หัวข้อ: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: ninja_spl (ถูกแบนโดยบอร์ดอวป.) ที่ มีนาคม 17, 2008, 05:55:10 PM ทำไมจึงเรียก .22 ว่า " ลูกกรด "...
เนื่องจากเชื้อปะทุที่ใช้กับกระสุนขนาด .22 LR เป็นสารประกอบทางเคมีที่เตรียมขึ้นจากกรดไซยาไนท์ แล้วนำไปผสมกับสารอื่นๆเพื่อให้สะเทิ้นหรือเป็นกลาง ช่วยไม่ให้เกิดสนิมภายในลำกล้องได้ง่ายจากการทำ ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเนื้อโลหะของลำกล้อง คำว่า "ลูกกรด" จึงเป็นการเรียกเพื่อให้ทราบถึงที่มาของเชื้อปะทุที่ใช้ในกระสุนชนวนริมชนิดนี้ แม้ว่าในปัจจุบัน วิวัฒนาการในการผลิตเชื้อปะทุจะก้าวหน้าไปมากและเลิกใช้สารประกอบจากกรดไซยาไนท์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังเรียก ติดปากกระสุน .22 นี้ว่า " ลูกกรด " กันอยู่ ส่วนที่ว่า"ลมกรด" มันคือ ลมที่พัดผ่านเป็นพายุ ไม่เกี่ยวอะไรกับดินปืน.. เรามาดูว่า แก็ป มันมีความเป็นมาอย่างไร และ เกี่ยวกับ .22 lr. โดยตรง แต่ส่วนที่ว่า"ลมกรด" มันคือ ลมที่พัดผ่านเป็นพายุ ไม่เกี่ยวอะไรกับดินปืน.. ไม่ว่า กระสุนปืน ที่ใช้ดินดำ หรือดินปืน ทุกแบบ ต้องมีแก็ป เป็นส่วน ทำให้เกิดการเผาไหม้ ทั้งนั้น แก๊ปปืน เมื่อพูดถึงแก๊ปปืนดูเหมือนว่าใครๆก็รู้จัก แต่เมื่อพูดถึงความสำคัญอันแท้จริงของแก๊ปแล้ว บุคคลส่วนมากก็ทราบแต่เพียงว่าเป็นวัตถุสำหรับจุดดินปืนให้แปรสภาพเป็นแก๊สเท่านั้น ความจริงมีอยู่ว่า กระสุนปืนจะยิงได้ผลดีต้องมีการประสานงานในการปฏิบัติหน้าที่ของแก๊สและดินเป็นอย่างดี ถึงแม้ดินจะดีแก่แก๊ปส่งประกายไฟไม่ได้ส่วนสัด ไม่ได้ขนาดอันพอเหมาะพอดี นั่นก็คือมากบ้างน้อยบ้าง การเผาไหม้และการแปรสภาพเป็นแก๊สก็จะไม่ดี ถ้าแก๊ปไม่ส่งประกายไฟกระสุนก็ด้าน ถ้าแก๊ปส่งประกายไฟน้อยกระสุนก็ระเบิดช้า ถ้าแก๊ปส่งประกายไฟมากเกินกำหนดการเผาไหม้ของดินปืนก็ไม่ได้อัตราส่วนตามหลักการการควบคุมการเผาไหม้ของดินปืน แก๊ปปืนเป็นวัตถุระเบิดไม่ต้องการประกายไฟ ต้องการเพียงการทุบด้วยกำลังแรงเท่านั้นก็ระเบิดได้ ส่วนดินปืนต้องการประกายไฟหรือแก๊สร้อนจึงจะถูกเผาเป็นแก๊สขึ้น การกระเทือนไม่ทำให้ดินปืนระเบิด จากการค้นคว้ากันอย่างพิถีพิถัน ได้พบและรับรองกันอย่างแน่นอนว่า การเกิดสนิมในลำกล้อง มีสมุฏฐานอันสำคัญมาจากแก๊ปปืน ไม่ใช่มาจากดินปืนดังที่บุคคลส่วนมากเข้าใจ กระสุนตัวซ้ายสุด หัวแหลมๆคือ .22 CB Cap (Conical Ball Cap) (usually no gunpowder, just the primer) ซึ่งเป็นกระสุนโบราณ แก๊ปก็โบราณ แต่หน้าตัดกระสุน คือ .22เท่ากันกับ.22LR นี่ล่ะครับ แต่เนื่องจาก ไร้ดินขับ ใช้แก๊บล้วนๆ ซึ่งยิงแล้วเกิดเขม่า แถมยังเป็นแก๊ป Corrosive primers การกัดกร่อนสูง ถ้าไม่ล้างทำความสะอาดน่าจะเป็นที่มาของคำว่า"กรด" กลายเป็น "ชื่อ" แม้ในพรบ. หรือกฎกระทรวง แล้วเมื่อก่อน นักเลงปืนบ้านเรา ก็คงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับกระสุนขนาดเล็กมากนัก พอเห็นเป็น ลูกเล็กๆ ชนวนริม ก็เหมาเรียกเหมือนกันหมด ปัจจุบัน กระสุนทุกประเภท เปลี่ยนมาใช้Noncorrosive Primers หมดแล้วครับ ประวัติ ในสมัยก่อน ชุด (Match) เป็นปัจจัยสำคัญในการจุดดินภายหลังครั้งสุดท้ายก่อนที่มนุษย์จะค้นพบการประดิษฐ์แก๊ปขึ้นนั้น ผู้ใช้ก็นิยมใช้หินเหล็กไฟ ซึ่งเป็นการง่ายสะดวกสบายกว่าแทน ดังเช่นหลักการทุบตีให้ได้ประกายไฟของปืนคาบศิลาซึ่งชนชาวป่าของเราก็ยังใช้กันอยู่ในปัจจุบัน การวิวัฒนาการของปืนคาบศิลาในครั้งหลังนี้ได้เจริญรุ่งเรืองมาก จนสามารถใช้ยิงหวังผลได้ไกลถึงระยะ 200 หลา ซึ่งอาจนับได้ว่าเป็นการเพียงพอกับการล่าสัตว์ในประเทศไทยสมัยปัจจุบันได้อย่างดีทีเดียว แต่เป็นที่น่าเสียดาย เพราะการจุดดินแบบใช้หินเหล็กไฟไม่สามารถจะแก้ไขในเรื่องระยะเวลาของการสามารถจุดดินให้ติด, ให้สั้น, สิ้นเวลาน้อยลงเข้าอีกได้ การจุดดินของปืนคาบศิลาต้องใช้เวลานาน ภายหลังที่ได้เหนี่ยวไกปืนแล้ว ดินปืนมิได้เผาไหม้ทันทีได้เลย เพราะต้องเสียเวลารอคอยจนกว่าหินและเหล็กไฟกระทบกันจนเป็นประกายและลุกลาม ดินหู ซึ่งวางล่อไว้ก่อนจนกระทั่งไฟวิ่งไปจุดเผาดินปืน ระยะเวลาการตีติดและลุกลามเผาไหม้เริ่มแรกดังกล่าวก่อนถึงดินนั้น ไม่มีความแน่นอนตายตัวแต่อย่างใด บางทีก็ช้า บางทีก็ไว ซึ่งสรุปผลแล้วก็ทำให้การยิงปืนและการใช้ปืนเป็นไปไม่ได้อย่างสะดวกสบาย ปืนคาบศิลาทั่วๆไป ภายหลังการเหนี่ยวไกแล้ว ท่านต้องประคับประคองปืนไว้ให้ดี ต้องเสียเวลารอกว่าปืนจะระเบิดในการยิงสัตว์ในระยะใกล้ๆ บางครั้งเสียงดังซึ่งเกิดจากการตีของเหล็กและหินทำให้สัตว์รู้ตัว สามารถกระโดดหนีได้ก่อนปืนลั่นบ่อยๆเสมอ ดังนั้นต้องพยายามประคองและเตรียมตัววาดปืนตามติดสัตว์ไว้เสมอภายหลังการเหนี่ยวไก ท่าน Rev. Alexander Forsyth เป็นบุคคลแรกที่ได้คิดค้นพบหลักการใช้แก็ปปืนขึ้นในราวต้นศตวรรษที่ 19 ประสิทธิภาพของแก๊ปก็คือดินระเบิดชนิดที่ไม่ต้องใช้ไฟจุดนั่นเอง เพียงใช้การทุบจากนกสับหรือการแทงจากปลายเข็มแทงชนวนก็เกิดระเบิดเป็นประกายไฟหรือแปรสภาพเป็นแก๊สซึ่งมีความร้อนสูงจุดดิน การค้นพบแก๊ปช่วยบรรเทาให้การชักช้าเฉื่อยชาในการจุดดินน้อยลง ทำให้การยิงปืนแต่ละนัดรวดเร็วและไวขึ้นกว่าสมัยก่อนๆ (ท่านเป็นผู้คิดใช้แก๊ป แต่มิใช่ผู้ประดิษฐ์แก๊ป) ท่าน Forsyth เป็นนักกีฬาอาวุธปืนชั้นแนวหน้าของอังกฤษผู้หนึ่ง แนวความคิดของท่านในการค้นหลักการใช้แก๊ปก็เพียงประสงค์เพื่อแก้ไขปรับปรุงให้การยิงเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น เพราะได้ปรากฏหลายครั้งว่า เมื่อท่านเหนี่ยวไกปืนคาบศิลาสของท่านไปแล้ว และในขณะที่รอเวลากว่าปืนจะระเบิดปล่อยกระสุนออกไปนั้น นกที่ท่านเล็งอยู่ได้บินหนีรอดพ้นไปเสียก่อน หลักการใช้แก๊ปทำการจุดดินของท่านได้ทำการจดทะเบียนแบบไว้เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1807 ในสมัยนั้น นโปเลียน กำลังรุ่งเรืองอำนาจราชศักดิ์อยู่ และนโปเลียนเองก็เป็นนักการทหาร ซึ่งมีมันสมองชั้นนำสมัยอยู่แล้วในขณะนั้น เมื่อทราบข่าวผลของการ ประดิษฐ์แก๊ปขึ้นใช้ก็คิดเห็นประโยชน์อันใหญ่หลวงด้วยความปรีชาไว เพื่อจะนำแก๊ปไปใช้งานในทางการทหารของตน จึงได้ขอซื้อลิขสิทธิ์ในการคิดค้นเป็นจำนวนเงินถึง 20,000 ปาวนด์สเตอริงก์ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง แต่ก็น่าเศร้าใจที่ว่า กว่าคุณประโยชน์ของการใช้แก๊ปจะเป็นที่เข้าใจแก่บุคคลทั่วไป ก็ปรากฏว่าชีวิตของท่าน Forsyth ก็ได้สูญสิ้นไปเสียแล้ว ท่านจึงมิได้มีโอกาสเห็นความรุ่งเรืองของผลงานที่ท่านได้อุตสาห์ค้นคิดไว้ ด้วยประกายตาอันเปรมปรีย์ของท่านเอง คุณประโยชน์ของการใช้แก๊ป เพิ่งจะมาเข้าใจกันอย่างทราบ ซึ้งเมื่อปี ค.ศ.1840 ด้วยการดัดแปลงแก้ไขปรับปรุงขึ้นใหม่โดยท่านนายพันเอก Hawker รัฐบาลอังกฤษได้สละเงินจำนวน 1,000 ปาวนด์ เป็นบำเหน็จให้แก่ลูกหลานของท่าน Forsyth เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีที่ท่านได้กรุยทางไว้ หลักการ หลักการจุดดินในด้านอาวุธศึกษา หมายถึง การใช้ปฏิกิริยา ซึ่งเกิดจากการทุบตีส่วนผสมของวัตถุระเบิดจำนวนหนึ่ง นั่นก็คือแก๊ปปืนให้กลายเป็นความร้อนจุดเผาไหม้ ปฏิกิริยาทางเคมีได้เปลี่ยนสสารแข็งจำนวนหนึ่งกลายเป็นแก๊สโดยเร็ว การเปลี่ยนแปลงจากของแข็งเป็นแก๊สให้เป็นไปอย่างรวดเร็วทันทีทันใดนั้นเป็นมูลเหตุทำให้แก๊สแปรรูปเป็นเปลวประกายร้อน และในเปลวประกายร้อนนี้เองที่ทำการจุดดินปืน ส่วนผสมซึ่งเป็นวัตถุระเบิดต่างๆ ของแก๊ปมิได้เปลี่ยนแปลงเป็นแก๊สร้อนทั้งหมดยังมีส่วนซึ่งเป็นเศษหรือกากเหลือจากการระเบิดอยู่ ส่วนที่เหลืออยู่นี้ได้แตกกระจายเป็นละอองตกค้างอยู่ในปลอกกระสุนบ้าง ในรังเพลิงบ้างและในลำกล้องบ้าง เศษของแก๊ปที่ค้างนี้เองเป็นตัวการอันสำคัญของการเกิดสนิม ซึ่งเราจะได้พิจารณากันต่อไป 1. เมื่อสสารผสมซี่งเกิดจาก Potassium Chlorate และ Antimony Sulphide ได้รับความร้อนจากการทุบตีก็แปรสภาพเป็นฝุ่นละอองและแก๊สจำนวนหนึ่ง ในเวลาอันรวดเร็ว และทำให้เกิดความร้อนสูงถึง 3,500 องศาเซนติเกรด แต่กลับปรากฏว่าสสารผสมแบบนี้ไม่ค่อยว่องไวทันใจ 2. เมื่อสสารผสมซึ่งเกิดจาก Fulminate of Mercury และ Potassium Chlorate ได้รับความร้อนจากการทุบตีก็แปรสภาพเป็นฝุ่นละอองและแก๊สจำนวนหนึ่งมีความร้อนสูงถึง 4,500 องศาเซนติเกรด แต่ปรากฏว่าไม่ได้ประกายไฟมากดี แก๊ปที่ดีเหมาะสำหรับการจุดดินปืนได้แก่ เอาสสารผสม ข้อ1 และสสารผสมตามแบบข้อ2 ผสมกันเข้าอีกทีหนึ่ง แต่ Antimony Sulphide ราคาสูงมาก ดังนั้นผู้ผลิตจึงใช้ Stibnite เป็นตัวแทน ดังนั้นสสารผสมเป็นแก๊ปจึงเป็น 3 อย่างคือ 1. Mercury Fulminate 2. Stibnite 3. Potassium Chlorate แก๊ปซึ่งเกิดจากสสารผสมของสาร 3 อย่างนี้ เป็นแก๊ปปืนอย่างดี แต่มีส่วนเสียอันสำคัญคือ Mercury Fulminate เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับทองเหลืองซึ่งเป็นปลอกกระสุน ทำให้ปลอกกระสุนใช้ได้ไม่ทนทาน การอัดหรือบรรจุกระสุนไม่ได้กี่มากน้อยก็เสีย และกาก Potassium Chlorate ซึ่งเหลือจากการเผาไหม้ก็เป็นต้นเหตุของการเป็นสนิมลำกล้อง แต่โปแทสเซียมคลอไรท์นี้ดีอยู่หน่อยที่สลายตัวในน้ำ ดังนั้นภายหลังการใช้ปืนแล้วจึงควรชำระลำกล้องด้วยน้ำธรรมดาเสียก่อน เพื่อป้องกันการเป็นสนิมขึ้นภายหลังได้ เนื่องจากข้อบกพร่องดังกล่าว โรงงานผลิตกระสุนทั่วโลกต่างก็ค้นคิดประดิษฐ์หลักสูตรของการทำแก๊ปขึ้นใหม่ โดยการใช้สสารอย่างอื่นแทน เพื่อป้องกันมิให้สสารจากแก๊ปเป็นต้นเหตุของการเกิดสนิมขึ้นแก่ปืนต่อไป หลักสูตรในการค้นคิดเพื่อประดิษฐ์แก๊ปใหม่กันนั้นมีหลายแบบ ซึ่งได้สงวนเป็นความลับเพื่อผลประโยชน์ในด้านการค้ากันมาก แต่ที่ทราบมาได้พอเป็นประมาณสัณฐานก็เพียงแต่ว่า แก๊ปสมัยใหม่ซึ่งไม่ทำให้ลำกล้องปืนเป็นสนิมและไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับทองเหลืองของปลอกกระสุนได้มาจากส่วนผสมของสสารดังนี้ คือ 1. Lead Styphnate 2. Stibnite 3. Barium Nitrate 4. Tetrazene Tetrazene เป็นคำย่อให้สั้นของสสารผสมของ Guanyl มีปริมาณ 1 ส่วนผสมกับ Nitro-soaminoguanly Tetrazene ซึ่งมีปริมาณ 4 ส่วน แก๊ปซึ่งผลิตตามหลักสูตรใหม่นี้ดีสำหรับกระสุนเพื่อการใช้ของประชาชนเท่านั้น แต่ไม่เหมาะสมกับการใช้ในราชการทหาร เพราะการใช้ปืนของทางราชการทหาร หมายถึงการยิงกระสุนเป็นจำนวนมากๆ และลำกล้องปืนย่อมร้อนมาก เมื่อลำกล้องร้อนปรากฏว่าการใช้แก๊ปรุ่นใหม่นี้ยิงก็ยิ่งเพิ่มแสงไฟที่แลบทางปากกระบอกให้สว่างมากขึ้น ซึ่งจัดว่าไม่เป็นการดี เพราะทำให้ข้าศึกสังเกตตำแหน่งของผู้ยิงได้สะดวกขึ้น ถึงแม้ว่าแก๊ปที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ไม่มีสสารผสม ซึ่งจะทำให้เกิดสนิมในลำกล้องได้จริง แต่นี้มิได้หมายความว่า การทำความสะอาดปืนจะหมดความสำคัญลงไป เพราะลำกล้องของปืนเป็นเหล็ก ธรรมชาติของเหล็กย่อมจะเป็น อ๊อกไซด์ หรือสนิม เพราะปฏิกิริยาของอ๊อกซิเยนในอากาศเสมอ ดังนั้นการทำความสะอาดอาวุธภายหลังการยิงจึงยังต้องปฏิบัติกันทุกๆครั้งเสมอต่อไป ต้นเหตุอันสำคัญของการเป็นสนิมของหัวลูกเลื่อน เข็มแทงชนวน และเครื่องกลไกคือ การรั่วไหลพุ่งออกของแก๊สร้อน เมื่อขณะฝาครอบแก๊ปเป็นรูรั่ว บางครั้งท่านจะพบว่าเข็มแทงชนวนของปืนบางกระบอกยาวเกินไป เมื่อยิงปืนเข็มแทงชนวนจะแทงฝาครอบแก๊ปทะลุเข้าไปในกระสุน เป็นเหตุให้แก๊สร้อน ซึ่งเกิดจากดินพุ่งออกตามรูทะลุนี้ เมื่อมีเหตุการณ์ดังนี้เกิดขึ้นท่านควรจะต้องถอดเข็มแทงชนวนและเครื่องกลไกของปืนออกทำความสะอาดทันที และจัดการตัดปลายเข็มแทงชนวนออกเสียให้สั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เข็มแทงแก๊ปทะลุอีกได้ หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: Ninja 19 + รักในหลวง + ที่ มีนาคม 17, 2008, 06:10:38 PM ............... ;D ;D ขยันพิมพ์จัง ครับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: wasanami ที่ มีนาคม 17, 2008, 06:15:56 PM นินจา ต้อง เจอกับ นินจา ..... อิ อิ ..... ;D
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: nomember ที่ มีนาคม 17, 2008, 06:23:14 PM (http://img239.imageshack.us/img239/5568/p612450970yu8.gif)
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 17, 2008, 06:25:13 PM แปลมาไม่เก่งเลย อิ อิ
อย่างไรก็ตาม ปืนคาบชุด Match lock คือปืนที่จุดชนวนด้วยการลดก้านที่คีบสายชนวนไหม้ฃ้าติดไฟ (Match) ไว้ ลงมาจุดดินหู Match แปลว่าสายชนวนครับ ที่กลายมาเป็นคำว่าไม้ขีดนี่แหละ ไม่ใช่ชุด แต่ภาษาไทยเรียกว่าคาบชุด หลังจากยุคปนคาบชุด มีการใช้ปืน Wheel lock ก่อนถึงคาบศิลา คือปืนที่จุดชนวนด้วยการลดหินเหล็กไฟลงไปถูลูกล้อเหล็กที่ไชอัดไว้ ระบบนี้สร้างยากและแพง ต่อมาเลยใช้ปืนคาบชุดที่ใช้นกฟาดลงมากระทบเหล็กรูปตัว L เปิดฝาจุดดินหู ในภาพคือ Match lock ครับ หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: bacara ที่ มีนาคม 17, 2008, 06:28:32 PM ข้อมูลเเน่นอย่าบอกใคร ::002::
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ มีนาคม 17, 2008, 06:45:20 PM วันนี้มาแบบวิชาการเลยนะครับ ::002:: ::002:: ::005::
ผมสังเกตุหลายครั้ง หลังจากเคยได้ยิงลูกกรด ของ CZเป็นรุ่นM2E ( อ้างจาก: คุณ Wooddy ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2008, 09:37:19 AM ลูกกรด CZเป็นรุ่นM2E ครับ ซึ่งเป็นรุ่นเก่ามาก ความแม่นยำสูง หลายคนที่เป็นคอลูกกรดอยากจะได้ไว้ครอบครองนะครับ สังเกตุว่าพานท้ายหลังแข็ง หลังจากนั้นCZก็ทำM2eที่เป็นหลังอ่อนออกมาแทนครับ แล้วถึงจะมาเป็น452ครับ ) (http://www.watkhaokaew.com/pic/A0004.jpg) พบว่า เข็มแทงฉนวนจะไปตีบริเวณริมท้ายปลอก ไม่ใช่บริเวณกลางปลอก แต่ไม่ค่อยกล้าถาม ::005:: ::005:: ว่ามันมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร และเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น และปัจจุบันปืนรุ่นใหม่ๆขนาดเดียวกัน ยังคงใช้กระสุนชนวนริมอยู่หรือเปล่าครับ ............สู้เขา ทาเคชิ !!! หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: ภูกามยาว ที่ มีนาคม 17, 2008, 06:46:13 PM ท่านอ๋อ อ่านเองด้วยน่ะครับ ;)
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ มีนาคม 17, 2008, 07:20:52 PM เพื่อรักษามารยาทควรให้เครดิต ที่มาของข้อมูลด้วยครับ ..............
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: Supreeda ที่ มีนาคม 17, 2008, 07:22:20 PM ยังไงก็คิดให้ดีก่อนนะครับ ก่อนจะตัดปลายเข็มแทงชนวนน่ะ 8)
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ มีนาคม 17, 2008, 07:53:59 PM ขอบพระคุณครับ ......
http://www.gun.in.th/webboard/index.php/topic,40449.0.html ว่าแต่ท่าน "ninja_spl" ใช่ท่านเดียวกับ ท่าน "ปุ๊บปั๊บ UKBT 16" เจ้าของกระทู้ในกันอินหรือเปล่าครับ หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: aniki ที่ มีนาคม 17, 2008, 08:00:22 PM เข้ามาดู...จขกท.ครับผมเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ท่านได้ทักมาหลายกระทู้แล้ว....ไม่ละอายใจมั่งเลยเหรอครับ.
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ มีนาคม 17, 2008, 08:27:11 PM การให้Creditเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องให้เกียรติกับเจ้าของบทความน๊ะครับ
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ มีนาคม 17, 2008, 10:13:11 PM ขอบพระคุณพี่ RUGER ครับ ::014::
มืน่า :OO ผมถึงได้แปลกใจอยู่ครับ ว่าวันนี้ท่าน จขกท.มาแปลก ที่แท้ท่าน็เล่นเนียนๆไปแบบนี้นี่เอง เรียนท่านเจ้าของกระทู้ครับ การที่ท่านไปพบเห็น บทความ ข้อความดีๆที่ไหนเข้า และเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ จึงนำมาเผยแพร่ต่อนั้น ความจริงก็เป็นเรื่องดี เนื่องจากอาจมีหลายๆท่านไม่ทราบ แต่ท่านก็ต้องสมควรมีมารยาท โดยการแจ้งให้ทราบว่า ท่านไปนำบทความนั้นมาจากที่ไหน โดยใคร อยู่ในสังคมร่วมกัน ถ้าท่านไม่ช่วยสร้าง ก็ขอความกรุณาอย่าทำลายเลยครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:19:30 PM เข้ามาดู...จขกท.ครับผมเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ท่านได้ทักมาหลายกระทู้แล้ว....ไม่ละอายใจมั่งเลยเหรอครับ. ไม่ละอายใจมั่งเลยเหรอครับ.... ความเคารพ ::014:: ::014:: ลองให้โอกาสเขาหน่อย ผมว่าน่าจะดีน้า เราผู้สนใจอาวุธปืนเหมือนกัน แต่ถ้ายังมาแบบจินตนาการอีก ค่อยว่ากันใหม่อีกที ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: ห ม า ย จั น ท ร์ ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:23:57 PM พักนี้ บอร์ด ดูเงียบ ๆนะครับ รายชื่อสมาชิก ที่เข้าอ่านกระทู้ ก็เหลือสามแถว ::004::
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:28:07 PM ::014::คนไทย...จิ้งจกตุ๊กแกทัก ยังฟัง...นี่ผู้ใหญ่ที่ชาวปืนเคารพนับถือ ออกมาเตือน ไม่ฟังเลยหรือ...หรือว่าโพสไปเรื่อย...ไม่อ่าน
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: ninja_spl (ถูกแบนโดยบอร์ดอวป.) ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:36:21 PM ทำคุณบูชาโทษแท้ๆเลยครับเนี่ย ถือว่า อ่านไป.... บ่นไป ละกันครับ คิดแล้วกลุ้มจาย.... :VOV:
ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับคำติดชมครับ........ หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:45:37 PM วันนี้มาแบบวิชาการเลยนะครับ ::002:: ::002:: ::005:: ผมสังเกตุหลายครั้ง หลังจากเคยได้ยิงลูกกรด ของ CZเป็นรุ่นM2E ( อ้างจาก: คุณ Wooddy ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2008, 09:37:19 AM ลูกกรด CZเป็นรุ่นM2E ครับ ซึ่งเป็นรุ่นเก่ามาก ความแม่นยำสูง หลายคนที่เป็นคอลูกกรดอยากจะได้ไว้ครอบครองนะครับ สังเกตุว่าพานท้ายหลังแข็ง หลังจากนั้นCZก็ทำM2eที่เป็นหลังอ่อนออกมาแทนครับ แล้วถึงจะมาเป็น452ครับ ) (http://www.watkhaokaew.com/pic/A0004.jpg) พบว่า เข็มแทงฉนวนจะไปตีบริเวณริมท้ายปลอก ไม่ใช่บริเวณกลางปลอก แต่ไม่ค่อยกล้าถาม ::005:: ::005:: ว่ามันมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร และเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น และปัจจุบันปืนรุ่นใหม่ๆขนาดเดียวกัน ยังคงใช้กระสุนชนวนริมอยู่หรือเปล่าครับ ............สู้เขา ทาเคชิ !!! ยังไม่ได้คำตอบเลยอ่ะครับ :~) หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: w_bantit ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:47:57 PM ทำคุณบูชาโทษแท้ๆเลยครับเนี่ย ถือว่า อ่านไป.... บ่นไป ละกันครับ คิดแล้วกลุ้มจาย.... :VOV: :~) :~) :~)ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับคำติดชมครับ........ หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:49:30 PM ทำคุณบูชาโทษแท้ๆเลยครับเนี่ย ถือว่า อ่านไป.... บ่นไป ละกันครับ ว่าจะไม่พูดอะไรแล้ว แต่ตามประสาเสือกอดไม่ได้ ขอบอกซะหน่อยแล้วกันนะครับ ลองอ่านไปเรื่อยๆก่อน ยังไม่ต้องโพสมากมาย เพิ่งเข้ามาใหม่ มีอะไรให้อ่านได้เป็นวันๆ กว่าจะหมด อะไรไม่รู้ถามได้ เด๊ยวก็มีคนตอบให้ ขอให้ถามแบบสุภาพให้เกรียติผู้ที่จะมาตอบ ถ้าเห็นอะไรที่คุณรู้ว่าไม่ถูก ทักได้ไม่มีใครรู้ไปซะหมด แต่ขอให้รู้จริงก่อนจะทักใคร โพสอะไรให้มันมีสาระหน่อย ไม่ใช่นั่งเทียนเขียน หรือมั่วไปเรื่อย คนอ่านเค้าจะรำคาญ( เริ่มรำคาญแล้ว) คราวนี้เห็นเป็นครั้งที่โพสอะไรที่มีสาระ แต่ไปลอกเค้ามา ตามมารยาทแล้วก็ควรบอกว่าลอกมาจากไหน ก็แค่นั้น นี่พี่ๆ น้องๆเขาทักน่ะ ยังถือเค้ายังไม่รังเกียจ ถ้าเค้าเลิกทักเมื่อไหร่ล่ะก้อ เดี๋ยวก็อยู่ไม่ได้ ลองไปคิดดูนะครับ ไม่น่าที่ต้องให้บอกแบบนี้ หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มีนาคม 18, 2008, 12:23:34 AM ผมก็ว่าเพิ่งอ่านเรื่องนี้จากเวปเพื่อนบ้านไปหยกๆ...
แหม ลอกเขามาลงกันเฉยๆเลย... น่าจะให้เครดิทกันบ้างนะครับ... ที่ลอกมาน่ะสองท่านช่วยกันออกแรงพิมพ์มาให้พวกเราอ่านนะครับ... หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ มีนาคม 18, 2008, 12:34:42 AM วันนี้มาแบบวิชาการเลยนะครับ ::002:: ::002:: ::005:: ผมสังเกตุหลายครั้ง หลังจากเคยได้ยิงลูกกรด ของ CZเป็นรุ่นM2E ( อ้างจาก: คุณ Wooddy ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2008, 09:37:19 AM ลูกกรด CZเป็นรุ่นM2E ครับ ซึ่งเป็นรุ่นเก่ามาก ความแม่นยำสูง หลายคนที่เป็นคอลูกกรดอยากจะได้ไว้ครอบครองนะครับ สังเกตุว่าพานท้ายหลังแข็ง หลังจากนั้นCZก็ทำM2eที่เป็นหลังอ่อนออกมาแทนครับ แล้วถึงจะมาเป็น452ครับ ) (http://www.watkhaokaew.com/pic/A0004.jpg) พบว่า เข็มแทงฉนวนจะไปตีบริเวณริมท้ายปลอก ไม่ใช่บริเวณกลางปลอก แต่ไม่ค่อยกล้าถาม ::005:: ::005:: ว่ามันมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร และเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น และปัจจุบันปืนรุ่นใหม่ๆขนาดเดียวกัน ยังคงใช้กระสุนชนวนริมอยู่หรือเปล่าครับ ............สู้เขา ทาเคชิ !!! ยังไม่ได้คำตอบเลยอ่ะครับ :~) กระสุนฉนวนกลางจะเห็นแก๊ปจุดระเบิดอยู่ตรงกลางจานท้ายปลอกอย่างชัดเจนครับผม หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ มีนาคม 18, 2008, 12:54:49 AM พักนี้ บอร์ด ดูเงียบ ๆนะครับ รายชื่อสมาชิก ที่เข้าอ่านกระทู้ ก็เหลือสามแถว ::004:: คงไม่ค่อยมีเรื่องอะไรใหม่ๆให้น่าอ่าน น่าติดตาม หลายๆเรื่องก็อาจซ้ำๆกันถามไปถามมาเรื่องเดิมๆคนที่เล่นปืนนานๆก็คงเริ่มเบื่อไม่ค่อยสนุก กระสุนก็แพง ไม่ค่อยได้ไปสนามก็เลยหมดเรื่องที่จะเอามาคุย หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:03:22 AM เป็นพระคุณตาย- เลย
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: facty ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:15:16 AM ฝากผู้ดูแล เฝ้าติดตาม ninja_spl และชื่ออื่นๆ ผมตามอ่านแล้วน่ารำคาญ ไม่ได้ความรู้และสาระอะไร
หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:19:28 AM เป็นพระคุณตาย- เลย ข้อความนี้ขอสงวนสำหรับ จขกท เท่านั้น ขออภัยที่ทำให้สุภาพชนเคืองสายตาครับ หัวข้อ: Re: ที่มาของกระสุนลูกกรด .22 ชนวนริม เริ่มหัวข้อโดย: ปุ๊บปั๊บ UKBT 16 ที่ มีนาคม 25, 2008, 09:05:39 PM ขอบพระคุณครับ ...... http://www.gun.in.th/webboard/index.php/topic,40449.0.html ว่าแต่ท่าน "ninja_spl" ใช่ท่านเดียวกับ ท่าน "ปุ๊บปั๊บ UKBT 16" เจ้าของกระทู้ในกันอินหรือเปล่าครับ ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมลูกผู้ชาย ยืนไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่นแซ่ แม้แต่ ดีสเพลย์ก็ต้องเป็นรูปตัวเอง ยืนยันครับ |