เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 07:57:03 PM



หัวข้อ: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 07:57:03 PM
มีกระทู้ไหนบ้างครับที่เกี่ยวกับธรรมะ  เราน่าจะมาตั้งกระทู้ธรรมแล้วไขปัญหาสนธนาธรรมะกันบ้างนะ  :VOV:


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Been ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:07:30 PM


                                             ดีครับ(สาธุ)   ;D ว่าแต่พี่จะปลง...แล้วหรือ? :)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:17:13 PM


 ดีครับ(สาธุ) ;D ว่าแต่พี่จะปลง...แล้วหรือ? :)

...อิอิอิอิ น้องว่าพี่ควรปลงได้หรือยัง 

การตั้งกระทู้ตอบกระทู้ธรรมนี่ไม่ใช่เรื่องของการปลงนะ  เช่น ธรรมะกับการครองปืน (ครอบครองมากบ้าง น้อยบ้าง  บ้างก็ขออนุญาตยังไม่ได้)...

...ณ บัดนี้.....( อ้าว ต่อด้วยนะ)   ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:26:03 PM
 :OO :OO :OO

จะปลงแล้วหรอคะอาจารย์....
เอาลิงค์ เวบ ธรรม ไปเลยดีกว่าค่ะ  :DD :DD :DD

http://www.vipassanacm.com/links.asp

ขอใ้ห้มีความสุขในรสพระธรรมนะคะ  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:32:06 PM
:OO :OO :OO

จะปลงแล้วหรอคะอาจารย์....
เอาลิงค์ เวบ ธรรม ไปเลยดีกว่าค่ะ :DD :DD :DD

http://www.vipassanacm.com/links.asp

ขอใ้ห้มีความสุขในรสพระธรรมนะคะ ;D ;D ;D

อิอิอิอิ ไม่เอา ไม่อ่านหรอก เรามาตั้งกระทู้ไขปัญหา กันเองดีกว่า เพื่อว่าจะเกิดแสงธรรมส่องนำทางขึ้นมาในนี้บ้าง   :VOV:


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:32:25 PM
..... ท่าน andaman ใคร่สนใจในการสนทนาธรรม  ท่านก็ตั้งกระทู้เข้ามาเลยซิครับท่าน  เดี๋ยวก็จะมี ทิดบ้าง หลวงบ้าง หนานบ้าง น้อยบ้าง ฯ มากมายเข้ามาสนทนากับท่านครับผม ......... " ความสุขทางโลกีย์มีเพียงชั่วคราว  ความสุขที่ยืนยาวคือการเข้าหาธรรมะ " ..........

(http://img165.imageshack.us/img165/4512/picture067resizeqn8.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:38:41 PM
กระทู้ที่1    " ความสุขทางโลกีย์มีเพียงชั่วคราว  ความสุขที่ยืนยาวคือการเข้าหาธรรมะ ."

...อ้าว ท่านสาธุชนทั้งหลายมีใครจะโต้แย้งบ้าง   ความสุขไหนจะยืนยาว ระหว่างธรรมะกับโลกียะ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:40:03 PM
กระทู้ที่1    " ความสุขทางโลกีย์มีเพียงชั่วคราว  ความสุขที่ยืนยาวคือการเข้าหาธรรมะ ."

...อ้าว ท่านสาธุชนทั้งหลายมีใครจะโต้แย้งบ้าง   ความสุขไหนจะยืนยาว ระหว่างธรรมะกับโลกียะ

ไม่แย้งค่ะ..... สุขทางธรรม คือ สุขอันแท้จริงค่ะ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:51:22 PM

...... ไม่มีท่านใดสังเกตุพระในรูปบ้างเลยหรือครับผม  พระท่านเอามือล้วงบาตรแล้วเชิดหน้าบิดขวาขึ้น ...... ไม่เห็นหรือว่าเห็นแล้วแต่ไม่สนใจ ....... ครับผม .....

(http://img528.imageshack.us/img528/7299/picture067resizeqn2.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:55:09 PM
คนที่มีความสุขทางโลกียะ ก็ต้องการแสวงหาจนตัวตายสลายร่าง
บางคนก็เที่ยววิ่งตามธรรมะจนเกิดทุกข์ คิดว่าตัวเองนั้นมีสุขแต่ทุกข์ไปเกิดกับคนรอบข้าง


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:55:48 PM
เห็นค่ะ ว่าจะถามอยู่ค่ะ ว่าทำไม ...  ???


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 08:57:48 PM
พระท่านคงเมินโลกียะน่ะครับ แล้วท่านล้วงหาอะไรในบาตร


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:05:06 PM
คนที่มีความสุขทางโลกียะ ก็ต้องการแสวงหาจนตัวตายสลายร่าง
บางคนก็เที่ยววิ่งตามธรรมะจนเกิดทุกข์ คิดว่าตัวเองนั้นมีสุขแต่ทุกข์ไปเกิดกับคนรอบข้าง

มันอยู่ที่การทำความเข้าใจค่ะ... ถ้าศึกษาผิด ไปยึดติด ก็เพี้ยนแล้วค่ะ

ธรรม .... ที่แท้ก็คือ ธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของธรรมดา เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นกับทุกคน ทั้งยาจก ผู้ดี มหาเศรษฐี แม้กระทั้งกษัตริย์ ...

แต่คนบางคนหลงทางวิ่งวุ่นเสาะแสวง "ธรรม" อย่างที่อาจารย์ว่า ทั้ง ๆ ที่ "ธรรม" ก็อยู่กับตัวเรานี่เอง แต่เพราะความเขลา เบาปัญญา จึงมองไม่เห็น ไม่เข้าใจ ก็เลยเกิดทุกข์ ต้องมีคนคอยแนะนำทาง จึงจะรู้จะเห็น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน

ดั่งที่พระพุทธองค์ได้เปรียบคนเป็นบัวสี่เหล่าไงคะ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:08:20 PM
เห็นค่ะ ว่าจะถามอยู่ค่ะ ว่าทำไม ... ???

..... ไม่ทำไม ? ... มันเป็นปางของท่าน เขาเรียกท่านว่า "พระอุปคุต" ไงครับ ......  แต่ .... อย่าถามมากกว่านี้นะ  ไม่เช่นนั้นผมต้องออกไปหาข้อมูลมาตอบคุณวุ้นเส้นอีกยาวเลย .... ขอรับ ......


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:14:22 PM
เห็นค่ะ ว่าจะถามอยู่ค่ะ ว่าทำไม ... ???

..... ไม่ทำไม ? ... มันเป็นปางของท่าน เขาเรียกท่านว่า "พระอุปคุต" ไงครับ ......  แต่ .... อย่าถามมากกว่านี้นะ  ไม่เช่นนั้นผมต้องออกไปหาข้อมูลมาตอบคุณวุ้นเส้นอีกยาวเลย .... ขอรับ ......

แป่...ว.... โดนดักคอ..... เรียนประวัติศาสตร์ศิลปะ มาไม่เคยเจอค่ะ สงสัยเป็นปางที่คิดขึ้นใหม่รึปล่าวคะ .... ??? ???

เอ๊ะ ... คุณแจ๊คไม่ให้ถามนี่เนอะ ....  8)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:17:41 PM
เมื่อมีคนตั้งข้อสงสัย  อิอิอิอิ เป็นหน้าที่ของคุณแล้วคุณแจ็คเอ๋ย.  ที่จะออกไปค้นหาะรรมะ อุ๊ย ไม่ใช่ ค้นหาคำตอบมาเปิดเผยเฉลยทางธรรมในนี้...

...สาธุ..


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:17:57 PM

..... พูดเรื่องสนทนาธรรม  วันที่ 27 กรกฏาคม 2550 คณะของกระผมก็จะไปถวายธรรมมาส (ถูกหรือไม่ รอการแนะนำอยู่ขอรับ) ให้กับวัดพระธาตุขิงแกง  อยู่ที่ อ. จุน จ. พะเยา  เป็นวัดที่มีพระธาตุเก่าแก่มาก  ธรรมมาสทีว่านี้  ไม่เหมือนธรรมมาสแถวภาคกลางนะครับผม  อันนี้เป็นธรรมมาสใหญ่สูงทำด้วยไม้สักทอง  แกะลวดลาย คล้ายกับมณฑปย่อส่วนครับผม  เอาไว้มีโอกาสแล้วจะเอารูปมาลงให้ได้ชมกันครับผม  ธรรมมาสนี้ก็ร่วมแรงร่วมใจกันครับ  สนนราคาก็ประมาณ 40,000 บาท  พอตบแต่งและรวมทำพิธีถวายด้วยก็คงบานอีกโขอยู่ครับผม .........



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:24:35 PM
จขกท. วันนี้ คงได้ทำบุญหลายอยู่.. และบุญคงได้นำทางให้มาตั้งกระทู้นี้.
ข้อความที่เคยเห็น  จขกท. เก็บอาการไม่อยู่ ..  อย่างที่เคยแหวกทาง.. ไปอยู่หัวแถว .
ทำเอาเพื่อนคอปืน หลายท่านที่มาแจม. กระทู้.. แปลกใจ. นี่ใช่ คุณ andaman จริงหรือ.  :OO  ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:25:52 PM
..... ยังอยู่ในกระทู้ธรรมอยู่นะครับ  ถ้าพูดถึงเรื่องทำบุญนี้  กระผมเองก็ไม่ค่อยได้ขาดสักเท่าไร  เพียงแต่ไม่ค่อยบอกให้พวกเราในเว็บได้รับทราบเท่านั้น  ที่ผ่านมานี้ก็ไปร่วมถวายพระพุทธรูปที่จังหวัดเชียงราย เป็นพระพุทธรูปที่แกะจากต้นขนุนภายในวัดนั่นเอง  แล้วแกะองค์เล็ก ๆ มอบให้กับผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างศาลา  "ชื่อพระสิงห์ขนุนอุดมโชค"  ฝีมือช่างจากภาคเหนือแกะ  ได้สวยพอดู มีหน้าตัก 7 นิ้ว 8 นิ้ว 9 นิ้ว เคยลงรูปให้ดูแล้วแต่ไม่มีรายละเอียดให้เท่านั้น .....

(http://img362.imageshack.us/img362/8625/picture072resizeuu9.jpg)

... ในการทำพิธีเบิกพระเนตร จะต้องใช้ขี้ผึ้งบริสุทธิ์ปิดทวารทั้งหมด เช่น ตา หู จมูก ปาก ฯ เป็นต้น แล้วใช้ผ้าขาวคลุมทั้งองค์  องค์ที่เห็นนนี้เป็นพระประธานที่แกะจากต้นขนุนที่อยู่ในบริเวณวัด  เป็นศิลปเชียงแสน ........


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:31:40 PM
มีภาพด้านหน้าตรง ๆ เห็นชัด ๆ เต็ม ๆ ไม๊คะ .... เป็นคนหนึ่งที่หลงไหลศิลปะทางเหนือค่ะ

อยากดูฝีช่างปัจจุบันค่ะ เคยดูแต่ฝีมือช่างโบราณ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:33:13 PM
จขกท. วันนี้ คงได้ทำบุญหลายอยู่.. และบุญคงได้นำทางให้มาตั้งกระทู้นี้.
ข้อความที่เคยเห็น  จขกท. เก็บอาการไม่อยู่ ..  อย่างที่เคยแหวกทาง.. ไปอยู่หัวแถว .
ทำเอาเพื่อนคอปืน หลายท่านที่มาแจม. กระทู้.. แปลกใจ. นี่ใช่ คุณ andaman จริงหรือ.  :OO  ;D

 :<<  อาจารย์โดนเข้าให้แล้ว ....  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:34:27 PM
..... ไหน ๆ ก็เริ่มแล้ว  ขอต่อให้เข้าใจกันอีกหน่อยนะครับผม  คงยังไม่ผิดกระทู้นะครับ  ภาพที่เห็นนี้เป็นการฝังพระบรมสารีริกธาตุ  ในภาพผอบที่เห็นนั้น  กระผมเป็นผู้ถือเอง  จะต้องเอาไปแขวนไว้ในองค์พระ  ซึ่งทำไว้เป็นพิเศษแล้ว ....... พิธีดีมากครับ อยู่ร่วมกันทั้งคืนเลย .......

(http://img54.imageshack.us/img54/6017/picture095resizekd3.jpg)

........ ภาพนี้ก็เป็นการบรรจุผอบพระบรมสารีริกธาตุไว้ในองค์พระพุทธรูป ........ พระสงฆ์จะนั่งอยู่รอบพิธีพร้อมทั้งทำการสวดมนต์ตลอดเวลา  เป็นที่ปลื้ม ......

(http://img524.imageshack.us/img524/7850/picture093resizeex0.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:36:45 PM
จขกท. วันนี้ คงได้ทำบุญหลายอยู่.. และบุญคงได้นำทางให้มาตั้งกระทู้นี้.
ข้อความที่เคยเห็น จขกท. เก็บอาการไม่อยู่..  อย่างที่เคยแหวกทาง.. ไปอยู่หัวแถว .
ทำเอาเพื่อนคอปืน หลายท่านที่มาแจม. กระทู้.. แปลกใจ. นี่ใช่ คุณ andaman จริงหรือ.  :OO  ;D

 ;D ;D ;D  แหมท่านก็.....เหน็บ(มีด) อีกแล้ว    นี่แหละตัวจริงเสียงจริง อันอื่นน่ะของปลอม  ;) ;) ;)

บุญน่ะ(ถ้ามี) ผมไม่รับหรอก อนุโมทนา...สาธุ แจกจ่ายทำทานให้เพื่อนร่วมโลกไปหมดคงได้รับถ้วนหน้ากัน

 จขกท. เก็บอาการไม่อยู่    อันนี้ อาจมีคนอื่นอ่านแล้วเก็บอาการไม่อยู่มากกว่ามั๊งครับท่าน  ;D ;D ;D





หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Rock ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:39:06 PM
สาธุ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:51:11 PM
จขกท. วันนี้ คงได้ทำบุญหลายอยู่.. และบุญคงได้นำทางให้มาตั้งกระทู้นี้.
ข้อความที่เคยเห็น จขกท. เก็บอาการไม่อยู่..  อย่างที่เคยแหวกทาง.. ไปอยู่หัวแถว .
ทำเอาเพื่อนคอปืน หลายท่านที่มาแจม. กระทู้.. แปลกใจ. นี่ใช่ คุณ andaman จริงหรือ.  :OO  ;D

 ;D ;D ;D  แหมท่านก็.....เหน็บ(มีด) อีกแล้ว    นี่แหละตัวจริงเสียงจริง อันอื่นน่ะของปลอม  ;) ;) ;)

บุญน่ะ(ถ้ามี) ผมไม่รับหรอก อนุโมทนา...สาธุ แจกจ่ายทำทานให้เพื่อนร่วมโลกไปหมดคงได้รับถ้วนหน้ากัน

 จขกท. เก็บอาการไม่อยู่    อันนี้ อาจมีคนอื่นอ่านแล้วเก็บอาการไม่อยู่มากกว่ามั๊งครับท่าน  ;D ;D ;D






"บุญ" แจกจ่าย และทำเผื่อ หรือทำแทนกันไม่ได้ค่ะ ใครทำใครได้ ใครไม่ทำก็ไม่ได้ค่ะ ....  ;)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:52:20 PM
สา..ธุ     
.........พระบรมสารีริกธาติ  อันพระบรมสารีริกธาตุนี้ผมก็มีข้อสงสัยอยู่   แต่จะไม่ยกเข้ามาในการสนทนาธรรมนี้

คืนนี้กลับบ้านนอนก่อนนะครับไม่ไหว เมื่อคืนอยู่เวรรักษาการ ได้นอน2 ชั่วโมง   ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน...


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 09:56:07 PM
........ มีนะครับคุณวุ้นเส้น  ผมถ่ายไว้หลายภาพครับ  แต่คงลงให้ดูไม่ได้เพราะว่ามีผมนั่งอยู่ด้านหน้าท่านทุกภาพเลยครับผม ..... แต่ได้เอาองค์จำลอง คือองค์เล็ก ที่แจกให้กับผู้ที่ร่วมทำบุญด้วยกันมาให้ดูแทนนะครับ  จะได้อุดมโชคด้วยกัน ......

(http://img54.imageshack.us/img54/9910/picture049resizedu0.jpg)


(http://img524.imageshack.us/img524/7052/picture102resizehx4.jpg)

(http://img524.imageshack.us/img524/128/picture103resizesy8.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 10:09:41 PM
(http://www.khonkaenlink.com/upload/images/20077122210321.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 10:40:18 PM
สา..ธุ     
.........พระบรมสารีริกธาติ  อันพระบรมสารีริกธาตุนี้ผมก็มีข้อสงสัยอยู่   แต่จะไม่ยกเข้ามาในการสนทนาธรรมนี้

คืนนี้กลับบ้านนอนก่อนนะครับไม่ไหว เมื่อคืนอยู่เวรรักษาการ ได้นอน2 ชั่วโมง ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน...

...... กระผมคิดว่า  ผมเดาความคิดท่านอาจจะไม่ผิด  เรื่องพระบรมสารีริกธาตุ  เนื่องเพราะว่าองค์พระพุทธเจ้าท่านได้นิพพานไปแล้วตั้งนานแสนนานใช่หรือไม่ครับผม  แล้วทำไมพระบรมสารีริกธาตุจึงยังไม่หมดไม่สิ้น ..... น่าสนใจครับผม  ผมเองก็เคยคิดเช่นนี้  แต่พอคิดไปแล้วก็ไม่ได้อะไร  เลยทำใจคิดเสียใหม่ว่า  พระบรมสารีริกธาตุที่เราเห็นก็อย่างละนิดอย่างละหน่อยเท่านั้น  ไม่ได้เอามามากมาย  และสิ่งที่ได้มาก็อาจจะเป็นอะไร ๆ ที่อยู่ในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ก็เป็นได้  และทุกครั้งที่เราทำอะไรเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ  เราจะทำด้วยความเคารพบูชา  ยกย่องสรรเสริญ  ในบางครั้งบางครายังสามารถเป็นจุดศูนย์รวมให้คนเรามีความสามัคคี  รักใคร่กลมเกลียวกันทำงานส่วนรวมให้กับชุมชนจนสำเร็จเป็นที่ยิ่งใหญ่ก็หลายหน  ไม่ทราบว่าผมตอบตรงใจท่านหรือเปล่าครับผม  แต่บอกก่อนนะ  เป็นความคิดของผมคนเดียว ....... ด้วยความเคารพ .....


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 12, 2007, 10:45:19 PM
...... เกาะไว้จับไว้ให้มั่นคง
....... ปล่อยเพียงความลุ่มหลงลงบ้าง
......... กิเลส โลภ โกรธ หลง ที่ขวางทาง
........... ปล่อยวางเสียบ้างทางสุขเอย ........


(http://img62.imageshack.us/img62/5695/20077122210321xk7.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:12:34 AM
เห็นค่ะ ว่าจะถามอยู่ค่ะ ว่าทำไม ...  ???

จำได้ไม่หมดน่ะครับ ผมรู้จักครั้งแรกที่ประเทศพม่าครับ
มีเกือบทุกวัด  และมาทราบภายหลังว่า มีอยู่ทางล้านนา เชียงใหม่อยู่อีกจำนวนหนึ่ง

มีตำนานเล่าว่า ท่านเป็นพระที่รอบรู้มาก รับหน้าที่ชำระพระไตรปิฎก
ซึ่งท่านก็ทำอย่างเต็มที่ ไม่ได้พักผ่อน หรือฉันอาหารเลยเป็นเวลาหลายวันติดกัน
จนในที่สุดเมื่อท่านทำสำเร็จ ท่านก็กำลังจะฉันอาหาร
แต่ก่อนที่จะฉันนั้น ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดเรื่องวัติปฎิบัติมาก
ท่านก็เงยหน้ามองพระอาทิตย์ก่อน เพื่อดูเวลาว่าเลยเพลแล้วหรือไม่
ซึ่งตามเวลาจริงนั้น เลยมาแล้ว แต่เทวดาทั้งหลายเห็นว่า ถ้าหากพระอุปคุตไม่ได้ฉันอาหารมื้อนี้
ท่านต้องเสียชีวิตแน่นอน จึงทำให้มีเมฆมาบังพระอาทิตย์ไว้
ทำให้พระอุปคุตมองไม่เห็น จึงนึกว่ายังไม่เลยเวลา ท่านจึงฉันอาหาร และมีชีวิตรอดมาได้

จำได้ไม่หมดครับ
ย่อๆมาก็ประมาณนี้ ไม่กล้าบอกว่าถูกร้อยเปอร์เซน แต่ไม่ถึงกับผิดแน่นอนครับ

อ้อ คติที่คนนับถือ บูชาพระอุปคุตคือ
เชื่อกันว่า ใครได้บูชาพระอุปคุต จะไม่มีวันอดครับผม


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 03:55:56 AM
เรื่องธรรมมะบอกตรงๆตอนนี้ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร
เข้าใจเอาเองว่าถ้าเราจิตรใจดีงามก็เพียงพอแล้ว
เคยอ่านหนังสือจากหลวงพ่อ หลวงปู่หลายๆท่าน ท่านก็สอนให้ทำ จิตรใจให้สะอาด ดีงาม
ถ้าคนเราจิตรใจสะอาด หรือมีใจสะอาดอยู่บ้าง ธรรมมะก็คงไม่ไปไหน
แต่ถ้าคนจิตรใจไม่สะอาด มีแต่ความขุ่นมัวเสมอๆหาธรรมมะเท่าไรคงไม่เจอ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 09:15:23 AM
ยกคติธรรมมาขยายความบ้างนะท่านเสือใบ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 09:34:10 AM
บัวสี่เหล่า

บัวสี่เหล่า คือ บัวใต้น้ำเป็นหนึ่งในระดับของสติปัญญา จากเรื่องบัวสี่เหล่า นั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนที่เรียนรู้เรื่องต่างๆ เป็น 4 ระดับ คือ...

1.พวกมีสติปัญญา ฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จะเบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู)

2.พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจราณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม ก็จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาไม่ช้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปัจจิตัญญู)

3.พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่ เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธาปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ)

4.พวกที่ไร้สติปัญญาและยังเป็น มิจฉาทิฏฐิ แม้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียรเปรียบเสมือน ดอกบัวที่จมอยู่โคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลาอีกด้วย ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบานได้อีก (ปทปรมะ)


บุคคลสี่จำพวก

มืด............ หมกมุ่นหม่นไหม้.....อวิชชา
มา............ อุปกิเลส มา.....ปิดไว้
มืด............ จิตอัปภัสรา.....ขันธา ทุกโข
ไป............ สู่ทุกข์คติไซร้.....เร่าร้อน รานตน...

มืด............แบกทุกข์ท่วมท้น.....อาตมัน
มา............ผ่านกี่กัปกัลป์.....ล่วงแล้ว
สว่าง.......ณ ปัจจุปปัน.....สัมปชัญโญ
ไป............สู่ที่ เพริศแพร้ว.....แจ่มแจ้ง ปัญญา....

สว่าง.......จวนดีเลิศแล้ว.....มานมน
มา............จ่อมจมธราดล.....โลกหล้า
มืด...........มิอาจ ยินยล.....สำเนียง เสียงธรรม
ไป...........ใฝ่ต่ำไขว่คว้า.....แทะทึ้ง โลกีย์...

สว่าง.......เบิกบานจิตพร้อม.....วิชชา
มา............พึ่งพระปัญญา.....แนบเกล้า
สว่าง........ว่างเหตุปัจจยา....ใน-นอก พิสุทธิ์
ไป............ปราศทุกข์รอนร้าว.....จบสิ้น สังสาร....


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 12:16:14 PM
เอาภาพประกอบด้วยครับท่าน

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 12:26:33 PM
บัวสี่เหล่า

บัวสี่เหล่า คือ บัวใต้น้ำเป็นหนึ่งในระดับของสติปัญญา จากเรื่องบัวสี่เหล่า นั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนที่เรียนรู้เรื่องต่างๆ เป็น 4 ระดับ คือ...

1.พวกมีสติปัญญา ฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จะเบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู)

2.พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจราณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม ก็จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาไม่ช้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปัจจิตัญญู)

3.พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่ เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธาปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ)

4.พวกที่ไร้สติปัญญาและยังเป็น มิจฉาทิฏฐิ แม้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียรเปรียบเสมือน ดอกบัวที่จมอยู่โคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลาอีกด้วย ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบานได้อีก (ปทปรมะ)


บุคคลสี่จำพวก

มืด............ หมกมุ่นหม่นไหม้.....อวิชชา
มา............ อุปกิเลส มา.....ปิดไว้
มืด............ จิตอัปภัสรา.....ขันธา ทุกโข
ไป............ สู่ทุกข์คติไซร้.....เร่าร้อน รานตน...

มืด............แบกทุกข์ท่วมท้น.....อาตมัน
มา............ผ่านกี่กัปกัลป์.....ล่วงแล้ว
สว่าง.......ณ ปัจจุปปัน.....สัมปชัญโญ
ไป............สู่ที่ เพริศแพร้ว.....แจ่มแจ้ง ปัญญา....

สว่าง.......จวนดีเลิศแล้ว.....มานมน
มา............จ่อมจมธราดล.....โลกหล้า
มืด...........มิอาจ ยินยล.....สำเนียง เสียงธรรม
ไป...........ใฝ่ต่ำไขว่คว้า.....แทะทึ้ง โลกีย์...

สว่าง.......เบิกบานจิตพร้อม.....วิชชา
มา............พึ่งพระปัญญา.....แนบเกล้า
สว่าง........ว่างเหตุปัจจยา....ใน-นอก พิสุทธิ์
ไป............ปราศทุกข์รอนร้าว.....จบสิ้น สังสาร....


ขอบคุณมากครับพี่มะขิ่น บางทีผมลืมพิจารณากลุ่มมนุษย์ก่อน เจอบางบุคคลเลยสงสัยว่า อยากจะสื่ออะไรดีๆ ของมันฟะ?


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 12:55:31 PM
เห็นค่ะ ว่าจะถามอยู่ค่ะ ว่าทำไม ... ???

..... ไม่ทำไม ? ... มันเป็นปางของท่าน เขาเรียกท่านว่า "พระอุปคุต" ไงครับ ...... แต่ .... อย่าถามมากกว่านี้นะ ไม่เช่นนั้นผมต้องออกไปหาข้อมูลมาตอบคุณวุ้นเส้นอีกยาวเลย .... ขอรับ ......

พึ่งเคยเห็นเหมือนกันครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 12:56:10 PM
มีกระทู้ไหนบ้างครับที่เกี่ยวกับธรรมะ เราน่าจะมาตั้งกระทู้ธรรมแล้วไขปัญหาสนธนาธรรมะกันบ้างนะ :VOV:

เห็นจะขึ้นมาหลายรอบแล้วนิครับ ;D ;D ;D  หายไปไหนหนอ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:03:09 PM
... ในการทำพิธีเบิกพระเนตร จะต้องใช้ขี้ผึ้งบริสุทธิ์ปิดทวารทั้งหมด เช่น ตา หู จมูก ปาก ฯ เป็นต้น แล้วใช้ผ้าขาวคลุมทั้งองค์ องค์ที่เห็นนนี้เป็นพระประธานที่แกะจากต้นขนุนที่อยู่ในบริเวณวัด เป็นศิลปเชียงแสน ........

นสพ. คมชัดลึก มีบทความเบิกพระเนตร อยู่หาอ่านเพิ่มได้ครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:05:37 PM
จขกท. วันนี้ คงได้ทำบุญหลายอยู่.. และบุญคงได้นำทางให้มาตั้งกระทู้นี้.
ข้อความที่เคยเห็น จขกท. เก็บอาการไม่อยู่..  อย่างที่เคยแหวกทาง.. ไปอยู่หัวแถว .
ทำเอาเพื่อนคอปืน หลายท่านที่มาแจม. กระทู้.. แปลกใจ. นี่ใช่ คุณ andaman จริงหรือ.  :OO  ;D

 ;D ;D ;D  แหมท่านก็.....เหน็บ(มีด) อีกแล้ว    นี่แหละตัวจริงเสียงจริง อันอื่นน่ะของปลอม  ;) ;) ;)

บุญน่ะ(ถ้ามี) ผมไม่รับหรอก อนุโมทนา...สาธุ แจกจ่ายทำทานให้เพื่อนร่วมโลกไปหมดคงได้รับถ้วนหน้ากัน

 จขกท. เก็บอาการไม่อยู่    อันนี้ อาจมีคนอื่นอ่านแล้วเก็บอาการไม่อยู่มากกว่ามั๊งครับท่าน  ;D ;D ;D

เราตกข่าว ;D ;D ;D สงสัยไม่ค่อยได้ตามเหมือนแต่ก่อน


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:06:26 PM
"บุญ" แจกจ่าย และทำเผื่อ หรือทำแทนกันไม่ได้ค่ะ ใครทำใครได้ ใครไม่ทำก็ไม่ได้ค่ะ .... ;)

แผ่เมตตาได้ไม่ใช่หรือครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:07:19 PM
(http://www.khonkaenlink.com/upload/images/20077122210321.jpg)

คลิฟแฮงเกอร์ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:10:41 PM
เห็นค่ะ ว่าจะถามอยู่ค่ะ ว่าทำไม ... ???

จำได้ไม่หมดน่ะครับ ผมรู้จักครั้งแรกที่ประเทศพม่าครับ
มีเกือบทุกวัด และมาทราบภายหลังว่า มีอยู่ทางล้านนา เชียงใหม่อยู่อีกจำนวนหนึ่ง

มีตำนานเล่าว่า ท่านเป็นพระที่รอบรู้มาก รับหน้าที่ชำระพระไตรปิฎก
ซึ่งท่านก็ทำอย่างเต็มที่ ไม่ได้พักผ่อน หรือฉันอาหารเลยเป็นเวลาหลายวันติดกัน
จนในที่สุดเมื่อท่านทำสำเร็จ ท่านก็กำลังจะฉันอาหาร
แต่ก่อนที่จะฉันนั้น ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดเรื่องวัติปฎิบัติมาก
ท่านก็เงยหน้ามองพระอาทิตย์ก่อน เพื่อดูเวลาว่าเลยเพลแล้วหรือไม่
ซึ่งตามเวลาจริงนั้น เลยมาแล้ว แต่เทวดาทั้งหลายเห็นว่า ถ้าหากพระอุปคุตไม่ได้ฉันอาหารมื้อนี้
ท่านต้องเสียชีวิตแน่นอน จึงทำให้มีเมฆมาบังพระอาทิตย์ไว้
ทำให้พระอุปคุตมองไม่เห็น จึงนึกว่ายังไม่เลยเวลา ท่านจึงฉันอาหาร และมีชีวิตรอดมาได้

จำได้ไม่หมดครับ
ย่อๆมาก็ประมาณนี้ ไม่กล้าบอกว่าถูกร้อยเปอร์เซน แต่ไม่ถึงกับผิดแน่นอนครับ

อ้อ คติที่คนนับถือ บูชาพระอุปคุตคือ
เชื่อกันว่า ใครได้บูชาพระอุปคุต จะไม่มีวันอดครับผม

ช่างอัศจรรย์จริงๆ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:11:31 PM
เรื่องธรรมมะบอกตรงๆตอนนี้ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร
เข้าใจเอาเองว่าถ้าเราจิตรใจดีงามก็เพียงพอแล้ว
เคยอ่านหนังสือจากหลวงพ่อ หลวงปู่หลายๆท่าน ท่านก็สอนให้ทำ จิตรใจให้สะอาด ดีงาม
ถ้าคนเราจิตรใจสะอาด หรือมีใจสะอาดอยู่บ้าง ธรรมมะก็คงไม่ไปไหน
แต่ถ้าคนจิตรใจไม่สะอาด มีแต่ความขุ่นมัวเสมอๆหาธรรมมะเท่าไรคงไม่เจอ

เห็นด้วยครับ ;D ;D ;D  ทางสายกลาง


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:16:54 PM
บัวสี่เหล่า

พูดถึงเหล่า แล้วตอนนี้คิดถึงอย่างอื่นไม่คิดถึงบัว ;D ;D ;D  คิดถึงพวกพี่มะขิ่นมากกว่า

3 เหล่า + 1 ตำหนวด พอดี 4

ปล. จะโดนตืบไหมเนี่ย...............ขอโทษ ขอโทษ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:18:19 PM
"บุญ" แจกจ่าย และทำเผื่อ หรือทำแทนกันไม่ได้ค่ะ ใครทำใครได้ ใครไม่ทำก็ไม่ได้ค่ะ .... ;)

แผ่เมตตาได้ไม่ใช่หรือครับ ;D ;D ;D

แผ่แมตตา แค่ให้คนได้รับจิตสงบ ไม่คิดร้ายค่ะ ได้บุญไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วคนที่จะแผ่เมตตาให้ผู้อื่นได้ ก็ต้องสะสมบุญมาพอสมควรค่ะ ผู้รับจึงจะรับได้

อธิบายยากแหะ... ประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ  ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:18:23 PM
 ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:20:25 PM
กระทู้ที่1 " ความสุขทางโลกีย์มีเพียงชั่วคราว ความสุขที่ยืนยาวคือการเข้าหาธรรมะ ."

...อ้าว ท่านสาธุชนทั้งหลายมีใครจะโต้แย้งบ้าง ความสุขไหนจะยืนยาว ระหว่างธรรมะกับโลกียะ

ผมตัดไม่ได้ขอครึ่งๆครับ ทางสายกลาง ;D ;D ;D  เกี่ยวกันไหมครับ ช่วยตอบด้วย

บางอย่างมันเลิกไม่ได้จริงๆ อิ อิ อิ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:21:31 PM
กระทู้ที่1 " ความสุขทางโลกีย์มีเพียงชั่วคราว ความสุขที่ยืนยาวคือการเข้าหาธรรมะ ."

...อ้าว ท่านสาธุชนทั้งหลายมีใครจะโต้แย้งบ้าง ความสุขไหนจะยืนยาว ระหว่างธรรมะกับโลกียะ

ผมตัดไม่ได้ขอครึ่งๆครับ ทางสายกลาง ;D ;D ;D เกี่ยวกันไหมครับ ช่วยตอบด้วย

บางอย่างมันเลิกไม่ได้จริงๆ อิ อิ อิ

ผมทายว่าไม่ใช่เรื่องปืนแน่ๆ  :D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:21:49 PM
"บุญ" แจกจ่าย และทำเผื่อ หรือทำแทนกันไม่ได้ค่ะ ใครทำใครได้ ใครไม่ทำก็ไม่ได้ค่ะ .... ;)

แผ่เมตตาได้ไม่ใช่หรือครับ ;D ;D ;D

แผ่แมตตา แค่ให้คนได้รับจิตสงบ ไม่คิดร้ายค่ะ ได้บุญไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วคนที่จะแผ่เมตตาให้ผู้อื่นได้ ก็ต้องสะสมบุญมาพอสมควรค่ะ ผู้รับจึงจะรับได้

อธิบายยากแหะ... ประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ ;D

อย่างนั้นต้องบอกว่าทำมากได้มากทำน้อยได้น้อยสิครับ ;D ;D ;D ไม่ใช่แบ่งไม่ได้ อิ อิ อิ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:23:36 PM
กระทู้ที่1 " ความสุขทางโลกีย์มีเพียงชั่วคราว ความสุขที่ยืนยาวคือการเข้าหาธรรมะ ."

...อ้าว ท่านสาธุชนทั้งหลายมีใครจะโต้แย้งบ้าง ความสุขไหนจะยืนยาว ระหว่างธรรมะกับโลกียะ

ผมตัดไม่ได้ขอครึ่งๆครับ ทางสายกลาง ;D ;D ;D เกี่ยวกันไหมครับ ช่วยตอบด้วย

บางอย่างมันเลิกไม่ได้จริงๆ อิ อิ อิ

ผมทายว่าไม่ใช่เรื่องปืนแน่ๆ :D

น้องพลับยังขอสองครับพี่มะขิ่น ;D ;D ;D

ขึ้นชื่อว่า "คน" คงยังมั่วกันเละกว่าจะเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:25:15 PM
"บุญ" แจกจ่าย และทำเผื่อ หรือทำแทนกันไม่ได้ค่ะ ใครทำใครได้ ใครไม่ทำก็ไม่ได้ค่ะ .... ;)

แผ่เมตตาได้ไม่ใช่หรือครับ ;D ;D ;D

แผ่แมตตา แค่ให้คนได้รับจิตสงบ ไม่คิดร้ายค่ะ ได้บุญไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วคนที่จะแผ่เมตตาให้ผู้อื่นได้ ก็ต้องสะสมบุญมาพอสมควรค่ะ ผู้รับจึงจะรับได้

อธิบายยากแหะ... ประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ ;D

อย่างนั้นต้องบอกว่าทำมากได้มากทำน้อยได้น้อยสิครับ ;D ;D ;D ไม่ใช่แบ่งไม่ได้ อิ อิ อิ

เวลาคุณ carrera ทานข้าวใครอิ่มคะ ... ;D ;D ;D.... คุณดื่มเหล้า ใครเมาคะ ....  ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:26:06 PM
บัวสี่เหล่า

พูดถึงเหล่า แล้วตอนนี้คิดถึงอย่างอื่นไม่คิดถึงบัว ;D ;D ;D คิดถึงพวกพี่มะขิ่นมากกว่า

3 เหล่า + 1 ตำหนวด พอดี 4

ปล. จะโดนตืบไหมเนี่ย...............ขอโทษ ขอโทษ


เดี่ยวเหอะๆๆๆๆ ล้อเลียน..... ;D ;D ;D

เอ้า..ตอบหรือขยายความด้วยนะ พร้อมยกคติธรรมมากล่าวอ้างอิงด้วย      [b].."..วิถีชีวิตและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ของมนุษยชาติในปี2551/2008 " [/b]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:27:57 PM
"บุญ" แจกจ่าย และทำเผื่อ หรือทำแทนกันไม่ได้ค่ะ ใครทำใครได้ ใครไม่ทำก็ไม่ได้ค่ะ .... ;)

แผ่เมตตาได้ไม่ใช่หรือครับ ;D ;D ;D

แผ่แมตตา แค่ให้คนได้รับจิตสงบ ไม่คิดร้ายค่ะ ได้บุญไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วคนที่จะแผ่เมตตาให้ผู้อื่นได้ ก็ต้องสะสมบุญมาพอสมควรค่ะ ผู้รับจึงจะรับได้

อธิบายยากแหะ... ประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ ;D

อย่างนั้นต้องบอกว่าทำมากได้มากทำน้อยได้น้อยสิครับ ;D ;D ;D ไม่ใช่แบ่งไม่ได้ อิ อิ อิ

เวลาคุณ carrera ทานข้าวใครอิ่มคะ ... ;D ;D ;D

แต่แม่นกกินแล้วมาป้อนลูกนก ลูกนกก็อิ่มนะครับ ;D ;D ;D 

ยอม ยอม ครับ ผมอิ่มครับ เดี๋ยวยาว......................

คำถามสองครับ

ถ้าบุญเก็บไปชาติหน้าได้ก็เก็บไปให้คนอื่นได้ปะ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:30:38 PM
ท่องปริยัติกันไป แต่กายใจไม่ปฏิบัติ ก็เท่านั้นครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:33:06 PM
บัวสี่เหล่า

พูดถึงเหล่า แล้วตอนนี้คิดถึงอย่างอื่นไม่คิดถึงบัว ;D ;D ;D คิดถึงพวกพี่มะขิ่นมากกว่า

3 เหล่า + 1 ตำหนวด พอดี 4

ปล. จะโดนตืบไหมเนี่ย...............ขอโทษ ขอโทษ


เดี่ยวเหอะๆๆๆๆ ล้อเลียน..... ;D ;D ;D

เอ้า..ตอบหรือขยายความด้วยนะ พร้อมยกคติรรมมากล่าวอ้างอิงด้วย [b].."..วิถีชีวิตและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ของมนุษยชาติในปี2551/2008 " [/b]

ผมก็เล่นไปงั้น ;D ;D ;D  ใครๆก็รู้พี่ๆในนี้ใจดี น่าร๊ากกก ที่สุด ;D ;D ;D

คติธรรมไม่ค่อยมีอะครับ เอาเบอร์เด็กไปแทนได้ปะ 357-11-38

ล้อเล่นนะครับท่าน ผมกลัวกระทู้ท่านเหงา แต่เดี๋ยวหาธรรมะมาให้ครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:33:14 PM
บัวสี่เหล่า

พูดถึงเหล่า แล้วตอนนี้คิดถึงอย่างอื่นไม่คิดถึงบัว ;D ;D ;D คิดถึงพวกพี่มะขิ่นมากกว่า

3 เหล่า + 1 ตำหนวด พอดี 4

ปล. จะโดนตืบไหมเนี่ย...............ขอโทษ ขอโทษ


เดี่ยวเหอะๆๆๆๆ ล้อเลียน..... ;D ;D ;D

เอ้า..ตอบหรือขยายความด้วยนะ พร้อมยกคติธรรมมากล่าวอ้างอิงด้วย   [b].."..วิถีชีวิตและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ของมนุษยชาติในปี2551/2008 " [/b]

เรื่องหยอกล้อกันคงไม่ต้องกระมังครับ  ;D

ผมกับคุณcarrera พบกันหลายครั้งแล้วครับ............คุณcarrera เป็นคนน่ารักมากๆ  ไม่ขวางโลก

ถ้าไม่ใช่เรื่องหยอกล้อ ทักทายกัน แบบยกคำกล่าวประชดสังคม วิถีชีวิตมั่วๆมา ให้ชวนสงสัย คงต้องอธิบายกันหน่อย............ไม่งั้นคนอื่นอ่านแล้วตีความไปหลายทาง ;)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:34:08 PM
 ;D ;D ;D


อ้างถึง
คำถามสองครับ

ถ้าบุญเก็บไปชาติหน้าได้ก็เก็บไปให้คนอื่นได้ปะ

ไม่ได้ค่ะ กรรมใดใครก่อ คนนั้นรับ และต้องชดใช้เอง
บุญก็เหมือนกัน

และไม่สามารถทำบุญเพื่อล้างบาปได้ .... บาปที่สร้างไว้ก็ต้องชดใช้ พร้อม ๆ ไปกับการได้ใช้บุญที่สะสมไป

คนบางคนเกิดมาในชาติตระกูลที่ดี ฐานะดี แต่อาจไม่ได้ตายดี หรือชีวิตอาจอยู่อย่างไม่มีความสุข เพราะเขามีบุญที่สะสมไว้ทำให้เกิดในตระกูลที่ดี มีฐานะดี ขณะเดียวกันเขาได้สร้างบาปจะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ทำให้เขาต้องชดใช้กับการกระทำนั้น จึงไม่ได้ตายดี หรือไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:35:58 PM
ท่องปริยัติกันไป แต่กายใจไม่ปฏิบัติ ก็เท่านั้นครับ

ถูกต้องแล้ว ค...ร้....า...บ....


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:36:03 PM
ผมกับคุณcarrera พบกันหลายครั้งแล้วครับ............คุณcarrera เป็นคนน่ารักมากๆ ไม่ขวางโลก

ไม่ผิดหวังจริงๆ ;D ;D ;D  ไม่ค่อยได้เจอพี่ แต่คิดถึงเสมอครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:38:30 PM
อ้างถึง
คติธรรมไม่ค่อยมีอะครับ เอาเบอร์เด็กไปแทนได้ปะ 357-11-38


 ::) ::) ::) เบอร์ในอนาคต ... 357-22** .... ยังคิดไม่ออก ...


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 01:48:19 PM
อ้างถึง
คำถามสองครับ

ถ้าบุญเก็บไปชาติหน้าได้ก็เก็บไปให้คนอื่นได้ปะ

ไม่ได้ค่ะ กรรมใดใครก่อ คนนั้นรับ และต้องชดใช้เอง
บุญก็เหมือนกัน

และไม่สามารถทำบุญเพื่อล้างบาปได้ .... บาปที่สร้างไว้ก็ต้องชดใช้ พร้อม ๆ ไปกับการได้ใช้บุญที่สะสมไป

คนบางคนเกิดมาในชาติตระกูลที่ดี ฐานะดี แต่อาจไม่ได้ตายดี หรือชีวิตอาจอยู่อย่างไม่มีความสุข เพราะเขามีบุญที่สะสมไว้ทำให้เกิดในตระกูลที่ดี มีฐานะดี ขณะเดียวกันเขาได้สร้างบาปจะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ทำให้เขาต้องชดใช้กับการกระทำนั้น จึงไม่ได้ตายดี หรือไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

ผมอยากเปรียบกับการเงิน

เกิดอีกชาติ = เหมือนพระท่านให้กู้มาใช้ลงทุนทำความดี

ทำเจ๊ง ทำบาป ติดลบ ---ล้มละลาย=ตาย  ถ้าทางการเงิน ไม่มีลูกไม่มีทรัพย์สินหักกลบลบหนี้ คนให้กู้(ธนาคาร)อาจต้องแทงหนี้ศูนย์

แต่ทำไมทางธรรม ทำไม่ดี ทำบาป ยังตามไปชาติหน้า แก้กันไม่มีสิ้นสุด ไม่ค่อยแฟร์เท่าไร
--------------------------------

ลูกหนี้ไม่ดี(แบ็คลิส)ธนาคารก็ไม่ปล่อยกู้เรื่อยๆนะ แล้วทางธรรมจะให้กลับมาเกิดอีกบ่อยๆอะเปล่า


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 02:14:57 PM
อ้างถึง
คติธรรมไม่ค่อยมีอะครับ เอาเบอร์เด็กไปแทนได้ปะ 357-11-38


 ::) ::) ::) เบอร์ในอนาคต ... 357-22** .... ยังคิดไม่ออก ...

เดี๋ยวอาจารย์ใบ้ให้เอง............

357 แล้ว 22 แล้ว 44 magnum ไปเลย................... ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 03:57:14 PM
 ;Dว่าแต่ทำบุญด้วยอะไรครับ ชาติหน้าถึงจะได้ครอบครองปืนตามที่ใจปราถนา ;D
สำหรับผมเอง ก่อนที่จะมีปืนพยายามใช้หลักธรรมเรื่องของความมีขันติ ลดพยาบาท เพื่อควบคุมใจในการใช้ปืน และใช้มงคลชีวิต 38 ประการในการครองเรือน ครองงานครับ แม้บางช่วงจะได้ไม่เต็มที่ก็ตามครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 04:02:56 PM
;Dว่าแต่ทำบุญด้วยอะไรครับ ชาติหน้าถึงจะได้ครอบครองปืนตามที่ใจปราถนา ;D
สำหรับผมเอง ก่อนที่จะมีปืนพยายามใช้หลักธรรมเรื่องของความมีขันติ ลดพยาบาท เพื่อควบคุมใจในการใช้ปืน และใช้มงคลชีวิต 38 ประการในการครองเรือน ครองงานครับ แม้บางช่วงจะได้ไม่เต็มที่ก็ตามครับ
พอมีปืนแล้วคงต้องใช้มงคล.38ในการคุ้มครองชีวิตตนให้พันภัย


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 05:36:43 PM

...... ไม่อยากจะเชื่อนะครับผม  ว่าคุณวุ้นเส้น จะเล่นลิ้น ..... เอ้ย .... จะมีลีลาในการตอบธรรมะได้แบบ ..... สะใจ และได้ความรู้ดีมากครับผม ....... ด้วยความเคารพ .....


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 05:44:50 PM
คุณวุ้นเส้น  เธอเป็นคนใฝ่ธรรมะ ศึกษาธรรมมามาก สงสัยผ่านการสอบนักธรรมชั้นเอกมาแล้วแน่เลย


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 06:02:29 PM
คุณวุ้นเส้น เธอเป็นคนใฝ่ธรรมะ ศึกษาธรรมมามาก สงสัยผ่านการสอบนักธรรมชั้นเอกมาแล้วแน่เลย

แต่ก่อนอาจเคยบวชพระมานะครับ ;D ;D ;D  บวชชีครับ บวชชี พูดผิด อิ อิ อิ

ใฝ่ธรรมะน่ายกย่องครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 06:04:11 PM
;Dว่าแต่ทำบุญด้วยอะไรครับ ชาติหน้าถึงจะได้ครอบครองปืนตามที่ใจปราถนา ;D
สำหรับผมเอง ก่อนที่จะมีปืนพยายามใช้หลักธรรมเรื่องของความมีขันติ ลดพยาบาท เพื่อควบคุมใจในการใช้ปืน และใช้มงคลชีวิต 38 ประการในการครองเรือน ครองงานครับ แม้บางช่วงจะได้ไม่เต็มที่ก็ตามครับ
พอมีปืนแล้วคงต้องใช้มงคล.38ในการคุ้มครองชีวิตตนให้พันภัย

บางมงคลมีแบบเซมิออโต้ด้วยใช่ไหมครับ 38 เนี่ย ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 06:08:01 PM
 :DD :DD :DD...ว่าแล้วเชียว...มิน่า...ถึงรุ่มร้อนอึดอัดใจ...ยังไงพิกล...ที่แท้ก็ข้าม...กระทู้ธรรม...ไปมานี่เอง...เฮ้อ...ไม่อยากบอกเลยว่า...เวลาผมผ่านวัดทีไรเป็นเหมือนอย่างนี้ทุกที...ยิ่งได้เข้าไปนั่งในโบสถ์...เหมือนจะขาดใจให้ได้...สงสัยจะทำบาปไว้เยอะ... ;D ;D ;D

...แต่...เอ๋...เรื่องธรรมะ...เป็นเรื่องของจิตใจนี่นา...หากเรายึดมั่นในพระธรรมคำสั่งสอนได้...ใจก็เป็นสุข...ผมทำได้บางข้อแค่นั้นแหละ...วาสนา...ตายไปตกนรกแน่ ๆ เลย... :~)

...ทุกข์...สุข...อยู่ที่ใจ...มิใช่หรือ..........โอ๊ยยยยยย....ผมปลงไม่ได้หรอก...ใจยังไม่สงบ... :D

...ยังไงจะแวะเข้ามาศึกษาดูครับ...มีอะไร...อัพกันบ่อยๆ เด้อ...ไปแล้ว...อยู่กระทู้นี้นานไม่ได้...จะละลายแล้ว... ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 06:08:24 PM
สำหรับผมเอง ก่อนที่จะมีปืนพยายามใช้หลักธรรมเรื่องของความมีขันติ ลดพยาบาท

พยาบาทถึงกับใช้ปืนเลยหรือครับ ;D ;D  ;D แปลว่าไม่ได้ตั้งใจใช้ป้องกันครอบครัวและทรัพย์สิน


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 06:10:01 PM
:DD :DD :DD...ว่าแล้วเชียว...มิน่า...ถึงรุ่มร้อนอึดอัดใจ...ยังไงพิกล...ที่แท้ก็ข้าม...กระทู้ธรรม...ไปมานี่เอง...เฮ้อ...ไม่อยากบอกเลยว่า...เวลาผมผ่านวัดทีไรเป็นเหมือนอย่างนี้ทุกที...ยิ่งได้เข้าไปนั่งในโบสถ์...เหมือนจะขาดใจให้ได้...สงสัยจะทำบาปไว้เยอะ... ;D ;D ;D

...แต่...เอ๋...เรื่องธรรมะ...เป็นเรื่องของจิตใจนี่นา...หากเรายึดมั่นในพระธรรมคำสั่งสอนได้...ใจก็เป็นสุข...ผมทำได้บางข้อแค่นั้นแหละ...วาสนา...ตายไปตกนรกแน่ ๆ เลย... :~)

...ทุกข์...สุข...อยู่ที่ใจ...มิใช่หรือ..........โอ๊ยยยยยย....ผมปลงไม่ได้หรอก...ใจยังไม่สงบ... :D

...ยังไงจะแวะเข้ามาศึกษาดูครับ...มีอะไร...อัพกันบ่อยๆ เด้อ...ไปแล้ว...อยู่กระทู้นี้นานไม่ได้...จะละลายแล้ว... ;D ;D ;D

อ่านแล้วแปลกๆ ไม่ทราบคู่กรณีเก่ารึเปล่าครับ ;D ;D ;D  ผมเป็นกรรมการให้ไหมครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 06:54:51 PM
 :<<

ออกไปข้างนอกแป๊บเดียว ... กลับมาโดนแซวซะ...:DD...

ใฝ่ฝันไว้ว่าอยากเป็นนักบวช... บวชมัน บวชเผือก บวชกล้วย ค่ะ....  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 07:12:38 PM
อ่านแล้วแปลกๆ ไม่ทราบคู่กรณีเก่ารึเปล่าครับ     ผมเป็นกรรมการให้ไหมครับ  
 :OO :OO :OO...ขอบคุณครับ...เอางั้นเลยเหรอ...อืมม์มมมมมมมมม...ขอ 5 ยก ...ยกละ 2 นาที...มีใบแดง..ใบเหลืองด้วยครับ..........แต่...เอ...ไม่เอาดีกว่า...โกรธคือโง่...โมโหคือบ้า...ความคิดเคียดแค้นพยาบาท...มุ่งมั่นจะเอาชนะคะคาน...มีแต่จะทำให้เจ็บตัว...และ...หัวใจ(เกี่ยวกันไหมเนี่ย)...ชะอุ้ย...ร้อน ๆๆ...จะละลายแล้ว...อยู่นานไม่ได้...(ล้อเล่นครับ...ไม่ใช่ตามที่ท่าน carrera  เข้าใจหรอก...ท่าน อจ. อันดามันกับผม ...ชอบหยอกล้อ...เพื่อสร้างสีสรรกันบ่อยๆ ครับ)... ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 07:15:34 PM
:<<

ออกไปข้างนอกแป๊บเดียว ... กลับมาโดนแซวซะ...:DD...

ฝฃใฝ่ฝันไว้ว่าอยากเป็นนักบวช... บวชมัน บวชเผือก บวชกล้วย ค่ะ.... ;D ;D ;D

...เมื่อไหร่...บอกโตยเน้อ...  :D~ :D~ :D~


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: GLOCK 45 ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 07:20:24 PM
อ่านแล้วแปลกๆ ไม่ทราบคู่กรณีเก่ารึเปล่าครับ ผมเป็นกรรมการให้ไหมครับ  
 :OO :OO :OO...ขอบคุณครับ...เอางั้นเลยเหรอ...อืมม์มมมมมมมมม...ขอ 5 ยก ...ยกละ 2 นาที...มีใบแดง..ใบเหลืองด้วยครับ..........แต่...เอ...ไม่เอาดีกว่า...โกรธคือโง่...โมโหคือบ้า...ความคิดเคียดแค้นพยาบาท...มุ่งมั่นจะเอาชนะคะคาน...มีแต่จะทำให้เจ็บตัว...และ...หัวใจ(เกี่ยวกันไหมเนี่ย)...ชะอุ้ย...ร้อน ๆๆ...จะละลายแล้ว...อยู่นานไม่ได้...(ล้อเล่นครับ...ไม่ใช่ตามที่ท่าน carrera เข้าใจหรอก...ท่าน อจ. อันดามันกับผม ...ชอบหยอกล้อ...เพื่อสร้างสีสรรกันบ่อยๆ ครับ)... ;D ;D ;D

ส๊า.....ธุ ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 07:35:22 PM
อ่านแล้วแปลกๆ ไม่ทราบคู่กรณีเก่ารึเปล่าครับ ผมเป็นกรรมการให้ไหมครับ  
 :OO :OO :OO...ขอบคุณครับ...เอางั้นเลยเหรอ...อืมม์มมมมมมมมม...ขอ 5 ยก ...ยกละ 2 นาที...มีใบแดง..ใบเหลืองด้วยครับ..........แต่...เอ...ไม่เอาดีกว่า...โกรธคือโง่...โมโหคือบ้า...ความคิดเคียดแค้นพยาบาท...มุ่งมั่นจะเอาชนะคะคาน...มีแต่จะทำให้เจ็บตัว...และ...หัวใจ(เกี่ยวกันไหมเนี่ย)...ชะอุ้ย...ร้อน ๆๆ...จะละลายแล้ว...อยู่นานไม่ได้...(ล้อเล่นครับ...ไม่ใช่ตามที่ท่าน carrera เข้าใจหรอก...ท่าน อจ. อันดามันกับผม ...ชอบหยอกล้อ...เพื่อสร้างสีสรรกันบ่อยๆ ครับ)... ;D ;D ;D

ส๊า.....ธุ ;D ;D

 :D :D :D...ผมยังไม่คิดจะบวช...ครับบบบบบบบบ...กลัวได้บวชแล้วจะไม่ได้สึก... ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 07:59:21 PM
อ้างถึง
คำถามสองครับ

ถ้าบุญเก็บไปชาติหน้าได้ก็เก็บไปให้คนอื่นได้ปะ

ไม่ได้ค่ะ กรรมใดใครก่อ คนนั้นรับ และต้องชดใช้เอง
บุญก็เหมือนกัน

และไม่สามารถทำบุญเพื่อล้างบาปได้ .... บาปที่สร้างไว้ก็ต้องชดใช้ พร้อม ๆ ไปกับการได้ใช้บุญที่สะสมไป

คนบางคนเกิดมาในชาติตระกูลที่ดี ฐานะดี แต่อาจไม่ได้ตายดี หรือชีวิตอาจอยู่อย่างไม่มีความสุข เพราะเขามีบุญที่สะสมไว้ทำให้เกิดในตระกูลที่ดี มีฐานะดี ขณะเดียวกันเขาได้สร้างบาปจะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ทำให้เขาต้องชดใช้กับการกระทำนั้น จึงไม่ได้ตายดี หรือไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

ผมอยากเปรียบกับการเงิน

เกิดอีกชาติ = เหมือนพระท่านให้กู้มาใช้ลงทุนทำความดี

ทำเจ๊ง ทำบาป ติดลบ ---ล้มละลาย=ตาย  ถ้าทางการเงิน ไม่มีลูกไม่มีทรัพย์สินหักกลบลบหนี้ คนให้กู้(ธนาคาร)อาจต้องแทงหนี้ศูนย์

แต่ทำไมทางธรรม ทำไม่ดี ทำบาป ยังตามไปชาติหน้า แก้กันไม่มีสิ้นสุด ไม่ค่อยแฟร์เท่าไร
--------------------------------

ลูกหนี้ไม่ดี(แบ็คลิส)ธนาคารก็ไม่ปล่อยกู้เรื่อยๆนะ แล้วทางธรรมจะให้กลับมาเกิดอีกบ่อยๆอะเปล่า

สงสัยจะได้คุยกันยาว....

ตามที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้ ถึงเหตุแห่งการเกิดของสรรพสัตว์แล้ว... แตกต่างจากการเงินที่เปรียบเทียบอย่างลิบลับเลยค่ะ

เพราะเหตุที่ทำให้สรรพสัตว์เิกิดมานั้น คือ กรรม --- การกระทำทั้งดี และไม่ีดี ทำให้ต้องเกิดมาเพื่อชดใช้ ทำกรรมดีก็ได้เกิดมาดี
ทำกรรมไม่ดีก็ได้เกิดในที่ ๆ ไม่ดี ถ้ามีทั้งบุญ ทั้งกรรมไม่ดี ก็อย่างที่บอก ได้เกิดในที่ดี ๆ แต่ไม่สามารถมีชีวิตที่เป็นสุขได้

ถ้ามีบุญที่สะสมไว้ ก็ได้เกิดมาใช้บุญ เมื่อหมดบุญก็ละสังขาร แล้วก็เกิดใหม่เพื่อชดใช้กรรมเก่าที่ยังใช้ไม่หมด วนเวียนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เป็น "วัฏสงสาร"

จะตัดกรรม หรือลดกรรมได้ เมื่อมีการอโหสิกรรมต่อกันกับเจ้ากรรมนายเวร ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องเอ่ย "อโหสิกรรม" ไม่ใช่เอ่ยเพียงแค่ฝ่ายใดผ่ายหนึ่ง





หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 08:08:41 PM

...... โอ้โห ..... ชื่นชมครับ  ชื่นชมจริง ๆ สั้นกระชับ  ทีแรก ๆ ไม่ยอมขยับกันเลยนะขอรับ  ตอนนี้ใครทำอย่างไรก็ควรจะได้อย่างนั้นจริง ๆ นะขอรับ ....... ผมคงต้องรีบทำบุญให้มาก ๆ แล้วก็อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวร ใช่หรือไม่ขอรับ  .... คุณวุ้นเส้น ......

(http://img329.imageshack.us/img329/623/24355su3.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 11:22:15 PM
คุณ ALEX_AMSS7 ถ้าจะบวชเมื่อไหร่ก็ส่งซองอนุโมทนา มานะ แต่บวชแล้วห้ามสึก  ส่วนตัวผมนี้ปลงตกแล้วเลยไม่ต้องบวช   ;D ;D ;D  อีกอย่างอายุเกินแล้ว  แต่ก่อนก็เคยคิดจะบวชเหมือนกัน กะว่าถ้าบวชแล้วก็ธุดงไปตามป่า ล่าสัตว์ประทังชีวิตไปเรื่อยๆ เพื่อหนีทางโลก...บวชแบบนี้คุณแจ็คสนใจมั๊ยครับ  ;D ;D

อ่านแล้วแปลกๆ ไม่ทราบคู่กรณีเก่ารึเปล่าครับ ผมเป็นกรรมการให้ไหมครับ  
 :OO :OO :OO...ขอบคุณครับ...เอางั้นเลยเหรอ...อืมม์มมมมมมมมม...ขอ 5 ยก ...ยกละ 2 นาที...มีใบแดง..ใบเหลืองด้วยครับ..........แต่...เอ...ไม่เอาดีกว่า...โกรธคือโง่...โมโหคือบ้า...ความคิดเคียดแค้นพยาบาท...มุ่งมั่นจะเอาชนะคะคาน...มีแต่จะทำให้เจ็บตัว...และ...หัวใจ(เกี่ยวกันไหมเนี่ย)...ชะอุ้ย...ร้อน ๆๆ...จะละลายแล้ว...อยู่นานไม่ได้...(ล้อเล่นครับ...ไม่ใช่ตามที่ท่าน carrera เข้าใจหรอก...ท่าน อจ. อันดามันกับผม ...ชอบหยอกล้อ...เพื่อสร้างสีสรรกันบ่อยๆ ครับ)... ;D ;D ;D

อะไรกันครับ 5 ยก  จะตอบกระทู้สดสนทนาธรรมกันเหรอ...  ;) :VOV:

ผมมีคติว่า...ทำชั่วได้ D ทำดีได้ A   :VOV: :D ;) ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Rock ที่ กรกฎาคม 13, 2007, 11:42:02 PM
เสนอให้ปักหมุด  1 เสียงครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 02:48:14 AM
เสนอให้ปักหมุด 1 เสียงครับ
กระทู้นี้คุณandamanเป็นผู้ตั้ง ตั้งแล้วก็เล่นสำนวนไป เล่นสำนวนมา ไม่ได้นำเสนออะไรดีๆให้แก่เพื่อนๆ
สมาชิกเลย  เพื่อนสมาชิกหลายท่านตอบได้ดีมากๆ ตรงตามเนื้อหาของกระทู้ แต่เจ้าของกระทู้เป็นผู้พาออกนอกทาง
เสียเอง ไม่แน่ใจว่าท่านเจ้าของกระทู้ตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากรู้เกี่ยวกับธรรมมะ หรือว่าเพื่อการอื่นใดเป็นหลักกันแน่
ผมให้อีก1เสียงตามคุณRockครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 06:07:30 AM

ผมยึดถือมงคล 38 ประการเป็นแนวทาง แม้ว่าปัญญาน้อย ยังทำ-ยังตีความได้ไม่กระจ่างแม้เพียงเสี้ยวหนึ่ง
แต่ก็ยึด..........

อเสวนา จ พาลานํ   
ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา

เป็นบันไดสองก้าวแรกครับ .........  :)



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 08:35:12 AM
ผมยึดถือมงคล 38 ประการเป็นแนวทาง แม้ว่าปัญญาน้อย ยังทำ-ยังตีความได้ไม่กระจ่างแม้เพียงเสี้ยวหนึ่ง
แต่ก็ยึด..........
อเสวนา จ พาลานํ   
ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา
เป็นบันไดสองก้าวแรกครับ ......... :)


ด้วยความเคารพครับ

มงคล ๓๘ ประการมีอะไรบ้างครับ ผมจำไม่ได้แล้วครับ เคยท่องตอนสมัยเรียนมัธยมสามครับ

อีกอย่างที่อยากถามเด็กนักเรียนสมัยนี้เขาไม่เรียนวิชาพุทธศาสนาและจริยธรรมกันแล้วหรือครับ

ขอบคุณครับ



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 08:41:00 AM
;D ;D ;D


อ้างถึง
คำถามสองครับ

ถ้าบุญเก็บไปชาติหน้าได้ก็เก็บไปให้คนอื่นได้ปะ

ไม่ได้ค่ะ กรรมใดใครก่อ คนนั้นรับ และต้องชดใช้เอง
บุญก็เหมือนกัน

และไม่สามารถทำบุญเพื่อล้างบาปได้ .... บาปที่สร้างไว้ก็ต้องชดใช้ พร้อม ๆ ไปกับการได้ใช้บุญที่สะสมไป

คนบางคนเกิดมาในชาติตระกูลที่ดี ฐานะดี แต่อาจไม่ได้ตายดี หรือชีวิตอาจอยู่อย่างไม่มีความสุข เพราะเขามีบุญที่สะสมไว้ทำให้เกิดในตระกูลที่ดี มีฐานะดี ขณะเดียวกันเขาได้สร้างบาปจะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ทำให้เขาต้องชดใช้กับการกระทำนั้น จึงไม่ได้ตายดี หรือไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

อ้างถึง
คำถามสองครับ

ถ้าบุญเก็บไปชาติหน้าได้ก็เก็บไปให้คนอื่นได้ปะ

ไม่ได้ค่ะ กรรมใดใครก่อ คนนั้นรับ และต้องชดใช้เอง
บุญก็เหมือนกัน

และไม่สามารถทำบุญเพื่อล้างบาปได้ .... บาปที่สร้างไว้ก็ต้องชดใช้ พร้อม ๆ ไปกับการได้ใช้บุญที่สะสมไป

คนบางคนเกิดมาในชาติตระกูลที่ดี ฐานะดี แต่อาจไม่ได้ตายดี หรือชีวิตอาจอยู่อย่างไม่มีความสุข เพราะเขามีบุญที่สะสมไว้ทำให้เกิดในตระกูลที่ดี มีฐานะดี ขณะเดียวกันเขาได้สร้างบาปจะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ทำให้เขาต้องชดใช้กับการกระทำนั้น จึงไม่ได้ตายดี หรือไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

ผมอยากเปรียบกับการเงิน

เกิดอีกชาติ = เหมือนพระท่านให้กู้มาใช้ลงทุนทำความดี

ทำเจ๊ง ทำบาป ติดลบ ---ล้มละลาย=ตาย ถ้าทางการเงิน ไม่มีลูกไม่มีทรัพย์สินหักกลบลบหนี้ คนให้กู้(ธนาคาร)อาจต้องแทงหนี้ศูนย์

แต่ทำไมทางธรรม ทำไม่ดี ทำบาป ยังตามไปชาติหน้า แก้กันไม่มีสิ้นสุด ไม่ค่อยแฟร์เท่าไร
--------------------------------

ลูกหนี้ไม่ดี(แบ็คลิส)ธนาคารก็ไม่ปล่อยกู้เรื่อยๆนะ แล้วทางธรรมจะให้กลับมาเกิดอีกบ่อยๆอะเปล่า

สงสัยจะได้คุยกันยาว....

ตามที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้ ถึงเหตุแห่งการเกิดของสรรพสัตว์แล้ว... แตกต่างจากการเงินที่เปรียบเทียบอย่างลิบลับเลยค่ะ

เพราะเหตุที่ทำให้สรรพสัตว์เิกิดมานั้น คือ กรรม --- การกระทำทั้งดี และไม่ีดี ทำให้ต้องเกิดมาเพื่อชดใช้ ทำกรรมดีก็ได้เกิดมาดี
ทำกรรมไม่ดีก็ได้เกิดในที่ ๆ ไม่ดี ถ้ามีทั้งบุญ ทั้งกรรมไม่ดี ก็อย่างที่บอก ได้เกิดในที่ดี ๆ แต่ไม่สามารถมีชีวิตที่เป็นสุขได้

ถ้ามีบุญที่สะสมไว้ ก็ได้เกิดมาใช้บุญ เมื่อหมดบุญก็ละสังขาร แล้วก็เกิดใหม่เพื่อชดใช้กรรมเก่าที่ยังใช้ไม่หมด วนเวียนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เป็น "วัฏสงสาร"

จะตัดกรรม หรือลดกรรมได้ เมื่อมีการอโหสิกรรมต่อกันกับเจ้ากรรมนายเวร ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องเอ่ย "อโหสิกรรม" ไม่ใช่เอ่ยเพียงแค่ฝ่ายใดผ่ายหนึ่ง


จะจิบก่อน หรือหลังจิบ กาแฟ ..  เมื่อได้พบความเห็นของ คุณ harusame . :D
ขอชื่นชม.. นับถือ จากใจจริง ครับ.  :D



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 08:45:14 AM

เรียนคุณหนองหัวพราน....มงคล ๓๘ ประการ
ลอกมาครับ...... จาก http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html

มงคลมีอยู่ ๓๘ มงคล  ด้วยพระคาถา ๑๐ คาถาใน มงคลสูตร๑ ตามลำดับดังนี้
(พระไตรปิฎก  เล่ม  ๒๕  ขุททกนิกาย  ขุททกปาฐะ  ข้อ ๕-๖)

คาถาที่ ๑. มี ๓ มงคลคือ ๑.   อเสวนา จ พาลานํ การไม่คบคนพาล ๒.   ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา การคบบัณฑิต (คือ ท่านผู้รู้ทั้งหลาย) ๓.   ปูชา จ ปูชนียานํ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา   

คาถาที่ ๒. มี ๓ มงคลคือ ๔.   ปฏิรูปเทสวาโส จ การอยู่ในประเทศ(ถิ่น)ที่สมควร ๕.   ปุพฺเพ จ กตปุญฺญตา การได้กระทำบุญไว้แล้วในปางก่อน ๖.   อตฺตสมฺมาปณิธิ จ การตั้งตนไว้ชอบ   

คาถาที่ ๓. มี ๔ มงคลคือ ๗.   พาหุสจฺจญฺจ การสดับตรับฟังมาก ๘.   สิปฺปญฺจ การศึกษาศิลปะ ๙.   วินโย จ สุสิกฺขิโต วินัยที่ศึกษาดีแล้ว ๑๐.   สุภาสิตา จ ยา วาจา วาจาสุภาษิต   

คาถาที่ ๔. มี ๔ มงคลคือ ๑๑.   มาตาอุปฏฺฐานํ การบำรุงมารดา ๑๒.   ปิตุอุปฏฺฐานํ การบำรุงบิดา ๑๓.   ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห การสงเคราะห์บุตรและภรรยา ๑๔.   อนากุลา จ กมฺมนฺตา การงานไม่อากูลคั่งค้าง   

คาถาที่ ๕. มี ๔ มงคลคือ ๑๕.   ทานญฺจ ทาน การให้ ๑๖.   ธมฺมจริยา การประพฤติธรรม ๑๗.   ญาตกานญฺจ สงฺคโห การสงเคราะห์ญาติ ๑๘.   อนวขฺขานิ กมฺมานิ การกระทำการงานที่ไม่มีโทษ   

คาถาที่ ๖. มี ๓ มงคลคือ ๑๙.   อารตี วีรตี ปาปา การงดการเว้นจากบาป ๒๐.   มฺชชปานา จ สญฺญโม การสำรวมจากน้ำเมา ๒๑.   อปฺปมาโท จ ธมฺเมสุ ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย   

คาถาที่ ๗. มี ๕ มงคลคือ ๒๒.   คารโว จ ความเคารพ ๒๓.   นิวาโต จ การอ่อนน้อมถ่อมตน ๒๔.   สนฺตุฏฺฐี จ ความสันโดษ ๒๕.   กตญฺญุตา ความกตัญญูรู้คุณ ๒๖.   กาเลน ธมฺมสฺสวนํ การฟังธรรมตามกาล   

คาถาที่ ๘. มี ๔ มงคลคือ ๒๗.   ขนฺตี จ ความอดทน ๒๘.   โสวจสฺสตา ความเป็นผู้ว่าง่าย ๒๙.   สมณานญฺจ ทสฺสนํ การเห็นสมณะ ๓๐.   กาเลน ธมฺมสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล   

คาถาที่ ๙. มี ๔ มงคลคือ ๓๑.   ตโป จ ความเพียรเผากิเลส ๓๒.   พฺรหฺมจริยญฺจ การประพฤติพรหมจรรย์ ๓๓.   อริยสจฺจานทสฺสนํ การเห็นอริยสัจ ๓๔.   นิพฺพานสจฺฉิกิริยา จ การทำนิพพานให้แจ้ง   

คาถาที่ ๑๐. มี ๔ มงคลคือ ๓๕.   ผุฏฺฐสฺส โลกธมฺเมหิ จิตฺตํ ยสฺส น กมฺปติ จิตของผู้ใดถูกโลกธรรมกระทบแล้วไม่หวั่นไหว ๓๖.   อโสกํ ความไม่เศร้าโศก ๓๗.   วิรชํ จิตที่ปราศจากธุลี คือกิเลส ๓๘.   เขมํ จิตที่ถึงความเกษมจากโยคะ

 :) :)



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: iceman - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 08:55:48 AM
  พี่ธำรงสงสัยเหลือแค่ 36 แน่ ๆ ครับ ขาด ข้อ 32 กับ 37 ครับ  :D :D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:00:47 AM
ขอบคุณมากครับพี่ธำรง เซฟเก็บไว้อ่านแล้วครับ

ธรรมะของหลวงพ่อพุทธทาสครับ

http://www.buddhadasa.com/



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:05:04 AM
เสนอให้ปักหมุด 1 เสียงครับ
กระทู้นี้คุณandamanเป็นผู้ตั้ง ตั้งแล้วก็เล่นสำนวนไป เล่นสำนวนมา ไม่ได้นำเสนออะไรดีๆให้แก่เพื่อนๆ
สมาชิกเลย เพื่อนสมาชิกหลายท่านตอบได้ดีมากๆ ตรงตามเนื้อหาของกระทู้ แต่เจ้าของกระทู้เป็นผู้พาออกนอกทาง
เสียเอง ไม่แน่ใจว่าท่านเจ้าของกระทู้ตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากรู้เกี่ยวกับธรรมมะ หรือว่าเพื่อการอื่นใดเป็นหลักกันแน่
ผมให้อีก1เสียงตามคุณRockครับ

เห็นด้วยครับ..............

หลายท่านที่นำเสนอมี"สาระ"ดีมาก


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:10:40 AM

วิถีของชีวิต  ของต่างผู้คน มากเนื้อหาสาระที่ดี ดีงาม  หรือยังตามหาความดีงาม ยังไม่พบ..
หากเข้าหาธรรมชาติ เก็บเกี่ยวที่เป็นเนื้อหาสาระ เป็นประโยชน์แก่สังคม
ย่อมเป็นประโยชน์แก่ตน ไปด้วย ..   

ธรรมมะ เป็นการสอนให้แต่ละบุคคล หลุดพ้นจากอวิชา มิจฉาทิฎฐิ 
คนไหนทำคนนั้นได้..  รับไปทั้ง บวก และลบ   

ธรรมะ มีอยู่เป็น ธรรมชาติ  .. มีหลายระดับ พึงเลือกเสาะหา.
นำมาใช้เป็นเครื่องนำทางแก่การใช้ชีวิต. ให้เหมาะแก่ตน
แก่การเป็น ฆราวาส   หรือ เป็นผู้ทรงศีล ๒๒๗ ข้อ

มนุษย์ อาจเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวเท่านั้น ที่จะบำเพ็ญตนเพื่อให้ หลุดพ้นไปจากความทุกข์

บุคคลที่หมกมุ่นในเรื่องเพศ และแสดงออกถึงเรื่องนั้น
โดยไม่อดกลั้น ..  ย่อมจะขาดสติปัญญา
เพราะปัญญาที่มีอยู่ รังแต่จะคิดให้ตัวเอง ให้ไปใกล้ชิดแต่ เรื่องนั้น เป็นใหญ่.

จึงอย่าพึงหวัง จะได้ธรรมะ จาก บุคคลเหล่านั้น. .จำพวกนั้น.   :)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:12:01 AM
ขอบคุณ คุณธำรง ค่ะ มงคล 38 ประการนี่ลืมไปหมดแล้ว....  ;D

ตอบคุณ Ro@d และคุณแจ็ค

พวกปริยัติ ไม่รู้เรื่องค่ะ ยากเกินไป แต่ได้ไปฝึกกัมมัฏฐาน แล้วจึงเข้าใจ แบบพื้น ๆ ค่ะ ยังไม่รู้ลึกซึ้งค่ะ
เข้าใจด้วยตัวเองจากการฝึกและคำแนะนำของพระอาจารย์ อาจารย์ และวิทยากรค่ะ
ฟังเทศน์ ฟังธรรมบรรยาย แล้วก็นั่งหลับสับปะหงก เสียทุกครั้ง  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^ ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:18:10 AM
เออพูดถึงเรื่องธรรมนะครับผมขอถามนิดนึง ทำไมพระชอบสร้างพระเครื่องที่เป็นรูปตัวเองมาให้คนอื่นปูชาครับ
  ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ คอผมไม่เคยห้อยพระแต่ผมมีเหรีญ ร.9 อยู่คอครับ  ด้วยความเคารพครับ :)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:21:09 AM
พี่ธำรงสงสัยเหลือแค่ 36 แน่ ๆ ครับ ขาด ข้อ 32 กับ 37 ครับ :D :D ;D
ให้ผมมีตั้ง 36 เชียวหรือครับ  :D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:29:45 AM
เออพูดถึงเรื่องธรรมนะครับผมขอถามนิดนึง ทำไมพระชอบสร้างพระเครื่องที่เป็นรูปตัวเองมาให้คนอื่นปูชาครับ
  ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ คอผมไม่เคยห้อยพระแต่ผมมีเหรีญ ร.9 อยู่คอครับ  ด้วยความเคารพครับ :)

การสร้างรูปเคารพในสมัยพุทธกาลไม่มี เพิ่งมามีเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 500 ปี (พุทธศตวรรษที่ 5 และพระพุทธรูปองค์แรกของโลกก็ได้ถูกทำลายไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้เอง จำไม่ได้ว่าปีไหน)

สาเหตุ คือ เป็นรูปแทนตัวพระพุทธเจ้า ให้ผู้คนได้ระลึกถึงและได้เคารพบูชา อีกอย่างเพื่อมาสู้กับกระแสรูปเคารพเทพเจ้าต่าง ๆ ในยุคนั้น

ส่วนพระที่ทำรูปแทนตัวเองเป็นพระเครื่องอาจเป็นเพราะญาติโยมศรัทธา ขอให้สร้าง หรือร่วมกันสร้างหลังจากพระรูปนั้นมรณะภาพไปแล้ว ---- ความเห็นส่วนตัว

ก็รอผู้รู้จริงมาตอบให้ความกระจ่างอีกครั้งนะคะ..... ตอนนี้ขอตัวและหัว ไปทำงานก่อนค่ะ ...
มีธรรมะ แต่ไม่มีสตางค์ ชีวิตก็จะทุกข์ไปอีกแบบ....  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Rock ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:34:17 AM
ในนี้มีใครชอบ พุทธนิกาย เซน ไหมครับ ผมว่าน่าสนใจดีกำลังอ่านหนังสือ เซน
อยู่ครับ
    "  เซนกล่าวว่า การอ่าน การท่อง พระธรรมคัมภีร์ เปรียบกับ การได้นั่งมอง
นั่งดมกลิ่นอาหาร หากแม้ปฏิบัติตาม ประธรรมได้อย่างแท้จริง เราได้กินอาหาร
มื้อนั้นแล้ว "


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:44:51 AM
เออพูดถึงเรื่องธรรมนะครับผมขอถามนิดนึง ทำไมพระชอบสร้างพระเครื่องที่เป็นรูปตัวเองมาให้คนอื่นปูชาครับ
 ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ คอผมไม่เคยห้อยพระแต่ผมมีเหรีญ ร.9 อยู่คอครับ ด้วยความเคารพครับ :)

การสร้างรูปเคารพในสมัยพุทธกาลไม่มี เพิ่งมามีเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 500 ปี (พุทธศตวรรษที่ 5 และพระพุทธรูปองค์แรกของโลกก็ได้ถูกทำลายไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้เอง จำไม่ได้ว่าปีไหน)

สาเหตุ คือ เป็นรูปแทนตัวพระพุทธเจ้า ให้ผู้คนได้ระลึกถึงและได้เคารพบูชา อีกอย่างเพื่อมาสู้กับกระแสรูปเคารพเทพเจ้าต่าง ๆ ในยุคนั้น

ส่วนพระที่ทำรูปแทนตัวเองเป็นพระเครื่องอาจเป็นเพราะญาติโยมศรัทธา ขอให้สร้าง หรือร่วมกันสร้างหลังจากพระรูปนั้นมรณะภาพไปแล้ว ---- ความเห็นส่วนตัว

ก็รอผู้รู้จริงมาตอบให้ความกระจ่างอีกครั้งนะคะ..... ตอนนี้ขอตัวและหัว ไปทำงานก่อนค่ะ ...
มีธรรมะ แต่ไม่มีสตางค์ ชีวิตก็จะทุกข์ไปอีกแบบ.... ;D ;D ;D


พระพุทธรูป ถูกสร้างขึ้นในสมัยของ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช  ที่มาพิชิตชมพูทวีป
และศรัทธา ในทางปฎิบัติของพระพุทธศาสนา ..    :)  ผมว่าตามที่ เคยรับฟังมาครับ.

ส่วนรูปองค์เหมือน พระเครื่องฯ  มีความเห็นเหมือนที่คุณ harusame ครับ.

และน่ามีความเป็นมาหลายทาง ครับ
จากตัวหลวงพ่อเองก็มี จากญาติโยมก็มี ..  สองสายทางร่วมกัน . 
เพราะจะหลวงพ่อท่านจะต้องทำพิธีปลุกให้..  :D
แต่เดิม เป็นเรื่องดี  ไม่มีพุทธพาณิชย์ เข้ามาปั่น ให้เสียแนวทาง ไป. :)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:05:52 AM
เสนอให้ปักหมุด 1 เสียงครับ
กระทู้นี้คุณandamanเป็นผู้ตั้ง ตั้งแล้วก็เล่นสำนวนไป เล่นสำนวนมา ไม่ได้นำเสนออะไรดีๆให้แก่เพื่อนๆ
สมาชิกเลย เพื่อนสมาชิกหลายท่านตอบได้ดีมากๆ ตรงตามเนื้อหาของกระทู้ แต่เจ้าของกระทู้เป็นผู้พาออกนอกทาง
เสียเอง ไม่แน่ใจว่าท่านเจ้าของกระทู้ตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากรู้เกี่ยวกับธรรมมะ หรือว่าเพื่อการอื่นใดเป็นหลักกันแน่
ผมให้อีก1เสียงตามคุณRockครับ
(http://img61.imageshack.us/img61/4686/63resizefs6.jpg)



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:08:31 AM
:<<

ออกไปข้างนอกแป๊บเดียว ... กลับมาโดนแซวซะ...:DD...

ใฝ่ฝันไว้ว่าอยากเป็นนักบวช... บวชมัน บวชเผือก บวชกล้วย ค่ะ.... ;D ;D ;D

กล้วยบวชชี ;D ;D ;D  ชอบมากเลย


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:10:29 AM
อ่านแล้วแปลกๆ ไม่ทราบคู่กรณีเก่ารึเปล่าครับ ผมเป็นกรรมการให้ไหมครับ  
 :OO :OO :OO...ขอบคุณครับ...เอางั้นเลยเหรอ...อืมม์มมมมมมมมม...ขอ 5 ยก ...ยกละ 2 นาที...มีใบแดง..ใบเหลืองด้วยครับ..........แต่...เอ...ไม่เอาดีกว่า...โกรธคือโง่...โมโหคือบ้า...ความคิดเคียดแค้นพยาบาท...มุ่งมั่นจะเอาชนะคะคาน...มีแต่จะทำให้เจ็บตัว...และ...หัวใจ(เกี่ยวกันไหมเนี่ย)...ชะอุ้ย...ร้อน ๆๆ...จะละลายแล้ว...อยู่นานไม่ได้...(ล้อเล่นครับ...ไม่ใช่ตามที่ท่าน carrera เข้าใจหรอก...ท่าน อจ. อันดามันกับผม ...ชอบหยอกล้อ...เพื่อสร้างสีสรรกันบ่อยๆ ครับ)... ;D ;D ;D

รับทราบครับ ;D ;D ;D เราใช้เหตุและผลกันเพื่อนปัญญา


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:15:35 AM
เสนอให้ปักหมุด 1 เสียงครับ

จะปักหรือครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:17:07 AM
คุณ ALEX_AMSS7 ถ้าจะบวชเมื่อไหร่ก็ส่งซองอนุโมทนา มานะ แต่บวชแล้วห้ามสึก  ส่วนตัวผมนี้ปลงตกแล้วเลยไม่ต้องบวช   ;D ;D ;D  อีกอย่างอายุเกินแล้ว 

มีอายุเกินด้วยหรือครับ ;D ;D ;D  อายุต้องเท่าไรครับถึงห้ามบวช



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:25:36 AM

ธรรมะ มีอยู่เป็น ธรรมชาติ  .. มีหลายระดับ พึงเลือกเสาะหา.
นำมาใช้เป็นเครื่องนำทางแก่การใช้ชีวิต. ให้เหมาะแก่ตน
แก่การเป็น ฆราวาส   หรือ เป็นผู้ทรงศีล ๒๒๗ ข้อ
 

มีพอดีก็พอ มีมากไปก็ไม่ใช่ เป็นทางของพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:28:33 AM
ในนี้มีใครชอบ พุทธนิกาย เซน ไหมครับ ผมว่าน่าสนใจดีกำลังอ่านหนังสือ เซน
อยู่ครับ
    "  เซนกล่าวว่า การอ่าน การท่อง พระธรรมคัมภีร์ เปรียบกับ การได้นั่งมอง
นั่งดมกลิ่นอาหาร หากแม้ปฏิบัติตาม ประธรรมได้อย่างแท้จริง เราได้กินอาหาร
มื้อนั้นแล้ว "

เซน ดีครับ อ่านแล้วมีข้อคิดมากมาย ;D ;D ;D  ว่างก็เอามาแบ่งนะครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:33:42 AM
... มาถึงตอนนี้ต้องใช้ความสุขุม เป็นธรรมะเข้าควบคุมตัวเอง  อันใดที่ไม่ทราบก็จะไม่พูดให้ไขว้เขว  ต้องทำตัวเป็นผู้เสพ (อ่าน) ที่ดีเพื่อให้เกิดปัญญา  อ่านมากจะได้รู้มากอีกนิด  เนื่องเพราะหลายท่านเหลือเกินที่ตอบได้ยังกับผู้ที่ปฏิบัติจริง ๆ  ขอชื่นชมคุณ harusame เนื่องเพราะได้โต้ตอบกันมาตั้งแต่ต้นกระทู้แล้ว  อยากทราบต่อก็คือ ทุกครั้งที่ผ่านมาไปปฏิบัติที่ใดหรือ ..... ชื่นชมด้วยความจริงใจ ......

(http://img61.imageshack.us/img61/8025/08942001pp3.jpg)

(http://img61.imageshack.us/img61/9717/02367007xa4.jpg)

........ พระธาตุหินกิ่วที่ดอยดินจี่ ตั้งอยู่ที่บ้านวังตะเคียน  จ. ตาก  ชาวบ้านมักเรียกกันว่า "เจดีย์หินพระอินทร์แขวน" .... คิดไปคิดมาก็คล้ายกับของประเทศพม่านะครับ  ที่บ้านเขามี  "พระธาตุหินแขวน" ลักษณะใกล้เคียงกันแบบนี้เลย  และที่เห็นในภาพนี้  ด้านหลังเจดีย์ก็เป็นประเทศพม่านะครับผม ...... ขอความสุขความเจริญในรูป ในทรัพย์ ในสุขภาพ จงบังเกิดแก่ผู้กราบไหว้บูชา ..... สาธุ .....


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^ ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 10:52:08 AM
เดียวลูกพี่ตู้อันดามันก็พาลากเข้าเรื่องรัฐธรรมนูญ เชื่อผมซิ ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 11:39:08 AM
... มาถึงตอนนี้ต้องใช้ความสุขุม เป็นธรรมะเข้าควบคุมตัวเอง  อันใดที่ไม่ทราบก็จะไม่พูดให้ไขว้เขว  ต้องทำตัวเป็นผู้เสพ (อ่าน) ที่ดีเพื่อให้เกิดปัญญา  อ่านมากจะได้รู้มากอีกนิด  เนื่องเพราะหลายท่านเหลือเกินที่ตอบได้ยังกับผู้ที่ปฏิบัติจริง ๆ 

ดีครับต้องหนักแน่นหน่อย ;D ;D ;D ค่อยๆอ่านกันนะจ๊ะ กระทู้ธรรม


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 11:40:38 AM
เดียวลูกพี่ตู้อันดามันก็พาลากเข้าเรื่องรัฐธรรมนูญ เชื่อผมซิ ;D

เหมือนเลยครับ ถ้าไม่เห็นด้วยกลายเป็นพวกของอำนาจเก่า ;D ;D ;D ไม่ใช่นะ ผมว่าไม่ใช่

ใครไม่เห็นด้วยก็ให้เหตุผลมา


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 01:25:12 PM
ในนี้มีใครชอบ พุทธนิกาย เซน ไหมครับ ผมว่าน่าสนใจดีกำลังอ่านหนังสือ เซน
อยู่ครับ
    "  เซนกล่าวว่า การอ่าน การท่อง พระธรรมคัมภีร์ เปรียบกับ การได้นั่งมอง
นั่งดมกลิ่นอาหาร หากแม้ปฏิบัติตาม ประธรรมได้อย่างแท้จริง เราได้กินอาหาร
มื้อนั้นแล้ว "

ขอบคุณ คุณธำรง ค่ะ มงคล 38 ประการนี่ลืมไปหมดแล้ว....  ;D

ตอบคุณ Ro@d และคุณแจ็ค

พวกปริยัติ ไม่รู้เรื่องค่ะ ยากเกินไป แต่ได้ไปฝึกกัมมัฏฐาน แล้วจึงเข้าใจ แบบพื้น ๆ ค่ะ ยังไม่รู้ลึกซึ้งค่ะ
เข้าใจด้วยตัวเองจากการฝึกและคำแนะนำของพระอาจารย์ อาจารย์ และวิทยากรค่ะ
ฟังเทศน์ ฟังธรรมบรรยาย แล้วก็นั่งหลับสับปะหงก เสียทุกครั้ง  ;D ;D ;D


ตอบท่าน Rock และชื่นชมคุณ harusame

หลักการโดยรวมไม่แตกต่างกันนัก

พุทธศาสนาเองก็มี ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวช

อุปมา ปริยัติ  ดังต้องรู้สูตรอาหาร ขั้นตอนวิธีการในการปรุง รู้ว่าใช้ไฟอ่อนแก่ เวลา อุปกรณ์ อย่างไร
         ปฏิบัติ คือ ขั้นประกอบ เริ่มลงมือ ติดไฟ ต้มน้ำ ใส่เครื่องปรุง ราไฟ เร่งไฟ
         ปฏิเวช นั้น ก็คือการชิมนั่นเอง เมื่อรู้ขั้นตอน เริ่มลงมือปรุง ขั้นนี้ก็ถึงเวลาเสวยรสแห่งธรรมที่ปฏิบัตินั้นๆ

สิ่งเหล่านี้ต้องทำเองครับ การได้รับคำชี้นำจากผู้รู้ กัลยาณมิตรจะนำเราไปสู่ วิมุตนั้นได้เร็วขึ้น

ป.ล.

1.บันไดสองขั้นแรก จากมงคล 38 ประการ หากติดตามงานเขียนของพี่ธำรง จะพบว่าท่านฏิบัติตามนั้นโดยเคร่งครัด  นับถือครับ
2. เห็นด้วยกับข้อความของคุณแจ๊คเป็นอย่างยิ่ง







หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 02:17:54 PM
คุณ ALEX_AMSS7 ถ้าจะบวชเมื่อไหร่ก็ส่งซองอนุโมทนา มานะ แต่บวชแล้วห้ามสึก ส่วนตัวผมนี้ปลงตกแล้วเลยไม่ต้องบวช ;D ;D ;D อีกอย่างอายุเกินแล้ว

มีอายุเกินด้วยหรือครับ ;D ;D ;D อายุต้องเท่าไรครับถึงห้ามบวช



 :) :) :)...คงอีกนานครับ...ผมยังละกิเลส...ละทางโลกไม่ได้...ยังมีห่วงคล้องคออยู่หลายห่วง...หากจะบวชอีกครั้ง...(เคยบวชทดแทนคุณแล้วครั้งหนี่ง)...คงต้องมีใจมีความพร้อมที่จะอุทิศตัวเพื่อศึกษาพระธรรมอย่างแท้จริง...หากบวชตอนนี้ก็เป็นภาระให้กับศาสนาเปล่า ๆ ...เป็นพุทธศาสนิกชน...คนธรรมดา...ก็ทำความดีได้ไม่อายใคร... :D :D :D

...ขอบคุณสำหรับ...ซองอนุโมทนา...ล่วงหน้าครับ อจ. อันดามัน... :D :D :D

...มีอายุเกิน...ห้ามบวชด้วยเหรอครับ...แหม...อาจารย์...ยังหนุ่ม ๆ อยู่เลยนี่นา... :D :D :D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 03:35:43 PM
"ทุกขตัวทุกขถัวนัว"    แปลเอาเอง


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 07:48:40 PM
คนส่วนมากเวลาพูดถึงธรรมมะ/ศาสนา

ผู้ใหญ่สอนเด็กชอบเน้นไปที่พิธีกรรมมากกว่าปลูกฝังคุณธรรมธรรม พูดถึงก็กระปริบกระปรอยไม่เต็มปาก เพราะพูดแล้วเป็นปมด้อยว่าตัวเองก็ยังพร่องจริยธรรม ยังทำตัวเป็นตัวอย่างที่เลวให้เด็กดู ..... พอเด็กรุ่นหลังไม่ได้อย่างใจ ก็ออกมาติว่าเด็กสมัยนี้เลวลง

ตัวเองยังซื้อบริการทางเพศ แต่หน้าด้านมาพูดไม่อายปาก ว่ามีโสเภณีเยอะขึ้น ........

ลุ่มหลงงมงายอยู่กับวัตถุมงคล ทั้งที่ของบางอย่างสุดจะอัปมงคลก็ยังไปกราบไปไหว้ พวกที่สุดโต่งบางคนก็หลุดไปเป็นเหยื่อของเดียรัจฉานวิชา พอทักเข้าก็บอกว่านี่คือ"ศรัทธา"




เด็กบางคน(เช่นผม)ไม่ได้ฉลาดปราดเปรื่องกระไรนัก พอมาคุยเรื่องนี้แล้วเจอภาษายากๆ เจอศัพท์เทคนิกที่ไม่เข้าใจก็จะพาลเบื่อ

พูดเหมือนตัดพ้อ เพราะเคยลองศึกษาดูงูๆปลาๆ ไปคุยกับคนที่คิดว่าน่าจะอธิบายได้ ...... ดันมารู้สึกเอาทีหลังว่าคนที่ตั้งตัวสั่งสอนเป็นตุเป็นตะ ไม่ได้มีคุณธรรมพอที่จะคู่ควรมาสอนก็เสื่อมศรัทธาเลยไม่ได้รู้เรื่องกับเค้าซักที  :-\


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: รัตตรา ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:36:27 PM
สาธุ...สำหรับผมกระทู้นี้ขอตัวครับ....


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 09:52:21 PM
ขอชี้แจง
1. กระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาเพื่อให้สมาชิกที่สนใจเขียน/ตอบ อาจจะจริงบ้างมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าใครรู้อะไรมาบางท่านก็อาจจะมีอารมณ์ขัน ซึ่งหลายๆท่านที่เขียนอ่านดูก็มีสาระดี
2. การออกนอกเรื่องก็ไม่ใช่ว่าผมจะชวนออก หรือผมตั้งใจจะเขียนออกนอกเรื่อง มันก็ขึ้นอยู่ที่ข้อความของแต่ละท่านด้วย หลายท่านเขียนตำหนิผม บางท่านเขียนแซวกันเล่นสนุกๆเพราะว่าเคยเขียนแซวหลอกล้อกันมาหลายครั้ง ส่วนท่านใดจะตามเข้ามาเขียนเพื่อการใดนั้นก็สุดแท้แต่ท่านจะทำ
3. ต่างคนต่างความคิด ใครเขียนอะไรไม่ตรงกับใจเราใช่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนโง่คนเลว  พวกเราที่เข้ามาในนี้ต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้วทุกคน มีดุลยพินิจพิจารณา บางท่านชอบเขียนบางท่านชอบอ่าน ส่วนตัวผมนั้นกระทู้ไหนไม่ชอบผมก็ดูผ่านๆ บางกระทู้ที่สนใจก็จะเข้าไปอ่าน บางครั้งก็เขียนตอบไปตามความรู้สึกของผม บางครั้งก็เขียนตอบแบบแซวเล่นสนุกๆ (ถ้าไม่โดนใจหรือขัดหูใครเข้า ก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้)
4. ท่านทำถูกค้องแล้วที่เสนอให้ปักหมุดกระทู้นี้หรือลบทิ้งไปเลยถ้าเห็นว่าไม่เหมาะไม่ควร และบางท่านที่เข้ามาในกระทู้นี้ท่านก็เป็นผู้มีหน้าที่กลั่นกรองอยู่แล้ว


หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจนะครับ หากไม่เข้าใจก็สุดแท้แต่ท่านทั้งหลาย
           
                 ********ขอบคุณครับ**********

ปล. เรื่องอายุเกินจะบวชนั้นเป็นเกณฑ์ที่ผมกำหนดให้ตัวผมเองครับ ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใดทั้งสิ้น  ;) ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^ ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 11:00:44 PM
ชี้ชัดๆเลยลูกพี่เรา ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 11:38:18 PM
อ้างถึง
ทุกครั้งที่ผ่านมาไปปฏิบัติที่ใดหรือ

วัดอินทร์ บางขุนพรหม

28 ก.ค. - 4 ส.ค นี้จะไปที่เชียงใหม่ค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศค่ะ ....  ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 14, 2007, 11:42:24 PM
อ้างถึง
ทุกครั้งที่ผ่านมาไปปฏิบัติที่ใดหรือ

วัดอินทร์ บางขุนพรหม

28 ก.ค. - 4 ส.ค นี้จะไปที่เชียงใหม่ค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศค่ะ .... ;D ;D

ไปทำงานหรือไปปฏิบัติธรรมครับ   อย่าลืมนำเอาหลักปฏิบัติใหม่ๆมานำเสนอนะครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 07:29:39 AM
ไปปฏิบัติธรรมค่ะ.... หลักสูตรเดิมที่เคยปฏิบัติค่ะ เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่

หลักไม่มีอะไรมากแค่ พิจารณาตัวเองให้รู้เท่าทันจิต เพื่อให้รู้จักว่าอะไรคือ รูป อะไรคือ นาม และมีการเกิดดับอย่างไร....


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 11:35:01 AM

   ..... ที่เชียงใหม่นี้  ไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ใดครับผม  เป็นสาขาที่แยกมาจากทางกรุงเทพ ฯ  หรือว่าเป็นสำนักสงฆ์อยากทราบครับ  เผื่อจะต่อยอดได้บ้างครับ ......  

(http://img353.imageshack.us/img353/4308/08070037gv0.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 03:05:36 PM
ตามลิงค์นี้ค่ะ .... วัดห้วยส้ม เป็นหลักสูตรเดียวกับยุวพุทธ
http://www.vipassanacm.com/home.asp


เวบไซด์ของยุวพุทธค่ะ
http://www.ybat.org/history_1.htm


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 03:11:33 PM
ถ่ายภาพกิจกรรมมาลงให้ดูด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 07:44:59 PM
..... อ้าว .... คุณวุ้นเส้นครับ  วันที่ 28 ก.ค. - 4 ส.ค. ที่เชียงใหม่  เขาสั่งงดแล้วนี่ครับผม  ถ้างั้นคุณวุ้นเส้นก็ไม่ได้ไปแล้วซิครับผม .....

(http://img72.imageshack.us/img72/7800/bindapatuw0.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 07:55:50 PM
 ::) ::) ::)

หมายถึง ผู้เข้าอบรมขอยกเลิกการเข้าอบรมค่ะ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 09:00:06 PM

.... แล้วต้องเสียค่าใช้จ่ายมากหรือไม่ครับผม  การเดินทางจากกรุงเทพ ฯ มา ต้องมาเป็นคณะหรือว่าต่างก็มากันเองครับผม ..... แล้วคุณวุ้นเส้นมาอบรมหรือว่ามาเป็นวิทยากร หรือว่าเป็นผู้ดำเนินการอบรม .... ครับผม .....

(http://img165.imageshack.us/img165/1373/img0069fb6.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 09:03:44 PM
ค่าใช้จ่ายไม่มีค่ะ ระบบบริจาคตามศรัทธาค่ะ

เป็นผู้เข้ารับการอบรมค่ะ ยังอ่อนหัดอยู่ค่ะ...


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 09:15:20 PM
.... ด้วยความเคารพ  ที่ว่าเข้าอบรมนี้  เป็นการอบรมร่วมกับ เช่น ที่ทำงาน เป็นคณะจัดไป หรือว่านัดบอดคือสมัครไปเองเลย  ว่าแต่มันหลายวันจัง ถ้าทำงานก็มิต้องลากันวุ่นวายหรือครับผม  .... ที่ผมถามซอกแซกนี้ไม่ใช่อะไรหรอก  เพื่อว่าถ้าโครงการดีและมีแนวทางสอดคล้องกันกับที่ทำงานได้  อาจจะเสนอให้พวกพนักงานด้วยกันไปเข้าอบรมด้วยน่ะครับผม .......

(http://img165.imageshack.us/img165/5003/indexqn6.jpg)

(http://img507.imageshack.us/img507/1515/09240013jq6.jpg)
(http://img165.imageshack.us/img165/1117/09163010gh6.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 15, 2007, 10:12:53 PM
ขอจัดเป็นหมู่คณะได้ค่ะ มีบริษัทห้างร้านใหญ่ และสถาบันต่าง ๆ ติดต่อวิทยากร เพื่อจัดการอบรมให้กับบุคคลากรในองค์กรของตนเป็นการเฉพาะด้วยค่ะ

ถ้าตามตารางในเวบลิงค์ที่ให้ไป จะเป็นการอบรมให้บุคคลที่สนใจสมัครรับเข้าอบรมเป็นการทั่วไปค่ะ

เข้าไปในเวบของยุวพุทธนะคะ แล้วเลือกที่หัวข้อ "กิจกรรมปฏิบัติธรรม"  แล้วเข้าไปดาวน์โหลดตารางการอบรมทั่วประเทศของปี 2550 ได้ที่ "ตารางการสอนของคุณแม่สิริ" ค่ะ

เลือกระยะเวลาอบรมที่ตรงกับช่วงวันหยุดเทศกาลสิคะ ที่เหลือก็ลางานเพิ่ม ...  ;)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 16, 2007, 10:14:12 AM
ลุ่มหลงงมงายอยู่กับวัตถุมงคล ทั้งที่ของบางอย่างสุดจะอัปมงคลก็ยังไปกราบไปไหว้ พวกที่สุดโต่งบางคนก็หลุดไปเป็นเหยื่อของเดียรัจฉานวิชา พอทักเข้าก็บอกว่านี่คือ"ศรัทธา"

ช่วงนี้เห็นได้บ่อยเรื่องนี้ ;D ;D ;D หาเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจกันใหญ่ แต่อย่าไปขัดเขา เขาชอบก็ปล่อยเขา


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 16, 2007, 10:15:22 AM
ขอชี้แจง
1. กระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาเพื่อให้สมาชิกที่สนใจเขียน/ตอบ อาจจะจริงบ้างมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าใครรู้อะไรมาบางท่านก็อาจจะมีอารมณ์ขัน ซึ่งหลายๆท่านที่เขียนอ่านดูก็มีสาระดี
2. การออกนอกเรื่องก็ไม่ใช่ว่าผมจะชวนออก หรือผมตั้งใจจะเขียนออกนอกเรื่อง มันก็ขึ้นอยู่ที่ข้อความของแต่ละท่านด้วย หลายท่านเขียนตำหนิผม บางท่านเขียนแซวกันเล่นสนุกๆเพราะว่าเคยเขียนแซวหลอกล้อกันมาหลายครั้ง ส่วนท่านใดจะตามเข้ามาเขียนเพื่อการใดนั้นก็สุดแท้แต่ท่านจะทำ
3. ต่างคนต่างความคิด ใครเขียนอะไรไม่ตรงกับใจเราใช่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนโง่คนเลว  พวกเราที่เข้ามาในนี้ต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้วทุกคน มีดุลยพินิจพิจารณา บางท่านชอบเขียนบางท่านชอบอ่าน ส่วนตัวผมนั้นกระทู้ไหนไม่ชอบผมก็ดูผ่านๆ บางกระทู้ที่สนใจก็จะเข้าไปอ่าน บางครั้งก็เขียนตอบไปตามความรู้สึกของผม บางครั้งก็เขียนตอบแบบแซวเล่นสนุกๆ (ถ้าไม่โดนใจหรือขัดหูใครเข้า ก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้)
4. ท่านทำถูกค้องแล้วที่เสนอให้ปักหมุดกระทู้นี้หรือลบทิ้งไปเลยถ้าเห็นว่าไม่เหมาะไม่ควร และบางท่านที่เข้ามาในกระทู้นี้ท่านก็เป็นผู้มีหน้าที่กลั่นกรองอยู่แล้ว


หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจนะครับ หากไม่เข้าใจก็สุดแท้แต่ท่านทั้งหลาย
 
 ********ขอบคุณครับ**********

ปล. เรื่องอายุเกินจะบวชนั้นเป็นเกณฑ์ที่ผมกำหนดให้ตัวผมเองครับ ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใดทั้งสิ้น  ;) ;D ;D ;D

เห็นด้วยครับ ถ้าเกี่ยวกับธรรมะไม่ว่าแนวไหน แขนงไหนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับกระทู้นี้ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 05:34:17 PM
นำรูปพระธาตุอินทร์แขวน ที่พม่ามาฝากครับผม
ภาพจะไม่คมชัดนักนะครับ
เนื่องจากผมถ่ายรูปไม่เก่ง
และตอนถ่ายฝนตกค่อนข้างมาก
และอยู่สูงจนมีแต่เมฆอยู่รอบตัวครับผม

(http://i18.tinypic.com/5xe75dv.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 05:35:44 PM
(http://i14.tinypic.com/6ceq6c5.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 05:36:35 PM
(http://i9.tinypic.com/67g7exl.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 05:38:24 PM
รูปแถมครับ ;D
พระอุปคุต จากพม่าเช่นกัน
(http://i16.tinypic.com/4yfq1s1.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 05:52:35 PM
รูปแถมครับ ;D
พระอุปคุต จากพม่าเช่นกัน
(http://i16.tinypic.com/4yfq1s1.jpg)

ถ้าไม่มีขวดน้ำพลาสติคติดรูปมาด้วยจะดูดีมาก ๆ ค่ะ  ;) :D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 05:54:22 PM
คงเป็นน้ำถวายพระมั๊งครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 06:15:52 PM
(http://i18.tinypic.com/5xe75dv.jpg)

สวยดีครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 06:16:25 PM
คงเป็นน้ำถวายพระมั๊งครับ

น้ำมนต์ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 06:57:11 PM
พระคาถาชินบัญชร (http://sv2.gushare.com/file.php?file=b45bfc636e3a33775a590092e7960e0f)

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึน ก่อนเจริญภาวนาชินบัญชร ตั้งนะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงและบูชาเจ้าประคุณสมเด็จด้วยคำว่า

   
ปุตตะกาโม ละเภ ปุตตัง   ธะนะกาโม ละเภ ธะนัง
อัตถิ กาเย กายะญายะ   เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา
อิติปิ โส ภะคะวา      ยะมะราชาโน
ท่าวเวสสุวัณโณ      มะระณัง สุขัง
อะระหัง สุคะโต      นะโม พุทธายะ

****************************************

ชะยาสะนาคะตา พุทธา   เชตะวา มารัง สะวาหะ นัง
จะตุสัจจาสะภัง ระสัง   เย ปิวิงสุ นะราสะภา

ตัณหังกะราทะโย พุทธา   อัฏฐะวีสะติ นายะกา
สัพพเพ ปะติฏซิตา มัยหัง   มัตถะเก เต มุนิสสะรา

สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง   พุทโธ ธัมโม ทะวิโล จะเน
สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง   อุเร สัพพะ คุณากะโร

หะทะเย เม อะนุรุทโธ    สารีปุตโต จะ ทัขิเณ
โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง   โมคคับบาโน จะ วามะเก

ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง   อาสุง อานันทะราหุลา
กัสสะโป จะ มะหานาโม   อุภาสุง วามะโสตะเก

เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง   สุริโย วะ ปะภังกะโร
นิสินโน สิรริสัมปันโน   โสภิโต มุนิ ปุงคะโว

กุมาระสักสสะโป เถโร   มะเหสี จิตตะวาทะโก
โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง   ปะติฏฐาสิ คุณากะโร

ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ   อุปาลี นันทะ สีวะลี
เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา   นะลาเต ติละกา มะมะ

เสสาสีติ มะหาเถรา         วิชิตา ชินะสาวะกา
เอตาสีติมะหาเถรา         ชิตะวันโต ชิโนระสา

 ชะลันตา สีละเตเชนะ      อังคะมังเคสุ สัณฐิตา
ระตะนัง ปุระโต อาสิ      ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง

ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ      วาเม อังคุลิมาละกัง
ขันธะโมระบะริตตัญจะ      อาฏานาฏิยะ สุตตะ กัง

อากาเส ฉะทะนัง อาสิ      เสสา ปาการะสัณฐิตา
ชินา ณา วะระสัง ยุตตา      สัตตะปาการะลังกะตา

วาตะปิตตา ทิสัญชาตา      พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา
อะเสสา วินะยัง ยันตุ      อะนันตะชินะเตชะสา

วะสะโต เม สะกิจเจนะ      สะทา สัมพุทธะ ปัญชะเร
ชินะปัญชะเรมัชฌัมหิ      วิหะรันตัง มะหิ ตะเล

สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ      เต มะหาปุริสาสะภา
อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข   ชินะนุภาเวนะ ชิตูปัททะโว

ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ      สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
สัทธัมมานุภาวะปาลิโต      จะรามิ ชินะปัญชะเรติฯ

[/color]

คลิกเพื่อฟัง (http://sv2.gushare.com/file.php?file=b45bfc636e3a33775a590092e7960e0f)

จะนำคำแปลมาลงให้เมื่อขยัีนค่ะ  ;)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 06:57:17 PM
แถมสุดท้ายครับ ;D

การขึ้นไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน
ส่วนใหญ่จะขึ้นด้วยการนั่งเสลี่ยง 4 คนหาม

ความจริงเราสามารถเดินขึ้นเองก็ได้
สูงชันพอจะเหนื่อย ถึงเหนื่อยมาก
แต่จ้างลูกหาบจะดีกว่า เพื่อที่จะกระจายรายได้ให้คนท้องถิ่นครับ
เพราะปีหนึ่งๆ หน้าท่องเที่ยวมีไม่กี่เดือนเท่านั้นครับ
เนื่องจากทางขึ้นเขาอันตรายมาก ไม่ปลอดภัยในการเดินทาง
(http://i9.tinypic.com/62hjzg8.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 06:59:04 PM
มีธรรมะ ชนะทุกอย่าง  :VOV:


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 06:59:36 PM
 :D :D :D ถ่ายรูปมาได้สวยค่ะ  ;)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 07:06:56 PM
ขวดน้ำนั่น
ตั้งแต่แรกผมก็ตะหงิดๆอยู่ว่ามันเกินอยู่
แต่คิดๆแล้วก็กลัวครับ
ของเขาเอามาถวายพระ ไปยุ่งเขาท่าจะไม่งาม
ก็เลยปล่อยไว้อย่างนั้น
คิดเสียว่า เอาความจริงมาให้ชมกันครับ

พี่ carrera ครับ
รอชมภาพของพี่ orion ครับ
มือโปรถ่ายรูป ของแท้ ตัวจริงสุดๆครับ
เป็นเสาหลักห้องกล้องที่ pantip ครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 17, 2007, 11:08:46 PM
สา..ธุ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กรกฎาคม 18, 2007, 12:55:14 AM
                                   
                            " ธรรมะมีอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างขึ้น ไม่ต้องวิ่งหา
                              เพียงแต่ทำให้ปรากฏแก่จิตที่อบรมแล้วอย่างถูกต้อง
                              เดี๋ยวนี้ มัวสร้าง มัวหา เลยไม่พบ ทั้งที่มีอยู่แล้ว "
=========================================================
                    
                              กราบขออนุญาตนำคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุเพื่อเผยแผ่แด่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย.....
                           


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กรกฎาคม 18, 2007, 01:08:17 AM
ขออนุญาตคุณอันดามันนำลงอีกครั้งครับ เพราะเวลาอ่านทีไรก็รู้สึกดีทุกครั้งเลยครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------

 เหตุเกิดทุกข์  

ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่ง เกิดจากการที่ส่วนประกอบของชีวิตไม่สมดุลกัน โดยส่วนมากมุ่งหาแต่ทรัพย์อย่างเดียว ได้มากเท่าไรก็ยังไม่พอ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ถูกธรรม จะถูกดูหมิ่นอย่างไรก็ไม่ใส่ใจ ขอเพียงให้ได้ทรัพย์มาสนองความต้องการของตนเท่านั้น ซึ่งเป็นรูปแบบของความเห็นแก่ตัวมากขึ้นทุกที และทำให้เกิดปัญหาไม่รู้จักหมดสิ้น

ความอยากได้สิ่งต่างๆ นี้ เป็นความรู้สึกที่มีอยู่ประจำใจของมนุษย์ ตั้งแต่เป็นเด็กจนกระทั่งเติบใหญ่ และเมื่อเติบใหญ่ขึ้นแล้ว ความอยากได้สิ่งต่างๆ มากขึ้นตามลำดับ อยากได้อย่างนั้น อยากได้อย่างนี้ จนกระทั่งตนเองก็หาให้แก่ตนเองไม่ทันคือ ความอยากมันพองตัวมากขึ้น ยิ่งเมื่อมีครอบครัวแล้ว ความต้องการซึ่งเคยมีเพื่อตนเองคนเดียวกลับถูกขยายโครงการออกไปอีก เป็นความต้องการเพื่อคนอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนาจะเกิดความทุกข์ ความเดือดร้อนนานาประการ

ความทุกข์ความเดือดร้อนทั้งปวง ที่เกิดมีแก่มนุษย์ทุกวันนี้ เมื่อสืบหามูลเหตุแล้ว ล้วนแต่เกิดจากความอยากทั้งสิ้น พระพุทธดำรัสที่ตรัสไว้ตอนหนึ่งว่า ภิกษุทั้งหลาย เหตุเกิดแห่งทุกข์นี้เป็นความจริงของพระอริยเจ้า ได้แก่ ความอยากอันเป็นเหตุให้มีภพใหม่ พัวพันกับความกำหนัดยินดีในอารมณ์นั้นๆ คือ ตัณหา 3 ประการ

- กามตัณหา ความอยากได้อย่างนั้น อยากได้อย่างนี้

- ภวตัณหา ความอยากเป็นอย่างนั้น อยากเป็นอย่างนี้

- วิภวตัณหา ความอยากไม่เป็นอย่างนั้น อยากไม่เป็นอย่างนี้

ตัณหา 3 ประการนี้เป็นมูลเหตุให้เกิดความอยากและเหตุความทุกข์ทั้งปวง

ธรรมดาความอยากนี้เป็นเพียงธรรมที่จรมาเกิดร่วมกับจิต เมื่อจะเกิดก็อาศัยปัจจัยเกิดขึ้น ถ้าไม่มีปัจจัยเป็นเครื่องอาศัยก็เกิดขึ้นไม่ได้ สิ่งที่เป็นปัจจัยให้เกิดความอยากนั้น ได้แก่ รูปพรรณสัณฐานทรวดทรงที่สวยสดงดงามตา เสียงที่ไพเราะเสนาะโสตจับใจ กลิ่นที่หอมหวนชวนให้ชื่นใจ รสที่ดีที่อร่อยชวนให้บริโภค สัมผัสที่อ่อนนุ่ม ตลอดถึงลาภ ยศ สรรเสริญ และความสุข เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นอารมณ์ที่น่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจเพราะเป็นเครื่องยั่วยวนชวนใจให้เกิดความลุ่มหลง ให้เกิดความอยากได้ ทำใจให้ดิ้นรนแสวงหาอารมณ์ที่ปรารถนาอยากได้นั้น เมื่อได้แล้ว มิใช่ว่าจะพอเพียงนั้น ย่อมทะยานอยากแสวงหาอย่างอื่นๆ ต่อไปอีก ความอยากนี้เกิดขึ้นอยู่ร่ำไป ไม่รู้จบไม่รู้สิ้น ความอยากมีอารมณ์ไม่มีที่สิ้นสุด และความอยากที่เกิดขึ้นแล้วนั้น

ถ้าบุคคลไม่รู้เท่าทัน ไม่คอยควบคุมไว้ ปล่อยให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น ย่อมมีอำนาจบังคับใจให้ทำอะไรได้ ไม่มีขีดจำกัด ทำให้ผู้นั้นไม่รู้เหตุผลตามความเป็นจริง มีแต่ความมืดมน ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกหรือผิด


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ กรกฎาคม 18, 2007, 09:04:24 AM
รับธรรมะ แต่เช้า....  :D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 18, 2007, 09:34:58 AM
พี่ carrera ครับ
รอชมภาพของพี่ orion ครับ
มือโปรถ่ายรูป ของแท้ ตัวจริงสุดๆครับ
เป็นเสาหลักห้องกล้องที่ pantip ครับ

คุณ Orion นี่อยู่เว็บเราด้วยหรือครับ ;D ;D ;D  คิดไม่ค่อยออกว่าเคยเห็น เขาลงรูปบ้างรึเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 18, 2007, 12:25:13 PM
...พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท)...
[/glow]
...ชีวประวัติ...
...ปริศนาธรรม...คำสั่งสอน...และอื่น ๆ มีอยู่มากมาย...ตามเว็บเลยครับ...
...http://www.watnongpahpong.org/...

...เคยได้ยินกันบ้างหรือเปล่าครับ...

กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว อยู่บนหัวกลิ่นบัวบ่ต้อง

แมงภู่ง่องบินผ่ายแอ่วมา เอาเกษาดอกบัวไปจ๊อย
 


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 18, 2007, 02:43:54 PM
พี่ carrera ครับ
รอชมภาพของพี่ orion ครับ
มือโปรถ่ายรูป ของแท้ ตัวจริงสุดๆครับ
เป็นเสาหลักห้องกล้องที่ pantip ครับ


คุณ Orion นี่อยู่เว็บเราด้วยหรือครับ ;D ;D ;D คิดไม่ค่อยออกว่าเคยเห็น เขาลงรูปบ้างรึเปล่าครับ

พี่เขาเพิ่งสมัครเข้าเวปเราครับผม ลองเข้าไปดูเวปที่พี่เขาถ่ายรูปไว้สิครับ
ทั้งปืน ทั้งอื่นๆ สวยๆทั้งนั้นครับผม


http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=23475.msg968483#msg968483


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 10:11:19 AM
รูปหายไปแล้วครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 10:47:59 AM
รูปหายไปแล้วครับ ;D ;D ;D


นั่นสิ ตามเข้าไปดูเหมือนกัน ไม่เจออะไรเลย


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 11:33:24 AM
รูปหายไปแล้วครับ ;D ;D ;D

วันนี้ไม่แนะนำธรรมะ บ้างรึครับ ;D ;D ;D ซักนิดสิครับ

นั่นสิ ตามเข้าไปดูเหมือนกัน ไม่เจออะไรเลย


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 11:59:50 AM
http://www.pbase.com/joel_123

ผมยังเข้าได้ครับ แต่รูปมีไม่เยอะ
แต่ก่อนจำได้ว่ามีมากกว่านี้นะครับ

อ้อ คลิกที่รูป เพื่อเข้าไปในแต่ละหมวดนะครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 12:51:40 PM
ขอบคุณครับรูปเยอะดีครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 01:14:07 PM
รูปหายไปแล้วครับ ;D ;D ;D



วันนี้ไม่แนะนำธรรมะ บ้างรึครับ ;D ;D ;D ซักนิดสิครับ

นั่นสิ ตามเข้าไปดูเหมือนกัน ไม่เจออะไรเลย

...จุ๊ๆ  ใจเย็นๆครับเรื่องธรรมะธรรมโม มันต้องมีสมาธิ   ;D ;D ;D  รอดูรรมะจากท่านอื่นๆก่อน


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: After ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 01:52:59 PM
ธรรมะ ย่อมต้องรักษาผู้ประพฤติธรรม.  :)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 02:51:30 PM
...จุ๊ๆ ใจเย็นๆครับเรื่องธรรมะธรรมโม มันต้องมีสมาธิ ;D ;D ;D รอดูรรมะจากท่านอื่นๆก่อน

 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 22, 2007, 03:52:34 PM
 --------------------------------------------------------------------------------
อ้างจาก: lek ที่ วันนี้ เวลา 11:18:24 AM
-------------------------------------------------------------------------------
ฉันได้ฟังปริศนาธรรมเรื่องนี้จากคุณ แม่...
ซึ่งพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุ ณฺโณ
จากวัดป่าชิคาโกท่านกรุณาเทศน์ เล่าให้ฟัง
พระ อาจารย์เริ่มเรื่องด้วยคำถามว่า
ถ้า มี หมาเน่าลอยน้ำมาติดที่หน้าบ้านของเรา เราจะทำยังไง
ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน ว่า
ให้เอาไม้เขี่ยมันออก ไป
พระอาจารย์ก็ถามต่อว่า
เขี่ยเสร็จแล้ว หมาเน่าลอยไปแล้ว ไม้ นั้นเราทำยังไง
ทุก คน ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันอีกว่า
ก็ ต้องโยนทิ้งไป
คราว นี้พระอาจารย์ก็บอกว่า นั่นแหละ...
มีคน บางพวก ไม่ยอมทิ้งไม้เขี่ยหมาเน่านั้นไปเฉยๆ
ไม่รู้เสียดายอะไร
ทั้งๆที่รู้ว่าเหม็นแต่ก็หยิบกลับขึ้นมาดมอยู่ เรื่อย
ไม้ เขี่ยหมาเน่าๆเหม็นๆน่ะ
พระอาจารย์เล่าเรื่องจบเพียงแค่ นี้
ทิ้งไว้เป็นปริศนาธรรมให้เอามา คิด ต่อ...
เห็นด้วยกับฉัน มั้ย...
คน ที่ รู้ทั้งรู้ว่าไม้เหม็นแต่ก็ยังเก็บมาดมอยู่ได้เนี่ย...
ไม่โง่ก็โรคจิตนะ

- : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : -

เคยเป็นบ้างมั้ย เวลามีใครมาทำให้เรา โกรธ
จนเรื่องต่างๆ เหตุต่างๆที่ทำให้เราโกรธมันดับไปหมดแล้ว
แต่เราก็ยังเก็บมาคิดมาแค้นอยู่ นั่นแหละ ไม่รู้เสียดายอะไร
ทั้งๆที่รู้ว่าทำให้เป็นทุกข์
แต่ก็เก็บความคิดแค้นมาเผาใจอยู่ เรื่อยๆ
หรือไม่ต้องเรื่องโกรธก็ได้... เรื่องอะไรๆที่มันผ่านไป แล้ว
แต่หลายครั้งเราก็ยังเก็บโน่นเก็บนี่มาคิด มากังวล
มาเสียใจอะไรก็แล้วแต่
ฉันคนหนึ่งล่ะที่เคยเป็น
แล้วฉันก็คิดว่าทุกคนก็คงเคย เป็น
คราวหลังถ้าเป็นอีกลองบอกตัวเองสิ ว่า...
แน่ะ... หยิบไม้เขี่ยหมาเน่ามาดมอีกแล้วนะ เรา
คนที่รู้ทั้งรู้ว่าไม้เหม็นแต่ก็ยังเก็บมาดมอยู่ได้ เนี่ย...
ไม่โง่ ก็โรคจิตนะ
ดูซิว่ายังจะอยากเก็บไม้เหม็นๆไว้ดมอีก มั้ย
 


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 22, 2007, 03:57:31 PM
*** รู้ไหมว่าหมาขี้เรื้อนมันคิดอะไร***

ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก
ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน
เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้

เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว
ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน
พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบายเมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานาน เป็นแรมเดือน

แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน
ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับผิด
และชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ

วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่
ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง
เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัยไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่
ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา

ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปทีล้างไปบ่นไป
ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้
โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูงมีการ
ศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น
ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด
มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตู

นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจกลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ

อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง
วันๆไม่เห็นท่านทอะไรเอาแต่กวาดใบไม้เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มี ไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน
การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่างเห็นแล้ว
เลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย
รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้วไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก

อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น
และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเองควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า

เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำหลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วยท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน

อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่

เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัวฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้ อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน

แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ
หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่างนอนที่ไหนก็ไม่หายคัน  สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน
แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน

เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่าเจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่
แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก
พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่าได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร สวดมนต์เย็นแล้ว
ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้นในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกตินอกสงบแต่ในวุ่นวาย
นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู
ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง

เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก

" อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา"

โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย
แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า
หมาขี้เรื้อน ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ

ถ้าเรา ยังเป็น โรค อยู่ในใจ ไม่ว่า เราย้ายงานไปที่ไหน เราก็ บ่นว่าสถานที่เหล่านั้นสกปรก สิ้นดี


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 23, 2007, 03:18:56 PM
เปรียบเทียบได้ดีครับ  ;D ;D ;D 


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 30, 2007, 02:58:02 PM
 :D :D :D...เขากระโดง จ.บร. ครับ... :D :D :D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 30, 2007, 02:59:53 PM
 :D :D :D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 30, 2007, 03:01:31 PM
 :D :D :D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 30, 2007, 03:03:37 PM
 :D :D :D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 30, 2007, 03:57:14 PM
บนเขากระโดง มีต้นไม้ชนิดหนึ่ง ไม่รู้ยังมีอยู่หรือเปล่า  เคยขึ้นไปเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ชื่อต้น.............ผี


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 30, 2007, 07:42:16 PM
 :D :D :D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ กรกฎาคม 30, 2007, 07:46:12 PM
 :D :D :D...รู้กันบ้างหรือเปล่าเอ่ย...ว่าเขากระโดง...มีปากปล่องภูเขาไฟ...(ไม่ได้ถ่ายรูปมา)... :D :D :D

...อาจารย์อันดามัน...คงหมายถึงต้นนี้กระมังครับ...

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: o/uboy ที่ กรกฎาคม 31, 2007, 12:23:54 AM
ชื่อต้นไม้เพราะดีนะท่าน


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ กรกฎาคม 31, 2007, 10:15:39 PM
อิอิอิอิ...ออกไปแนวธรรมะกับธรรมชาติ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ กรกฎาคม 31, 2007, 10:20:46 PM
หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
ประธานสงฆ์วัดเขาสุกิม จังหวัดจันทบุรี


     ถ้าจะพูดถึงเรื่องลักษณะของบุญ พวกเราก็พอที่จะมองเห็นได้ ว่าบุญนี่น่ะคือความสุข เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนบอกว่า
     คำที่ว่าบุญ ๆ นี่หมายถึงความอิ่มใส หมายถึงความสบายใจ หมายถึงความสุข บางคนก็ว่าถ้าอย่างงั้นคนที่ไประดมเขาได้ เขาสบายใจเขามีความสุขอันนั้นก็บุญกระมัง ถ้าเรามองกันโดยผิวเผินการขโมยคนอื่นมา การช่อโกงคนอื่นมานี่ ไม่ใช่ว่ามันสบายใจ ไม่สบายใจหรอก มันเป็นทุกข์ในใจ จิตใจมันเศร้าหมอง ขุ่นมัว เพราะฉะนั้น เรื่องการระดมคนอื่นมาช่อโกงคนอื่นมา ไม่มีความสุแน่ เพราะฉะนั้นถึงว่าบุญนี่ก็คือความสุขคำที่ว่าความสุขในที่นี้ หมายความสุขที่เกิดขึ้นมาจากความสงบ
     คำที่ว่าความสุขที่เกิดขึ้นมาจากความสงบ อย่างที่พวกเราเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ก็ย่อมมีความสงบ ทำไมถึงเรียกว่าความสงบก็หมายถึงว่าความสงบภายในจิตใจ ผู้ใดกระทำความทุจริตเอาไว้ ผู้นั้นหากในเมื่อนึกถึงความทุจริตของตัวเองแล้ว จิตใจวุ่นวาย เมื่อจิตใจวุ่นวายแล้วเราก็ เรียกว่าไม่สงบ เมื่อไม่มีความสงบแล้วก็แสดงให้เห็นว่ามีความทุกข์ในใจแน่ นี่เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ผู้ใดมีความสุขผู้ใดมีความสุขจริตในตัว หากในเมื่อนึกถึงความประพฤติของตัวเองแล้ว รู้สึกมันสบายใจ เพราะมันสงบ อันนั้นเป็นลักษณะของความสุขหรือบุญ

     ทีนี้ถ้าจะพูดถึงเรื่องบุญ ในเมื่อผู้ประกอบแล้วอำนวยผลคือความปกติของใจให้แก่เจ้าของผู้กระทำหรือทำให้ใจสบาย อย่างที่ว่ามานี้เพียงแค่นี้ก็หาใช่ไม่ ยังยืดยาวไปอีกมาก เช่น ดุจในอย่างคุณนายปุไร และคุณนายปรารภเมื่อกี้นี้ว่า การวัดถึงเรื่องบุญบาปก็ไม่ยากหรอก...ลูกของเราเอง ว่าลูกของเราว่านอนสอนง่ายแนะนำในทางที่ดีที่ชอบก็พอใจ ห้ามปรามในทางที่จะเป็นไปเพื่อผลเสีย บังเกิดขึ้นซึ่งโทษก็เชื่อ ไม่ล่วงเกินก็เรียกว่าเราเป็นผู้มีบุญ จึงได้ดวงวิญญาณที่มีบุญมาเกิดกับเรา แล้วก็เป็นผู้ว่านอนสอน่าย เป็นผู้รับความสงบ เป็นผู้รักในทางศาสนา พอใจที่จะทำความดีต่อทางพระศาสนาและเพื่อนมนุษย์
     เช่น เพื่อนมนุษย์ที่ลำบากยากจนเจ็บไข้ได้ป่วย ก็รักษาพยาบาล หากในเมื่อต้องการอยากจะเรียกค่าย ก็เท่าที่ ๆ จะเอาได้ เมื่อพระภิกษุสงฆ์เจ้าสามเณรผู้เจริญพรต หากในเมื่อมีความสามารถพอที่จะช่วยเหลือได้ ก็จัดถวายท่านเท่าที่ ๆ พอจะทำได้ ผู้ที่มี่ความรู้สึกน้อมเอียงไปอย่างนี้ ก็เรียกผู้มีเชื้อบุญติดตัวมา เพราะฉะนั้น ผู้อย่างนี้มาเกิดด้วยก็เป็นสิ่งที่น่าปลื้มใจ ว่าเราเป็นผู้มีบุญ เป็นสิ่งที่พอที่ ๆ จะวัดได้ง่าย ๆ ว่าเราเป็นผู้มีบุญอยู่แล้ว จึงได้ลูกเช่นนี้มาเกิด หรือถ้าจะมามองหรืออีกแง่หนึ่งผู้ที่เกิดในตระกุลที่ดี การดำเนินวิถีชีวิตก้าวเข้าไปสู่ความเจริญเห็นปานอย่างนี้ อย่างที่ว่ากันเมื้อกี้นี้แหละ หรืออย่างคุณนายทั้ง ๒ นี้ก็เป็นมาได้เพราะบุญทั้งนั้น ไม่ใช่เราจะแต่งเอาได้ ไม่ใช่การดำเนินของเราเป็นไปด้วยสติปัญญาโดยอย่างเดียว ต้องอาศัยสิ่งอุดหนุน คือ บุญกุศลที่สร้างมาแล้วตั้งแต่ชาติก่อน บุญคุณเก่าที่เราสร้างสมอบรมมานั่นแหละจะนำพาเราก้าวไปสู่ความเจริญได้

     หากในเมื่อเราเห็นความดีอันนี้ประจักษ์อย่างนี้แล้วก็ไม่น่าจะประมาท คือ พยายามทำความดีอันนี้นะเพิ่มเติมขึ้นให้มาก เอายกรูปเปรียบง่าย ๆ คล้ายกันกับว่าชาวนาเมื่อฟ้าฝนอำนวยตามฤดูกาลปีนี้นะดีสมบูรณ์ดี เมื่อได้ข้าวไปไว้ในยุ้งแล้ว ไม่ควรนิ่งนอนใจ ถ้าผู้ใดนิ่งนอนเห็นว่ามีข้าวอยู่ในยุ้งไม่ต้องทำอีกต่อไปแล้ว หากในเมื่อข้าวในยุ้งหมดล่ะ เราจะไปที่ไหนมารับประทาน ก็เป็นอันว่าทอดลำบาก เมื่อผู้ใดเห็นว่าเรามีข้าวอยู่ในยุ้ง ข้าวย่อมจะอำนวยความสะดวกในการประกอบอาชีพของเราต่อไป ก็รีบเร่งขวนขวายทำ เท่าที่เราจะทำได้ เพิ่มเติมให้มากขึ้น ปีต่อ ๆ ไปก็ไม่อด แม้ใด ผู้ที่มีบุญวาสนาส่งแล้วก็ยกรูปเปรีบคล้ยกันกับว่าผุ้ที่มีข้าวอยู่ในยุ้ง ย่อมจะอำนวยความสะดวกในการแสวงหาประโยชน์ต่อไป เพราะฉะนั้น เช่นดุจในผู้ที่มีความเป็นอยู่พอสมควร เห็นปานอย่างพวกเรานี้ ก็พอที่จะประกอบขวนขวายเอาความดี ให้ได้มากขึ้นเท่าที่จะทำได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ดีแท้ ถ้าผู้ใดเห็นว่าบุญทุนเก่าที่เราสร้างสมอบรมมาตั้งแต่ ปุเรตชาติ มาช่วยอำนวยให้พวกเราถึงพร้อมด้วยความปรารถนาหลายอย่าง เช่น ดุจในพวกเรามองเห็นในตัวของตัวเอง แต่แล้วตัวเองประมาทไม่รีบทำความดีต่อ มัวแต่เสวยผลของเก่กาเทียบเท่ากับชาวนา ผู้มีข้าวในยุ้งแล้ว ไม่ทำต่อในวันข้างหน้าย่อมอด ฉันใด ผู้มีบุญทุนเก่าช่วยอุดหนุนให้ดีแล้ว ไม่รีบสร้างเอาความดีนั้นต่อไปในชาติเบื้องหน้าจะลำบาก เพราะฉะนั้น บุญทุนเก่าที่ช่วยให้เราสะดวกในการกระทำความดีได้เห็นปานนี้ เราควรจะกระทำความดีอย่าประมาท คือ เมื่อเราพอที่จะมีโอกาสให้ทานได้ เราก็ต้องทำ หากในเมื่อเรามีเวลาพอที่จะรักษาศีลได้เราก็รีบพยายาม เช่น ศีล ๕ ก็ดี ศีล ๘ ก็ดี พยายามกระทำ ให้เกิดให้มีขึ้น เพราะว่าผุ้ใดมีศีลอยู่ในตัวก็เท่ากันกับศีลนี้เป็นเครื่องห้ามบาป เพราะเมื่อผู้ใดล่วงเกินในทางศีลก็เท่ากับว่า สะสมบาปหรือกระทำบาป ยกรูปเปรียบเอาง่าย ๆ ว่าผู้ที่ประพฤติล่วงเกินในทางศีล เทียบเท่ากับผู้กลืนยาพิษ นี่พูดกันง่าย ๆ ก็คืออย่างนี้ คือ ว่าพอที่จะสันนิษฐานได้อย่างง่าย ๆ ว่า ผู้ที่ล่วงเกินในทางศีลเหมือนกลืนยาพิษคือยังไงเอาอย่างง่าย ๆ เช่น ยาที่หมยาพิษที่เราสร้างขึค้นมาสำหรับที่จะมาเบื่อคนให้ตายหรือสัตว์ให้ตาย
     มีหลายประเภท เช่น อาจจะตายปัจจุบันทันด่วนก็ได้ อาจจะเป็นประเภทที่เขาเรียกว่ายาสั่งก็ได้ มีอยู่ ๒ นัยด้วยกัน ยาสั่งก็เช่นดุจในที่เรียกว่า รับเข้าไปแล้วหากในเมื่อเขาสั่งกับอะไร ผู้นั้นไปบริโภคของนั้น ตาย หรือไม่อย่างนั้น ก็อยู่อย่างนั้นเรื่อย ๆ ไป หรือบางทีอาจจะมีท่าทีของร่างกายเปลี่ยนแปลงผิดปกติ ก็อาจจะพอที่จะมองเห็นได้ แต่หากในเมื่อไม่รู้ว่าเหตุอันนี้เกิดมาจากอะไร วินิจฉัยไม่ตกถึงที่สุดแล้วก็จะต้องเสียชีวิตเพราะอันนี้ฉันใด ก็ดีล่วงเกินในศีลก็เหมือนกับฉันนั้น เช่น ผู้ฝ่ายวันในทางศีล ในทางปาณาติบาท หมายถึงการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จนกระทั่งมาถึงมนุษย์เราด้วย ผู้กระทำอย่างนี้อาจจะรับปัจจุบันก็มี ได้รับโทษปัจจุบันก็มี เช่น พวกเราก็เคยพอได้ทราบว่าตุลาการเจ้าหน้าที่เขามาจับ ผู้ที่ประหารชีวิตมนุษย์ด้วยกัน เข้าคุกเข้าตะรางก็มีอันนี้ก็เทียบเท่ากับยาพิษที่กลืนเข้าไปแล้วที่ให้โทษปัจจุบัน แต่เมื่อผู้ใดกระทำแล้วเจ้าหน้าจับไม่ได้และต่อไปในวันข้างหน้าล่ะ ก็ไม่สู้จะแน่นักว่าความเดือดร้อนของตัวจะได้แค่ไหน อาจจะยืดยาวไป อันนี้ก็ยกรูปเปรียบคล้ายกันกับว่าผู้ที่กลืนยาสั่งเข้าไปแต่เมื่อยังไม่เจอของสั่ง ก็ยังมีชีวิตสืบไป ไปเจอของสั่งเมื่อใดก็เมื่อนั้น
     ก็เหมือนกัน หรือจะถึงในเรื่องอทินนาทานก็เหมือนกัน หากในเมื่อขโมยของเขาลงไปแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่รู้เท่าทัน ก็อาจจะได้รับโทษปัจจุบันหากในเมื่อเจ้าหน้าที่เขาไม่รู้เข้า หากในเมื่อตัวเองไม่มีชีวิตแล้ว เอาเถิดกรรมอันนี้รับรองว่าจะต้องติดตาม จนกระทั่งกาเมสุมิจฉาจารก็เช่นกัน มุสาวาทก็เช่นกัน หรือสุราเมรัยก็เหมือนกัน ทั้ง ๕ ประการนี้ อาจจะให้โทษในปัจจุบันก็ได้ อาจจะให้โทษในเมื่อเราจบแก้ได้ อันนี้มันเป็นสิ่งทีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหากในเมื่อผู้ใดมีศีลก็เท่ากันกับว่าผู้นั้นมีรั้วกันบาป ไม่ให้บาปนี่เขามาถึงเราได้ ถ้าผู้ใดขาดจากศีล ไม่มีศีล ก็เท่ากันกับว่า ผู้นั้นไม่มีสิ่งป้องกันเลย มันเป็นอย่างนี้ ทีนี้เพียงแค่มีศีลอย่างเดียว ถือว่าเป็นการป้องกันบาปเท่านั้นก็หาใช่ไม่ ตามธรรมดาบัณฑิตผู้มีปัญญาแล้ว ไม่เพียงพอแค่นั้น คือเว้นจากความชั่ว แล้วต้องย่อมประพฤติความดี

     การประพฤติความดีนั้นก็อย่างที่พรรณนาสู่ฟังในเบื้องต้น คือ การให้ทานบริจาค เท่าที่เราจะทำได้ อาจจะให้วัตถุสิ่งของแก่คนอื่นก็ดี หรืออาจะช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความทุกข์ความเดือดร้อน อย่างที่คุณนายปรารภนั่นก็ดี การกระทำอย่างนี้ก็เรียกว่าการกระทำความดีหรือการกระทำบุญเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เมือเราเว้นจากความชั่วแล้ว ก็ต้องประพฤติความดีหากการดำเนินทางสมาธิจิตนี่เป็นอุบายที่จะนำพาจิตของเราให้เข้าไปสู่อารมณ์อันดี เพราะตามธรรมดาจิตของคนเรานี่ มันย่อมจะวอกแวกไปตามอารมณ์ หรือไวต่ออารมณ์ ยกรูปเปรียบคล้ายกันกับลิง มันอยู่ปกติไม่ได้ กระโดด กิ่งไม้ กิ่งโน่น กิ่งนี่ หยิบอันโน้น จับอันนี้ เกาตรงนั้น หยุก ๆ หยิก ๆ ฉันใด จิตของเราก็เหมือนกัน ฉันนั้นวอกแวกต่ออารมณ์อันเป็นอารมณ์ที่ผ่านมาแล้วตั้งแต่อดีตก็ดี หรือปัจจุบันเหตุที่แสดงอยู่ปัจจุบันก็ดี มันย่อมจะหวั่นไหวตามเหตุการณ์อันนี้อยู่ตลอดกาลของมันหากในเมื่อเราไม่มีกำลังส่วนใดประคองแล้ว หากปลดบ่อยให้เป็นไปโดยธรรมชาติแล้ว มันอาจจะไปไม่รู้เรื่องรู้ราว เช่น ไปต่ออารมณ์ชั่วตามเหตุการณ์ ไปต่ออารมณ์ที่ดีตามเหตุการณ์แล้วแต่เหตุการณ์จะนำพาร้องให้ไปตามเหตุการณ์ อาจะครุ่นคิดไปต่าง ๆ นา ๆ เท่าที่เหตุการณ์จะนำพา อุบายวิธีที่พระพุทธเจ้าสอนนี้ไม่เป็นไปอย่างนั้นโดยธรรมชาติธรรมดา
     พระองค์สอนให้สร้างกำลังส่วนตัวนำพา ให้จิตของเราเป็นไปตามอำนาจของตัวนำพา ท่านเรียกว่า อริยมัคคุเทสก์ ตัวที่จะนำพาผู้ที่เป็นเจ้ายองสร้างขึ้น ให้ก้าวเข้าไปสู่ความเป็นอริยบุคคล ท่านจึงสอนให้สร้าง คือ สติ สัมปชัญญะ หรือปัญญา เช่น ดุจในที่พระพุทธเจ้าสอนว่า ให้กำหนดลมหายใจเข้าออกก็ดี หรือมีบริกรรมภาวนาก็ดี พุทโธ ๆ ๆ ให้จิตของเราปกติอยู่ เป็นอุบายวิธีที่พระพุทธเจ้าสอนให้สร้างสติและปัญญา ซึ่งเราพอที่จะสังเกตได้ว่า เมื่อเราสามารถกำหนดให้อยู่ในจุดใดจุดหนึ่ง เราตั้งไว้ว่าเราจะเกาะในจุดนี้ และมีบริกรรมภาวนา คือ พุทโธ เราว่าของเราอยู่ตลอดได้ จิตไม่วอกแวกไปต่ออารมณ์ได้อันนี้เราก็พอที่จะเห็นได้ชัดว่า สติ หรือ สัมปชัญญะ ที่เรามุ่งที่จะสร้างขึ้นมานี่พอกับความต้องการ จึงสามารถบังคับให้ความรู้สึกหรือคำบริกรรมนี้ ให้รับรู้แอยู่ในจุดหรือคำบริกรรมนี้อยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่อย่างนั้น ไม่มีโอกาสที่จะเอาไว้ เพราะจิตวอกแวก ๆ ไวต่ออารมณ์อยู่ตลอดเวลา
     ถ้าผู้ใดสามารถบังคับให้ความรู้สึกใรับรู้อยุ่ในจุดนั้นได้เต็มที่แอยู่ตลอดเวลาแล้ว แสดงให้เห็นว่าอำนาจตัวนำพาที่จะเป็นไปเพื่ออริยบุคคลนี่สูงแล้ว พอกับความต้องการแล้วก็เอากำลังส่วนนี้คอยมายับยั้งจิตของเราอยู่เสมอว่า หากในเมื่อเหตุการณ์อะไร เกิดขึ้นจะชวนให้ความรู้สึกตกไปอยู่ตามอำนาจของมัน เชื่อ รักชัง เกลียด โกรธ อะไรเหล่านี้ ต้องการไม่ต้องการ เราก็เอากำลังส่วนนี้ยับยั้งก่อน ยังตั้งประคองไว้ พิจารณาถึงเหตุผลว่า เหตุการณ์นี่ชวนให้เราเกลียดเราโกรธ หากในเมื่อเราเกลียดเราโกรธ มันจะเป็นไปเพื่อผลเสียหรือประกอบด้วยโทษอย่างไรบ้าง เราต้องประคองแล้วก็เอามาวิจารณ์เสียก่อนเมื่อมาวิจารณ์แล้วเราจะทำอย่างไร จึงจะไม่เป็นไปเพื่อโทษ จึงจะไม่เป็นไปเพื่อความเศร้าหมอง เราก็ต้องใช้บทวิจารณ์ เสร็จแล้วเราก็ต้องประคองเข้าหาจุด ที่เป็นไปเพื่อคุณคือประกอบด้วยคุณ ต้องทำให้ได้
     
     ทีนี้เอเราดำเนินอยู่อย่างนี้ของเราเสมอ ๆ ในเมื่อเขาชมเราก็ดี เห็นสิ่งที่ควรต้องการก็ดี เราก็ต้องหาอุบายวิธีนี่ประคองไว้ อย่างนี้เสมอไป ทั้งสิ่งที่น่ารักทั้งสิ่งที่น่าชัง หากในเมื่อเราประคองให้อยู่ในอำนาจของตัวนี้ได้ลแวต่อไปเราก็ค่อยประครองเข้าหาทางที่ดีเสมอว่า วันนี้เราทำความดีอะไรบ้าง และความชั่วที่มันลุอำนาจเราไปได้มีกี่อย่าง เราก็หาช่องทางทำให้ดีขึ้น ๆ แล้วก็พยามยามหาทางกำหนดแต่ในทางที่ดี ว่าเราทำบุญกุศลไว้กี่อันกี่อย่างว่าเราทำอะไรไว้บ้างอย่างนี้ ให้พยายามกำหนดเรื่อย ไป ในอุบายอันนี้นะ โดยพระพุทธเจ้าแล้วก็มีความหมายอยู่ว่า หากในเมื่อเราจะตาย เราก็จะได้กำหนดในอารมณ์ที่ดีเช่น เราให้ท่านการบริจาคก็ดี เราได้รักษาศีลก็ดี เราได้เจริญเมตตาภวนาก็ดี เอ้อ..เราก็จะได้กำหนดใส่ หากในเมื่อเรากำหนดให้จิตของเราตกเข้าไปอยู่ในกระแสของความดีแล้ว มันจะเป็นกรรมนิมนต์ที่ดีเกิดขึ้นมา คล้าย ๆ กับว่าเราฝันอย่างนั้นแหละเราได้ใส่บาตรเราได้รักษาศีล หรือกำลังสะดับตรับฟังพระสัทธรรมเทศนาอยู่อะไรเหล่านี้ อารมณ์อันนี้มันอาจจะได้มั่นอย่างนี้แล้ว มันจะมีกรรมนิมิตปรากฎ เมื่อมีกรรมนิมิตที่ดีปรากฎในทางคดีอย่างนี้ มันจะเป็นบคติมิมิตที่ดีปรากฎขึ้นมาเช่น เห็นเครื่องทรงของเทพเจ้าเห็นปราสาท เห็นดอกไม้เห็นพระพุทธรูป เหล่านี้เป็นนิมิต แล้วผู้นั่นย่อมจุติเคลื่อนไปสู่ภพที่ดีได้
     นี่เป็นอุบายวิธีที่พระพุทธเจ้าสอนให้ภาวนา ซึ่งสร้าง อริยมัคคัคุเทศก์นำพา เราก้าวเข้าไปสู่ความเป็นอริยบุคคล ถ้าเราไม่มีทางพอที่จะเป็นอริยบุคคลได้ เราก็มีช่องทางที่จะนำพาจิตใจหรือความรู้สึกของเราให้น้อมนึกอยู่ในทางที่ดีได้ ให้อยู่ในอำนาจของตัวบังคับอยู่ตลอดเวลา หากในเมื่อถึงที่สุดแห่งชีวิตของเราแล้ว เราจะได้เอากำลังส่วนนี้ นำพาให้จิตของเรานี้จ้องอยู่ในอารมณ์ที่ดีอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อเราบังคับหรือกำหนดให้อยู่ในอารมณ์ที่ดีได้ มันก็เป็นไปอย่างที่ว่า ถ้าผู้ใดไม่มีอำนาจส่วนนี้ประคองให้อยู่ในจุดที่ดีได้ เขว.ไปนึกถึงแต่ในทางที่ไม่ดี ก็เป็นไปเพื่อความเศร้าหมอง หากเป็นไปเพื่อความเศร้าหมองมันเกิดกรรมนิมิตที่ไม่ดีขึ้นมา เช่น เห็นหอก เห็นดาบ เห็นการฆ่าฟันรันแทงกัน เห็นสิ่งที่เราทำไม่ดีไว้ กลับมาลงโทษเราให้ได้รับความเดือดร้อน มันเป็นกรรมนิมิตที่ไม่ดีอย่างนี้ หากในเมื่อได้กรรมนิมิตที่ไม่ดีคติมันก็ไม่ดี มันเป็นอย่างนั้นเพราะเหตุใดในอุบายวิธีที่พระพุทธเจ้าสอนนี้ ได้ประโยชน์ถึงสองขั้น ขั้นต่ำก็เป็นอุบายที่จะประคองให้จิตของเราให้คิดอยู่ในอารมณ์ที่ดีได้ ให้คุ้นต่ำในในทางที่ดี ให้คิดแต่ในทางที่ดี บังคับประคองเอาไว้ เป็นไปเพื่อจุดที่ดี หากในเมื่อ เขว.หัน.ไปในทางที่ผิด เราจะได้พยายามเอากำลังส่วนนี้เข้าประคอง ห้ามปราม อะไร เหล่านี้ อยู่เสมอ
     เมื่อหากผู้ใดกระทำได้อย่างนี้ ชั้นต่ำ ก็ย่อมที่จะประคองให้จิตของเราเคลื่อนขึ้นไปสู่คติภพคือสวรรค์ได้เมื่อผุ้ใดสามารถสร้างให้ดียิ่งขึ้น ก็สามารถที่จะตัดหรือสมารถ ทำสบายได้ซึ่งอาสวะตัณหากิเลสบางสิ่งบางส่วน หรืออาจจะตัดทำลายได้หมด ถ้าผู้ใดตัดได้น้อย สมควรพอที่จะเป็นอริยบุคคลชั้นต้นได้ ก็ได้ความว่าเป็นโสภาบันบุคคลท่านก็สมมุติว่าอย่างนั้น จนกระทั่งถึงอริยบุคคลชั้นสูง ตามอันดับหรือตามความสามารถที่เราจะกำจัดสิ่งที่เรียกว่ากิเลสได้ นี่มีอย่างนั้น จนกระทั่งถึงอริยบุคคลชั้นสูง ตามอันดับหรือตามความสามารถที่เราจะกำจัดสิ่งทีเรียกว่ากิเลสได้ นี่มีอย่างนั้น เพราะฉะนั้น จึงได้ความว่ากำลังตัวธรรมนี่คือตัวเป็นกำลัง อริยมัคคุเทศก์ คือนำเราผู้กระทำให้ก้าวเข้าไปสู่ความเป็นอริยบุคค นี่เป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้น

     นี่แหละอธิบายสู่ฟัง ในหลักการทำความดีเพื่อเป็นการต่อเติมความดี โดยผู้ที่ไม่ประมาทอย่างที่อธิบายเล่าสู่ฟังมานี้ ก็พอที่พวกเราผู้มุ่งหวังความดีหวังหน้ามา เพื่อประพฤติปฏิบัติ พอที่จะเข้าใจได้พอสมควรแล้วให้น้อมนำไปพิจารณาดูว่า ในอุบายที่แนะนำนี้ หากในเมื่อเราดำเนินตามแล้วจะเป็นไปเพื่อผลประโยชน์อย่างไรบ้าง เมื่อพวกเราผู้ฟังทั้งหลายได้ฟังและพิจารณาแล้ว เห็นว่าจะเป็นไปเพื่อผลประโยชน์อันดีงาม ก็ขอให้พวกเรานี่จะได้น้อมนำไปเพื่อประพฤติตามแล้วพวกเราก็จะได้เจริญงอกงามไพบูลย์ต่อไป ในที่สุดยุติลงแห่งการแสดงพระธรรมเทศนานี้ อาตมาภาพ ขออัญเชิญ คณะพระศรีรัตนไตรทั้งสาม .ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอานุภาพเหนือสิ่งที่มีอานุภาพทั้งหลาย จงมาช่วยคุ้มครองให้บรรดาพวกท่านทั้งหลายผู้ที่จะอำลาจากวัดนี้ไปอยู่บ้าน จงมีความปาลอดภัยจนกระทั่งถึงบ้าน และบรรดาผู้ที่อยู่ทางบ้าน ก็ขอให้มีความสุขความเจริญในเมื่อไปเจอกันแล้ว ก็ขอให้ไปเจอกันอย่างที่เรียกว่า เอิ่มอิ่ม แล้วก็ปลื้มปีติ อย่าให้มีสิ่งใดที่ทำให้พวกท่านทั้งหลายใจตก ขอให้พวกท่านทั้งหลายจงมีปีติเห็นสิ่งที่เป็นมงคล เห็นสิ่งที่จะทำให้สะบายใจ และสิ่งทั้งหลายที่อาตมาอธิฐานและอ้างอิงมานี้ ขอจงสำเร็จ ๆ ๆ ในพวกท่านทั้งหลาย จงทุกถ้วนหน้ากัน เทอญฯ





หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ สิงหาคม 05, 2007, 07:16:51 AM
 ;D ;D ;D

สวัสดีค่ะ ..... นำรูปที่ไปปฏิบัตธรรมมาฝากค่ะ

คืนวันอาสาฬหบูชา

(http://i103.photobucket.com/albums/m122/harusame074/vipassana2550/DSCF2980.jpg)

ฝึกให้มีสติ เดินไปทานข้าว กลับเข้าที่พัก ไปห้องสุขา ก็ต้องกำหนด

ซ้า...ย ย่า..ง หนอ.... ขว...า ย่า...ง หนอ... กว่าจะุึถึงที่หมายแทบขาดใจ  ::)

(http://i103.photobucket.com/albums/m122/harusame074/vipassana2550/DSCF0086.jpg)

ฟังธรรม

(http://i103.photobucket.com/albums/m122/harusame074/vipassana2550/DSCF0037.jpg)


อยู่ที่นี่ 7 คืน 8 วัน ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่เดิน ๆ นั่ง ๆ กิน ถึงเวลาก็นอน .... สบ๊าย สบาย ...  :~)

นั่ง
(http://i103.photobucket.com/albums/m122/harusame074/vipassana2550/DSCF3019.jpg)

เดิน
(http://i103.photobucket.com/albums/m122/harusame074/vipassana2550/DSCF0042.jpg)

ออกกำลังกายตอนเช้า...."หว้ายตันกง"

(http://i103.photobucket.com/albums/m122/harusame074/vipassana2550/DSCF3295.jpg)

ถึงเวลาที่มีความสุขที่สุด....
ก่อนทานอาหารก็ต้องพิจารณาอาหารก่อน....
(http://i103.photobucket.com/albums/m122/harusame074/vipassana2550/DSCF0010.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 05, 2007, 10:50:58 AM
....... แล้วในภาพที่เอามาลงให้ดูนี้  มีคุณวุ้นเส้นอยู่ตรงไหนหรือครับผม  แล้วจะเอามาลงให้ดูเหมือนกัน  ช่วงเข้าพรรษาก็เข้าวัดเหมือนกัน  แต่ไม่ได้ไปปฏิบัตินะ  ไปหลายที่ด้วย  บางส่วนได้ลงรูปไว้ในกระทู้ "กฤษฎาปาฏิหารย์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์"  

(http://img245.imageshack.us/img245/2314/dscf0037hc6.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ สิงหาคม 05, 2007, 11:01:09 AM
 ;D ;D ;D

หาตัวเองไม่เจอค่ะ จำไม่ได้ว่านั่งอยู่ตรงไหน เพราะไม่เคยนั่งที่เดิมเลย เปลี่ยนที่นั่งไปเรื่อยค่ะ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 05, 2007, 11:12:35 AM
........ เขาให้ไปฝึกให้มีสมาธิ  มีสติ  แม้ยามเดิน ทาน นอน ทำธุระส่วนตัว ยังต้องกำหนด  แล้วจำที่นั่งตนเองไม่ได้แบบนี้แล้ว  คงต้องไปอบรมอีกหลาย ๆ รอบแล้วละมั้งครับผม  ระวังนะ ถ้าอบรมแล้วไม่ได้ผลคงต้องไปอบรมที่ อะไรน๊า ..... ศรี .... ศรี .... นี่แหละจำไม่ได้เหมือนกัน ........ แฮ่ .. แฮ่ ... ล้อ ..... เล่งงงง ..... แล้วเอาภาพการฝึกสมาธิของเด็กไปชมก่อน  ชอบมากเลยลงบ่อยเลยครับผม.[

(http://img45.imageshack.us/img45/7930/intvreggieboymeditatingga0.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ สิงหาคม 05, 2007, 11:15:43 AM
 ;D ;D ;D

(http://i103.photobucket.com/albums/m122/harusame074/vipassana2550/DSCF0010-1.jpg)


........ เขาให้ไปฝึกให้มีสมาธิ  มีสติ  แม้ยามเดิน ทาน นอน ทำธุระส่วนตัว ยังต้องกำหนด  แล้วจำที่นั่งตนเองไม่ได้แบบนี้แล้ว  คงต้องไปอบรมอีกหลาย ๆ รอบแล้วละมั้งครับผม  ระวังนะ ถ้าอบรมแล้วไม่ได้ผลคงต้องไปอบรมที่ อะไรน๊า ..... ศรี .... ศรี .... นี่แหละจำไม่ได้เหมือนกัน ........ แฮ่ .. แฮ่ ... ล้อ ..... เล่งงงง ..... แล้วเอาภาพการฝึกสมาธิของเด็กไปชมก่อน  ชอบมากเลยลงบ่อยเลยครับผม.[

(http://img45.imageshack.us/img45/7930/intvreggieboymeditatingga0.jpg)

แหมวันหนึ่ง เข้าศาลาธรรม 5 รอบ เปลี่ยนที่นั่งทุกรอบ แล้วก็ไม่รู้ว่าอาจารย์เขาถ่ายรูปตอนไหนบ้าง จำได้ก็บรรลุแล้วล่ะค่ะ  ::)



หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ สิงหาคม 05, 2007, 11:37:08 AM
ขออนุโมทนาสาธุในกิจที่ทำด้วยครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 05, 2007, 12:14:50 PM
......ทราบแล้วครับผม  ขอบคุณมากครับ ..... แล้วทำไม  คนที่นั่งข้าง ๆ ถึงได้ใส่ปลอกคอด้วยล่ะครับผม .......

(http://img204.imageshack.us/img204/405/dscf0010hz8.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 05, 2007, 12:20:29 PM

...... ผู้อื่นไม่เห็นเขาใส่เครื่องประดับกันเลย  ทำไมมีแต่คุณวุ้นเส้นล่ะครับ ทั้งสองแขนเลย ....  ภาพนี้ตั้งใจโพสต์มากเลย  หาตั้งนานกว่าจะพบ  .....

(http://img204.imageshack.us/img204/7219/24355at2.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ สิงหาคม 05, 2007, 01:59:18 PM
ปลอกที่แขนน่ะป้องกันเหงื่อเวลาเล็งปืนนานๆครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ สิงหาคม 05, 2007, 08:27:15 PM
ข้างหนึ่งเป็นนาฬิกา ส่วนอีกข้างเป็นกำไลใส่ติดข้อมือตลอดค่ะ มันถอดออกยากค่ะ ....

ส่วนคนข้าง ๆ เขาคงจะหนาว เลยต้องสวมปลอกคอไว้  :DD  ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 05, 2007, 10:36:01 PM
ข้างหนึ่งเป็นนาฬิกา ส่วนอีกข้างเป็นกำไลใส่ติดข้อมือตลอดค่ะ มันถอดออกยากค่ะ ....

ส่วนคนข้าง ๆ เขาคงจะหนาว เลยต้องสวมปลอกคอไว้ :DD ;D

..... เข้าใจแล้วครับ  ขอบคุณครับผม  แต่ก็ยังแปลกกว่าผู้อื่นอยู่ดี ........ แฮ่ .. แฮ่ ..

(http://img399.imageshack.us/img399/4136/032resizebi8.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ สิงหาคม 06, 2007, 05:44:33 AM
พระประจำวันพุทธ ตอนกลางวัน

(http://i11.tinypic.com/6bnvmfs.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 09, 2007, 07:34:43 PM
......... สมกับที่เป็นกระทู้ธรรม ............
(http://img267.imageshack.us/img267/7055/img0069yq7.jpg)

(http://img411.imageshack.us/img411/9680/08070037jt1.jpg)


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ สิงหาคม 09, 2007, 08:26:52 PM
ปาฎิสังขาโย นิโสพินตาตัง ปาฎิเสวามิ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ สิงหาคม 14, 2007, 11:22:41 PM
ปาฎิสังขาโย นิโสพินตาตัง ปาฎิเสวามิ

หมายความว่าอะไรเหรอคะ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ สิงหาคม 15, 2007, 07:59:25 AM
ปาฎิสังขาโย นิโสพินตาตัง ปาฎิเสวามิ
หมายความว่าอะไรเหรอคะ
อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เห็นในหนังสือ............อิอิอิ ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ สิงหาคม 15, 2007, 08:50:21 AM
ปาฎิสังขาโย นิโสพินตาตัง ปาฎิเสวามิ
หมายความว่าอะไรเหรอคะ
อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เห็นในหนังสือ............อิอิอิ ;D

..555  จะไปรู้ได้ไงเสี่ยพนธ์น่ะไม่เคยเข้าวัดเลย   งั้นก็ขอเชิญท่านผู้รู้ขยายความครับ


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ สิงหาคม 15, 2007, 08:56:03 AM
ปาฎิสังขาโย นิโสพินตาตัง ปาฎิเสวามิ
หมายความว่าอะไรเหรอคะ
อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เห็นในหนังสือ............อิอิอิ ;D


อุตสาห์ แว๊บไป แว๊บมา รอฟัง ....


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ กันยายน 19, 2007, 07:55:18 PM
แปลว่าความรักไม่มีพรหมแดนครับ   ไปละเด๋วโดนตื้บบบบบบบบบบบบบบบบ ;D


หัวข้อ: Re: กระทู้ธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ กันยายน 19, 2007, 10:37:02 PM
แปลว่าความรักไม่มีพรหมแดนครับ   ไปละเด๋วโดนตื้บบบบบบบบบบบบบบบบ ;D

(http://img232.imageshack.us/img232/624/on45pa4.gif)