หัวข้อ: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ เมษายน 15, 2005, 09:10:52 PM สมัยเรียนมัธยม คุณครูภาษาไทยเคยเล่าถึงโคลงบทหนึ่งที่บรรยายสรรพคุณของต้นโมก จำได้แค่วรรคแรก
"โรคมากรากโมกต้ม___กินหาย" ผม search อยู่นานถึงได้พบว่าเป็น "โคลงกลอักษร" รากโมกต้มกินหาย คนป่วยกลายกลับกล้า ชมนิดหมายเหมือนเช่นนี้นา พักรบห้าหกครั้งยังเคย มิน่า... ครูผมถึงไม่ยอมบอกวรรคถัดๆ มา หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ เมษายน 15, 2005, 09:32:19 PM สมัยเรียนมัธยม คุณครูภาษาไทยเคยเล่าถึงโคลงบทหนึ่งที่บรรยายสรรพคุณของต้นโมก จำได้แค่วรรคแรก "โรคมากรากโมกต้ม___กินหาย" ผม search อยู่นานถึงได้พบว่าเป็น "โคลงกลอักษร" รากโมกต้มกินหาย คนป่วยกลายกลับกล้า ชมนิดหมายเหมือนเช่นนี้นา พักรบห้าหกครั้งยังเคย มิน่า... ครูผมถึงไม่ยอมบอกวรรคถัดๆ มา โอ้โห... ถึงขนาด "ป่น" ยังกลับกลายกล้าแข็งเชียวครับ... นายสมชายนึกถึงมูลี่เน็กซ์เชียวครับ... ฮา หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ เมษายน 15, 2005, 09:37:58 PM ทีแรกอ่านที่อาจารย์โพสท์ ผมก็งงตั้งนาน :~) พออ่านที่พี่สมชายมาเน้นคำ ก็ถึงบางอ้อเลย :~) ฮือๆ แล้ววรรคถัดมาที่ครูไม่ยอมบอก มันเป็นยังไงน๊า :~)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: Tonyman ที่ เมษายน 15, 2005, 09:43:43 PM ง่า อืมม :~)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ เมษายน 15, 2005, 09:44:55 PM โคลงกลอักษรครับ ;D
ผวนสองคำแรกของแต่ละวรรค เป็นโคลงสี่(ไม่ค่อย)สุภาพ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ เมษายน 15, 2005, 09:46:50 PM โคลงกลอักษรครับ ;D :~) :~) :~) สองคำแรกนี่เป็นคำบ่งบอกเนื้อเรื่องเลยนี่ครับ :~)ผวนสองคำแรกของแต่ละวรรค เป็นโคลงสี่(ไม่ค่อย)สุภาพ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: mannurse ที่ เมษายน 15, 2005, 09:52:14 PM :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ ถึงบางอ้อครับอาจารย์ ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: Ninja 19 + รักในหลวง + ที่ เมษายน 15, 2005, 09:52:22 PM ................. :OO :OO :OO.... :~).. หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 15, 2005, 09:53:23 PM กว่าจะเข้าใจ ;D ;D ;D ;D ดีที่ยังเข้าใจ ;D ;D ;D ;D ตอนแรกงงงง จริงๆ
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ เมษายน 15, 2005, 09:56:16 PM :~) :~) อ่านตั้งหลายรอบ งง ถ้าท่าน ดร. ไม่ชี้แจงแถลงไข คงยังเป็นไก่ตาแตกเหมือนเดิม :D~ :D~
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: The Kingdom Of Gun ที่ เมษายน 15, 2005, 09:59:31 PM ผมเรียนภาษาไทยยังไม่เห็นครูสอนเรื่องนี้เลย :~)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ เมษายน 15, 2005, 10:06:13 PM มีเยอะครับ โดยเฉพาะสุนทรภู่
ลองอ่านตอนขุนแผนอยู่สองต่อสองกับนางสายทองครั้งแรกดูเถอะ ตอนเด็ก ๆ ผมก็ยังไม่เข้าใจ พอวัยรุ่นถึงได้รู้ว่า ขุนแผน "ล่มปากอ่าว" หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ เมษายน 15, 2005, 10:09:55 PM ;D ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: boon ที่ เมษายน 15, 2005, 10:30:25 PM ขอบคุณอาจารย์ครับ ได้มีความรู้ใหม่ๆเข้ามาในชีวิต
คนโบราณก็มีของดีๆซ่อนอยู่มาก อาจารย์ช่วยค้นหามาแบ่งให้เพื่อนชาวเว๊ปอีกนะครับ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ เมษายน 15, 2005, 10:32:59 PM ว่าด้วยบทอัศจรรย์ ต้องกระทู้นี้ครับ
คนโบราณท่านไว่ไว้เป็นโคลง http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1836417/W1836417.html หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: JarengkaBOW ที่ เมษายน 15, 2005, 11:02:12 PM :~) :~) :~)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ เมษายน 15, 2005, 11:03:54 PM ผู้การสุพินท์ พาดพิงถึงพลายแก้ว นางพิม และนางสายทอง...
(จำไม่ค่อยแม่นแล้วครับ... ตั้งแต่มัธยมต้น) ...................................... .................... พายุพัดซัดคลื่นสำเภาเอียง ค่อยแล่นเลี่ยงเลาะเลียบตลิ่งมา ลมหนักชักใบได้ครึ่งรอก แต่กลับกลอกกลิ้งขยักอยู่หนักหนา ทั้งน้ำพุพุ่งกระหน่ำลำนาวา เภตราหยุดแล่นเป็นคราวคราว สมพาสพิมดั่งริมแม่น้ำตื้น ไม่มีคลื่นแตกระลอกกระฉอกฉาว ปะสายทองดั่งต้องพายุว่าว เพียงปากอ่าวก็จมล่มลงไป หมายเหตุ : พลายแก้ว คือชื่อเดิมของขุนแผน, พิมพิลาไล คือชื่อเดิมของนางวันทอง ขุนแผนมีลูกชื่อ พลายงาม กับพลายชุมพล ครับ (คนละแม่กัน) หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ เมษายน 15, 2005, 11:08:21 PM สมัยเรียนมัธยม คุณครูภาษาไทยเคยเล่าถึงโคลงบทหนึ่งที่บรรยายสรรพคุณของต้นโมก จำได้แค่วรรคแรก "โรคมากรากโมกต้ม___กินหาย" ผม search อยู่นานถึงได้พบว่าเป็น "โคลงกลอักษร" รากโมกต้มกินหาย คนป่วยกลายกลับกล้า ชมนิดหมายเหมือนเช่นนี้นา พักรบห้าหกครั้งยังเคย มิน่า... ครูผมถึงไม่ยอมบอกวรรคถัดๆ มา ...ม.บานเย็น ใช่ไหมครับท่าน ดร.ผ. ;D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ เมษายน 15, 2005, 11:15:33 PM มิใช่ท่านมหาบานเย็นครับคุณแก้ว แต่เป็นอาจารย์ นนท์ ภราดา สอนภาษาไทย มศ.4-5 สมัยนั้นครับ อาจารย์นนท์ บอกว่าโคลง "โรคมาก รากโมก..." นี้ สุนทรภู่แต่งประชดใส่ชื่อคนอื่น เพราะในรัชสมัยที่รวบรวมตำรายาวัดโพธิ์นั้นท่านในฐานะที่เป็นอาลักษณ์เก่าไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเขียนด้วย
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ เมษายน 15, 2005, 11:18:21 PM มิใช่ท่านมหาบานเย็นครับคุณแก้ว แต่เป็นอาจารย์ นนท์ ภราดา สอนภาษาไทย มศ.4-5 สมัยนั้นครับ อาจารย์นนท์ บอกว่าโคลง "โรคมาก รากโมก..." นี้ สุนทรภู่แต่งประชดใส่ชื่อคนอื่น เพราะในรัชสมัยที่รวบรวมตำรายาวัดโพธิ์นั้นท่านในฐานะที่เป็นอาลักษณ์เก่าไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเขียนด้วย ...ผมมิได้ร่ำเรียนกับท่าน ด้วยว่าย้ายสำนักไปอยู่ข้างรั้วจามจุรีง่ะ ;D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ เมษายน 15, 2005, 11:37:30 PM อาจารย์นนท์ ต่อมาได้งานสอนภาษาไทยในมหาวิทยาลัยโตเกียวหลายปีครับ เคยท่องกลอนบทนี้ให้ฟังบ่อยๆ เกี่ยวกับจุฬาฯ
... จุฬาภรณ์สายนี้ที่ประดิษฐ์ ให้คนคิดถึงจุฬาน่าสงสาร ไม่มีสิทธิ์เข้าศึกษาวิชาการ แอบเดินผ่านตอนค่ำค่ำน้ำตาริน หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ เมษายน 16, 2005, 12:06:41 AM มิใช่ท่านมหาบานเย็นครับคุณแก้ว แต่เป็นอาจารย์ นนท์ ภราดา สอนภาษาไทย มศ.4-5 สมัยนั้นครับ อาจารย์นนท์ บอกว่าโคลง "โรคมาก รากโมก..." นี้ สุนทรภู่แต่งประชดใส่ชื่อคนอื่น เพราะในรัชสมัยที่รวบรวมตำรายาวัดโพธิ์นั้นท่านในฐานะที่เป็นอาลักษณ์เก่าไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเขียนด้วย ...ผมมิได้ร่ำเรียนกับท่าน ด้วยว่าย้ายสำนักไปอยู่ข้างรั้วจามจุรีง่ะ ;D นึกว่าพี่แก้วจบจากรั้วยูงทองครับ... เย้ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ เมษายน 16, 2005, 12:17:48 AM พายุพัดซัดคลื่นสำเภาเอียง ค่อยแล่นเลี่ยงเลาะเลียบตลิ่งมา ลมหนักชักใบได้ครึ่งรอก แต่กลับกลอกกลิ้งขยักอยู่หนักหนา ทั้งน้ำพุพุ่งกระหน่ำลำนาวา เภตราหยุดแล่นเป็นคราวคราว สมพาสพิมดั่งริมแม่น้ำตื้น ไม่มีคลื่นแตกระลอกกระฉอกฉาว ปะสายทองดั่งต้องพายุว่าว เพียงปากอ่าวก็จมล่มลงไป หมายเหตุ : พลายแก้ว คือชื่อเดิมของขุนแผน, พิมพิลาไล คือชื่อเดิมของนางวันทอง ขุนแผนมีลูกชื่อ พลายงาม กับพลายชุมพล ครับ (คนละแม่กัน) อิ อิ อาจารย์จำได้ แสดงว่าถอดรหัสออกตั้งแต่มัธยมต้น หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ เมษายน 16, 2005, 12:36:59 AM มิใช่ท่านมหาบานเย็นครับคุณแก้ว แต่เป็นอาจารย์ นนท์ ภราดา สอนภาษาไทย มศ.4-5 สมัยนั้นครับ อาจารย์นนท์ บอกว่าโคลง "โรคมาก รากโมก..." นี้ สุนทรภู่แต่งประชดใส่ชื่อคนอื่น เพราะในรัชสมัยที่รวบรวมตำรายาวัดโพธิ์นั้นท่านในฐานะที่เป็นอาลักษณ์เก่าไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเขียนด้วย อาจารย์ นนท์ ภราดา ชื่อนี้ขลังมากๆสำหรับเด็กเซนต์ครับ ภาษาไทยของท่านแตกฉาน ความสามารถในการแต่งเนื้อร้อง โคลง ฉันท์ กาพย์กลอน ไม่ใช่ธรรมดา เพลงโรงเรียนหลายๆเพลงท่านเป็นผู้แต่งเนื้อร้องครับ เพราะมากๆ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ เมษายน 16, 2005, 12:55:02 AM ;) เยี่ยมคับ...
อย่างที่พี่สมชายบอกบ่อยๆว่าเวปนี้มีพหูสูตรอยู่หลายท่าน... นับถือจริงๆสำหรับทุกท่านคับ... ผมนี่อ่อนภาษาไทยเอามากๆคับ... ;D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ เมษายน 16, 2005, 03:39:47 AM ;D ;D ;D ผมนึกถึงพลายแก้ว....เดี๋ยวคงมา
ภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงาม ยากยิ่งครับที่จะหาคนเข้าใจภาษาไทยอย่างลึกซึ้ง...และคะแนนสอบทุกครั้ง วิชาภาษาไทย นักเรียนทำคะแนนกันได้ไม่ค่อยดี ::) หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ เมษายน 16, 2005, 05:53:39 AM มิใช่ท่านมหาบานเย็นครับคุณแก้ว แต่เป็นอาจารย์ นนท์ ภราดา สอนภาษาไทย มศ.4-5 สมัยนั้นครับ อาจารย์นนท์ บอกว่าโคลง "โรคมาก รากโมก..." นี้ สุนทรภู่แต่งประชดใส่ชื่อคนอื่น เพราะในรัชสมัยที่รวบรวมตำรายาวัดโพธิ์นั้นท่านในฐานะที่เป็นอาลักษณ์เก่าไม่ได้รับเชิญให้ร่วมเขียนด้วย ...ผมมิได้ร่ำเรียนกับท่าน ด้วยว่าย้ายสำนักไปอยู่ข้างรั้วจามจุรีง่ะ ;D นึกว่าพี่แก้วจบจากรั้วยูงทองครับ... เย้ ...ไปอยู่แค่ข้างรั้วครับ สองปีหลังจากนั้นก็ขนสมัครพรรคพวกย้ายสำนักไปท่าพระจันทร์น่ะครับคุณสมชาย (ฮา) :D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 16, 2005, 06:50:25 AM ;D ;D ถึงบางอ้อแล้วครับ ;D ;D
ส่งสารแต่น้อง "พลายแก้ว" โดนพาดพิงอีกแล้ว :VOV: :VOV: หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: Iron ที่ เมษายน 16, 2005, 08:11:01 AM ;) เยี่ยมคับ... อย่างที่พี่สมชายบอกบ่อยๆว่าเวปนี้มีพหูสูตรอยู่หลายท่าน... นับถือจริงๆสำหรับทุกท่านคับ... ผมนี่อ่อนภาษาไทยเอามากๆคับ... ;D ;D ของผมหนักกว่าคุณหมอครับ คุณครูภาษาไทยสอนอยู่หน้าห้อง ผมมุดหนีออกมาทางหลังห้อง(กะจะหนีเรียน) แต่เพื่อนมันเห็นเลยรุมโห่แกล้งให้คุณครูหันมาดู สรุปว่างานนั้นโดนตีครับ ;D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ เมษายน 16, 2005, 08:45:39 AM :D 555 ขอบคุณครับ..ได้ทั้งความรู้..ความบันเทิง... ;)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: berm ที่ เมษายน 16, 2005, 09:01:32 AM มิน่าละครับ พวกหมอถึงไม่ใช้คำว่าคนป่วย ใช้แต่คำว่าคนไข้
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: TAZAN ที่ เมษายน 16, 2005, 09:14:27 AM ชักสงสัยว่า รากโมกนะกลอนพาไปหรือเรื่องจริง
จะได้หาไปให้ "ทีมซึมเศร้า เหงาเพระร๊าก"กินบ้าง :D~ :D~ :~) :~) :o :o หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 16, 2005, 09:17:49 AM ...ม.บานเย็น ใช่ไหมครับท่าน ดร.ผ. ;D ดร.ผ. หมายถึง ดอกเตอร์"ผวน" เปล่าครับ ;D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ เมษายน 16, 2005, 09:40:11 AM ;)
สรรพลี้หวนควรอ่านตามบ้านร้าง หนำหรือห้างทะเลนอกเคหา จะดีร้ายปลายคำเป็นธรรมดา บอกภาษานิทานอ่านอย่าแปล เหมือนแบบเก่าเอาชื่อถือเป็นหลัก ถึงที่รักก็ให้เฉยอย่าเผยแผ่ ให้อภัยบ่าวสาวหนุ่มเฒ่าแก่ ผึ้งขึ้นแลหยบอ่านสำราญเอย. สรรพลี้หวนเป็นวรรณกรรมชิ้นหนึ่ง ของเมืองนครศรีธรรมราช มีผู้พบต้นฉบับที่วัดพระบรมธาติ โดยไม่ทราบชื่อผู้แต่ง เนื่องจากมีการกล่าวถึงวรรณกรรมชิ้นนี้ กันเป็นประจำในหมู่นักเลงกลอน แต่ยังมีบางคนที่รู้จักเพียงชื่อ เพราะหาต้นฉบับที่จะอ่านไม่ได้ [/b] ผมเองเรื่องนี้....ผวน ผวน.....ผมไม่ค่อยถนัดครับ....อิ อิ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ เมษายน 16, 2005, 09:45:27 AM ยกตัวอย่าง....พอหอมปาก หอมคอ ก็พอนะครับ อิ อิ
ไม่กล้าว่า...หมด...เดี๋ยว....ท่านปิ๊ก....จะแอบอ่านมาก....อิ อิ ...นครยังมีเท่าผีแหน กว้างยาวแสนหนึ่งคืบสืบยศถา เมืองห้างกวีรีหับระยับตา พันหญ้าคาปูรากเป็นฉากบัง สูงพอดีหยีหิบพอหยิบติด ทองอังกฤษสลับสีด้วยหนีหัง กำแพงมีรีหายไว้ขอดัง เจ้าจอมวังพระราโชท้าวโคตวย มีเมียรักพักตร์ฉวีดีทุกแห่ง นั่งแถลงชมเชยเคยฉีหวย เจ้าคีแหมรูปโอเมียโคตวย ท้าวหวังรวยกอดินอยู่กินกัน มีลูกชาวไว้ใยชื่อใดหยอ เด็กไม่ลอเกิดไว้ให้คีหัน นอนเป็นทุกข์ดุกลองยิ่งคอดัน ให้ลูกนั้นหาคู่เป็นหูรี ต้องไปขอลูกสาวท้าวโบตัก มันตั้งหลักอยู่ไกลชื่อไหหยี เป็นลูกเชื้อเนื้อนิลนางหิ้นปลี เมืองห้างชีปกครองทั้งสองคน... แค่นี้....เถอะนะครับ....เดี๋ยว...จะแย่....อิ อิ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ เมษายน 16, 2005, 10:02:23 AM ไหนว่าไม่ถนัดไงท่าน51ครับ :~) มาเป็นกลอนเลย :~)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ เมษายน 16, 2005, 10:05:06 AM แฮ่ ๆ ต้องขออภัย...นะครับ....
แต่เมื่อมา post กันถึง คำผวน แล้ว ก็อยากจะ post สู่กันฟัง... ว่ามีบันทึกอยู่ในหน้าของประวัติศาสตร์ไทย สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เช่นกัน สมัยที่ท่านสุนทรภู่ (ซึ่งหลาย ๆ ท่านเข้าใจว่า ท่านแต่งกลอนเก่งมาก....) กล่าวไว้ ต่อหน้า...กวีรุ่นหลาน...ท่านหนึ่ง....ถ้าจำไม่ผิด น่าจะคือ นายนรินทร์ธิเบศร์ (อิน) ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้ชื่อว่า.... เป็นกวีที่มีความเชี่ยวชาญในการแต่งโคลงสี่สุภาพ...เป็นที่ลือเลื่องในสมัยนั้น ซึ่งท่านสุนทรภู่....ได้กล่าวว่า...ไว้...ด้วยปณิธานอันเฉียบคมของท่าน.... ท่านได้กล่าวไว้ว่า.... ........เฉน็งไอ จึ่งเว้า.......วู่กา..เผ้า แก่ทู่ รูกับกาว เมิงแต่ยา.........มู่ไร้ ปิดเซ็นจะมู่ซา................เคราทู่ นี่เฮย เฉะแต่จะตอบ ให้...........ช่วยมี้พ มังระณอ ซึ่งเมื่อ ผวน กลับมา จะได้ว่า..... ........ไฉนเอ็งจึ่งเว้า......ว่ากู...ผู้แก่เฒ่า ราวกับกู มาแต่เยิง.......ไม่รู้ เป็นศิษย์จะมาสู้............ครูเฒ่า ชอบแต่จะเตะให้..........ชีพม้วย มรณัง.... ท่าน ผวน ไว้ เป็นคำโคลง...ที่ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ (prosody) ทุกประการ และเมื่อ ผวน กลับมา....ก็ยังเป็น คำโคลงสี่สุภาพ....ที่ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ ดั่งเดิม....ครับ หมายเหตุ ฉันทลักษณ์ คือตำราที่ว่าด้วย วิธีร้อยกรองถ้อยคำ หรือเรียบเรียงถ้อยคำ ให้เป็นระเบียบตาม ลักษณะบังคับ และบัญญัติ ที่นักปราชญ์ได้วางเป็นแบบไว้ ถ้อยคำที่ร้อยกรองขึ้น ตามลักษณะบัญญัติแห่งฉันทลักษณ์ [/b] [/color] [/size] หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ เมษายน 16, 2005, 10:07:12 AM :Dสุดยอดครับ..ท่าน 51...เอาอีกครับ..เอาอีก ;D
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ เมษายน 16, 2005, 10:15:31 AM ;D ;)
นอกจากท่านสุนทรภู่แล้ว....ก็ยังมีปรากฏการ เล่นคำ อยู่อีกครับ ในวรรณะกรรมของไทย (เท่าที่ผมจำได้) ในเรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน....ครับ ปรากฏไว้ว่า.... ....ฝูงลิงไต่กิ่งลางลิงไขว่ ลางลิงแล่นไล่กันวุ่นวิ่ง ลางลิงชิงค่างขึ้นลางลิง กาหลงลงกิ่งกาหลงลง เพกากาเกาะทุกก้านกิ่ง กรรณิการ์กาชิงกันชมหลง มะกากากวนล้วนกาดง กาฝากกาลงทำรังกา.... ผมเอง....โหม้ดดดดด....พุงแค่เนี่ย...ล่ะคร้าบบบบ....อิ อิ อาจารย์โมฯ ครับ เด็กหลังห้อง....จำได้แค่เนี๊ย...ล่ะครับ อาจารย์.... :-* ด้วยความสำนึกในพระคุณของ อาจารย์ภาษาไทย ท่านหนึ่ง...ครับ (ท่านอาจารย์โมฬีวรรณ) จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น.... [/size]หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: JarengkaBOW ที่ เมษายน 16, 2005, 10:18:52 AM กว่าจะอ่านจบ แปลได้แต่ละบท :~)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ เมษายน 16, 2005, 10:21:08 AM แฮ่ ๆ ต้องขออภัย...นะครับ.... ท่านได้กล่าวไว้ว่า.... ........เฉน็งไอ จึ่งเว้า.......วู่กา..เผ้า แก่ทู่ รูกับกาว เมิงแต่ยา.........มู่ไร้ ปิดเซ็นจะมู่ซา................เคราทู่ นี่เฮย เฉะแต่จะตอบ ให้...........ช่วยมี้พ มังระณอ ซึ่งเมื่อ ผวน กลับมา จะได้ว่า..... [/b] [/size] "เยิง" เป็นโบราณครับ.....แปลว่า "ป่า" ซึ่งคำ ๆ นี้ ในสมัยนั้น....คาดว่า...น่าจะเป็นการเรียก...เปรียบคล้าย ๆ คนบ้านนอก เทือก ๆ นั้น ครับ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ เมษายน 16, 2005, 10:34:22 AM ขออนุญาต....เพิ่มเติม ครับ
....ฝูงลิง ไต่กิ่ง ลางลิง ไขว่ ลิงคำแรก ก็คือ สัตว์ ครับ....ต่อมาก็คือ พืช...ต้นลางลิง ลางลิง แล่นไล่กันวุ่นวิ่ง ลางลิง ก็คือ....ลิงบางตัว ลางลิง ชิงค่างขึ้น ลางลิง ลางลิง...ก็คือ ลิงบางตัว.... ขึ้นลางลิง...ก็เป็นพืช ต้นลางลิง ครับ กาหลง ลง กิ่งกาหลงลง กาหลง...ก็คือ นกกา.... กาหลง คำต่อมา...ก็คือ ต้นกาหลง (พืช) เพกา กาเกาะทุกก้านกิ่ง เพกา...ก็คือ พืช ครับ กา...ก็คือ นกกา กรรณิการ์ กาชิงกันชมหลง กรรฺณิการ์ ก็คือ ดอกไม้...(พืช) ครับ กาชิง....ก็คือ นกกา (สัตว์) มะกา กากวนล้วน กาดง มะกา,กากวน.....ก็คือ พืช....ครับ กาดง...ก็คือ สัตว์ ครับ กาฝาก กาลงทำ รังกา.... กาฝาก...ก็คือพืช...ครับ กาลง...ก็หมายถึง นกกา.... รังกา...ก็คือ รังของนก...ครับ จากนิ้ว....ที่จิ้มแป้น.... หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ เมษายน 16, 2005, 10:44:27 AM ;D ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู
สู้ดูหนูรูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู เก็บเอามาฝากครับ :VOV: :VOV: :VOV: ภาษาไทย หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ เมษายน 16, 2005, 10:50:36 AM ตอนที่มีโทรทัศน์สีใหม่ ๆ
กองทัพบกเรียกช่อง ๗ ว่า "เจ็ดสี" ช่องเดียว แต่ช่อง ๕ ไม่ต้องใส่สี :D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: JarengkaBOW ที่ เมษายน 16, 2005, 10:54:14 AM เหมือนกลับไปอ่านวรรณสารวิจักษ์ตอนม.ปลายเลยเจ้าคะ :D
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ เมษายน 16, 2005, 10:58:54 AM เหมือนกลับไปอ่านวรรณสารวิจักษ์ตอนม.ปลายเลยเจ้าคะ :D ;D ;) แค่ท่านจาเล็ง....นิยม.... อีตาซับใน...เอ๊ย....ผม (น้องห้า-หนึ่ง) ก็ชื่นชม....แร้วววว์ คร้าบ....อิ อิ ;Dเคี๊ยก..... ปาด.....หน้า......เรยยย์........ อยาก...ห้ายยย....คุณครูแก้ว...(พี่ Coda) มาดูจังเรยยย์ ไม่เสียชื่อคุณครู.....ประจำเว็บ คร้าบบ....พี่... คุณสมบัติ....พอที่จะขอข้าว....พี่แก้วทานได้เนอะ ๆ .....อิ อิ จากนิ้ว....ที่จิ้มแป้น..... หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ เมษายน 16, 2005, 12:30:07 PM ผมว่าภาษาไทยนี่สุดยอดเลยครับ 8)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: พลายแก้ว ที่ เมษายน 16, 2005, 12:55:31 PM โอ้โห.....ไม่นึกเลยว่าพี่น้องชาวเว็บบอรด์อาวุธปืนจะลึกซึ้งในวรรณคดีไทยขนาดนี้ อ่านบทร้องกรองของขุนช้างขุนแผนที่ตัดแปะให้ความคิดเห็น ทำให้นึกถึงความหลังสมัยเรียน ผมว่าภาษาไทย มีความละเมียดละไมและลึกซึ่งมาก
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ เมษายน 16, 2005, 12:59:29 PM ตอนที่มีโทรทัศน์สีใหม่ ๆ :D :D555 ช่อง 5 ไม่ต้องใส่สี :Dกองทัพบกเรียกช่อง ๗ ว่า "เจ็ดสี" ช่องเดียว แต่ช่อง ๕ ไม่ต้องใส่สี :D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: sobpong ที่ เมษายน 16, 2005, 02:39:02 PM ***** ผมว่าแล้วเดี๋ยวไม่นานสรรพลี้หวนต้องมา**** ;D ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 16, 2005, 03:36:25 PM เรื่องกลอน/การแสดงอารมณ์นี่ภาษาไทยสุดยอดแล้วครับ กลอกฝรั่งมักเป็นกลอนเปล่า พูดตรงๆ ว่าไม่ได้เรื่องเหมือนคำพูดยาวๆ เท่านั้น ผมไม่ค่อยเข้าใจฝรั่งที่ยกว่ากลอนของเขาแน่เหลือเกินในด้านภาษา ถ้าเป็นเรื่องเนื้อเรื่อง/ความหมายก็อีกเรื่องนึง
หนังสือฝรั่งที่คนแปลเป็นไทยเก่งๆ ผมว่าอ่านได้อารมณ์มากกว่าภาษาเดิมมาก คือภาษาเดิมแสดงอารมณ์ของมนุษย์ออกไม่ได้เท่าทั้งที่เป็นภาษาที่มนุษย์คนนั้นเขียนเอง อย่างเรื่องของ Roal Dahl ที่ สาลินี คำฉันท์ แปลผมว่าอ่านสนุกกว่าภาษาอังกฤษดั้งเดิมอีก กลอนหรือเรื่องที่สำนวนจัดอย่างของ Oscar Wilde ถ้าคนแปลเป็นไทยยเก่งๆ ผมว่าคงอ่านมันพิกล อ้อ น่าจะให้ ศศิวิมลแปลครับ หลายอย่างพอๆ กัน (อิ อิ) หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ เมษายน 16, 2005, 06:10:06 PM น่าจะให้ ศศิวิมลแปลครับ หลายอย่างพอๆ กัน (อิ อิ) ศศิวิมล เป็นนามปากกา ของ อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต ครับ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: vichai01++รักในหลวง++ ที่ เมษายน 16, 2005, 06:59:04 PM ;D ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ เมษายน 16, 2005, 07:44:41 PM ตอนที่มีโทรทัศน์สีใหม่ ๆ :D :D555 ช่อง 5 ไม่ต้องใส่สี :Dกองทัพบกเรียกช่อง ๗ ว่า "เจ็ดสี" ช่องเดียว แต่ช่อง ๕ ไม่ต้องใส่สี :D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2005, 07:31:10 PM ;D ภาษาไทยเป็นภาษามหัศจรรย์ครับ อยากเรียนรู้ภาษาไทยมากกว่านี้แต่ยังไม่มีโอกาสครับ พวกเราควรรักภาษาไทย ;D
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: aniki ที่ เมษายน 17, 2005, 08:10:36 PM ภาษาไทยรักสุดตัวและหัวใจ แต่ไฉนเมียไทยฉันไม่มี :~) :~)
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2005, 08:25:44 PM ภาษาไทยรักสุดตัวและหัวใจ แต่ไฉนเมียไทยฉันไม่มี :~) :~) >:( นี่พี่สน คนอื่นน่ะ เค้าอิจฉาพี่จะตาย เมี่ยญี่ปุ่นน่ะ หาง่ายซะที่ไหนล่ะแถวเนี๊ยะ >:( หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: berm ที่ เมษายน 17, 2005, 08:32:23 PM อ่านตั้งนานเพิ่งจะเข้าใจเรื่องช่อง5ไม่ใส่สี
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: พลายแก้ว ที่ เมษายน 18, 2005, 04:12:54 AM ภาษาไทยรักสุดตัวและหัวใจ แต่ไฉนเมียไทยฉันไม่มี :~) :~) เห็นด้วยครับ ไม่มีนางไหนในโลก จะวิเศษเลิศเลอเท่ากับเนื้อนางและความอบอุ่นของสาวไทยอีกแล้ว แง๊ๆๆๆๆ :~) :~) :~) :~) :~) :~) :~) :~) :~) :~) :~) :~) :~) ขอพระอวยพรพี่น้องทุกท่านครับผม หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: poe kerpetkaew ที่ เมษายน 18, 2005, 05:40:26 PM able was I e I saw elba
ของฝรั่งก็พอมีคับ หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ เมษายน 18, 2005, 06:22:59 PM ;D ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู หนูมะสู้เฒ่าหัวงู :DD :DD :DD (คนที่เราไม่ต้องเอ่ยชื่อก็น่าจะรู้ว่าใครครับหุหุหุหุหุ)สู้ดูหนูรูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู เก็บเอามาฝากครับ :VOV: :VOV: :VOV: ภาษาไทย ภาษาไทยรักสุดตัวและหัวใจ แต่ไฉนเมียไทยฉันไม่มี :~) :~) อย่างน้อยพี่ก็ช่วยให้เราไม่ขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นครับ ;D ;D ;D ;Dหัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ เมษายน 18, 2005, 06:26:13 PM เคยอ่านเรื่องระเด่นลันไดครับ ผ่านเสาชิงช้าไปหลังวัง อดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่า "วัง" ท่านระเด่นตั้งอยู่ตรงที่ใดกันแน่ ตามท้องเรื่องก็น่าจะเป็นลานจอดรถ กทม. ในปัจจุบัน
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ เมษายน 18, 2005, 07:08:43 PM เคยอ่านเรื่องระเด่นลันไดครับ ผ่านเสาชิงช้าไปหลังวัง อดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่า "วัง" ท่านระเด่นตั้งอยู่ตรงที่ใดกันแน่ ตามท้องเรื่องก็น่าจะเป็นลานจอดรถ กทม. ในปัจจุบัน น่าจะอยู่ ตรงร้านช่าง" ป๊อก" ที่รับเหลาด้ามปืนนะพี่ ;D ;D หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2007, 09:02:40 AM โอ้มายก๊อต
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: thamcharoen ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2007, 09:10:52 AM มีเยอะครับ โดยเฉพาะสุนทรภู่ ...ผมอยู่อำเภอแกลง..หลานสุนทรภู่...แต่ว่าไม่เคยรู้เรื่อง..และนึกไม่ถึงจริง ๆ ...ลึกมาก ๆ ๆ ลึกจริง ๆ ครับอาจารย์ ขอบอก ๆๆลองอ่านตอนขุนแผนอยู่สองต่อสองกับนางสายทองครั้งแรกดูเถอะ ตอนเด็ก ๆ ผมก็ยังไม่เข้าใจ พอวัยรุ่นถึงได้รู้ว่า ขุนแผน "ล่มปากอ่าว" หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: SDH2th ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2007, 04:21:19 PM 8)...เป็นกระทู้เก่าที่...ยังคงน่าอ่านอีกกระทู้ครับ....
...อ่านแล้วคิดถึงครูภาษาไทย...สมัยมัธยม....และคิดว่านักเรียนสมัยก่อนน่ารักกว่านักเรียนสมัยนี้ ครับ....ครูดุ ครูด่าครูตี...จบก็จบในห้องเรียนครับ...แต่ทุกวันนี้ถ้าครูดุ ครูด่า ครูตี... .....มันจะตามมา....เอาคืน...นอกโรงเรียน.... 8) หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: 491 ที่ ธันวาคม 19, 2007, 02:54:41 PM o.k.
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: SaSa ที่ ธันวาคม 20, 2007, 02:15:25 PM ขอบคุณครับ....ผมจะไปขุดรากโมก
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: เห่าดง - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 20, 2007, 02:38:44 PM ถึงว่าสิครับ แม่ยายผมถึงได้เอาต้นโมกมาปลูกหน้าบ้าน
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: รัตตรา ที่ ธันวาคม 20, 2007, 03:03:43 PM ขอบคุณครับ...รับทราบ...ก๊าก ::007:: ::007::
หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ ธันวาคม 20, 2007, 09:04:23 PM ;Dขุดกระทู้อีกแล้ว พวกเรา
ถามหน่อยหรือว่าเมา ดื่มแน่ ติดตามอ่านแล้วเข้า ใจอยู่ ลางลาง ใจจรดใจจ่อแท้ กลับไม่ เข้าใจ :VOV: หัวข้อ: Re: โคลงกลอักษร เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 20, 2007, 09:33:59 PM ภาษาไทยนี่สุดยอดจริงครับ
|