เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ขออนุญาตสอบถามด้วยครับ

อยากทราบว่ากระสุนที่เราๆ ท่านๆ ใช้อยู่นั้น มีความทนต่อความร้อนที่อุณหภูมิประมาณเท่าใดครับ

เช่น กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ หรือกระสุนอยู่ในกองเพลิง จะทำปฏิกิริยาอย่างไร

ทนต่อความร้อนที่อุณหภูมิเท่าใด ครับ

ขอความกระจ่างด้วยครับ ขอบคุณครับ

...ค้นมาตอบนะครับ  ปรากฏการณ์การระเบิดของกระสุนเนื่องจากความร้อน  มีชื่อเรียกว่า "cooking-off" ครับ  มีการทดสอบโดย NRA และหน่วยงานสรรพาวุธ ทบ. สหรัฐ และหน่วยงานอิสระว่า  โดยเฉลี่ยแล้วกระสุนไรเฟิลและปืนพกจะระเบิดเอง ณ อุณหภูมิ ระหว่าง 200 F ปลายๆ กับ 300 F ต้นๆ ซึ่งอุณหภูมิสูงขนาดนี้อาจถือว่าเป็นเรื่องปกติในปืนกล  จึงมีการออกแบบปืนกลดังกล่าวให้มีระบบการทำงานเพื่อป้องกันปัญหานี้

...แสงแดดก็สามารถทำให้เกิดอุณหภูมิสูงพอที่กระสุนจะจุดระเบิดได้  ถ้าปืนถูกตากแดดจนร้อน  เมื่อใช้ยิงออกไปเพียงไม่กี่นัด  อาจทำให้อุณหภูมิในรังเพลิงสูงพอที่จะทำให้กระสุน (ที่อยู่ในรังเพลิง) ระเบิดออกไปเองได้

...ในกรณีกระสุนไม่อยู่ในรังเพลิงแต่ถูกไฟไหม้  จะระเบิดอย่างรวดเร็วที่อุณหภูมิต่ำกว่า 400 F ปลอกกระสุนจะระเบิดออกโดยรอบทุกทิศทาง (เพราะไม่มีรังเพลิงห่อหุ้้ม) หัวกระสุนอาจจะเดินหน้าออกไปแต่ไม่มีความเร็วมากมายครับ  มีรายงานเพลิงไหม้ร้านขายกระสุนปืนที่สหรัฐในปี 1970  กระสุนปืนบางส่วนแม้จะอยู่ใกล้ไฟก็ไม่ระเบิด  ส่วนกระสุนนัดที่ระเบิดก็อยู่ในสภาพปลอกแตก  หัวกระสุนตกอยู่ใกล้ๆ ครับ

ที่มา: หนังสือ Understaning Firearm Ballistics โดย R.A. Rinker

ถ้า รถเกิดเพลิงไหม้ มีกระสุนอยู่ในรถ ระเบิด ปุ้งปัง

ก็ไม่น่ากลัวสิครับ  สำหรับหัวกระสุน  แต่เปลือกทองเหลือง นี่ น่ากลัวกว่า

เหมือนกรณี ของ พี่มะขิ่น   ที่เพื่อน ๆ ทำตับกระสุนตกใส่ราวไฟ

ไม่บาดเจ็บ จากหัวกระสุน   แต่บาดเจ็บจาก เปลือกทองเหลืองแทน

พี่ coda เป็นคนอ่านหนังสือเยอะดีครับ
อาทิตย์นี้มีสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ด้วยนะครับ
ถ้าลงมาแวะดู เผื่อได้หนังสือดี ๆ ติดมือ    ;)

ขอบพระคุณพี่แก้ว พี่ยอด และพี่ชลทิศ เป็นอย่างสูงครับผม

ขอบพระคุณครับ...เข้ามาเก็บความรู้ด้วยคน...

เอ่อ..ช่วยเทียบเป็นองศาเซลเซียสให้ได้ไหมครับ ว่ามันเท่ากับเท่าไร
ขอบคุณครับ

...เอาไปสิครับ  ;)

Temperature Conversion
Fahrenheit: 200
Celsius: 93.33
Kelvin: 366.48
Rankine: 659.67
R้aumur: 74.67
 
Temperature Conversion
Fahrenheit: 300
Celsius: 148.89
Kelvin: 422.04
Rankine: 759.67
R้aumur: 119.11
 
Temperature Conversion
Fahrenheit: 400
Celsius: 204.44
Kelvin: 477.59
Rankine: 859.67
R้aumur: 163.56
 
Temperature Conversion
Fahrenheit: 212.00
Celsius: 100
Kelvin: 373.15
Rankine: 671.67
R้aumur: 80.00

เวลาผมไปออกทริปป่าๆกลับมาแล้วกลัวลูกกระสุนชื้น ผมจะใช้วิธีเอาไปตากแดดเป็นวันๆ ตากตลอดทั้งวัน ไม่กลัวลูกเสื่อมร้อนหรือจุดชนวนเอง ไม่เคยมีปัญหา มีอย่างเดียวทองเหลืงสีเข้มคล้ำขึ้นมากกว่าเดิม.  :)

...ที่ผมกล่าวข้างต้นหมายถึงว่า  ปืนตากแดดจนร้อนอยู่แล้วนำมายิงไม่กี่นัด  รังเพลิงอาจร้อนมากพอที่ทำให้กระสุนนัดต่อมาที่ถูกบรรจุเข้าไปในรังเพลิงจุดระเบิดเองได้  ไม่ได้หมายความว่าตากแดดแล้วมันจะระเบิดครับ 

...อิอิ  แปลแบบรีบๆ น่ะครับ  ;D

มีคำถามเพิ่มว่า   ถ้าปืนขึ้นลำเเต่เจ้ากรรมปืนกระบอกนั้นอยู่ในกองเพลิงนานจนถึงจุดที่กระสุนจุดชนวนเองได้   ผมเข้าใจว่าหัวกระสุนจะพุ่งออกมาทางปากลำกล้องเเละมีความเร้วเท่ากับกระสุนที่ถูกยิงออกมาปืนปกติ  ถูกต้องไหมครับ

ถ้าไม่ถูกก็หายเสียวหน่อยเเต่ถ้าถูกต้องก็คงตัวใครตัวมันเเหละครับ

...เข้าใจถูกต้องครับ  ในหนังสือที่ผมอ่านก็ว่า อตร. เหมือนกับการยิงตามปกติครับ

อ่านแล้วค่อยโล่งใจ  :DD

แวะเข้ามาหาความรู้..ขอบคุณทุกความรู้ครับ

อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ.. :) : ;) :VOV:

ขอบคุณในความรู้ครับ ;)

ความรู้ล้วนๆ...ขอบคุณทั้งผู้ถามและผู้ตอบครับ

ข้อมูลนี้.............ผมเคยเห็นเกิดขึ้นกับปืนกล M2 .50BMG (ปก.93) และ ปืนกล M1919 .30(ปกบ.88) .................ซึ่งปืนทั้งสองรุ่นยิงด้วยระบบหน้าลูกเลื่อนปิด

หลังจากยิงติดต่อไปประมาณ 3-400 นัด..................พอหยุดยิง ยังมีกระสุนอยู่ในรังเพลิง.............บางครั้งมีกระสุนลั่นออกไปเอง โดยไม่ได้เหนี่ยวไก.................คงจุดตัวลั่นออกไปด้วยความร้อนจากรังเพลิง

ปืนกลรุ่นใหม่ๆ จึงใช้ระบบยิงด้วยหน้าลูกเลื่อนเปิด............