เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

วันนี้ไปจ่ายเงินค่าโทรฯระหว่างประเทศมาก็หลายตั้งค์อยู่ และวันนี้ไม่รู้นึกอะไรขึ้นมา ยกใบเสร็จรับเงินขึ้นมาดู จากที่ไม่เคยเช็ครายระเอียดในใบเสร็จรับเงินเลยและพบว่านอกจากยอดเงินที่ต้องชำระค่าโทรฯแล้วยังต้องชำระค่า VAT อีก ก็เลยไปดูเอกสารที่ทั้งรับและก็จ่ายเงินของที่อื่นๆ ปรากฏว่าเราต้องจ่ายภาษีเองทั้งหมด และไม่ว่าจะไปกินอาหาร ไปช้อปปิ้ง.... ฯลฯ ที่มีใบเสร็จรับเงิน ก็จะต้องถูกคิด VAT รวมไปด้วยเสมอ และรวมทั้งที่ต้องไปแจ้งรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีก สรุปก็คือ...ไม่ว่าจะรับเงินหรือจ่ายเงินก็จะต้องถูกหักภาษีทั้งขึ้นทั้งล่อง...  ??? :'(

ผมเองพึ่งกลับมาเมืองไทยเมื่อปลายปีที่แล้วก็เลยงงๆ เกี่ยวกับระบบการเก็บภาษีของไทยว่ามันเป็นอย่างไร...ก็เลยใคร่ขอความกรุณาสมาชิก อวป ที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบการเก็บภาษีของไทยว่า ณ ปัจจุบันนี้เขาคิด และคำนวนกันอย่างไรครับ...

                                                 ขอบคุณครับ

ก็เลยไปดูเอกสารที่ทั้งรับและก็จ่ายเงินของที่อื่นๆ ปรากฏว่าเราต้องจ่ายภาษีเองทั้งหมด และไม่ว่าจะไปกินอาหาร ไปช้อปปิ้ง.... ฯลฯ ที่มีใบเสร็จรับเงิน ก็จะต้องถูกคิด VAT รวมไปด้วยเสมอ และรวมทั้งที่ต้องไปแจ้งรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีก สรุปก็คือ...ไม่ว่าจะรับเงินหรือจ่ายเงินก็จะต้องถูกหักภาษีทั้งขึ้นทั้งล่อง...   
ผมเองพึ่งกลับมาเมืองไทยเมื่อปลายปีที่แล้วก็เลยงงๆ เกี่ยวกับระบบการเก็บภาษีของไทยว่ามันเป็นอย่างไร...ก็เลยใคร่ขอความกรุณาสมาชิก อวป ที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบการเก็บภาษีของไทยว่า ณ ปัจจุบันนี้เขาคิด และคำนวนกันอย่างไรครับ
บุคคลธรรมดาอย่างเราต้องเสียภาษีหลัก ๆ  2 ตัวคับ
-ภาษีเงินได้บุคลลธรรมดา(ยื่นแบบ ฯ ที่อำเภอ,ยื่นทางอินเตอร์เน็ต) เวลารับเงินได้บางกรณีอาจถูกหัก ณ ที่จ่ายตามกฎหมาย เงินภาษีที่ถูกหักไว้ถือเป็นเครดิต เอาไปหักออกจากยอดที่คำนวณได้เมื่อถึงเวลายื่นแบบคับ ภาษีเงินได้ ฯ เป็นภาษีทางตรงที่ผลักภาระได้ยาก ผู้มีเงินได้มากเสียมาก มีเงินได้น้อยเสียน้อย ถือว่ามีความเป็นธรรมระดับหนึ่ง
-ภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการเก็บจากผู้บริโภคนำส่งให้รัฐบาล จัดเป็นภาษีทางอ้อม ผลักภาระให้ผู้บริโภคได้ง่ายโดยฝังรวมอยู่ในราคาสินค้า มีความเป็นธรรมน้อยกว่าภาษีเงินได้ ยกตัวอย่างเช่น เศรษฐีซื้อสบู่นกแก้ว 1 ก้อน ราคา 12 บาทก็ต้องเสียภาษี vat=0.7850 บาทซึ่งฝังรวมอยู่ในราคาสินค้าแล้ว กรรมกรซื้อสบู่นกแก้วก็ต้องเสีย vat เท่ากันกับเศรษฐี 
-ในประเทศที่พัฒนาแล้วสัดส่วนของภาษีทางตรง : ภาษีทางอ้อม มีอัตราสูงกว่าของประเทศด้อยพัฒนา
-ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่นี่คับ www.rd.go.th

แล้วแต่นโยบายการคลังครับ อังกฤษคิด VAT ตั้ง 17.5%

              เรียนคุณ NARIN CZ ทั้งสองท่านให้ความเห็นถูกต้องตามกฎหมายครับ แต่สนง.บัญชีที่รับจ้างตรวจสอบบัญชี จะมีวิธีเลี่ยงภาษีครับ แต่บริษัมหาชน (บมจ.) บริษัทที่มีความน่าเชื่อ ร้านอาหาร โรงแรม นี่ใช้ระบบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์จะมีระบบบัญชีที่ตรงไปตรงมา แต่ร้านค้าเช่นร้านอะไหล่เซียงกง วรจักร ถ้าท่านขอบิลซึ่งหมายถึงบิลเงินสดก็มีให้ แต่ไม่ใช่ใบกำกับภาษี ถ้าออกใบกำกับภาษีบางร้านก็จะเก็บเพิ่มอีก 7 เปอร์เซ็นต์บวกลงไปอีก 7%ซื้อของ100บาทบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก  7 บาท เป็น 107 บาท   ถ้าไม่ขอใบกำกับภาษีก็ 100 บาท   บริษัทใหญ่ใช้ระบบใหญ่จะใช้ระบบเดียวลงบัญชีด้วยระบบคอมพิวเตอร์  มีวิธีคิดคือซื้อของ 100 บาททุกคนต้องเสียภาษี 7% ทันที แต่จ่ายลงไปในตัวสินค้า 100 บาทแล้ว ซึ่งเท่ากับ ราคาสินค้าเพียง 93.457 บาทเป็นภาษีเสีย 6.542 บาท( ปัดเศษทศนิยมเหลือ 2 หลัก เป็นคณิตฐานร้อย  ร้อยสตางค์เท่ากับหนึ่งบาท)  แต่จะมี สลิปให้เป็นใบกำกับภาษีชั่วคราว ถ้าต้องไปใช้ในบริษัทส่วนตัวเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ก็ต้องไปขอออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ที่แผนกประชาสัมพันธ์ต้องมีการระบุชื่อผู้ซื้อ พร้อมที่อยู่หรือที่ตั้งบริษัทตามกฎหมาย ลงในใบกำกับภาษีด้วยจึงจะสมบูรณ์.....
               ค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าโทรศัพท์จะรวมต้นทุนทั้งหมดแล้วคิดภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปอีก 7%  จะมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบที่จดทะเบียนขอใช้ครั้งแรก
               ค่าบริการต่างๆ จึงมีวิธีการออกใบกำกับภาษีเก็บภาษีสรรพากรนำไปเป็นรายได้ของรัฐเพื่อพํฒนาชาติต่อไป แต่มีบริษัทเล็กๆ และห้างหุ้นส่วนจำกัดจะมีการเก็บและจ่ายภาษีให้รัฐมากหรือน้อย ถูก กม.หรือเลี่ยงจ่ายน้อยก็แล้วแต่ผู้เป็นเจ้าของ สรรพากรจึงออกตรวจเอกสารเพื่อตรวจและบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป
               เริ่มแรกในประเทศเรามีการประกาศเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% แล้วปรับไปเก็บเป็น 10%  แล้วปรับกลับมาเป็น 7% ดังปัจจุบันอีกครั้งหนึ่ง แต่ผมจำสาเหตุไม่ได้แล้วครับ ปีที่ปรับก็จำไม่ได้ ไม่ได้ทำงานด้านนี้แล้วครับ
               

ขอบคุณคร๊าบบบบ......

ระบบภาษีก้าวหน้าครับ

ค่าสินค้า-ค่าบริการ ...... ผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อของตน และทำรายการนำส่งสรรพากรทุกเดือน

ไม่สงสัยบ้างหรือครับ .... ว่าซื้อปืนทำไมไม่ได้ใบเสร็จรับเงิน  8)

ไม่สงสัยบ้างหรือครับ .... ว่าซื้อปืนทำไมไม่ได้ใบเสร็จรับเงิน   
ผมเคยซื้อที่ร้าน ม.ฮะกีมี และปืนหมู่ชั้น เขาออกใบเสร็จให้นะคับ

แค่เห็นตัวหนังสือก็หนาวแล้วครับ

ดีครับ....ที่ทราบมา..ห้างฯหลุยส์ ก็ออกใบเสร็จพร้อมใบกำกับภาษี
น่าสรรเสริญ ส่งเสริม ผู้ประกอบการที่ซื่อตรง

ยกตัวอย่างปืนขาย75K ก็เป็นภาษีอยู่ 4900 บาท ที่เราต้องจ่ายรวมไป
ถ้าออกใบเสร็จลม แจ้งสรรพากรว่าขาย 40K ก็นำส่งภาษีแค่ 2600 บาท
โกงตรงนี้ได้แล้ว.....ยังเอาไปโกงต่อเรื่องรายได้ และภาษีธุรกิจ30%ของผลกำไรได้อีก

คนเสียภาษีตรงๆ(ทั้งVAT+บุคคล+ธุรกิจ)และมีเสียงvoteเดียว(ที่ไม่มีใครมาซื้อเสียง)อย่างผม พูดเรื่องนี้ทีไร เจ็บช้ำหัวใจชะมัด  >:(

ยกตัวอย่างปืนขาย75K ก็เป็นภาษีอยู่ 4900 บาท ที่เราต้องจ่ายรวมไป
ถ้าออกใบเสร็จลม แจ้งสรรพากรว่าขาย 40K ก็นำส่งภาษีแค่ 2600 บาท
โกงตรงนี้ได้แล้ว.....ยังเอาไปโกงต่อเรื่องรายได้ และภาษีธุรกิจ30%ของผลกำไรได้อีก
คนเสียภาษีตรงๆ(ทั้งVAT+บุคคล+ธุรกิจ)และมีเสียงvoteเดียว(ที่ไม่มีใครมาซื้อเสียง)อย่างผม พูดเรื่องนี้ทีไร เจ็บช้ำหัวใจชะมัด   

ถูกต้องคร้าบ..ระบบกฎหมายภาษีของไทยถือว่าผู้เสียภาษีทุกประเภทเป็นผู้ทรงเกียรติ ผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มจึงได้รับความไว้วางใจให้เก็บภาษีไว้จากผู้บริโภค นำส่งให้รัฐ ถ้าผู้ประกอบการเล่นไม่ซื่อยักส่วนหนึ่งเข้ากระเป๋าตัวเอง มันก็ไม่แตกต่างจากโจรเท่าใดนะ..ผมว่า ที่รัฐไทยอยู่ได้ไม่ล่มสลายไปเพราะมีคนดีมากกว่าคนไม่ดีคับ  

           เป็นเม็ดเงินมหาศาลที่เดียว ท่านสังเกตุชาวปืนเราได้ซื้อปืนใหม่รับปืนแล้วผมไม่ค่อยเห็นมีใครท้วงเรื่องนี้เลย ว่ามีใบกำกับภาษีไหม ดีใจที่ได้ปืนเป็นปลื้ม ไม่ชื้อปืนกระบอกใหม่ ที่เคยซื้อปืนก็ของลูกพี่ลูกน้องเลยไม่ทักท้วง ลองทักท้วง เขาจะผลักให้เราจ่ายทันที ผมซื้อ 73,0000บาท บาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%ก็อีก 5,110  บาท รวมเป็น 78,110 บาท อีกตั้งห้าพันบาท ก็เลยเฉยไว้ ถ้าทักท้วงเสียเงินแน่ไม่ได้ปืนราคาถูก ปืนของผมซื้อมือสาม,สี่ จึงเสียเฉพาะอากรการโอนเท่านั้น ยังอยากได้ใหม่แต่สู้ราคาไม่ไหว  ยังสาเหตุใต้โต๊ะอีกหลายประการ แล้วแต่ท่านจะได้พบเจออีก จะไม่ขอกล่าวเดี๋ยวโดนลบอีก  ;D ;D ;D ;D

ลองทักท้วง เขาจะผลักให้เราจ่ายทันที ผมซื้อ 73,0000บาท บาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%ก็อีก 5,110  บาท รวมเป็น 78,110 บาท อีกตั้งห้าพันบาท ก็เลยเฉยไว้ ถ้าทักท้วงเสียเงินแน่ไม่ได้ปืนราคาถูก
แบบนี้แสดงว่าผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภคคับ ที่ถูกแล้วราคา 73,000.-บาท หมายถึงเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว หากราคาประกาศไม่รวมภาษีต้องมีข้อความให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจนว่าราคานี้ไม่รวมภาษีนะ หากโดนเอาเปรียบแบบนี้ผู้บริโภคมีสิทธิ์ร้องต่อ สคบ.และกรมสรรพากรได้  จริยธรรมของเพื่อนร่วมชาติมันเป็นซะอย่างงี้ เราก็เลยต้องอยู่กลุ่มโลกที่ 3 ต่อไปอีกนาน   :-\ 

ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนVAT. นอกจากนำส่งภาษีทุกเดือนแล้ว ยอดขายจะมีผลให้เสียภาษีเงินได้รายปีๆละ2ครั้งอีกด้วยครับ ทำให้เราเป็นพลเมืองดี ที่มีประโยชน์กับบ้านเมือง หลักหมื่นหลักแสน หลักล้าน ตามแต่ขนาดธุรกิจครับ

แต่ว่าทำไม ในเมื่อเราเป็นคนดี ทำงานเสียภาษี ทำไมรัฐไม่อนุญาตให้เราได้ป้องกันตัวจากมิจฉาชีพ แค่พกพาปืนมีทะเบียนมิดชิด เพื่อป้องกันตัวเท่านั้นเอง

น่าจะเป็นแนวทางที่ดีนะครับ ถ้ารัฐจะอนุญาต ให้พกพา สำหรับคนที่เสียภาษีถูกต้อง มีหลักฐาน อย่างน้อยก็คิดซะว่า ถ้าคนที่เสียภาษีพวกนี้ตายไปคนนึง รัฐก็ขาดรายได้ไปไม่น้อยเลย  ;D

 :) ทำได้ครับถ้าทุกคนในประเทศเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริตหมด

 :) ขอยกพระบรมราโชวาท ของพระองค์ท่านมาให้น้อมเกล้าฯ รับใส่ไว้เหนือเกล้าฯ

ความซื่อสัตย์สุจริต/ความเพียร
ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายจงมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต ถือเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เพราะคุณธรรมอันนี้เป็นมูลฐาน อันสำคัญที่จะยังความเจริญ และความเป็นปึกแผ่นแก่สังคม เป็นบ่อเกิด แห่งความสามัคคีกลมเกลียว ความซื่อสัตย์ที่ว่านี้ หมายถึง ความสุจริต ซื่อตรงต่อหน้าที่การงาน ต่อตนเองและต่อผู้อื่น ที่เกี่ยวข้อง มีเจตนาบริสุทธิ์ไม่เอารัดเอาเปรียบ สำหรับท่านที่ใช้วิชากฎหมาย ย่อมกินความถึงการรักษาความเป็นธรรม ไม่บิดเบือน ความหมายของตัวบทกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของตนเองด้วย ความซื่อสัตย์สุจริตจะเป็นเสมือนหนึ่งเกราะคุ้มภัยแก่ท่านตลอดไป ดังบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ว่า “สุจริตคือเกราะบัง สาตรพ้อง”

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ : ๒๓ พฤษภาคม ๒๔๙๖)

            จริงดังท่านว่า ผมคนเดียวหนึ่งใน 60 ล้านคนทำได้เพียงหนึ่งเสียงเท่านั้นเราต้องร่วมมือกัน สามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียวคือ   ประเทศไทยครับ

 พลเมืองดีเสียภาษาทุกบาทไม่หลีกเลี่ยง พลเมืองร้ายหาแต่เรื่องเลี่ยงภาษี 

แต่จริงๆแล้ว การเสียภาษี คนทำธุรกิจ ต้องให้นักบัญชีวางแผนภาษีให้นะครับ ให้ผู้เชียวชาญวางแผนให้ ไม่ใช่ว่าจะหลบเลี่ยง แต่กฎหมายมันซับซ้อน คนที่ไม่เชี่ยวชาญจริงๆทำไม่ได้หรอกครับ จะเสียมากเสียน้อย ขอให้เสียครับ รัฐก็รู้ เพราะเป็นคนคุมกฎหมาย มีความยืดหยุ่น มีกฎระเบยบ รัฐก็ไม่ต้องการบีบผู้ประกอบการจนขยับไม่ได้หรอกครับ ของแบบนี้มันต้องเอื้อเฟื้อให้ผู้ประกอบการด้วยครับ น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า  ;D