เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

              เรียนถาม ท่านผู้รู้ครับ... คือผมจะได้รับโอน. ปืนแก๊ป จากท่านพ่อตา มา  ๑ กระบอก   แต่ผมไม่ทราบวิธีการใช้ครับ..ตั้งแต่ การเตรียมส่วนผสมดินปืน มีอะไรบ้าง การใส่ส่วนผสม ต้องใส่อะไรบ้าง  เทคนิค  ขั้นตอน วิธีการที่เราจะยิง ต้องใส่อะไรลงไปก่อน หลัง บ้างครับ เพื่อความปลอดภัย เป็นอันดับแรก เพราะผมเอง ก็เคยยิง แต่ให้คนอื่นใส่ให้ ไม่กล้าใส่เอง กลัวครับ ยอมรับว่า ไม่เคย ..อยากทราบวิธีที่ถูกต้อง ครับ  ช่วยแนะนำด้วยครับ  ขอบคุณครับ ;D

ขออนุญาตครับ .. ในฐานะว่าผมคงเป็นรุ่นพี่ เพราะเริ่มเล่นปืนแก๊ปมาเมื่อประมาณ 23 ปี  ;D
เรื่องดินปืน  .. แนะนำว่าคงต้องหาซื้อตามมือปืนบ้านนอก  .. ไม่แนะนำให้ตำดินดำเอง ..
แต่คงแนะนำส่วนผสม ..  1. ดินประสิว  2. กำมะถัน  3. ถ่านไม้  ส่วนจะมากน้อยเท่าใดแล้วแต่สูตรมือปืน
การบรรจุ  เริ่มจาก 1. ตวงดินปืนเทลงปากกระบอก 
                          2. ใช้ก้านเหล็กใต้ลำกล้องกระทุ้งให้ดินปืนแน่น
                          3. ใส่ฝอยเปลือกมะพร้าวหรือวัสดุใกล้เคียงกันตามแล้วกระทุ้ง (เปรียบเหมือนหมอนรองกระสุนลูกซอง)
                          4. ใส่เม็ดตะกั่ว (อันนี้ไม่ต้องกระทุ้ง)
                          5. ใส่ฝอยแล้วใช้ก้านเหล็กกดให้พออยู่ (ตัวปิดหน้าอุดกระสุนลูกซอง)
                          6. ใส่แก๊ป .. เตรียมยิง ง ง ง ง ง .... ;D  ;D

 ;D ;D ;Dคิดว่าต้องมีชนวนจากแก้ปไปสู่ดินดำในรังเพลิงด้วยนะครับ  8)

ไม่ต้องมีชนวนครับ ตรงจุดที่วางแก๊ปจะเจาะรูเล็กๆไว้ซึ่งตรงกับโคนลำกล้องบริเวณที่ไส่ดินปืนพอดีครับ  ขออนุญาติแย้งท่าน Mr.Piack นิดหนึ่งครับ ขั้นตอนที่ 2 อย่าทำครับอันตราย ข้ามไปขั้นที่ 3 เลยครับ

ตามที่คุณปัญญาว่าเลยครับ......แต่ขออนุญาตถามต่อนิดนะครับ

กระสุนปืนแก็ปกับ.22LR...อย่างไหนต้นทุนต่ำกว่ากันครับ

ขออนุญาต ครับท่าน ขออภัยจริง ๆ ที่ต้องค้านขั้นตอนที่ ๒ คือต้องข้ามไปขั้นตอนที่ ๓ เลย เพราะใช้เหล็กกระทุ้งดินปืนนั้น อันตรายมากครับท่าน  แล้วปืนของเจ้าของกระทู้ ไม่ทราบว่า หัวของเหล็กก้านกระทุ้ง หุ้มวัสดุกันไว้หรือไม่ เพราะถ้าไม่มีวัสดุหุ้ม แล้วเอาเหล็กไปกระทุ้งดินปืนซึ่งภายในลำกล้องก็เป็นเหล็ก โอกาสเกิดประกายไฟสูงมากครับ แล้วตอนกระทุ้ง อะไรอยู่ที่ปลายกระบอกบ้าง อูย...ไม่อยากคิดเลย

ด้วยความเคารพครับท่าน  ผมเองยังไม่รู้สูตรดินปืนเลย วันนี้ได้ความรู้แล้ว แต่ก็ไม่กล้าทำเองอยู่ดี

ปืนยังไม่ได้ไปเอาเลยครับ...พ่อตาโทรมาบอกเมื่อวานว่าถ้าว่างวันไหนก็ไปเอาได้ ครับ...

ผมสงสัยเรื่องรูที่ต่อมาจากจุดแก๊ป ครับ  ว่ารูนั้น เราต้องใส่ดินปืนลงไปด้วยหรือเปล่าครับ เพราะเป็นรูเล็ก ๆ เวลายิงแล้ว แก๊ประเบิดเสร็จ มันจะสามารถเข้าไปจุดดินปืนในรังเพลิงให้ระเบิดได้หรือเปล่าครับ... ขอบคุณทุก ๆ ความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ครับ.. ;D

ปืนแก็ปถูกกว่าครับ เป็นลูกกลมๆ เล็กๆ เหมือนในลูกปืนลูกซองครับ เล็กใหญ่มีหมด ขายเป็นขีดหรือกิโลครับ ไม่กี่บาท
กิโลหนึ่งยิงจนปืนพังไปเลยครับ

               
 รูจะอยู่ที่โคนลำกลองตรงที่ใส่ดินปืนเขาไปในขั้นตอนที่ 1  ถ้าดินปืนไม่ออกมาก็เอาเส้นลวดแหย่เข้าใป

ก่อนจะเอาไปยิงต้องตรวจดูสภาพของปืนให้ดีๆ นะครับ( ระวังแตกใส่ตา ;D ;D) แล้วก็อย่าลืมใส่แว่นตากันสะเก็ตด้วย ทั้งนี้ ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน.........เอง :VOV: :VOV:
หลังจากใส่ดินปืนลงไปแล้ว ก็ใส่ส่วนที่เป็นใยมะพร้าวตามลงไป โดยเอียงลำกล้องให้ด้านที่เป็นรูแก๊ปเอียงลง แล้วกระทุ้งใยมะพร้าวให้แน่น โดยยังเอียงลำกล้องปืน ดินปืนก็จะเข้าไปในรูแก๊ปเองครับ ;D ;D

ปล. ควรจะศึกษาความปลอดภัยและวิธีการใช้ให้ดีๆนะครับ  ;D ;D

ฝากเป็นพิเศษ ให้ดูว่ามีการล้อคเชื่อมท้ายรังเพลิงแบบไหน แข็งแรงดีหรือเปล่าครับ เวลายิงหากแก๊ปลั่น แต่กระสุนในลำกล้องยังไม่ลั่น อย่าเพิ่งลดปืนลง ให้หันไปในทิศทางที่ปลอดภัย รอประมาณ 30 วินาที-1นาทีก่อนครับ อาจจะมีการลั่นเกิดขึ้นได้โดยที่เราคิดว่ากระสุนนัดนั้นด้านครับ

ไม่ต้องใส่ดินปืนลงไปครับ........ตอนกรอกดินทางปากกระบอกดินจะไหลเข้ามาในรูได้เอง ถ้ารูไม่ตัน...
..ถ้าตันก็ใช้ลวดแยงออก....การกรอกดินปืนต้องทราบปริมาณดินด้วย ถามจากคนที่ชำนาญ หรือเจ้าของเดิม ปกติจะมีปลอกตวง...น้อยไปแรงไม่พอ...มากไปปืนแตก อันตรายอย่างยิ่ง....อย่าได้อุตริเอาดินปืนสมัยใหม่ เช่นดินส่งกระสุน เอ็ม16, AK ฯลฯ ไปใช้แทนดินดำ เป็นเด็ดขาด...อันตรายถึงชีวิต....มีเรื่องเล่า ของพรานทางภาคใต้...แคะดินส่งกระสุน เอ็ม16 มากรอกปืนแก๊ป...กะล้มหมูป่า...ตูม!!!! ปืนฉีกกระจาย ไม้เสียบหน้าอก....กระเสือกกระสนลงเขามาตายที่บ้าน  :OO...
.....อัตราส่วนผสมดินดำ เป็นสูตรเฉพาะของแต่ละท่าน...ส่วนผสมหลัก ได้แก่ ถ่านไม้เนื้ออ่อน กำมะถัน ดินประสิว....
....อัตราส่วนน้อยสุด เป็นถ่านไม้ จำได้คร่าวๆในหนังสือ อวป.บอกสูตรดินดำฝรั่งใส่ถ่านแค่ 17 เปอร์เซนต์(ไม่มั่นใจตัวเลข ถ้ามีหนังสือลองเปิดดูบทความ)..ใส่มากควันเยอะ เขม่าบาน...สูตรชาวบ้านผสมแล้ว ลองจุดดู พรึบ...หายเกลี้ยง  สูตรนี้ใช้ได้...หลังจากนั้นก็เอาผงดินดำผสมเสร็จพรมน้ำปั้นเป็นก้อน..ขูดบนตระแกรงลวดตาถี่ หล่นเป็นเม็ดๆ....นำไปตากแห้ง ใช้งานได้....
...ตอนเด็กเคยทำเอง ตำแยกแล้วเอามาผสม...เป็นผงๆ พอใช้งานได้ แต่ชื้นง่าย ด้าน ต้องถอดลำกล้องมาตอกไม้คร่อมไว้ แล้วจุดไฟเผา ตูม...กระจาย นึกแล้วยังเสียวไม่หาย  ;D

เรื่องปิดท้ายรังเพลิงต้องระวังเป็นพิเศษครับ พี่ชายผมเคยยิงแล้วท้ายรังเพลิงรั่วพ่นกลับมาด้านหลังกระหม่อมปืนแตก ดินปืนพ่นใส่หน้าฝาก มีรอยไหม้นิดหน่อยครับ อีกปัญหาคือดินปืนจะชื้นง่ายครับโดยเฉพาะหน้าฝน เวลายิงจะดัง แป๊ะ.....ฟู่..........ตูม  ผมใช้มาอย่างโชกโชนครับ สมัยก่อนทำกันเองในหมู่บ้าน เป็นเครื่องมือเลี้ยงชีพ ตำรวจไม่จับครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว

จากที่เคยเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ตามนี้เลยครับ (ไม่เว้นข้อสองด้วย ) บรรจุเสร็จก็เปิดดูที่นมหนูว่ามีดินปืนเข้าไปรึเปล่า
จะให้ดีก็แหย่รูนมหนูแล้วก็เอาดินปืนที่ละเอียดๆยัดเข้าไปให้เต็ม หากยังไม่ยิงก็อย่าใส่แก็ป เอาแก็ปห่อฟอยด์ไว้จะยิง
ค่อยนำมาใส่ เรื่องความแข็งแรงของปืนก็ต้องหมั่นตรวจดูครับ  ;D ;D ;D

ถ้าได้ปืนมาจะถ่ายรูปมาให้ดูครับ...นึกแล้วก็เสียว ๆ ครับ...ไม่กล้ายิง....เองเหมือนกัน...ขอบคุณครับ

     ยังไม่เห็นนักกีฬาปืนแก๊ปรณยุทธ์ เข้ามาเลย ..... อิอิอิ

มีประสบการณ์ของ น้าชาย ในสมัยผมยังเด็กๆ ไม่ได้เห็นกับตา แต่ก็ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
  น้าชายเอาปืนแก็ปของคนข้างบ้านมายิงเล่น เล็งยิง หรี่ตาซ้าย เล็งตาขวา
แป๊ะ ตู้ม ฝาปิดท้ายลำกล้องหลุด กระเด็นถอยหลังเต็มเบ้าตา
   ผล ตาบอดมาจนทุกวันนี้ครับ

อืม..นั่นสิครับ.......ผมจะรอครับ... ;D

เป็นผมนะครับ คงเก็บไว้เป็นคุณค่าทางจิตใจมากกว่า

         ปืนแก๊บรณยุทธ์นี่สงสัยต้องติดดาบปลายปืนเวลายิงพลาดก็ใช้เสียบสินะครับ ;D ตามแบบหนังในสมัยโบราณที่ยิงเดินแถวเข้ามายิงพอได้ระยะเปลี่ยนเป็นดาบปลายปืนเสียบกัน
         เรื่องปืนแก๊บนี่ยิงสนุกนะครับ เพราะว่าเวลายิงต้องลุ้นว่าจะปืนด้าน หรือพลาดเป้า หรือโดนแล้วไม่เข้า เพราะอัดดินน้อยไป หรืออัดไม่แน่นพอ อ้อแล้วปืนแก๊บนี่อย่าใช้น้ำมันล้างนะครับ เพราะจะทำให้น้ำมันค้างในปืนเวลาใส่ดินปืนจะทำให้ด้าน บรรจุทิ้งไว้ก็มีสิทธิ์ชื้นด้านอีก :~) ปกตินี่เห็นใช้วิธยิงนัดที่บรรจุทิ้งแล้วเอาน้ำร้อนกรอกช่องนมหนู แคะให้โล่งๆด้วยเข็ม ฟังแล้วเหนื่อยเนอะ ;D
         

นั่นก็เป็น...ทางหนึ่งที่ผมตั้งไว้ครับอาจารย์  แต่อันดับแรก ขอยิงซัก โป้ง ก่อนค่อยเก็บครับ....ถ้าสภาพปืนไม่เอื้อ ก็คงต้องเก็บไว้ดีกว่า...ครับ ;D

หายากนะครับ ปืนแก็ปมีทะเบียน  ยิงสนุกครับ หากตำดินปืนเอง ดินประสิวหนึ่งกิโลใช้ยิงได้เป็นปี  ตะกั่ว ก็หาทุบเอาใน แบตเตอรี่ รถยนต์เก่า ๆ  ;D  สูตรตำดินปืน ลืมไปแล้วครับ  ตำไป ลองจุดไป... สนุก ;D

  หมายถึงท่านนี้ ครับ ...... อิอิอิ ..... อิอิ

(http://img72.imageshack.us/img72/9353/igdm5wresizeresizeeh5.jpg)

จากประสบการณ์ที่ผมเคยเห็นพ่อของผมยิง... สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก... บอกได้เลยว่ายิงสนุกครับ... จะอัดให้แรง... หรือให้เบา... ตามแต่เป้าหมายที่เราตั้งใจจะยิง... ยิงหนูนาก็อัดเบาๆ ใส่ลูกปรายเม็กเล็กๆ ประทับปืนท่ามาตรฐานได้... ถ้าจะยิงนกเป็ด... ขณะกำลังบินเกาะหมู่บนท้องฟ้า... ก็ต้องอัดดินปินซักกำมือ... ลูกปรายขนาดน้องๆ ลูก SG แล้วก็ตอนยิงจะประทับท่ายิงมาตรฐานไม่ได้ครับ... อันตราย... ต้องใช้มือขวาจับคอปืน... แล้วเหยียดตรงออกไป...เหมือนกับเรายองปืนสั้น... แล้วใช้มือซ้ายยันพานท้ายไว้... ยิงตูมมมม... เสียงลูกปรายแหวกอากาศ... เสียงดังฟังชัด... บางทีนกปืนถึงกับ... ง้างเองเลยครับ...
*****
ส่วนขั้นตอนการประจุ... ตามประสบการณ์ของผมเป็นดังนี้ครับ...
1. ใส่ดินปืนลงไปตามอัตราที่ต้องการ... แถวบ้านผมเขาใช้ปลอกกระสุนตวงครับ
2. ใส่ใยมะพร้าว... แทนหมอนรองกระสุน
3. เอาก้านแส้ กระทุ้งให้แน่น... ที่เจอ... ไม่เคยระเบิด... อาจจะเป็นเพราะตอนที่หมอนเคลื่อนที่ลงป... มันจะกวาดดินปืนส่วนใหญ่ให้ลงไปด้วย
4. ใส่ลูกปราย
5. เอาหมอนอีกอันใส่ลงไป... แต่ไม่ต้องแน่นมาก... แค่พอกันไม่ให้ลูกปรายหล่นก็พอ... อันนี้ตอนที่พ่อผมอัดยิงนกเป็ดน้ำ... ท่านไม่ใส่ครับ... เพราะยิงขึ้นฟ้าในแนวดิ่งอยู่แล้ว... อย่างดีก็เอาจุกไว้ที่ปากกระบอกพอหลวมๆ
6. ง้างนกเล็กน้อย... ค้างไว้... แล้วเอาแก๊ปใส่ที่ช่องนมหนู... ให้นกปืนดันเขาไปเล็กน้อย... แต่ยิงไม่ต้องปล่อยนะครับ... ให้เอาแผ่นรอง... สำหรับรองแก๊ปใส่ไว้ก่อน... ปกติจะห้อยไว้ใกล้ๆ นกปืน
7. ตอนยิง... เล็งปืนใส่แนวเป้าหมาย... แล้วง้างนก... แผ่นรองจะหลุดไปเอง...จากนั้นก็ยิง....

****

ที่สงสัยว่าประกายไฟจากแก๊ปจะวิ่งไปถึงดินหรือไม่... ผมว่าถึงครับ... เพราะบ่อยครั้งที่ปืนแก๊ปกระบอกของคุณพ่อนั้น... ผมยิงโดยไม่ประจุดินปืน... บางทีมืดๆ ยังพอมองเห็นเปลวไฟแลบออกไปทางปากกระบอกครับ... ถ้ายังไม่ชำนาญ... ก็ลองแบบนี้ก่อนก็ได้... แล้วค่อยใส่ดินปืนเพิ่มทีละน้อยๆ พอชำนาญแล้วค่อยใส่ลูกปราย...

    ขนดินมาซัก 1 กิโล เดี๋ยวสอนยิงให้ ;D  ถ้าไม่มั่นใจ ผูกติดต้นไม้ เอาเชือกดึงเหนี่ยวไก ;D
   

ผมนิยมการผลิตดินปืนเองเหมือนกัน ....ดินปืน กลิ่นจะหอม ไม่เหม็นเหมือนดินฝรั่ง แต่ควัน มันเยอะไปหน่อยแค่นั้นเองยิงที ...อัดใหม่ที่ คลาสสิกดีเป็นบ้าเลย ...........
...........แต่..ทางที่ดี ควรหาพี่เลี้ยงที่เป็นตัวเป็นตน ....เป็นคนจริงๆ พูดกันได้รู้เรื่อง ประกบตัวต่อตัว สอนกันดีกว่าครับ ....เพราะท่านสามารถเพิ่มความแรงในปืนของท่านได้อย่างอิสระเสรี ........จะเอาแรงแค่ไหนก็ได้
แต่ความอิสระเสรี ที่มันมากเกินไป อาจนำพามาสู่ความวินาศได้ ...คือ  อัดแน่น ใส่ดินเยอะ ไม่บันยะ บันยัง ...ปืนก็แหกใส่หน้าคนยิง เท่านั้นเอง ควรเริ่มศึกษา ว่า ดินปืนเท่าเดิม แต่ถ้าอัดแน่น จะได้แรงดันสูงขึ้นกว่าเดิม ...
.........หาพี่เลี้ยงดีกว่าครับ ถ้าไม่ชัวร์ กลัวหน้าแหกเสียก่อนครับ

.........พวกชาวเขา ชาวป่า แถบจังหวัดทางภาคเหนือ ยังมีใช้กันอยู่ครับ ลองไปหาพวกเขาดูก็ได้
แถวทองผาภูมิ ก็ยังมีให้เห็นได้บ้าง

ขอบคุณทุกท่านมากครับ...เห็นทีผมคงต้องพึ่งพี่เลี้ยง ตามท้องถิ่นด้วยอีกแรงหนึ่งดีกว่าครับ...เสียว... ;D

คุณ สิงห์ นึกว่าใคร คุณเหน่งนี่เอง  .... สงกรานต์ หากมีโอกาสไปเยี่ยม ... จะขอลองสักโป้ง .... ปืนแก็บ ผมไม่ได้ยิงนานแล้ว คิดถึง ;D 

             ของผมพาดอยู่คอกวัวหนึ่งกระบอก ปู่เอาไปขึ้นทะเบียนตั้งแต่ สมัยอาจารย์คึกฤทธิ์  ผมกระทุ้งมาตั้งแต่เด็ก เพราะถ้าไม่กระทุ้ง มันไม่แรง ฟุป หล่นแหมะอยู่ตรงนั้น  ตรงนี้เป็นศิลปครับ น้ำหนักต้องได้ จำนวนครั้งต้องแม่น แล้วไม่ต้องใส่ดินปืนล่อนะครับ เอาแก๊ปวาง เอาหนังรอง ลดนก ดูแล้วเสียวดี ดินปืนลูกน้องตำเอง เอาเขาควายมาทำที่ใส่ดินปืน แบบในหนัง แต่ผมเห็นลูกน้องผมมันทำมันจะทำเป็นห่อๆ เตรียมใว้  ;D

ครับผม...ยิงปืนแก๊ปแล้ว ยิงลูกซอง ปะทะกัน...อีกที....น่าสนุก..... ;D

1.ดินปืนสำหรับบั้งไฟ=ดินประสิวบด+ถ่านบด (ชาวอีสานเรียกขี้เกีย)

2.ดินปืนสำหรับปืนแก๊ป=ดินประสิวบด+ถ่านบด+กำมะถัน(ชาวอีสานเรียกหมื่อ)

ดินปืน มี 2 แบบครับ

1.ดินปืนดิบ (จะใช้สำหรับทำบั้งไฟ) จะนำดินประสิวบด ผสมกับถ่านบดตามอัตราส่วนที่ต้องการ(มีหลายแบบ ว่าต้องการรุนแรงแค่ไหน) ดินปืนดิบนี้จะไหม้ช้าครับ จะทำบั้งไฟเป็นหลัก ใช้กับปืนแก๊ปไม่ได้

2.ดินปืนสุก (จะใช้สำหรับปืนแก๊ป) จะนำดินประสิวกับถ่านไม้ใส่น้ำพอประมาณแล้วนำไปต้ม จนน้ำแห้งหมาดๆ แล้วนำไปตำหรือบดให้ละเอียด หลังจากนั้นนำไปร่อนที่ตะแกรงถี่ๆจนได้ตามต้องการ แล้วนำกำมะถันบด(ชาวอีสานเรียกมาด)มาผสมตามสูตร แล้วไปตากให้แห้ง ....ดินปืนสุกจะไหม่เร็วมาก แรง จุดแล้วพรึบ.... :OO จึงใช้กับปืนแก๊ปครับ ....ใช้กับบั้งไฟ แตกสถานเดียว

ประสบการณ์ตอนเด็กครับ เคยทำดินปืนกับพ่อ(แต่ตอนนี้พ่อแขวนปืนแก๊ปแล้วครับ ;D)

ขอบคุณหลาย ๆ ครับ... ;)

เดี๋ยวจะเอารูปมาลงให้ดูครับ ของผมแก็ปแฝดครับ ยิงดีมากครับ หากยิงทั้งสองลำกล้องพร้อมกันรับรองลูกซองอายครับ

ของผมตำดินเอง สูตร ดินปะสิว 1 ส่วน ถ่าน 3 ส่วน , การใส่ดินก็แล้วแต่ความแรงของดินอย่างมากก็ 2 ฝาลิโพ ก็แรงมากแล้ว ยิงดังมาก ถ้าใส่ดินมากตัวปืนก็ทนไม่ไหวหรอกครับ แม้แต่ปืนนอกบางรุ่นยังใส่ลูกแรงสูงไม่ได้เลย เรื่องลำกล้องก็หาซื้อแถวตลาดมีขายครับ(เป็นสำหรับทำลำกล้องปืนแก็ปโดยเฉพาะ)ผมเคยเอาฆ้อนป้อนทุบลำกล้องที่ซื้อมา ออกแรงฟาดเต็มที่ ลำกล้องเพียงแต่ยุบไม่แตกร้าว เพราะว่ามัมเป็นเหล็กเหนียว ตั้งแต่เล่นมายังไม่เห็นปืนแตก ได้ยินแต่ท้าย หลุด แต่สอบถามแล้วพบว่าเค้าใช้ตะกั่วอุดท้ายลำกล้องเท่านั้น มันคงทนแรงดันไม่ไหว เลยหลุด

ฟังแล้วน่าสนุกดีครับ ผม ยังไม่เคยยิง ไม่เคยเห็นเลย   เคยแต่ว่าอยากตำดินดำ เอามาทำประทัดเล่น แบบว่าให้เสียงดังๆ มากกว่าประทัดตามท้องตลาด อิอิ แบบว่าสนุกดี  เห็นพวกพี่ๆเล่าประสบการณ์ตอนเด็กๆ   คงแบบว่า เล่าไปยิ้มไป สิเนี่ย  อิอิ

ขอเสริมอีกนิดครับ อุปกรณ์ในการตวงดินปืนก่อนที่จะกรอกเข้าไปในลำกล้องชาวบ้านเรียกว่าสัดปืน หรือสัดส่วนนั่นแหล่ะครับ ปกติจะเสียบปิดไว้กับขวดใส่ดินปืน เมื่อต้องการจะบรรจุ ก็เปิดเทออกมาดินปืนก็จะอยู่ในนั้นแล้วค่อยนำใส่ในลำกล้องปลายของสัดปืนจะเล็กกว่ารูของลำกล้องเวลาเทใส่จะไม่หก ถ้าเตรียมไปยิงหมูป่าเขาจะใส่ปริมาณดินปืนประมาณ หนึ่งสัดกับอีกครึ่งสัดครับ ยิงไก่ก็สัดเดียว นก กระรอก หรือปลาช่อน ก็ครึ่งสัดก็พอครับ ส่วนลูกปรายหาซี้อได้ตามร้านที่บ้านนอกนั่นแหล่ะครับ ควรเลือกเอามาสักสามขนาดครับ แล้วบรรจุดูปริมาณของลูกว่าไม่มากจนเกินไปแล้วทดลองยิงใบกล้วย ที่ระยะต่างๆว่าปืนที่เรายิงนั้นกลุ่มลูกปลายขนาดไหนดีที่สุดต่อไปก็เลือกซื้อลูกปรายขนาดนั้นไว้ใช้ ส่วนลูกโดดก็ไปหาซื้อตะกั่วแท่งมาตัดแล้วคลึงให้กลมขนาดให้ฟิตกับรูของลำกล้อง ไว้สำหรับยิงหมูครับท่าน

ท่านใดมีรูปปืนแก๊ปสวย ๆ มาอวดบ้างครับ อยากเห็น

ถ้าเป็นปืนคาบศิลา  ยังมี "ดินหู" เพิ่มไปอีกครับ

........... ;D..ดูๆไปชาวเวบเราก็มี หลายคนเป็นเซียนปืนแก็ปมือเก๋าๆทั้งนั้น    ส่วนผมพวกปืนแก็ป มือสมัครเล่น  ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ..   ดินดำสูตรที่ผม เล่นประจำ 75:15:10  ...เคยลองจับเวลา อัดกระสุน 1 นัดใช้เวลาราวๆ 10วิ พร้อมยิงครับ... ;D ;D


    (http://m1.freeshare.us/131fs297141.bmp)

พี่นินจา ครับ สูตรส่วนผสมดินปืน ที่ว่า เป็นอัตราส่วนของอะไรบ้างครับ..

ท่ายิงสวยครับ   ขอบคุณครับ ;D

(http://i18.tinypic.com/2z6fdxy.jpg)

มีอยู่บอกนึง แต่ไม่ค่อยสวยครับ :<><> มันเก่าเก็บ

.......... ;D..ดินดำส่วนของผม 75:15:10 ก็คือ  ดินประสิว +ถ่าน+กำมะถัน ตามลำดับ ครับ....ขอบคุณครับสำหรับคำชม... ;)

ขอบคุณครับ..ว่าง ๆ จะลองทำดูครับ... ;D

............. ;D..ได้ผลยังไง แจ้งกันให้ทราบบ้างนะครับ... ;D 

สวสดีครับ อยากจะตอบ ก็ไม่รู้ว่าจะถูกว่าจะถูกใจไหม ลองทำดูนะครับ แต่ก็ควรระมัดระวัง ความปลอดภัยดีที่สุด
   
 ส่วนผสม ของดินปืน  (ปืนแก็ปนะครับ)  มี 3-4 อย่างครับ คือ ขี้เกีย ถ่าน และ กำมะถัน ส่วนอย่างสุดท้ายก็คือความมานะอดทนครับ
         1.สูตรโบราณนกาล ตั้งแต่ปืนคาบศิลา มาเป็นปืนแก็ป ก็คือ สูตร สิบสลึง
            ยกตัวอย่าง
             วิธีทำ    1.นำวัตุดิบทั้ง 3 มาตวงเสียก่อน  อัตราส่วน    ขี้เกีย: ถ่าน: กำมะถัน , 2:5:1    (ขี้เกียชั่ง นน. 200 กรัม นำมาตวงให้เป็น 2 ถังแล้วนำถังอันเดียวกันมาตวงถ่าน 5 ถัง และตวงกำมะถัน 1 ช้อนชา    พอเข้าใจไหมครับ)
                         2.คั่ว ขี้เกียกับถ่าน  ตั้งเตาก่อไฟ แล้วตั้งกะทะ (ต้องเป็นกะทะเท่านั้นถึงจะดี) เทน้ำลงประมาณ 0.25 ลิตร รอจนเดือด แล้วเท ขี้เกียลงทั้งหมด  รอจนน้ำเหนียวหนืด(ใช้ช้อนตักดูไม่ควรตักบ่อย ) แล้วเทถ่านที่ตวงไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ลดไฟลงอ่อน คนจนกว่าถ่านกับขี้เกียเข้ากันเป็นสีข้าวสาร  (ตอนนี้ระมัดระวังไฟ ระวังอันตราย เพื่อความปลอดภัยให้ยกกะทะลง ถอยให้ไกลเตาไฟ แล้วคนกะทะที่ยังร้อนจนกว่าจะเย็น แล้วผึ่งแดดสักพัก )
                         3.ขั้นตอนการตำ  เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่เท่าที่ผมทำมา นำครกและสาก มาขนาดพอเหมาะกับขี้เกียกับถ่านที่คั่วมา (ต้องเป็นครกไม้เท่านั้นเพราะมันไม่เกิดประกายไฟและทนต่อการตำและต้องอยู่ห่างจากประการไฟ )และก็ลงมือตำได้เลย หลังจากตำได้สักพักพอประมาณ ให้เติม กำมะถันลงไป 1ช้อนชา แล้วก็ตำ  แล้วก็ตำ แล้วก้ตำ จนละเอียด (ถ้ารู้สึกว่า เป็นผงหรือเป็นฝุ่นให้เติมนำปูนลงไปประมาณ 1-2 ช้อนชาเพื่อไม่ให้ดินปืนแห้งเกินไป   ตำไปเรื่อย ๆๆ จนรู้สึกว่าละเอียด อย่างน้อย 3ชั่วโมง หรือ ตำ2500-3000 ครั้ง แล้วทดลอง หยิบ มานิดนึง ใสกระดาษสีขาว ไปตากแดดจนแห้ง แล้วจุดโดยใช้ถ่านไฟแดง ถ้า พรึบ แล้วยังมีเศษเม็ดสีขาวอยู่ก็แสดงว่า ตำยังไม่ละเอี่ยด   หลังจากที่คุณคิดว่าละเอียด แล้วสุดฝีมือแล้ว เทออกจากครก นำไปเทลงตะแกงบดให้ได้ขนาดที่ต้องการ เล็กเกินไปก็ไม่ดี ใหญ่เกินไปก็ไม่ดี ครับ ถ้าเล็ก ดินปืนก็ไม่แรง ใหญ่ก็เป็นก้อนระเบิดไม่หมด บด เสร็จจึงนำไปตาก จนแห้ง บรรจุภาชนะที่ปิดฝาแน่น กันความชื้น
                         เคล็ดลับที่สำคัญ อยู่ที่ ถ่าน(ส่วนใหญ่ใช้ไม้มะพริกและไม้ปอหู และต้องเป็นไม้ตากแตกฝนอย่างน้อย 1ปี จึงจะดี เวลาเผาให้เป็นถ่านและการเผาไหม้เวลาจุดระเบิดจะไม่มีขี้แล้วยังเผาได้หมดจด จะได้ไม่ต้องล้างปืนบ่อย ๆ นี้แหละ เหตุผล ) และ การตำทั้งหมดให้ละเอียด
มากที่สุด
                         และทั้งหมดที่กล่าวมา ผมได้ทดลองมาแล้วจึงบอกต่อ ว่ามันไม่ได้ทำกันง่าย ๆ ต้องอาศัยความอดทน ส่วนใหญ่ เห็นมีแต่คนแก่ ที่ยังทำ และก็มีคุณภาพ  ถ้าเป็นวัยรุ่น ตำได้สักพักก็ขี้เกียจ เอาไปใช้เลย ผลสุดท้ายก็ไม่ได้มีผลเสียตาม ยิงไม่ค่อยโดนเป้า ยิงได้ไม่นานก็อุดตันล้างปืนบ่อย  ดินปืนกัดลำกล้อง
                          สรุป ซื้อเอาดีกว่า ครับ ไม่ต้องยุ่งยากครับ แต่ต้องทดลองจุดใส่ฝามือ ถ้ามือไม่เป็นไร เป็นอันใช้ได้(อันนี้ไม่แนะนำนะครับ อันตราย)
                            สงสัยอาไรถามได้นะครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ