เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ;Dไปวังไชยามาจึงเอามาฝาก เพื่อน ๆ ครับ

งงครับ

 8)

ลืมลงรูป รอแป๊ปนึง

งง เหมือนกันครับ แต่ทราบมาว่าตอนนี้ถ้ารับโอนปืนตอนนี้ต้องนำปืนไปตรวจ 2 ครั้ง ครั้งแรกตอนรับโอนตอนกรอกเอกสารขอใบ ป3 หลังจากนั้นพอใบป3 ออกให้นำปืนมาตรวจอีกครั้ง ก่อนป4 ออก ถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกแค่ว่าเป็นกฏระเบียบใหม่ครับ

(http://)

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ ......?????

ในความเห็นส่วนคิดว่า   เป็นการพยายามสร้างเงื่อนไขให้ยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆจนผู้ขออ่อนอกอ่อนใจไปเองครับ      เรียกมาให้ปากคำเพิ่มบ้างล่ะ   ให้เสียค่ารถต้องลางานเพิ่ม   แม้ว่าจะทำเรื่องแนบไปแล้วก็จะให้มา  มาถึงก็ให้มากรอกเอกสารเพิ่มคงชอบให้เขียนไม่ชอบให้พิมพ์  :-\    แต่ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ไปขอแล้วล่ะครับเพราะปืนแพงเหลือเกิน  :~)

ข้อ 5นี่แหล่ะ ครับที่ยุ่งจริงๆ ดีนะที่รีบไปตัดโอนมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่งั้นต้องพา พ่อไปด้วยคงยุ่งน่าดู
 สมมุตว่า เกิดซื้อปืนเก่ามา ถ้าคนขาย อายุ70-80นั่งรถเข็น แถมหูตึงด้วย แล้วตัวเจ้าของปืนไปอยุ่สุไหงโกลกแต่ทะเบียนยังอยู่กรุงเทพ คนซื้อคงสนุกพิลึก อย่าพึ่งหัวเราะนะครับ ผมเองเคยเจอคล้ายๆยังงี้มาแล้ว หัวเราะไม่ออก เลยจะบอกให้

ดีครับ...แต่บางข้อน่าจะมียกเว้นบางกรณี.......

ความจริงมันก็ดีอยู่หรอก  แต่มันยุ่งยาก วิ่งไปวิ่งมากว่จะได้ปืนสักกระบอก  ไปให้ร้านปืนทำให้ ข้อ.5 ยกเว้นได้ครับ  แพงหน่อยแต่ไม่ต้องเสียเวลา
ระบบราชการไทย มันต้องทำให้ยุ่งเข้าไว้  ข้าราชการด้วยกันยังเซ็งเลย  ถ้าใครที่เข้าไปติดต่อบ่อยๆหาช่องทางถูกและหยอดน้ำมันหล่อลื่นได้ถูกที่ถูกทางรับรองว่าเดี๋ยวก็ลื่น ไม่ต่างจากสมัยที่อยู่แถวถ.พหลโยธินหรอกครับ  สมัยนั้นผมขอป.3ที่เดียว 6 ใบเลย ออกมาไล่ๆกัน ไม่เกิน 2-3 สัปดาห์

คนขายก็ทำใบมอบอำนาจ และ เอกสารอีก 1 ชุด ก็น่าจะจบนะครับ..

มาศึกษาครับ ..กะลังอยากมีปืน

        ขอขอบพระคุณท่าน จขกท.  ที่แจ้งข้อมูลครับ   ;D

เป็นหลักการที่ถูกต้องแล้วครับ

หลักการถูกแล้วครับ ป้องกันปืนผิดกฎหมาย  อยากบอกเพื่อนๆทุกท่านอย่ามองข้าราชการ
ในแง่ลบจนเกินไป คนดีๆมีอีกมากอย่างทางใต้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างของรัฐ ทำงานอย่างเสียสละ เสี่ยงชีวิตทุกวัน

คัดลอกมาจากหนังสืออวป.เขียนโดยท่านผู้การสุพินท์.............ผมใช้แบบนี้ครับ

สัญญาซื้อขายอาวุธปืน
                                                                                                           
เขียนที่ xxxxxxxxxx

วันที่  xxxxxxxxxxxxxx

      สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง xxxxxxxxxxxx ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียก ว่า “ผู้ขาย” ฝ่ายหนึ่งกับ xxxxxxxxxxxx ซึ่งต่อไปในสัญญานี้ จะเรียกว่า “ผู้ซื้อ” อีกฝ่ายหนึ่ง 
    ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงซื้อขาย อาวุธปืน xxxxxxxxxxxx เลข xxxxxxxxxxx เครื่องหมายทะเบียน xxxxxxxxxxxxx โดยผู้ขายได้รับเงินค่า อาวุธปืนไว้แล้ว และผู้ซื้อได้รับอาวุธปืนพร้อมใบอนุญาต, สำเนาทะเบียนบ้าน และ สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ขายไปเมื่อวันที่ xxxxxxxxเวลา xx นาฬิกา
      ภายใต้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๕๙  ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันว่า กรรมสิทธิ์ในอาวุธปืนที่ขายจะโอนจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อต่อ เมื่อผู้ซื้อได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนแล้ว
      ผู้ขายมอบอำนาจให้ผู้ซื้อเป็นผู้นำอาวุธปืนที่ขายไปทำการตรวจ และบันทึก หลักฐานประกอบการโอนอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ต่อนายทะเบียนอาวุธปืน


         ลงชื่อ                                                    ผู้ขาย
            (xxxxxxxxxxxxxxx)

         ลงชื่อ            ผู้ซื้อ
            (xxxxxxxxxxxxxxx)

         ลงชื่อ            พยาน
            (xxxxxxxxxxxxxxx)
   
         ลงชื่อ             พยาน
            (xxxxxxxxxxxxxxxxxxxx)   

เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว   ปัจจุบันมี ป.4 ปลอมมากทีเดียว  ระยะ 1 ปีที่ผ่านมา  ผมพบแล้ว 6 กระบอก
ที่มองดู ก็รู้ว่าปลอมมี 5 กระบอก   และมีอยู่ 2 ใบที่ดูไม่ออก  ส่งขอให้ทางวังไชยาตรวจให้ ก็พบว่าจริง 1 ปลอม 1

ที่จริงผมอยากเสนอวังไชยา ขอให้เปิดบริการตรวจสอบ ป.4 ก่อนซื้อขาย   แต่คิดอีกที ก็ให้ผ่านไปดีกว่า  ปัจจุบันเสียร้อยสองร้าย ฝากร้านปืนตรวจสอบได้อยู่แล้ว  ปล่อยให้หาค่าขนมกันบ้าง   

ชัดเจนดีครับ

ผมสั่งไปเหมือนกัน ส่งเอกสารตามที่กำหนดแล้ว
และต้องส่งอีกพร้อมใบมอบอำนาจ 2  แผ่น
ใบมอบอำนาจนี้ทำแทนกันได้ไม(ป:(อม)

สงสัยครับ

สัญญาซื้อขายแบบของผู้การสุพินท์สามารถใช้ในกรณีคล้ายกับโอนลอยใช่ไม๊ครับ ผมเป็นห่วงกรณีเดียวว่าซื้อเพื่อเอาปืนไปก่ออาชญากรรม แล้วเจ้าของปืนคือเราจะมีความผิดหรือเปล่า

หลักการถูกต้องครับ การปฏิบัติมีบางข้ออาจได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน ในบางกรณีเป็นรายๆ

สัญญามีผู้ซื้อมีผู้ขาย มีรายละเอียด มีวันเวลา ....... ต่างกับโอนลอยที่มีเพียงลงชื่อสลักหลัง+เอกสารของผู้ขาย
และการรับมอบอาวุธปืนไป....... ผู้ขายมอบอำนาจ.....ให้ผู้ซื้อเป็นผู้นำอาวุธปืนที่ขายไปทำการตรวจ และบันทึก หลักฐานประกอบการโอนอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ต่อนายทะเบียนอาวุธปืน....เท่านั้น

ถ้าไม่ไว้วางใจผู้ซื้อ....ก็ไม่ควรขายให้.....หรือไม่ก็ไปทำการโอนต่อหน้าจนท./นายทะเบียนฯครับ.... ;)

 ;D

ใบป.4 ห้ามโอนลอยไม่ใช่หรือครับ ไม่รู้เข้าใจถูกต้องไหมครับ

ข้อที่ 5 มีปัญหาแน่ๆเลยเพราะว่าดุลพินิจของนายทะเบียนแต่ละคน พันก่วาๆอำเภอไม่ได้มีมาตรฐานเดียวกันซักคน ผมเคยเจอมาแล้วต้องให้เพื่อนเจ้าของปืนที่ไปทำงานอยู่ 3 จว.ภาคใต้มาโอนปืนให้ผมต่อหน้านายทะเบียนผู้เคร่งครัดจริงๆขนาดเพื่อผมเป็นทหารมันเอาคำสังที่ว่าปฏิบัติราชการภาคใต้มาประกอบขอผ่อนผันแล้วท่านก็ยังยืนกรานว่าท่านจะต้องเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเพื่อนผมให้ได้ก็เลยต้องมาเดินทางเกือบ17 ชม.ค่านำมันรถ เกือบ 6,000 แค่ขามาขาเดียวนะคุ้มจริงๆ 

พึ่งไปมาเมื่อวันศุกร์............ไปโอนให้เขา

ขั้นที่ 1 ตรวจ ป.4 ว่าปลอมหรือไม่ จากนั้นก็ตรวจต้นขั้ว

ขั้นที่ 2 เอาปืนไปตรวจ

เจ้าของเดิมไม่ต้องแสดงตนแต่ประการใด..............

มองในแง่ดี ระเบียบออกมาเพื่อปกป้องประชาชนผู้ไม่รู้ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพครับ

ตัวอย่างประกาศการรับปืนมรดก ที่ติดประกาศไว้เพื่อประชาสัมพันธ์อย่างเปิดเผยที่ วังไชยา

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ที่นายทะเบียนดำเนินการเรื่องปืนมรดกให้โดยไม่ต้องให้ผู้รับโอนไปขอคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก  เพราะถ้าจะให้ขอคำสั่งศาล ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาท (ครึ่งหนึ่งเป็นค่าประกาศหนังสือพิมพ์)

ผมตกลงซื้อปืนต่อจากลูกน้อง ป.4 อยู่สมุทรสาคร ผมอยู่กรุงเทพ ฯ เป็นผู้คุม  ระดับ 7 ปืนยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ P220 (สีดำ) 9มม.  ปืนดังกล่าวเป็นปืนสวัสดิการ เมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ยังไม่เคยยิงสักนัด ราคา 40,000.- ลูกน้องเองพอได้ ป.4 นายทะเบียนให้เอาปืนไปตอกทะเบียนที่ร้านเอง  ปรากฎว่าไม่ได้เอาไปตอกจนบัดนี้  ขอความอนุเคราะห์ผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างด้วย  ดังนี้
       1.ปืนยังไม่ตอกเลขทะเบียน จะนำ ป.4 ไปให้ร้านตอก หรือเขียนได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้จะทำอย่างไรดี
       2.ก่อนโอนปืนต้องไปย้ายจากสมุทรสาครมาก่อน หรือว่าวันที่ไปทำ ป.3 เอาปืนไปได้เลยโดยไม่ต้องย้าย
       3.เอกสารประกอบการขอ ป.3 นอกจากใบ ป.4 ใบรับรองจากผู้บังคับบัญชา สำเนาบัตรข้าราชการ สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้ซื้อและผู้ขายแล้ว ตัวจริงต้องเอาไปแสดงหรือเปล่ามีอะไรปีกย่อยอีกบ้างครับ

                                                                          ขอบพระคุณมากครับที่กรุณา
                                                                            chayutitum@hotmail.com

 

คุณสมบัติผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน

- บรรลุนิติภาวะ
- สภาพร่างกายปกติไม่พิการหรือทุพพลภาพ
- ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
- มีชื่อในทะเบียนบ้านและมีถิ่นที่อยู่ประจำในท้องที่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ไม่เคยต้องโทษจำคุกคดีอาญา

เอกสาประกอบคำขออนุญาต

การขออนุญาตซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน

ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการอื่นๆ หรือพนักงานองค์กรของรัฐ

- บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงาน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชารับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และ เหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาต ที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ออกหนังสือรับรองต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไป
- ข้าราชการตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไปไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน

ข้าราชการทหาร หรือตำรวจ

- บัตรประจำตัวข้าราชการ (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชารับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และ เหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาต ที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ออกหนังสือรับรองต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่มียศพันเอกหรือพันตำรวจเอกขึ้นไป
- ผู้ที่มียศตั้งแต่พันเอกหรือพันตำรวจเอกขึ้นไปไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน

ประชาชนทั่วไป หรือผู้ประกอบอาชีพอื่น

- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- หลักฐานประกอบอาชีพ อาทิเช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือร้าน หากเป็นลูกจ้างหรือรับจ้างต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่งหน้าที่เงินเดือนจากผู้มีอำนาจจัดการของกิจการนั้นหรือเจ้าของแล้วแต่กรณี หากมิได้มีอาชีพรับจ้าง ต้องมีเอกสารประกอบตามที่อ้างอิง อาทิเช่น ทำสวน ทำไร่ ติดต่อค้าขายที่ หรือค้าขายย่อย หรือเร่ขาย โดยไม่ได้จดทะเบียน ต้องนำหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน เงินฝากธนาคาร (Statement) หรือหลักฐานอื่นเพื่อประกอบการพิจารณา
- หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตจากข้าราชการระดับ 6 ขึ้นไป หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป
- พิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติ และสืบสวนความประพฤติ
- หากขออนุญาตเพื่อการกีฬาจะต้องนำหลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืนมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน มาประกอบการพิจารณา
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน

การขออนุญาตซื้ออาวุธปืนจากบุคคล(รับโอน)

- หลักฐานเช่นเดียวกับการขออนุญาตซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนจากร้านค้า
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้โอนพร้อมสำเนาใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน(ป.4)ของอาวุธปืนที่จะโอน
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
- หากขออนุญาตเพื่อการกีฬาจะต้องนำหลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืนมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน มาประกอบการพิจารณา
- ภายหลังที่ได้รับอนุญาตผู้โอน(เจ้าของเดิม) กับผู้ขอรับโอน ต้องบันทึกการยินยอมการโอนต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต(ป.4) ว่าโอนปืนกระบอกนี้ ให้ใคร มีค่าตอบแทนเท่าไร หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทนเนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เพื่อเป็นหลักฐานทั้ง2ฝ่าย(ผู้โอน+ผู้รับโอน)

การขอรับโอนอาวุธปืนมรดก (เจ้าของปืนตาย)

- ผู้ที่มีอาวุธปืนหรือใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน(ป.4) อยู่ในครอบครองต้องแจ้งการตายต่อนายทะเบียนท้องที่ภายใน30 วัน นับแต่วันที่ตายพร้อมนำใบอนุญาต(ป.4) และอาวุธปืนมอบให้นายทะเบียนด้วย
- ใบมรณบัตร พร้อมสำเนา
- สำเนาคำสั่งศาลกรณีศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
- ถ้ามีผู้จัดการมรดกเสนอได้เลย
- ถ้าไม่มีผู้จักการมรดก ต้องสอบทายาททั้งหมด ว่ายินยอมสละปืนแล้วเสนอนายทะเบียนฯ
- ผู้ขอรับโอนปืนมรดกนำหลักฐานเอกสารประกอบคำร้องเช่นเดียวกับการขอรับโอนอาวุธปืนจากบุคคลมายื่นต่อ
นายทะเบียนท้องที่พร้อมเอกสารข้างต้น
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
- นำอาวุธปืนที่ขอรับโอนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในวันที่ยื่นคำร้อง

การแจ้งการย้ายอาวุธปืน

- ต้องยื่นคำร้องขอย้ายอาวุธปืนต่อนายทะเบียนท้องที่เดิม และนายทะเบียนท้องที่ซึ่งย้ายไปอยู่ใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่วันย้ายออกไปและวันที่ไปถึง
- ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- บัตรประจำตัว (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- นำอาวุธปืนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
- ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

การออกใบแทนหรือคัดสำเนาใบอนุญาตอาวุธปืน

- ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- บัตรประจำตัว (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- กรณีใบอนุญาตสูญหาย แจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ที่ใบอนุญาตหาย แล้วนำใบแจ้งความพร้อมคัดสำเนาประจำวันด้วย
- นำอาวุธปืนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

อัตรค่าธรรมเนียมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน

1. ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน
- ปืนยาวประจุปาก ปืนอัดลม ฉบับละ 100 บาท
- ปืนอื่นๆ ฉบับละ 500 บาท
2. ใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ฉบับละ 1,000 บาท
3. ใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน กระบอกละ 5 บาท
4. ใบอนุญาตให้ซื้อกระสุนปืน นอกจากกระสุนอัดลมร้อยละหรือเศษของร้อย1 บาท
5. ใบแทนใบอนุญาต
- ใบแทนใบอนุญาติให้ทำ ค้าอาวุธปืน
เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ฉบับละ 20 บาท
- ใบแทนใบอนุญาตให้ประกอบซ่อมแซม
หรือเปลี่ยนลักษณะอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฉบับละ 15 บาท
- ใบแทนใบอนุญาตอื่นๆ ฉบับละ 5 บาท

ไม่ต้องจ่ายค่าบริการอื่น นอกจากค่าธรรมเนียมเท่านั้น
สถานที่ติดต่อ : ศูนย์บริการประชาชนกรมการปกครอง
วังไชยา นางเลิ้ง ถนนนครสวรรค์
เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
โทร. 0-2356-9552

ส่วนเรื่องนำปืนไปตอกทะเบียนนั้น ช่วยท่านโพสรูป ป.4มาให้ดูหน่อยนะครับเพื่อช่วยกันหาทางออก

กราบขอบพระคุณ คุณ MAJ.SARAVUTที่กรุณาไขข้อข้องใจ  ผมไม่ได้เข้าเวปประมาณเดือนเศษ ไม่ได้เช็คเมล  ตอนนี้ยังไม่มีเวลาไปขอ ป.3  สำหรับรูป ป.4  ขออภัย ลูกผมงอน ไม่ยอมส่งให้  ผมเองก็แก่แล้ว ส่งไม่เป็น

ตรวจสอบใบ ป.4 ตรวจอาวุธปืน ก็เพียงพอแล้ว และตัวอย่างประกาศขอรับโอนอาวุธปืนมรดกก็โอเคดีครับ
ยกเลิกขั้นตอนการปฏิบัติที่ยุ่งยาก และกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับประชาชนเกินจำเป็นเสียทีเถิดครับ
ประเภท ประเทศประชาธิปไตย แต่ทั้งนี้เว้นตามที่กฎหมายบัญญัติ ผู้สูงอายุ คนพิการยังไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรจะเป็น และนี่คือ ประชาธิปไตยแบบไทยไทยล่ะครับ