เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ช่วยกันดูแลสุขภาพของตัวเองและคนที่คุณรักด้วยนะครับ....ต่อให้มีเงินมากแค่ไหนแต่จะมีประโยชน์อะไรหากสุขภาพของเราไม่ดี ;D
=====================================================

เหยาะอบเชยลงในอาหาร ช่วยรักษาระดับน้ำตาลใน เลือด
 

(http://i11.tinypic.com/4z2lwea.jpg)


     นักวิจัยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมัลโมแห่งสวีเดน ศึกษาพบว่า การเหยาะอบเชยเครื่องเทศบุร่ำบุราณในขนมหรือของหวานที่กินประจำวัน จะช่วยรักษาปริมาณน้ำตาลในเลือดให้คงที่

     พวกเขาได้พบในการศึกษากับอาสาสมัครที่แข็งแรงดีกลุ่มหนึ่ง โดยเหยาะอบเชยผง 1 ช้อนชา ลงในอาหารหรือขนมหวานที่ทำด้วยข้าวให้กินหนึ่งชาม พบว่ามันมีสรรพคุณช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับต่ำ จากการวัดปริมาณน้ำตาลในเลือด ภายหลังจากกินขนมไปแล้วพบว่า เพิ่มขึ้นอีกไม่มากเท่าใด ดร.โจนนา เลโบวิคซ์ กล่าวว่า อบเชยอาจ จะไปออกฤทธิ์ถ่วงการเดินทางของอาหาร จากกระเพาะไปยังลำไส้ให้เนิ่นนานออกไป



     นักวิจัยรายงานผลการศึกษาในวารสาร “โภชนศาสตร์คลินิกอเมริกัน” กล่าวว่า ผลการศึกษาได้ยืนยันหลักฐานจากการศึกษาที่แล้วมาว่า อบเชย มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเบาหวาน อันเป็นโรคเกิดจากอาการดื้อกับฮอร์โมนอินซูลินของร่างกาย

     ดร.โจนนาแจ้งว่า เคยมีการศึกษาที่แล้วมาพบว่า หากผู้ที่เป็นเบาหวานแบบที่ 2 เหยาะอบเชยในอาหารกินอยู่ติดต่อกันนานสัก 40 วัน ระดับน้ำตาลและไขมันในเส้นเลือดจะลดต่ำลงได้ แต่ ผู้เป็นเบาหวานแบบที่ 1 จะไม่เกิดเป็นอะไรด้วย

     อบเชยซึ่งเคยเป็นเครื่องราชบรรณาการในสมัยโบราณอย่างหนึ่ง มีคุณสมบัติพิเศษป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน และยังมีคุณลักษณะเป็นอาหารต้านจุลชีพ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราได้.


ที่มาทีไปคือไทยรัฐจ๊ะ  ;D
 
 
 
 

ขอบคุณครับ...

แวะไปร้านขายยาจีน สักหน่อย

ขอบคุณครับ  บ้านผมชอบตำใส่พริกลาบ...ครับ...

แถมช่วยกระคุ้นอารมณ์ทางเพศได้อีกด้วยครับ จากตำรากาลามาสูตรของอินเดีย

ข้อมูลเยี่ยมมาก
ต้องขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้อย่างแรงเลยครับแบบนี้

ขอบคุณมากครับ ที่นำข้อมูลดีๆมาฝาก
พวกสแปนนิส จะชอบกินอบเชยกันมาก ใส่อาหารเกือบทุกอย่าง
กลิ่นอบเชยสำหรับผมรู้สึกแปลกๆ บางครั้งรู้สึกหอมมาก บางครั้งรู้สึกว่ากลิ่นมันเหม็น ;D

ขอบคุณมากๆครับน้า นาริน ซีแซด

ปัญหามันอยู่ที่ปริมาณที่ใช้ครับ    คนเป็นเบาหวานน้ำตาลน้อยหรือมากนานๆ    ก็มีปัญหาคนใช้ต้องรู้ระดับน้ำตาลของตัวเองด้วย

ผมเคยกินวันละ 3 capsules ทำเอง เอาอบเชย (cinnamon) จาก Supermarket มาใส่ capsules ที่ซื้อมาจากร้านขายยา ดีมาก ระดับน้ำตาลลดลงกลายเป็นคนธรรมดา ต่อมาก็ไม่ได้ผล ยาเบาหวานที่ชะงัด คือ Actos 15 mg ประมาณ 50 บาท 30 mg จำไม่ได้

ถ้าจะลองอบเชย แลไม่อยากทำเอง ไปที่แถววัดเกาะ ร้านเจ้ากรมเป๋อ เขาบดให้ใหม่ๆ ใส่ capsules ให้ ไม่ได้ทันที เขาจะนัดให้ไปเอา

ชักงงครับคุณลุง ตกลงได้ผลดีมั้ยครับ

เบาหวานต้องฆ่าด้วยพืชผักรสขมคับ เช่น ใบบัวบก มะระ มะระขี้นก ลูกมะแว้ง(ตัวนี้ยอดเยี่ยมมาก แก้ไอหวัด เจ็บคอได้ดีมากด้วย) ฟ้าทลายโจร(ตัวนี้ก็ยอดเยี่ยมทำนองเดียวกับมะแว้ง แต่ขมกว่ามาก) ตัวใหม่ที่กำลังมาแรงขณะนี้ครือแปะตำปึง เป็นไม้ล้มลุกปลูกง่ายมาก รสจืด ให้เด็ดใบสด ๆ กินวันละ 5 - 7 ใบ พืชผักพวกนี้แทบไม่มีผลข้างเคียงคับ  

ขอบคุณครับ

ชื่อสามัญอบเชย
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Cinnamomum spp.

อบเชยมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนอินซูลิน ชื่อ เมทิล ไฮดรอกซี่ ชาลโคล โพลิเมอร์ (MHCP)
ซึ่งสามารถทำหน้าที่เผาผลาญน้ำตาลทดแทนฮอร์โมนอินซูลิน ที่ร่างกายผู้ป่วยไม่สามารถผลิตได้
หรืออาจจะผลิตได้น้อย โดยการนำอบเชยมาใช้กับผู้ป่วยเบาหวานนั้น

ในระยะแรก ให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานอบเชยควบคู่กับการรับประทานยาแผนปัจจุบันไปก่อน
ทั้งนี้ เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นปกติมากที่สุด จากนั้นเมื่อผู้ป่วยรับประทานอบเชยอย่างต่อเนื่อง
นานระยะหนึ่งแล้ว ก็จะสามารถลดปริมาณการใช้ยาแผนปัจจุบันให้น้อยลง

และไม่จำเป็นต้องใช้ในที่สุด
( การรับประทานอบเชยอย่างต่อเนื่องเสมือนเป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายให้มีมากขึ้น
ไร้ผลข้างเคียงแม้จะรับประทานอย่างต่อเนื่อง)

สามารถสอบถามข้อมมูลเพิ่มเติมได้ที่

บริษัทผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด (ในเครือองค์การเภสัชกรรม)
โทร02-5278235 , 02-5278251 , 02-5278266 , 02-5278336  

แล้วอย่างบรเพ็ดละครับได้ผลไหม รู้แต่ว่าบรเพ็ดนี่แก้ไข้มาเลเรียเรื้อรังได้ผลชะงัดมากเลย เพราะเห็นกับตามาแล้ว

ขอคุณคุณซับฯ (ขวัญใจชาวเวปฯ)มากครับ..มีข้อมูลเชิงลึกดีๆมาฝากตลอด..

มิน่า พี่ๆหลายท่านชอบไปนั่งสตาร์บัค จะได้ทานกาแฟโรยซินเนมอน นี่เอง อิอิ

แล้วอย่างบรเพ็ดละครับได้ผลไหม รู้แต่ว่าบรเพ็ดนี่แก้ไข้มาเลเรียเรื้อรังได้ผลชะงัดมากเลย เพราะเห็นกับตามาแล้วสรรพคุณของบอระเพ็ดค่อนข้างครอบจักรวาฬอยู่แล้ว จึงเข้ายาไทยหลายขนาน แต่ฆ่าเบาหวานด้วยหรือไม่ไม่กล้ายืนยันคับ อีกตัวนึงที่ยังไม่กล้ายืนยันคือยอด-ดอกสะเดาลวก สำหรับตัวอื่น ๆ ที่ยกตัวอย่างมานั้นได้ผลจริงคับ

เรื่อง บอระเพ็ดนี่ เขาว่า สรรพคุณเบื้องต้นคือทำให้เด็กหย่านมแม่  ;D ;D
แต่อาจมีผลข้างเคียงเกิดกะคุณพ่อครับ ;D ;D


เอาจริงๆก็
ชื่อสามัญ บอระเพ็ด
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tinospora  tuberculata Beumee
ชื่อวงศ์ MINISPERACEAE
ชื่ออื่น  จุ่งจริงตัวเมีย, เครือเขาฮอ(ภาคเหนือ) จรุงจริงตัวเมีย, เจตมูลย่าน(สระบุรี), เจตมูล หนาม (หนองคาย)


ใบ รสขมเมา แก้รำมะนาด ปวดฟัน ฆ่าพยาธิไส้เดือน แก้ไข้ แก้โรค ผิวหนัง ดับพิษปวดแสบปวดร้อน บำรุงน้ำดี

ลูก รสขม แก้ไข้ แก้เสมหะเป็นพิษ

เถา รสขมเย็น แก้พิษฝีดาษ แก้ไข้พิษไข้กาฬ แก้ไข้ทุกชนิด แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้สะอึก บำรุงกำลัง บำรุงน้ำดี บำรุงอาหาร แก้โรคกระเพาะ



 

ผมเคยเห็นคนแก่ เขากินใบกระท่อม กับเกลือวันละใบ เขาบอกว่าเป็นยาแก้เบาหวานครับ

ผมก็เคยกินครับ ไม่รู้ว่าแก้เบาหวานหรือเปล่ารู้แต่ว่าเพลินไปทั้งวันเลยครับ...

เขาว่ากินใบกระท่อมจะทนแดดทำงานกลางแจ้งได้ทั้งวัน แต่จะกลัวฝน

ต่ออีกนิดครับ....  ;D

 อาหารบรรพบุรุษมนุษย์สมัยหิน ถูกโรคกับผู้ป่วยเบาหวานแบบที่ 2
 
ผลงานการวิจัยล่าสุด พบว่า อาหารที่บรรพบุรุษมนุษย์ยุคแรก ยุคหินเก่ากินกันมา ถูกโรคกับผู้ป่วยเบาหวานแบบที่ 2

ระหว่างช่วงการวิวัฒนาการของมนุษย์เป็นเวลานาน 2.5 ล้านปี ก่อนหน้าที่จะเกิดมีการเกษตรกรรม บรรพบุรุษมนุษย์ยังชีพด้วยการกินผลไม้ ผัก ถั่ว เนื้อสัตว์และปลา มนุษย์ยุคต้นยังไม่รู้จักกินธัญพืช พวกนมเนย และไขมันแปรรูปหรือน้ำตาล อันเป็นผลผลิตที่ได้จากการเกษตร

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยลันด์ในสวีเดน ได้ศึกษาเปรียบเทียบอาสาสมัคร ซึ่งเป็นโรคเบาหวานแบบที่ 2 สองกลุ่มเปรียบเทียบกัน โดยให้กลุ่มหนึ่งกินอาหารแบบมนุษย์สมัยหิน และอีกกลุ่มหนึ่งกินอาหารแบบชาวเมดิเตอร์เรเนียน นาน 3 เดือน อาหารแบบชาวเมดิเตอร์เรเนียน ประกอบด้วยธัญญาหาร นมเนยไขมันต่ำ ผลไม้และไขมัน เกลือเป็นหลัก อย่างเช่น ขนมปัง แป้งสาลี ธัญญาหาร น้ำมันมะกอก ปลาและเหล้าไวน์แดง

ผลการตรวจร่างกายคนทั้งสองกลุ่มหลังจากนั้น พบว่า กลุ่มที่กินอาหารแบบมนุษย์สมัยหิน ร่างกายสามารถย่อยคาร์โบไฮเดรตได้ดีกว่า และโดยเฉพาะปริมาณน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง

โรคเบาหวานแบบที่ 2 เป็นโรคที่เป็นอยู่เรื้อรังตลอดชีวิต มักจะเป็นกับผู้ที่มีวัยเกิน 40 ปีเป็นต้นไป จะมีอาการระดับน้ำตาลในเลือดสูง กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลียและสายตาฝ้าฟาง.  ;D

จาก ไทยรัฐ อีกแหละ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผมว่าอาหารหลายๆอย่างในปัจจุบันนี้มีส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานครับ

 
 
 
 

และสุดท้าย.....เดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน  ;D

----------------------------------------------------------------------------------------------

 อาหารธัญพืชไม่ขัดขาวยิ่งกินยิ่งดี ช่วยป้องกันโรค หัวใจ-หลอดเลือดสมอง
 
(http://i18.tinypic.com/52pp82o.jpg)


      ผลการศึกษาของนักวิจัยในสหรัฐฯพบว่า การรับประทานธัญพืชไม่ขัดสีเป็นจำนวนมาก ช่วยให้หลอดเลือดมีสุขภาพดี ป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้

      วารสารโภชนาการการแพทย์อเมริกันลงพิมพ์ผลการศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวคฟอเรสต์ ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ที่ได้จากอาสาสมัครชายหญิงหลากหลายวัยและอาชีพว่า ผู้ที่รับประทานธัญพืชไม่ ขัดสีมากที่สุด มีผนังหลอดเลือดสมองบางที่สุด และหลังจากผ่านไป 5 ปี ผนังหลอดเลือดสมองมีความหนาขึ้นช้าที่สุด ผนังหลอดเลือดที่หนาขึ้นบ่งชี้ถึงภาวะหลอดเลือดแข็ง อันเกิดจากไขมันสะสมในหลอดเลือด ทำให้เสี่ยงเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายและโรคหลอดเลือดสมอง

      คณะนักวิจัยระบุว่า ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยพบว่าการรับประทานธัญพืชไม่ขัดสีจำนวนมาก ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ แต่ยังไม่เคยมีงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะหลอดเลือดแข็ง พวกเขาจึงได้ ศึกษาเรื่องนี้กับอาสาสมัครชายหญิง 1,178 คน สอบถามปริมาณการรับประทานธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ขนมปังแป้งไม่ขัดขาว ซีเรียลเส้นใยสูง และวัดความหนาของผนังหลอดเลือดเลี้ยงสมองในช่วงเริ่มต้นของการศึกษา และหลังจากนั้นอีก 5 ปี สิ่งที่พบคือ ยิ่งรับประทานธัญพืชไม่ขัดสีมาก ยิ่งมีผนังหลอดเลือดเลี้ยงสมองบาง และมีความหนาเพิ่มขึ้นช้าเมื่อเทียบกับการรับประทานน้อย

     ผลการศึกษาระบุว่า ธัญพืชไม่ขัดสีมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและซับซ้อน เพราะนอกจากมีเส้นใยสูงแล้ว ยังมีวิตามินบี วิตามินอี และสารอาหารอีกหลายอย่าง แต่มีชาวอเมริกันไม่ถึงร้อยละ 10 ที่รับประทานธัญพืชไม่ขัดสีวันละ 3 มื้อ ตามที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯแนะนำ ส่วนใหญ่ รับประทานไม่ถึงวันละ 1 มื้อ คณะนักวิจัยแนะนำให้เพิ่มขนมปังแป้งไม่ขัดขาวหนึ่งแผ่น หรือซีเรียลไม่ขัดสี 1 ถ้วย ในอาหารแต่ละมื้อเพื่อเพิ่ม คุณค่าทางโภชนาการ

จาก ไทนรัฐ อีกเช่นเคย ;D
 
 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มีข้อเพิ่มเติมอีกว่าให้ระวังข้าวที่เป็นสีน้ำตาลเข้มถึงเกือบแดงโดยผู้ขายอ้างว่าเป็นข้าวกล้องหรือข้าวผสมวิตามีนบางอย่าง ที่จริงแล้วอาจถูกหลอกเพราะเป็นแค่ข้าวย้อมสีผสมอาหารเท่านั้น..