หัวข้อ: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: Symbian 69 ที่ มีนาคม 04, 2008, 06:49:14 PM เมื่อก่อนเดินหลังวัง ผมรู้สึกไม่เมื่อยเท่าทุกวันนี้ เดินไป...ถามไป... ฟังราคาแล้วเหนื่อย+เมื่อย.... ทำไมราคาปืนทุกวันนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ.... (เหล็กนะไม่ใช่ทอง โลกว่าเกือบแสน) อยากทราบว่าราคาปืนจะมีวันลงไหมครับ????????? ::004:: ::004::
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: rockguns ที่ มีนาคม 04, 2008, 07:14:48 PM ม่ายยยยยยยยยยย ::012:: ::012:: ::012:: ::012::
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 04, 2008, 07:19:03 PM รอให้นายใหญ่ ประกาศห้ามซื้อขายก่อนครับ คราวนี้ลงแน่ๆ :OO
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: uthen ที่ มีนาคม 04, 2008, 09:21:29 PM รอนโยบาย นายกคนใหม่ เห็นร่ำๆอยู่ ไม่แน่ใจว่าจะลงหรือปล่าครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: YALA 11 ที่ มีนาคม 04, 2008, 09:39:33 PM ราคาลงถ้าจะยากกกกกครับเเต่ถ้าราคาขึ้นเนี่ยเเน่นอน ให้มีอีกสิบนายกสมัครก็ไม่มีทางลง ::014:: ::013:: ::012::
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: rambo1th ที่ มีนาคม 04, 2008, 09:45:39 PM ราคาปืนนะลองขึ้นนะไม่มีลดหรอก อีกทั้งผู้ประกอบการวงการนี้ สามารถรวมกลุ่มกันจัดตั้งราคากันได้
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: Wisky6 ที่ มีนาคม 04, 2008, 10:33:09 PM ง่ายๆครับ ไม่ลงก็ไม่ซื้อ ทุกวันนี้ที่มันขึ้นไปเรื่อยๆเพราะ ถึงแพงยังไงก็ยังมีคนซื้ออยู่ดี ถ้าไม่จำเป็นว่าต้องมีเพื่อป้องชีวิตอย่างเพื่อนที่ต้องทำงานในสามจังหวัดชายแดนใต้ หรือต้องรบกับศัตรูพืชไร่ แต่อยากได้เพราะเห็นคนอื่นมี ก็อยากมีบ้างตามกระแส ยังไงราคามันก็ไม่ลง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆและเงินใช้สำหรับเอามาถลุงลูกปืนเล่นมีไม่เยอะและไปเบียดเบียนความจำเป็นอย่างอื่น ก็อย่าไปซื้อมันเลยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 04, 2008, 10:38:04 PM 8)
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มีนาคม 05, 2008, 12:08:46 AM ผมเริ่มสนใจปืนตอนปี 44...
ตอนนั้นกล็อกกระบอกละ 45 เค ทองบาทละ 7+ เค... ตอนนี้กล็อกกระบอกละ 70 เค ทองบาทละ 14+ เค... ผมว่าปืนขึ้นน้อยกว่าทองหน่อยนึงครับ...:D หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: pira ที่ มีนาคม 05, 2008, 12:12:13 AM คร้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว หากผู้ใดต้องการมีรถแท้กซี่ นอกจากจะต้องซื้อตัวรถแล้ว จะต้องซื้อทะเบียนรถแท้กซี่ซึ่งมีราคาเท่ากับ หรือแพงกว่าตัวรถแท็กซี่ด้วย สรุปคือจ่ายเป็น 2 เท่า จนมีการขายทะเบียนรถแท้กซี่กันเอิกเกริก และราคาสูงขึ้นทุกวัน ก็คงเหมือนกับราคาปืนสมัยนี้ ถ้าต้องการให้ราคาปืนลดลง จึงอยู่ที่รัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ทราบมาว่า ท่าน รมต.มหาดไทย คนใหม่ เป็นบุคคลชื่นชอบปืนเช่นกัน ถ้าท่านคิดจะแก้ไขจริงจัง น่าจะทำได้ :)
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: ขยมน้อย ที่ มีนาคม 05, 2008, 12:33:38 AM คนเงินเดือนน้อย ก็ได้แต่ทำใจละครับ ::012:: :~)
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ มีนาคม 05, 2008, 07:28:51 AM คร้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว หากผู้ใดต้องการมีรถแท้กซี่ นอกจากจะต้องซื้อตัวรถแล้ว จะต้องซื้อทะเบียนรถแท้กซี่ซึ่งมีราคาเท่ากับ หรือแพงกว่าตัวรถแท็กซี่ด้วย สรุปคือจ่ายเป็น 2 เท่า จนมีการขายทะเบียนรถแท้กซี่กันเอิกเกริก และราคาสูงขึ้นทุกวัน ก็คงเหมือนกับราคาปืนสมัยนี้ ถ้าต้องการให้ราคาปืนลดลง จึงอยู่ที่รัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ทราบมาว่า ท่าน รมต.มหาดไทย คนใหม่ เป็นบุคคลชื่นชอบปืนเช่นกัน ถ้าท่านคิดจะแก้ไขจริงจัง น่าจะทำได้ :) กรณีนี้ชัดเจนครับ................. สมัยก่อน มีการจำกัด"โควต้า"รถแท๊กซี่ใน กทม. ทำให้เพิ่มจำนวนรถแท๊กซี่ไม่ได้(ถ้าจำไม่ผิด แค่สองหมื่นคัน ทั้งกรุงเทพฯ)....................รถก็เก่าลงๆทุกวันจนโทรม จะใช้รถแท๊กซี่ที รอเรียกจนเมื่อย กว่าจะวิ่งผ่านมาสักคัน.................คนที่มีโควต้ารถแท๊กซี่ในมือ ก็ซื้อ-ขายกันแพงๆ รถโทรมๆ ขายกันสมัยนั้น แปดแสน (ในขณะที่โตโยต้า โคโรน่า 2.0 ขายในโชร์รูม ห้าแสนกว่า)...................จนมีการปลอมทะเบียนสวมรถให้เป็นสอง-สามคัน แล้วให้วิ่งคนละฝั่งกทม. ................... มารัฐบาลนายกฯอานันท์ฯ ..............เปิดแท๊กซี่เสรี (ซึ่งตอนนั้นผมจำได้ว่า บรรดาเถ้าแก่เจ้าของโควต้ามาประท้วงกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้าฯ)เราจึงเห็นรถแท๊กซี่ใหม่ๆออกมาวิ่งกันเกลื่อน..............ตอนนี้ใครจะถอยรถแม๊กซี่มาวิ่ง ซื้อได้สบายๆ ผ่อนถูกด้วย................ ดังนั้น กรณีปืน หากยกเลิกโควต้าจำนวนสั่งเข้า หรือ โควต้าจำกัดจำนวนในการขาย...................ราคาลดลงแน่ครับ ตามกลไกตลาด.............. ซึ่งเราๆท่านๆ คงมีโอกาสได้สัมผัส ยี่ห้อและรุ่นที่ยังไม่เข้าเมืองไทยกันบ้าง............ กลัวไม่ทำจริงเท่านั้นแหละ................... หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ มีนาคม 05, 2008, 08:10:31 AM .. ;D..... :D...... 8)
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ มีนาคม 05, 2008, 08:36:04 AM ใกล้จะลงแล้วถ้ารัฐบาลหรือท่านนายกสมัครทำเรื่องจริงๆ....นะแต่ไม่รู้เมื่อไหร่นะ...แฮ่....ๆ.....ๆ.....ๆ ::008:: ::008:: ::008::
หัวข้อ: Re: ทำไมราคา up up up จะมี down ? เริ่มหัวข้อโดย: bigonesiam ที่ มีนาคม 05, 2008, 09:40:08 PM คร้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว หากผู้ใดต้องการมีรถแท้กซี่ นอกจากจะต้องซื้อตัวรถแล้ว จะต้องซื้อทะเบียนรถแท้กซี่ซึ่งมีราคาเท่ากับ หรือแพงกว่าตัวรถแท็กซี่ด้วย สรุปคือจ่ายเป็น 2 เท่า จนมีการขายทะเบียนรถแท้กซี่กันเอิกเกริก และราคาสูงขึ้นทุกวัน ก็คงเหมือนกับราคาปืนสมัยนี้ ถ้าต้องการให้ราคาปืนลดลง จึงอยู่ที่รัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ทราบมาว่า ท่าน รมต.มหาดไทย คนใหม่ เป็นบุคคลชื่นชอบปืนเช่นกัน ถ้าท่านคิดจะแก้ไขจริงจัง น่าจะทำได้ :) กรณีนี้ชัดเจนครับ................. สมัยก่อน มีการจำกัด"โควต้า"รถแท๊กซี่ใน กทม. ทำให้เพิ่มจำนวนรถแท๊กซี่ไม่ได้(ถ้าจำไม่ผิด แค่สองหมื่นคัน ทั้งกรุงเทพฯ)....................รถก็เก่าลงๆทุกวันจนโทรม จะใช้รถแท๊กซี่ที รอเรียกจนเมื่อย กว่าจะวิ่งผ่านมาสักคัน.................คนที่มีโควต้ารถแท๊กซี่ในมือ ก็ซื้อ-ขายกันแพงๆ รถโทรมๆ ขายกันสมัยนั้น แปดแสน (ในขณะที่โตโยต้า โคโรน่า 2.0 ขายในโชร์รูม ห้าแสนกว่า)...................จนมีการปลอมทะเบียนสวมรถให้เป็นสอง-สามคัน แล้วให้วิ่งคนละฝั่งกทม. ................... มารัฐบาลนายกฯอานันท์ฯ ..............เปิดแท๊กซี่เสรี (ซึ่งตอนนั้นผมจำได้ว่า บรรดาเถ้าแก่เจ้าของโควต้ามาประท้วงกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้าฯ)เราจึงเห็นรถแท๊กซี่ใหม่ๆออกมาวิ่งกันเกลื่อน..............ตอนนี้ใครจะถอยรถแม๊กซี่มาวิ่ง ซื้อได้สบายๆ ผ่อนถูกด้วย................ ดังนั้น กรณีปืน หากยกเลิกโควต้าจำนวนสั่งเข้า หรือ โควต้าจำกัดจำนวนในการขาย...................ราคาลดลงแน่ครับ ตามกลไกตลาด.............. ซึ่งเราๆท่านๆ คงมีโอกาสได้สัมผัส ยี่ห้อและรุ่นที่ยังไม่เข้าเมืองไทยกันบ้าง............ กลัวไม่ทำจริงเท่านั้นแหละ................... |