เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: ธำรง ที่ เมษายน 17, 2007, 12:02:45 PM



หัวข้อ: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ เมษายน 17, 2007, 12:02:45 PM

เอามาฝากผ่านตากันครับ.........  8) 8)
ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง (รายงานพิเศษ)  (http://www.naewna.com/news.asp?ID=56448)

เสียงเพรียกหาปืนในสถานการณ์ใต้

"พวกเราต้องการปืน!!!"

สวัสดิ์ ยืนยง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย หนึ่งในแกนนำม็อบชาวไทยพุทธหน้าที่ว่าการอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา กว่า 1 พันคนที่เดินทางมายื่นหนังสือให้ พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ ประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและแก้ไขกรณีปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันที่ 26 มีนา คมที่ผ่านมาพูดเสียงดังฟังชัด

เขาบอกว่า ได้ยื่นข้อเรียกร้องไปจำนวน 6 ข้อ แต่ข้อเรียกร้องที่น่าสนใจคือข้อที่ 5 ที่ระบุว่าให้ทางราชการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ในการป้องกันตนเองของชาวบ้าน และข้อที่ 6 ที่มีเนื้อหาว่า ให้ความอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในการขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน และผ่อนปรนในการพกพา

"สวัสดิ์" อธิบายว่าข้อที่ 5 เขาให้ทางราชการจัดซื้อจัดหาอาวุธมอบให้กับชาวบ้าน ส่วนข้อที่ 6 ให้อำนวยความสะดวกประชาชนผู้บริสุทธิ์ในการอนุญาตให้ครอบครองอาวุธปืนโดยถูกกฏหมาย ช่วยอำนวยความสะดวกในการฝึกซ้อมการใช้อาวุธปืนและผ่อนปรนทางข้อกฏหมาย อนุญาตให้ประ ชาชนสามารถพกพาอาวุธปืนได้

ผู้ใหญ่บ้านแกนนำม็อบ ให้ภาพว่า เหตุที่ต้องรวบรวมชาวบ้านมาเรียกร้องแก่ทางการเพราะประมวลจากความต้องการของชาวบ้านไทยพุทธในพื้นที่ ซึ่งระบุตรงกันว่ามาตรการปราบปรามและเฝ้าระวังเหตุของเจ้าหน้าที่ยังหละหลวมอยู่ ในขณะที่การบังคับใช้กฎหมายยังกระทำอย่างไม่เอาจริงเอาจัง "ข้อพิสูจน์" คือ เหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ไม่ห่างกัน คนไทยพุทธเสียชี วิตมากกว่ามุสลิมหากเทียบตามสัดส่วนของประชากร

ข้อเรียกร้องหาปืนของชาวไทยพุทธในอำเภอสะบ้าย้อย จึงเป็นสัญญาณล่าสุดที่ทำให้ผู้เกี่ยว ข้องหลายฝ่ายหันมาให้ความสนใจต่อ "เสียงเพรียกหาปืน" ของคนในพื้นที่กันอย่างจริงจังอีกครั้ง!!!

กรณีของชาวบ้านไทยพุทธใน อ.สะบ้าย้อย นับเป็นกรณีศึกษาต่อเสียงเพรียกหาอาวุธปืนของประชาชนที่น่าสนใจ เพราะชาวบ้านทั้งหมดรู้สึกว่าตนเองถูกคุกคาม แต่กรณีการสังหารเด็กปอเนาะบำรุงศาสตร์ ที่บ้านควนหรัน ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียงกัน ต่างยอมรับว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะเดินทางไปสถานที่เกิดเหตุ และความรู้สึกลึกๆเขาเชื่อว่าความรุนแรงทั้งหมดเกิดจากน้ำมือคนมุสลิมด้วยกันเอง

ความต้องการต่ออาวุธปืนของชาวบ้านไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่ปรากฏชัดมานานแล้วในหลายพื้น ที่ โดยเฉพาะที่มีคนไทยพุทธตั้งถิ่นฐานอยู่ หลังชีวิตของผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตกเป็นเหยื่อฝ่ายคน ร้ายที่อยู่ในเงามืด หลังข้อเรียกร้องของชาวไทยพุทธใน อ.สะบ้าย้อย ก็มีเสียงตอบรับจากฝั่งรัฐว่าจะเพิ่มอาวุธปืนให้ชาวบ้านใน 62 หมู่บ้านอีกกว่าหนึ่งพันกระบอก จากที่มีอยู่แล้ว 900 กระบอกในจำ นวนหมู่บ้านดังกล่าว

ชัดเจนว่าข้อเรียกร้องของชาวบ้านสะบ้าย้อย คือ ปรากฏการณ์ที่เป็นผลลัพท์ของภาวะความหวาดกลัว หวาดระแวงและความไม่ไว้เนื้อเชื่อมั่นต่อระบบการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ สินของตำรวจ-ทหาร และยังเป็นผลที่บังเกิดขึ้นจากยุทธวิธี "สร้างอาณาจักรแห่งความกลัว" ของฝ่ายแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ.....แต่ในมุมชาวบ้าน "ความต้องการปืน" ไม่ได้คำนึงถึงการตกหลุมพรางเป้าหมายของขบวนการความไม่สงบ เป็นความต้องการที่เกิดจากความเชื่อว่าอาวุธปืนคือที่พึ่งในยามที่ความเชื่อมั่นต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายรัฐลดน้อยถอยลงอย่างน่าใจหาย!!!

ภาวะเช่นนี้ กำลังเป็นกระแสที่น่าสนใจยิ่ง เมื่อสังคมไทยโดยรวมก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันว่า ฝ่ายรัฐควรจะกระจายอาวุธปืนจำนวนมากไปให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งชาวไทยพุทธซึ่งเชื่อว่าเป็นเหยื่อโดยตรง สอดรับกับผลสำรวจล่าสุดของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ที่ระ บุว่าชาวหาดใหญ่ซึ่งเคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในภาคใต้มาแล้วหลายครั้ง ต้องการให้รัฐบาลมอบปืนให้ประชาชนใน 3 จังหวัดมากกว่านี้ เพื่อป้องกันตนเองและต่อกรกับฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปริมาณปืนชายแดนใต้ ดัชนีอำนาจรัฐหรือชี้วัดความรุนแรง

การแพร่กระจายของอาวุธปืนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้มีอยู่เป็นปริมาณมาก ข้อมูลจาก "สำนักงานปกครอง จ.ปัตตานี" จังหวัดเดียว ระบุว่า มีปืนที่ถูกขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏ หมาย ทั้งปืนพกสั้นขนาด.38 ลงมาและปืนยาวประเภทลูกซองมีมากกว่า 30,000 กระบอก ซึ่งไม่รวมอาวุธปืนอีกจำนวนมากของฝ่ายปราบปรามที่อนุญาตให้ครอบครองอาวุธปืนได้ โดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากนายทะเบียน รวมถึงอาวุธปืนที่ทางราชการมอบให้ "หน่วยจัดตั้ง" ในภาคประชาชน อาทิ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน(อรบ.) อาสาสมัครหมู่บ้าน(อสม.) และ "กองกำลังพิเศษ" ที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองจัดตั้งขึ้นตามความต้องการของแต่ละหน่วย งาน เพื่อช่วยเสริมกำลังในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่

ทาง จ.นราธิวาส มีตัวเลขจำนวนอาวุธปืนอยู่ในมือประชาชนขณะนี้มากกว่า 45,000 กระบอก ส่วนใหญ่เป็นปืนพกสั้น และสถิติที่ประชาชนมายื่นคำขอใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนยังสูงถึงเดือนละ 100 รายต่อเดือน ตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับจำนวนอาวุธปืนถูกกฏหมายของ จ.ยะลา

"ความต้องการปืนของประชาชนยังมีอยู่มาก แต่ปัญหาคือปัจจุบันราคาปืนค่อนข้างแพง ส่วนใหญ่คนที่มาขอใบอนุญาตยังเป็นข้าราชการและผู้มีฐานะ หรือผู้นำท้องถิ่น ส่วนประชาชนทั่วไปมีอา วุธปืนอยู่น้อย ยิ่งในอำเภอรอบนอกที่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นแทบทุกวันคนยิ่งไม่มีเงินไปซื้อหาอา วุธ เพราะเขาไม่มีเงิน ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ แต่ความต้องการของเขายังมีอยู่มาก" มะซอรี มะ เจ้าหน้าที่กองทะเบียนอาวุธปืน สำนักงานปกครอง จ.นราธิวาส กล่าว

"มะซอรี" ยังแสดงความเห็นว่าจำนวนปืนใน จ.นราธิวาส จะเพิ่มขึ้นอีกมาก ตราบใดที่ความไม่สงบยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือตัวเลขนี้ไม่ได้รวมกับ "ปืนเถื่อน"

ส่วน "พล.ต.ท.เจตนากร นภีตะภัฏ" ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยังอดหวั่นวิตกไม่ได้ว่าการที่ประชาชนในพื้นที่ครอบครองอาวุธปืนไว้เป็นจำนวนมากก็เป็น "ดาบสองคม" เพราะถ้าไม่ควบ คุมการใช้ให้รัดกุมก็จะทำให้ควบคุมพื้นที่ได้ยาก

ทั้งที่ในอดีตอาวุธปืนเปรียบดัง "ดัชนีอำนาจรัฐ" เนื่องจากรัฐเป็นฝ่ายหยิบยื่นปืนให้ประชา ชน แต่เมื่อฉายภาพปัจจุบันปริมาณของปืนกลับสวนทางกับนิยามในอดีตอย่างสิ้นเชิง เมื่อปริมาณของปืน บ่งบอกถึงความอ่อนแอ ไร้ประสิทธิภาพของอำนาจรัฐ!!!

"ประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ" อดีตกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ที่ปรึกษาสมา พันธ์ครูจังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความเห็นว่า ความต้องการปืนเกิดจากความล้มเหลวของรัฐ ที่ไม่สามารรถปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ และเป็นตัวชี้ระดับความรุนแรงของสถานการณ์ และจุดอ่อนสำคัญ 2 ประการสำหรับประชาชนผู้ถือปืน คือ เสี่ยงต่อการเป็นเป้าหมายของฝ่ายผู้ก่อการและความไม่สันทัดในการใช้อาวุธปืน เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่เมื่อถูกโจมตี คนเหล่านี้ก็มักใช้ปืนไม่ทัน ท้ายที่สุดก็ต้องเสียไปทั้งคนและปืน ซึ่งจุดนั้นก็จะอันตรายไปอีกขั้นเพราะปืนของคนบริสุทธิ์ จะถูกนำมาสังหารคนบริสุทธิ์ล้มตายอีกมากมายดังที่เกิดขึ้นทุกวันนี้

สถานการณ์ใต้กับผลประโยชน์ธุรกิจค้าปืน

"ที่ใดมีสงคราม ที่นั่นมีคนได้ผลประโยชน์จากสงคราม"

อดีตเจ้าของร้านขายปืนที่ผันตนเองออกจากธุรกิจดังกล่าวมานานเกือบสิบปี ให้ข้อมูลว่า ปัจ จุบันประเทศไทยมีอาวุธปืนถูกกฎหมายอยู่ในความครอบครองของพลเรือนมากกว่า 4,000,000 กระ บอก ส่วนใหญ่เป็นปืนพกสั้น และมีปืนเถื่อนอยู่ไม่เกิน 2-3% ของจำนวนปืนทั้งหมด แต่ในกรณีของฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบนั้นเขาไม่สามารถระบุได้ เพราะมีข่าวว่าปืนจำนวนหนึ่งที่ถูกนำมาก่อเหตุ เป็นปืนที่นำเข้ามาจากชายแดนฝั่งตะวันออกของประเทศไทย และยังมีอาวุธปืนที่ผ่องถ่ายระหว่างกันกับเครือข่ายผู้ก่อการร้ายในประเทศที่มีปัญหาความไม่สงบ ซึ่งไม่มีข้อมูลหลักฐานว่าจริงเท็จอย่างไร

ตามฐานข้อมูลของกรมศุลกากร การนำเข้าอาวุธปืนมาในประเทศไทยปี 2549 มีจำนวนราว 55,000 กระบอก!!!

อดีตเจ้าของร้านขายปืน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การนำเข้าปืนถูกกฏหมายของไทย เป็นไปตามโควต้าที่ทางราชการกำหนดให้ ร้านปืนแต่ละร้านจึงมีโควต้าของตนเองที่กำหนดให้ 1 โควต้า นำเข้าปืนสั้นได้ 30 กระบอก และปืนยาว 50 กระบอก ร้านปืนแต่ละร้านอาจมีโควต้าไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทย และ "เส้นสาย" ของเจ้าของร้านปืนกับผู้มีอำนาจในกระทรวง

แต่การนำเข้าอาวุธปืนตามโควต้าของร้านปืน ยังไม่เท่า "ปืนสวัสดิการ" ที่กระทรวงมหาด ไทยสั่งตรงเข้ามา ที่เขาระบุว่ามากกว่าจำนวนโควต้าทั้งหมดที่ร้านปืนทุกร้านรวมกัน โดยเฉพาะหลัง จากปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ทวีความรุนแรงขึ้น ปืนสวัสดิการโดยการอนุมัติของกระทรวง มหาดไทยถูกสั่งตรงเข้ามาเป็นจำนวนมากและเป็นระลอกๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การสั่งนำเข้าก็ต้องสั่งผ่าน "เอเย่นส์" อีกทอดหนึ่ง

เรื่องปริมาณปืนในประเทศไทย อดีตเจ้าของร้านปืนรายดังกล่าวให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องของ Demand และ Supply เมื่อมีความต้องการใช้เกิดขึ้น การนำเข้าก็เพิ่มขึ้น แต่ยังมีความเหลื่อมล้ำค่อน ข้างสูง เพราะเมื่อเปรียบเทียบจำนวนปืนกับความต้องการในปัจจุบันแล้ว ปริมาณปืนจึงมีอยู่น้อยมาก

"ยิ่งเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ คนยิ่งต้องการซื้อปืนมาก ปืนที่มีอยู่น้อยก็ถูกปรับราคาขึ้นสูงลิ่ว คนที่ได้รับประโยชน์เต็มๆคือเจ้าของร้านขายปืนต่างๆนั่นเอง ปืนสั้นบางยี่ห้อ ราคาจริงขณะนำเข้าเมื่อบวกภาษีแล้วอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทแต่ราคาขายอยู่ที่ 60,000 บาท ทุกวันนี้ผลประ โยชน์ที่ควรจะเป็นรายได้ของรัฐกลับตกอยู่ในมือของพ่อค้าปืนกลุ่มเล็กๆ เพียงกลุ่มหนึ่งที่มีใบอนุ ญาตถูกต้องตามกฎหมาย" เขา กล่าว

เขาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในอดีตการขอใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนขึ้นอยู่กับกรมทะเบียนกรมตำรวจ ในช่วงที่โอนย้ายไปให้กับกรมการปกครองใหม่ๆ เคยเกิดกรณีที่นายกสมาคมร้านปืนจับมือกับข้าราชการในกรมการปกครอง บอกประชาชนว่าถ้าจะขอใบอนุญาตต้องผ่านร้านปืนก่อน ร้านปืนจะเรียกเก็บเงินกระบอกละ 4,000-5,000 บาท เป็น "ค่าวิ่งเต้น"

แม้แต่การใช้ปืนหาประโยชน์จากสถานการณ์ภาคใต้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อปลายปีที่แล้วอา วุธปืนในคลังตำรวจที่ จ.ขอนแก่น ถูกยักยอกไปโดยตำรวจกลุ่มหนึ่งนำไปขายที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนำไปตกแต่งและ "สวมทะเบียน" ใหม่ขึ้นมาเพื่อหลอกขายประชาชน ซึ่งปัจจุบันการทำเช่นนี้อาจยังมีอยู่โดยฝีมือของคนในเครื่องแบบเอง จึงน่าจะเป็นคำตอบว่าปืนเถื่อนส่วนหนึ่งในภาคใต้ที่อยู่ในมือประชาชนมาจากไหน

เขาตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่อดีตภาคใต้ถือเป็น "ตลาดปืน" ที่ใหญ่มาก คนใต้คือลูกค้ารายใหญ่ของร้านขายปืน แต่เหตุใดเมื่อเกิดความไม่สงบ จึงยังมีคนมาซื้อหาอาวุธปืนเพิ่มขึ้นตลอด ปืนที่เคยซื้อไว้หายไปไหน???

ติดอาวุธสู้ไฟใต้ หนทางเสื่อมถอยหรือปูทางสร้างสันติ???

เสียงร่ำลือเรื่องคนไทยพุทธเริ่มต้นตั้งกองกำลังติดอาวุธ เพื่อสู้กับฝ่ายกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแบบ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" เริ่มหนาหูขึ้นเรื่อยๆ คำร่ำลือภายในชุมชนมุสลิมกลายเป็นเรื่องเล่าที่ทรงอำนาจ สร้างความหวาดระแวงและระแวดระวังคนไทยพุทธมากขึ้น.....เสียงดังกล่าวได้สะท้อนความ รู้สึกแปลกแยกกับคนไทยพุทธได้พอสมควร บางคนถึงขนาดบอกว่าคนไทยพุทธกำลังตั้งกองกำลังติดอาวุธเพื่อ "เอาคืน" คนมุสลิม หลังคนไทยพุทธตกเป็น "เหยื่อ" สังหารของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามคืออาวุธปืนที่อยู่ในมือของกลุ่มคนเหล่านี้จะถูกใช้ไปในทิศทางใด รวมทั้ง "ท่าที" ต่ออาวุธปืนของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

คำถามเรื่อง "ท่าที" ต่ออาวุธปืนมีหลายเหตุ แต่ผลสรุปของนักวิจัยด้านปืนศึกษารายหนึ่งน่า สนใจอย่างยิ่ง เธอสะท้อนว่าอาวุธปืนเป็น "อำนาจเชิงสัญญะ" แค่ยิงขึ้นฟ้า มนุษย์ทุกคนก็รู้สึกกลัวจนหัวหดแล้วโดยไม่จำเป็นต้องเล็งศูนย์ไปยังเป้าหมายด้วยซ้ำ แต่น่าเป็นห่วงบางคนที่รู้สึกว่าการที่ตน เองยิงคนตายด้วยเหตุผลเพราะคนนั้นเป็นคนชั่ว เป็นภัยคุกคามต่อสังคม เป็นโจรที่มาสร้างความเดือด ร้อนให้ตนเอง การคิดเช่นนี้ทำให้การยิงคนตายไป 1 คน ตนเองจะได้ไม่ต้องมารู้สึกผิด

เธอยอมรับว่าปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ปืนยังเป็นความจำเป็นในระดับของการป้องกันตนเอง แต่ไม่ใช่กรณีของการติดอาวุธเพื่อลุกขึ้นสู้กับฝ่ายผู้ก่อการ เพราะกรณีเช่นนั้นนอกจากปัญหาจะบานปลายจนมองไม่เห็นทางออกแล้ว ความรุนแรงก็จะเพิ่มมากขึ้นอีกหลายระดับ แต่ปัญหาสำคัญ คือ "ความสมดุลทางอำนาจ" ระหว่างผู้มีปืนและไม่มีปืน โดยเธอยกกรณีของปัญหาใน อ.สะบ้าย้อย เป็นกรณีตัวอย่าง

"การที่ฝ่ายหนึ่งมีอาวุธ หรือได้รับการสนับสนุนจากรัฐให้มีอาวุธ เเละอีกฝ่ายไม่มี เเละไม่ได้รับการสนันบสนุนจากรัฐให้มีอาวุธจะทำให้ฝ่ายที่ไม่มีอาวุธ รู้สึกว่าตนเองถูกเเบ่งเเยก ไม่ได้รับยุติ ธรรม หรือถูกมองเป็นศัตรูกับรัฐหรือไม่ การติดอาวุธกับประชาชนบางกลุ่ม จะทำให้กลุ่มอื่นๆที่เเตก ต่างทางด้านชาติพันธุ์ ศาสนา เเละความเชื่อ รู้สึกว่าช่องว่างระหว่างทั้งสองกลุ่ม คือกลุ่มที่มีอาวุธ กับไม่มีอาวุธ ยิ่งกว้างขึ้น เเละเกิดความไม่ไว้วางใจกันหรือไม่"

เธอตั้งคำถามว่า "การแพร่กระจายอาวุธปืนไปสู่ประชาชนจะเกิดปรากฏการณ์เสพติดอำนาจเเละผลประโยชน์ โดยไม่สนใจการเเก้ปัญหาที่ไม่ใช้อาวุธเป็นหลักหรือไม่ หากรู้สึกว่าชุม ชนเเละสังคมที่อยู่ไม่ปลอดภัย เคยถามตนเองเเละผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ว่าใครควรจะรับผิดชอบปัญหาในการเเก้ไขปัญหานี้บ้าง รัฐเเละคนในชุมชนได้ทำความผิดพลาดอะไร จึงเกิดความไม่ปลอดภัยในสัง คม การที่รัฐผลักภาระให้ประชาชนดูเเละความปลอดภัยของตัวเอง โดยการยื่นอาวุธให้เเสดงว่ารัฐ เเละเราทุกคนก็ล้มเหลว ในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยหรือเปล่า"

เป็นคำถามทิ้งท้าย จากคนที่ต้องการเห็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งทั้งภายในจังหวัดชายแดนภาคใต้และสังคมไทยโดยรวมปราศจากอาวุธปืน เพื่อจะได้มีสันติสุขที่แท้จริงและยั่งยืน!!!


ศูนย์เฝ้าระวังเชิงองค์ความรู้สถานการณ์ภาคใต้ 
 
วันที่ 17/4/2007


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ไผ่เล่นลม ที่ เมษายน 17, 2007, 12:34:39 PM
เหตุการณ์ไฟใต้นับวันมีแต่ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น   เห็นใจจริงๆครับ  ปืนมันเหมือนดาบสองคมครับ ถ้าอยู่ในมือคนดีก็เกิดประโยชน์กับสังคม แต่ถ้าตกอยู่กับคนชั่ว สิ่งที่ตามมาก็คือหายนะ

ผมเองก็อยู่ใต้ แล้วก็ต้องลงไปทำงานทาง 3 จังหวัดชายแดนอยู่บ่อยๆ เมื่อก่อนไม่เคยคิดที่จะจับปืนเลยครับ แต่มาหลังๆนี้มันเกิดความกลัวขึ้นในหัวสมอง  จะหวังพึ่งเพียงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ก็มีอยู่น้อยนิด ดูแลได้ไม่ทั่วถึง  เลยต้องขวนขวายหามาไว้ข่างกายยามต้องลงไปทำงานเพื่อความอุ่นใจ  อย่างน้อยๆก็ดีกว่ามือเปล่าๆ

อ่านแล้วก็เข้าใจกันทุกฝ่าย  ก็คงได้แต่หวังว่าเหตุการณ์มันคงไม่รุกรามจนกลายเป็นอะไรต่อมิอะไร และภาวนาขอให้ไฟใต้มันดับลงในเร็ววัน   

สันติสุขจงบังเกิด และขอให้โลกนี้สงบสุข
 


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ เมษายน 17, 2007, 12:50:08 PM
 :)  อ่านแล้วครับ  ขอบคุณครับพี่ ธำรง

     ก็อย่างที่ว่า ปืนเหมือนดาบ ๒ คม  มีไว้ป้องกันตัวเรา

     และเราก็ต้องป้องกันรักษาปืนของเราด้วย


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: mr.nog ที่ เมษายน 17, 2007, 01:23:40 PM
  3ปี 2รัฐบาล เราหาโจทย์ได้หรือยังครับ
 


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ เมษายน 17, 2007, 01:41:23 PM
ไอเดียทิ้งท้ายเฉียบขาดมากครับ

"เป็นคำถามทิ้งท้าย จากคนที่ต้องการเห็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งทั้งภายในจังหวัดชายแดนภาคใต้และสังคมไทยโดยรวมปราศจากอาวุธปืน เพื่อจะได้มีสันติสุขที่แท้จริงและยั่งยืน!!! "

ว่าแต่โจรมันจะยอมหรือ ???

การแจกอาวุธเพื่อตั้งกองกำลังติดอาวุธ ผมว่าไม่ดีแน่ แต่ชาวบ้านเขาไม่มีปัญญาซื้อปืนครับ มีไหมสวัสดิการชาวบ้าน หรือเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย แล้วให้เขาไปรับผิดชอบชีวิตตัวเอง (ในเวลาที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังไปไม่ถึง)

แน่นอนว่า การแก้ปัญหาใด ๆ ก็ควรเริ่มจากการเจรจาก่อน ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็ต้องมีคนกลาง ถ้ายังไม่ได้ความอีกก็ต้องรอมันลงมือก่อน เพราะใครลงมือก่อนย่อมเสียเปรียบในทางคดี ....



หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ARMSCOR ที่ เมษายน 17, 2007, 02:07:09 PM
ถ้าทุกคนทุกฝ่ายมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันต่างฝ่ายก็ต้องระมัดระวังตน ไม่กล้าที่จะใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น  สังเกตดูได้จากผู้คนที่อยู่ในสนามยิงปืนจะประพฤติตนค่อนข้างจะสุภาพ  ไม่เคยมีใครใช้ปืนไล่ยิงคนในสนามยิงปืน  เพราะทุกคนทราบดีว่าคนในสนามยิงปืนมีปืนและยิงปืนเป็นทุกคน  ประเทศที่มีอาวุธและกำลังทหารใกล้เคียงกันก็มักจะไม่ได้รบกันเพาะหากรบกันก็จะนำมาซึ่งความเสียหายอย่างหนักทั้งสองฝ่าย  ที่ผู้เขียนบทความกังวลใจเรื่องที่ชาวพุทธมีอาวุธปืนแต่ไม่สามารถใช้ป้องกันตนเองได้  ก็เป็หน้าที่ของรัฐที่จะต้องช่วยฝึกฝนอบรมผู้มีอาวุธปืนให้ใช้อาวุธปืนได้อย่างมีประสิทธิภาพเมือนเช่นชาวอิรักที่สามารถใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพต่ำต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาที่ใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าได้  ส่วนการที่ผู้เขียนบทความกังวลว่าชาวมุสลิมจะน้อยใจที่ไม่มีอาวุธนั้น  เห็นว่าสำหรับชาวมุสลิมที่เป็นคนดี รัฐก็ควรจัดหาอาวุธให้เช่นกันเพื่อไม่ให้เขาต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนไม่ดี  หากทุกฝ่ายมีอาวุธและสามารถใช้อาวุธได้อย่างทัดเทียมกันแล้วปัญหาความรุนแรงจะค่อยๆลดลงเอง  ส่วนความคิดของผู้เขียนบทความที่ต้องการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้อาวุธเป็นเพียงแค่ความฝันที่ไม่อาจเป็นจริง  เพราะตำรวจทหารยังมีอาวุธ  โจรยังมีอาวุธ   แล้วจะไม่ให้ประชาชนมีอาวุธได้อย่างไร ::) ::) ::) ::)


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 17, 2007, 02:10:26 PM
เวลาเดียวที่พลเมืองดีไม่ต้องการปืน ...คือหลังจากโดนฆ่าตายไปแล้ว


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: e.k.1911 ที่ เมษายน 17, 2007, 02:35:09 PM
ยังไงๆคนดีๆที่มีปืน  ก็ยังมีน้อยกว่าพวกโจรชั่วที่มีปืนหรือมีมากกว่าปืน :( :( :(


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ เมษายน 17, 2007, 03:04:42 PM
เก็บปืนให้หมดทุกคนน่ะ ดีที่สุดในโลก... แต่ถ้าเก็บปืนได้ไม่หมด ปืนที่เหลืออยู่ในมือก็จะทำให้สมดุลย์เปลี่ยน...

ใครเขาจะยอมมือเปล่าๆปลี้ๆ... แล้วท่องเอาไว้ในใจว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร... เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร... เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร...

พอท่องได้ครบสามครั้งเชื่อเหอะ ต้องเปลี่ยนมาท่องใหม่ว่า... ทำไมเรื่องเวรๆ ต้องมาอยู่กับกรู เรื่องอะไรกรูจะยอมมือเปล่าเล่าว้า... ฮา


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ เมษายน 17, 2007, 03:58:15 PM
ถ้าทุกคนทุกฝ่ายมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันต่างฝ่ายก็ต้องระมัดระวังตน ไม่กล้าที่จะใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น  สังเกตดูได้จากผู้คนที่อยู่ในสนามยิงปืนจะประพฤติตนค่อนข้างจะสุภาพ  ไม่เคยมีใครใช้ปืนไล่ยิงคนในสนามยิงปืน  เพราะทุกคนทราบดีว่าคนในสนามยิงปืนมีปืนและยิงปืนเป็นทุกคน  ประเทศที่มีอาวุธและกำลังทหารใกล้เคียงกันก็มักจะไม่ได้รบกันเพาะหากรบกันก็จะนำมาซึ่งความเสียหายอย่างหนักทั้งสองฝ่าย  ที่ผู้เขียนบทความกังวลใจเรื่องที่ชาวพุทธมีอาวุธปืนแต่ไม่สามารถใช้ป้องกันตนเองได้  ก็เป็หน้าที่ของรัฐที่จะต้องช่วยฝึกฝนอบรมผู้มีอาวุธปืนให้ใช้อาวุธปืนได้อย่างมีประสิทธิภาพเมือนเช่นชาวอิรักที่สามารถใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพต่ำต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาที่ใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าได้  ส่วนการที่ผู้เขียนบทความกังวลว่าชาวมุสลิมจะน้อยใจที่ไม่มีอาวุธนั้น  เห็นว่าสำหรับชาวมุสลิมที่เป็นคนดี รัฐก็ควรจัดหาอาวุธให้เช่นกันเพื่อไม่ให้เขาต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนไม่ดี  หากทุกฝ่ายมีอาวุธและสามารถใช้อาวุธได้อย่างทัดเทียมกันแล้วปัญหาความรุนแรงจะค่อยๆลดลงเอง  ส่วนความคิดของผู้เขียนบทความที่ต้องการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้อาวุธเป็นเพียงแค่ความฝันที่ไม่อาจเป็นจริง  เพราะตำรวจทหารยังมีอาวุธ  โจรยังมีอาวุธ   แล้วจะไม่ให้ประชาชนมีอาวุธได้อย่างไร ::) ::) ::) ::)

 ;) เห็นด้วยตามนี้เลยครับ


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: lp1921 ที่ เมษายน 17, 2007, 04:10:09 PM
เก็บปืนให้หมดทุกคนน่ะ ดีที่สุดในโลก... แต่ถ้าเก็บปืนได้ไม่หมด ปืนที่เหลืออยู่ในมือก็จะทำให้สมดุลย์เปลี่ยน...

ใครเขาจะยอมมือเปล่าๆปลี้ๆ... แล้วท่องเอาไว้ในใจว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร... เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร... เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร...

พอท่องได้ครบสามครั้งเชื่อเหอะ ต้องเปลี่ยนมาท่องใหม่ว่า... ทำไมเรื่องเวรๆ ต้องมาอยู่กับกรู เรื่องอะไรกรูจะยอมมือเปล่าเล่าว้า... ฮา


เห็นด้วยกับท่านสมชายครับ


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ChatKLF-รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2007, 05:25:23 PM
ถ้าทุกคนทุกฝ่ายมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันต่างฝ่ายก็ต้องระมัดระวังตน ไม่กล้าที่จะใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น สังเกตดูได้จากผู้คนที่อยู่ในสนามยิงปืนจะประพฤติตนค่อนข้างจะสุภาพ ไม่เคยมีใครใช้ปืนไล่ยิงคนในสนามยิงปืน เพราะทุกคนทราบดีว่าคนในสนามยิงปืนมีปืนและยิงปืนเป็นทุกคน ประเทศที่มีอาวุธและกำลังทหารใกล้เคียงกันก็มักจะไม่ได้รบกันเพาะหากรบกันก็จะนำมาซึ่งความเสียหายอย่างหนักทั้งสองฝ่าย ที่ผู้เขียนบทความกังวลใจเรื่องที่ชาวพุทธมีอาวุธปืนแต่ไม่สามารถใช้ป้องกันตนเองได้ ก็เป็หน้าที่ของรัฐที่จะต้องช่วยฝึกฝนอบรมผู้มีอาวุธปืนให้ใช้อาวุธปืนได้อย่างมีประสิทธิภาพเมือนเช่นชาวอิรักที่สามารถใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพต่ำต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาที่ใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าได้ ส่วนการที่ผู้เขียนบทความกังวลว่าชาวมุสลิมจะน้อยใจที่ไม่มีอาวุธนั้น เห็นว่าสำหรับชาวมุสลิมที่เป็นคนดี รัฐก็ควรจัดหาอาวุธให้เช่นกันเพื่อไม่ให้เขาต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนไม่ดี หากทุกฝ่ายมีอาวุธและสามารถใช้อาวุธได้อย่างทัดเทียมกันแล้วปัญหาความรุนแรงจะค่อยๆลดลงเอง ส่วนความคิดของผู้เขียนบทความที่ต้องการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้อาวุธเป็นเพียงแค่ความฝันที่ไม่อาจเป็นจริง เพราะตำรวจทหารยังมีอาวุธ โจรยังมีอาวุธ แล้วจะไม่ให้ประชาชนมีอาวุธได้อย่างไร ::) ::) ::) ::)

 ;) เห็นด้วยตามนี้เลยครับ

เห็นด้วยครับ....แต่ก็ยากที่จะแยกแยะคนดี-คนร้าย


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: SEK ที่ เมษายน 17, 2007, 07:26:15 PM
.....เฮ้อ.!!..อ่านแล้วจะมีใครว่าผมเป็นคนให้ข่าวอีกมั้ยเนี่ย.... ??? :'(


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ เมษายน 17, 2007, 07:45:30 PM
    คิดไม่ออกจริงๆ มันจะจบลงยังไง  :OO


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ เมษายน 17, 2007, 08:08:42 PM
.....เฮ้อ.!!..อ่านแล้วจะมีใครว่าผมเป็นคนให้ข่าวอีกมั้ยเนี่ย.... ??? :'(

5 5 ขอเพียงมีผู้เริ่มชูธงครับคุณเสก......... ;)

.......ต้องชมผู้เขียนรายงานนี้ว่าทำการบ้านมาดี.......  :~) :~)





หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: bigbuffalo ที่ เมษายน 17, 2007, 08:12:50 PM
เห็นด้วย


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ เมษายน 17, 2007, 08:33:58 PM
เป็นบทความที่ดีมากๆครับ แต่ข้อความทิ้งท้ายนี่น่ากลัวจัง


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: AR15 ที่ เมษายน 17, 2007, 08:40:15 PM
ระวังเป็นอย่างติมอร์ ความหวาดระแวงระหว่างชาวบ้านด้วยกันเอง หากปล่อยให้ชาวบ้านแก้ปัญหากันเองโดยอารมย์ และ ขาดทิศทาง เมื่อคุมไม่อยู่ ก็จะเป็นอย่างติมอร์ แบ่งฝ่าย แก้แค้น แล้วก็ แก้แค้น (เข้าล็อคเขาพอดี) แล้วก็จะได้เห็นภาคใต้จลาจล UN ก็จะเข้ามาจัดการ แล้วก็เกิดการแยกประเทศ (ตรงตามสูตร)

ท่านๆที่โหยหาการได้พกปืนอย่างเสรี กระเหี้ยมกระหืออยากใช้ปืน เอาเรื่องนี้เป็นคำตอบเลยครับ
นี่คือความเป็นจริงของเรื่องพกปืน แม้แต่ที่ภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหารุนแรง ยังยากที่จะเปิดเสรีให้พกได้
แล้ว หลายท่านซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นปกติเรียกร้องหาการพกปืนอย่างเสรี เนื่องด้วยคิดว่าทุกย่อมหญ้าเป็นที่อันตรายเหลือเกิน ตามความเป็นจริงหากในจังหวัดท่านให้พกปืนได้อย่างเสรี เดินออกไปข้างนอกบ้านก็เห็นคนพกปืนกันให้เกลื่อน เป็นเรื่องปกติ เพราะท่านคิดว่าเมืองไทยเป็นเมืองอันตราย ไม่มีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน
จากสยามเมืองยิ้ม ก็จะกลายเป็น สยามเมืองปืน(แดนจังโก้)  ท่านคิดว่าสังคมนั้นเป็นสังคมที่น่าอยู่หรือเปล่าครับ  ท่านคิดว่าคนเมื่อทะเลาะกันจะมีคนเป็นคนดี ที่สามารถควบคุมอารมย์ยับยั้งไม่ให้ใช้ปืนแก้ปัญหาได้ซักกี่คน 

ผมเห็นด้วยกับการมีปืนได้เสรี แต่ไม่เห็นด้วยกับการให้พกพา เพราะระดับจิตใจคนไม่เท่ากัน แต่ภาคใต้ไม่รู้ซิ โจรกับชาวบ้านมันปนกันไปหมด 


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: makarms ที่ เมษายน 17, 2007, 09:28:55 PM
เก็บปืนให้หมดทุกคนน่ะ ดีที่สุดในโลก... แต่ถ้าเก็บปืนได้ไม่หมด ปืนที่เหลืออยู่ในมือก็จะทำให้สมดุลย์เปลี่ยน...

ใครเขาจะยอมมือเปล่าๆปลี้ๆ... แล้วท่องเอาไว้ในใจว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร... เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร... เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร...

พอท่องได้ครบสามครั้งเชื่อเหอะ ต้องเปลี่ยนมาท่องใหม่ว่า... ทำไมเรื่องเวรๆ ต้องมาอยู่กับกรู เรื่องอะไรกรูจะยอมมือเปล่าเล่าว้า... ฮา
;D ;D ด้วยความเคารพครับ ใช่เลยครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 17, 2007, 09:33:00 PM
.....เฮ้อ.!!..อ่านแล้วจะมีใครว่าผมเป็นคนให้ข่าวอีกมั้ยเนี่ย.... ??? :'(


ไม่เอาน่า....  อย่าคิดมาก     ไม่เอาน่า......  อย่าคิดไปกันใหญ่         ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Mango ที่ เมษายน 17, 2007, 10:24:10 PM
เฮ้อ....ประเทศไทยต่อไปจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟังได้ละ
ขนาดเมืองหลวงกรุงเทพมหานครคนไทยยังทะเลาะกันจะเป็นจะตาย
แล้วยังงี้ปัญหาภาคใต้จะแก้กันได้อย่างไรครับ...
รักกันไว้ดีกว่า...ถ้าให้อภัยกันได้ก็ลองให้อภัยกันนะครับ แล้วสังคมก็จะน่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger9 ที่ เมษายน 17, 2007, 11:45:35 PM
 :o  อาวุธปืน ระดับชาวบ้าน คือการคานอำนาจ เมื่อบทบาทภาครัฐยังไม่สามารถปกป้อง ชาวพุทธได้จริง
      ท่องกันไป สมานฉันท์ มาถูกทางแล้ว  .............ถูกทางโจร รึปล่าวครับท่าน นับศพที่ล่วงทุกวัน ใครจะมาช่วยได้ครับ
      วังเวง จริง ๆ


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ เมษายน 18, 2007, 01:03:26 AM
แต่ไม่เห็นด้วยกับการให้พกพา เพราะระดับจิตใจคนไม่เท่ากัน

ก็เพราะตรงนั้นแหละ ที่ทำให้ทุกคนอยากมีปืนไว้ใกล้ๆตัว 


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: feen ที่ เมษายน 18, 2007, 02:12:18 AM
ยังมีหลายอย่าง ที่ถูกปิดบัง ความคิดของผมนะครับ ผู้ใหญ่บ้านคนนี้พูด เหมือนกับว่ามุสลิม เป็นคนไม่ดี  แต่พี่ๆ เคยสังเกต หรือไม่ว่า มุสลิมก็ตายไปไม่น้อยเหมือนกัน ชาวไทยพุทธพอถูกยิงตายก็เป็นข่าวหน้า1 แต่มุศลิมตาย กลับกลายเป็นข่าวลือ   ยกตัวอย่างเช่น 1.ชาวสวนยางที่เป็นมุสลิมไปทำมาหากินในเขต อ. สะบ้าย้อย ถูกขู่จาก พวกโจรว่า "ห้ามเข้ามาตัดยางอีกไม่เช่นนั้นจะถูกยิง "แล้วมันก็ยิงจริงๆด้วย ผลสรุป มุสลิมตายไปเกือบ10 คน ภายในเวลา 1 เดือน แต่ไม่มีข่าวลงหน้า1     2.ย้อนกลับไปคดียิงผู้ใหญ่บ้านที่ต.นาเกตุ แล้วผู้ใหญ่บ้านสวนกลับ ถ้าผมจำไม่ผิดโจรตาย3คน สาเหตุที่ผู้ใหญ่บ้านถูกยิง ก็คือ  เป็นสายให้ทางรัฐบาล  แล้วรับเงินหลวง(เงินเดือน) ผู้ใหญ่บ้านเป็นมุสลิม   3.เจอกับตัวเองครับพี่น้อง ในคืนก่อนวัน ฮารีรายอ คือวันปีใหม่ของมุสลิม คืนนั้นเป็นเวลา 3 ทุ่มโดยประมาณ ผมขับรถมอไซค์ออกจากอ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มาอ.สบ้าย้อยจ.สงขลา ระยะทางประมาณ10 ก.ม. (2 อำเภอนี้อยู่ติดกันแต่คนละจังหวัด) พอดีว่ามีวัยรุ่น2คน เป็นมุสลิม ได้ขับรถมอไซค์คนหน้าขับคนหลังจุดประทัด (เสียงดังคล้ายปืน แต่ดังน้อยกว่าปืน)พอเข้าเขต หมู่บ้านของไทยพุทธเชื่อหรือไม่ คนไทยพุทธกว่า50คน พร้อมอาวุธครบมือ มีทั้ง m-16 ประมาณ10กระบอก  hkที่มีกระบอกใหญ่ๆอยู่ด้านล่างประมาณประมาณ5กระบอก นอกนั้นเป็นปืนลูกซองประมาณ30กระบอกนอกนั้น เป็นปืนพกสั้น หมดเลย ทุกคนวิ่งกรูเข้ามากะว่าเอาให้เละ และมีปืนหลายกระบอกที่ส่องมาทางเด็กพวกนั้น แต่ดีนะครับ ทหารมาก่อนไม่นั้นละก้อ คิดเอาเอง ตกลงก็คือนำตัวไปโรงพัก ผมนี้นะครับถึงกลับตาค้างเลย  แต่มีผู้ชายคนหนึ่งพูดว่า คนพวกนี้น่าจะยิงให้หมด แต่ผมมองย้อนกลับไปว่าคนเหล่านี้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดามีอาวุธพวกนั้นได้ยังไง?  สรุปว่าคนที่เจ็บเป็นชาวไทยพุทธอย่างเดียวหรือครับ  แล้วชาวไทยเชื้อสายมุสลิมไม่เจ็บหรอกหรือ?   แบ่งแยกกันทำไมทำไมไม่ร่วมมือกัน  ว้าอินไปเยอะเลย


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ เมษายน 18, 2007, 04:13:25 AM
การติดอาวุธให้ประชาชน ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่ของใหม่  ในยุคหนึ่งรัฐไทย เคยติดอาวุธให้ ชุมชนท้องถิ่น , ชนชาติพันธุ์ส่วนน้อย , กองกำลังอพยพ  เพื่อใช้เป็นเครืองมือทางการเมือง

กรณีสงครามกลางเมือง  ย่อมมีการจัดตั้งกลุ่มทางการเมืองก่อน แล้วจึงสรรหาอาวุธ   นั้นเป็นการแสดงว่า อาวุธที่สำคัญคืออาวุธทางความคิด  ถ้าติดอาวุธทางความคิดได้  ไม่ว่าฝ่ายไหนก็แล้วแต่  อาวุธที่เป็นวัตถุย่อมหาได้ไม่ยาก

การมองปัญหาจากบทความนี้ เป็นการมองสะท้อนปลายเหตุ  และที่แปลกคือ ผู้เขียนพยายามเสนอแนวทางแก้ปัญหาโดยยึดติดกะบริบทปลายเหตุเท่านั้น 

แนวทางที่ว่า "ถ้าไม่มีปืน ความรุนแรงจะไม่มี"  ตัวอย่างกรณีความวุ่นวายล่าสุด  กลุ่มก่อการก็ไม่ได้มีการติดอาวุธแต่แรกเริ่ม เพียงแต่ปลูกฝังแนวคิดการต่อสู้เอาไว้ บ่มฝักจนถึงขนาด แล้วค่อยแสวงหาอาวุธภายหลัง 

เคยมี ทหารระดับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ให้สัมภาษณ์เมื่อกลางปีที่แล้วว่า  ถ้าเราสามารถควบคุมการใช้โทรศัพท์มือถือ  สกัดกันแหล่งที่มาของวัตถุระเบิด ได้แล้วเราจะควบคุมสถานะการณ์ไว้ได้  แต่ข้อเท็จจริงภายหลังจากนั้น คือ ผู้ก่อการร้ายสามารถดัดแปลงการจุดระเบิดจากวิธีการอื่นได้  สามารถผลิตระเบิดจากสารเคมีตามท้องตลาดได้  สามารถก่อเหตุจากวิธีการง่ายๆ เช่น ใบปลิว  วางเพลิง  ใช้มีดฟันชาวบ้าน ฯลฯ

ในทางกลับกัน  ถ้ากลุ่มพลังมวลชนอีกฝ่ายต้องการจะทำสงครามกลางเมือง  ต่อให้เขาไม่สามารถขออนุญาตซื้อปืนได้  เขาก็สามารถดำเนินการได้เหมือนกัน  เริ่มจากแนวคิดทางการเมือง  แล้วระดมพลัง เพื่อสะสมอาวุธอย่างลับๆ  แม้ไม่มีปืน ก็สามารถก่อเหตุการณ์ได้  ตัวอย่าง ในติมอร์ , แอฟริกาใต้ อาวุธส่วนใหญ่ของกลุ่มจราจลกลับเป็น มีดและของมีคม มากกว่าที่จะเป็นปืน  และเมื่อเหตุการณ์สุกงอมก็สามารสรรหาอาวุธสมรรถนะสูงมาใช่ได้ภายหลังเหมือนกัน

จากบทความต้นเรื่อง การติดอาวุธให้กะประชาชนสุจริต  นอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ยังเป็นการป้องกันปัญหา การแก้แค้นโดยไร้ขอบเขตได้อีก ซึ่งเท่ากะว่าเป็นการป้องกันสงครามกลางเมืองได้ทางอ้อมอีกทางหนึ่ง

เพราะรัฐจะต้องคัดสรรบุคคลที่จะมาถือครองอาวุธ และคนที่มีอาวุธก็มีรายชื่ออยู่ในสารบบของรัฐทั้งหมดอยู่แล้ว  หมายความว่ารัฐสามารถส่งที่ปรึกษา หรือแกนนำ มาดำเนินการฝึกอบรมและให้คำแนะนำได้   รัฐสามารถให้คุณให้โทษแก่กลุ่มคนเหล่านี้ได้  ซึ่ง แกนนำอาจมีบทบาท ยับยั้งการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งได้ตั้งแต่ต้น หรือให้คำแนะนนำเชิงสมานฉันท์แก่สมาชิก และ หากมีการพลังพลาดอะไรไป ก็สามารถยุติการกระทำนั้นๆได้อย่างทันท่วงที สามารถเยียวยาผู้เสียหายได้  การให้ ถือครองอาวุธ บางครั้งเป็นความหมายโดนนัยว่า บุคคลกลุ่มนั้นได้รับความไว้วางใจจากรัฐ พวกเขาเหล่านั้นย่อมมีกำลังใจที่จะทำงานเสียสละ  จะเห็นได้ชัดจากพี่น้องมุสลิม  ถ้าเขาได้รับความไว้วางใจให้ถือปืน ความคลางแคลงใจที่มีต่อรัฐของพี่น้องกลุ่มนั้นก็ลดลง 






หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Wrangler 1 ที่ เมษายน 18, 2007, 05:27:17 AM
ยังมีหลายอย่าง ที่ถูกปิดบัง ความคิดของผมนะครับ ผู้ใหญ่บ้านคนนี้พูด เหมือนกับว่ามุสลิม เป็นคนไม่ดี แต่พี่ๆ เคยสังเกต หรือไม่ว่า มุสลิมก็ตายไปไม่น้อยเหมือนกัน ชาวไทยพุทธพอถูกยิงตายก็เป็นข่าวหน้า1 แต่มุศลิมตาย กลับกลายเป็นข่าวลือ ยกตัวอย่างเช่น 1.ชาวสวนยางที่เป็นมุสลิมไปทำมาหากินในเขต อ. สะบ้าย้อย ถูกขู่จาก พวกโจรว่า "ห้ามเข้ามาตัดยางอีกไม่เช่นนั้นจะถูกยิง "แล้วมันก็ยิงจริงๆด้วย ผลสรุป มุสลิมตายไปเกือบ10 คน ภายในเวลา 1 เดือน แต่ไม่มีข่าวลงหน้า1 2.ย้อนกลับไปคดียิงผู้ใหญ่บ้านที่ต.นาเกตุ แล้วผู้ใหญ่บ้านสวนกลับ ถ้าผมจำไม่ผิดโจรตาย3คน สาเหตุที่ผู้ใหญ่บ้านถูกยิง ก็คือ เป็นสายให้ทางรัฐบาล แล้วรับเงินหลวง(เงินเดือน) ผู้ใหญ่บ้านเป็นมุสลิม  3.เจอกับตัวเองครับพี่น้อง ในคืนก่อนวัน ฮารีรายอ คือวันปีใหม่ของมุสลิม คืนนั้นเป็นเวลา 3 ทุ่มโดยประมาณ ผมขับรถมอไซค์ออกจากอ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มาอ.สบ้าย้อยจ.สงขลา ระยะทางประมาณ10 ก.ม. (2 อำเภอนี้อยู่ติดกันแต่คนละจังหวัด) พอดีว่ามีวัยรุ่น2คน เป็นมุสลิม ได้ขับรถมอไซค์คนหน้าขับคนหลังจุดประทัด (เสียงดังคล้ายปืน แต่ดังน้อยกว่าปืน)พอเข้าเขต หมู่บ้านของไทยพุทธเชื่อหรือไม่ คนไทยพุทธกว่า50คน พร้อมอาวุธครบมือ มีทั้ง m-16 ประมาณ10กระบอก hkที่มีกระบอกใหญ่ๆอยู่ด้านล่างประมาณประมาณ5กระบอก นอกนั้นเป็นปืนลูกซองประมาณ30กระบอกนอกนั้น เป็นปืนพกสั้น หมดเลย ทุกคนวิ่งกรูเข้ามากะว่าเอาให้เละ และมีปืนหลายกระบอกที่ส่องมาทางเด็กพวกนั้น แต่ดีนะครับ ทหารมาก่อนไม่นั้นละก้อ คิดเอาเอง ตกลงก็คือนำตัวไปโรงพัก ผมนี้นะครับถึงกลับตาค้างเลย แต่มีผู้ชายคนหนึ่งพูดว่า คนพวกนี้น่าจะยิงให้หมด แต่ผมมองย้อนกลับไปว่าคนเหล่านี้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดามีอาวุธพวกนั้นได้ยังไง? สรุปว่าคนที่เจ็บเป็นชาวไทยพุทธอย่างเดียวหรือครับ แล้วชาวไทยเชื้อสายมุสลิมไม่เจ็บหรอกหรือ? แบ่งแยกกันทำไมทำไมไม่ร่วมมือกัน ว้าอินไปเยอะเลย

 ??? ??? ??? ??? :-\ :-\ :-\ :-\  อ้าว......ก็ท่านปฎิบัติตามหน้าที่ข้าราชการที่ดี ไม่ใช่หรือ  ??? ??? ??? ??? :-\ :-\ :-\ :-\


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 18, 2007, 08:17:57 AM
นั่นซิครับ พี่ Wrangler 1 .....  เหมือนกับว่าดินแดนนั้นไม่ใช่ของประเทศไทยเลยเนอะ ข้อหาที่โจรตั้งให้ผู้ใหญ่บ้าน... ว่าแต่ว่าท่านทราบไหมครับว่าโจรคือใคร ถ้าทราบรบกวนช่วยบอกเจ้าหน้าที่รัฐบาลด้วยนะครับแบบลับ ๆ ก็ได้


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 18, 2007, 08:33:18 AM
คุณ feen ครับ ที่คุณเล่ามาผมจะไม่ขอโต้แย้งนะครับ แต่อยากบอกว่านั่นคงจะเป็นความรู้สึกคับแค้นใจของคนไทยพุทธที่โดนกระทำมาโดยตลอดทั้ง ๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และที่สำคัญความร่วมมือถ้าว่ากันจริง ๆ แล้วจากคนมุสลิมนั้นมีน้อยมากเพราะเค้าส่วนใหญ่ยังยึดติดเรื่องในอดีตอย่างเดียว ถ้าลองช่วยกันบอกเจ้าหน้าที่แม้ไม่กล้าบอกต่อหน้าก็บอกลับหลังหรือมีวิธี่ส่งข้อมูลให้รัฐได้อีกหลายวิธีนี่ครับ แต่ทำไมไม่ค่อยจะทำกัน มันเหมือนกับเด็กต่อยกันนั้นแหละครับพอถึงเวลาคนที่โดนต่อยอยู่บ่อย ๆ ก็ฮึดสู้ขอสวนกลับไปบ้างมันก็เจ็บทั้งสองฝ่าย


ผมลงไปปฎิบัติหน้าที่เพื่อพัฒนาให้คนในพื้นที่ดีขึ้น แต่รู้ไหมว่าไปถึงผมได้รับคำขู่ต่าง ๆ นานา แต่ผมไม่สน เพราะผมถือว่าแผ่นดินนี้คือประเทศไทยไม่ใช่ของโจร ของอย่างนี้ไม่โดนกับตัวไม่รู้หรอกครับ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเลยสอนว่า เอ๊ย "ทำไมตอนไปทำงานที่อื่นไม่โดนอย่างนี้ว่ะ  ทั้ง ๆ ที่ปฎิบัติตัวเหมือนกัน แถมไม่ค่อยจะสุงสิงกับใครถ้าไม่สนิท" คุณ feen ให้คำตอบได้ไหมครับว่าทำไมผมจึงโดนการกระทำเช่นนั้นตอบแทนกลับมา ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยไปทำอะไรพวกเค้าเลย ผมมีแต่ให้กับให้อย่างเดียว


เพราะฉะนั้นของแบบนี้มันคือหมู่รวมไม่ใช่หมู่เดียวจะเอามาตัดสินใจว่าถูกหรือไม่ถูกไม่ได้  ถ้าวันนั้นผมตัดสินใจ"เกลี่ยด"ไม่ปฎิบัติหน้าที่ตามสมควรที่จะกระทำ คุณว่ามันจะดีไหมล่ะ แต่จนถึงทุกวันนี้ผมขอเจ็บแล้วจำแต่หน้าที่ผมยังปฎิบัติตามปรกติไม่เอากลุ่มน้อยมาทำให้กลุ่มมากต้องเสียหาย.... 


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Iron ที่ เมษายน 18, 2007, 08:45:20 AM
ยังมีหลายอย่าง ที่ถูกปิดบัง ความคิดของผมนะครับ ผู้ใหญ่บ้านคนนี้พูด เหมือนกับว่ามุสลิม เป็นคนไม่ดี  แต่พี่ๆ เคยสังเกต หรือไม่ว่า มุสลิมก็ตายไปไม่น้อยเหมือนกัน ชาวไทยพุทธพอถูกยิงตายก็เป็นข่าวหน้า1 แต่มุศลิมตาย กลับกลายเป็นข่าวลือ   ยกตัวอย่างเช่น 1.ชาวสวนยางที่เป็นมุสลิมไปทำมาหากินในเขต อ. สะบ้าย้อย ถูกขู่จาก พวกโจรว่า "ห้ามเข้ามาตัดยางอีกไม่เช่นนั้นจะถูกยิง "แล้วมันก็ยิงจริงๆด้วย ผลสรุป มุสลิมตายไปเกือบ10 คน ภายในเวลา 1 เดือน แต่ไม่มีข่าวลงหน้า1     2.ย้อนกลับไปคดียิงผู้ใหญ่บ้านที่ต.นาเกตุ แล้วผู้ใหญ่บ้านสวนกลับ ถ้าผมจำไม่ผิดโจรตาย3คน สาเหตุที่ผู้ใหญ่บ้านถูกยิง ก็คือ  เป็นสายให้ทางรัฐบาล  แล้วรับเงินหลวง(เงินเดือน) ผู้ใหญ่บ้านเป็นมุสลิม   3.เจอกับตัวเองครับพี่น้อง ในคืนก่อนวัน ฮารีรายอ คือวันปีใหม่ของมุสลิม คืนนั้นเป็นเวลา 3 ทุ่มโดยประมาณ ผมขับรถมอไซค์ออกจากอ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มาอ.สบ้าย้อยจ.สงขลา ระยะทางประมาณ10 ก.ม. (2 อำเภอนี้อยู่ติดกันแต่คนละจังหวัด) พอดีว่ามีวัยรุ่น2คน เป็นมุสลิม ได้ขับรถมอไซค์คนหน้าขับคนหลังจุดประทัด (เสียงดังคล้ายปืน แต่ดังน้อยกว่าปืน)พอเข้าเขต หมู่บ้านของไทยพุทธเชื่อหรือไม่ คนไทยพุทธกว่า50คน พร้อมอาวุธครบมือ มีทั้ง m-16 ประมาณ10กระบอก  hkที่มีกระบอกใหญ่ๆอยู่ด้านล่างประมาณประมาณ5กระบอก นอกนั้นเป็นปืนลูกซองประมาณ30กระบอกนอกนั้น เป็นปืนพกสั้น หมดเลย ทุกคนวิ่งกรูเข้ามากะว่าเอาให้เละ และมีปืนหลายกระบอกที่ส่องมาทางเด็กพวกนั้น แต่ดีนะครับ ทหารมาก่อนไม่นั้นละก้อ คิดเอาเอง ตกลงก็คือนำตัวไปโรงพัก ผมนี้นะครับถึงกลับตาค้างเลย  แต่มีผู้ชายคนหนึ่งพูดว่า คนพวกนี้น่าจะยิงให้หมด แต่ผมมองย้อนกลับไปว่าคนเหล่านี้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดามีอาวุธพวกนั้นได้ยังไง?  สรุปว่าคนที่เจ็บเป็นชาวไทยพุทธอย่างเดียวหรือครับ  แล้วชาวไทยเชื้อสายมุสลิมไม่เจ็บหรอกหรือ?   แบ่งแยกกันทำไมทำไมไม่ร่วมมือกัน  ว้าอินไปเยอะเลย

ที่ปัตตานีเมื่อ 2-3 ปี่ก่อน เด็กวัยรุ่นไทยพุธก็เล่นแบบเดียวกันนี้แหละ คือโยนประทัดใส่ทหารที่กำลังเข้าเวรในตอนกลางคืน  ผลคือ ทหารตกใจนึกว่าโดนโจมตี เลยยิงสวน ตายคาที่

พ่อแม่ของเด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง  ไม่เอาเรื่องทหารที่ยิง เพราะถือว่าเหตุสุดวิสัย และทหารไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

ลองนึกดีๆ  ถ้าเด็กคนนั้นเป็นมุสลิม  ไม่ประท้วงไล่ทหารออกนอกพื่นที่ เพราะถือพรรคพวคแบบผิดๆหรือ  พวกตัวเองไม่เคยผิดแบบนี้อยู่ที่ไหนแผ่นดินก็ลุกเป็นไฟ.....  :~)  :~)


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 18, 2007, 09:07:12 AM
เก็บปืนให้หมดทุกคนน่ะ ดีที่สุดในโลก... แต่ถ้าเก็บปืนได้ไม่หมด ปืนที่เหลืออยู่ในมือก็จะทำให้สมดุลย์เปลี่ยน...


คนแก่ คนตัวเล็ก เด็ก ก็แย่สิครับพี่สมชาย อิ อิ


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ เมษายน 18, 2007, 09:28:50 AM
อ้างจาก: นายสมชาย(ฮา) ที่ เมื่อวานนี้ เวลา 03:04:19 PM
เก็บปืนให้หมดทุกคนน่ะ ดีที่สุดในโลก... แต่ถ้าเก็บปืนได้ไม่หมด ปืนที่เหลืออยู่ในมือก็จะทำให้สมดุลย์เปลี่ยน...

ใครเขาจะยอมมือเปล่าๆปลี้ๆ... แล้วท่องเอาไว้ในใจว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร... เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร... เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร...

พอท่องได้ครบสามครั้งเชื่อเหอะ ต้องเปลี่ยนมาท่องใหม่ว่า... ทำไมเรื่องเวรๆ ต้องมาอยู่กับกรู เรื่องอะไรกรูจะยอมมือเปล่าเล่าว้า... ฮา

  ด้วยความเคารพครับ ใช่เลยครับ 


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ เมษายน 18, 2007, 10:11:51 AM
ยอมรับว่าส่วนหนึ่งชาวบ้านต้องการปืน เพราะความอ่อนแอของอำนาจรัฐครับ


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 18, 2007, 10:19:37 AM
ข้อความโดย: ชัช.....Iron 
ใส่การอ้างถึงคำพูด

ที่ปัตตานีเมื่อ 2-3 ปี่ก่อน เด็กวัยรุ่นไทยพุธก็เล่นแบบเดียวกันนี้แหละ คือโยนประทัดใส่ทหารที่กำลังเข้าเวรในตอนกลางคืน  ผลคือ ทหารตกใจนึกว่าโดนโจมตี เลยยิงสวน ตายคาที่

พ่อแม่ของเด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง  ไม่เอาเรื่องทหารที่ยิง เพราะถือว่าเหตุสุดวิสัย และทหารไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

ลองนึกดีๆ  ถ้าเด็กคนนั้นเป็นมุสลิม  ไม่ประท้วงไล่ทหารออกนอกพื่นที่ เพราะถือพรรคพวคแบบผิดๆหรือ  พวกตัวเองไม่เคยผิดแบบนี้อยู่ที่ไหนแผ่นดินก็ลุกเป็นไฟ.....     





ใช่  ถูกต้อง


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: mETEr ที่ เมษายน 18, 2007, 11:39:36 AM
อ้างถึง
ยังมีหลายอย่าง ที่ถูกปิดบัง ความคิดของผมนะครับ ผู้ใหญ่บ้านคนนี้พูด เหมือนกับว่ามุสลิม เป็นคนไม่ดี แต่พี่ๆ เคยสังเกต หรือไม่ว่า มุสลิมก็ตายไปไม่น้อยเหมือนกัน ชาวไทยพุทธพอถูกยิงตายก็เป็นข่าวหน้า1 แต่มุศลิมตาย กลับกลายเป็นข่าวลือ ยกตัวอย่างเช่น 1.ชาวสวนยางที่เป็นมุสลิมไปทำมาหากินในเขต อ. สะบ้าย้อย ถูกขู่จาก พวกโจรว่า "ห้ามเข้ามาตัดยางอีกไม่เช่นนั้นจะถูกยิง "แล้วมันก็ยิงจริงๆด้วย ผลสรุป มุสลิมตายไปเกือบ10 คน ภายในเวลา 1 เดือน แต่ไม่มีข่าวลงหน้า1 2.ย้อนกลับไปคดียิงผู้ใหญ่บ้านที่ต.นาเกตุ แล้วผู้ใหญ่บ้านสวนกลับ ถ้าผมจำไม่ผิดโจรตาย3คน สาเหตุที่ผู้ใหญ่บ้านถูกยิง ก็คือ เป็นสายให้ทางรัฐบาล แล้วรับเงินหลวง(เงินเดือน) ผู้ใหญ่บ้านเป็นมุสลิม 3.เจอกับตัวเองครับพี่น้อง ในคืนก่อนวัน ฮารีรายอ คือวันปีใหม่ของมุสลิม คืนนั้นเป็นเวลา 3 ทุ่มโดยประมาณ ผมขับรถมอไซค์ออกจากอ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มาอ.สบ้าย้อยจ.สงขลา ระยะทางประมาณ10 ก.ม. (2 อำเภอนี้อยู่ติดกันแต่คนละจังหวัด) พอดีว่ามีวัยรุ่น2คน เป็นมุสลิม ได้ขับรถมอไซค์คนหน้าขับคนหลังจุดประทัด (เสียงดังคล้ายปืน แต่ดังน้อยกว่าปืน)พอเข้าเขต หมู่บ้านของไทยพุทธเชื่อหรือไม่ คนไทยพุทธกว่า50คน พร้อมอาวุธครบมือ มีทั้ง m-16 ประมาณ10กระบอก hkที่มีกระบอกใหญ่ๆอยู่ด้านล่างประมาณประมาณ5กระบอก นอกนั้นเป็นปืนลูกซองประมาณ30กระบอกนอกนั้น เป็นปืนพกสั้น หมดเลย ทุกคนวิ่งกรูเข้ามากะว่าเอาให้เละ และมีปืนหลายกระบอกที่ส่องมาทางเด็กพวกนั้น แต่ดีนะครับ ทหารมาก่อนไม่นั้นละก้อ คิดเอาเอง ตกลงก็คือนำตัวไปโรงพัก ผมนี้นะครับถึงกลับตาค้างเลย แต่มีผู้ชายคนหนึ่งพูดว่า คนพวกนี้น่าจะยิงให้หมด แต่ผมมองย้อนกลับไปว่าคนเหล่านี้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดามีอาวุธพวกนั้นได้ยังไง? สรุปว่าคนที่เจ็บเป็นชาวไทยพุทธอย่างเดียวหรือครับ แล้วชาวไทยเชื้อสายมุสลิมไม่เจ็บหรอกหรือ? แบ่งแยกกันทำไมทำไมไม่ร่วมมือกัน ว้าอินไปเยอะเลย



อ้างถึง
ที่ปัตตานีเมื่อ 2-3 ปี่ก่อน เด็กวัยรุ่นไทยพุธก็เล่นแบบเดียวกันนี้แหละ คือโยนประทัดใส่ทหารที่กำลังเข้าเวรในตอนกลางคืน  ผลคือ ทหารตกใจนึกว่าโดนโจมตี เลยยิงสวน ตายคาที่

พ่อแม่ของเด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง  ไม่เอาเรื่องทหารที่ยิง เพราะถือว่าเหตุสุดวิสัย และทหารไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

ลองนึกดีๆ  ถ้าเด็กคนนั้นเป็นมุสลิม  ไม่ประท้วงไล่ทหารออกนอกพื่นที่ เพราะถือพรรคพวคแบบผิดๆหรือ  พวกตัวเองไม่เคยผิดแบบนี้อยู่ที่ไหนแผ่นดินก็ลุกเป็นไฟ.....     
[/b] [/u]


 


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ussr ที่ เมษายน 18, 2007, 01:18:26 PM
ดูข่าว อ่านข่าว ผมเห็นแต่เขาใช้ ระเบิด ซ้ะส่วนใหญ่นี่นา ...

แล้วผมจะเอาปืนไปทำอะไรหล่ะครับ พวกนั้นไม่ใช่โจรที่มาปีนบ้านผมนะครับ

หรืออีกอย่างเท่าที่ดูจากข่าว ส่วนมากก็โดนยิงก่อน ประจำ

สรุปอย่างโง่ๆ (ของผมคนเดียว) ผมซื้อมาพกให้เขายิงหัวแล้วเอาปืนผมไปใช้ใช่มั้ยครับ


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Egle ที่ เมษายน 18, 2007, 02:30:29 PM
พูดเรื่องภาคไต้มามากแล้ว
  ปืน ไม่สามาถ แก้ปัญหาดับไฟไต้ ได้ 
ต่อให้ ทุก คนมีปีน หรือ พกปืนได้อย่างเสรี  ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาภาคไต้ได้
หรือ เก็บ ปืนทั้ง หมด ใครที่มีปืน ( ยกเว้น ทหาร , ตร. ที่ปฏิบัติหน้าที่ ) ให้ถือว่าเป็น โจร ก็ไม่สามารถแก้ปัญหา ได้
 เพราะ ปัญหา มันไม่ได้อยู่ ที่ มี ปืน หรือ ไม่มีปืน  ปืนคงเป็นเพียงส่วน หนึ่ง หรือ องค์ ประกอบหนึ่งเท่านั้น พูดกัน 3 วันก็ไม่ จบ
 เหมือน ร่างกาย คน จะบอกว่า หัว สำคัญที่สุด พอปวดหัว แล้วก็มามุ่งแก้ปัญหาที่หัวอย่างเดียว   แล้วส่วนอื่นๆ ละ  หัวใจ  ตับ ปอด ลำใส้ เลือด  ฯลฯ


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ เมษายน 18, 2007, 02:44:54 PM
ข้อความโดย: ชัช.....Iron
ใส่การอ้างถึงคำพูด

ที่ปัตตานีเมื่อ 2-3 ปี่ก่อน เด็กวัยรุ่นไทยพุธก็เล่นแบบเดียวกันนี้แหละ คือโยนประทัดใส่ทหารที่กำลังเข้าเวรในตอนกลางคืน ผลคือ ทหารตกใจนึกว่าโดนโจมตี เลยยิงสวน ตายคาที่

พ่อแม่ของเด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง ไม่เอาเรื่องทหารที่ยิง เพราะถือว่าเหตุสุดวิสัย และทหารไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

ลองนึกดีๆ ถ้าเด็กคนนั้นเป็นมุสลิม ไม่ประท้วงไล่ทหารออกนอกพื่นที่ เพราะถือพรรคพวคแบบผิดๆหรือ พวกตัวเองไม่เคยผิดแบบนี้อยู่ที่ไหนแผ่นดินก็ลุกเป็นไฟ.....





ใช่ ถูกต้อง

ใช่  


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ เมษายน 18, 2007, 03:43:03 PM
ข้อความโดย: ชัช.....Iron
ใส่การอ้างถึงคำพูด

ที่ปัตตานีเมื่อ 2-3 ปี่ก่อน เด็กวัยรุ่นไทยพุธก็เล่นแบบเดียวกันนี้แหละ คือโยนประทัดใส่ทหารที่กำลังเข้าเวรในตอนกลางคืน ผลคือ ทหารตกใจนึกว่าโดนโจมตี เลยยิงสวน ตายคาที่

พ่อแม่ของเด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง ไม่เอาเรื่องทหารที่ยิง เพราะถือว่าเหตุสุดวิสัย และทหารไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

ลองนึกดีๆ ถ้าเด็กคนนั้นเป็นมุสลิม ไม่ประท้วงไล่ทหารออกนอกพื่นที่ เพราะถือพรรคพวคแบบผิดๆหรือ พวกตัวเองไม่เคยผิดแบบนี้อยู่ที่ไหนแผ่นดินก็ลุกเป็นไฟ.....





ใช่ ถูกต้อง

ใช่  


 :<><> :<><> :VOV: :VOV: ถูกใจใช่เลย :-* :-*


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: duriankuan 2499 ที่ เมษายน 18, 2007, 03:54:43 PM
ต้องให้คนรู้จักป้องกันตัวเองครับ  รัฐทำอะไรไม่สะดวก


หัวข้อ: Re: ปืน!"กลางไฟใต้" เครื่องมือสร้างสันติภาพหรือสงครามกลางเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: jony108 ที่ เมษายน 18, 2007, 10:57:06 PM
เห็นใจคนในพื้นที่  นึกถึงว่าเป็นตัวเราคงหาวิธีแก้ปัญหาทุกรูปแบบ  ด้วยความโกรธ กลัว ปกป้องศักศรีชุมชน  แต่คนในสถานะการณ์ลำบากอาจจะถูกบีบให้เข้าแผนร้ายของเขา   การมีคนนอกวิกฤติช่วยคิดอาจป้องกันความผิดพลาดได้      แต่อาจจะไม่ถูกใจ  อาจโดนตั้งคำถามว่ามาอยู่ในพื้นที่ดูเองซิ        อย่างไรเราคนไทยก็รักคนไทยมากกว่าคนนอก