เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผมว่า น่าจะมีหลายคนที่คิดว่าปืนขนาด 9 เอาผู้ปองร้ายไม่อยู่เหมือนผม  ผมเองก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับปืนขนาดนี้ เพราะคืนเกิดเหตุผมยิงระยะประชิดมาก(น้อยกว่า 1 เมตร)ตั้ง 3 นัดเข้ากลางอก ก่อนตายเขายังฟันแขนผมได้เลย(ฟันผมได้หลายครั้งแต่ถูกผม 2 ครั้ง) ตอนนี้ยังเป็นคดีความอยู่(เสร็จคดีเมื่อไหร่ถ้าไม่ติดคุกผมจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียด) กระสุนที่ใช้เป็นหัวตะกั่ว มนๆ พิษสงมันก็เลยไม่มากอำนาจหยุดเป้าหมายไม่มี ผมขอแนะนำว่า ถ้าจะใช้ลูกปืนติดแม่มัน ก็น่าจะเลือกประเภทหัวรูไว้ก่อน กันเหนียวเผื่อผู้ปองร้ายเมาหรือเสพยาเสพติด ผมว่าเขาอึดขึ้นกว่าเดิมแน่ นี่เป็นประสบการณ์โดยตรงครับ :)

 ??? Stoping Power (อำนาจหยุดยั้ง) ของกระสุน 9 มม. ไม่มากอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าน้อยจนหยุดไม่อยู่ การที่ผู้ถูกยิงจะหยุดการเคลื่อนไหวได้นั้นมีปัจจัยหลายอย่างครับ ทั้งประสิทธิภาพของกระสุน ตำแหน่งที่ถูกยิง และแม้กระทั่งสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ถูกยิงเอง ไม่ใช่ในหนังที่โดนกระสุนนัดเดียวเอะอะก็ล้มตึง (แต่ถ้าพระเอกโดนเป็นร้อยก็ยังไม่ล้ม) ที่หน้าอก แม้จะเป็นจุดรวมของอวัยวะสำคัญ ผู้ถูกยิงที่บริเวณหน้าอกจึงมีโอกาสเสียชีวิตสูง แต่นั่นคือ Killing Power (อำนาจสังหาร) ครับ คนละกรณีของอำนาจหยุดยั้ง ???
 ??? ว่าแต่ก็น่าคิดครับ เพราะโดนไปตั้ง 3 นัด ยังฮึดได้ขนาดนั้น ???

ยิงในบ้านหรือข้างนอกบ้านครับ

กลางอก อาจจะไม่โดนอวัยวะที่สำคัญ ถึงกลับทำให้หมดสภาพ
ไม่โดนกระดูก แกนกลาง  โดนปอด ก็ หายใจขัด แต่มีแรงอยู่ ถ้าโดนหัวใจ ก็ เอวัง
แต่ถ้าเลื่อน ตำแหน่งกระสุน มาบริเวณ ช่วงท้อง น่าจะให้ผลที่แตกต่างกัน
ตับ ไต ไส้  ม้าม กระเพาะปัสสาวะ   ( นึกถึง ก๋วยเตี๋ยว เนื้อ )
แรงฮึดคงจะลดลง
และ ที่สำคัญ  Stoping Power (อำนาจหยุดยั้ง) และ Killing Power (อำนาจสังหาร)
ก็ยัง น่าสนใจ และ ไขว่คว้า

ต่อคำถาม ที่ว่า หลังการยิง การฟัน นั้น เป็นการฟันที่ สะเปะสะปะ  หรือ เจาะจง
แล้วการฟันนั้น เป็นการฟันแบบมีแรง หรือ ไร้เรี่ยวแรง   ก่อนที่จะเสียชีวิต ครับ
เพราะ จิตใจ ที่มุ่งมั่น ต่อการทำร้าย จึงยังส่งผลให้มีการกระทำต่อเนื่อง
ไม่เสียอาการ

ขอบคุณครับ...

แน่นอนครับ  เมื่อถูกยิง  จะไม่หยุดหรือตายทันทีแน่นอน  ยิ่งคุณอยู่ระยะใกล้ไม่ถึงเมตรเท่ากับระยะแขนเอื้อมถึง  คนร้ายยังมีโอกาสทำอะไรต่อได้อีกชั่วอึดใจ  เพราะถ้าไม่ถูกหัวใจโดยตรง  กว่าที่กระสุนจะทำให้เลือดออกจากบาดแผล จนส่งผลให้เกิด shock หรือเลือดท่วมปอดหายใจไม่ได้ ก็ต้องใช้เวลาสักหน่อย อาจจะมากกว่าครึ่งนาทีถ้าไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่ที่ขั้วปอด  หรือไม่ตายด้วยซ้ำหากกระสุนไม่ได้ทำให้เกิดการเสียเลือดมากมายและถึงมือแพทย์ทัน
สรุปว่าขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่กระสุนทะลวงเข้าไปด้วย  ไม่จำเป็นว่ายิงเข้าหน้าอกแล้วจะต้องหยุดทันทีทุกราย
เคยเห็น real tv ของฝรั่งหลายกรณีที่ถูกยิงแล้วยังวิ่งหนีไปได้ ก็คิดว่าคงจะไม่ถูกจุดสำคัญเหมือนกัน
ผมเชื่ออย่างนั้นครับ

แน่นอนครับ หัวรู ควรติดไว้กับปืน

 ;D ;Dใช้แต่หัวรูครับ...อุ่นใจกว่าครับ.... ;D ;Dบวกพีด้วยยิ่งดี...เพราะเราอาจมีโอกาผสยิงได้แค่..นัดสองนัด ;D ;D

           เดี๋ยวหาว่าเกินกว่าเหตุ.... ;D ;D

ครับๆ ..เดี๋ยวกลับบ้านไปจะเอาหัวบอลออกและเปลี่ยนใส่หัวรูให้หมด ;D ;D ;D

ยินดีด้วยที่รอดมาได้ครับ และขอเอาใจช่วย ให้ศาลเห็นว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

เพื่อความมั่นใจต้องหัวรูครับ....

...กระสุนปืนพกสำหรับป้องกันตัว  ตั้งแต่ขนาด 9 มม. ลงมา ผมขอเลือกกระสุนหัวรูครับ  ถ้าขนาดโตกว่านี้หัวรูหรือไม่ก็ได้  (แต่ถ้ามีให้เลือกก็ขอแบบมีรูอีกนั่นแหละ)  ;D

...ที่สำคัญอีกอย่างคือใช้กระสุนใดติดปืน  ควรทดสอบให้มั่นใจการทำงานของปืน  และกลุ่มกระสุน  :)

หน้าอกสอง น่าจะหน้าผากสักหนึ่ง ไหนๆก็ใกล้ไม่เกินเมตร (ล้อเล่นครับ)

น่ากลัวมาก

ต่ำลงมาสัก 2คืบกำลังดี ..... อิอิ

ลูกตะกั่ว หัวมนๆ ที่ จขกท. พูดถึง ส่วนมากเป็นกระสุนซ้อม ให้ความมั่นใจได้ แค่ไหน ตอบไม่ได้ อยู่ที่การวางตำแหน่ง
สำหรับ ผม ไม่เคยเอาติดปืนเลย ยกเว้น ซ้อมยิงในสนาม
 ที่ใช้อยู่ คือไฮดราช็อค   แต่ส่วนมากไม่ได้พก ยกเว้นเดินทางไปต่างจังหวัดนำติดรถเป็นครั้งคราว

จขกท..เจอเรื่องน่ากลัวนะครับ..คดีเสร็จเมื่อไหร่.ช่วยเล่ารายระเอียด.ให้สมาชิก.ได้รับทราบด้วยนะครับ....

น่ากลัวมากครับ

นี่ถ้าโดน .45 คงไม่มีโอกาสเข้ามาฟันได้...ขอให้คดีความจบลงด้วยดีครับ.

ถือเป็นโชคดีครับที่รอดจากสถานการณ์คับขันได้ ขอเอาใจช่วยให้ได้รับความเมตตาจากศาล  แล้วมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันต่อไปครับ

ขออนุญาต  ถ้าเป็น .38 ล่ะ จะหยุดเป้าหมายได้ดีกว่าขนาด 9 หรือไม่ ในตำแหน่งที่กระสุนวางจุดเดียวกัน

ขอบคุณมากครับ ที่เอามาเล่าสู่กันฟัง... ขอให้พ้นคุกตะรางครับ...

ขอให้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า ถ้าไม่มีปืนอยู่ในมือคงจบสิ้นไปแล้วครับ...

ชีวิตที่เหลืออยู่คือกำไรชีวิตครับ...

ผมว่าเป็นปฎิกิริยาของร่างกายของแต่ละคนครับ จะเกิดอาการช๊อคหรือหยุดหลังถูกยิงไปแล้ว5-10วินาทีครับ ดังนั้นยิงเสร็จแล้ว ก็วิ่งหนีไปตั้งหลักห่างๆครับ ;D ;D ;D

อยากรู้ด้วยครับ

 เช่นเดียวกันครับ

 :)เอาใจช่วยด้วยคนครับ....คู่ต่อสู้มีมีดและอยู่ใกล้เรามาก คงต้องมีสติและใช้ทักษะการใช้ปืนด้วย หากชักแล้วขึ้นลำไม่ทันเราคงตายเพราะมีด :-\

เฮ้อ น่ากลัวครับ  เคยศึกษาเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของตำรวจสหรัฐ ผู้ร้ายมีมีดอยู่ห่างไป ๑๐ ก้าวหรือ ๑๐ เมตร ตำรวจมีปืนอยู่แต่อยู่ในซองพกนอก ทดลองให้ผู้ร้ายวิ่งเข้าหาเพื่อใช้มีแทงตำรวจ และให้ตำรวจต่อสู้ด้วยการชักปืนออกแล้วยิง ผลการทดสอบและฝึก แทบไม่น่าเชื่อว่าผู้ร้ายสามารถเข้าถึงตัวตำรวจได้ในเวลาอันรวดเร็วมาก (น่าจะประมาณ หก วินาทีถ้าจำไม่ผิด) ในการฝึกตำรวจหลายคนไม่สามารถชักปืนออกยิงได้ทัน และหากชักปืนทันโดยยิงนัดแรกแล้วผู้ร้ายก็มีโอกาสฟันหรือแทงได้ หากไม่สามารถหยุดยั้งคนร้ายได้ทันที ในการสอนนี้มุ่งหมายให้ตำรวจ (หรือทหารและข้าราชการฝ่ายปกครองที่ใช้อาวุธเพื่อรักษา กม. และความเรียบร้อย) ตระหนักถึง ระยะที่สมควรที่จะต้องตัดสินใจใช้อาวุธและเป็นการทดสอบเพื่อให้ศาลเห็นว่า การยิงเพื่อหยุดยั้งคนร้ายที่ระยะ ๑๐ เมตรไม่ได้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ  สำหรับชาวเราทั่วไปเมื่อมีปืนควรรักษาระยะห่างจากบุคคลต้องสงสัยไว้ครับ นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังป้องกันการแย่งปืนได้อีกด้วย

น่ากลัวจริงๆ ครับ เสร็จคดีเมื่อใดเล่าให้ฟังเป็นวิทยาทานด้วยนะครับ

งั้นขอถามผู้รู้เพิ่มอีกนิดครับ

เจ้าหัวรูนี่ เวลายิง มันต่างจากกระสุนธรรมดาหรือป่าวครับ
ต้องฝึกซ้อมยิงเป็นพิเศษหรือป่าวคับ กับเจ้าหัวรู เพราะไม่เคยยิงครับ

...เหมือนกันครับ ไม่ต้องฝึกซ้อมเป็นพิเศษ ที่สำคัญคือต้องแน่ใจว่ามันทำงานปกติ  ไม่ติดขัด  เพราะความที่หัวกระสุนมันไม่ค่อยจะเหมือน FMJ สักเท่าไร  ;) 

ขอให้ จขกท.รอดพ้นจากคดีนะครับ

ถ้าลูกซ้อมเหมือนกัน .38 น่าจะดีกว่านะครับ