เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 26, 2007, 01:11:14 AM



หัวข้อ: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 26, 2007, 01:11:14 AM
วันนี้ช่วง บ่ายสามโมงครึ่งผมขับรถเข้าดินแดงก่อนจะถึงทางด่วนชิดซ้ายเข้าสนามไทยญี่ปุ่น เจอรถติดยาวประมาณ เกือบกิโลเมตร วันนี้ติดยาวมากจนหงุดหงิดเลย พอถึงทางออกจากไฮเวย์ก็เจอ จราจรยืนเป็นแถวเลย ร่วมๆสิบคน นัยว่าปั๊มส่วนแบ่งใบสั่งช่วงปลายเดือนเลยหน้ามืดแทบจะปิดถนนเลย ผมก็เลย บีบแตรยาว ด่าเป็นนัย ซึ่งการกระทำแบบนี้ไม่มีจราจรบ้านเมืองไหนทำ เพราะเป็นการเพิ่มปัญหาจรจร มากกว่าแก้ปัญหาจราจรซึ่งเป็นหน้าที่หลักของตำรวจ อยากขอแรงให้ช่วยๆกัน ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ให้บีบแตรยาวๆ (เป็นการส่งสัญญาว่า ประชาชนไม่พอใจการกระทำอย่างสุภาพ) กันทุกครั้ง ถ้าทุกคนทำอย่างนี้ให้มันรู้ไปว่าจะหน้าด้านทำเป้าส่วนแบ่งใบสั่งจนประชาชนเดือดร้อนได้อีกนานแค่ไหน เมื่อก่อนผมใจร้อนมาก ที่ถนนราชพฤกษ์เคยเจอปิดถนน6 เลน ตอนนั้นเปิดกระจกต่อว่า หลังจากนั้นก็ดีขึ้นอยู่แค่เลนริมฟุตบาทไม่เจอ การปิดถนนอีก แต่ตอนนี้ก็ได้คิดแล้วว่ามันเป็นที่ระบบไม่ใช่ตัวบุคคลสงสารเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยที่ต้องตากหน้ารับกรรมขณะที่คนโตในสนง.นั่งห้องแอร์รอรับเงินสบายไป คนไทยต้องช่วยกันทุกคน ช่วยกันคนละไม้คนละมือทำเมืองไทยให้ใสสะอาดอย่ายอมให้ใครเอาเปรียบสร้างความเดือดร้อนแก่บ้านเมือง ที่สำคัญอย่าคิดว่าธุระไม่ใช่ยอมๆไปดีกว่า เราต้องไม่กลัวที่จะเดือนร้อนต่อการกระทำที่ไม่ถูกต้องของผู้มีอำนาจรัฐ(รถติดเป็นกิโล วันหนึ่งๆ หลายๆจุดคงเปลืองน้ำมันเป็นล้านบาทต่อวัน นายทะเบียนอาวุธปืนเก็บต๋งผ่านนายหน้าเรายังไม่ยอม แต่เรื่องนี้ทำความเสียหายแก่ประเทศโดยรวมมากกว่าเรื่องการขออนุญาติป.3 ป.4 อีกครับ) ถ้าทุกคนช่วยๆกันทำ แค่บีบแตร วันละ 500 คัน(ทำนองเดียวกับเปิดไฟไล่คนโกงเมื่อปีที่แล้วน่ะครับ) คงละอายกันบ้างแหละครับ ช่วยๆกันนะครับ(แต่ต้องทำตัวเราไม่ให้ผิดกฏหมายก่อนนะครับค่อยประท้วงเขา) เพื่อเมืองไทยน่าอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ ตุลาคม 26, 2007, 06:29:03 AM
คนที่ทำดีก็เยอะครับ ช่วยกันอวยพร

ส่วนพวกที่เอาเปรียบสังคม เราก็ช่วยกันแช่งชักหักกระดูกมันครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ ตุลาคม 26, 2007, 07:09:18 AM
ถ่ายรูปครับ

ถ่ายคลิปก็ดีครับ

เพราะการบีบแตร  บางครั้งก็เป็นการก่อความรำคาญ

เป็นมลภาวะทางเสียง..............



                     (http://img216.imageshack.us/img216/807/25189128yq6.gif)


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ ตุลาคม 26, 2007, 07:31:42 AM
แถวๆบ้านผมช่วงนี้ก็ตั้งบ่อยครับ..เป็นแบบนี้นี่เอง...


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ ตุลาคม 26, 2007, 07:41:19 AM
เคยเห็นแต่แบบนี้

โบกมอเตอร์ไซด์ให้จอดปุ๊บ
ชี้ไปที่รองเท้าของตัวเองปั๊บ ( คลายเชือกไว้แล้ว )
คนขี่มอเตอร์ไซด์เอาแบงค์ยัดใส่ในรองเท้า ( คอมแบท ) ของคนโบกปั๊บ

  โคตรทุเรศ   ไม่เห็นกับตาจะไม่เชื่อเด็ดขาด


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 26, 2007, 10:23:16 AM
เคยเห็นแต่แบบนี้

โบกมอเตอร์ไซด์ให้จอดปุ๊บ
ชี้ไปที่รองเท้าของตัวเองปั๊บ ( คลายเชือกไว้แล้ว )
คนขี่มอเตอร์ไซด์เอาแบงค์ยัดใส่ในรองเท้า ( คอมแบท ) ของคนโบกปั๊บ

  โคตรทุเรศ   ไม่เห็นกับตาจะไม่เชื่อเด็ดขาด

ได้เงินไม่กี่ร้อยบาทต่อตำรวจ1 คน แต่รถติดไปทั้งถนน ผลาญน้ำมัน เสียเวลาทำงานประชาชน วันหนึ่งคิดเป็นความเสียหายหลายล้านบาท  ส่วนเรื่องการลงไปถ่ายคลิปมันโจ่งแจ้งไปหน่อย ยิ่งกว่าที่เปิดกระจกไปด่าอีก คนที่ทำมีสิทธิที่จะเกิดเรื่องรุนแรงบานปลายกับเจ้าหน้าที่ประพฤฒิมิชอบเหล่านี้ วิธีบีบแตรหรือเปิดไฟหน้ารถ น่าจะนุ่มนวลกว่าครับ ช่วยๆกันครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ ตุลาคม 26, 2007, 10:53:26 AM
การบีบแตรผมว่า อาจสร้างความรำคาญหรือเข้าใจผิดให้กับผู้อื่นได้นะครับ  และปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไขอยู่ดี  ผมคิดว่าพวกเราควรช่วยกันเขียนจดหมายร้องเรียนไปตามสื่อต่างๆ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลายให้ลงมาช่วยดูด้วย


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ ตุลาคม 26, 2007, 10:58:10 AM
การบีบแตรผมว่า อาจสร้างความรำคาญหรือเข้าใจผิดให้กับผู้อื่นได้นะครับ  และปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไขอยู่ดี  ผมคิดว่าพวกเราควรช่วยกันเขียนจดหมายร้องเรียนไปตามสื่อต่างๆ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลายให้ลงมาช่วยดูด้วย

 ::002::  เอาไป ๑ แต้ม  ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 26, 2007, 11:07:07 AM
การบีบแตรผมว่า อาจสร้างความรำคาญหรือเข้าใจผิดให้กับผู้อื่นได้นะครับ  และปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไขอยู่ดี  ผมคิดว่าพวกเราควรช่วยกันเขียนจดหมายร้องเรียนไปตามสื่อต่างๆ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลายให้ลงมาช่วยดูด้วย

เท่าที่ผ่านมา หนังสือร้องเรียนกองเป็นพะเนิน นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก็ไม่สนใจ เพราะได้รับส่วนแบ่งตามลำดับชั้นยศ หนังสือพิมพ์ สื่อต่างๆ โทรทัศน์ เคยเผยแพร่เป็นคลิปวีดีโอการทุจริตด้วยซ้ำแต่ไม่นานทุกอย่างก็กลืนหายไปกับกาลเวลาครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ตุลาคม 26, 2007, 11:08:52 AM
การบีบแตรผมว่า อาจสร้างความรำคาญหรือเข้าใจผิดให้กับผู้อื่นได้นะครับ  และปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไขอยู่ดี  ผมคิดว่าพวกเราควรช่วยกันเขียนจดหมายร้องเรียนไปตามสื่อต่างๆ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลายให้ลงมาช่วยดูด้วย

เท่าที่ผ่านมา หนังสือร้องเรียนกองเป็นพะเนิน นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก็ไม่สนใจ เพราะได้รับส่วนแบ่งตามลำดับชั้นยศ หนังสือพิมพ์ สื่อต่างๆ โทรทัศน์ เคยเผยแพร่เป็นคลิปวีดีโอการทุจริตด้วยซ้ำแต่ไม่นานทุกอย่างก็กลืนหายไปกับกาลเวลาครับ
เป็นระเบียบปฎิบัติไปแล้วครับ ยิ่งช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่ ต้องเข้มงวดขึ้นครับ ;D


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 27, 2007, 11:12:59 AM
แนะรัฐดันรถไฟฟ้าระบบราง ประหยัดน้ำมันสูงสุดร้อยละ30 [27 ต.ค. 50 - 10:33]
 


นายบัญชา คงนคร รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ด้านปฏิบัติการ 1 รักษาการ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าววันนี้ (27 ต.ค.) ว่า จากปัญหาภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้ค่าโดยสารและต้นทุนการขนส่ง ภายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หากประเทศไทยสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายพร้อมผลักดันให้หันมาใช้รถไฟในแบบราง และระบบไฟฟ้ามากขึ้น  จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนและช่วยให้ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง หรือ น้ำมันภายในประเทศมากสุดถึงร้อยละ 30

รักษาการ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันแม้ระบบการเดินรถไฟแบบดีเซลราง และระบบไฟฟ้าในประเทศไทยอาจมีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับประเทศต่างๆ ในแถบยุโรป หรือประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศมาเลเซีย แต่หากรัฐบาลของไทย สามารถดำเนินนโยบายผลักดัน และลดการใช้พลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเดินรถไฟได้ ในอนาคตระบบขนส่งคมนาคม จะมีส่วนช่วยลดพลังงานเชื้อเพลิงภายในประเทศ พร้อมขยายการลงทุนเพิ่มได้มากขึ้น  


 http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=66060

สาเหตุที่ไทยเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันวันละ เกือบ 1 ล้านบาร์เรล จากกำลังการผลิตประมาณ 30 ล้านบาร์เรลของโอเปค ไทยใช้น้ำมันเป็นลำดับต้นๆของโลก อัตราบริโภคน้ำมันของไทยมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายๆประเทศในยุโรป ซึ่งสาเหตุที่ระบบขนส่งทางรางเกิดได้ยากในประเทศไทย เนื่องจาก
1 บริษัทผลิตรถยนต์ ที่สนับสนุนนักการเมือง หรือเป็นนักการเมืองเสียเอง
2 โรงกลั่นน้ำมัน ที่สนับสนุนนักการเมือง หรือ นักการเมืองไทยถือหุ้น รวมทั้งข้าราชการเลวๆใน คณะกรรมการพลังงาน
3 บริษัทรับเหมาสร้างทางที่สนับสนุนนักการเมือง หรือนักการเมืองเป็นเจ้าของ(เยอะมากๆระดับหัวหน้าพรรคก็หลายคน)

เลือกตั้งคราวนี้ถ้ารากหญ้ายังสนใจ ว่า สส.คนนี้ตัดถนนเข้าหมู่บ้าน สส.คนนี้มางานบวชลูกฉัน ก็เองวังประเทศไทยล่ะครับ สมัยก่อนเรายังเช้าชามเย็นชามได้เพื่อนๆร่วมโลกเค้าก็ยังวิ่งได้ไม่เร็วเท่าไหร่ แต่ในปัจจุบัน ถ้าเราสะดุดนิดเดียวเค้าจะแซงเราไปไกลจนยากจะตามทัน อีกไม่นานเกินรอเราจะได้เห็นเวียดนามเป็นประเทศในระดับเดียวกับมาเลย์และสิงค์โปร์  เหตุเนื่องจากการศึกษาเวียดนามสอนให้คนมีกระบวนการคิดที่ดี มีจิตสำนึกรับผิดชอบในการร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาประเทศ จงรักภักดีในชาติ เป็นเดือดเป็นร้อนเมื่อมีเรื่องไม่ถูกต้องในสังคมเกิดขึ้น ไม่ถือว่าธุระไม่ใช่ ผิดกับประเทศไทยที่มีการศึกษาสูงจบปริญญาตรี โท แต่เป็นปริญญาทางความรู้ในตัวหนังสือเท่านั้น ไม่ได้ยกระดับคุณภาพทางจิตใจแต่อย่างใด ขาดจิตสำนึกในการร่วมแรงร่วมใจกันในการทำงาน ไม่มีความเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อแผ่นดินเกิดที่น่าอยู่ เด็กบางคนจบปริญญาโทหางานทำไม่ได้เพราะทำงานไม่เป็นก็มีครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 29, 2007, 02:12:47 PM
ก็มีแต่นักการเมืองหน้าเดิมๆแยกย้ายไปตั้งพรรคแข่งกันเอง

คนเก่งๆ หน้าใหม่ๆ ก็ไม่อยากจะเล่นการเมืองให้เปลืองตัว

ดีไม่ดีการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะเน่ายิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา??

นอกจากจะแข่งกันซื้อตัวอดีต ส.ส. อดีต ส.ว. ที่ปั่นราคาค่าหัวสูงกว่าเก่าสองเท่าตัว

พรรคการเมืองยังแข่งกันโฆษณานโยบายพรรคจนเว่อร์เกินความจริง

คือลอกนโยบายประชานิยมจากต้น ตำรับ “ไทยรักไทย” แล้วเอาไปเพิ่มเติมให้มันเว่อร์มากยิ่งกว่าเดิม

เพราะเชื่อว่านโยบายประชานิยมยิ่งเว่อร์มากเท่าไหร่ คะแนนก็ยิ่งไหลมาเทมา
ตีปี๊บโฆษณาไปก่อน แต่จะทำได้ จริงหรือไม่ค่อยไปว่ากันอีกที

เข้าข่ายแหกตาประชาชนหรือไม่ “แม่ลูกจันทร์” ไม่วิจารณ์

ก็ต้องยอมรับความจริงว่านโยบายประชานิยม ประชาชนได้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

แต่ก็ต้องไม่มองข้ามความจริงว่า นโยบายประชานิยมไม่ใช่ของฟรี

ต้องใช้เงินลงทุนอย่างมากมายมโหฬาร

ยิ่งเสนอนโยบายประชานิยมเว่อร์มาก ก็ต้องใช้เงินอัดฉีดมากเป็นเงาตามตัว

บางพรรคโชว์นโยบายจะใช้เงินลงทุนโครงการประชานิยมแปดแสนล้านบาท แถมโครงการลงทุนเมกะโปรเจกต์อีกแปดแสนล้านใน 5 ปี
โอ้โห...พูดเหมือนเมืองไทยมีบ่อน้ำมันอยู่ใต้ดิน

ถามว่ารัฐบาลจะหาเงินจากไหนให้พอกับรายจ่ายที่ใช้ลงทุนโครงการประชานิยม??

ทุกพรรคมีแต่โฆษณานโยบายใช้เงิน แต่ไม่มีนโยบายที่จะเพิ่มรายได้งบประมาณแผ่นดิน
เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างนี้ รายได้ จากภาษียิ่งลดลงๆ

เก่งจริงไม่กลัว กลัวเก่งไม่จริง.

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=8.0

ยิ่งแจกมากเท่าไหร่ก็ประเทศก็ยิ่งพังเร็วเท่านั้น พรรคไหนยิ่งแจกมาก  เรตติ้งยิ่งมาก มันสะท้อนถึงตลาดว่าชอบแบบนี้ เหมือนกับทีวีไทยช่องไหนยิ่งน้ำเน่าคนยิ่งดูมากโฆษณาเข้ามากครับ เมืองไทยจะน่าอยู่หรือไม่ขึ้นอยู่กับคนไทยไม่ใช่นักการเมือง พฤฒิกรรมคนไทยที่ชอบของแจกของฟรีงอมืองอเท้ารอความช่วยเหลือเป็นตัวกำหนดพฤฒิกรรมให้นักการเมืองเอาทรัพย์สินแผ่นดินมาแจกครับ


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: tra-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 29, 2007, 02:41:59 PM
เคยเห็นแต่แบบนี้

โบกมอเตอร์ไซด์ให้จอดปุ๊บ
ชี้ไปที่รองเท้าของตัวเองปั๊บ ( คลายเชือกไว้แล้ว )
คนขี่มอเตอร์ไซด์เอาแบงค์ยัดใส่ในรองเท้า ( คอมแบท ) ของคนโบกปั๊บ

  โคตรทุเรศ   ไม่เห็นกับตาจะไม่เชื่อเด็ดขาด

มีเรื่องอย่างนี้.....ด้วยหรือครับ.....เพิ่งเคยได้ยิน  :P :P :P


หัวข้อ: Re: ช่วยๆกันทำเพื่อเมืองไทยน่าอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 30, 2007, 12:46:08 PM
นอกจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แล้ว เดี๋ยวนี้ กำลังฮิตสร้างโรงงานไฟฟ้าที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิง ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือได้ทั้งกำจัดขยะและได้ไฟฟ้า

วันศุกร์ที่ 9 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2550 นิติภูมิและนายคุณนิติบุตรชาย ได้รับเชิญจากนายหยาง ชาง ไห่ รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำสำนักงานรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งเทศบาลนครกว่างโจว และนายซือ เฉิง เสียน รองอธิบดีประจำสำนักงานสิ่งแวดล้อม ให้เข้าไปศึกษาโรงงานกำจัดขยะเพื่อแปลงเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งโรงงานแต่ละแห่งกำจัดขยะได้วันละ 1,000 ตัน ให้กระแสไฟฟ้าโรงละ 2,000 กิโลวัตต์

ปัจจุบันทุกวันนี้ ขยะหายากมากขึ้น รัฐบาลของหลายประเทศจึงต้องสร้างขยะด้วยการจ้างประชาชน และบริษัทเอกชนให้ปลูกต้นไม้โตเร็ว เพื่อลิดเอากิ่งก้านสาขามาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เดือนตุลาคม พ.ศ.2550 ที่ผ่านมา คราวนี้ ผมและลูกสาวได้รับเชิญจากรัฐบาลของนครเซ็นได ภูมิภาคโทฮกกุของญี่ปุ่น ให้ไปชมและศึกษางานการเก็บขยะ วิธีการนำขยะบางส่วนกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนั้น ยังให้เข้าไปศึกษาดูงานอย่างละเอียดในโรงงานที่นำขยะมาเผาเพื่อให้ไฟฟ้า ในนครเซ็นไดมีโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิง 3 โรง แต่ละโรงเก็บขยะได้วันละ 600 ตัน ผลิตกระแสไฟฟ้าได้วันละ 9,000 กิโลวัตต์ หมายความว่าขยะของนครเซ็นไดที่มีประชากรเพียง 1 ล้านคน สามารถให้ไฟฟ้าได้มากถึงวันละ 27,000 กิโลวัตต์ โดย 40% ของไฟฟ้าที่ผลิตได้ใช้ในกิจการของนครเซ็นได อีก 60% นำไปขายให้บริษัทไฟฟ้า การเก็บขยะของนครเซ็นไดใช้บริษัทเอกชนหลายบริษัท รถเก็บขยะของแต่ละบริษัทจะมีสีแตกต่างกัน พนักงานเก็บขยะก็แต่งชุดไม่เหมือนกัน

ญี่ปุ่นมีโครงสร้างการปกครองท้องถิ่นแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกคือ จังหวัดซึ่งมี 47 แห่ง และชั้นที่สองคือเทศบาลซึ่งมีทั้งหมด 3,190 แห่ง แบ่งเป็นเทศบาลนคร 677 แห่ง เทศบาลเมือง 1,961 แห่ง และเทศบาลหมู่บ้าน 552 แห่ง แต่ละแห่งจะมีวิธีการบริหารเป็นของตัวเองโดยสิ้นเชิง แม้แต่การจัดการกับขยะก็แบบเฉพาะของใครของมันผมว่าการจัดการขยะของเทศบาลนครเซ็นไดเจ๋งที่สุด มีการสอนเรื่องขยะในชั้นประถม มีการให้นักเรียนมาดูโรงงานรีไซเคิลเพื่อให้มีความเข้าใจในเรื่องของขยะ นักเรียนชายชั้นมัธยมต้นจะถูกคัดมาทำงานในแผนกรีไซเคิลขยะชุดละ 5 วัน

เดี๋ยวนี้ ประชาชนคนในนครเซ็นไดมีจิตสาธารณะขนาดจะทิ้งขวดน้ำ ยังต้องแยกจุก ฉีกฉลากออกจากขวด ขวดน้ำเพียงขวดเดียวยังต้องถูกนำไปทิ้งในถังขยะที่แตกต่างกันถึง 3 ใบ ฉลากที่ติดข้างขวดก็มีการออกแบบให้ฉีกออกได้ง่าย
ผมใช้เวลาในโรงงานขยะของนครเซ็นไดด้วยความตื่นตาตื่นใจ ก่อนที่ขยะจะถูกนำไปเผา จะถูกนำมารีไซเคิลก่อน นครเซ็นไดจะมีแผนกซ่อมแซมสิ่งของเครื่องใช้ให้เหมือนใหม่ และนำไปแจกจ่ายกับประชาชน ประชาชนคนเซ็นไดไปที่ศูนย์หนังสือเก่า สามารถหยิบเอาไปได้เลยคนละ 3 เล่ม  เก้าอี้ ตู้ เตียง และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่ได้รับการซ่อมแซมจนเหมือนใหม่ จะถูกนำมาจับฉลากเพื่อแจกแก่ผู้ต้องการเดือนละครั้ง

http://www.thairath.co.th/news.php?section=international01&content=66310