เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: อาร์ พี จี. ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2007, 09:52:34 PM



หัวข้อ: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: อาร์ พี จี. ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2007, 09:52:34 PM
เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา ครับ ท่านใดอ่านแล้วก็ขอลงอีกทีนะครับ  ;D


ขอออกตัวก่อนนะครับว่า ตอนนี้ผมก็กำลังผ่อนรถอยู่(อย่างเต็มกำลัง)ครับ :~)

ทำได้ ไม่ได้ ไม่ต้องซีเรียสนะค๊าบ.......เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ ;D

.......................


ผมอยากได้รถใหม่...แต่ผมขอเลือกมีความสุขกับครอบครัวดีกว่า

เมื่อวานนี้ตอนประมาณบ่าย 3 โมงเย็นเป็นวันที่ผมโล่งอก ปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก

สบายใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก หลังจากที่ผมนั่งทนทุกข์ทรมาณทั้งความอยากได้รถใหม่

กระหายอยากได้รถใหม่มานั่ง รวมจนถึงการคิดคำนวณรายได้รายรับค่าใช้จ่ายของแต่ละเดือนในกรณีที่ผมจะซื้อรถใหม่

บนความกระสันกระหายอยากได้รถใหม่ของผม แล้วในที่สุดเมื่อวานนี้ผมได้ไปที่โชว์รูมรถแห่งหนึ่ง

โดยขับรถกะบะเก่าอายุ 12 ปีของผมไปตีเทินร์รถใหม่โดยไม่ได้บอกครอบครัว ไม่ได้บอกลูกเมียของผม

กะว่าจะสร้างความเซอร์ไพส์เมื่อได้ออกรถใหม่ โดยกะว่าเมื่อเทิร์นราคารถเสร็จ

แล้วจะรอจนกว่ารถใหม่มาแล้วจะพาลูกเมียมารับรถใหม่เลย แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางมาซื้อรถคนเดียว



บ่ายโมงครึ่งเมื่อวานนี้ผมขับรถกระบะของผมเข้าไปที่โชว์รูมรถแห่งนั้น เข้าไปจอดที่โรงจอดรถของโชว์รูมรถ

แล้วก็เข้าไปหาเซลขายรถคนหนึ่ง โดยบอกว่าผมจะเอารถมาเทินร์เพื่อซื้อรถคันใหม่

เซลขายรถรีบเชื้อเชิญผมนั่งกินน้ำ แล้วก็แนะนำราคารถใหม่พร้อมกับตามเต้นท์รถมาตีราคารถของผม

ระหว่างนั้นก็พาผมไปดูรถคันใหม่ที่ผมจะซื้อ แนะนำค่างวด ค่าผ่อน ดอกเบี้ย และส่วนแถมต่างๆ

ระหว่างที่ผมดูรถใหม่ไปพลางพลางนั้น ผมเองก็เริ่มวิตกเรื่องค่าใช้จ่าย

เริ่มวิตกว่าถ้าหลังจากที่ผมซื้อรถไปแล้วค่างวดแต่ละเดือนจะลำบากไม๊



ก่อนอื่นต้องเล่ารายได้และครอบครัวของผมเบื้องต้นก่อนนะครับ

ผมเองทำงานเป็นข้าราชการมาประมาณ 17 ปีแล้วครับ

ถ้านับตำแหน่งของผมก็เป็นหัวหน้าหน่วยงานระดับอำเภอครับ

ภรรยาของผมก็เป็นข้าราชการเหมือนกัน ตำแหน่งหน้าที่การงานของภรรยาของผมก็ใกล้เคียงกับผมครับ

ถ้าพูดถึงตำแหน่งหน้าที่การงานของเราทั้ง 2 คนก็คงถือว่าอยู่ในระดับสูงพอสมควรของอำเภอในจังหวัด

รายได้เรา 2 คนรวมกันก็ราว 7 หมื่นบาทครับ พอพูดถึงรายได้เรา 2 คนรวมกันก็คิดว่าเยอะพอประมาณครับ

ผมเองมีลูก 2 คนที่ต้องดูแล และมีพ่อแม่ของผมที่ผมต้องเลี้ยงดู

ท่านและท่านเองก็ไม่มีรายได้อะไรหลังจากที่หาเงินส่งเสียผมมาตลอด ผมเองมีรายจ่ายประจำเดือนที่คงที่ก็คือ

1.รายจ่ายค่าส่งงวดบ้าน เดือนละ 25000 บาท

2.ค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์ ค่าจิปาถะของบ้านผมก็ตกเดือนละ 4000 บาท

3.ค่าใช้จ่ายของโรงเรียนที่ลุกเรียนค่ากินค่าอาหารของลูกและค่าพี่เลี้ยงเด็กก็รวมราวเดืนอละ 8 พันบาท

ตกค่าใช้จ่ายคงที่ที่ต้องจ่ายแน่นอนก็ราวเดือนละ 4 หมื่นบาท



ที่มีเงินเหลือแต่ละเดือนของผมก็ราว 3 หมื่นบาทที่ต้องกินอยู่ทั้งครอบครัว แล้วก็ต้องเก็บเงินบางส่วนเพื่อครอบครัว

ปกติที่ผ่านมาผมเก็บเงินให้ลูกและครอบครัวได้เดือนละ 5 พันบาท โดยพยายามเก็บทุกเดือน



ผมมีรถกระบะ 1 คันอายุการใช้งานก็ 12 ปีแล้วครับ

แล้วก็มีมอเตอร์ไซค์ 1 คันซึ่งบางทีก็ผมหรือไม่ก็ภรรยาสลับกันขี่ไปทำงานถ้าวันไหนเราไปทำงานพร้อมกันไม่ได้

ในที่ทำงานของผมมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผมหลายคนมีรถยนต์ใช้กันเกือบทุกคน

แถมรถที่ใช้ก็มีแต่ใหม่ใหม่แถมหรูหรูกันทั้งนั้น ก็ถามพวกเค้าว่าซื้อกันยังไง

พวกเค้าก็บอกว่าผ่อนกันทุกคน เค้าบอกว่าซื้อเพื่อเป็นกำลังใจของชีวิต อดทนผ่อนเอาเดี๋ยวก็หมด

ส่วนเรื่องการซื้อบ้านของพวกเค้า พวกเค้าบอกว่าใกล้จะเกษียณค่อยคิดซื้อ

ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานของผมส่วนใหญ่เป็นหนี้สหกรณ์กันแทบทั้งหมด

เงินเดือนเหลือไม่กี่บาทแต่พวกเค้าก็อดทนผ่อนรถแพงแพงกัน

ที่ทำงานของผม ผมจะโดนเจ้าหน้าที่ถามผมบ่อยว่า เมื่อไหร่หัวหน้าจะออกรถใหม่ ....ผมมักจะยิ้ม

ทั้งที่ความจริงอยากได้รถใหม่มาก แต่พอมาคิดถึงรายจ่ายรายรับแล้วก็ยังกล้ากล้ากลัวกลัวกับอนาคตที่อาจจะไม่แน่นอน

ผมคิดเรื่องจะซื้อรถใหม่มาหลายปีแล้ว แต่ก็คิดไม่ตกว่าถ้าผมซื้อรถใหม่แล้ว

ผมคงไม่มีเงินเก็บรายเดือนเดือนละ 5 พันบาทแน่นอน เพราะเงินส่วนนี้จะต้องเอาไปผ่อนรถแทน แล้วอนาคตของลูกลูกผมล่ะ

แต่แล้วเมื่อวานนี้ผมก็สู้กิเลสในใจไม่ได้ เมื่อแวะเข้าไปในโชว์รูมรถ แล้วในที่สุดเต้นท์รถก็ประเมินรถเก่าให้ 1 แสนบาท

แล้วก็ผมกะจะดาวน์รถโดยใช้เงินเก็บที่มีอยู่ อีก 3 แสนบาท มาดาวน์รถ อีก 2 แสน กะว่าจะดาวน์รถรวม 3 แสนบาท

เหลือเงินเก็บไว้สัก 1 แสนบาท ก็ตกลงกับเซลขายรถแล้ว อัตราค่างวดผ่อน 60 งวด ตกเดือนละ 7 พันบาท

ก็คิดว่าสู้อดทนอีก 60 เดือนเอง เงินเดือนเราก็ขึ้นทุกปีไม่น่าจะมีปัญหา ใช้อย่างประหยัด

แต่แล้วความคิดนี้ก็มาเปลี่ยนไปเพียงชั่วพริบตา เมื่อผมกำลังตกลงงวดส่งกำลังจะวางเงินจองรถใหม่ 5 พันบาท

เมื่อภรรยาผมโทรมาหาถามว่าไปจังหวัดผมกลับบ้านหรือยัง...

ถ้ายังไม่กลับช่วยซื้อขนมกับหนังสือการ์ตูนกับแผ่นซีดีการ์ตูนมาฝากลูกด้วย........

เป็นประโยคเดียวที่อยู่อยู่ผมก็น้ำตาซึม เป็นประโยคเดียวที่อยู่อยู่กิเลสที่บังจิตใจของผมอยู่ก็หายไป

ผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมกำลังทำอะไรแค่สนองตัณหาของผม แค่สนองกิเลสของผม

แค่สนองภาพของสังคมของผมแค่นั้นหรือ แล้วลูกผมล่ะ ?

ผมบอกกับเซลขายรถทันทีว่าผมขอปรึกษาลูกเมียก่อนจะจองรถนะ

จะได้มาเลือกสีด้วยกัน ทั้งที่ความจริงผมจะไม่ซื้อรถใหม่แล้ว ผมเดินออกจากโชว์รูมรกด้วยความสบายใจ

ด้วยความโล่งใจ มาเลือกซื้อซื้อแผ่นซีดีการ์ตูน เลือกซื้อขนม แล้วก็เลือกซื้อหนังสือให้ลูกด้วยความสบายใจ



กลับถึงบ้านเลยลองถามภรรยาว่า อยากได้รถใหม่ไม๊..... ภรรยาผมตอบว่า....อยากได้รถใหม่ก็อยากได้

แต่รถเก่าเราก็ยังขับได้ไม่ใช่เหรอ ขับไปเที่ยวทั้งครอบครัวก็ยังได้ไม่ใช่เหรอ.....

ถ้าเราซื้อรถใหม่เราจะไม่มีเงินเก็บในแต่ละเดือนน่ะ

แค่หนูมีพี่เป็นสามีที่ดี มีลูกที่น่ารัก หนูก็พอใจแล้ว......เป็นประโยคที่ภรรยาผมตอบกับผม

อืมม....แล้วก็เป็นวันที่ผมปลอดโปร่งอีกครั้งที่ผมยังไม่ซื้อรถตอนนี้ รอเก็บเงินอีกสักพักก่อนครับ

ขอบคุณครับที่ผมมีภรรยาที่น่ารัก มีลูกที่ดี มีพ่อแม่ที่ยังให้ผมสามารถเลี้ยงดูได้ ความสุขอยู่ที่ครอบครัวจริงๆ



หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2007, 10:11:15 PM
ชอบครับ
ได้แง่คิดมากๆเลย


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2007, 10:41:23 PM
 ;)ขอบคุณครับ...อ่านแล้วรักเจ้าซิตี้พันสามของผมขึ้นอีกเยอะ...รับใช้มา 10 ปี ระยะทาง สามแสนกว่าโล กินแค่ 14-16 โล/ลิตร ไม่งอแง...ไม่ต้องผ่อน...วันดีคืนดี บังเอิญไม่มีตังค์..ดันมีคนบอกขายปืนถูกๆ ก็พอได้เล่มทะเบียนของเค้านี่เหละไปจำนำ....


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: msirimas ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2007, 11:10:49 PM
ได้แง่คิดดีมากครับ..  ผมเองก็เคยมีความคิดที่จะขายรถยุโรปในบ้านไปคันนึง(ร่ำๆจะชายหลายทีแล้ว) ทั้งๆรถคันดังกล่าวอายุเพียงแค่ 5-6 ปี ไม่มีภาระติดไฟแนนซ์ แถมสภาพ เปลี่ยน แต่ง หมดไปก็เยอะ!  เพียงเพื่อตัณหาอยากถอยรถใหม่... เท่านั้น

อ่านกระทู้นี้แล้วยังปลงดี


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Wrangler 1 ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2007, 11:11:08 PM
เฮ้อ.....อีกหนึ่งเรื่องราวอันแสนงดงาม ขอบคุณท่านโจ้ อาร์ พี จี. มากครับ  :VOV: :VOV: :VOV: :VOV:


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Easy ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2007, 11:16:30 PM
 :VOV:อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆเลย ขอบคุณครับ นี่แหละ..คำว่าพอเพียง ที่พ่อสั่งสอนเรา


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: หรอย ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2007, 11:26:46 PM
สวัสดีครับ ตาโจ้ เป็นข้อคิดที่ดีมาก 


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 12:02:03 AM
ดี ดี ดี และ ดีมากครับ....


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: east ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 12:36:55 AM
 คิดดีได้ดีครับ ขอบคุณมากที่นำเรื่องที่มีข้อคิดให้ผม ( กำลังจะซื้อรถใหม่ เหมือนกัน )


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: PPM ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 12:49:22 AM
สุดยอดครับ..........ถ้าเป็นผม คงจ่ายเงินจองเรียบร้อยแล้ว แล้วกลับมานั่งกลุ้ม :~) :~)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: TC01 ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 01:00:07 AM
ดีครับเพราะว่าถ้ามีรถใหม่แต่ไม่มีเงินในกระเป๋าคนข้างนอกอาจจะมองเราดูดีแต่ตัวเรานี้แหละที่ต้องลำบาก 8) 8)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 01:15:41 AM
เรื่องเล่าเข้ากับเศรษฐกิจแบบพอเพียงจังเลยคับ...


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Τσρ Κσρ รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 01:28:41 AM
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีที่เอามาฝากนะครับ   ;D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: m120 ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 05:58:53 AM
 :D  อ่านแล้วลดความ"อยากได้  " ได้เยอะเลยครับ :D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Been ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 06:06:34 AM


    ดีครับ ขอบคุณมากๆ :~) ลูกน้องผมมันถามกันจัง หัวหน้าไม่ออกรถใหม่เหรอ? รถคนสวน ยังใหม่กว่ารถหัวหน้าอีกนะ! ;D
                         


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อกแมน ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 08:00:40 AM
เรื่องเล่านี่ดีครับ  ผมเคยเห็นเศรษฐีหลายๆ มีเงินมากมายก่ายกอง แต่ไม่มีเวลาพัก เวลาหยุด ทำงานทุกวัน ไม่มีหยุด เิงินก็ไม่ได้ใช้   

ถ้าเป็นอย่างนี้ผมขออยู่แบบพอเพียงดีกว่า

จะได้มีเวลาให้ครอบครัว   ไม่รู้จะหาไปทำไมมากมาย   ชาตินี้ไม่รู้จะใช้หมดมั้ย


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: y_kato ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 08:41:18 AM
ได้อ่านเรื่องแบบนี้ตอนเช้าๆ รู้สึกมีกำลังใจทำงานขึ้นเยาะเลย... :) :) :)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 09:03:58 AM
...เยี่ยม  ชอบมากครับ  :VOV:

...ซื้อรถใหม่  ซื้อปุ๊บ ราคาตกปั๊บ ยิ่งนานไปมูลค่ายิ่งตก  เก็บเงินไว้หาดอกผลดีกว่า  มีแต่เพิ่ม

...รถคันที่ผมใช้  ซื้อมาตั้งแต่ปี 2535  มันยังซ่อมได้ ใช้ได้ ก็ใช้ไปเรื่อยครับ  กะว่าใช้ให้ครบ 20 ปีแล้วค่อยคิด ;D ;D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Hybrid Guns ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 09:12:29 AM
ตอนนี้ผมก็คิดแบบนี้เลยครับ  อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อ เก็บเงินให้ลูกดีกว่า... :)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: nine รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 09:13:54 AM
ขอบคุณครับสำหรับเรื่องดีๆที่นำมาให้อ่าน :D :D :D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: tap206_รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 09:26:48 AM
ขอบคุณครับสำหรับเรื่องดี ๆ รถผมก็กะบะใช้มา 13 ปี 400,000 กม. เพื่อนก็บอกว่า
เมื่อไหร่จะออกสี่ประตูเหมือนคนอื่นเขาบ้าง
ทนไม่ได้ก็เลยออกมาอีก 2 ประตู เป็นซูซูกิ สปอร์ตตี้ 4 WD มือสอง
ให้ภรรยาขับ  เอาไว้ลุยแถวบ้านนอก


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 09:32:26 AM
...เยี่ยม ชอบมากครับ :VOV:

...ซื้อรถใหม่ ซื้อปุ๊บ ราคาตกปั๊บ ยิ่งนานไปมูลค่ายิ่งตก เก็บเงินไว้หาดอกผลดีกว่า มีแต่เพิ่ม

...รถคันที่ผมใช้ ซื้อมาตั้งแต่ปี 2535 มันยังซ่อมได้ ใช้ได้ ก็ใช้ไปเรื่อยครับ กะว่าใช้ให้ครบ 20 ปีแล้วค่อยคิด ;D ;D

พี่แก้วไม่เล่าให้หมดนี่ครับ ว่า.....ทำอะไร.....ไปบ้าง

รถคันที่ผมใช้ก็ ปี 92 ครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 09:34:45 AM
...เยี่ยม ชอบมากครับ :VOV:

...ซื้อรถใหม่ ซื้อปุ๊บ ราคาตกปั๊บ ยิ่งนานไปมูลค่ายิ่งตก เก็บเงินไว้หาดอกผลดีกว่า มีแต่เพิ่ม

...รถคันที่ผมใช้ ซื้อมาตั้งแต่ปี 2535 มันยังซ่อมได้ ใช้ได้ ก็ใช้ไปเรื่อยครับ กะว่าใช้ให้ครบ 20 ปีแล้วค่อยคิด ;D ;D

พี่แก้วไม่เล่าให้หมดนี่ครับ ว่า.....ทำอะไร.....ไปบ้าง

รถคันที่ผมใช้ก็ ปี 92 ครับ

...ทำไปนิดหน่อยเองครับ  ใครเห็นรถผมจะบอกว่าสภาพเดิมๆ  ;)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: S.V ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 09:50:49 AM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Piyawat ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 10:11:56 AM
อืม! อ่านแล้วตัดกิเลสความอยากได้รถใหม่ลงไปได้เยอะเลย คงต้องคิดถึงลูกเมีย  :~)
แต่เรื่องอยากได้ปืนใหม่ มันตัดไม่ได้เลย อิ อิ  :D~


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: รัตตรา ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 10:15:09 AM
ก่อนอื่นขอบอกว่าอ่านแล้วรู้สึกรักเมียชาวบ้านจัง....ที่เขาตอบตอนท้าย...ทำไมไม่เหมือนของเราเลยนะ..จะเล่าให้ฟังครับถ้ารำคาญก็ไม่ต้องอ่านก็ได้ครับ

    ผมเป็นโชคดี ตั้งแต่เข้ามาเผชิญโลกของตัวเองในกรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุสิบเก้า..จนปัจจุบันย่างสี่สิบสาม

คันแรก..  ก็ได้รถประจำตำแหน่งของคนอื่น มาขับประจำตัวเรา  ( งง..มั้ยครับ ) เป็นอย่างนั้นเพราะเขาไม่รู้จักกรุงเทพฯ ผมเลยยึดซะ...ขับให้เขานั่ง

                 เป็นรถปิคอัพ..กระบะตอนเดียวใส่หลังคา...แค่นี้ก็หรูแล้ว..

คันที่สอง..เขาเปลี่ยนจากรถกระบะ..คันแรกเป็นรถเก๋ง..เพราะมันเป็นรถเช่า บริษัทเช่าให้ประจำตำแหน่งพนักงานครับ   

คันที่สาม...เปลี่ยนจากรถเก๋งเป็นกระตอนเดียวป้ายแดง...แต่ใส่หลังคากรงไก่..เปลี่ยนเพราะต้องออกหน่วยงานที่เส้นทางไม่ดี

คันที่ 4. ...กระบะโทรมๆ....เพราะคันที่สามโดนโขมยหายไป..คงไปโผล่เขมรละมั้ง

คันที่ 5.....รถเก๋งครับ...BMW. 318 i  หัวฉีดยุคแรกเลย..เปลี่ยนเพราะขับไอ้ตัวโทรมคันที่สี่ ไปเสยท้ายรถบรรทุกเข้าให้

คันที่ 6....ปิคอัพโทรมๆ...ไมตี้เอ็กซ์ แก่ๆ......เพราะบริษัท ทวง บีเอ็มฯ คืน ด้วยว่าใช้ของดีเกินหน้าเกินตาคนอื่น

คันที่ 7...เปลี่ยนบริษัทใหม่..ตำแหน่งดีขึ้น...ได้ป้ายแดง อีซูซุ....ทีเอฟอาร์ แปดสิบเก้าแรงม้า..เพราะต้องออกหน่วยงานต่งจังหวัด

คันที่ 8...ไดฮัทสุมีร่า..คันแรกในชีวิตที่ซื้อเอง...ให้ภรรยาขับไปส่งลูกเรียนหนังสือ

คันที่ 9...เก๋ง..ป้ายแดง..โตโยต้า...1600 CC. ขับทีไรเหมือนจะบินเสียวดี..ไม่ชอบขับรถเก๋งเลยหากระบะมาอีกคัน..

คันที่ 10...กระบะมือสองล้อโตบิ๊กฟุต...ได้มาเปลี่ยนกันขับกับรถเก๋ง...ทางดีทางไม่ดี สลับกันใช้

คันที่ 11....เปลี่ยนบริษัทอีกแล้ว...ได้ปิคอัพ..สภาพกลางๆอีซูซุมาใช้

คันที่ 12...คันที่สิบเอ็ด...เครื่องมันพัง...ลูกน้องขับไปเจ๊ง...เลยเปลี่ยนมาขับ...คาเมโอ

คันที่ 13...คาเมโอ..ถูกดึงไปรับส่งนายฝรั่ง...เลยได้เก๋ง...ฮอนด้าแอคคอร์ดตาเพชรมาขับ ออโตคันแรกในชีวิต

คันที่ 14....ฮอนด้าตาเพชรขนของไม่ได้..บริษัทเลยถอยป้ายแดง...ดราก้อนอาย..มาให้ใช้คู่กัน

คันที่ 15....ออกมาทำเองกับเจ้านายเก่า...ถอยโรดิโอ..มือสองมาใช้รถใหม่มากใช้แค่แปดเดือนขับดีสนุก

คันที่ 16...อีซูซุสี่ประตูขับสี่อีกแล้ว...ซื้อเองเป็นคันที่สองคันก่อน ให้ลูกน้องใช้เพราะกิจการดีขึ้น..

ถ้าอ่านมาถึงตอนนี้แล้ว..บอกได้เลยจะมีคันที่ สิบเจ็ดอีกแล้วครับที่จะขับในชีวิต...เพราะได้แยกออกมาทำเองเดี่ยวๆ

คันที่สิบห้า ต้องคืนหุ้นส่วนไปเพราะใช้ชื่อ บริษัทซื้อ...มันทำไงได้รถทำงานขาด..ก็ต้องซื้อมาทำงานให้งานเดินได้

แต่ปัญหามันอยู่ที...แฟนและลูกสาว..ยินดีจะได้รถใหม่โดยเจาะจงยี่ห้อและรุ่น..ก็เลยถกกันว่าจะซื้ออะไรดี..คันเดิม

ก็ดีอยู่แล้ว...จะเลื่อนไปให้ลูกน้องใช้ก็ดีเกินไปสำหรับตำแหน่งเขา...ทีนี้ลูกสาวกับแฟนจะเอา...ฟอร์จูนเนอร์ นะพ่อ..

กรรม....ไม่เหมือนภรรยาของเรื่องที่เล่ามาเลยครับ...น่ารักกว่าเยอะเลย... ;D ;D ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: noomrider ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 10:44:51 AM
ขอบคุณครับ

อ่านเเล้วทำให้กิเลสในตัวผมลดลงไปเยอะเลย  ตอนนี้คิดจะเปลี่ยนเพราะอยากได้รถใหม่รุ่นใหม่ทั้งทีคันที่ใช้อยู่ก็ยังไม่มีอะไรเสีย  เอาเงินไปซื้อปืนดีกว่า อิ อิ....


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 10:57:05 AM
ขอบคุณครับ

อ่านเเล้วทำให้กิเลสในตัวผมลดลงไปเยอะเลย ตอนนี้คิดจะเปลี่ยนเพราะอยากได้รถใหม่รุ่นใหม่ทั้งทีคันที่ใช้อยู่ก็ยังไม่มีอะไรเสีย เอาเงินไปซื้อปืนดีกว่า อิ อิ....




เห็นด้วยยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: * ต้น * ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 12:40:48 PM
 น้ำตาแทบไหลครับ    ทำไมไม่ลงให้อ่านก่อนหน้านี้ซักเดือน


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 01:15:47 PM
...เยี่ยม ชอบมากครับ :VOV:

...ซื้อรถใหม่ ซื้อปุ๊บ ราคาตกปั๊บ ยิ่งนานไปมูลค่ายิ่งตก เก็บเงินไว้หาดอกผลดีกว่า มีแต่เพิ่ม

...รถคันที่ผมใช้ ซื้อมาตั้งแต่ปี 2535 มันยังซ่อมได้ ใช้ได้ ก็ใช้ไปเรื่อยครับ กะว่าใช้ให้ครบ 20 ปีแล้วค่อยคิด ;D ;D

พี่แก้วไม่เล่าให้หมดนี่ครับ ว่า.....ทำอะไร.....ไปบ้าง

รถคันที่ผมใช้ก็ ปี 92 ครับ

...ทำไปนิดหน่อยเองครับ ใครเห็นรถผมจะบอกว่าสภาพเดิมๆ  ;)

เห็นเปลีjยนยางหลังซ้ายใหม่นี่คับ...ฮา...:DD


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Piak Srisiam ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 02:02:54 PM
น้ำตาแทบไหลครับ ทำไมไม่ลงให้อ่านก่อนหน้านี้ซักเดือน

เช่นกันครับ ถ้าอ่านก่อนนี้ซักเดือน ผมคงละอายใจจนไม่กล้ารับเจ้าอันชูทส์มาอยู่ด้วยแน่
เอ ทำไมจิตสำนึกในการรักครอบครัว ต้องอาศัยคนอื่นมาปลุกมันขึ้นนะ สงสัยกิเลสมันบังตาผมอยู่เยอะ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 03:47:38 PM
ดีมีสาระ... :D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 04:42:44 PM
...เยี่ยม ชอบมากครับ :VOV:

...ซื้อรถใหม่ ซื้อปุ๊บ ราคาตกปั๊บ ยิ่งนานไปมูลค่ายิ่งตก เก็บเงินไว้หาดอกผลดีกว่า มีแต่เพิ่ม

...รถคันที่ผมใช้ ซื้อมาตั้งแต่ปี 2535 มันยังซ่อมได้ ใช้ได้ ก็ใช้ไปเรื่อยครับ กะว่าใช้ให้ครบ 20 ปีแล้วค่อยคิด ;D ;D

พี่แก้วไม่เล่าให้หมดนี่ครับ ว่า.....ทำอะไร.....ไปบ้าง

รถคันที่ผมใช้ก็ ปี 92 ครับ

...ทำไปนิดหน่อยเองครับ ใครเห็นรถผมจะบอกว่าสภาพเดิมๆ ;)

เห็นเปลีjยนยางหลังซ้ายใหม่นี่คับ...ฮา...:DD

สนามครูดำ.... ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 05:42:35 PM
...เยี่ยม ชอบมากครับ :VOV:

...ซื้อรถใหม่ ซื้อปุ๊บ ราคาตกปั๊บ ยิ่งนานไปมูลค่ายิ่งตก เก็บเงินไว้หาดอกผลดีกว่า มีแต่เพิ่ม

...รถคันที่ผมใช้ ซื้อมาตั้งแต่ปี 2535 มันยังซ่อมได้ ใช้ได้ ก็ใช้ไปเรื่อยครับ กะว่าใช้ให้ครบ 20 ปีแล้วค่อยคิด ;D ;D

พี่แก้วไม่เล่าให้หมดนี่ครับ ว่า.....ทำอะไร.....ไปบ้าง

รถคันที่ผมใช้ก็ ปี 92 ครับ

...ทำไปนิดหน่อยเองครับ ใครเห็นรถผมจะบอกว่าสภาพเดิมๆ ;)

เห็นเปลีjยนยางหลังซ้ายใหม่นี่คับ...ฮา...:DD

สนามครูดำ.... ;D ;D ;D

...ความจำดีจัง  ;D ;D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: mb154cm ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2007, 08:03:32 PM
...อ่านแล้ว เจียมใจตัวเองดีครับ... :)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: eded ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2007, 12:18:38 AM
รู้สึกดีมากๆเลยครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2007, 12:48:16 AM
 :D

อ่านแล้ว นั่งอมยิ้ม

รถคันที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็ 10 ปีเข้าไปแล้ว ทั้งน้องชาย และแม่ ก็ยุว่าสมควรออกรถใหม่ได้แล้ว
โดยส่วนตัวแล้วรักรถคันนี้มาก เพราะเป็นรถที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเองคันแรก แล้วมันก็ยังใช้ได้ดีอยู่ เพียงแต่ต้องคอยตรวจสภาพมันบ่อยขึ้นเท่านั้นเอง
แล้วก็ยังไม่คิดที่จะออกรถใหม่ค่ะ



 ภรรยาก็น่ารักนะคะ ที่เข้าใจ แล้วก็ไม่ไหลไปกับกระแสวัตถุนิยม  :D


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: bigbuffalo ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2007, 10:41:08 AM
ให้แง่คิดที่ดี


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2007, 11:12:18 AM
อ่านแล้วรู้สึก รักและภูมิใจที่ได้ขับรถเก่า ที่ไม่ทำให้เราเป็นหนี้


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: anpangman ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2007, 11:44:17 AM
เป็นเรื่องราวที่ดีมากเลยครับ อ่านแล้วลดกิเลศลงไปได้เยอะ
อย่างที่เค้าว่าครับ การไม่เป็นหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ อิอิ.......


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2007, 12:39:05 PM
สุดยอดพี่ มีรถสวยๆขับกับ มีตังค์เก็บพี่ว่าอันไหนโก้กว่ากับครับ :D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: PsanP_IT.31(ไพศาล ๓) ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2007, 07:45:03 PM
ขอบคุณครับ  หลังจากอ่านจบ  กิเลสสำหรับรถป้ายแดงหายไปเลย!
    ทำยังไงกะปืนกระบอกต่อไปดีน้อ!!!!!


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: บางแก้ว ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2007, 08:55:50 PM
ขอบคุณครับอ่านแล้วกินใจดีครับลดกิเลสไปได้เยอะเลย.......


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2007, 09:05:09 PM
อ่านแล้วรู้สึกผิดกับตัวเองยังงัยไม่รู้ซิ
ถ้าเป็นอย่างนี้ ปืนกระบอกใหม่ คงต้องพักไว้ก่อนซะแล้วครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2007, 09:17:03 PM
มีภาพ ภาพหนึ่งอยากให้ดูค่ะ
เข้ากับกระทู้นี้พอดีเลย

เป็นภาพประทับใจค่ะ   :D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: จินตา <Jinta> ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2007, 09:21:59 PM
ขอบคุณครับสำหรับข้อความแง่คิดดีๆ... พอแล้วๆๆๆๆ ประหยัดๆๆๆๆ ท่องไว้...


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: Boss888 ที่ มีนาคม 03, 2007, 10:56:35 PM
ว2 ว8 จะได้ ว 4 ครับ


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนใจ......เรื่องเล่าจาก โต๊ะรัชดา
เริ่มหัวข้อโดย: visith ที่ มีนาคม 03, 2007, 11:14:24 PM
....Print ไปแปะหน้าโต๊ะเตือนใจก่อนงานมอเตอร์โชว์...ปลายเดือนนี้...ท่าจะดี...