หัวข้อ: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: quick-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 10:30:57 PM ประโยชน์ของกาแฟ
นับตั้งแต่สมัยโบราณ คนเรารู้จัก "กาแฟ" มาเป็นระยะเวลากว่าพันปีแล้ว จวบจนปัจจุบันกาแฟนับเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมยิ่งและนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก แต่จะมีอีกกี่คนที่ทราบว่านอกจากรสละมุนลึกล้ำแล้ว หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม "คาเฟอีน" ในกาแฟมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจในหลายด้านด้วยกัน คาเฟอีนกระตุ้นให้สมองตื่นตัว ซึ่งจะเร่งความเร็วของการประมวลผลข้อมูล ในสมองและย่นระยะเวลาในการตอบสนอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานที่ต้องการสมาธิ การใช้เหตุผลและความจำ คาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะ ช่วยลดความหงุดหงิด อารมณ์ซึมเศร้าและความเครียดได้ ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข ด้านโภชนาการ การดื่มกาแฟช่วยให้ร่างกายได้รับของเหลวเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอต่อวัน อีกทั้งเนื้อกาแฟยังมีแร่ธาตุไนแทซเซียมและไนอาซีน ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีรายงานวิจัยว่าคาเฟอีนช่วยกระตุ้นการใช้พลังงานของร่างกาย ทำให้ไขมันสลายตัวเพิ่มขึ้น จึงอาจดื่มกาแฟเป็นเครื่องดื่มในการลดน้ำหนัก และเนื่องจากคาเฟอีนและสารอื่นที่มีอยู่ในกาแฟช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดและน้ำย่อย กาแฟจึงช่วยในการย่อยอาหารเป็นเหตุให้คนจำนวนมากดื่มกาแฟหลังอาหารแต่ละมื้อ จากการวิจัยทางการแพทย์สหรัฐฯ โดยดร.จี เวปสเตอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและคณะจากศูนย์การแพทย์นครฮอนโนลูลู สหรัฐฯ พบว่าผู้ชายที่ไม่ดื่มกาแฟมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคพาคิสันมากกว่าพวกที่ดื่มกาแฟมากกว่าวันละ 5 ถ้วย ถึง 5 เท่า ผลกระทบของคาเฟอีนต่อเส้นเลือดมีประโยชน์ต่อวงการแพทย์ เพราะคาเฟอีนช่วยไปขยายหลอดเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เส้นเลือดแดงบริเวณที่ศีรษะหดตัว ซึ่งช่วยลดอาการปวดหัวจากไมเกรนได้ จากการศึกษาของนายแพทย์ วินเซนต์ ทูบิโอโล แห่งศูนย์การแพทย์ยูซีแอลเออ-ฮาร์เบอร์ ได้ตั้งทฤษฎีใหม่ว่า การรับคาเฟอีนจำนวน 400 มิลลิกรัมต่อวัน อาจช่วยลดอาการแพ้เกสรดอกไม้ได้ จากรายงานการวิจัยในกลุ่มสตรีที่ดื่มกาแฟไม่เกิน 5 ถ้วยต่อวันพบว่า กาแฟไม่มีส่วนทำให้เป็นการเสี่ยงต่อการเป็นโรคของหัวใจมากขึ้น แม้ในรายที่มีปัญหาเส้นเลือดอุดตันหรือหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟทุกวัน วันละหกถ้วยขึ้นไปก็ไม่มีอัตราหัวใจสูงกว่าปกติ และจากการสำรวจหลายครั้ง รวมทั้งการวิจัยโดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่าผู้ดื่มกาแฟมีอัตร่การเป็นมะเร็งเต้านมต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ ส่วนการศึกษาของมหาวิทยาลัยบอสตันพบว่า คนไข้ที่ดื่มกาแอย่างน้องห้าถ้วยต่อวัน มีความเสี่ยงเป้นมะเร็งลำไส้ต่ำกว่ากลุ่มอื่นถึงร้อยละ 40 กาแฟยังกลายเป็นข่าวดีสำหรับผู้ชายทั่วโลก เมื่อดร.ดาร์ซี โรแบร์โตลิมา ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยาของมหาวิทยาลัยริโอ เดอจาเนโร ในบราซิล เปิดเผยว่า ผู้ที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศอันเนื่องมาจากการดื่มสุรา การเสพยา ภาวะซึมเศร้าและอายุขัย สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน 1. ป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B มีผู้วิจัยพิสูจน์แล้วว่า กาแฟมีประโยชน์ในการป้องกัน โรคดังกล่าว 2. ป้องกันโรคหอบ โรคนี้ คือ อาการ ภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง โดยทั่วไปเมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้น จะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที และคาเฟอีนในกาแฟจะระงับการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง ลดการเกิดโรคหอบ 3. ลดการเกิดโรคตับจากสุรา ตามที่นักวิชาการสำรวจแล้วพบว่า กาแฟช่วยลดผลร้ายที่จะมีต่อตับ แต่ยังต้องวิจัยต่อไปว่า สารใดที่มีประโยชน์ดังกล่าว และมีผลต่อสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดโรคตับแข็งหรือไม่ นอกจากแอลกอฮอล์ 4. ป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิภาพป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะในคาเฟอีนมีกรดอะซิติก ที่ช่วยป้องกันโรค 5. ขับไล่ความชรา ออกซิเจนเป็นสารที่ร่างกายต้องการมากก็จริง แต่ถ้ามีออกซิเจนมากไป ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่เร็ว โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้น จะทำให้ออกไซด์แตกตัว ลดการเกิดมะเร็งได้ กระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกาย 6. กาแฟลดอัตราคอเลส-เตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ในกาแฟมีนิโคติน แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่ แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด จึงป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดแข็งตัว 7. ละลายไขมัน กาแฟที่ทานหลังอิ่มอาหาร ช่วยให้ไขมันแตกตัว และให้พลังงานทดแทนจึงลดความอ้วนได้ 8. กาแฟเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ตามผลการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ จะมีไขมันชนิด (HDL) เพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไป ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว 9. แก้ปวดศีรษะ กาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีนที่ขยายหลอดเลือด ระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวด และยังช่วยขับปัสสาวะ ละลายไขมันในเส้นเลือด และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากเมาสุราได้ 10. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมอง มีผู้เชี่ยวชาญสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาว่า ความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น นั้นเป็นเพราะกลิ่นกาแฟ ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น 11. ดื่มกาแฟเล็กน้อยทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งดีขึ้น ไขมันแตกตัว หากได้ดื่ม กาแฟเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จ คาเฟอีน ในกาแฟจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนเพิ่มขึ้น ไขมันถูกเผาผลาญ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกาแฟ ถ้าจะถามว่าควรดื่มกาแฟวันละมากน้อยเท่าใด คงหามาตรฐานมาตอบไม่ได้ ต้องดูตามความชอบ และสภาพร่างกายผู้ดื่ม โดยทั่วไป ดื่มให้อร่อยหรือพอใจ คงจะเหมาะสม แต่ก็ควรสังเกตลักษณะอื่นๆ โดยละเอียดดังนี้ ดื่มกาแฟตอนเย็น ทำให้นอนไม่หลับไหม หลายคนเคยมีประสบการณ์มาบ้าง แต่กาแฟก็มีผลต่อร่างกาย แต่ละคนต่างกัน ถ้ากลัวว่าจะนอนไม่หลับ ให้ดื่มน้อยลง ทว่ากาแฟมีผลในการขับปัสสาวะ อาจทำให้ต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก รบกวนการนอนได้ คนมีครรภ์ควรดื่มกาแฟไหม เป็นเพราะว่าคาเฟอีนในกาแฟ จะส่งผลต่ออวัยวะภายในของทารกที่ยังอ่อนแออยู่ จึงไม่ควรดื่ม เด็กเล็กไม่ควรดื่มกาแฟ โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ขวบ หญิงลูกอ่อน ที่คลอดลูกแล้ว 100 วัน และอยู่ในช่วงให้นมลูก ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะช่วง 100 วันนี้ ทารกต้องการน้ำนมบริสุทธิ์จากแม่ การดื่มอะไรเข้าไปจะส่งผลต่อทารกได้ จึงต้องระวัง คนเป็นโรคกระเพาะควรงดกาแฟ เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้น การหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะ จะยิ่งเพิ่มกรดในกระเพาะให้อักเสบมากขึ้น คนเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะคาเฟอีน มีบทบาทในการกระตุ้นหัวใจ ทำให้เลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งกรณีนี้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กวัยรุ่นถ้าดื่มกาแฟ แต่ถ้าเป็นคนชราที่มีโรคหัวใจอยู่ จะทำให้ประสิทธิภาพหัวใจดีเกินไป และหัวใจเสื่อมเร็ว จึงไม่ควรดื่มอย่างยิ่ง ประวัติกาแฟ แหล่งกำเนิดของกาแฟเดิมเป็นพืชพื้นเมืองของ อบิสซิเนีย และอราเบีย ซึ่งสันนิษฐานกันว่าเป็นกาแฟพันธุ์อราบิกา (Coffee Arabica Linn) ส่วนกาแฟพันธุ์โรบัสตา (Coffee Robusta Linden) เป็นพืชพื้นเมืองในป่าแถบเส้นศูนย์สูตรในอัฟริกาตั้งแต่ West Cost จนถึง Uganda และ Southern Sudan หรือบางทีอาจรวมทั้ง Western Abyssinia ซึ่งเป็นแถบที่มีฝนตกพอเพียงมีอากาศอบอุ่นพอเหมาะ และความชื้นสูง ชาวโลกเริ่มรู้จักกาแฟครั้งแรกในศตวรรษที่ 9 คาลดี (KALDI) คนเลี้ยงแพะ ชาวอาระเบียเป็นผู้ได้รับเกียรติพอเชื่อถือได้ว่า เป็นผู้พบประโยชน์ของกาแฟในการใช้เป็นเครื่องดื่ม แต่บางท่านกล่าวว่า พระม๊อสเล็มองค์หนึ่ง ชื่อ ฮะยีโฮเมอร์ (Hadji Omer) ถูกขับไล่ออกจากเมืองเมกกา (Mecka) ใน คศ. 1285 เป็นคนแรกที่ได้ดื่มกาแฟ นอกจากกาแฟจะใช้เป็นเครื่องดื่มแล้ว ชาวอราเบียยังใช้รับประทานด้วย โดยใช้ใบที่บดละเอียดคลุกกับเมล็ดกาแฟและไขมันปั้นเป็นก้อนรับประทาน การดื่มกาแฟได้แพร่ขยายอย่างรวดเร็วเป็นธรรมดาที่การสร้างสวนกาแฟจะต้องเกิดขึ้นตามมา ประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นประเทศแถบที่มีอากาศร้อนก็พากันปลูกกาแฟกันทั่วไป ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีการปลูกกาแฟแพร่หลายทั่วโลก การปลูกกาแฟในประเทศไทย ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่า กาแฟถูกนำเข้ามาเพาะปลูกในประเทศไทยเมื่อใด แต่ความนิยมบริโภคกาแฟเริ่มตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเป็นที่นิยมมากขึ้นใน รัชกาลที่ 6 หลังจากได้มีนักเรียนไทยไปเรียนต่างประเทศ และนำวัฒนธรรมการดื่มกาแฟกลับมา กล่าวกันว่า มีการพบต้นกาแฟรุ่นแรกพันธุ์โรบัสตา ซึ่งนำพันธุ์มาจากเมืองเมกกะ โดยนายตี้หมุน ชาวไทยอิสลามนำกลับมาหลังจากการเดินทางไปแสวงบุญ โดยนำมาปลูกที่ตำบลบ้านโหนด อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ประมาณอายุได้ว่า นำเข้ามาปลูกเมื่อประมาณ พ. ศ.2447 ส่วนกาแฟในภาคตะวันออกสันนิษฐานว่า พระในนิกายแคทอลิกจากเวียดนามใต้เป็นผู้นำเข้ามาปลูก ส่วนในภาคเหนืออาจจะนำเข้ามาจากพม่าด้านแม่สาย จากนั้นจึงกระจายไปทั่วประเทศ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: CT_Pro4 ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 10:38:36 PM ...ขอบคุณครับ ได้ความรู้ใหม่... ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: sigsax ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 10:40:33 PM ขอบคุณครับ . .. ..
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Virus ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:14:15 PM :) ขอบคุงค่ะ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: กะเเด่ว ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:24:37 PM ชอบดื่มกาแฟครับ...แต่ถ้าแก้วเป็นร้อยคงไม่ไหว....ขอบคุณมากครับ :)
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: auauto ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:25:16 PM ขอบคุณครับ ผมคอกาแฟเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: east ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:28:34 PM แวะมาดู ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:32:08 PM ว่าแต่ว่าผมขอ Expresso ซั๊กถ้วยนะครับคุณ ควิก ขอพันธุ์ Arabica ด้วยนะครับ แหม.....แบบว่ามันอยาก.. :D~ ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: toi ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:46:58 PM ขอบคุณครับอ่านแล้วอยากกินกาแฟ...ปกติผมก็ไปนั่งร้านกาแฟทุกวันดืมทุกวันเพิ่งจะรู้เรื่องกาแฟวันนี้ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:51:20 PM ;D ผมชอบเอสเปรสโซ่+น้ำตาล 11/2 ช้อนครับ ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: SATIN ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:55:53 PM ผมว่าชนชาติที่นำกาแฟมายังไทย คือชาวอิสลามที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาและอีกส่วนที่สำคัญคือ คนจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในไทย ครับ
ลองแลกเปลี่ยนกันดู ขอบคุณ จขกท. มากทำให้ข้อสงสัยเรื่องสุขภาพกับกาแฟหายไปเยอะเลย ทำให้ผมรักกาแฟมากขึ้น จากวันละ 4-5 แก้วน่าจะเป็น10แก้วได้เลย หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:56:32 PM ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้มาแบ่งปัน :D
ชอบกาแฟค่ะ โดยเฉพาะกาแฟสด ได้กลิ่นไม่ได้น้ำลายสอ มาพร้อมกับอาการปวดหัว (ดื่มกาแฟสดแล้วจะปวดหัวค่ะ แค่ได้กลิ่นก็ปวดแย้ว :-\ ) เท่าที่เคยอ่านผลการวิจัยเกี่ยวกับกาแฟ วันละไม่เกิน 3 แก้ว จะส่งผลดี แต่ถ้าวันละ 8 แก้วขึ้นจะส่งผลเสีย อีกอย่าง คาเฟอีน (ทั้งในกาแฟและชา) จะเป็นตัวยับยั้งการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ทำให้ร่างกายดุดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่ เรื่องการเร่งเผาผลาญเพื่อช่วยในการลดความอ้วนนั้นจริง แต่ ......... ต้องดื่มแล้วไปออกกำลังกาย จึงจะได้ผล เพราะคาเฟอินจะดึงเอาไขมันออกมา แล้วแขวนลอยไว้ในเลือด หากไม่ออกกำลังกาย คือร่างกายไม่ได้ใช้พลังงานที่ถูกดึงออกมาแล้ว มันจะถูกส่งกลับไปเป็นไขมันอย่างเดิม เท่ากับว่า ไม่ส่งผลในการลดความอ้วนใด ๆ (ไม่แน่ใจว่า ถูกดึงกลับหลังจากดื่มกาแฟไปแล้วกี่นาที) ข้อมูลนี้ได้มาจากเพื่อนที่เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ออสเตรเลีย ทุกวันนี้ จะดื่มกาแฟดำใส่น้ำผึ้ง ก่อนไปออกกำลังกายประมาณ 30 นาที ค่ะ เป็นเทคนิคจากพรรคพวกนักกล้าม ซึ่งต้องไดเอท เมื่อถึงฤดูกาลแข่งขัน ***มีผลการวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพอย่างนี้ออกมามากมาย หลาย ๆ ผลการวิจัย ในเรื่องเดียวกัน ออกมาขัดแย้งกัน ขึ้นอยู่กับผู้ให้ทุนในการวิจัย ทำธุรกิจอะไรอยู่ ทั้งนี้เพื่อให้ผลการวิจัยมาส่งเสริมสนับสนุนสินค้าของตน และลบล้างคุณประโยชน์สินค้าของคู่แข่ง (แล้วก็มีการสร้างกระแสการบริโภคขึ้นมา) หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: ozero++รักในหลวงมากค่ะ++ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:10:42 AM ดื่มบางทีค่ะ ชอบนะคะ แต่ดื่มได้ไม่บ่อยเพราะดื่มทีไรท้องผูกทุกทีเลย :~)
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:15:12 AM ดื่มบางทีค่ะ ชอบนะคะ แต่ดื่มได้ไม่บ่อยเพราะดื่มทีไรท้องผูกทุกทีเลย :~) ตรงกันข้ามกันเลยค่ะ พี่นะ ถ้าดื่มตอนเช้า หลังตื่นนอนจะถ่ายดีมากเลยค่ะ ;) หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:18:56 AM อ้อ.....ลืมบอกไป ผมเองก็ชอบดื่มชาด้วยครับ...โดยเฉพาะชาที่ไต้หวันกลิ่นงี้ห้อมหอมมมม......ส่วนสรรพคุณสรรพโทษของชาในทางลึกแล้วผมไม่ทราบ....ทราบแต่ว่าหลังจากที่ทานอาหารของโปรดที่มันๆเช่นข้าวขาหมู ผมจะรู้สึกมึนๆนิดๆ แต่หลังจากได้ดื่มชาร้อนๆแล้วอาการก็จะหายไป.....และหากท่านไดมีข้อมูลเกี่ยวกับชาละก็ช่วยกรุณาเผยแพร่ด้วยครับ จะเป็นพระคุณยิ่งครับ... ;D
ลืมบอกไปว่าชาดีๆที่ไต้หวันแปงมากกกก..... :~) หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:21:35 AM :).. ขอบคุณมากครับ คุณ quick ..
ขอบคุณมากครับ คุณ harusame ที่มาร่วมแชร์ ความรู้.. ผมก็เป็น คอกาแฟ คนหนึ่ง.. เป็นกาแฟสด รสชาติ ก็ประมาณ Blue Mountain. จะต้มจากหม้อต้มน้ำริน.. ใส่แต่ครีม งดน้ำตาล. วันไหน ไม่ได้ดื่ม จะนอนหลับง่ายสบาย .. วันไหน ๓ แก้ว..จะเป็นนกฮูก เลยละครับ.. ;D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:26:19 AM อ้อ.....ลืมบอกไป ผมเองก็ชอบดื่มชาด้วยครับ...โดยเฉพาะชาที่ไต้หวันกลิ่นงี้ห้อมหอมมมม......ส่วนสรรพคุณสรรพโทษของชาในทางลึกแล้วผมไม่ทราบ....ทราบแต่ว่าหลังจากที่ทานอาหารของโปรดที่มันๆเช่นข้าวขาหมู ผมจะรู้สึกมึนๆนิดๆ แต่หลังจากได้ดื่มชาร้อนๆแล้วอาการก็จะหายไป.....และหากท่านไดมีข้อมูลเกี่ยวกับชาละก็ช่วยกรุณาเผยแพร่ด้วยครับ จะเป็นพระคุณยิ่งครับ... ;D ลืมบอกไปว่าชาดีๆที่ไต้หวันแปงมากกกก..... :~) ทราบมาจากชาวญี่ปุ่นค่ะว่า หลังจากทานอาหารที่มีไขมันสูงแล้วดื่มชาจะช่วยในการลดไขมันได้ ก็คงเป็นเพราะคาเฟอินนั่นแหละค่ะ ถ้าชอบดื่มชา และดื่มประจำ ขอให้ระวังชามะลิค่ะ เพราะในมะลิจะมีสารที่ให้ทั้งคุณและโทษอยู่ จำชื่อสารไม่ได้ แต่สารตัวหนึ่งถ้ารับเข้าไปสะสมอยู่เป็นเวลานาน อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สมองเสื่อม จนถึงขั้นเป็นโรคความจำเสื่อมได้ ถ้าดื่มนิดหน่อย นาน ๆ ครั้งก็ไม่เป็นไรค่ะ รากมะลิ (นำมาต้ม) มีฤทธิ์ ทำให้เมา อาเจียน ถึงเสียชีวิตได้ ค่ะ โบราณใช้เป็นยาล้างพิษ คือ ใช้ในปริมาณเล็กน้อยให้อาเจียน หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:35:04 AM [ทราบมาจากชาวญี่ปุ่นค่ะว่า หลังจากทานอาหารที่มีไขมันสูงแล้วดื่มชาจะช่วยในการลดไขมันได้ ก็คงเป็นเพราะคาเฟอินนั่นแหละค่ะ
ถ้าชอบดื่มชา และดื่มประจำ ขอให้ระวังชามะลิค่ะ เพราะในมะลิจะมีสารที่ให้ทั้งคุณและโทษอยู่ จำชื่อสารไม่ได้ แต่สารตัวหนึ่งถ้ารับเข้าไปสะสมอยู่เป็นเวลานาน อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สมองเสื่อม จนถึงขั้นเป็นโรคความจำเสื่อมได้ ถ้าดื่มนิดหน่อย นาน ๆ ครั้งก็ไม่เป็นไรค่ะ รากมะลิ (นำมาต้ม) มีฤทธิ์ ทำให้เมา อาเจียน ถึงเสียชีวิตได้ ค่ะ โบราณใช้เป็นยาล้างพิษ คือ ใช้ในปริมาณเล็กน้อยให้อาเจียน อ้างถึง อ้างถึง ขอบคุณครับคุณ harusame ที่กรุณาให้มูลที่เกี่ยวกับชา มีประโยชน์มากครับ โดยเฉพาะชามะลิซึ่งผมไม่เคยรู้เรื่องที่เกียวกับโทษของมันเลย....หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายอันตราย ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 01:42:02 AM อื่ม.............ผมมาสังเกตการณ์...............ครับ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: ดอยหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 06:34:45 AM กาแฟก็มีประโยช์แหะ... ;D ;D แต่ทำไมผมไม่ชอบดืมก็ไม่รู้... ??? ??? :D~ :D~
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 07:20:15 AM เช้าๆเมา....เอ๊ยเอาตลอด........ ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: mayis ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 08:09:37 AM ผมดื่ม 3+1 วันละ5ซอง...ถ้าดื่มน้อยกว่านี้จะรู้สึกมีอาการปวดหัวครับ...
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 08:40:16 AM ขอบคุณครับ..ผมก็ดื่มทุกวัน.ตอนเช้า... ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 08:58:59 AM ผมดื่มก่อนนอนช่วยให้นอนหลับ ;)
ดื่มตอนเช้าเพื่อให้ตาสว่าง ;) ดื่มระหว่างวันเพื่อให้สดชื่น :D ครีมกับน้ำตาลไม่เอา.... :P ขอบคุณที่แชร์ความรู้เรื่องกาแฟให้ทราบครับ เดี๋ยวไปขอเบิ้ล.........อีกหนึ่งถ้วย ;D ;D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 09:18:21 AM นึดขึ้นได้ เป็นเรื่องที่อาจารย์ เล่าให้ฟัง หลังจากที่อาจารย์กลับจากญี่ปุ่นค่ะ
"ที่ญี่ปุ่นมีการวิจัยเกี่ยวกับกาแฟอยู่หลายชื้น หลายแง่มุม หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบิรโภคกาแฟกับพฤติกรรมของมนุษย์อย่างหนึ่ง นั่นคือ พฤติกรรมทางเพศ ผลงายวิจัยออกมาว่า พฤติกรรมการดื่มกาแฟนั้นบ่งบอกถึงพฤติกรรมทางเพศ คือ เวลาในการดื่มกาแฟ สามารถบ่งบอกถึงเวลาการมี พสพ. ด้วยค่ะ ;D หมายความว่า ชอบดื่มกาแฟในเวลาไหน ก็แสดงว่าชอบมี พสพ. ในเวลานั้น ปล. อย่าคิดมากนะคะ เป็นเรื่องเล่า ฮา ๆ น่ะค่ะ ;D ส่วนเรื่องชาได้เทคนิคในการดื่มชาจากชาวญี่ปุ่น อีกเหมือนกัน วิธีชงชา แบบญี่ปุ่น เมื่อเทน้ำร้อนลงบนใบชาแล้ว ให้ปิดฝากาน้ำชา ยกกาขึ้น แล้วค่อย ๆ เอากาน้ำชาวนเป็นวงกลมช้า 3 ครั้งค่ะ ให้น้ำชาหอมน่าดื่มยิ่งขึ้นโดยใส่ดอกเก๊กฮวยแห้งลงไปนิดหน่อย ตอนนี้ก็ดื่มชาเขียวใบหม่อนของไทย ๆ ผสมกับดอกเก็กฮวยเป็นประจำค่ะ ใบหม่อน และดอกคำฝอย มีคุณสมบัติในการลดความดัน และลดคอเรสโตรอลในเลือด แต่ให้ระวังใบหม่อน เพราะใบหม่อนจะมีฤทธิ์แรง กว่าดอกคำฝอย ควรดื่มในปริมาณน้อย ๆ ถ้าใช้มาก ความดันลดลงมากเกินไป เป็นลมล้มพับไปได้นะคะ เห็นมั๊ยคะ ว่าทุกอย่างมีทั้งคุณ และโทษ อยู่ในตัว บริโภคแต่พอดีจะมีประโยชน์ บริโภคมากเกินไป ก็เกิดโทษ ขอให้มีความสุขกับการดื่ม ชา และ กาแฟ นะคะ ;) หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: word ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 09:54:17 AM :) :) :)สวัสดีครับ กาแฟร้อน 1แก้วไม่ใส่น้ำตาลและนม
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: e-muak ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 10:07:55 AM ขอบคุณครับทีเอาสิ่งดีๆมาฝาก
ผมเองก็ชอบดื่มครับ ไม่เลือกเวลาและยี่ห้อ แล้วแต่สะดวก(พสพ.ไม่เกี่ยวนะ ;D ;D) :).. ขอบคุณมากครับ คุณ quick .. Blue Mountain ตัวนี้ถูกจัดเป็นอันดับที่ หนี่ง ของโลก ใช่ไหมครับขอบคุณมากครับ คุณ harusame ที่มาร่วมแชร์ ความรู้.. ผมก็เป็น คอกาแฟ คนหนึ่ง.. เป็นกาแฟสด รสชาติ ก็ประมาณ Blue Mountain. จะต้มจากหม้อต้มน้ำริน.. ใส่แต่ครีม งดน้ำตาล. วันไหน ไม่ได้ดื่ม จะนอนหลับง่ายสบาย .. วันไหน ๓ แก้ว..จะเป็นนกฮูก เลยละครับ.. ;D รสชาดออกเปรี้ยวนิดหน่อย (ไม่รู้จำผิดหรือปล่าว) ด้วยความเคารพ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 10:31:26 AM :).. ขอบคุณมากครับ คุณ quick .. ขอบคุณมากครับ คุณ harusame ที่มาร่วมแชร์ ความรู้.. ผมก็เป็น คอกาแฟ คนหนึ่ง.. เป็นกาแฟสด รสชาติ ก็ประมาณ Blue Mountain. จะต้มจากหม้อต้มน้ำริน.. ใส่แต่ครีม งดน้ำตาล. วันไหน ไม่ได้ดื่ม จะนอนหลับง่ายสบาย .. วันไหน ๓ แก้ว..จะเป็นนกฮูก เลยละครับ.. ;D งดน้ำตาลเพื่ออะไรคะ กล้วอ้วนหรอ ถ้ากลัวอ้วนควรงดครีมนะคะ แล้วใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล แต่ถ้าเป็นเบาหวาน ก็งดทั้งน้ำตาล และน้ำผึ้ง ค่ะ ^^ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 10:32:50 AM ชอบมาก จนขนาดจะเอา ใส่สายน้ำเกลือแล้ว ;D ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: เรือน้อย..น้อย ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 10:59:21 AM ดื่มกาแฟ ทุกวัน ครับเพราะแฟน ขายอยู่ ;D ;D ;D
ผมอ่าน แล้วมีแต่ประโยชน์ แล้ว ในส่วนที่เป็น โทษ กับร่างกาย มีบ้างไหมครับ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: e-muak ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:10:48 PM ดื่มกาแฟ ทุกวัน ครับเพราะแฟน ขายอยู่ ;D ;D ;D ขออนุญาตครับผมอ่าน แล้วมีแต่ประโยชน์ แล้ว ในส่วนที่เป็น โทษ กับร่างกาย มีบ้างไหมครับ โทษมีครับ คือถ้าดื่มกาแฟโดยไม่เอาช้อนออก อาจทำให้ ตาบอดได้ ;D ;D ด้วยความเคารพ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:36:15 PM มาฟังเรื่องสบายๆแต่ได้สาระอย่างนี้ดีครับ..... ;D
ว่าแต่ว่า... คุณควิก ขอ Expresso ถ้วยนึง ไม่เอาครีม ไม่เอาน้ำตาลแต่ขอน้ำผึ้งแทนครับ...อ้อ...และก็ขอชาร้อนเพียวๆที่นึงด้วยครับ... ;) หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 01:39:21 PM นึดขึ้นได้ เป็นเรื่องที่อาจารย์ เล่าให้ฟัง หลังจากที่อาจารย์กลับจากญี่ปุ่นค่ะ อ้าว...ยุ่งละซิคราวนี้ ผมเองปกติดื่มวันละ 2-3 แก้ว ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ และที่สำคัญแก้วใหญ่แก้วเล็ก แก้วใหม่แก้วเก่า ได้หมด ไม่เลือก ซะด้วย สีก็ไม่เกี่ยว"ที่ญี่ปุ่นมีการวิจัยเกี่ยวกับกาแฟอยู่หลายชื้น หลายแง่มุม หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบิรโภคกาแฟกับพฤติกรรมของมนุษย์อย่างหนึ่ง นั่นคือ พฤติกรรมทางเพศ ผลงายวิจัยออกมาว่า พฤติกรรมการดื่มกาแฟนั้นบ่งบอกถึงพฤติกรรมทางเพศ คือ เวลาในการดื่มกาแฟ สามารถบ่งบอกถึงเวลาการมี พสพ. ด้วยค่ะ ;D หมายความว่า ชอบดื่มกาแฟในเวลาไหน ก็แสดงว่าชอบมี พสพ. ในเวลานั้น ปล. อย่าคิดมากนะคะ เป็นเรื่องเล่า ฮา ๆ น่ะค่ะ ;D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 02:10:12 PM ขอบคุณครับทีเอาสิ่งดีๆมาฝาก Blue Mountain ตัวนี้ถูกจัดเป็นอันดับที่ หนี่ง ของโลก ใช่ไหมครับผมเองก็ชอบดื่มครับ ไม่เลือกเวลาและยี่ห้อ แล้วแต่สะดวก(พสพ.ไม่เกี่ยวนะ ;D ;D) รสชาดออกเปรี้ยวนิดหน่อย (ไม่รู้จำผิดหรือปล่าว) ด้วยความเคารพ อ้างถึง .. ความรู้สึกผม. มันแบบเข้มข้น กลาง กลาง ครับ. และไม่ออกเปรี้ยว. :D งดน้ำตาลเพื่ออะไรคะ กล้วอ้วนหรอ ถ้ากลัวอ้วนควรงดครีมนะคะ แล้วใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล แต่ถ้าเป็นเบาหวาน ก็งดทั้งน้ำตาล และน้ำผึ้ง ค่ะ ^^ .. ชมชอบใน รสขม ..เลือกใส่ครีมบางยี่ห้อเท่านั้นครับ. ให้รู้สึกถึงรสชาติกาแฟ จริง จริง ดื่มอย่างนี้ มากนานแล้ว ครับ จนเป็นความคุ้นเคย.. ;D เคยไปนั่ง คุย กับ จ่าทวี ริมน้ำเข็ก ริมทางสาย วังทอง-หล่มสัก ราว ปี ๒๕๓๐-๑ ..ที่เป็นเจ้าของคำพูดประมาณ กาแฟดีต้อง "ดำอย่างปีศาจ ร้อนดั่งนรก" เป็นจุดเริ่มต้น ของ กาแฟสดแก้วแรกของผม ครับ. :D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 02:31:43 PM ด้วยความเคารพครับ...
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ...กาแฟนี่ขาดไม่ได้เลยครับพอตื่นนอนต้องมีสักแก้วเสมอครับ... ;D ขอบคุณครับ.............. หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: y_kato ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 02:39:33 PM ปกติเป็นคนไม่ทานกาแฟ :~) :~) :~)....พออ่านบทความนี้แล้วสงสัยต้องหันมาทานกาแฟแล้ว :) :) :)
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Been ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 02:51:47 PM :D~ ผมชอบกาแฟโบราณ เคยไปดูวิธีการคั่ว ถึงได้รู้ว่า ไม่ใช่กาแฟเพียวๆ มีน้ำตาลทราย(ไหม้) ทำให้หอม ข้าวโพดบด บางสูตรมีถั่วเหลือง คนคั่ว เหงื่อไหล ไคลย้อย เค็มๆไม่ต้องสงสัย ;D อร่อย :D~ :D~ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: หนู@เมืองสิงห์™ - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 02:56:28 PM ดื่มกาแฟอย่างไร ไม่เสียสุขภาพ
เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา กาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนถูกโจมตีว่า ทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิต เป็นหมัน ทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์แท้งได้หรือทารกน้ำหนักน้อย เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ ซีสต์ในเต้านม และกระดูกพรุน แต่ข้อมูลการวิจัยในปัจจุบันเปิดเผยว่าการดื่มกาแฟเพียงวันละ 1-2 ถ้วยนั้นปลอดภัย และอาจให้ผลดี ถ้าดื่มให้เป็น รายงานผลการวิจัยจากฟินแลนด์และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า คนที่ดื่มกาแฟมีความเสี่ยงการเกิดเบาหวานประเภท 2 น้อยกว่าคนที่ไม่ดื่ม ความเสี่ยงที่ลดลงเป็นสัดส่วนกับปริมาณกาแฟที่ดื่ม และกาแฟไร้คาเฟอีนให้ผลน้อยกว่า ส่วนชาไร้คาเฟอีนและเครื่องดื่มอื่นๆที่มีคาเฟอีนไม่ให้ผลเหมือนกาแฟ แต่นักวิจัยก็เตือนว่าอย่าเพิ่งมั่นใจจนหันไปโหมกาแฟ เพราะนักวิจัยยังต้องติดตามการวิจัยอีกมาก นอกจากนี้กาแฟยังยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคพาร์คินสัน ลดอันตรายจากตับในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคตับ ลดอาการหอบในผู้ที่มีโรคหอบหืด เพิ่มความจำ และสำหรับนักกีฬาเพิ่มความทนและความอึดในกีฬาที่ต้องใช้เวลานาน สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเพราะต้องการแก้ง่วง นักวิจัยแนะนำให้ดื่มปริมาณน้อยๆ แต่กระจายการดื่มออกไปตลอดวัน เช่น แทนที่จะดื่มถ้วยใหญ่ 16 ออนซ์ (500 มล.)ในตอนเช้า ให้ดื่มเพียงครั้งละ 2-3 ออนซ์ (60-90 มล) แต่บ่อยขึ้น กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 15 นาทีและจะอยู่ในร่างกายนานหลายชั่วโมง และต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงกว่าที่จะถูกขจัดออกจากร่างกาย ของดีในกาแฟ นักวิจัยของศูนย์วิจัยของศูนย์วิจัยใหญ่ในสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งมีบริษัทขายกาแฟรายใหญ่ของโลกพบว่า เมล็ดกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวถึง 4 เท่า และยังมากกว่าโกโก้ ชาสมุนไพรและไวน์แดงอีก ที่มากกว่าเพราะผู้บริโภคดื่มกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ แต่สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟแต่ละถ้วยและแต่ละยี่ห้อนั้นก็ไม่เท่ากันขึ้นกับชนิดของกาแฟ กาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta) มีสารต้านอนุมูลอิสระและคาเฟอีนมากกว่าพันธ์อราบิก้า (Arabicas) ถึง 2 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากวิธีการคั่วกาแฟ และปริมาณกาแฟที่ละลายแต่ละถ้วย รวมทั้งยังขึ้นอยู่กับวิธีการชงกาแฟ ระยะเวลาและปริมาณกาแฟที่ใช้ด้วย ข้อควรระวังในกาแฟ คอกาแฟอย่าเพิ่งย่ามใจกับข้อมูลด้านดีๆ เพราะองค์ประกอบหลักของกาแฟคือสารคาเฟอีนซึ่งเป็นเป็นสารกระตุ้น จึงมีผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจพอสมควร โดยทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เพิ่มความดันโลหิต และทำให้หัวใจเต้นผิดปกติในบางครั้ง งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโทรอนโทเปิดเผยว่า การดื่มกาแฟมากอาจเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลันในผู้ที่มียีนขจัดคาเฟอีนช้า ทำให้คาเฟอีนอยู่ในกระแสเลือดนานขึ้น แต่สำหรับคนที่มียีนปกติที่ขจัดคาเฟอีนได้เร็วกาแฟก็จะไม่มีผล ถึงอย่างไรนักวิจัยก็เชื่อว่าการดื่มเพียง 1-2 ถ้วยจะไม่มีผลต่อการเกิดห ัวใจวายเฉียบพลันไม่ว่ามียีนอย่างไร แต่การดื่มวันละ 4 แก้วขึ้นไปไม่ให้ผลดีขึ้น ดังนั้น ควรดื่มแต่พอควร เพราะปัจจุบันการตรวจยีนยังไม่ได้มีใช้กันเหมือนการตรวจสุข ภาพทั่วไป และยีนที่แตกต่างกันทำให้ผลการวิจัยทางโภชนาการที่สัมพันธ์กับโรคต่างๆ ที่ออกมามีข้อมูลขัดแย้งกันจนเกิดความสับสน ส่วนผลของกาแฟต่อสุขภาพผู้หญิงก็ยังไม่มีผลวิจัยชัดเจน ว่าจะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม ซีสต์ในเต้านมหรือกระดูกพรุนหรือไม่ การเดินสายกลางจึงดีที่สุด ผู้ที่ดื่มกาแฟสกัดคาเฟอีน อาจคิดว่าปลอดภัย แต่นักวิจัยเตือนว่า กาแฟสกัดคาเฟอีนอาจเพิ่มระดับกรดไขมันในเลือดให้สร้างแอลดีแอล ซึ่งเป็นคอเลสเทอรอลตัวร้ายได้ เพราะในกระบวนการสกัดคาเฟอีนจะสกัดเอาสารเฟลโวนอยด์ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารอื่นๆ ที่ให้รสชาติกาแฟแท้ๆ ออกไปด้วย นอกจากจะอร่อยน้อยลงแล้วยังมีผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย ข้อควรปฎิบัติ เลี่ยงกาแฟที่ใช้หม้อต้มแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย เพราะจะมีสารไดเทอร์พีนสูง เพิ่มระดับคอเลสเทอรอลในเลือด ควรเลือกกาแฟสำเร็จรูปที่ละลายน้ำ หรือชนิดกรองหยด และเอสเพรสโซ ซึ่งจะมีผลน้อยกว่า ถ้าต้องเลือกกาแฟสกัดคาเฟอีน ควรเลือกชนิดที่ใช้กระบวนการสกัดธรรมชาติ (Swiss Water Process) ตรวจ สอบยี่ห้อได้จาก SwissWater.com สำหรับผู้ที่เลี่ยงกาแฟอยู่แล้ว ไม่ควรหันมาดื่มเพียงเพื่อต้องการผลดีจากคาเฟอีน โดยเฉพาะคนที่ร่างกายไวต่อกาแฟ การดื่มอาจยิ่งเพิ่มผลเสีย เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น กระวนกระวาย นอนไม่หลับ กระเพาะหลั่งกรดออกมามากเกินควร ทำให้ปวดท้อง และเป็นสารขับปัสสาวะทำให้ร่างกายเสียน้ำมากขึ้น ดังนั้นทุกครั้งที่ดื่มกาแฟควรดื่มน้ำตามไปชดเชยด้วย ระวังสิ่งที่เติมลงในกาแฟ เช่น ครีม นมไขมันเต็ม น้ำตาล น้ำผึ้ง เพราะเท่ากับเติมพลังงานส่วนเกิน กาแฟมาตร ฐาน 1 ถ้วย มีขนาด 5-6 ออนซ์หรือ 150-180 มล. แต่ที่ขายโดยทั่วไปนั้นมีขนาด 12 ออนซ์หรือ 360 มล. ซึ่งมากกว่าถึง 2 เท่า ดังนั้น ควรจำกัดการดื่มให้ไม่เกิน 5 ถ้วย ซึ่งเป็นปริมาณที่ใช้ในการศึกษาวิจัย สารคาเฟอีนเป็นสารธรรมชาติที่พบในอาหารอื่นด้วย เช่นใบชา เมล็ดโคลา โกโก้ ช็อคโกแลต น้ำอัดลมสีดำ และยาบางชนิด ซึ่งอาจทำให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนเกินควร จึงต้องตรวจสอบพฤติกรรมของต ัวเองเสมอ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2007, 09:19:13 PM ขอบคุณครับคุณคนเมืองสิงห์ ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2007, 10:16:02 AM กาแฟที่แพงที่สุดในโลก
เป็นเมล็ดกาแฟที่ได้จาก ขี้ชะมด กล่าวคือ ชะมดจะกินเมล็ดกาแฟ แล้วถ่ายออกมา เมล็ดกาแฟที่ไม่ย่อยสลาย เก็บเอามา จะได้ เมล็ดกาแฟ ที่แพงที่สุดในโลก เชื่อหรือไม่ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2007, 11:03:02 AM ผมนานๆดื่มที ก็ชอบครับ ;D ;D ;D กาแฟดีๆอร่อย หอมจริงๆ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2007, 11:07:24 AM เป็นเมล็ดกาแฟที่ได้จาก ขี้ชะมด กล่าวคือ ชะมดจะกินเมล็ดกาแฟ แล้วถ่ายออกมา
------------------------------------------------------------------------------------------------ แหะ แหะ ......... ขอแวะกินโกปี๊ออ ร้านเจ๊กเฮงก็แล้วกัน หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: vana_Art ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2007, 12:41:26 PM ผมดื่มวันละประมาณ 3 เวลาครับ เช้าตื่นนอนแล้วครึ่งชั่วโมง ดื่มขณะที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ครับ ทำงานตอนบ่าย ๆ ก็เบรคกาแฟ 1 ถ้วยครับ แล้วระหว่างดูทีวีตอนดึก ๆ ก็ถ้วยหนึ่งครับ (รายการทีวีดี ๆ มักจะดึก ๆ ครับ) แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดื่มไม่ได้ ที่เคยได้ยินมาว่าดื่มแล้วนอนไม่หลับ...ถ้าไม่ได้ดื่มไม่ได้ สำหรับผมไม่ใช่ครับ ดื่มกาแฟดีไม่ดีอย่างไรผมไม่ทราบเท่าไหร่ แต่ผมคิด ๆ ดูแล้ว...ผมต้องจ่ายค่ากาแฟเดือนละหลายอัฐ (ติดมาจากภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ) อยู่ครับ ถึงอย่างไร...ก็ยังดีกว่านั่งวงเหล้าครับ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ เริ่มหัวข้อโดย: yaa ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2007, 01:02:06 PM ผมแพ้กาแฟ ผ่านร้านกาแฟสดเป็นต้องแวะ ขอเอสเพสโซร้อนสักแก้ว ชื่นใจ
|