หัวข้อ: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: ek_suwat ที่ สิงหาคม 25, 2007, 12:55:17 AM ........................... ;Dมีข้อความมาฝากขอรับ ;D.........................
หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง....... เริ่มหัวข้อโดย: ek_suwat ที่ สิงหาคม 25, 2007, 12:57:56 AM ....................ย่อรูปแล้วมันเล็กอ่านไม่ออก ใครก็ได้ช่วยทีขอรับ.........................
หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง....... เริ่มหัวข้อโดย: goldmatch II ที่ สิงหาคม 25, 2007, 01:02:01 AM (http://img67.imageshack.us/img67/7741/indexresizepp5.png)
ขยายให้แล้วครับ อ่านไม่ออกอยู่ดี :~) หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง....... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ สิงหาคม 25, 2007, 01:09:12 AM ....................ย่อรูปแล้วมันเล็กอ่านไม่ออก ใครก็ได้ช่วยทีขอรับ......................... ท่าน post URL เดิม ๆ มาซิครับ หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง....... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ สิงหาคม 25, 2007, 01:28:29 AM ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเกี่ยวกับความใน พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ นะครับ
มาตรา 34 ในการใช้ทางเดินรถที่ได้จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป หรือที่ได้จัดช่องเดินรถประจำทางไว้ในช่องเดินรถซ้ายสุด ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องซ้ายสุดหรือใกล้กับช่องเดินรถประจำทาง เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้ ให้เดินทางขวาของทางเดินรถได้ (1) ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร (2) ทางเดินรถนั้นเจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว (3) จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก (4) เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น (5) เมื่อผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ารถในช่องเดินรถด้านซ้าย หมายเหตุ มาตรานี้ได้มีการเพิ่มเติมเข้าไปโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมข้อความใหม่เข้าไป โดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2535 ใน มาตรา 6 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 109 ตอนที่ 39 หน้า 44 วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2535 มาตรา 35 รถที่มีความเร็วช้าหรือรถที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถคันอื่นที่ขับในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายเท่าที่จะกระทำได้ ผู้ขับขี่รถบรรทุก รถบรรทุกคนโดยสาร รถจักรยานยนต์ในทางเดินรถ ซึ่งได้แบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป หรือได้จัดช่องทางเดินรถประจำทางด้านซ้ายไว้โดยเฉพาะ ต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายสุดหรือใกล้เคียงกับช่องเดินรถประจำทางแล้วแต่กรณี ความในวรรคสองมิให้ใช้บังคับแก่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ หมายเหตุ มาตรานี้ความเดิมได้ถูกยกเลิกไป และมีการเพิ่มเติมข้อความใหม่เข้าไป โดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2535 ในมาตรา 3 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 103 ตอนที่ 180 ลงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2529 จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง....... เริ่มหัวข้อโดย: ek_suwat ที่ สิงหาคม 25, 2007, 01:34:32 AM ..................คือว่าผมบันทึกมาเป็นรูปขอรับพอย่อมันเลยเล็ก เนื้อความประมาณว่าตำรวจทางหลวงชอบเรียกจับรถที่วิ่งเลนขวาตลอดโดยไม่เข้ามาวิ่งเลนซ้าย หรือแซงแล้วไม่หลบเข้ามาเลนซ้าย โดยคุณเพลิงมรกตได้มีข้อคิดในเรื่องกฎหมายว่า "ตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ในมาตราที่ 34 และ 35 ระบุไว้ชัดเจนว่า ถนนที่มีช่องทางเดินรถไปในทางเดียวกันตั้งแต่สองช่องทางเดินรถ ที่รถไม่ต้องแล่นสวนทางกัน รถที่ได้รับการยกเว้นที่ไม่ต้องแล่นช่องซ้ายตลอดเวลาคือ รถบรรทุกที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กก. หรือรถปิกอัพ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือรถเก๋ง ส่วนที่แซงในช่องขวาแล้วต้องกลับเข้าช่องซ้ายคือ รถบรรทุก รถโดยสาร รถจักรยานยนต์ หรือรถเก๋งที่แล่นช้ากว่าคันอื่น ทางหลวงสายใหญ่ในเมืองไทยที่ขาไปและขากลับแยกกันคนละฝั่ง ต้องถือว่าเป็นถนนที่เดินรถไปในทางเดียวกัน ตามเจตนารมมณ์ของกฎหมาย ที่ไม่ต้องการให้รถที่ขับสวนทางกันเฉี่ยวชนกัน ถ้าเป็นเช่นนี้การขับรถเก๋ง หรือปิกอัพในช่องทางขวาย่อมทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย"
................คัดมาจากข้อความของคุณเพลิงมรกตขอรับ........................... หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: goldmatch II ที่ สิงหาคม 25, 2007, 02:42:55 AM ผมเคยอ่านเหมือนกันครับ แต่รู้สึกอันนี้จะนานมากแล้วนะครับ
ถ้าโดนจับเพราะเหตุผลที่วิ่งเลนขวาก็อยากจะเถียงตำรวจในเรื่องนี้เหมือนกัน หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: ชัยบึงกาฬ รักในหลวง ที่ สิงหาคม 25, 2007, 07:27:58 AM อย่าไปเถียงเถอะครับ...ถ้าได้เรียกแล้วมีแต่..โดนมาก..กับโดนน้อย...เว้นแต่มีแบ็คอัพดีๆ..ผมเคยโดนข้อหานึง..ตอนขับจักรยานยนต์อยู่ที่กทม. ผมมีธุระที่ต้องไปสน.พหลโยธิน..ผมมาจากลาดพราวสะพาน2..ขับออกมาเส้นรัชดา..ฝั่งซ้ายศาล..ฝั่งขวากรมการส่งออก...มีการตั้งด่านตามปกติ..หลังจากทำธุระเส็รจด่านยังไม่เลิกขับซายสุดตัวลีบเชียว..ขับจะพ้นแล้วเชียว..นึกในใจ..5555วันนีข้ามากะพระ...พลตร.โดดออกมาขวางรถผม..เกือบโดนอีกกระทง..ชนจนท...จนท.ได้แสดงความเคารพแล้วขอดูใบอณุญาติ..ใบทะเบียน..หลังจากตรวจใบต่างๆครบ..จนท.ขอตรวจรถอีก..ปลดเกียรว่างด้วยครับ...ว่าแล้วก็บิดคันเร่งจนมิด..ไฟเลี้ยว...ไฟเบรค..อึดอัดพักนึง..จู่ๆบิดลูกกุญแจดับเครื่องผมเฉยเลย..ผมเปิดหมวกกันน็อคขึ้น..พี่ผมผิดอะไรหรือ?...จนท.มองมาแล้วบอกว่า..คนขับไม่หล่อ..20บาทเจ้านายหิว..ว่าแล้วก็ถือลูกกุญแจเดินไปเลย...ก็เดินไปจ่าย..โดนข้อหานี้หนีไม่ออก..ไม่ว่าเขาหรอก...ก็นไม่หล่อจริงๆนี่หว่า...
หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: toygun ที่ สิงหาคม 25, 2007, 07:59:56 AM อิ..อิ.ข้อหาคนขับไม่หล่อ...เป็นผมสงสัยโดน...หล่อเกินเจ้าหน้าที่..ฮ่า ๆ ..
หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ สิงหาคม 25, 2007, 10:52:01 AM อิ..อิ.ข้อหาคนขับไม่หล่อ...เป็นผมสงสัยโดน...หล่อเกินเจ้าหน้าที่..ฮ่า ๆ .. :OO :OO :<< :<< :<< ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 25, 2007, 11:22:49 AM ..................คือว่าผมบันทึกมาเป็นรูปขอรับพอย่อมันเลยเล็ก เนื้อความประมาณว่าตำรวจทางหลวงชอบเรียกจับรถที่วิ่งเลนขวาตลอดโดยไม่เข้ามาวิ่งเลนซ้าย หรือแซงแล้วไม่หลบเข้ามาเลนซ้าย โดยคุณเพลิงมรกตได้มีข้อคิดในเรื่องกฎหมายว่า "ตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ในมาตราที่ 34 และ 35 ระบุไว้ชัดเจนว่า ถนนที่มีช่องทางเดินรถไปในทางเดียวกันตั้งแต่สองช่องทางเดินรถ ที่รถไม่ต้องแล่นสวนทางกัน รถที่ได้รับการยกเว้นที่ไม่ต้องแล่นช่องซ้ายตลอดเวลาคือ รถบรรทุกที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กก. หรือรถปิกอัพ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือรถเก๋ง ส่วนที่แซงในช่องขวาแล้วต้องกลับเข้าช่องซ้ายคือ รถบรรทุก รถโดยสาร รถจักรยานยนต์ หรือรถเก๋งที่แล่นช้ากว่าคันอื่น ทางหลวงสายใหญ่ในเมืองไทยที่ขาไปและขากลับแยกกันคนละฝั่ง ต้องถือว่าเป็นถนนที่เดินรถไปในทางเดียวกัน ตามเจตนารมมณ์ของกฎหมาย ที่ไม่ต้องการให้รถที่ขับสวนทางกันเฉี่ยวชนกัน ถ้าเป็นเช่นนี้การขับรถเก๋ง หรือปิกอัพในช่องทางขวาย่อมทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย" ................คัดมาจากข้อความของคุณเพลิงมรกตขอรับ........................... ....... ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับผม เพียงแจ้งให้ทราบเท่านั้นใช่หรือไม่ครับผม ...... หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ สิงหาคม 25, 2007, 11:49:36 AM ...... ลืมเล่าไป ผมเองเพิ่งโดนตำรวจทางหลวงเรียกตรวจจับเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ใต้สะพานลอยคนข้าม อ. ร้องกวาง จ. แพร่ มีตำรวจร่วมกันทำงาน 8 คน ตั้งโต๊ะเก็บค่าปรับ 2 คน ที่เหลือยืนเรียกตรวจจับ ของผมถูกต้องหมดทุกอย่าง แต่ไม่ได้ติดแผ่นป้ายเสียภาษี และ ประกันที่กระจกด้านหน้ารถ จะปรับ 3 รายการ คือ 1 . ขับรถเร็ว 2. ไม่ติดแผ่นป้ายประกัน 3. บรรทุกสัมภาระไม่คลุมให้เรียบร้อย 1 กับ 3 ผมคุยกันด้วยเหตุผลแล้วผ่าน เหลือ ไม่ติดแผ่นป้ายประกัน ผมก็แจ้งให้ทราบว่า ผมไปเสียภาษีรถ พร้อมทั้งทำประกัน ถ้าไม่ทำประกันเขาไม่ให้ต่อภาษี แล้วเอาแผ่นป้ายที่ว่านั้นเก็บไว้ในช่องเก็บของหน้ารถ โดยไม่ติดให้ ผมถามเด็ก ๆ บอกว่าพี่ไม่ทันสมัยเลย เขาเลิกติดกันแล้ว .... แต่ตอนนี้โดนปรับไปแล้ว ........ตำรวจบอกว่า "ภาษีไม่ต้องติด แต่ประกันต้องติด" แล้วมันจะยกเลิกทำไม ในเมื่อมันต้องไปเสียทั้ง 2 อย่าง ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่ต่อภาษีให้ ...... เอาสมองส่วนไหนออกกฎฟะ ...... หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: neo1 ที่ สิงหาคม 25, 2007, 11:59:55 AM ข้อหาคนขับไม่หล่อ ข้อหานี้คนรู้จักเคยโดนเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้วครับ แถวๆป่าซาง จ.ลำพูน (ต้องขอโทษที่เอ่ยถึงสถานที่) ก็มันจริงนี้ครับ >:( >:( ไม่นึกว่าตอนนี้ยังมีข้อหานี้อยู่อีก :-X :-X
หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: PAE_CZ ที่ สิงหาคม 25, 2007, 02:18:44 PM ผมคนนึงที่ใช้รถถนนเอเชียแต่ไม่บ่อยเท่าไร4-5เดือนครั้ง เป็นคนภาคเหนือแต่มาอยู่ภาคกลางจะกลับเหนือไปเยี่ยมยายที่บ้าน
แล้วแต่โอกาศหรือว่าเป็นช่วงเทศกาลเช่นสงกรานต ์เมื่อวันที่10สิงหาคมที่ผ่านมา ก็มีโอกาศได้พาภรรยากับลูก2คนไปเที่ยวที่บ้าน(อายุ3ขวบกับอายุ11เดือน) ขับรถเลยนครสวรรค์เกือบถึงกำแพงเพชร ก็เจอตำรวจทางหลวงคนนึงอยู่ที่ป้อมเล็กๆ เอากรวยดักขวางถนนทางช่องขวาไว้ ??? ??? ??? ใส่แว่นตาดำทำท่าทางโบกไม่โบกมือให้รถชลอหยุด ทำท่าเหมือนจะให้จอดทุกคันว่างั้น มีรถอยู่ข้างหน้ารถผม4คันรถผมอยู่รั้งท้าย แต่ไม่มีคนไหนจอด พี่แกเลยมาขวางเอารถผมเป็นคันสุดท้าย ชี้ไม้ชี้มือให้ขับไปชิดข้างทาง มั่นใจว่าไม่ผิดอะไรผมเลยลดกระจก แกเดินเข้ามาขอดูใบขับขี่ก็เอาให้ดู พี่เขาแจ้งผมว่าขับรถเร็วเกิน118 ทั้งๆที่ตอนขับมาก่อนถึงด่านเถื่อนดูเข็มชี้ที่110เท่านั้น ผมก็เลยตอบว่าผมก็ขับตามเก๋งคันข้างหน้ามาละพี่ :~) พี่เขาตอบว่ากฏหมายอนุโลมไห้รถเก๋งขับได้ถึง120 จะเอาผมให้ได้ว่างั้น :~) :~) :~) ผมเลยบอกว่าปรับด่วนแล้วกัน เอาเงิน100บาทแลกกับใบขับขี่ผมคืนมา โดยคิดว่าเถียงไปก็เสียเวลา ปล.คนเราถ้าพูดความจริงมากไปพี่เขาก็ว่าเราหัวหมอ :-\ :-\ :-\ หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ สิงหาคม 25, 2007, 02:50:12 PM เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วขับรถจากบางบัวทองจะไปกินข้าวกับครอบครัวที่ silver kitchen แถวราชบูรณะ ไอ้เราก็ไปไม่เป็นโทรถามทางพี่สะใถ้ตลอด แต่ก็ยังหลงอยู่ มาถึงทางแยกนึง ไฟแดงพอดีไม่มีรถสักคัน ถนนเป็นสองเลนเราอยู่เลนขวาเพราะคิดว่าต้องเลี้ยวขวา แต่เกิดเปลี่ยนใจว่าไปตรงดีกว่า แล้วโทรถามทางต่อ ก็เลยค่อยๆเบี่ยงรถไปเข้าเลนซ้ายเพื่อจะตรงไปซึ่งก็ไม่มีรถอยู่สักคัน
พอไฟเขียวปุ๊บเราออกก็ออกตัว ตำรวจในป้อมรีบออกมาขวางรถโบกให้เราจอด เราก็พูดด้วยดีๆบอกว่าเราหลงทางเลยจำเป็นต้องเปลี่ยนเลนเพื่อจะไปตรง ตำรวจคนนั้นกลับพูดสวนเราออกมาว่า "ไม่ต้องมาอ้างว่าหลง มาจากไหนจะไปไหนพูดมาสิ" ไอ้เราฉุนกึ๊กเลยเพราะเค้าพูดน้ำเสียงแย่มาก แต่เราก็ยังพูดดีกับเค้าอยู่เราก็อธิบายว่ามาจากบางบัวทองจะไปราชบูรณะ หลงทางจริงๆ ช่วยผมหน่อยผมไม่ได้ตั้งใจจะทำผิดกฏ ตำรวจคนนั้นก็ไม่สนใจและพูดว่า "เอาใบขับขี่มา แล้วจะบอกทางให้" เราก็จนปัญญาให้ใบขับขี่ไปแล้วเค้าก็บอกทางเรา พอบอกทางเสร็จก็หันมาบอกเราว่าผมจะยึดใบขับขี่และออกใบสั่งให้น๊ะ :~) เราก็ตอบว่า "ครับ" เซ็งจริงๆ เราก็รู้น๊ะว่าทำอย่างนี้มันผิดกฎแต่จะอารุ่มอาหร่วยกันไม่มีเลย มันหลงทางจริงๆไม่ได้อยากหลงซะหน่อย :~) หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: PAE_CZ ที่ สิงหาคม 25, 2007, 03:06:58 PM ต่อครับตอนขากลับวันที่21สิงหาคม ;D ;D ;D ;D
มาจากทางตาก ก่อนจะถึงไฟแดงที่เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองกำแพงเพชร อันนี้กีเจอด่านเช่นกันครับ อยู่กัน6-7คนเรียกให้จอดรถ ขอดูใบขับขี่แล้วก็เหมือนที่คิดไว้เลย แจ้งกับผมว่าขับรถเร็วอีกแล้วครับทั้งๆที่ขับไม่เร็วนะครับ แต่ขับทางเลนขวามา ใครอยู่แถวกำแพงเพชรหรือคนที่ใช้ถนนสายนี้บ่อยๆ จะรู้ดีเลยละครับว่าทางช่องซ้ายนั้นถนนมีแต่หลุม แต่หลุมนั้นมีทั้งกว้างและลึก ยาวไปถึงช่วงรอยต่อของจังหวัดนครสวรรค์เลยครับ เหมือนเดิมครับมือผมเปิดกระเป๋าโดยอัตโนมัติแล้วก็เซ่นไปอีก100บาท รับใบขับขี่มาแล้วก็ออกเดินทางต่อ ........................................................... ........................... :~) :~) :~) :~) ผ่านจากนครสวรรค์เลยสิงห์บุรีมาแล้ว โอ้ถนนดีมากสร้างเสร็จใหม่ๆเลยครับ ขับไปเจออีกแล้วครับ :o :o :o :o :o อันนี้ของจริงครับมีเครืองตรวจจับความเร็ว แบบที่ใช้เลเซอร์เป็นตัวจับความเร็ว มีบันทึกข้อมูลความเร็วและทะเบียนรถ โดนกันเยอะจริงๆใช้บริการกันไม่ขาดสาย อันนี้ไม่ต้องพูดมากครับมีหลักฐานแจ้งปรับมีบิล200บาทครับ127/ชม. ด่านนี้ค่อยยังชั่วครับมีหลักฐานปรับตามจริง เข้าหลวง ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ไม่เหมือนก่อนหน้าที่ขับมา เจอข้อหาแบบยัดเยียด ด่านหลังผิดจริงยอมทำตามกฏิกาครับ สรุป ทริปนี้400บาท ค่าทางหลวงสายหลัก ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D จบบันทึกการเดินทางของผม หัวข้อ: Re: เผื่อเอาไว้คุยกับตำรวจทางหลวง.......(อ่านในกระทู้ 5 และ 6) เริ่มหัวข้อโดย: neo1 ที่ สิงหาคม 25, 2007, 04:03:38 PM ยืนยันเลยครับว่าถนนสายกำแพงเพชร มีแต่หลุมจริงๆยาวตลอดสายทั้งจังหวัดก็ว่าได้ ผมขับผ่านเส้นนี้2ปีแล้วก็ยังเหมือนเดิมครับ :o :o
|