เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เป็นไปได้ไหมครับที่จะมีการยกเลิกการนำเข้าอาวุธปืนสำหรับการขายให้บุคคลธรรมดา   ที่ไม่ใช้ข้าราชการผู้มีหน้าที่รักษาความสงบครับ

เพื่ออะไรครับ

เป็นไปได้ และเคยมีความพยายามดำเนินการแล้ว

ในอดีต.....ได้เคยมีการทำแผนงานควบคุมอาวุธปืนฯ ระยะเวลา ๕ ปี (๒๕๔๖-๒๕๕๐) ในสมัยที่ท่านทักษิณนายก ท่านวันฯมหาดไทย ท่านปลัดเสริมศักดิ์ ท่านอธิบดีสุจริต ..... ซึ่งที่สุดของแผนคือ "การไม่อนุญาตให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง" .............. แผนงานนี้ถูกระงับไปในที่สุด .... แต่บางมาตรการก็ยังหยิบมาปฏิบัติอยู่...

อนาคต.....ไม่อาจคาดเดา

ถ้า สามารถ เพิ่ม กำลังพล ของเจ้าหน้าที่  ให้ เดินไป 100 เมตร เจอ เจ้าหน้าที่ได้
ก็ยกเลิกได้  เพราะมีความปลอดภัย ต่อชีวิต และ ทรัพย์สิน
ยังต้องมี ทำ ประชาพิจารณ อีก
การซื้อคืนอาวุธปืนที่ยังมีปัญหา
และ ถ้า สามารถถึง ประกาศ ลง ราชกิจจานุเบกษา ได้     ก็ต้องยอมรับ


ยาว ยาว ยาว......

หากยังสร้างความมั่นใจ   ในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินประชาชนในประเทศได้  ผมว่าอย่าคิดทำเลยครับ ...  เอ ...หรือจะวางแผนสนับสนุนให้ลูกเรียนเป็นตำรวจไว้ก่อนจะดีไหมหนอ    อนาคตจะได้มีโอกาสลูบคลำปืนมั่ง หากกระทู้นี้เป็นความจริง  8)

เจอประท้วงแน่นอนครับ

เสนอคุณyodว่า... ;)

ถ้าสร้างภาพต่อสังคมให้คนที่มีปืน เป็นผู้นิยมความรุนแรง เป็นผู้ร้ายได้ ................ การทำประชาพิจารณ์ก็จะผ่านฉลุย
การซื้อคืนก็ไม่เป็นปัญหาเช่นกัน โดย...."ไม่อนุญาตรายใหม่ให้มีและใช้อาวุธปืนอีกต่อไป สำหรับผู้มีอยู่แล้วจะเปลี่ยนใบอนุญาตเป็นเพื่อเก็บเท่านั้น"  ..... เงินไม่ต้องจ่าย ;)

ไม่ยาววววว............หรอกครับ 5 5   :D

ทำแบบนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญครับ ถ้าไม่ขายให้บุคคลธรรมดา ใครก็ไม่สามารถซื้อหามาเป็นสมบัติส่วนตัวได้ ไม่ว่า ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชน  แต่คงยากครับ ที่จะจำกัดสิทธิการมีและใช้อาวุธปืนของคนไทย

 :Dความคิดเห็นส่วนตัวครับ..เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะจะมีเรื่องตามมาให้แก้อีกเยอะ เช่นปืนเถื่อน ช่องทางทำมาหากินในการครอบครองอาวุธปืน ฯลฯ..

-เมืองไทยต้องปลอดอาวุธปืนภายใน 3 ปี (ยกเว้นเพื่อการกีฬา)
-ร้านค้าปืนเตรียมหาอาชีพใหม่ได้เลย
คนไทยลืมวาทะนี้กันเสียแล้วหรือ ? แค่เป็นนโยบายเรายังเจ็บปวดกันขนาดนี้ ถ้าทำจริงจะขนาดไหน  

ตอนนี้ไม่รู้ว่าคิดแบบไหน  แต่ก่อนหน้านั้น มีแผน 5 ปีเพื่อห้ามประชาชนมีปืนจริงๆ

โดยสุดท้ายจะออกใบอนุญาตมีไว้เพื่อเก็บ ไม่ตองซื้อคืน ให้เก็บไว้ แต่ทำให้ใช้ยิงไม่ได้.....

ท่านที่มาหลังๆอาจจะไม่ทันข่าว เมื่อก่อนอาจารย์ผณิศวรเคยไปดีเบทกับ ดร.โคทมเรื่องนี้กันมาแล้ว

คนเขียนแผนจะเอาใจนาย โดยไม่สนว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร

คนสนับสนุนก็มองภาพมุมเดียว ว่าหมู่บ้านมียาม มีเรื่องอะไรโทรหาตำรวจ เดี๋ยวตำรวจก็มา

เมืองไทยไม่ใช่อเมริกา ที่กด 911 แล้ว 3 นาที ตำรวจมาถึงบ้านนะครับ

บ้านอยู่นอกเมือง ในไร่ ในสวน กดไปเถอะ สายๆพรุ่งนี้นั่นแหละกว่าจะมาถึง

ลมจับ....

ทัศนคติของผมคิดว่าถ้าหากทำกันอย่างนั้นจริงๆ ปืนเถื่อนเกลื่อนเมืองแน่นอนครับเพราะ ไม่มีใครไว้ใจสภาวะสังคม เมื่อกฎหมายไม่เอื่อให้มีไว้ป้องกันตัวได้ก็จำเป็นที่จะต้องมีแบบเอบซ่อนละครับ...โจรสบายใจอีกแล้วครับท่าน ขึ้นบ้านไหนไม่ต้องกลัวปืน แม้เจ้าของบ้านจะอยู่..ต้องไตร่ตรองครับ

...ท่าน จขกท. ไปได้ข่าวคราวจากไหนหรือครับ...

...ยิ่งตอนนี้เปลี่ยนอธิบดีกรมการปกครอง..ไม่รู้จะมีผลกระทบถึงปืนสวัสดิการ..หรือเปล่า..ชักออกอาการหนาว ๆ ร้อน ๆ ....

เข้าใจตั้งกระทู้กระแทกบรรยากาศจริง ๆ 
เดาว่าคงได้หลายหน้า

เป็นไปได้ยากครับเพราะประเทศเราโจรยังชุมเหมือนยุงครับ ยังไงประชาชนบริสุทธิ์ก็ควรมีอวป.ไว้ป้องกันทรัพย์สินและชีวิตตนเองครับ.และเรื่องนี้ทางรัฐบาลก็ทราบดีครับ

         ผมไม่ให้ยึด  ไม่สนับสนุน ถ้าทำได้ก็ควรจะทำให้บ้านเราสงบก่อน ถึงจะยอม ผมว่าทำไม่ได้ครับ     ;D ;D ;D ;D

         ผมไม่ให้ยึด  ไม่สนับสนุน ถ้าทำได้ก็ควรจะทำให้บ้านเราสงบก่อน ถึงจะยอม ผมว่าทำไม่ได้ครับ     ;D ;D ;D ;D

ประชาชนกับข้าราชการ ก็มีสิทธิเท่าเทียมกัน  ถ้าไม่ให้ประชาชน ข้าราชการก็ไมได้ด้วย

มีใครติดใจกับโครงการปืนสวัสดิการข้าราชการบ้างไหมครับ

เป็นเรื่องที่ผมติดใจมานานแล้วครับ ผมเองเป็นประชาชนเต็มขั้น ขั้นตอนการขอใบอนุญาติก็แสนจะยากเย็นและกีดกันประชาชน
ไหนจะต้องมีใบรับรองจากซี 6 (ทำยังกับประชาชนทุกคนจะรู้จักข้าราชการซี 6 และเหมือนจะมีความนัยว่าประชาชนทุกคนเป็นคนไม่ดี ต้องมีคนมารับรองว่าเป็นคนดี)
ไหนจะต้องแสดงหลักทรัพย์ว่ามีเยอะเป็นคนรวย (ถ้าเป็นคนจนไม่มีสิทธิ์ป้องกันตัว ป้องกันทรัพย์สิน)
ไหนจะไม่อนุญาติขนาด .45, .357 ให้ประชาชนธรรมดา อนุญาติเฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น (ท่องยังกับบทสวดก่อนนอน)
ถ้าไม่อยากเจอปัญหาดังว่าก็เล่นทางด่วนกัน ขนาด 9,22,.38 3k ขนาด .45 .357 10k ซึ่งในทุกวันนี้ก็ยังคงมีอยู่ทั่วประเทศไทย
แม้ว่าในเวปบอร์ดแห่งนี้ ผู้การสุพินท์ และผู้หลักผู้ใหญ่ในเวบบอร์ดหลาย ๆ ท่านแห่งนี้ได้พยายามเปิดเผยหลักการทางกฏหมาย วิธีการต่อสู้ให้ได้มาเพื่อสิทธิ์ของประชาชนที่ถูก และไม่สนับสนุนการใช้ทางด่วน
แต่ว่าสมาชิกหลาย ๆ ท่านที่รู้กฏหมายในจุดนี้ดีก็ยังต้องจ่ายทางด่วนเพื่อตัดปัญหาความชักช้า การยึกยักของเจ้าหน้าที่โดยมีจุดประสงค์แฝง

แต่พอโครงการปืนสวัสดิการราชการแค่ลงชื่อไว้
(บางหน่วยงานต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้านาย)ผู้จัดทำโครงการไปขออณุญาติ มท.1 ซึ่งก็ผ่านได้ไม่ยาก
เมื่อนำเข้าปืนมาแล้วแล้วก็อนุญาติให้ผู้ที่ลงชื่อไปขอใบ ป3. ได้อย่างไม่ยากเย็นให้วุ่นวายใจ นี่คือเรื่องที่ผมรู้สึกว่าไม่แฟร์ครับ

สงสัยเค้าตีความว่า "คนจนคงไม่มีทรัพย์สินให้ป้องกัน" เลยขอยากกว่าคนมีตังค์

  เห็นคนที่มีสิทธิซื้อปืนโครงการ พอได้ปืนมา ก็เอามาโชว์
  ไอ้เราซื้อได้แต่ปืนราคาตลาดได้ยินแล้วงง ทำไม่ของเรามันถึงแพงจัง
   ทังที่ตอนซื้อก็คิดว่าถูกที่สุดที่หาได้แล้ว อารมณ์มันยังไงไม่รู้
   เคยไหมครับที่เวลาคุณซื้ออะไรมาแล้ว มีคนมาเกทับ ว่าเขาซื้อได้ถูกกว่า
   ดีกว่าด้วย แล้วคุณก็ทำอะไรไม่ได้  :~) :~)

             เรียนผู้การ ผมว่าเห็นด้วยสำหรับข้าราชการที่รายได้น้อยจริงครับ พ่อผมเป็นตัวอย่าง ยังมีข้าราชการชั้นผู้น้อยอีกเยอะทีอยู่ห่างไกลยังไม่มีเงินมาซื้อ เจตนาขอให้แก่ชั้นผู้น้อยมากๆด้วยยิ่งดี อย่าให้มีการเอาเปรียบข้าราชการชั้นผู้น้อยเลย มันน้อยจริงๆ ครับ  ผมพอจะซื้อได้ตามกำลังทรัพย์ที่หาได้ ถ้าไม่ชอบก็ไม่เล่นครับผม มันแพงจริง ๆ ครับ

ทำไมถึงคิดตื้น ๆ แค่นั้นละครับ
ปืนสวัสดิการมีต้นทุนสูงกว่าปืนร้าน (ปืนสวัสดิการเสียภาษีเต็มตามราคาในโบรชัวร์ + เงินใต้โต๊ะ)  แต่กลับมีราคาถูกกว่าปืนร้าน แบบครึ่งต่อครึ่ง
เหตุผลก็คือ ปืนสวัสดิการมีดีมานด์เท่ากับซัพพลาย  สั่งมาตามที่สั่งจองไว้   ส่วนปืนร้านซัพพลายต่ำกว่าดีมานด์  ผู้ขายจึงขึ้นราคาไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ผู้ที่มีความต้องการสินค้าจริง ๆ เท่านั้น ที่มีโอกาสซื้อสินค้าได้

ถ้าปืนร้านมีซัพพลายเท่ากับดีมานด์  คนซื้อไม่ต้องแย่งกันซื้อ  ราคาก็จะถูกกว่าปืนสวัสดิการเสียอีก

ในฐานะผมเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่งมาจากครอบครัวข้าราชการไล่มาตั้งแต่ปู่ทวด ยันพ่อ ก็รับราชการหรือไม่ก็เป็นคนของรัฐ  รายได้ก็น้อย ไม่เคยร่ำรวย แค่มีกินไม่อดไม่ยาก ตอนผมรับราชการก็ไม่มีใครเอาปืนมาจี้หัวหรือบังคับขู่ให้รับราชการ แต่รัฐก็ให้สวัสดิการในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อชีวิตสำหรับข้าราชการรายได้น้อยอย่างผม แต่อยู่ดี ๆ ก็มีคนส่งเอกสารมาเชิญชวนให้ซื้อปืนสวัสดิการ ผมก็ยัง งง ว่าคนในหน่วยงานผมมีหน้าที่จะต้องใช้อาวุธปืนในเรื่องใด จะไปจับโจร หรือยิงกับศัตรูของชาติที่ไหนก็ไม่ใช้................แล้วทำมั้ยถึงมาให้สวัสดิการกับผม.....รำพึงคิดในใจ...อ๋อ ๆ ก็ผมเป็นข้าราชการนี่เป็นชนชั้นราชการควรมีปืนไว้ป้องกันตัวจากโจรผู้ร้าย ปืนนี่ราคาถูกกว่าท้องตลาดประชาชนไม่มีสิทธิซื้อ.....อื่ม ดีจริง ๆ เรามีอภิสิทธิเหนื่อชาวบ้าน แต่เอ๋แล้วทำมัยละชาวบ้านถ้าเขาจะป้องกันตัวทำมัยต้องซื้อปืนแพง ๆ ไม่เห็นมีสวัสดิการให้กับชาวบ้านบ้าง................อ้าวก็ชาวบ้านก็คือชาวบ้านมันจะมีสิทธิอะไรเท่าเทียมข้าราชการอย่างเราละ.........เออจริง.....เอ๋แต่ก่อนที่เราจะรับราชการเราก็ประชาชนคนหนึ่ง การรับราชการก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีสิทธิเหนื่อประชาชน......พอ60 เราก็ไม่ได้รับราชการแล้วสิ แสดงว่าก่อนหน้าที่เราจะรับราชการก็ไม่ควรมีสิทธิที่จะแสวงหาอาวุธปืนมาใช้ป้องกันตัว พอ60 แล้วเราก็แค่ประชาชนก็ไม่มีสิทธิที่จะมีอาวุธใช้ป้องกันตัว อ้าวแล้วลูก แล้วหลานเราละ ถ้าเราไม่รับราชการก็ต้องมีเงินแยะ ๆ ถึงจะมีสิทธิป้องกันตัว.....ดีนะที่เรารับราชการ...........รำพึงไปก็พิมพ์ไปให้คนเขาร่ำคาญเล่น ครับ  :D

 ;Dน่าจะมีโครงการปืน สวัสดิการคน ยากจนด้วยครับ :D~

ถ้าจะห้ามประชาชนให้มีปืนที่ถูกต้อง ควรที่จะปราบปืนเถื่อนให้หมดก่อนนะครับ มิงั้นพอเราโดนปลดปืน โจรถือปืนเถื่อนเข้าบ้านเราจะแย่ แค่ปัจจุบันอนุญาตให้มีได้แต่พอมีเหตุยิงกันจริงก็ยังยาว  :~)

ไหนจะทำสำนวน ไหนจะฟ้องศาล ไหนจะเรียกสืบพยาน ไม่ต้องทำมาหากินกันพอดี

         

        ที่ต้องเรียนท่าน เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งพ่อคือข้าราชการที่ต้องไปเป็นหัวหน้าหน่วยเลือกตั้งในชุมชนแออัด ก็มักจะมีปัญหาบ่อย ตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่งไปรับอุปกรณ์ในการเลือกตั้งให้ถึงหน่วยก่อนหกโมงครึ่ง ให้ทันเลือกแปดโมงเช้า มันมีเบี้ยเลี้ยงแต่น้อยนิดทำกันตามหน้าที่ซะมากกว่า พ่อเลยต้องมีปืน พร้อมขอทำ ใบป .12 ได้ด้วย แต่มันก็แพงเกินเงินเดือน ปืน 8,000 บาท เงินเดือน 750 บาท  เหล้าขวดละสิบสองบาท มันเป็นความทรงจำที่ไม่ดีเลย ผมเลยไม่คิดรับราชการต่อ ญาติลุงป้าน้าอาเป็นข้าราชการทุกเหล่า พลเรือนก็ฝ่ายหมาดไทย ผมเลยขอเป็นพลเรือนเต็มขั้นครับ เห็นใจผู้น้อยครับ เขามีปํญหากันหลากหลายถ้าแก้ไขได้ผมจะขอช่วย เพราะถือว่าเป็นส่วนฐานล่างของเจดีย์ครับ มิฉะนั้นมันจะล้มครืนลงมาครับ  เรียนมาด้วยความเคารพ

           ถ้า.......บ้านเมืองสงบเรียบร้อยไม่มีผู้ร้ายไม่มีโจรซักคน ประชาชนไม่ต้องมีปืน ให้ส่งปืนคืนรัฐ (ยึด)  ถามว่าจะมีคนเอาปืนไปคืนมั๊ย  คำตอบก็คง  "ไม่"  เพราะคนที่ซื้อปืนส่วนใหญ่นั้นก็เพราะความชอบ 
           ประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการมีอาวุธปืน  แต่ก่อนผมไม่มีสิทธิ์ซื้อเลยเพราะราคาแพง ตอนที่ทำงานใหม่ๆ ปืนไม่เกิน 3 หมื่อ แต่ผมเงินเดือน 3พัน  ปืนสวัสดการาคาถูกแต่จัดให้สำหรับตำรวจ ทหาร ต่อมาก็มีสวัสดิการของฝ่ายปกครอง ผมเห็นแล้วได้อต่น้ำลายหกและได้แต่ซื้อหนังสืออาวุธุปืนมาอ่านมาศึกษา  มาช่วง 2 ข้าราชการทุกหน่วยสามารถซื้อปืนสวัสดิการได้ ก็นับว่าเป็นการดีสำหรับข้าราชการที่มีใจรักและชอบปืน   สรุปแล้วโครงการปืนสวัสดิการฯ นี่ ดีมากๆเลยครับ  ;)  ;)  ;)   และก็ไม่เห็นด้วยถ้าหากว่ามีการ ยกเลิกการนำเข้าอาวุธปืนสำหรับการขายให้บุคคลธรรมดา

***** ถ้าเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปขออนุญาตซื้ออาวุธปืนได้ง่ายๆ ก็คงมีการซื้อกันจำนวนมากๆสั่งจองมากๆ แบบนี้ราคาปืนในท้องตลาดจะเท่ากับปืนสวัสดิการมั๊ยครับ 

ถ้าสั่งซื้อปืนทั้งหมดเป็นโครงการ แล้วให้ราชการและประชาชนทั่วไปซื้อจากรัฐฯโดยตรง โดยไม่แบ่งว่าราชการหรือประชาชนทั่วไป  ก็น่าจะดี  จะได้ลดช่องว่างระหว่างราชการ กับประชาชน ว่าใครซื้อปืนถูกกว่ากัน ทั้งที่ร้านกับโครงการสั่งนำเข้าจากบริษัทเดียวกัน

ที่ต้องเรียนท่าน เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งพ่อคือข้าราชการที่ต้องไปเป็นหัวหน้าหน่วยเลือกตั้งในชุมชนแออัด ก็มักจะมีปัญหาบ่อย ตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่งไปรับอุปกรณ์ในการเลือกตั้งให้ถึงหน่วยก่อนหกโมงครึ่ง ให้ทันเลือกแปดโมงเช้า มันมีเบี้ยเลี้ยงแต่น้อยนิดทำกันตามหน้าที่ซะมากกว่า พ่อเลยต้องมีปืน พร้อมขอทำ ใบป .12 ได้ด้วย แต่มันก็แพงเกินเงินเดือน ปืน 8,000 บาท เงินเดือน 750 บาท เหล้าขวดละสิบสองบาท มันเป็นความทรงจำที่ไม่ดีเลย ผมเลยไม่คิดรับราชการต่อ ญาติลุงป้าน้าอาเป็นข้าราชการทุกเหล่า พลเรือนก็ฝ่ายหมาดไทย ผมเลยขอเป็นพลเรือนเต็มขั้นครับ เห็นใจผู้น้อยครับ เขามีปํญหากันหลากหลายถ้าแก้ไขได้ผมจะขอช่วย เพราะถือว่าเป็นส่วนฐานล่างของเจดีย์ครับ มิฉะนั้นมันจะล้มครืนลงมาครับ เรียนมาด้วยความเคารพ

ดึกแล้ว เข้าบ้านกินนมนอนได้แล้วไอ้หนู ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน

           ถ้า.......บ้านเมืองสงบเรียบร้อยไม่มีผู้ร้ายไม่มีโจรซักคน ประชาชนไม่ต้องมีปืน ให้ส่งปืนคืนรัฐ (ยึด)  ถามว่าจะมีคนเอาปืนไปคืนมั๊ย  คำตอบก็คง  "ไม่"  เพราะคนที่ซื้อปืนส่วนใหญ่นั้นก็เพราะความชอบ 
           ประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการมีอาวุธปืน  แต่ก่อนผมไม่มีสิทธิ์ซื้อเลยเพราะราคาแพง ตอนที่ทำงานใหม่ๆ ปืนไม่เกิน 3 หมื่อ แต่ผมเงินเดือน 3พัน  ปืนสวัสดการาคาถูกแต่จัดให้สำหรับตำรวจ ทหาร ต่อมาก็มีสวัสดิการของฝ่ายปกครอง ผมเห็นแล้วได้อต่น้ำลายหกและได้แต่ซื้อหนังสืออาวุธุปืนมาอ่านมาศึกษา  มาช่วง 2 ข้าราชการทุกหน่วยสามารถซื้อปืนสวัสดิการได้ ก็นับว่าเป็นการดีสำหรับข้าราชการที่มีใจรักและชอบปืน   สรุปแล้วโครงการปืนสวัสดิการฯ นี่ ดีมากๆเลยครับ  ;)  ;)  ;)   และก็ไม่เห็นด้วยถ้าหากว่ามีการ ยกเลิกการนำเข้าอาวุธปืนสำหรับการขายให้บุคคลธรรมดา

***** ถ้าเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปขออนุญาตซื้ออาวุธปืนได้ง่ายๆ ก็คงมีการซื้อกันจำนวนมากๆสั่งจองมากๆ แบบนี้ราคาปืนในท้องตลาดจะเท่ากับปืนสวัสดิการมั๊ยครับ 

ตอนนี้คนธรรมดาก็ซื้อปืนไม่ได้อยู่แล้วครับ ต้องคนรวยเท่านั้น

 ;D ;D ;D  ถูกต้องครับ แพงจริงๆ ถ้าไม่ชอบจริงๆก็ไม่ซื้อหรอก

           
        Newบี้ มาใหม่ เกรงใจเจ้าบ้านท่านบ้าง ประเทศไทยก็เป็นของผมเหมือนกัน ไม่ใช่ของท่านคนเดียว เราเป็นนายคำพูด ไม่ใช่คำพูดเป็นนายเรา ....ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาญ อดทน สามัคคี .....กันไว้บ้างนะครับ

  นั่นสิครับเห็นมีแบบนี้บ่อย  ดูเหมือนกับว่ามีการซุ่มโจมตีข้าศึกยังไงไม่รู้

เฮ้อ....ผมบุคคลธรรมดาครับ..

สมัยนั้นท่านซื้อปืนอะไรมาใช้ครับ 

 ;Dขอเเจ้ง RO ครับ มีการซุ้มโจมตีกันเกิดขึ้นครับ :~) :<<

เข้ามาอ่านดูครับ.เห็นกระทู้.ลอย.อยู่ไม่ตก.. ;D

 :OOสมัยโน้น พ่อผมเป็นครูชั้นจัตวา เงินเดือน 6-700 บาท ...ซื้อM10 กระบอกละ สองพันกว่าบาท... ปืนที่ราคาสูงกว่าเงินเดือน 10 เท่าต้องเป็นปืนดีแน่ๆครับ....

ผมว่าเป็นแค่นโยบายหาเสียงที่ผิดพลาดของรัฐบาลเก่า คงลืมนับจำนวนปืน และลืมทำความรู้จักกับคนที่มีปืน  ;D
   

  พ.ศ. 2510
- ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำ ขนาด 12 ของวินเชสเตอร์  ราคา 790 บาท ( ร้านปืนสี่พระยา )
- ปืนไรเฟิล .375 H&H ของวินเชสเตอร์อีกเหมือนกัน ราคาไม่เกิน4พัน ( น่าจะต่ำกว่านั้นบ้าง ) , ( ร้านปืนทรงชัย ถ้าจำไม่ผิด )
- ปืนสั้นลูกโม่ขนาด.38 ของS&W ราคาประมาณ2พันต้นๆ

ถ้าพ่อผมไม่โกหกนะ  ;D


*****************************************

     คุณพ่อผมชอบเดินป่า เคยไปเจอกลุ่มของนายห้างฯปืนห้างหนึ่งชื่อคุณ มัด ( มั้งไม่รู้ว่าเขียนถูกหรือเปล่า  ทักทายกันตามประสา )

ตอนนี้คุณพ่อผมอายุ 77 ปี ( มั้ง )  แต่ยังห้าวอยู่ >:(

พ่อพี่เป้าได้เงินเดือนแยะกว่าพ่อ-แม่ผมอีก พ่อ-แม่ ผมแค่ชั้นสามัญ เงินเดือนท่านเล่าให้ฟังว่าซื้อทองได้ 1 บาทสมัยโน้น ก็ประมาณ 400 มั่งครับ แม่ซื้อสมิธฯ .22 มาไม่กี่พัน ส่วนพ่อเน้นกินเหล้า........เลยต้องใช้ปืนปู่ทวด....นายอำเภอท่านเมตาเลยเอาคาบิน .30 ให้ใช้ ส่วนสมัยปู่ผมนายเอ็ดดูหนักกว่าพ่อ เพราะพ่อเล่าให้ฟังว่าปู่แบกพระราม 6 เข้าบ้าน :D
ปล.ผมกับพี่เป้าถ้าจะเข้าข่าย สูงวัยเพราะเริ่มเล่าความหลังกันแล้ว 555+ ;D

 ;D555 ถ้านคุณพ่อของท่านโกหก ก็ แสดงว่าพ่อผมก็โกหกด้วยครับ....และถ้าหากท่านโกหก ก็ แสดงว่า มุก บอกราคาปืนต่ำกว่าความเป็นจริง แก่ภรรยา อย่างที่เราๆหลายท่าน กระทำอยู่....มีมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ;D ;D ;D


 ;Dครูบ้านนอกในสมัยก่อน .ถึงวันเงินเดือนออก ต้องเบิกคาร์บิน+กระสุน  นั่งยีเอ็มซีกลางของ อ.ส. หรือดอร์จตราโล่ห์ ของตำรวจ พร้อมกับตัวแทนข้าราชการส่วนอื่นๆของอำเภอ ไปรับเงินเดือนที่จังหวัด...ขากลับเข้า ร.ร.  ครูใหญ่ขี่จักรยานสะพายกระเป๋าเงิน ครูน้อยนั่งซ้อนท้ายถือคาร์บิน คุ้มกัน...คุณพ่อท่านซีอุสกับพ่อผม คงวัยใกล้เคียงกันครับ ;D ;D ;D

 ;Dพากระทู้กลายพันธุ์ เป็นกระทู้เล่าความหลังไปซะแล้ว....ขออภัยท่าน จขกท.ด้วยครับ... ;D