เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ขอสอบถามครับคือ..สงสัยเรื่อง ปลย. 66 ถึง ปลย. 88 ครับ  เคยอ่านคู่มือ นศท .บอกไว้ว่า ปืน ปลย 88 เมื่อยิงหมดแหนบ 8 นัด ( รึเปล่า ไม่แน่ใจครับ ) ตัวแหนบที่บรรจุกระสุนจะดีดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ  อยากทราบว่าใช้ระบบใดทำงาน ( ดีดออกมา ) ครับ ??? ???

ปลยบ.88    เวลาคุณบรรจุกระสุนต้องใช้สันมือกดคั้นรั้งลูกเลื่อนไว้  แล้วจึงออกแรงกดแหนบกระสุนลงไปใช่ไหมครับ   เมื่อกระสุนหมดลูกเลื่อนเปิดค้าง    กระเดื่องตัวเดียวกันนี้แหละครับทำหน้าที่ดีดแหนบกระสุนเปล่าออก    แหมอธิบายยากเหมือนกัน    ชักจะลืมๆ  แต่ที่จำได้แม่น   ก็ระบบแบบนี้แหละครับ    ลูกเลื่อนหนีบนิ้วแม่มือผมเลือดโชกมาแล้วครับ   ตอนฝึกใหม่ ๆ   :<<

ขอบคุณครับ แล้ว ปลย 66 ล่ะครับ จะเหมือนกันเปล่าครับ ???

เรื่องนี้คงต้องอธิบายยาวหน่อยครับ........

ปลยบ.66 บรรจุกะสุน 5 นัด โดยใช้แหนบกระสุน เสียบเข้าที่ช่องหน้าลูกเลื่อน แล้วกดพรืดลงไป กระสุนจะเข้าไปอัดตัวอยู่ในแหนบกระสุน(เหมือนกับแหนบปืนไรเฟิลล่าสัตว์ทั่วๆไปในปัจจุบัน)..............ดึงแหนบเปล่าออก แล้วปิดลูกเลื่อน.....

ส่วน ปลยบ.88 เป็น ปืนเล็กยาวที่ยิงระบบกึ่งอัตโนมัติ(se-mi auto).............บรรจุกระสุนด้วยแหนบกระสุน 8 นัด(เรียงสองแถวๆละ 4 นัด).............ระบบการป้อนกระสุนของ 88 จริงๆแล้วเหมือนกับระบบป้อนกระสุนของปืนแม๊กกาซีนทั่วๆไปนั่นเองครับ...........แต่ที่อยู่ของระบบอยู่ต่างที่กัน..............(ไม่ทราบว่าผมจะอธิบายเคลียหรือไม่  ต้องลองดูครับ)

เรามาทบทวนระบบป้อนกระสุนปืนของปืนออโตที่ใช้แม๊กก่อน..........เช่น ปืนM16 ขอให้ทบทวนชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องดังนี้นะครับ..........ตัวปืน จะมีช่องเสียบแม๊กและปุ่มปลดแม๊ก.............ตัวแม๊กจะประกอบด้วย ตัวแม๊ก+ลิ้นดันกระสุน+แหนบ(สปริง)+ตัวปิดก้นแม๊ก(ผมพยายามใช้ศัพท์ชาวบ้านนะครับ ;D)...........เวลาเราโหลดกระสุน ก็ยัดกระสุนลงในแม๊ก ..........แล้วเสียบแม๊กเข้าที่ช่องเสียบแม๊ก ให้ปุ่มปลดแม๊กล็อคแม๊กไว้ ..............จากนั้นก็ปิดลูกเลื่อน ปืนจะบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิง (นึกภาพออกไหมครับ ปืนสั้นออโตก็แบบนี้)................

ทีนี้มาดูปืน ปลยบ.88.............ซึ่งจริงๆแล้วก็ป้อนกระสุนเหมือนกัน ..........แต่ชิ้นส่วนอยู่ต่างที่กัน.........คือ ตัวแหนบหรือคลิบหนีบกระสุน8นัด นั่นคือ ตัวถังแม๊ก(ที่คีบกระสุนไว้)...................ที่ตัวปืน ช่องเสียบแม๊กใน M16 ก็คือช่องยัดลูกหน้าลูกเลื่อนของ 88 ซึ่ง88 ใส่ลูกข้างบน(M16ยัดแมีกจากข้างล่าง)......................ลิ้นแม๊กดันกระสุนและแหนบดันลิ้นกระสุนซึ่งใน M16 อยู่ในแม๊กแต่ละแม๊ก แต่ 88 ลิ้นดันกระสุนและแหนบดันลิ้น อยู่ในช่องยัดกระสุนซึ่งเป็นชิ้นส่วนของปืนเอง ปุ่มปลดแม๊กก็ทำหน้าที่ล็อคแหนบเหมือนกับตัวล็อคแม๊กของM16 ..........และทำหน้าที่ปลดแหนบให้เด้งออกมาเมื่อยิงนัดสุดท้ายหมด(ลูกเลื่อนค้าง).......ซึ่งในM16 ยิงหมดลูกเลื่อนค้าง คนยิงต้องใช้กดปุ่มปลดแม๊กเอง..........

เวลา ปลยบ.88 บรรจุการทำงานเปรียบเทียบกันแบบนี้ครับ.......

       ปลยบ.88                                                                          M16
-เปิดลูกเลื่อนค้าง                                                                       -เปิดลูกเลื่อนค้าง
-ยัดกระสุนลงด้วยแหนบ                                                               -เสียบแม๊กเข้าช่องเสียบแม๊ก
-เมื่อยัดแหนบกระสุนลงจนสุด ตัวแหนบจะไปกดสลักล็อคให้ยึดแหนบไว้   -ปุ่มปลดแม๊กล็อคแม๊กไว้เมื่อเสียบแม๊กเข้าสุด
-ปิดลูกเลื่อนป้อนกระสุน                                                               -ปิดลูกเลื่อนป้อนกระสุน
-ยิงนัดแรก ปืนทำงาน                                                                   -ยิงนัดแรก ปืนทำงาน
-ลิ้นดันกระสุนในปืน ดันกระสุนใหม่เลื่อนขึ้นมา แหนบโดนล็อคอยู่            -ลิ้นแม๊กดันกระสุนใหม่ขึ้นมา
-ปืนป้อนกระสุนนัดใหม่                                                                  -ปืนป้อนกระสุนนัดใหม่
-ยิงหมด ลูกเลื่อนค้าง                                                                    -ยิงหมดลูกเลื่อนค้าง
-ลิ้นดันกระสุนดันขึ้นจนสุด ปลดสลักล็อคแหนบ                                   -ลูกเลื่อนค้างเหมือนดิม
-แหนบเปล่าๆเด้งขึ้นมาพร้อมๆกับปลอกนัดสุดท้าย                               -ผู้ยิงกดปุ่มปลดแม๊กเปล่าออกเอง


ไม่ทราบว่าผมอธิบายพอมองภาพออกไหม?

สรุป ปลยบ.88 กับ M16 ระบบป้อนกระสุนเหมือนกัน แต่ชิ้นส่วนที่ใช้ในการบรรจุกระสุน อยู่ต่างที่กันเท่านั้น

ผู้การพอจะมีภาพให้ดูหรือเปล่าครับ จำไม่ได้แล้วครับ ตอนฝึกว่า ปลย 88 กับ ปลย 66 เป็นรูปร่างอย่างไรครับ จำได้ตอนที่ฝึกมี คาร์บิน กับ ไรเฟิลที่หนัก ๆ มาฝึกครับ ไม่แน่ใจว่าตัวไหนเป็นตัวไหนครับ

 ;D ;Dขอถามท่านผู้การเพิ่มเติมว่า ปืนปลยบ.88 ที่นสร.ใช้ฝึก นศท.นั้นยังยิงได้หรือเปล่าครับ เพราะว่าพอดึงคันรั้งแล้วเหนี่ยวไก มันเสียงดังแชะทุกกระบอกเลยครับ ;D ;D

ดูที่นี่ครับ

http://www.chestnutridge.com/gchart.asp

 ;D ;Dขอบคุณครับท่านผู้การ สำหรับข้อมูล ;D ;D

 ;Dขอบคุณพี่มะขิ่นครับหายโง่และได้ความรู้ใหม่อีกเรืองแล้วผม ;D

เคยแบกวิ่งมาแล้ว แต่ไม่กระจ่างเท่าพี่มะขิ่นอธิบายเลย  ขอบคุณครับพี่  ;D

ผมว่าคงต้องหางานเพิ่มให้ วมต. รวบรวมเนื้อหาวิชาการของพี่มะขิ่นเป็นตำราแล้วครับ :D~

ไม่เคยยิงของจริงครับ เคยแบกตอนฝึกรด. แต่เท่าที่เล่นใน medal of hornor,call of duty,brother in arm M1 garrand มันดีดปลอกดังปิ๊งงงง ทุกทีเวลายิงหมดตับ  ;D ;D ;D

ขอบคุณครับ พี่มะขิ่น แหม แจ่มแจ้ชัดเจนมากครับ ;D ;D โดยส่วนตัวแล้วผมชอบมากๆครับ ปลย.88เนี่ย ในหนังยิงกันจนดีดแหนบกระสุนกัน พิ้งๆๆ เลยครับ ( brand of  brater   พลร่ม กองร้อย easy  wwII ) :VOV: :VOV:

 ;D ;D ;D

Band of Brothers

ว้า...ผิดอีกละ  :<><>ขอบคุณที่แก้ไขให้ครับ พี่ usp40 ( พอดีภาษาอังกฤษ ไม่แข็งแรงครับ ;D )

บ่เป็นหยั๋ง ;)

มานั่งอ่านกระทู้เก่าเลยมีข้อสงสัยเพิ่ม
ถามผู้การมะขิ่นแล้วกันนะครับ (พี่ทหารคนอื่นจะตอบก็มิมีปัญหาขอรับ)
ใน Band of Brothers น่ะเป็นพวกพลร่ม
แล้วใน Saving Private Ryan นี่พวกของผู้กอง ทอม แฮงค์ น่ะเป็นพวกไหนครับ
จำได้เลาๆว่าพ่อ Ryan ที่ถูกช่วยเหลือนี่ก็เป็นพลร่มที่ต้องโดดเครื่องบินลงมา (น่าจะเป็นพวกเดียวกับที่อยู่ใน Band of Brothers)
ทหารของผู้กอง ทอม แฮงค์ นี่เขาแต่งเครื่องแบบไม่เหมือน Ryan แถมยังขึ้นมาจากรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกตอนบุกที่หาดโอมาฮา มิใช่มาจากเครื่องบิน
อ้อถามเพิ่มอีกข้อ พวกพลร่มของอเมริกันนี่สังกัดกองทัพอะไรครับ (บก หรือ อากาศ)

พวกกองร้อย Easy เป็น กองร้อย E ในกองพันทหารราบส่งทางอากาศกองพันหนึ่ง(ผมจำนามหน่วยไม่ได้).................อยู่ในกรมทหารราบส่งทางอากาศ สังกัด "กองพลทหารราบส่งทางอากาศที่101"ครับ สัญญาลักษณ์ เป็นหัวนกอินทรีคำราม Screming Eagle...............

กองพลประเภทนี้ ดั้งเดิมเป็นกองพลทหารราบส่งทางอากาศของ เมกา ซึ่งมีอยู่ 2 กองพล (ปัจจุบัน ปรับเป็น กองพลทหารราบเคลื่อนย้ายทางอากาศไปแล้วซึ่งเป็นการเคลื่อนย้ายด้วย ฮ. กองพล 101 มีอัตรากำลังพลและอาวุธ หนักกว่าอีกกองพลหนึ่ง)..............ได้แก่ กองพล 101 Screming Eagle (อินทรีคำราม) และ กองพล 82 ซึ่งมีสะญญาลักษณ์เป็น ตัว A สองตัว คือ  All American ..................
เป็นกองพลของทหารบกครับ
ในภาพยนต์จะเห็นว่า ตอนที่พวก 101 โดดร่มลงมา ปนเปกับพวก 82 .............

ส่วนผู้กองมิลเลอร์ ถ้าจำไม่ผิด อยู่ กองพลทหารราบที่ 27 Renger ครับ.................ทุกคนในกองพลนี้ ต้องเป็น Ranger ทุกคน...............ไปตายที่โอมาฮาบีชเยอะ(ฝึกมาแทบตาย มาตายกันง่ายที่นี่).....................

การแต่งกาย ของทหารราบพลร่ม จะใส่ชุดสีกากี เสื้อปล่อยชายมีกระเป๋าสี่ใบ แบบชุดเวสมอแลนด์ ไม่มีสนับแข้งที่ทหารไทยใส่กับเขาด้วย.....................ส่วน Ranger หรือทหารราบทั่วๆไป ใส่กางเกงสี กากีแดป เสื้อเขียว บางทีก็มีเสื้อเอวจั๊มสีกากีด้วย................แล้วสวมสนับแข้งด้วย

การยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี เป็นการยุทธ แบบยุทธบรรจบ................ระหว่างกำลังในทะเลที่ต้องสถาปนาหัวหาดให้ได้................และกำลังที่ลงมาทางอากาศต้องลงมาแล้ว บรรจบกำลังเข้าหากัน..................แต่การปฏิบัติครั้งนั้น ประสบอุปสรรคมากมาย...............ซึ่งการวางแผนจริงๆการยึดหัวหาดเพื่อให้กำลังในทะเลส่วนใหญ่ ขึ้นแผ่นดินฝรั่งเศสได้นั้น ถือว่าสำเร็จแล้ว ในการสถาปนากำลังฝ่ายสัมพันธมิตรขึ้นมาได้ ในฝรั่งเศสซึ่งถูกยึดครองโดยเยอรมันมานานร่วมๆ4ปี(หลังจากที่ตีอังกฤษตกทะเล ที่ดันเคริกส์)...........

 ;D เพิ่งงัด Saving Private Ryan มาดูเมื่อวันก่อน ว่าแล้วเดี๋ยวงัด Band of Brothers มาดูอีกรอบดีกว่า ;D

  :D :Dขออนุญาตสอบถามท่านผู้การมะขิ่นหน่อยครับ ว่าเจ้าสนับแข้งของทหารอเมริกัน เขาใส่ไว้ทำไมครับหรือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ เพราะผมดูแล้วว่ากว่าจะใส่เสร็จคงช้ามากๆครับ :D :D

เรื่องนี้ผมจำไม่ได้ครับ..................เพราะรุ่นผมไม่ใส่กันแล้ว

ทราบแต่ว่ารองเท้าทหารแบบเก่าจะเป็นแบบหุ้มข้อ เลยมีสนับแข้งไว้กันหน้าแข้งกระแทกของแข็งอีกชั้นหนึ่ง

 ;D ;Dขอบพระคุณมากครับ ;D ;D

Easy Company  >2 nd Battallion ( กองพันที่2) > 506th PIR ( Parachute Infantry Regiment) กรมทหารราบส่งกำลังทางอากาศที่ 506 กองพลทหารพลร่ม 101 

แท้งกิ้วหลายเด้อ ;)

พวกสนับแข้ง พันแข้งนี่เคยได้ยินว่าเขาเอาไว้กับเตะลวดหนามซึ่งพาลจะทำให้ติดเชื้อตายครับ เริ่มนิยมกันสมัย WWI ซึ่งเป็นสงครามสนามเพลาะใช้ลวดหนามมาก สมัยนั้นไม่มียาแอนตี้ไบโอติกพวกเพนนิซิลิน

ที่จริงสมัยนั้นเขาไม่ได้ขึงลวดหนามแค่เข่า แต่ขึงกันเป็นป่าท่วมหัวเลย บางทีทึบแบบแสงลอดไม่ได้ ไม่รู้จะกลัวแค่แข้งถลอกไปทำไม คงเป็นแฟชั่นด้วยแหละครับ

กลุ่มบุคคลที่รวมตัวกัน อนุรักษ์ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับ พลร่ม 101 Airborne และ 82 nd Airborne Divsion จะมีการโดดร่มโชว์ตามงาน Air Show โดยโดดจากเครื่อง C47 และแต่งเครื่องแบบเหมือนในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง WWII  AIRBONRE DEMOSTRATION TEAM http://www.mlecmilitaria.com/  http://www.mlecmilitaria.com/ADTPhotos2.htm

ผมได้มีโอกาศโดดร่วมกับ Trooper Bob Patrick เมื่อปีที่แล้วที่เมืองไทย แกเสียชีวิตไปซะแล้ว ยังนึกว่าจะได้โดดกับแกอีกปีนี้  :-\
http://www.mlecmilitaria.com/our_friend_____bob_patrick.htm

 :)ขอบพระคุณท่านผู้การมะขิ่นและคุณพี่ USP40 ครับ :)
เวลาดูหนังสงครามแล้วอยากเป็นทหารเพราะเครื่องแบบสวยดีครับ (แต่พอเห็นฉากยิงกันก็หวาดเสียวสุดๆ)
เคยมีงานเลี้ยงปีใหม่จัดที่โรงแรมโดยบริษัทที่ทำงานอยู่แล้วมีการแต่งแฟนซีกัน
ก็เคยนึกจะแต่งแบบ Saving Private Ryan เป็นพวกทหารของผู้กองมิลเลอร์
เรื่องเครื่องแบบ/ หมวกเหล็ก หรือรองเท้ายังคิดว่าพอหาได้จากอินเตอร์เนต (ใช้ซื้อเอาจากนักสะสมต่างชาติ)
แต่พอนึกถึงเรื่องปืน ก็ถอดใจครับ
เพราะถึงจะมีคนขาย ปลย. 88 ทางอินเตอร์เน็ต ผมก็สั่งเข้ามาไม่ได้อยู่ดี
เลยเลี่ยงไปแต่งเป็นหน่วยนเรศวร 261 แทน (หน่วยที่ช่วยตัวประกันผู้คุมเรือนจำเมื่อหลายปีก่อน)
แต่งชุดดำใส่เสื้อเกราะมีหมวกไหมพรมไอ้โม่ง
ส่วนปืนก็ใช้ปืนลมของเล่นพลาสติกแบบ M16 ตัดสั้น (ของที่หน่วยใช้จริงๆผมรู้ว่าไม่ใช่เอ็ม 16 แต่ยังพอแก้ขัดไปได้)
เอาไฟฉายติดเทปดำพันตรงปากกระบอกปืน
แหมด้วยสายตาของคนที่ไม่ใช่ทหารตำรวจหรือคนที่ใฝ่ใจเรื่องคอมมานโดอย่างพนักงานที่บริษัทหรือแขกโรงแรมบางคน เขานึกว่าผมเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษจริงๆ
แขกเดินหนีกันไปดูห่างๆ  คงนึกว่าที่โรงแรมมีเรื่องราวกันอยู่และตำรวจคอมมานโดกำลังเข้ามาเคลียร์ ฮิฮิ ;D

ขอบคุณมากครับพี่ USP40 รูปเด็ดๆ เพียบเลย

สมัยก่อนเขาแต่งชุดหรูออกไปรบเลยครับ ภาพนี้เป็นทหารม้าเบา (ไม่ใส่เกราะ) ฝรั่งเศสยุคนโปเลียน (1769-1821)  บางท่านคงเคยอ่านเรื่อง “เอเตียน เชรา ทหารเอกนโปเลียน” ที่เป็นนิยายผจญภัยแปลจากนิยายของ เซอร์ อาเธอร์ โคแนน ดอยด์ คนที่เขียน เชอร์ลอก โฮล์ม ฉบับพิมพ์ภาษาไทยปกอ่อนที่ผมมีเป็นภาพครึ่งตัวฝรั่งใส่เกราะเคราแหลม ที่จริงเป็นภาพ King Charles ที่ 5 ครับ คนละยุคคนละเรื่องกันเลยเก่ากว่ายุคนโปเลียนซัก 200 ปี นายเอเตียนตัวจริงต้องเป็นแบบในภาพนี้

แต่ความจริงคือทหารไปรบนั้นแสนลำเค็ญ เสี่ยงตาย พิการ อดนอน อาหารการกินขาดแคลนจนย่ำแย่ ภาพเขียนหรูๆ อัศวินเกราะวาววับนั้นที่จริงสภาพโทรม ในสงครามครูเสดช่วงหนึ่ง ฝรั่งตีเมือง Merra แตก ช่วงนั้นอาหารขาดแคลนจะอดตายกันทั้งกองทัพจนต้องฆ่าเชลยกินเนื้อคนกันเป็นมหกรรม มีหลักฐานจดหมายของแม่ทัพคนนึงเขียนไปรายงานโป๊ปด้วย เรื่องอดน้ำจนต้องกรีดเลือดม้าดื่ม หรือดื่มปัสสาวะของตัวนี่ธรรมดาๆ

สมัยใหม่ก็ลำบากพอกันครับ มีหนังสือรูปภาพประวัติศาสตร์สำหรับเด็กเป็นของอังกฤษแปลมาน่าอ่าน ชุดประวัติศาสตร์ โหด มัน ฮา ตอน “สงครามโลกครั้งที่หนึ่งน่าสะพรึงกลัว” และ “สงครามโลกครั้งที่สองสยองขวัญ” เท่าที่เห็นก็ที่ คิโนคูนิยะ อิเซตันชั้นบนๆ


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ดึงมาเฉยๆ ตกไปได้ไง กระทู้นี้

ข้อเพิ่มเติมดังนี้เกี่ยวกับชื่อย่อของปืนทหารไทยครับ

ปลย. 66 - ปืน เล็ก ยาว แบบ 66 คือประจำการปี 2466 ระบบลูกเลื่อนไม่ได้บรรจุเองเลยไม่มี บ.
ส่วน M1 Garand หรือ ปลยบ.88   บ. - บรรจุเอง หรือกึ่งอัตโนมัติ
ปืนที่มี บ. อีกกระบอกน่าจะ ปสบ. 87 คาร์บิน ปืนเล็กสั้นบรรจุเอง

ส่วนปืนกล ใช้ ปก. ไปเลยเช่น ปกม. ม - มือ   ปกบ. - ปืนกลเบา ปกน. ลองเดานะครับ

ปลย. 66  ปลยบ.88   เคยใช้ฝึก รด. ผมเคยในปี 2516 66 ใช้ฝึกแถวจำได้เพราะหนัก
แบกกลางแดดเป็นลมไปพร้อมๆเพื่อนซึ่งเดี๋ยวนี้กำลังลุ้นตำแหน่งเลขายูเอน

ส่วนชอบปืนก็เพราะไอ้ 88 เขาให้ฝึกยิง 5 นัด ประทับไม่ดีมันฟาดแก้มแตกเลือดไหลเลยชอบไรเฟิลนับแต่นั้นมา

ปลย. 66 ในอมริกา หาดีๆยากขอแก้ พี่สุพิน ด้วยความเคารพ 66 ฝรั่งไม่ไปทำใหม่ล่าสัตว์
เพราะไม่คล่องอย่างเมาเซอร์ 98 แท้ เขาเก็บเลย ล่าสุดขายกันที่ 300 - 500 ดอลล่าห์

ที่เขายกย่องคือปืน ปลย.45 46 หรือ 47 เอ้าเรียกกันว่าปืน รศ. ครับ

ส่วนที่เผลอลงหน้าปกว่าปืนสมัย ร.5 จริงๆ เป็น ร.6 อ้างอิงเรื่องเก่าต้องรอบคอบนะครับเด็กรุ่นหลัง
สมัยนี้เขาสนใจ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องสำคัญมาก บอกพี่ๆที่สรรพาวุธไปแล้วตอนแกมายืมปืนไปทดสอบ ก็ยังผิดจนได้
ร.6 สวรรคตปี 2468 ปืน 66 เซ็นสั่งโดยเจ้าพระยาบดิน รมต. กลาโหม ส่วนปืนพระราม 6 สั่งปี
2458 ปืนสมัย ร.5 จึงเป็น ปืน รศ. 121 หรือ 2446

แต่ดีใจมากที่พี่สุพิน ขุดของดีเมืองไทยมายิงให้ดู และควรทำให้บ่อยกว่านี้ ผมได้แต่เห็นข้อมูลฝรั่งเป็นส่วนใหญ่แล้วเศร้าใจมาก

จ่าน้อม

ปลย 66 นี่ที่เรียกว่า Siamese Mauser หรือป่าวครับ  ???

ดึงกลับครับ ดึงกลับ
ท่านจ่าน้อม ทหารหน้าครับ
ชอบชื่อมาก...มีที่มาที่ไปอย่างไรครับ
พอเล่าให้เด็กๆอย่างผมฟังได้ป่าวครับ

 :Dได้ข้อมูลดี ๆอีกแล้วครับ :D

ช่วยอ่านเนื้อเรื่องด้วยครับ
ผมไม่เคยเขียนว่าฝรั่งซื้อไปล่าสัตว์   ท่านที่เขียนข้อความนี้คือ ดร.ผณิศวร  ซึ่งท่านไปเรียน และทำงานในร้านปืนที่จอร์เจีย นานถึง 8 ปี  ได้รู้เห็น และจับปืนพวกนี้มาด้วยตัวเอง   และผมเชื่อข้อความของอาจารย์ผณิศวรครับ
ผมเคลียร์ชื่อเรื่องไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง (หน้า 75 บรรทัดที่ 7) แล้วว่า ร.5 เสด็จสวรรคตเมื่อ 23 ต.ค.2453  และที่ตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ เพราะต้องการโยงให้รู้ว่าเป็นปืนแบบเดียวกับ ปลย.45  ส่วนที่ข้อความหน้าปกเป็นแบบนั้น   ก็เป็นเรื่องสุดวิสัยจริง ๆ เพราะผมไม่มีอำนาจหน้าที่จะไปดูข้อความที่หน้าปก  และคนทำอาร์ตเวิร์คก็ไม่เคยมาถามด้วย

เวลาผมจะตำหนิผู้อื่น จะตรวจสอบข้อเท็จจริงหลายรอบ    เพราะคำพูดของเรา เมื่อออกจากปากไปแล้ว เอากลับคืนมาไม่ได้

พี่ผู้การครับ  ปลย 66 นี่ตัวไหนครับ 

เมาเซอร์ โมเดล 1923 (M1902 Improve) ผลิตโดยโรงงานโคยชิกาวา  ขนาด 8x52 มม.สยาม เมาเซอร์   เป็นปืนที่พัฒนาจาก ปลย.45 ซึ่งเป็นเมาเซอร์ M1902 ขนาด 8x50 มม.สยาม เมาเซอร์

ขอบคุณครับเคยมีเข้ามาขายที่นี่ Siamese Mauser  แต่ผมคิดว่าซื้อเมื่อไหร่ก็ได้เลยไม่ได้ซื้อ  ถ้าเจออีกจะซื้อเก็บไว้ครับ http://www.surplusrifle.com/shooting/siammauser/index.asp เมื่อปีกว่าๆมี  M1 Carbine ของไทยเข้ามาขายแต่ผมซื้อไม่ทัน >:(

เจอแล้วครับแสดงว่ายังหาได้ไม่ยาก  ;D
http://www.auctionarms.com/search/displayitem.cfm?ItemNum=6704237

จ่าน้อมเป็นตัวละครที่ผมตั้งขึ้นเอง โดยอุปมาว่าเป็นทหารอาสาตามประกาศรับสมัครของท่านจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีเพื่อให้กรมทหารหน้ามีทหารรุ่นใหม่เพียงพอที่จะฝึกทหารแบบตะวันตกและเป็นโครงสร้างของกองทัพไทยยุคใหม่ต่อไป

ปกติสมัยนั้นยังใช้ระบบเกณฑ์คนมารบในระบบเก่าคือคนเราเกิดมาก็สังกัดกรมกองต่างๆมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อมีการขึ้นบัญชีเรียกง่ายๆว่าพวกสักเลข เป็นระบบการบริหารกำลังคนของแผ่นดินทุกคนมีหน้าที่ปีหนึ่งต้องมาเข้ากรมกอง 3 เดือน - สมัย ร.5 ถ้าขี้เกียจมาก็จ่ายหรือจ้างคนมาแทนได้

ร.5 ทรงเห็นปัญหาฝรั่งจะมาเอาเมืองไทยอยู่แล้วระดมพลเรือนไปรบคงตายเรียบเพราะฝรั่งมันใช้ กม. เกณฑ์และฝึกกันเป็นระบบ ปัญหาการออก พรบ. เกณฑ์ทหารนี่เป็นเรื่องลึกซึ้งทางการเมือง ญี่ปุ่นสมัย the last samurai ก็เจอเหมือนกัน จึงใช้ระบบอาสาแก้ขัดไปก่อนโดยมีรางวัลว่าเมื่อครบวาระปลดไปไม่ต้องเป็นทาสหรือยกเว้นภาษีอาไรนี่ละ อ้อเขาเรียกว่าตราภูมิคุ้มกัน ก็มีคนอาสาหลายพัน จนเอาไปรบกับฮ่อรบแบบฝรั่งทันสมัยใช้ปืนชไนเดอร์เดินทัพจนไปปะทะทหารฝรั่งเศสที่ชายแดนเวียตนามโน่นแน่ะ

จ่าของผมเป็นคนราชบุรี คนเขตนี้เคยสังกัดตระกูลบุนนาคซึ่งท่านไม่เห็นด้วยกับระบบใหม่ จึงทรงใช้อุบายดึงคนออกมาเข้าทัพใหม่แบบนี้ ที่พอรู้เพราะตระกูลผมก็เป็นนายร้อยรุ่นท่านเจ้าพระยาและอยู่คุมคนที่ราชบุรีมานาน จนแม้ภายหลังเป็นกองทหารช่างแล้วก็ยังเคยมีปู่เป็น ผบ. พล ผมเกิดมาเจอแต่คนเมืองนี้เดินเต็มบ้าน มีนิสัยจริงใจ รักเพื่อน กล้าและอดทน เป็นทหารที่ดีได้

เดี๋ยวยาว จ่าน้อมไปเป็นไข้มาลาเรียที่เมืองลาวตอนปราบฮ่อ พอกลับมาก็ปลดออกกลับบ้านไปทำนาได้ 5 ปี พอปี 2436 ฝรั่งเศสจะเอาเรือรบบุกเข้ามา ท่านจอมพลซึ่งขณะนั้นไปเป็น รมต. เกษตรเห็นกองทัพกำลังพลยังมีไม่กี่พันเลยทูลอาสาเรียกเด็กเก่าที่ผ่านศึกมาอีก คราวนี้จ่าได้แจกปืนมานลิเคอร์ ปลย.33 ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลระบบลูกเลื่อนทันสมัยชนิดแรกของไทย คือต้นแบบกระสุนแบบ 45 สมายเมาเซอร์ 8*50มม. มาด้วย เมื่อฝรั่งเศสบุกมาจ่อปืนเรือที่ท่าราชฯจนเรื่องคลี่คลายแล้วเหล่าอาสาพวกนี้ก็ถูกลืมเพราะดันอาสามาเองไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย ท่าน รมต. เกษตร เลยเอาควายที่กระทรวงจับมาจากพวกโจรมาแจกคนละตัว วีรบุรุษของชาติได้ควายกลับบ้าน ถ้าผมเป็น รมต. กลาโหมตอนนี้จะทำอนุสาวรีย์ เป็นรูปชายจูงควายกลับด้วยสีหน้าแววตาปิติที่ช่วยรักษาเอกราชเอาไว้ได้ เพราะลูกหลานมันจะสนและซึ้งใจ การเป็นฮีโร่ไม่ต้องได้เงินทอง ไม่ต้องอัดฉีด นี่มีตัวอย่างมาแล้ว ไม่แพ้ชาวบางระจัน

ผมคงไม่ก้าวล่วงวิจารณ์ในเรื่องบทความ ปืน 66 หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Type 66 มากไปกว่านี้เพราะที่เคยเขียนบทความลงหนังสือปืนทั้งในและนอกประเทศ - เรื่องปืนชนิดนี้ดวลกับอาริซากะที่อ่าวมะนาว ประวัติโดยลึกของปืน รศ. ซึ่งผมเขียนในโอกาสที่มันมีอายุ 100 ปี และ ปลย.33 และ 66 ก็ตรวจแล้วตรวจอีกก็ยังผิดจนได้เช่นกันซึ่งรู้สึกเสียใจเสมอว่าเรามันเลินเล่อ ที่เขียนมาก็ด้วยดีใจที่มีคนสนใจมาก อยากแนะว่าน่าจะเอา ปลย. 47/66 มายิงให้ดูด้วยนะครับ เพราะปรับรังเพลิงใช่กระสุนเหมือนกัน และท่านก็ไปยืมจากที่ที่ไปเอาเจ้า 66 มานั่นแหละครับ นอกจากนี้ก็มีเจ้าอาริซากะที่ไทยเราเรียกใหม่ว่า ปลย. 83 แล้วเอามาแก้เป็นยิงกระสุน .30-06 หรือ 88 ได้อีกชนิดรีบๆเถอะครับท่านเป็นผู้มีโอกาสก่อนที่จะหายสูญไปหมด ผมเองก็อยากเห็นมานานแล้ว

ส่วนจ่าน้อมตามเรื่องได้ยินว่าไปช่วยเมียชาวลาวที่ฝรั่งเศสมันจับไปไว้ที่เวียตนามโดยจะระดมเพื่อทหารที่เก่งทางล่องหน หนังเหนียวและอาคมต่างๆที่ฝรั่งมันจะต้องงงกับ Special Force ของไทยสมัย ร.5 ครับ

อ่านแล้วก็ให้สงสัยว่าจ่าน้อมเป็นท่านไหนหว่า... ไม่อยากเดาครับ นักเขียนเรื่องประวัติศาสตร์ทหาร+ปืน ลงในหนังสือเมืองไทยมีไม่กี่ท่าน... เดากันไปก็เหมือนกับบีบให้จนตรอก... จะขาดความเป็นอิสระในการเขียนความเห็น...

เรื่องแจกควาย... และเรื่องทหารเดินนับไม้หมอนรถไฟกลับจากสมรภูมิมหาเอเชียบูรพาน่ะ นายสมชายได้ยินคุณตานายสมชายเล่าให้ฟังครับ... คุณตานายสมชายเป็นทหารเสนารักษ์ไปรบเชียงตุง... เดินกลับบ้านไม่ถึงลำลูกกาฯ... เพราะไปพบรักกับคุณยายระหว่างทาง เลยกลายเป็นคนเมืองแพร่... เป็นอนามัยอำเภอจนเกษียณราชการ...

จ่าน้อมเข้ามาเขียนอีกนะครับ... ไม่ต้องเปิดเผยตัวก็ได้... นายสมชายก็สิบโทฯ(ได้จากเรียน ร.ด. ปี3)...

...การเมืองสมัย ร.5 มีรายละเอียดน่าสนใจครับ มีผู้ให้ความเห็นว่าขุนนางในสมัยโบราณ บางครั้งดูเหมือนมีอำนาจมาก ถึงขนาดมีรับสั่งแล้วทำเฉยก็มี เพราะถือว่าตนเองมีไพร่ในสังกัดไม่น้อย การเลิกทาสในสมัย ร.5 นอกจาก "เลิกทาส" ตามที่เข้าใจทั่วไปแล้ว ยังมีนัยสำคัญในด้านความมั่นคงของ "ชาติ" ตามแนวตะวันตกคือ "เลิกไพร่" และหันมาใช้การเกณฑ์ทหาร สร้างกองทัพของชาติขึ้นมาแทน  8)

;D ;Dผมว่าสมัยนั้น ทั้งเรื่องการเมืองและการทหารคงจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆนะครับ ;D ;D

ไม่รู้จะเดาใครครับ แต่เลา ๆ ว่าเคยอ่าน .... ในเล่มอื่นที่ไม่ใช่ อวป...... แบบนี้ ผอ.สุวิทย์ต้องรีบไปจีบจ่าน้อมให้มาเข้าสังกัดครับ  :D

เพราะพระปรีชาสามารถของพระราชวงศ์ ประเทศไทยถึงมีเอกราชอย่างต่อเนื่อง

เรียนนายสิบโทกองหนุน พี่สมชาย (ฮา)

ยศเท่าผมเลยครับ (บังอาจตีเสมอ อิ อิ)

เรียน จ่าน้อมฯ

ขอเชิญมาเป็นขาประจำในบอร์ดครับ ขอความกรุณาช่วยกันเพิ่มแรงในการเรียกร้องเรื่องสิทธิปืนด้วยครับ (ถ้าท่านได้ทำมาแล้วโดยผมไม่ทราบขอขอบคุณย้อนหลัง)

ตัวผมไม่ค่อยรู้เรื่องปืนไรเฟิลยังไม่รู้สึกเดือดร้อนเท่าไหร่ แต่การที่ผมและชาว กทม. ผู้สุจริต (ที่ไม่มีเส้นใหญ่มากๆ) ซื้อปืนไรเฟิลไม่ได้เนี่ยสิ เดือดร้อนมากครับ

 ;D อ่านข้อความของจ่าน้อมแล้วเลื่อมใสครับ ;D

ผมเองก็เลื่อมใสจ่าน้อมมานานแล้ว ในฐานะที่มุ่งมั่นค้นคว้าขอมูลของปืนที่มีคุณค่าเหล่านี้มาให้เราอ่านกัน

ถ้าสนใจเรื่องราวของปืนคลาสสิก ลองเข้าไปอ่านที่นี่ซิครับ มีหลายเรื่องที่จ่าน้อมเขียนเอาไว้
http://www.thailandoutdoor.com/GunStory/gunstory.html

 :oเลื่อมใสจ่าน้อม ทหารหน้าครับ อยากให้เข้ามาบ่อยๆครับ ;D