เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผมอยากได้  .45 อย่างยิ่งแข่งขันกับเขาบ้างครับผม

ไปติดต่อสนามที่ท่านเป็นสมาชิก เพื่อขอใบรับรองว่าเราได้มาใช้สนาม และเป็นนักกีฬา

เมื่อได้แล้วยื่นประกอบใบ ป.1 เพื่อขอมีอาวุธปืนขนาด 11 มม. ไว้ใช้เพื่อการกีฬา ครับ

ครับผมก็เป็นบุคคนธรรมดา ก็ใช้วิธีนี้ครับ ;)

ต้องมีโฉนดที่ดินมูลค่าประมาณ ๑-๒ ล้านบาท(ราคาคุย) หรือมีเงินฝากธนาคาร ๐.๕ - ๑ ล้านบาท (เงินคนอืนยืมมาผ่านบัญชีซัก ๓-๖ เดือน ให้ดอกเบี้ยเขาด้วยก็จะดี)
หาที่เรียนยิงปีน(๑-๒ สัปดาห์) ไปเรียนยิงปืนประมาณ ๑-๒ วัน (ได้ใบประกาศ) ไปสมัครเป็นสมาชิกสนามยิงปืน ๑-๒ แห่ง(รอ ๙๐ วัน)
จากนั้นหาความรู้เรื่องปืนที่จะซื้อ ครบ ๙๐ วัน ขอใบรับรองการเป็นสมาชิกสนามยิงปืน(๑-๒ สัปดาห์)
และขอใบรับรองความประพฤติจากข้าราขการ ซี.๖ ขึ้นไป(ถ้าเป็นเพื่อนที่ไปเรียนยิงปืนด้วยกันก็ดี)
รวมหลักฐานไปขอใบ ป.๓ เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน(ขอไว้ก่อน) ถ้านาย...ไม่ให้ก็ขอเพื่อการกีฬาแทน
ปล. อย่าลืม...ทำตัวนอบน้อมเข้าไว้..วาจา+กิริยา..บางครั้งไม่ต้องมีน้ำมันหล่อลื่น ก็ขอใบ.๓ เสียเงินแค่ ๕ บาท

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ต้องลองขอดูครับ...ผมเก็บ 11 ไว้เป็นอันสุดท้ายที่จะขอโอน
เผื่อมีเรื่องทะเลาะกันจะได้ไม่ต้องพะวงหลัง ;D
...หลักฐานก็เตรียมเหมือนกับกระบอกก่อนๆ ถ้าอันนี้ไม่ให้
ทำไมให้อันก่อนหน้านี้ได้ ต้องเตรียมการให้รัดกุมเข้าไว้...ประเทศไทย...

เป็นบุคคลธรรมดาเหมือนกันค่ะ.
กระบอกแรก ไม่มีปัญหาอะไรได้พารา (ประเภทกีฬา) มา 1 กระบอกแก้ปวดใจ
แต่... กระบอกที่ 2 หมายปองโคลส์ไว้..จะทำอย่างไรดี...ใครก็ได้ช่วยบอกทีค่ะ.

ผมก็เป็นคนธรรมดา  (ยังไม่พิการ  ยังไม่หมดสมรรถภาพ)  มี.45 อยู่ 4 กระบอกครับ

;D...ใช้วิธี.กระบอกแรกซิครับ... ;D

แหม ท่านผู้การ  :D

 :~) :~)  :D~ :D~ (พูดไม่ถูกครับ...อิจฉา)

...เอ้อ  คุณสมบัติ  เป็นบุคคลธรรมดาที่รวย  หรือแกล้งๆ รวย  ::) ::)

มธุรสวาจา  เอ่ยปากถามครับ

ผมก็เป็นคนธรรมดา เหมือนกันมี.45เเล้วอายุก็เเค่ 24เองครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบคำถามครับ  แต่ผมไปที่อำเภอมาเขาบอกยากมากๆ ทั้งที่พึ่งขอ ไป 1 กระบอกแต่ขนาดเล็ก 7.65  และบอกว่าต้องเป็นสมาชิคสนามยิงปืนมากว่า 6 เดือน  อีกต้องเอาใบรับรองจากนายกสมาคมสนามยิงปืน และใบรับรองจากข้าราชการ
พอถามตามร้านปืน ทำให้คิดเท่าไร ราคา10000บาท  กำลังคิดจะเดินเรื่องเอง

คุยกับอำเภอให้ดีก่อนดีกว่าครับบางทีอาจจะน้อยกว่าที่ร้านบอกมา

 :)..จัดเตรียมเอกสารประกอบให้ครบถ้วน แล้วยื่นขออนุญาต
      ขัดข้องประการใด เจ้าหน้าที่จะบอกเองครับ
      เอาใจช่วยครับ . auto .๔๕ ยังน่าใช้อยู่ทุกกาล.. ครับ.

...เอ อยู่บ้านเดียวกับผมหรือเปล่าครับ เท่าที่ลองขอ 4 กระบอกในรอบ 6 เดือน
ก็ไม่ยากนะครับ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านนี้โดยตรงก็บริการดีนะครับ
....แต่วันก่อนไปตัดโอนได้ยินแว่วๆว่าขอ 357 ได้ แต่ไม่รู้ว่านายจะให้หรือเปล่า...วิเคราะห์ได้ว่า อย่างน้อย
เรื่องของเราก็สามารถผ่านไปถึงนายได้ ถ้าไม่ได้จะได้ทะเลาะกับนายโดยตรงเดี๋ยวแกก็ย้ายแล้วครับ
...สู้...สู้... :D

ให้กำลังใจครับ
วิธีนี้ได้ผลมามากแล้วครับ  ลองดูครับ

วันนี้ก็เพิ่งไปยื่นขอที่วังไชยามาเองครับ ขนาด .45 กับ .357 เพื่อการกีฬา
กรอกเอกสารจนเมื่อยมือเลย ;D สัมภาษณ์เรียบร้อย ผ่านตลอด
เสีย 2 บาท ค่าไปรษณีย์บัตรแจ้งผล รอลุ้นอีก 45 วันครับ ;D

ขอเพื่อการกีฬา แล้วในใบ ป. ๔ เค้าจะระบุว่าอย่างไรครับ

เวรกรรมประเทศไทย..ยังไม่มี 11 เหมือนกัน

จะมีแสต็มป์ ไว้ว่า เพื่อการกีฬา ครับ

เพิ่งได้มากระบอกแรกครับ ขอเพื่อการกีฬาครับ

เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่เพื่อสมาชิกแนะนำให้พร้อม
ในขั้นตอนการขอหรือกรอก ป.๑ จะมีการให้ปากคำ
หรือสอบถามกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ประกอบการขอ
ถ้าหากกรอกรายละเอียดได้เหมาะสม มีเหตุผลก็น่าจะไม่ใช่
เรื่องยากอย่างไร เช่น การขอเพื่อประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็น จนท.รัฐ หากเป็นเอกชนที่ต้อง
ติดต่อธนาคาร จ่ายเบี้ยเลี้ยง เงินเดือน ค่าเช่า มีความจำเป็น
ที่จะต้องปกป้องชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมากก็ได้
หรือการเป็นเจ้าของบ้าน ไร่ ที่อยู่ห่างไกลจากชุมชน มีโอกาส ที่จะถูกคนร้ายเข้าปล้น
มีคดีอุกอาจสามารถยกตัวอย่างให้เห็นได้ในพื้นที่ 
หรือการเป็นนักกีฬายิงปืนโดยมีคำรับรองจากสมาคม ชมรม
หรือการที่สามี ภรรยา ประกอบอาชีพสำคัญเช่น ศาล อัยการ
หรือ เป็นผู้ตรวจสอบภายในอาจเกิดข้อขัดแย้งกับพนักงานที่ถูกลงโทษ
มีโอกาสที่จะถูกลอบทำร้ายได้
เหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ จะทำให้การขอมีน้ำหนักขึ้น
อธิบายเพิ่มเติมว่า ทำไม่ต้องจุดสี่ห้า ความแตกต่างในเรื่องอำนาจการหยุดยั้ง
อำนาจการทะลุทะลวงที่น้อย ไม่ทะลุไปโดนผู้อื่น ลักษณะการใช้งานที่ต่างกัน
ของปืนในแต่ละแบบ (หากท่านมีมากกว่า ๑ กระบอก)
ผู้อนุญาต น่าจะเห็นความจำเป็น และความรู้เกี่ยวกับอาวุธของผู้ขอ
ซึ่งได้อธิบายมา การตัดสินใจก็จะง่ายขึ้น ว่าปืนจะไปอยู่ในมือของ
ผู้ที่มีความจำเป็นและมีความรู้จริง
ประเด็นสำคัญที่ผมเห็นอีกอย่างคือ การแต่งกายและการแสดงออก
(ไม่ได้เป็นการดูถูกหรือเป็นการมองคนอื่นแต่ภายนอกนะครับ)
การติดต่อ จนท.ในสถานที่ราชการ การให้ความเคารพสถานที่
ควรคำนึงถึงบ้างเพื่อให้ธุระสำเร็จง่ายขึ้น
บางท่านชอบสบาย ๆ ใส่ขาสั้น หนีบรองเท้า แตะ
หนวดเครารุงรัง ผมเผ้าไม่ได้หวี อย่างนี้ก็ทำให้
ขาดความน่าเชื่อถือไปเยอะครับ ยิ่งถ้าหงุดหงิด โวยวาย ยิ่งไปกันใหญ่
ยังไงก็ลองด้วยตัวเองก่อนก็แล้วกันครับ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเสียทองมาก
ไม่ได้ยังไงก็ยังมีขั้นตอนที่สามารถดำเนินการได้อยู่
โชคดีครับ