หัวข้อ: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: e.k.1911 ที่ มิถุนายน 28, 2007, 07:17:05 PM รบกวนขอข้อมูล ครับ :D
เกี่ยวกับการศึกษา ระดับเด็กๆทั่วไป ในการเรียนรู้การศึกษา การดำรงชีวิต หรือท่านใด ร่วมเสนอความคิดมาอย่างไรก็ได้ครับ :VOV: ผมลองหาดูบ้างแล้ว ส่วนใหญ่จะยาวๆทั้งนั้นครับ อยากได้แบบสั้นๆ กระทัดรัด พิมพ์ไว้บนเสื้อ... พอดีจะให้เด็กนร. สกรีนเสื้อจัดกิจกรรมกันครับ :VOV: หัวข้อ: Re: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: milo ที่ มิถุนายน 28, 2007, 08:36:04 PM ผมเคยซื้อมาอ่านตอนเรียน ป.โท เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ชื่อ จอมปราชญ์นักการศึกษา ของอาจารย์เกรียงศักดิ์ เจริญวงษ์ศักดิ์ (ถ้าจำไม่ผิด) เป็นเรื่องของพระองค์ท่านในด้านการศึกษา มีพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่บัณฑิต นักการศึกษา มากมาย เลยเ ห็นกระทู้นี้ก็ลองหาเหมือน แต่หาไม่เจอแล้ว ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตะบันไฟ ที่ มิถุนายน 28, 2007, 08:46:27 PM ผมเคยจำได้คำหนึ่งว่า
การศึกษาชีวิต เป็นยอดของศาสตร์ทั้งปวง อย่าเป็นลูกนอกคอก ของครอบครัว เรียนไม่คิด ไร้ผล / ไม่คิดเรียน อันตราย หัวข้อ: Re: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: narak ที่ มิถุนายน 30, 2007, 11:23:22 AM พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแนวพระราชดำริเกี่ยวกับความหมายของการศึกษา เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๒๐ ไว้ดังนี้
"การศึกษาเป็นเครื่องมืออันสำคัญในการพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติ ทัศนคติ ค่านิยม และคุณธรรมของบุคคล เพื่อให้เป็นพลเมืองดีมีคุณภาพและประสิทธิภาพ การพัฒนาประเทศก็ย่อมทำได้สะดวกราบรื่น ได้ผลที่แน่นอนและรวดเร็ว" "ความรู้กับดวงประทีปเปรียบกันได้หลายทาง ดวงประทีปเป็นไฟที่ส่องแสงเพื่อนำทางไป ถ้าใช้ไฟนี้ส่องไปในทางที่ถูก ก็จะไปถึงจุดหมายปลายทางได้โดยสะดวกเรียบร้อย แต่ถ้าไม่ระวังไฟนั้น อาจเผาผลาญให้บ้านช่องพินาศลงได้ ความรู้เป็นแสงสว่างที่จะนำเราไปสู่ความเจริญ ถ้าไม่ระมัดระวังในการใช้ความรู้ก็จะเป็นอันตรายเช่นเดียวกัน จะทำลายเผาผลาญบ้านเมืองให้ล่มจมได้" (๒๘ มกราคม ๒๕๐๕) "การที่มีการศึกษาสมบูรณ์แล้วนี้ ทำให้แต่ละคนหลีกเลี่ยงไม่ได้จากความรับผิดชอบที่จะต้องใช้ความรู้ สติปัญญาของตนให้เป็นประโยชน์และเป็นความเจริญวัฒนาแก่บ้านเมืองและส่วนรวม" (๑๒ กรกฎาคม ๒๕๑๖) "การแบ่งการศึกษาเป็นสองอย่าง คือการศึกษาวิชาการอย่างหนึ่ง วิชาการนั้นจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเองและแก่บ้านเมือง ถ้ามาใช้ต่อไปเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว อีกอย่างหนึ่ง ขั้นที่สองก็คือ ความรู้ที่จะเรียกได้ว่าธรรม คือรู้ในการวางตัว ประพฤติและคิด วิธีคิด วิธีที่จะใช้สมองมาทำเป็นประโยชน์แก่ตัว สิ่งที่เป็นธรรมหมายถึงวิธีประพฤติปฏิบัติ คนที่ศึกษาในทางวิชาการและศึกษาในทางธรรมก็ต้องมีปัญญา แต่ผู้ใช้ความรู้ในทางวิชาการทางเดียวและไม่ใช้ความรู้ในทางธรรม จะนับว่าเป็นปัญญาชนมิได้" (๑๘ ธันวาคม ๒๕๑๓) "การศึกษานั้นเป็นเรื่องของทุกคน และไม่ใช่ว่าเฉพาะในระยะหนึ่ง เป็นหน้าที่โดยตรงในระยะเดียวไม่ใช่อย่างนั้น ตั้งแต่เกิดมาก็ต้องศึกษาเติบโตขึ้นมาก็ต้องศึกษา จนกระทั่งถึงขั้นที่เรียกว่าอุดมศึกษา อย่างที่ท่านทั้งหลายกำลังศึกษาอยู่ หมายความว่าการศึกษาที่ครบถ้วน ที่อุดม ที่บริบูรณ์ แต่ต่อไปเมื่อออกไปทำหน้าที่การงานก็ต้องศึกษาต่อไปเหมือนกัน มิฉะนั้นคนเราก็อยู่ไม่ได้ แม้จบปริญญาเอกแล้วก็ต้องศึกษาต่อไปตลอด หมายความว่า การศึกษาไม่มีสิ้นสุด" (๒๐ เมษายน ๒๕๒๑) "..หลักอย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลักของเหตุผล และจะต้องขัดเกลาตลอดเวลา มิฉะนั้นจะมีวิชาความรู้เท่าไรก็ตามก็ไม่สามารถนำไปเป็นประโยชน์แก่ตัวแก่ส่วนรวมได้ หลักของเหตุผลมีหลักการว่า ถ้ามีสิ่งใดที่เราต้องเผชิญ ต้องพบ ต้องมีเหตุผลทั้งสิ้น คำนี้มีสองคำ เหตุคือต้นของสิ่งที่เราเผชิญและผลเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นแก่เรา ถ้าเราเผชิญสิ่งใดและเราพิจารณาด้วยเหตุผล ต่อไปเราก็จะเผชิญสิ่งที่ถูกต้อง" (๒๖ มิถุนายน ๒๕๑๙) "ลักษณะของการศึกษาหรือการเรียนรู้นั้นมีอยู่สามลักษณะได้แก่ เรียนรู้ตามความคิดของผู้อื่นอย่างหนึ่ง เรียนรู้ด้วยการขบคิดพิจารณาของตนเองให้เห็นเหตุผลอย่างหนึ่ง กับเรียนรู้จากการปฏิบัติฝึกฝนจนประจักษ์ผลและเกิดความคล่องแคล่วชำนาญอีกอย่างหนึ่ง การเรียนรู้ทั้งสามลักษณะนี้ จำเป็นต้องกระทำไปด้วยกันให้สอดคล้อง และอุดหนุนส่งเสริมกันจึงจะช่วยให้เกิดความรู้จริงพร้อมทั้งความสามารถที่จะนำมาใช้ทำการต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพได้" (๒๕ มิถุนายน ๒๕๒๔) "การมีความรู้ถนัดทฤษฎีประการเดียว ไม่เพียงพอที่จะทำให้บุคคลสามารถปฏิบัติงานได้เต็มที่ผู้ที่ฉลาดสามารถในหลักวิชาโดยปกติวิสัยจะได้แต่เพียงชี้นิ้วให้ผู้อื่นทำซึ่งเป็นการไม่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่อาจทำให้ผู้ใดเชื่อถือหรือเชื่อฟังอย่างสนิทใจได้ เหตุด้วยไม่แน่ใจว่าผู้ชี้นิ้วเองจะรู้จริง ทำได้จริงหรือ ความสำเร็จทั้งสิ้นทำได้เพราะลงมือกระทำ" (๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๗) "ทุกคนมีความรู้ต้องใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เพราะว่าถ้าความรู้นั้นร่วมมือใช้ในทางที่ถูกก็จะเกิดคุณอย่างมหาศาลทั้งแก่ตนเอง ทั้งแก่ส่วนรวม ฉะนั้นแต่ละคนที่ได้เรียนในแขนงของตนก็ย่อมต้องปฏิบัติงานเพื่อตนเองและเพื่อส่วนรวมนั้นก็ต้องมีความเข้าใจระหว่างบุคคล ระหว่างวิชา (ดังนั้น) ในการปฏิบัติงานทุกด้าน การเตรียมตัวพร้อมการร่วมมือเป็นอันสำคัญอยู่เสมอ" (๒๕ มิถุนายน ๒๕๑๕) "ในการปฏิบัติงานใดๆผู้ปฏิบัติจะต้องทราบ ต้องเข่าใจแจ่มแจ้งถึงปัญหาและความรู้ทั้งปวงอันเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์อย่างทั่วถึง จึงจะสามารถนำทฤษฎีมาดัดแปลงใช้ให้ได้เหมาะกับ สภาพการณ์และสามารถจะเลือกแนวทางการปฏิบัติให้เกิดผลมากที่สุดได้" (๒๒ มกราคม ๒๕๑๗) "วิทยาการทุกอย่างมิใช่มีขึ้นในคราวหนึ่งคราวเดียวได้ หากแต่ค่อยๆสะสมกันมาทีละเล็กละน้อยจนมากมายกว้างขวาง การเรียนวิทยาการก็เช่นกัน บุคคลจำจะต้องค่อยๆเรียนรู้ให้เพิ่มพูนขึ้นนั้นเกิดเป็นรากฐานรองรับความรู้ที่สูงขึ้น ลึกซึ้ง กว้างขวางขึ้นต่อๆไป" (๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๙) " .หากไม่เรียนรู้กลไกของวิชาการโดยตลอดอย่างคล่องแคล่วเจนจัดแล้ว ก็ยากนักที่จะใช้วิชาการปฏิบัติให้ได้ผล" (๒ ตุลาคม ๒๕๑๘) หัวข้อ: Re: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: narak ที่ มิถุนายน 30, 2007, 11:27:05 AM "
.หากไม่เรียนรู้กลไกของวิชาการโดยตลอดอย่างคล่องแคล่วเจนจัดแล้ว ก็ยากนักที่จะใช้วิชาการปฏิบัติให้ได้ผล" (๒ ตุลาคม ๒๕๑๘)
ลองอ่านดูนะค่ะอันนี้น่าจะใช้ได้ แต่ถ้าจะให้สั้นกว่านี้หายากค่ะ หัวข้อ: Re: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 01, 2007, 08:32:47 AM พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชทานรางวัล ในการสอบไล่ครั้งแรกที่ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เมื่อพุทธศักราช 2427 ว่า
"โรงเรียนที่มีอยู่แล้ว และอาศัยขึ้นต่อไปภาคหน้าโดยมากได้คิดจัดการโดยอุตส่าห์ และเต็มกำลังที่จะให้เรียบร้อยพร้อมเพรียงกันเหมือนอย่างโรงเรียนนี้ และจะคิดให้แพร่หลายกว้างขวางเป็นที่เรียนได้มากกว่าแต่ก่อน ทั้งจะมีโรงเรียนวิชาชั้นสูงซึ่งได้กำลังคิดจัดอยู่ บัดนี้เจ้านายราชตระกูลตั้งแต่ลูกฉันลงไป ตลอดจนถึงราษฎรที่ต่ำสุด จะได้ให้มีโอกาสเล่าเรียนได้เสมอกัน ไม่ว่าเจ้า ว่าขุนนาง ว่าไพร่ เพราะฉะนั้นจึงขอบอกได้ว่า การเล่าเรียนในบ้านเมืองเรานี้ จะเป็นข้อสำคัญที่หนึ่งซึ่งฉันจะอุตส่าห์จัดขึ้นให้เจริญจงได้" และอีกพระราชดำรัสล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ "ประเทศชาติใดไร้ผู้รู้หนังสือ ประเทศชาตินั้นจะไม่มีวันได้พบกับความเจริญ" หัวข้อ: Re: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: e.k.1911 ที่ กรกฎาคม 01, 2007, 07:17:57 PM ขอขอบพระคุณทุกๆท่านเป็นอย่างยิ่งครับ ........
หัวข้อ: Re: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: pminwong รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 02, 2007, 09:25:26 AM ด้วยความเคารพ
งานของครูเป็นงานพิเศษ ผิดแปลกกว่างานอื่น ๆ กล่าวในแง่หนึ่งที่สำคัญ ก็คือว่า ครูจะหวังผลตอบแทนเป็นยศศักดิ์ ความร่ำรวย หรือประโยชน์ทางวัตถุเป็นที่ตั้งไม่ได้ ผลได้ส่วนสำคัญจะเป็นผลทางใจ... (พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙) หัวข้อ: Re: ท่านใดมีข้อมูลพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ฅนปั่นไฟ ยกกำลัง 2 ที่ กรกฎาคม 02, 2007, 11:12:01 AM ขอแนะนำหนังสือ
เรียนรู้จากกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2546 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา (รายละเอียดตามนี้ ครับ http://www.onec.go.th/publication/47031/full_know.pdf ) ลองพิจารณาในหน้า 30 ครับ เด็กๆ นอกจากจะต้องเรียนความรู้แล้วยังต้องหัดทำการงานและทำความดีด้วย เพราะการทำงานจะช่วยให้มีความสามารถ มีความขยันอดทนพึ่งตนเองได้ และการทำความดีนั้นจะช่วยให้มีความสุขความเจริญ ทั้งป้องกันตนไม่ให้ตกต่ำ |