีม ขอบคุณครับที่อธิบายให้เข้าใจ ::014:: ถึงอย่างไรผมก็มองว่าการให้อำนาจใช้ดุลพินิจแก่เจ้าหน้าที่ยังเป็นการเลือกปฏิบัติอยู่ดีเพราะเป็นการใช้การตัดสินใจของตัวเจ้าหน้าที่ ในการตัดสินว่าจะอนุญาตให้ใครไม่อนุญาตให้ใคร(กรณีที่ผู้ขอมีคุณสมบัติถูกต้องเหมือนกัน) ส่วนการที่จะอุธร ฟ้องร้อง มันเป็นเรื่องปลายเหตุหลังที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ดุลพินิจไปแล้ว และเป็นเรื่องที่ยุ่งยากถึงยากมากๆ สำหรับผู้ร้อง แถมกฏหมายยังถือว่าการใช้ดุลพิจของเจ้าหน้าที่เป็นสิ่งที่ถูกต้องอีก และมีผู้ร้องที่มีคุณสมบัติถูกต้องกี่เปอร์เซ็นต์ที่ประสบผลสำเร็จในการต่อสู้ เสียทั้งเงิน เวลา ฯลฯ ทั้งที่สาเหตุมันไม่ได้เกิดจากผู้ร้อง(มีคุณสมบัติครบตามกฏหมาย) แต่มันเกิดจากการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน หรือในที่เดียวกันแต่ใช้กับคนสองคนไม่เหมือนกัน อย่างกรณีเรามี 2 กระบอกแล้วแจ้งว่ามีมากพอที่จะป้องกันชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ซื้อ (ในกฏหมายไม่ได้ระบุว่าสามารถมีได้สูงสุดกี่กระบอก) แต่ในที่เดียวกันอีกคนมีมากกว่า 2 กระบอกทำไมถึงมีได้ ถ้า 2 กระบอกถือว่ามากแล้ว คนอื่นๆ ทุกคนต้องมีเกิน 2 ไม่ได้เหมือนกันจึงจะถือว่ามีการปฏิบัติตามกฏหมายเหมือนกัน แต่การใช้อำนาจตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันเป็นการใช้ดุลพินิจเป็นการเฉพาะเป็นรายๆไป ตรงนี้จึงเป็นช่องทางให้สามารถใช้อำนาจ(ดุลพินิจ)เกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนดเพื่อหวังผลประโยชน์แอบแฝงได้ (เมื่อไหร่ระบบนี้มันจะหมดไปจากประเทศไทยซะที)(บ่นครับ) หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ สิงหาคม 20, 2015, 10:55:21 AM เข้ามาอ่านเอาความรู้ และ+ให้ทุกๆท่านในหน้านี้ครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ สิงหาคม 20, 2015, 08:59:33 PM ในส่วนภูมิภาค มีนิทานเรื่องหมาหางด้วน
ดุลพินิจเป็นเครื่องมือในการตัดหาง เมื่อคนส่วนใหญ่ ยอมให้ตัด จ่ายสินบน คนส่วนน้อยที่ไม่จ่ายก็ต้องมีปัญหา แต่ละเดือนเขาต้องส่งนายตามจำนวนใบและขนาด ต้องตรงตามจำนวน ดังนั้นใครไม่จ่ายต้องถูกยื้อ ถ้ารุกมากก็ปฏิเสธฯ นายต้องป้องสมบัติเจ้าคุณปู่ ไม่จ่ายไม่อนุญาต หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ สิงหาคม 20, 2015, 10:36:31 PM บวก ๑ แต้มทุกคนในหน้านี้ครับ
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 20, 2015, 11:11:57 PM แล้วนายทะเบียนได้ปฏิเสธมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่าครับ เพราะถ้าปฏิเสธด้วยปากเปล่า เรายังไปอุทธรณ์ไม่ได้ครับ แต่หากเกินเวลาเราสามารถไปฟ้องศาลปกครองให้เร่งรัดการพิจารณาได้ ส่วนทางนายทะเบียนจะพิจารณาให้หรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ยิ่งถ้าเรามีอยู่แล้ว และทางนายทะเบียนเห็นว่าเพียงพอต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน พอเราไปอุทธรณ์ รมต. มหาดไทยก็จะเห็นด้วยกับนายทะเบียน สุดท้ายพอเราไปฟ้องศาลปกครองก็จะเห็นไปในทางเดียวกันกับนายทะเบียนหากคำปฏิเสธของนายทะเบียนนั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายครับ ตรงใหนคืนเพียงพอครับ บางคนใช้ดุลพินิจให้ได้สั้น 1 ยาว 1 บางคนให้ได้เป็นสิบ เป็นร้อยกระบอก แล้วทำไม กทม ขอได้ถ้าคุณสมบัติครบ คำว่าดุลพินิจมันมีมาตรฐานอยู่ตรงใหน ทำไมไม่ยึดตามหลักกฏหมายโดยเคร่งครัด ใช้ดุลพินิจแบบไม่มีมาตรฐานอ้างอิงเลยในแต่ละท้องที่ อย่างนี้น่าจะเรียกว่าแล้วแต่ความคิดของนายทะเบียนแต่ละคนดีกว่าใหม คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ดีก็ได้ คนใหนมองปืนและผู้ขออนุญาตในทางที่ไม่ดีก็ไม่ได้ทั้งที่เขามีคุณสมบัติครบถูกต้องตามกฏหมาย ???อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาใช้มาตราฐานอะไรเป็นตัววัด แต่ผมฟ้องจนถึงศาลปกครองสูงสุด พิพากษามาแล้ว ว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ว่ามีอาวุธเพียงพอแก่การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินชอบด้วยกฎหมายมาแล้วครับ ใช้เวลาทั้งหมด ๗ ปีครับ ผมเข้าใจท่านครับ ที่ศาลท่านพิพากษาก็ว่าตามกฏหมายที่นายทะเบียนใช้ดุลพินิจใด้เพราะกฏหมายเขียนไว้อย่างนั้น ::014:: แต่ผมมองในเรื่องกฏหมายที่ระบุคำว่า ดุลย์พินิจไว้ มันไม่ควรมี หรือถ้ามีก็ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากกวานี้ให้ผู้บังคับใช้กฏหมายปฏิบัติเช่นเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ใช่ว่ากฏหมายฉบับเดียวกัน ข้อความในกฏหมายเหมือนกัน แต่ผู้บังคับใช้แต่ละท้องที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจจนเป็นเหมือนการเลือกปฏิบัติ ประเทศไทยเป็นรัฐเดียวนะครับ เพราะฉนั้นกฏหมายฉบับเดียวกันเมื่อผู้ใช้สองคนที่มีคุณสมบัติเหมือนกันน่าที่จะได้รับผลทางกฏหมายที่เหมือนกัน นี่อะไรคนมีคุณสมบัติครบเหมือนกันคนหนึ่งขอได้ อีกคนขอไม่ได้ คนหนึ่งมีได้สัน้น 1 ยาว 1 อีกคนมีเท่าไหร่ก็ได้แค่รู้จักหรือสนิทกับคนบางคน ชี้แจงคำจำกัดความกันก่อนครับ 1. คำว่าดุลย์พินิจ หมายความว่า การใช้ความคิดตัดสินใจภายใต้เหตุผลกฎหมาย ระเบียบที่กำหนดไว้ ถ้าใช้ดุลย์พินิจ แล้วไม่มีระเบียบหรือกฎหมายรับรอง เขาเรียกว่า ใช้อำนาจตามอำเภอใจ 2. กรณีสั้น 1 ยาว 1 ที่ชอบอ้างเป็นดุลย์พินิจ ศาลเคยตัดสินว่า ไม่สามารถนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้บังคับกับประชาชนได้ เป็นหนังสือเวียนแจ้งภายในหน่วยงานว่า "อยากให้ประชาชนมีแค่สั้น 1 ยาว 1" ซึ่งเป็นเรื่องที่นายทะเบียนต้องแบกความเสี่ยงในการใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมาย หรือระเบียบกำหนด และการอนุญาตหรือไม่อนุญาต ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง 3. คำสั่งทางปกครอง สามารถอุธรได้ ฟ้องศาลปกครองได้ แก้ไขคำสั่งทางปกครองได้ และในขณะเดียวกันถ้านายทะเบียนใช้ดุลย์พินิจไม่ถูกก็เท่ากับใช้อำนาจตามอำเภอใจ อาจเข้าข่ายถูกฟ้องคดีอาญาถ้าผู้ร้อง มองว่าถูกกลั่นแกล้งไม่เป็นธรรม เลือกปฎิบัติ 4. กรณีพี่นายกระจง เราก็เคารพในคำตัดสินของศาลเสมอครับ มีแต่ฝ่ายนายทะเบียนนั้นแหละที่พยามใช้ทุกวิถีทาง เพื่อที่จะแถไปเรื่อย ปัญหามันมีอยู่ข้อเดียวครับ เลือกทางไหน แต่ไม่ว่าเลือกทางไหนมันไม่ผิดครับ เพราะถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไปบีบบังคับให้เลือกไม่ได้ ไม่งั้นก็เข้าข่าย ตัดสินคนตามอำเภอใจ ซึ่งมันก็แย่พอ ๆ กับใช้อำนาจตามอำเภอใจ ดีกว่าตรงที่ไม่ต้องขึ้นศาล 5555+ ที่ต้องเข้ามาตอบเพราะผมมาตอบในฐานะคนยุชาวบ้านฟ้องนายทะเบียนครับ ;D ;D ;D ;D แต่เป็นแค่คนยุนะครับ คนฟ้องคือพี่นายกระจง คนให้คำปรึกษามีผู้การสุพินท์นำทีม ขอบคุณครับที่อธิบายให้เข้าใจ ::014:: ถึงอย่างไรผมก็มองว่าการให้อำนาจใช้ดุลพินิจแก่เจ้าหน้าที่ยังเป็นการเลือกปฏิบัติอยู่ดีเพราะเป็นการใช้การตัดสินใจของตัวเจ้าหน้าที่ ในการตัดสินว่าจะอนุญาตให้ใครไม่อนุญาตให้ใคร(กรณีที่ผู้ขอมีคุณสมบัติถูกต้องเหมือนกัน) ส่วนการที่จะอุธร ฟ้องร้อง มันเป็นเรื่องปลายเหตุหลังที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ดุลพินิจไปแล้ว และเป็นเรื่องที่ยุ่งยากถึงยากมากๆ สำหรับผู้ร้อง แถมกฏหมายยังถือว่าการใช้ดุลพิจของเจ้าหน้าที่เป็นสิ่งที่ถูกต้องอีก และมีผู้ร้องที่มีคุณสมบัติถูกต้องกี่เปอร์เซ็นต์ที่ประสบผลสำเร็จในการต่อสู้ เสียทั้งเงิน เวลา ฯลฯ ทั้งที่สาเหตุมันไม่ได้เกิดจากผู้ร้อง(มีคุณสมบัติครบตามกฏหมาย) แต่มันเกิดจากการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน หรือในที่เดียวกันแต่ใช้กับคนสองคนไม่เหมือนกัน อย่างกรณีเรามี 2 กระบอกแล้วแจ้งว่ามีมากพอที่จะป้องกันชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ซื้อ (ในกฏหมายไม่ได้ระบุว่าสามารถมีได้สูงสุดกี่กระบอก) แต่ในที่เดียวกันอีกคนมีมากกว่า 2 กระบอกทำไมถึงมีได้ ถ้า 2 กระบอกถือว่ามากแล้ว คนอื่นๆ ทุกคนต้องมีเกิน 2 ไม่ได้เหมือนกันจึงจะถือว่ามีการปฏิบัติตามกฏหมายเหมือนกัน แต่การใช้อำนาจตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันเป็นการใช้ดุลพินิจเป็นการเฉพาะเป็นรายๆไป ตรงนี้จึงเป็นช่องทางให้สามารถใช้อำนาจ(ดุลพินิจ)เกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนดเพื่อหวังผลประโยชน์แอบแฝงได้ (เมื่อไหร่ระบบนี้มันจะหมดไปจากประเทศไทยซะที)(บ่นครับ) ตามมาฟังคนบ่นครับ และ+1 ให้ครับ หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: นิพนธ์-รักในหลวงของไทย ที่ สิงหาคม 24, 2015, 12:01:29 PM อ่านแล้วก็เศร้าเมื่อเราปฎิบัติตามกฎหมาย ก็ต้องจอดที่ดุจพินิจ อนาคตคนรักปืนเมื่อขอ ป3 ไม่ใด้ คงต้องย้ายเข้าเมืองหลวง เพราะภูธรไม่ให้
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ สิงหาคม 24, 2015, 03:55:11 PM การใช้ดุลพินิจในการออกคำสั่งทางปกครอง ต้องมีเหตุผลครับไม่ใช่ใช้อย่างไรก็ได้ ไม่งั้นคนใช้ดุลพินิจก็จอดเหมือนกัน ::005::
พรบ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ มีข้อบัญญัติไว้ว่า มาตรา ๓๗ คําสั่งทางปกครองที่ทําเปนหนังสือและการยืนยันคําสั่งทางปกครอง เปนหนังสือตองจัดใหมีเหตุผลไวดวย และเหตุผลนั้นอยางนอยตองประกอบดวย (๑) ขอเท็จจริงอันเปนสาระสําคัญ (๒) ขอกฎหมายที่อางอิง (๓) ขอพิจารณาและขอสนับสนุนในการใชดุลพินิจ .......... -------------------------------------------------------------------- ดังนั้นถ้านายทะเบียนฯสั่งไม่อนุญาตฯ ก็ต้องขอทราบคำสั่งเป็นหนังสือ เพื่อรู้ถึงเหตุผล การจะโต้แย้งก็เป็นกรณีๆไป ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่โต้แย้ง ย้ายบ้านหนี ไม่ว่ากัน .... ขอหนังสือคำสั่งปฏิเสธฯมาดูเล่นซะหน่อยเป็นไง ::008:: หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: seatuch--รักในหลวง ที่ กันยายน 03, 2015, 06:11:32 AM แชร์นะครับ
เวลาผมขอปืนจะขอทีละ 4 กระบอก เพราะเตรียมจะฟ้องศาลปกครอง จะได้ไม่เสียเวลารอครับ เพราะอำเภอเล่นแง่ แต่ผมขอเพื่อการกีฬาครับ หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ กันยายน 03, 2015, 07:21:52 AM ฟ้องเลยๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: paoza ที่ กันยายน 03, 2015, 08:42:19 AM ผมจะขอคำสั่งปฏิเสธ ต้องยื่นคำร้องยังไงครับ พี่ธำรง ชักจะมันมือขึ้นมาเเล้ว
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 03, 2015, 09:41:27 AM ผมจะขอคำสั่งปฏิเสธ ต้องยื่นคำร้องยังไงครับ พี่ธำรง ชักจะมันมือขึ้นมาเเล้ว ทำหนังสือสอบถามผลการพิจารณาคำขออนุญาตฯ ไปยังนายทะเบียนฯครับ เนื้อหาว่า ข้าพเจ้านาย..........ได้ยื่นขออนุญาต........ตามคำร้องในแบบฟอร์มป.1 ลงวันที่........ไว้แล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทราบผลการพิจารณา หรือ ความคืบหน้าตามคำขออนุญาต .... ดังกล่าวด้วย ไปยื่นให้จนท. ทำสำเนาให้เซ็นรับเอกสารไว้เป็นหลักฐาน หรือถ้าไม่สะดวกก็ส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับก็ได้ นายทะเบียนฯควรมีหนังสือตอบให้ทราบ ถ้าเกิน 15 วัน ถือว่าล่าช้า หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 03, 2015, 11:05:14 AM คำสั่งปฏิเสธ ต้องทำเป็นหนังสืออยู่แล้วครับ แต่ถึงไม่ทำเป็นหนังสือ ก็ยังอุทธรณ์ได้ โดยอ้างถึงการไม่อนุญาตด้วยวาจา ซึ่งในกรณีนี้ ไม่อยู่ในเงื่อนเวลา 30 วันด้วย
พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา ๖๓ ถ้านายทะเบียนท้องที่ปฏิเสธการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้ยื่นคำขอใบอนุญาตอาจอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการปฏิเสธเป็นหนังสือ คำอุทธรณ์ให้ยื่นต่อนายทะเบียนท้องที่ และให้นายทะเบียนเสนอคำอุทธรณ์นั้นต่อรัฐมนตรีโดยมิชักช้า คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้แจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ยื่นคำขอใบอนุญาต พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๓๔ คำสั่งทางปกครองอาจทำเป็นหนังสือหรือวาจาหรือโดยการสื่อความหมายในรูปแบบอื่นก็ได้ แต่ต้องมีข้อความหรือความหมายที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเข้าใจได้ หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 03, 2015, 02:15:19 PM ขอบคุณท่านผู้การฯที่ช่วยชี้แนะครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: graphicway ที่ กันยายน 04, 2015, 02:33:58 PM ::014::ขอบคุณท่านผู้การและทางเวป ที่ช่วยให้คนเล่นปืนรู้สิทธิของตัวเองครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: อดิศักดิ์ ที่ กันยายน 08, 2015, 06:43:15 PM อ่านแล้วก็เศร้าเมื่อเราปฎิบัติตามกฎหมาย ก็ต้องจอดที่ดุจพินิจ อนาคตคนรักปืนเมื่อขอ ป3 ไม่ใด้ คงต้องย้ายเข้าเมืองหลวง เพราะภูธรไม่ให้ ผมเห็นด้วยกับ คห.ท่านนี้ครับ หัวข้อ: Re: ช่วยเเนะนำเรื่องการอุธรณ์ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กันยายน 17, 2015, 08:19:59 AM 1.ปัจจุบัน พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 มีการบังคับใช้แล้ว ผมคิดว่าการขอใบ ป.3 เป็นการอนุญาตอันหนึ่งที่อยู่ในข่ายบังคับตาม พ.ร.บ.นี้ 2.จำได้ว่ามาตรา 7 กำหนดให้ผู้อนุญาตต้องจัดทำคู่มือประชาชน ที่ต้องมีรายละเอียดว่าต้องใช้เอกสารใดบ้าง 3.มาตรา 8 ระบุว่าหากประชาชนยื่นคำขอฯ พร้อมเอกสารตามรายการในคู่มือประชาชนครบถ้วน/ถูกต้องแล้ว เจ้าหน้าที่จะต้องรับไว้ดำเนินการต่อไป หากเห็นว่าเอกสารไม่ครบถ้วน/ถูกต้อง จะต้องให้ผู้ขอฯแก้ไขหรือนำกลับมาเพิ่มเติมในระยะเวลาที่กำหนด 4.การพิจารณาอนุญาตหรือไม่ หากไม่มีการกำหนดระยะเวลาไว้ใน พ.ร.บ.อาวุธปืน ก็ให้พิจารณาให้แล้วเสร็จใน 30 วัน หากการพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ผู้อนุญาตต้องทำหนังสือแจ้งผู้ขอฯ ว่ามีเหตุขัดข้องใดทกๆ 7 วัน ขอให้ลองศึกษากฎหมายนี้ดูก่อนครับ(ขออภัยไม่มีรายละเอียดของกฎหมาย ขอให้หาดูในGoogle) ว่างๆเลยลองนั่งอ่านดู คู่มือประชาชนนั้นเมื่อก่อนบางหน่วยงานจะมี แต่สำหรับอำเภอนั้นมีบ้างเหมือนกัน แต่ในส่วนการดำเนินงานทางอาวุธปืนนั้นหลังจากโดนฟ้องไปหลายๆครั้งทำให้ทางอำเภอหลายๆแห่งได้จัดทำผังระยะเวลาการรับเรื่องดำเนินการขึ้นมาแล้วติดไว้บนอำเภอ แต่ไม่รวมถึงกรณีรอพิจารณาหรืออนุมัติไว้ หากใครเคยใช้บริการจาก พ.ร.บ. อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 รบกวนช่วยกันแชร์ประสบการด้วยครับ |