เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ข่าววันนี้ครับhttp://www.thairath.co.th/thairath1/2547/page1/aug/04/p1_3.php

จงตั้งสติให้มั่นครับ 

มันตอบไม่ได้ อย่างที่พี่ มะขิ่น ว่าไว้ครับ   ในการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน คงไม่มีกฎอะไรตายตัวแน่นอน  สิ่งแวดล้อม ปัจจัย ของแต่ละเหตุการณ์ไม่เหมือนกันครับ ดังนั้นการประเมินสถานะการณ์แต่ละเรื่องย่อมต่างกัน สำหรับผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้ว ย่อมได้เปรียบ (แค่ได้เปรียบเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะตายไม่เป็น) 

การฝึกเท่านั้นที่จะช่วยให้เราได้เปรียบ คู่ต่อสู้  ทั้งเทคนิคการต่อสู้ ข้อกฏหมาย ....
ที่สำคัญที่สุดคือ เตรียมสภาพจิตใจ ให้พร้อมครับ จะทำให้สามารถรับเรื่องร้ายๆได้ โดยใช้ปฏิพาน ไหวพริบ

ขออย่าให้มี วันที่ต้องจำเป็นใช้อาวุธเลยครับ

ตอบไม่ได้ครับ.........คำถามนี้

แต่มีคำๆหนึ่ง ที่เพื่อนตำรวจของผมมันพูดไว้...........

"กระดูกร้องไม่ได้"

Duty to Retreat

 

            As a general matter, before using deadly force, even in self-defense, you have a duty to retreat in the following circumstances:

on a public street or highway, even when in own automobile.  State v. McGee, 185 S.C. 184, 190, 193 S.E. 303, 306 (1937).

in a store where the public is invited.  State v. Peeples, 126 S.C. 422, 120 S.E. 361 (1923).

 

            As a general matter, before using deadly force, even for self-defense, there are situations in which you have no duty to retreat.  These include:

 in addition to in your home, there is no duty to retreat within your home’s curtilage.  State v. Jackson, supra, or beyond the curtilage.  State v. Quick, 138 S.C. 147, 135 S.E. 800 (1926).

in your place of business, even if the aggressor also has a right to be there.  State v. Kennedy, 143 S.C. 318, 141 S.E. 559 (1928).

if a guest in home of another unless required to leave by the householder.  State v. Osborne, 202 S.C. 463, 25 S.E.2d 492 (1942).

where attacked in your “club room”.  [“A man is no more bound to allow himself to be run out of his rest room than his workshop.”]

where both parties own the premises, neither has the duty to retreat where the other is the aggressor.  State v. Gibbs, 113 S.C. 256, 102 S.E. 333.

Where both live in the same home, neither has the duty to retreat if the other is the aggressor.  State v. Grantham, 224 S.C. 41, 77 S.E.2d 291 (1953).

Where both are guests in the same home, neither has the duty to retreat if the other is the aggressor.  State v. Smith, 226 S.C. 418, 85 S.E.2d 409 (1955).

Where both are fellow workers on same job site, neither has the duty to retreat if the other is the aggressor.  State v. Gordon, 128 S.C. 422, 122 S.E. 501 (1924).

you need not retreat “if to do so would apparently increase [your] danger.”  State v. McGee, 185 S.C. 184, 190, 193 S.E. 303, 306 (1937).

         ??? ??? ???พี่มะขึ่นครับเพื่อนผมก็พูดคล้ายเพื่อนพี่เหมือนกัน     เขาพูดว่าสู้กับคนตายดีกว่าสู้กับคนเป็น ??? ??? ??? ??? ??? ??? ??? ???

Dead men tell no lies  ;)

Dead men tell no lies  ;)

         ??? ??? ???คุณjoyครับเราจะถามโจรตอนไหนครับ   ??? ???ว่าท่านโจรมีญาติเป็นนักการเมืองหรือเปล่า ??? ??? ??? ???
ผมก็พูดประชดไปอย่างนั้นแหละครับ เพราะมีหลายคดีที่เจ้าทรัพย์แพ้ ยกตัวอย่างคดีในหนังส์ออาวุธปืน คดีนี้เกิดขึ้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช ตำรวจพบผู้ต้องสงสัยเลยเรียกตรวจค้น ผู้ต้องสงสัยหลบหนีพร้อมทั้ง ชักปืนลูกซองสั้นยิงใส่ตำรวจ ต่อมาภายหลังตำรวจจับได้ (น่าจะวิสามัญ ตอนนั้น) ส่งฟ้องศาล ข้อหามีอาวุธปืนไม่ได้รับอณุญาต และ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ อย่างหลังนี้ก็น่าจะประหารแล้วครับ ปรากฎว่าหลุดครับ ผู้พิพากษาซักจนตำรวจเขวครับ เช่นรู้จักปืนลูกซองสั้นมั้ย ยิงคนตายมั้ย ตำรวจบอกตาย ผู้พิพากษาถามว่า คุณ ตายมั้ย แค่นั้นหลุดยกฟ้องครับ :o :'(

เคยได้ยินมาแบบนี้เหมือนกันเจ้าคะ

ตอบไม่ได้ครับ.........คำถามนี้

แต่มีคำๆหนึ่ง ที่เพื่อนตำรวจของผมมันพูดไว้...........

"กระดูกร้องไม่ได้"

;D ไม่ยิงจนกว่าจะโดนยิงครับ (แล้วจะมีชีวิตเหลือไว้ยิงมั๊ยเนี่ย) ;D