เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

   
  .....มันไม่น่าเป็นไปได้ผมคลุกคลีด้านนี้มายี่สิบปีไม่เคยเจอ ไฟแรงสูงอยู่ตรงกริ่งมันต้องพังและไหม้ไปก่อน......ไหนๆคุยเรื่องนี้แล้วขอแนะนำเรื่องอันตรายที่มักมองข้าม คือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เป็นโลหะที่เราต้องสัมผัสโดยตรงต้องต่อสายดิน เช่นตู้เย็น ตู้น้ำเย็น เครื่องซักผ้า คอมพิวเตอร์ เครื่องทำน้ำอุ่นฯลฯ จำเป็นมากๆ ส่วนใหญ่บ้านเป็นพื้นปูนแล้วเท้าเปล่ามาสัมผัสสิ่งเหล่านี้ แม้ไฟรั่วไม่มากแต่จะเกิดผลรุนแรงกับคนที่ไม่สวมรองเท้า ( แรงดันเพียง 65 โวลท์ก็ถึงตายได้ถ้าสภาพเอื้ออำนวยดังกล่าว แล้วไฟบ้านเรา 220 โวลท์นะครับ ) โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีผิวบอบบางจะมีความต้านทานไฟฟ้าน้อย ผมทำงานด้านนี้เจอคนเคราะห์ร้ายแบบนี้ไม่น้อยเลย การต่อสายดินไม่ยากทำได้ด้วยตนเอง 1.แท่งหลักสายดิน หาซื้อได้ที่ร้านขายสายไฟไม่ต้องยาวมากก็ได้แต่ต้องตอกตรงที่ชื้นแฉะเช่นบริเวณน้ำทิ้ง 2.ใช้สายทองแดงหุ้มแบบสายเดี่ยวขนาด 2.5 ขึ้นไปปอกสายแล้วใช้ไขควงคลายน็อตหรือสกรูตรงโครงเครื่องใช้ไฟฟ้า งอปลายสายตามเข็มนาฬิกาเอาสกรูขันติดให้แน่น เดินสายไฟง่ายๆโดยใช้กิ๊บที่เดินสายโทรศัพท์ แล้วขันติดกับแท่งสายดินที่ตอกจะมีขั้วให้ต่ออยู่ เครื่องใช้อย่างอื่นก็ทำแบบเดียวกันแค่นี้รับรองปลอดภัยจากไฟรั่ว 3. เวลาจะซ่อมหรือทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องถอดปลั๊กก่อนเสมอ เคยมีคนถูกไฟดูดตายเพราะล้างตู้เย็นอยู่บ่อยๆ ทั้งที่จับทุกวันแต่ไม่เป็นไร เพราะสภาพที่อำนวยคือล้างตู้เย็น พื้นแฉะและไม่สวมรองเท้า 4. หมั่นตรวจสอบสภาพสายไฟ โดยเฉพาะสายพัดลมตั้งพื้นที่มักลากไปมาฉนวนมักชำรุด เจอบ่อยมาก ซึ่งตามมาตราฐานจะต้องหุ้มฉนวนสองชั้น แต่ร้อยละร้อยมีชั้นเดียวไม่รู้มันทำออกขายได้ไงยี่ห้อดังๆด้วย แล้วอุปกรณ์โครตบรมห่วยเช่นตัวตัดไฟหลายอย่าง ทำมาชุ่ยมากแต่วางขายได้ต้องระวัง โดยเฉพาะที่ราคาถูก เรื่องแบบนี้อย่าหวังพึ่งใครต้องดูแลตัวเองโดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก 5. ถ้าไม่แน่ใจว่ามีไฟรั่วหรือไม่ให้ใช้หลังนิ้วแตะตามที่คุณ ดอกจันทร์บอกเป็นวิธีที่ถูกต้อง ถ้าท่านใดมีปัญหาหรือข้อสงสัยก็ถามมาในบอร์ดนี้นะครับ
(ผมลอกมาจาก www.clinicrak .com คับ)  

ขอบคุณครับ บ้านรุ่นใหม่ตอนนี้ที่ปลั๊กมีสายดินหมดแล้วครับ



ปล.บ้านผมสร้างมาก่อนเลยไม่มีสายดินครับ

บ้านผมก็ต่อสายดินครับ

ถึงที่บ้านจะมีปลั๊กที่ต่อสายดิน(ปลั๊กสามตา) แต่ เครื่องใช้ไฟฟ้ายังเป็นปลั๊ก 2 ขา แบบเดิมอยู่ สายดินก็ไม่มีประโยชน์นะครับ :VOV:

แล้วต้องทำยังไงดีละครับแบบนี้ แนะนำด้วยครับ

เปลี่ยนเต้าเสียบเป็นแบบ 3 ขา ครับ ....ขาที่เพิ่มมา 1 ขา จะต่อกับโครงที่เป็นโลหะ ของอุปกรณ์ไฟฟ้าครับ........

       ขอบคุณครับที่นำมาบอกต่อกัน

ผมอยู่กับของพวกนี้มาจนชินแล้วครับ     เครื่องทำน้ำร้อนยิ่งสำคัญครับ   ต้องมีสายดินถ้าสงสัยให้เอาหลังมือแตะก่อน     เคยไปซ่อมปั๊มน้ำที่ไฟรั่ว       เครื่องมือไม่พร้อมเลยเขี่ยคางคกเข้าไป     คางคกตายคาที่เลย    

:OO :OO :OO

คนงานที่ทำงานผม พึ่งตัดแขนไป 2 ข้างครับ เรื่องแบบนี้ไม่มีสิทธิ์แก้ตัว กันไว้ดีกว่าครับ :VOV:

 เข้ามายืนยันว่า ต้องต่อสายดินให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีตัวถังเป็นโลหะ และเราต้องสัมผัสอยู่เป็นประจำนะครับ
 เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟ  ตู้เย็น  ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น  ฯลฯ โดยเฉพาะ ถ้าเป็นพื้นเป็นพื้นปูนด้วยแล้ว
 ยิ่งต้องต่อสายดินนะครับ อันตรายจริงๆครับ   ทดสอบง่ายๆ นะครับ ลองหาซื้อไขควงเช็คไฟ ( ตามร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า )
 ใช้ปลายไขควงนั้นสัมผัสตัวถังเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการตรวจ แล้วใช้ปลายนิ้วของเราแตะที่ปลายด้ามไขควงที่เป็นโลหะ
 ถ้ามีแสงจากหลอดไฟที่อยู่ภายในด้ามไขควงติดขึ้นมา แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตามตัวถังและพร้อมที่จะไหลลงดิน
 โดยมีตัวเราเป็นสื่อครับ   วิธีแก้ไขชั่วคราว ยืนยันนะครับ ว่าชั่วคราว  ถ้าปลั๊กของอุปกรณ์นั้นเป็นแบบ สองขา
 ให้ลองกลับปลั๊กที่เสียบเต้าไฟดู  แล้วทดสอบตามวิธีด้านบนดู ถ้าหลอดไฟไม่ติดก็เบาใจได้หน่อย แต่ให้รีบต่อสายดินโดยเร็วครับ
 

  โห พี่เล็กโหดจัง  ....... อิอิอิิ   เรื่องซ่อมไฟถ้าเครื่องมือไม่พร้อมผมกลัวจริง ๆ  ....... เคยเกือบโดนดูดครั้งนึง แล้วจำจนตายเลย  ไปต่อไฟให้ข้างบ้าน  .... เป็นบ้านใหม่เพิ่งย้ายมาอยุ่ จะให้ช่วยต่อแสงสว่างชั่วคราวใช้  ...... เราก็ดูอย่างดี  ก่อนต่อ ถอดฟิวกระปุกออก  ...... พอเสร็จเตรียมจั๊มสายต่อ เกิดเอะใจ ลองเอา ไขขวงเช็คไปตรวจอีกที มันแดงโร่เลย  .......  คนงานก่อนสร้าง ดันเอาฟิวใส่สายนิวตอน  ......

      หลังจากนั้น ก่อนผมทำอะไร ต้องเช็คก่อนไม่มีไฟแน่ ๆ แล้วถึงทำกลัวจับใจเลย ครั้งนั้น ถ้าพลาดก็มีล่วงแน่  ...... อิอิอิอิ

บ้านผมใช้ไฟ ๓ เฟรด และมีเบรคเกอร์ ตั้งตัดไฟเข้าบ้าน ตั้งแต่ ๕ ๑๐ ๑๕ ๒๕ ON
ผมจะตั้งไว้ที่ ๒๕ แอมป์ หม้อน้ำร้อนขนาดมีสายดินแล้ว (ไม่ทราบขาดหรือเปล่า)
เผลอฉีดน้ำเข้าไปในเครื่อง. ไฟดูดอย่างแรง.. พร้อมกับ เบรคเกอร์ ตัด แต่ทำเอาตัวชา.
เรื่องไฟ เผลอเป็นโดน.. แค่มาเล่าให้ฟังครับ.  ;D  

เคยถาม คนไฟฟ้า
เค้าว่า พวกตัวตัดไฟ ไม่ต้องไปใช้ให้เปลืองเงิน
ใส่เบรกเกอร์ ก็พอ   
ใส่แยกเป็นจุด ๆ คุมเป็นโซน ๆ ไป


   (http://img216.imageshack.us/img216/807/25189128yq6.gif)               (http://img218.imageshack.us/img218/909/chairfr2.gif)

10กว่าปีก่อนเข้าโรงแรมชั้นเดียวเครื่องทำน้ำอุ่นก็ดูดครับ     สังเกตุเห็นน้ำรั่วจากใต้เครื่องเลยขันสายฝักบัวที่หลวมให้แน่นเจอไฟดูดยังคิดตายแบบนี้เมียจะมาเผาไหม     เคยมีลูกน้องลองเอาสายไฟไปจิ้มมดแดง    มดไม่เป็นอะไรคนงานเลยเอาคัทเตอร์ปอกสายไฟโดนไฟดูดมันยังว่ามดมีของดี   ผมว่ามันเป็นเพราะความต้านทาน   ของมดกับคนต่างกันมากกว่า    มีอยู่ครั้งที่เจอจังๆคือปลั๊กไฟแตกอยู่ในกองขี้เลื่อยเห็นสีเหลืองๆเลยหยิบเข้าสุดยอดเลยครับ   ดีแต่สายมันหลุดมือเป็นรอยไหม้ไหม้เลย

     เคยเหยียบเก้าอี้เอื้อมมือไปเปลี่ยนฟิวเตอร์แอร์(แอร์แบบตู้เหล็กเหลี่ยมๆ) ไฟดูดค้างจนตกเก้าอี้ เซฟทีคัทไม่ตัดด้วยรู้เลยว่าทำใมเวลาไฟช็อตเราทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ แม้แต่จะดึงมือออก

     บ้านที่ย้ายมาอยู่ใหม่ช่างติดสายดินเครื่องทำน้ำอุ่นเข้ากับโครงหลังคาบ้าน แล้วอย่างนี้เผลอไปจับโครงหลังคาจะช็อตใหมครับ

       ถ้าเครื่องทำน้ำอ่นรั่ว แล้วเท้าเปล่าบนปูน/ดินโดนดูดแน่ครับ
ที่บ้านผมต่อสายดินหลายจุดโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ครับ  เมื่อก่อนเอื้อมมือ
ไปเปิดสวิชต์ด้านหลังต้องโดนประจำ  เดี๋ยวนี้ไม่โดนแล้วครับ  สบายใจ ;D

เซอร์กิตเบรคเกอร์ ทำงานเมื่อใช้ไฟเกินพิกัด หรือเมื่อมีไฟฟ้าลัดวงจรครับ.... หากมีกระแสไฟฟ้ารั่ว ซึ่งน้อยมาก มันจะไม่ทำงาน

ดังนั้นเครื่องตัดไฟรั่ว จึงยังมีประโยชน์ หากใครต้องการความปลอดภัยในระดับที่สูงขึ้น ถึงแม้จะติดตั้งสายดินอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่า  เครื่องตัดไฟรั่ว ที่ขายตามตลาด(ปรับตั้งกระแสไฟรั่วได้) มันมีราคาแพงเกินไปครับ จึงไม่ต้องซื้อให้เปลืองเงินครับ

เพราะปัจจุบันจะมีเบรคเกอร์ลูกย่อย ที่สามารถตัดไฟรั่วได้ แต่เป็นแบบตายตัวปรับค่าไม่ได้(มาตรฐานกำหนด 20 มิลลิแอมป์) ราคาจะถูกกว่ามากครับ

ติดตั้งคุมเป็นโซนๆ โซนไหนหรือวงจรย่อยเส้นไหนเสี่ยงต่อไฟรั่ว ก็ติดตั้งครับ

ขรอบครุณหลายท่านที่ช่วยเข้ามาเล่าประสบการณ์ไฟดูด ระยะหนึ่งผมเคยอยู่ จ.ตาก ข้างบ้านมีสายส่งแรงสูงจากเขื่อนภูมิพลพาดผ่าน สายเปลือยเส้นใหญ่มันย้อยตกท้องช้างสูงจากพื้นดินประมาณ 10 ม.วันนั้นมีฝนตกพรำ ๆ ผมขับมอเตอร์ไซด์ลอดผ่าน มือหนึ่งถือร่ม มีไฟดูดคับ ได้ยินว่าเคยโดนกันหลายคนบางคนหนีทิ้งร่มเลย

ขอบคุณครับ

เปลี่ยนสายไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าครับ  ผมซื้อสายไฟพวกนี้จากร้านอมร โอลด์สยามพลาซ่า ราคาไม่แพง  แต่ต้องไล่สายให้ถูกด้วย  สาย hot,  นิวตรอล  กับสายตัวถังเครื่องใช้ไฟฟ้า   ถ้าทำเองไม่ได้ ก็จ้างช่างมาเปลี่ยนให้

ยืนยัน  ว่าเครื่องตัดไฟรั่วมีความสำคัญจริงๆ
หากมีไฟรั่วเพียงนิดเดียว ก็ตัดไฟได้ ผมโดนไฟช็อตกระแสวิ่งมาแค่ข้อศอกก็ตัดแล้ว แต่อย่าลืมหมั่นทดสอบการทำงานของมันตามระยะ
ส่วนเบรคเกอร์ต้องกระแสเกินมากจริงๆ หรือช็อตวงจรแบบแรงๆ จึงตัด คิดว่าเบรคเกอร์น่าจะเหมาะสำหรับควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้ามากกว่า ป้องกันตัวบุคคลนะครับ

สำคัญคือว่า
ถ้าตั้งน้อย ๆ ก็ตัดบ่อย
ตั้งมาก ๆ ก็ยังตัด
(มีผลต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ไม่ทนต่อการติดดับ)
จนสุดท้าย ก็ต้อง ต่อตรง

    (http://img216.imageshack.us/img216/807/25189128yq6.gif)               (http://img218.imageshack.us/img218/909/chairfr2.gif)

งงเล็กน้อยคับ เบรกเกอร์ กับเครื่องตัดไฟ(เช่นยี่ห้อ เซฟทีคัท เซฟทีเซ็นท์) มันก็อย่างเดียวกันไม่ใช่เหรอ ต่างกันที่ตัวนึงตั้งค่าไม่ได้อีกตัวตั้งได้  ตัวนึงถูกเพราะไม่มียี่ห้ออีกตัวนึงแพงแล้วก็มีหลายยี่ห้อ

การต่อสายดินตามบ้านก็ต้องดูการติดตั้งให้ถูกต้องด้วยเพื่อให้ทำงานได้
สายควรต่อจากเครื่องใช้ไฟฟ้าไปยังหลักที่ฝังดินให้ใกล้ที่สุด
มิฉนั้นแล้วไฟรั่วก็ยังไหลผ่านตัวคนได้ดีกว่าลงดิน ทำให้ยังถูกไฟดูดได้
ช่างบางคนก็เอาสายดินไปผูกกับเหล็กเส้นในเสาบ้าน วิธีนี้มักจะไม่ช่วยป้องกันเท่าไร
เนื่องจากกระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลลงดินได้เพราะคอนกรีตที่เสามีความต้านทานสูง

ขอบคุณมากๆครับ  ::014::

     ขอบคุณมากครับ มีประโยชน์มาก
     คอมฯ ที่บ้่านผม เป็นประจำเลย เสียบปลั๊กไฟบ้านเสร็จ จะไปกดปุ่มเปิดไฟที่ปลั๊ก (ปลั๊กสามขาที่มีฟิวส์) แขนไปโดนตัวเคสของเครื่องมันก็จะทำให้กระตุกได้เสียวทุกที  พื้นบ้านเป็นปูน แถมเท้าเปล่า บางครั้งจะเสียบแฟลชไดรฟ์มือดันไปโดนเต้าเสียบที่เป็นโลหะก็ทำให้กระตุกทุกที (ผมต่อสาย USB จากหลังเครื่องมาใช้ด้านหน้า เพราะเคสผมมันรุ่นเก่าไม่มีพอร์ต USB ด้านหน้าเครื่อง) ว่าจะทำสายดินยังไม่มีเวลาสักที เดี๋ยวคงต้องทำจริง ๆ แล้วหละ
     อยากถามหน่อยว่า หากผมจะทำสายดินให้กับคอมฯ ผมจะต้องเอาสายไฟ สายทองแดงปลอกปลายทั้งสองด้าน อีกด้านผมจะเอาไปขดโดยใช้น๊อตที่ขันเคสขันติดไว้ที่เคสของเครื่อง และอีกด้านผมจะขดกับตะปู 5 แล้วเอาตะปูไปตอกลองดินหรือปูน แบบนี้ทำถูกต้องไหม อีกอย่างพื้นที่จะตอกมันไม่แฉะ จะช่วยได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

แกนสายดินผมเคยเห็นเขาใช้เหล็กอันเท่าหัวแม่มือยาว 0.5 ม.คับตอกลงไปในดินจนเกือบมิด ไม่ใช่ตะปู 5 นิ้ว ลองย้อนกลับไปอ่านคำตอบของหลาย ๆ ท่านนะคับ เขาไม่แนะนำให้ตอกลงพื้นปูน บางท่านยังบอกว่าถ้าสายดินยาวไปไฟมันไม่ไหลลงสายดินเพราะไหลลงตัวเราง่ายกว่า ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัลลล์   ;D

เบรกเกอร์จะทำงานเมื่อกระแสมีค่าสูงกว่าที่กำหนดของเบรกเกอร์ เช่น เบรกเกอร์ ๑๕ แอมแปร์ ถ้ากระแสน้อยกว่าก็ยังไม่ตัดเพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้
แต่เครื่องตัดไฟรั่วจะทำงานโดยวัดความแตกต่างของกระแสไฟที่ไหลในสองสาย หากปกติกระแสไฟในสองสายมีค่าเท่ากันก็ไม่ตัด
แต่ถ้ามีไฟรั่วลงดิน เช่นผ่านตัวคนลงดินทำให้กระแสในสายหนึ่งมากกว่าอีกสายหนึ่งเครื่องตัดไฟจะตัดครับ

ขอบคุณครับ

      เมื่อเช้าก่อนมาทำงาน ได้เดินหาสายไฟเก่า ๆ เจอสายโทรศัพท์ที่ขาด ผมเลยได้ลอกเอาสายทองแดงมา 1 เส้น ยาวประมาณเกือบ ๆ 1 เมตร ปลอกปลายสายทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งเอาพันกับสกรูที่ขันปิดฝาเคส อีกด้านเอาพันกับตะปู แล้วตอกลงดินติดกับผนังบ้าน พอดีบ้านเป็นบ้านสองชั้น แต่เดิมเป็นบ้านยกใต้ถุนสูงชั้นเดียว แล้วก็มาทำชั้นล่างเป็นห้อง ดีว่าพื้นปูนที่เทมันมีลอยแตกที่ไม่ต่อกันกับผนัง เพราะที่บ้านเคยโดนน้ำท่วมหลายครั้ง เลยหารอยแตกได้
      ผลการทดลอง ใช้ได้ผลครับ พอเปิดเครื่องแล้ว เท้าเปล่ายืนอยู่กับพื้นปูน เอามือสัมผัสกับตัวเคสของเครื่องที่เป็นโลหะ หลาย ๆ จุด หรือเอานิ้วไปสัมผัสหัวต่อ USB ที่ต่อสายออกมาไม่มีอาการจักกระจี้ที่ต้องทำให้รีบดึงมือหนีแล้ว...ฮ่า ๆ พอลองเอาสายออกก็เป็นเหมือนเดิม ผมลองเอาปากกาวัดไฟที่เป็นแบบวัดไฟฟ้าสถิตได้ไปลองจี้ที่ฝาเคสก็ไม่มีแสงไฟเกิดขึ้น พอเอาไปจี้ที่หัวตะปูมันก็สว่างโร่เลย แสดงว่าที่หัวตะปูมีกระแสไฟไหลลงมาได้เยอะ สรุปก็ใช้ได้ระดับหนึ่งดีกว่าไม่ใส่เลย แต่จะป้องกันไฟที่รั่วมาแรง ๆ ได้หรือไม่ อันนี้ไม่ทราบครับ