เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

hi power รึเปล่าครับ ของพ่อ ไม่เคยรมดำหรืออะไรทั้งนั้นมาเดิมๆ

..

ภายใต้ลิขสิทธ์ของ FN ครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

ตัวจริงมาตอบเองครับ ของทอ. หรือครับ

สวยดำทะมึน ดีครับ

 ;D ;D ;D

 :D~สวย..ดูแล...รักษาดีมากครับ

จากหมายเลขปืน  ถูกผลิตขึ้นมาในปี ค.ศ.1964 หรือ พ.ศ.2507 ครับ

ถูกต้องแล้วครับ.....บราว์นนิง ไฮพาวเวอร์ หรืออีกนามหนึ่งคือ
พี 35
งานนี้ มีผู้ชำนาญการคือ พี่ 51 จะมาแถลงให้ท่านทราบ
แต่ท่านถามมาสั้นๆ ดี เลยไม่รู้จะตอบอย่างไร
ถ้าจะเล่าประวัติให้ฟัง ก็กลัวจะเป็นจัดการงานนอกสั่ง?????
พ่อมีปืนดีอยู่แล้วควรเก็บไว้ให้ดี อย่าให้ขึ้นสนิม
บางครั้ง ท่านอาจจะยังไม่รู้คุณค่าของปืนกระบอกนี้ก็ได้ ถึงได้ถามมา
....ถ้าอยากฟังเรื่องราวแบบนิยายอิงประวัติศาสตร์นิดหน่อย ก็ตอบมาหน่อย จะได้เล่าให้ฟังเพื่อเพิ่มคุณค่าของการเก็บสะสมเจ้าปืนเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพดีที่สุด ให้สมกับคุณค่าของมัน
....ลองถ่ายรูปจากด้านหลังดู ถ้ามีช่องสอดขอรั้งจากด้านหลัง แสดงว่าผลิตตามแบบดั้งเดิม แต่ถ้ามีขอรั้งอยู่ข้างช่องคายปลอกกระสุนแล้ว แสดงว่าผลิตตามแบบใหม่
....ประวัติของพี 35 น่าฟังไม่แพ้ 1911 เลยนะจ๊ะ

แม่นแล้วครับของลูกทัพฟ้า ;D ;D

อุ๊ยตาย..กรี๊ด...ว้าย ....ตาย....สลบ .....ของหลวงนี่หน่า    ............แค่นี้ ก็ไม่ต้องพูดแล้วครับ ของหลวงสภาพสวย..........พอดีภาพของผม มันมาช้าไปหน่อย รีบตอบไปนิด
ของหลวง....เจ้าข้าเอ้ย.....ของหลวงจ้า.....รุ่นนี้ ขอรั้งอยู่ข้าง  ผลิตใหม่แล้วครับ
ผมเคยเห็นของตำรวจ พะเยา ..มีตราโล่....ขอรั้งอยู่หลัง แบบเก่าจ้า 

เล่ามาเลยครับท่านพี่ 51 และพี่เต๋าบางเขน หรือท่านอื่นๆ ก็ได้
อยากรู้ประวัติความครับ ;D

ตราสัญลักษณ์ ทอ. สวยมากครับ

(http://i12.tinypic.com/2cr2c8w.jpg)

มาดู มาชม  ;D ;D ;D

จริงๆปืนรุ่นนี้ มีทั้งเป็น สวัสดิการและปืนหลวงครับ ผมเองเคยไดเห็นตัวเป้นๆอยุ่ 2ครั้ง วางขาย เป้นปืนมือ สองในร้านปืนแถวบ้าน
   ผมสงสัยอยุ่ อย่าง นึงครับบลาวนิ่ง p35 เริ่ม เอาขาเกี่ยวปลอกออกมาไว้ด้านนอก เมื่อ ปีไหนครับเพราะผมจำได้ว่าปลาวนิ่งรุ่นเก่า ๆ ขาเกี่ยวปลอก จะอยู่ด้านในไม่ใช่เหรอครับ ที่สงสัยเพราะเห้นปืนของเจ้าของกระทู้ มีขาเกี่ยวปลอก ออกมาอยู่ด้านนอกแล้ว เหมือนปืนรุ่นใหม่ๆ เลย ครับผู้รู้ ช่วยตอบทีครับ ผมว่าปืนรุ่นเก่า ขาเกี่ยวปลอก น่าจะอยุ่ด้านใน นะครับ

เป็นปืนพกที่ผมอยากได้มากเป็นอันดับที่สองครับ

ผมมีความรู้สึกว่า ในแต่ละภาพ  เป็นปืนคนละกระบอก...อ่ะ 
หรือไม่ก็บันทึกในระยะเวลาต่างกัน.....คริ คริ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

กระบอกเดียวกันแหละครับพี่ 51 แต่ถ่ายหน้าคอม ;D ;D

ปืนบราวนิงค์ไฮฯ ที่ถือเป็นสวัสดิการ จริง ๆ ของ ทอ. ในเวลานั้น
มีที่มาค่อนข้างลึกลับครับ...ผมเรียนตรง ๆ

ภายหลังจากสงครามโลกครั้งสอง จบลง...
FN เบลเยี่ยม...ได้รับความเสียหายมากพอสมควร...จากสงคราม
ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบแน่ชัดว่า FN เบลเยี่ยม
เริ่มทำการผลิตบราวนิงค์ไฮฯ ออกมาแบบเต็มสูบในปีไหนกันแน่
และ ทอ. เอง   ก็สั่ง บราวนิงค์ไฮฯ จากโรงงานที่ใดกันแน่
เพราะ บราวนิงค์ไฮฯ เอง..ถูกนำไปผลิตในหลาย ๆ โรงงาน
ทั้งก่อนสงครามเริ่มขึ้นและระหว่างสงคราม จนถึงสิ้นสุดสงคราม

แต่เท่าที่ผมมีไว้ในครอบครอง...
ก็คือ แม็กกาซีนแท้ ๆ ของสวัสดิการ ทอ. ในสมัยนั้น

รมดำทำไว้ได้ดีมากครับ...
แต่มีลักษณะรมดำมัน ไม่ใช่รมดำด้าน...ครับ

ผมถึงมีความเห็นว่า...
น่าจะมีการบันทึกภาพจากปืนคนละกระบอก ครับ
หรือไม่ก็มีความแตกต่างกันในระยะเวลาบันทึกภาพ

ส่วนหมายเลขประจำปืนนั้น ยืนยันความถูกต้องครับ
สำหรับบราวนิงค์ไฮฯ ในภาพที่ปรากฏหมายเลขประจำปืน


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงว่ารักษาปืนได้ดีมากๆ.ยังใหม่อยู่เลยครับ :VOV:

คือแบบว่า

ลองเรียกว่า น้อง ๕๑ ซิครับ รับรองว่าอยากรู้อะไรบอกหมดเลยครับ ๑๙๓๕ King of Nine......

ขอบคุณครับ

ถ่ายหน้าคอมฯ หมายถึงบันทึกหรือ copy จากหน้าจอคอม monitor หรือครับ

เอามาวางแล้วถ่ายกับกล้องดิจิตอลโดยใช้แสงจากหน้าคอมครับ มันดูลึกลับดี
เหมือนถ่ายโคลท์ที่โพสต์รูปลงในกระทู้ รวมพลคนโคลท์ของผู้การมะขิ่นหน้า 43 ครับ ;D ;D

เอาแบบย่อๆ แล้วกันนะครับ ก่อน 4 โมง
จอน์ห เอ็ม บราวนิง แท้จริงแล้ว ก็เป็นนักออกแบบปืน คนหนึ่งนี่เอง ไม่ได้เริ่มต้น มีกิจกรรมใหญ่โตอะไรมากมายเลยครับ ....เห็นว่าที่บ้าน มีธุรกิจครอบครัว ขายจักรยาน หรือของชำ ทั่วไปแหละครับ เขาเป็นชาว ยูเอสเอ โดยกำเนิดครับ ไม่ใช่เป็นชาวยุโรปแม้สักนิด
ชีวิตของเขา ก็ชอบออกแบบกลไกปืน ออกแบบปืน เป็นอาชีพนักออกแบบปืนทั่วไป
พอคิดแบบอะไรได้ ก็หอบพิมพ์เขียว วิ่งโร่ ไปขายให้โรงงานอาวุธใหญ่ ๆ ในขณะนั้น
เช่น วินเชสเตอร์ อะไรทำนองนั้น .....
....มีอยู่ครั้งหนึ่ง จอน์หฯ ออกแบบปืนลูกซองอัจฉริยะ เป็นปืนลูกซองออโต้ที่ออกแบบใช้แก็ส มาบริหารกลไกการสลัดปลอก การบรรจุ สามารถยิงได้แบบเซมิออโต
....อุตส่าห์หอบเอาแบบพิมพ์เขียวไปขายให้วินเชสเตอร์ ....แต่กลับถูกปฏิเสธ
.....จอน์หฯ น้อยใจมาก หอบแบบพิมพ์เขียว เดินทางข้ามแอตแลนติก ไปสู่ยุโรป
 เบลเยี่ยม ณ ที่นั้น จอนห์ ได้รับการต้อนรับจากเบลเยี่ยม ราวกับพระราชาแห่งโลกอาวุธปืนเลยทีเดียว แล้วก็ที่บริษัท เอฟเอ็น นี่แหละ จอนห์ฯได้ขายแบบพิมพ์เขียว ลูกซองออโต ให้ไว้ และผลิตที่นี่ ข้ามกลับไปขายในสหรัฐ เล่นเอาวินเชสเตอร์ ตกใจไปเลย
....และก็ที่เบลเยี่ยมนี่แหละ เขาเป็นฝรั่งยุโรป เขาให้เกียรติผู้ออกแบบเสมอ
แม้บริษัท จะเป็นเอฟเอ็น แต่เขาก็ตั้งชื่อปืนที่ออกแบบโดยจอนห์ว่า บราวน์นิง เสมอๆ
เช่นมี ปืนออโต นกในอยู่รุ่นหนึ่ง ขนาด.32 ออโต ผลิตในราว 1908 ออกแบบโดยจอน์หฯ
ผลิตขายในสหรัฐ ประทับตราโคลท์  ผลิตขายในยุโรป ประทับตรา เอฟเอ็น หน้าตาเหมือนกันยังกับแพะ กับแพะ  ก็จอน์หฯนั่นแหละ เป็นคนออกแบบ
...มาเข้าเรื่อง เอฟเอ็น พี 35
ชื่อก็บอกว่า พี่ 35 ก็แสดงว่า ออกตัวประมาณ 1935 แต่เริ่มออกแบบกันเมื่อไหร่ จำไม่ได้
รู้แต่ว่า ปืนยังไม่ทันเป็นกระบอกเลย จอน์หฯ ไม่ทันได้เห็นปืนของตน ตายเสียก่อนครับ
.....มรดก ตกทอด จากเอ็ม 1911 ซึ่งเป็นการยืนยันประวัติศาสตร์ตรงนี้ ว่า
1911 และ พี 35 เป็นพี่น้อง คลานตามกันมาคือ
1.ขอรั้งปลอกกระสุน ที่สอดจากทางด้านหลัง เป็นแนวคิดของจอน์หฯ
2.ปุ่มปลดแม็กกาซีน มีขั้นตอนการออกแบบ เหมือนกันทุกประการ

พอผลิตได้ในปี 1935 ก็จำไม่ได้แล้วว่าขายประเทศไหนบ้าง แต่ก็น่าจะขายประเทศเบล
เยี่ยมนั่นแหละ เพราะเป็นปืนออโต ที่น่าสนใจที่สุดในยุคนั้น
1911 ใส่ได้แค่ 7-8 นัด พาราเบลลั่ม ใส่ได้แค่ ไม่เกิน 10 นัด เมาเซอร์ ก็ได้ไม่มากนัก(จำไม่ได้ ) แถมไม่มีแม็กกาซีน นอกตัวอีก 
แต่ พี 35 ใส่ลูกได้ตั้ง 13-14 นัด ก็ถือว่าทันสมัยที่สุดแล้ว ครับ

พอมาถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาบอกว่าเยอรมันบุกเบลเยี่ยมด้วย ยึดโรงงาน เอฟเอ็น แล้วผลิต ปืน พี35 ตีตรา อินทรีย์เหล็ก ตราอินทรีย์เหล็ก สวยมาก แต่เขาว่า งานหยาบ สไตล์ปืนทหาร
พวกวิศวะกร เอฟเอ็น หนีกองทัพนาซี ไปแคนาดา ก็หอบเอาแบบปืนไปด้วย
ก็ไปผลิตที่แคนาดา ส่งขายชาวบ้านทั่วโลก ทำสงครามในช่วงนั้นได้อีก
ที่แน่แน่ ผลิตส่งมาขาย ขุนศึกอัจฉริยะ จอมพลเจียงไขเช็ค แห่งจีนแผ่นดินใหญ่
ก่อนที่จะถูกท่านประธาน เหมา เจ๋อ ตง  ไล่ตกทะเล ไปอยู่เกาะฟอโมซา (ไต้หวัน)

ในเมืองไทย แถวดอยแม่สลอง กองพล 93 นำโดย นายพล ต้วน ซี เหวิน เป็นทหารของเจียง ไข เช็ค ในมลฑล ทางด้านล่าง ของจีน หนี กองทัพแดง ของเหมา เจ๋อ ตง เข้ามาที่แม่สลอง เชียงราย ก็หอบหิ้วเอา พี 35 ที่มีศูนย์หลังปรับได้แบบปืนไรเฟิล เข้ามาจำนวนมากเลย เคยไปเที่ยวเชียงราย แล้วไปขอตำรวจเขาดู เป็นปืนจากบนดอยแม่สลอง เอามาขึ้นทะเบียน ปี 18 แล้วตกทอดมาถึงตำรวจ นายนี้

ที่ อาร์เจนตินา ก็มี พี 35 เหมือนกัน หน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ เลยไม่รู้ว่า สืบทอดไปตอนไหน

ต่อมาช่วง ปี 1960 ฝรั่ง อังกฤษ เริ่มรับผลกรรมที่ก่อไว้ ในช่วงไปล่าอาณานิคม แล้วเอาคนต่างชาติไปอยู่ในอังกฤษ การก่อการร้าย เริ่มแพร่ขยาย เข้าไปในชุมชน
ไอ้ที่เขาเรียกว่า หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย ก็เกิดขึ้น
อังกฤษ เป็นเจ้าแรกๆ ที่เปิดตัวในโลก ของการต่อต้านการก่อการร้าย
ภาพที่ ชุดปฏิบัติการ ใส่หน้ากาก กันแก็ส มือหนึ่งถือ แก็สน้ำตา อีกมือหนึ่งกำ พี 35 ไว้ในมือ เป็นภาพที่ถูกอก ถูกใจ หน่วยรบพิเศษ หลายหน่วย ที่จะเลียนแบบเอาไว้ในกิจการประเทศของตน
ที่แน่ๆ ทอ.ของเราก็ไปเอาแบบเขามาด้วยแหละ (บอกได้แค่นี้)
หน่วยพยัคฆ์บิน (สวาท) ของฮ่องกง ก็ใช้เป็นปืนพกหลักในหน่วย เช่นกัน

เรื่องปฏิบัติการ ........มักจะผ่านกับลูกจริง เป็นหลัก เพราะเขาออกแบบมาใช้งาน
ลูกซ้อม ผ่านบ้าง ไม่ผ่านบ้าง ไม่ต้องไปสนใจ เพราะปืนใช้งาน ไม่ใช่ ปืนแข่ง

คุณเต๋าครับ............จอห์น โมเสส เบาร์นิ่ง ออกแบบปืนลูกซอง เซ-มิ ออโต กระบอกแรกของโลก คือ Browning Auto 5 ..............ใช้ระบบรีคอยลำกล้องถอยครับ ไม่ใช่แก๊ส

ขออนุญาตแก้ไข

http://www.thailandoutdoor.com/Gun/GunTest/FN_A5/fn_a5.html

อ้าว....เหรอครับพี่....เอ.....แล้วผมเห็นแบบที่มันเจาะลำกล้องข้างล่าง แล้วมันมีลูกสูบด้วย แล้ว ปืนด้านหลังเป็นโด่งๆ  มันไม่ใช่ออโต้ 5 หรือครับพี่
เห็นแบบมันทำว่า มีแก็สรั่วลงมาด้านล่างลำกล้อง แล้วมาบริหารกลไก ผมก็คิดว่ามันเป็นแก็สออเปอร์เรส เหมือนแบบ เอ็ม 16  และ อาก้า ไม่ใช่หรือครับ ...เอ..หรือว่าผมเข้าใจผิด...
แล้ว ออโต้ 5 นี่มันไม่ใช่แก็สออเปอร์เรส หรือครับ .....งั้นผมก็เข้าใจผิดนะซิ ........

สำหรับ A5 จะมีวงแหวน สำหรับเพิ่มความฝืด อยู่กะสปริงรีคอยล์  ช่วยหน่วงเวลาเมื่อลำกล้องถอยหลัง สามารถปรับแต่ง วงแหวนนี้ได้ ตามขนาดความแรงของกระสุนที่ใช้ยิง

ผมมี Browning Auto 5 อยู่กระบอกหนึ่ง...............ไม่เห็นมีลูกสูบ หรือรูแก๊สใต้ลำกล้องนะครับ......

Browning Auto 5 ทำงานด้วยรีคอยลำกล้องถอย.........แหวนใต้ลำกล้อง จะกดอยู่บนแหวนหน่วงเวลาที่ครอบอยู่บนรีคอยสปริง ที่ร้อยอยู่ที่หลอดกระสุน..........ซึ่งรองรับด้วยแหวนรับแรงสปริงข้างล่างอีกตัวหนึ่ง..............แหวนหน่วงเวลาตัวนี้ สำหรับปรับการยิงกระสุนแรงสูง-แรงต่ำด้วย........ซึ่งถ้าคว่ำแหวนลงใช้ยิงกระสุนแรงต่ำ..........

ดังนั้น ที่เข้าใจว่า Browning Auto 5 ทำงานด้วยแก๊สนั้น...........เข้าใจผิดครับ

เผอิญมีอยู่กระบอกหนึ่ง เก่าๆ.........ลำกล้อง 30 นิ้ว เคยเอาลงแข่งเล่นๆเหมือนกัน

(http://img170.imageshack.us/img170/6188/2040416resized4tqui6.jpg) (http://imageshack.us)

ขออนุญาต เข้ามาเก็บๆๆๆความรู้ครับ เพียบจริงๆ

ขออภัย ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือไม่ คือ ปืนกระบอกแรกที่เป้นปืนกึ่งอัตโนมัตกระบอกแรกของบราวนิ่งเป้นปืน ไรเฟิ้ลนะครับถ้าจำไม่ผิด โดยมี แป้นเหล็ก เจาะรูให้ลูกวิ่งผ่าน แล้วแผ่นเหล็ก เป็นตัวดักแก็ซอยู่ที่หน้าลำกล้อง โดยมีคันชัก ไปบริหารกลไกลูกเลื่อนอีกทีครับผิดถูก ยังไงผู้รู้ช่วย แก้ไขด้วยครับ

รู้มาอย่างนั้นเหมือนกันครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม
เบรานิ่ง ออโต 5 เริ่มผลิตโดย FN เบลเยี่ยมเมื่อปี 1903 ครับ

รู้แค่นี้ครับ แต่รื้อมาหลายตัวแล้ว

 ;D ;D ;D ;D ;D

ว่างๆรื้อให้บ้างครับคุณโซ้ยตี๋.........

ที่คุยกันนี่ เรื่องปืน"ลูกซอง" กึ่งออโต นี่ครับ............ไม่ได้คุยกันถึงไรเฟิลกึ่งออโต

ต้องขออภัยด้วย ครับ ท่าน มะขิ่นครับ คือเห้นท่านเต๋า เอาเอาเรื่องแก๊ซ ออฟเปอร์เรทของบราวนิ่งมาผสมกับปืนลูกซองของบราวนิ่งa5หน่ะครับ เลยลองเอาประเด็น แก็ซ ออฟเบอร์เรท ของบราวนิ่ง กับ ปืนลูกซองA5มาแยกออกจากกัน ครับจะได้ไม่เกิดความสับสน ผิดถูก อย่างไรชี้เนะด้วยนะครับท่านครับ

ยินดีครับ พี่มะขิ่น

ว่าแต่ จะให้ผมทำอะไรกับปืนที่ยิงแข่งแล้วได้รางวัลล่ะครับ

 ;D ;D ;D

จากการวิเคราะห์ ,ข้อมูลจริงที่ได้เห็นจริงๆ และความคิดของผม
ปืนเบาร์นิง ไฮเพาเวอร์ เปลี่ยนจากขอรั้งปลอกใน มาเป็นขอรั้งปลอกนอก ปี 1956 แต่ช่วงแรกๆ ยังขายขอรั้งปลอกในอยู่เพราะมีในสต๊อก
รูปปืนเป็นกระบอกเดียวกันทั้งหมด , ไฮเพาเวอร์ ทหารอากาศเข้าบ้านเรามาเป็นรุ่นๆ เป็นระลอกๆ ตั้งแต่รุ่นแรกๆ ขอรั้งปลอกใน ก็หลายๆ รุ่น มีสวสดิการ กรมตำรวจด้วย โดยบนหลังสไลท์เป็นตรากรมตำรวจเคยจับมาแล้ว  ปืนในภาพนี้เป็นสวัสดิการ ทอ. รุ่นหลังๆ ประมาณปี 2510 - 2520 เศษ รหัสนำหน้าตัว T ครั้งแรกผมเข้าใจว่ามาจาก THAILAND แต่ไม่ใช่เพราะผมไปเจอ เบาร์นิงไฮเพาเวอร์ รุ่นปี 2520 มีรหัสตัว T เช่นเดียวกัน
กระบอกนี้มีร่องต่อด้ามด้วยใช่ไหมครับ  ผมเสียดายเจอบ่อยๆ ได้มีโอกาศเป็นเจ้าของแต่ไม่เจอสภาพผิวเดิมๆ เจอแต่รมดำใหม่ แต่สภาพดีๆ เลยขายทิ้งหมด  ยังอยากหวังว่าจะมีโอกาศเป็นเจ้าของสักกระบอกที่ผิวเดิมๆ ครับ

ไม่มีอะไรหรอกครับ..........เพียงแต่ผมเห็นว่าประเด็นที่คุยกันเปลี่ยนไปอีก หลังจากที่เปลี่ยนจาก HP มาสู่ A5 .........เพราะการกล่าวถึงประวัติการสร้างปืน.........กลัวว่าจะเลยไปถึงไรเฟิลของ Browning อีก........

เผอิญผมมี Browning Auto 5 ในครอบครองอยู่และทราบประวัติการสร้าง...........เห็นว่าไม่ถูกต้องนักเลยอธิบายให้ทราบ...............กลัวว่าจะคลาดเคลื่อนกันไป หากไม่ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง.................

เสริมนิดหนึ่งว่า........A5 นั้น Browning ได้ออกแบบแล้วนำไปเสนอกองทัพสหรัฐ แต่ไม่ได้รับความสนใจ.......เลยเอาแบบมาขายให้ FN .............FN ผลิตออกมาเป็นล้านๆกระบอก ให้เกียรติผู้ออกแบบโดยติดยี่ห้อ Browning .............ตอนหลังกองทัพสหรัฐกลับซื้อแบบไปผลิตใช้ใน WW II ........รบในภาคพื้นแปซิฟิคกับญี่ปุ่น และบริษัทหลักที่ผลิตคือ "Remington"............

ขอบคุณครับพี่ที่ให้ความกระจ่าง :D~ :D~ :D~


ขอบคุณ ท่านมะขิ่นอีกครับครับ ที่ช่วยดึงไว้ไม่ให้หลงประเด็นครับ ;D ;D ;D

ปะ...ปะ....ปะ...ไปกันใหญ่เลยครับ....พอดี เวปพวกเราเจ๊ง ไปหลายวัน เลยไม่ได้เข้ามาขอโทษ.....ผม...เต๋า  เต่า บางเขน ผิดแล้วยอมรับผิด .....พลาดแล้วยอมรับได้...ยินดีพร้อมถูกตำหนิ ในทุกกรณี....กระผมยอมรับว่า กระผมผิดไปแล้ว เข้าใจผิด ขออภัยด้วยครับ 
...กราบด้วยผ้าแดง ....ขออภัย ท่านเจ้าของกระทู้ และพี่พี่ทั้งหลาย
....ความจำกระผม ไม่ได้สับสน แต่เป็นความเข้าใจผิดอย่างอหันต์ ชนิด น่าตบกะโหลกตัวเองเสียนี่กระไร เข้าใจผิดมาเป็น 10 ปีแล้วด้วยอีกต่างหาก เหตุเนื่องจากแค่อ่านมาแล้วไม่แน่น...เสียเอง ไม่ต้องโทษใคร โทษตัวเองแล้วกัน 
....บทความเรื่อง ออโต้5 ที่ผมชอบนั้น เป็น เรื่องใน อวป ฉบับที่ 151 (กระดาษเหลืองแล้ว)
เป็นเรื่องที่เขียนเกี่ยวกับ ออโต้ 5 มีรูปจอนห์ ฯตอนแก่ๆ แล้วด้วย ถือ ออโต้ 5 ด้วยความภาคภูมิใจ ใส่สูท อีกต่างหาก
....อ่านไปก็เพลินไปเรื่อยๆ ในเนื้อเรื่อง ก็อ่านผ่านๆ แต่พอมาถึงปกหลัง ภาพสี เป็นรูป ปืนลูกซอง สองกระบอก วางทับกันอยู่  ด้านล่างภาพ มีระบบปฏิบัติการของปืน
เป็นภาพปืนลูกซอง ระบบ แก็ส ออเปอร์เรส  พอผมอ่านเรื่องออโต้ 5 ภาพแก็สจำลอง หุ่นมันเหมือน ออโต 5 เปี๊ยบ ก็เลยเข้าใจว่า ออโต้5 เป็นแก็ส ออเปอร์เรส ด้วยความสุจริตใจจริงๆ
...หลังจากโดนพี่พี่ตักเตือน ผมกลับไปรื้อเล่ม 151 มาดู ปรากฎว่า ภาพจำลอง แก็สฯนั้น
มีตัวหนังสือเหลืองๆ ตัวเล็กๆ อ่านยากมาก (เพราะตาสั้นแล้ว ) เขียนว่ารุ่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่ ออโต้5 สักกะหน่อย แสดงว่าผมจำผิดเอง...จริงๆ ยอมรับผิดครับ
.....หลังจากนั้น ประสบการณ์ผ่านไป ภาพจำลองนี้ แหละที่เป็นต้นแบบให้กระผมเข้าใจระบบแก็สออเปอร์เรส....ทำให้ผมมีความรู้เรื่องแก็ส พอที่จะไปแก้ไขปืนให้คนอื่นเช่น
มอสเบริกส์ ออโต้  ฟรังกี้ ออโต้ ไปคอยดูแลปืนให้คนอื่น โดยไม่เฉลียวใจซักนิดว่า
ออโต้5 เป็นอะไรกันแน่ แก็สหรือ การสะท้อนถอยหลัง
..ถึงวันนี้ ทำให้ผมมีความกระจ่างเรื่อง ออโต้5 มากขึ้น พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
ขอกราบขอโทษท่านเจ้าของกระทู้ และพี่พี่ โดยเฉพาะท่านพี่มะขิ่น พี่ เอที 75
และขอบพระคุณที่ทำให้ผมได้เข้าใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับระบบของปืนดังยี่ห้อหนึ่งที่ผมเข้าใจผิดมาแรม 10 กว่าปี ...ด้วยความเคารพฯ   

ขอเป็นบันทึกจากสภาพแสงปกติ daylight ได้หรือไม่ครับ...
ผมว่า...ท่านน่าจะถ่ายทอด...ความเป็นตำนานหน้าหนึ่งของปืน 9 มม. พาราฯ ออกมาได้ดีทีเดียว ครับ


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

คุณเต๋าครับ ไม่ต้องขอโทษ อ่ะไรขนาดนั้นครับไม่เห้นเป้นไรเลยคนเราก็มีจำผิดกันได้ครับ อย่าคิดอ่ะไรมากเลยครับ เรื่องความรู้วิชาการเราเล่าคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ผมเองก็ผิดอยุ่บ่อย เพราะสับสน เราคุยกันสนุกๆ หาความรู้ อันไหนผมไม่รู้ผมก็ถาม มีถูกบ้างผิดบ้างเรื่องธรรมดา ครับ ถ้าผิดก็แก้ไขเท่านั้นเอง  ;)

ก็เพราะพวกเรารักกันอย่างนี้นี่ซิครับ .....เลยต้องขอโทษกันยกใหญ่ .......ไม่งั้นเดี๋ยวโกรธกันไปแล้วจะหาเพื่อนที่ไหนมาคุยกันละครับพี่ ....อิอิ ......

จะว่าไปแล้วก็นึกสงสาร จอห์น โมเสส บราวนิ่ง ยอดอัจฉริยะในวงการอาวุธปืน อุตสาห์หอบหิ้วแบบ ลูกซองออโต้ชั้นยอด อย่าง ออโต้ 5
ไปเสนอวินเชสเต้อร์กลับถูกปฎิเสธ มิหนำซ้ำนัดรอพบประธานเรมิงตันอาร์ม เกิดหัวใจวายกระทันหันอีก เลยตั้งหอบหิ้วแบบไปเสนอ FN ที่เบลเยี่ยม...
... จอห์น เอ็ม บราวนิ่ง เริ่มต้นพัฒนาออกแบบลูกซองออโต้ในปี 1898 เป็นช่วงที่ยุ่งยากมากเพราะเป็นช่วงรอยต่อกระสุนดินดำ(Black Powder)มาเป็นกระสุนดินขับควันน้อย(Smokeless Powder) ถ้าออกแบบเป็นระบบแก๊สโอเปอเรตแบบพี่น้องตระกูลแคลร์ คงไม่ได้ผลแน่ เพราะกระสุนยังไม่ได้มาตรฐาน...
...1900 ยื่นจดสิทธิบัตร ลูกซองกึ่งอัตโนมัติระบบรีคอยล์ อันลือลั่นนั่นคือ Browning Auto 5
...1901 ปรับปรุงระบบกลไกเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้สมบรูณ์ยิ่งขึ้น ที่เมืองนิวเฮฟเวอร์ รัฐคอนเนคติกัต
...1902 วินเชสเตอร์ รีพีทติ้งอาร์ม ปฏิเสธการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้แก่ บราวนิ่ง ทำใหสายสัมพันธ์ยาวนานกว่า 19 ปี ต้องสิ้นสุดลง ช่างไม่มีวิสัยทัศน์เอาซะเลย..
...1902 บราวนิ่ง ติดต่อขอพบประธานบริษัทเรมิงตัน อาร์ม แต่ประธานเกิดหัวใจวายกระทันหัน ขณะที่บราวนิ่งนั่งรออยู่ที่บริษัทเรมิงตัน ซวยซ้ำซวยซาก..
...1902 เดินทางไปยุโรปเพื่อติดต่อ FN และเซ็นสัญญากัน ตกลงที่จะผลิต Browning Auto 5
...1903 เริ่มผลิต Auto 5  จำนวน 10,000 กระบอก แล้วส่งกลับไปขายในอเมริกา เย้ยวินเชสเต้อร์ซะเลย และขายหมดภายใน 1 ปี ซะด้วย
...1905 เรมิงตันติดต่อซื้อแบบ จาก FN เพื่อทำการผลิตลูกซองแบบออโต้ 5 ออกมาขายโดยมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย รุ่นแรกคือ เรมิงตัน เอ็ม 11 นอกจากนั้นยังมีผู้ผลิตปืนลูกซองรายใหญ่ๆ อย่าง ชาเวจ,ฟรังกี้,เบรด้า ก็ซื้อแบบจาก FN ไปผลิตเช่นเดียวกัน..
...Auto 5 ถูกผลิตขายมากมายกว่า 2,000,000 กระบอก มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด และซีเรียลนัมเบอร์อยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังมีการย้ายมาผลิตที่โรงงานมิโรกุ ประเทศญี่ปุ่น
...1999  FN ผลิต Auto 5 รุ่น Final Tribute ออกมาจำนวน 1000 กระบอกเพื่อระลึกถึงความยิ่งใหญ่ของยอดอัจฉริยะ จอห์น โมเสส บราวนิ่ง ก่อนที่จะยุติสายการผลิต สุดยอดลูกซองระบบรีคอยล์กระบอกแรกของโลกลง ในปี 2000  :'(

...ลูกซองระบบแก๊สโอเปอเรตกระบอกแรกที่ทำงานได้ผลคือ เรมิงตัน เอ็ม 58 sportman ถูกผลิตขึ้นมาในปี 1956 และจำหน่ายในปี 1958
...ปี 1959 ผลิตรุ่น เอ็ม 878  แล้วพัฒนาเป็นรุ่น 1100 ในปี 1963 ก่อนที่จะยุติสายการผลิตรุ่น 1100 ลง และเปลี่ยนเป็นรุ่น 11-87 ในปี 1987...

สุดยอดอัจฉริยะ จอห์น โมเสส บราวนิ่ง
(http://i13.tinypic.com/4dz1ens.jpg)

ดูสายตาของจอนห์ ฯ ในภาพกระทู้ของพี่ โมซิโน่ ซิครับว่า
แกภูมิใจในผลิตภัณฑ์ ที่แกออกแบบไว้ขนาดไหน ..........เป็นภาพที่ได้อารมณ์จริงๆครับ
ไม่รู้แกจะภูมิใจใน 1911 บ้างหรือเปล่า ไม่เห็นมีรูปถ่าย แอ็กท่า กับ 1911 บ้างเลยนะ
อยากดูจัง

แกคงไม่ได้ภูมิใจในตัว 1911 เท่าไหร่หรอกครับ เพราะค่าตอบแทนและการยอมรับจากโคลท์ น้อยเหลือเกิน ...แต่ บราวนิ่ง 1935  กับลูกซองออโต้ 5 น่าจะภูมิใจมากกว่าเพราะใช้ชื่อแก แม้นยุโรปไม่ใช่แผ่นดินเกิดแต่ก็ให้เกียรติและการยอมรับมากกว่าอเมริกา...

จริงด้วยแฮะ...........มิน่าละ เลยมีคนพาลเข้าใจผิดกันอื้อเลยว่า บราวน์นิง เป็นคนแถวยุโรป
ที่ไหนได้ มะริกัน นั่นเอง
เพราะตอนปืนออโต้ของบราวนิง โด่งดัง ประเทศไทย รู้จักฝรั่งยุโรป มากกว่า อเมริกัน
เลยทำเอา ผู้เฒ่า ผู้แก่ ชาวสยามสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง  พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
ถ้าจะซื้อปืนออโตละก็ ต้องเบานิ่ง  เบานิ่ง เบลเยี่ยม ซิ แน่นอนสุดๆ ...