เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 17, 2008, 10:56:14 PM



หัวข้อ: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 17, 2008, 10:56:14 PM
รัฐบาลเวียดนามสั่งการให้รัฐวิสาหกิจการรถไฟเวียดนามลงมือก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมภาคเหนือกับภาคใต้ความยาวกว่า 1,600 กิโลเมตรในปีนี้ เพื่อบริการในอีก 6 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันก็สั่งการให้เร่งปรับปรุงการขนส่งระบบรางที่มีอยู่ทั้งหมดในทั่วประเทศ

       
       การก่อสร้างและฟื้นฟูบูรณะการขนส่งระบบรางทั้งเก่าและใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ทั่วเวียดนามซึ่งจะเริ่มในปีนี้ รวมทั้งท่าเรือใหม่นับสิบแห่ง สนามบินแห่งใหม่และพัฒนายกระดับสนามบินเก่านับสิบแห่ง
       
       โครงการรถไฟความเร็วสูงหัวกระสุน (Bullet Train) นับเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เริ่มจากกรุงฮานอยไปยังนครโฮจิมินห์รวมระยะทาง 1,630 กิโลเมตร ด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 32,600 ล้านดอลลาร์ (หรือกว่า 1 ล้านล้านบาท)
       
       นายโห่เหงียะยวุ๋ง (Ho Nghia Dung) รัฐมนตรีกระทรวงการขนส่งเวียดนามได้ สั่งการไปยังบริษัทรถไฟแห่งเวียดนาม (Vietnam Railway Corporation) ให้เร่งดำเนินการ เมื่อไม่นานมานี้ หนังสือพิมพ์ข่าวเศรษฐกิจเวียดนาม หรือ TBKTVN (Thoi Bao Kinh Te Vietnam) กล่าว
       
       ระบบรถไฟหัวกระสุนของเวียดนามจะสามารถแล่นด้วยความเร็วได้ 200-300 กม.ต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 10 ชั่วโมง ในการเดินทางจากกรุงฮานอยไปยังโฮจิมินห์ เทียบกับรถไฟโดยสารในปัจจุบันที่ต้องใช้เวลา 28-30 ชั่วโมง


ภายใต้โครงการเดียวกันนี้จะต้องมีการพัฒนายกระดับหรือก่อสร้างใหม่สะพานรถไฟจำนวน 44 แห่งตั้งแต่เหนือจรดใต้ รวมทั้งสะพานลองเบียน (Long Bien Bridge) ซึ่งสะพานรถไฟในกรุงฮานอย เพื่อให้สามารถรองรับระบบรถไฟหัวกระสุนได้
       
       รัฐบาลเวียดนามได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปเป็นเงิน 150 ล้านยูโร สำหรับการก่อสร้างสะพานรถไฟลองเบียน TBKTVN กล่าว
       
       นอกจากนั้นจะต้องก่อสร้างทางรถไฟผ่านอุโมงค์ไฮวัน (Hai Van) ช่วงนครด่าหนัง (Danang) กับ จ.กว๋างนาม (Quang Nam) อุโมงค์แห่งนี้เปิดใช้ในปี 2548 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้างเจาะทะลุภูเขา 2 ลูก
       
       ภายในอุโมงค์ได้เว้นเนื้อที่เอาไว้สำหรับติดตั้งรางรถไฟในอนาคต อุโมงค์ไฮวันช่วยลดเวลาการสัญจรระหว่างฮานอย-โฮจิมินห์ให้สั้นลง 2 ชั่วโมง
       
       นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้สั่งการเมื่อปีที่แล้ว ให้บริษัทรถไฟเร่งก่อสร้างไฮสปีดเทรนพร้อมกันรวดเดียว โดยไม่ต้องแบ่งการก่อสร้างออกเป็นช่วงๆ เพื่อให้แล้วเสร็จตลอดสายในคราวเดียวกัน


รัฐบาลญี่ปุ่นได้ช่วยเหลือเวียดนามสำรวจความเป็นไปได้กับความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็วสูงมาตั้งแต่ปี 2549 โดยใช้เวลา 18 เดือน ที่ผ่านมามีการลงถึงพื้นที่ตลอดแนว มีการศึกษาผลกระทบต่อสังคมท้องถิ่นและสภาพแวดล้อมด้วย
       
       ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผลการสำรวจศึกษาดังกล่าว รัฐบาลเห็นว่าเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว การประกวดราคาหาผู้ก่อสร้างจะต้องเริ่มทันทีเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า สื่อของทางการเวียดนามกล่าว
       
       บริษัทต่างชาติหลายแห่งรวมทั้งกลุ่มซีเมนต์ (Seimens) จากเยอรมนี กับอาลสตอม (Alstom) จากฝรั่งเศส รวมทั้งบริษัทจากจีนได้ให้ความสนใจจะเข้าร่วมการก่อสร้างและจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือรวมทั้งเทคโนโลยีของระบบด้วย
       
       อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในที่สุดแล้วโครงการรถไฟหัวกระสุนเวียดนามก็อาจจะต้องใช้เทคโนโลยีระบบของญี่ปุ่น เนื่องจากการก่อสร้างโครงการนี้ ศึกษาโครงการโดยบริษัทและหน่วยงานพัฒนาของญี่ปุ่นและจะใช้เงินทุนเกือบทั้งหมดจากรัฐบาลญี่ปุ่น
       
       ญี่ปุ่นได้ตกลงเมื่อปี 2549 จะให้การสนับสนุนเงินทุนส่วนใหญ่แก่โครงการรถไฟความเร็วสูงของเวียดนาม แต่ยังไม่เคยมีการเปิดเผยเกี่ยวกับการจัดสรรเงินเพื่อการลงทุนดังกล่าว
       
       อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าวว่า รถไฟความเร็วสูงอาจจะใช้โมเดลเดียวกันกับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดิน สายแรกในนครโฮจิมินห์ที่ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อเดือนที่แล้ว

ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000031501



เราไม่มีเวลาทำ เพราะยังทะเลาะกันไม่เลิก  อีกหน่อยต้องขอไปดูงานที่เวียดนาม นะครับพี่น้องครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:14:33 PM



อีกไม่นาน    .........    ประเทศของเรา    ก็คงมีแบบนี้เหมือนกันครับ    ..........    อดทนรออีกนิด       ;)



ประเทศเวียดนาม    หลังจากสงครามสงบแล้ว    เพิ่งหันมาพัฒนา    ระบบขนส่งด้วยรถไฟ    .......    อย่างจริงจังเมื่อ    16 - 17    ปีก่อน    เท่านั้นเอง 

ประมาณปี    1990     .......    รัฐบาลเวียดนาม    จัดนิทรรศการเกี่ยวกับระบบรถไฟ    และ    การลงทุน    ....    (  ผมจำได้เพราะ    ผมต้องไปเกี่ยวข้องกับงานนั้น  )



ตอนนี้    ......    เขานำหน้าเราไปแล้ว        :)





   


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: รัตตรา ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:20:17 PM
ของเขาใช้พังเมื่อไหร่ ของเราคงเพิ่งเริ่มสร้าง  ดีจะได้รู้การแก้ปัญหา มันอาจจะเร็วจนบินหลุดไปชนควายข้างทางก็ได้นะ... ::005::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:27:03 PM
ของเขาใช้พังเมื่อไหร่ ของเราคงเพิ่งเริ่มสร้าง  ดีจะได้รู้การแก้ปัญหา มันอาจจะเร็วจนบินหลุดไปชนควายข้างทางก็ได้นะ... ::005::


ช่ายครับน้ารัตน์ เร็วแบบนั้นอันตรายจริงๆ  ::005::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:41:06 PM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มีนาคม 17, 2008, 11:45:01 PM

ของเขาใช้พังเมื่อไหร่ ของเราคงเพิ่งเริ่มสร้าง  ดีจะได้รู้การแก้ปัญหา มันอาจจะเร็วจนบินหลุดไปชนควายข้างทางก็ได้นะ   ...  ::005::




ถ้าผมจำไม่ผิด     .........    น่าจะเป็นที่    เยอรมัน        ..............      :OO  :OO


คงจะเป็น    ชิ้นส่วนอะไรสักอย่าง    มันหลุดออกมา      ..........     และ    ด้วยความเร็วที่สูงมาก      ............      พินาศทั้งขบวน       





หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: paiboon ที่ มีนาคม 18, 2008, 01:51:00 AM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ มีนาคม 18, 2008, 01:52:58 AM
คงต้องให้เวียตนามพิจารณา สั่งตัวเลือดและแมลงสาปจากร.ฟ.ท ไปใว้ในขบวนรถไฟสายใหม่ด้วย ;D


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:06:21 AM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า

ขอบคุณมากครับ คุณ paiboon.  :D.

ถ้าอัตราจ้างแรงงาน ไทยต่ำกว่า กว่าเวียตนาม  ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี ในเรื่องต้นทุน .การผลิต
สาเหตุ คงเกิดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง .. เป็นเรื่องที่หวังได้ยากกับการหวังมาลงทุน
ในประเทศเรา.. ขอเศร้าใจด้วยคนครับ..    แต่ต้องฝากความหวังส่วนหนึ่งไว้ กับวิสัยทัศน์
ของผู้นำประเทศครับ.  :)


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:24:21 AM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ท่าน paiboon ::014::


ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า

ขอบคุณมากครับ คุณ paiboon.  :D.

ถ้าอัตราจ้างแรงงาน ไทยต่ำกว่า กว่าเวียตนาม  ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี ในเรื่องต้นทุน .การผลิต
สาเหตุ คงเกิดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง .. เป็นเรื่องที่หวังได้ยากกับการหวังมาลงทุน
ในประเทศเรา.. ขอเศร้าใจด้วยคนครับ..    แต่ต้องฝากความหวังส่วนหนึ่งไว้ กับวิสัยทัศน์
ของผู้นำประเทศครับ.  :)



ผมว่าต้องฝากความหวังกับชนชั้นนำในสังคมทุกคนครับ  ว่าสนุกกันพอรึยัง  นายกฯตอนนี้แค่ไอก็โดนโจมตีแล้ว ท่านคงทำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ครับ

พูดแล้วก็ตลกร้ายนะครับ  ถ้าจะถามว่าอีก5ปี 10ปี หรือ20ปี ประเทศเราจะไปทางไหน ใครจะตอบได้บ้าง หรือไม่มีใครสนใจเลย  ::003::

ด้วยความเคารพครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:46:12 AM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า

ขอบคุณมากครับ คุณ paiboon.  :D.

ถ้าอัตราจ้างแรงงาน ไทยต่ำกว่า กว่าเวียตนาม  ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี ในเรื่องต้นทุน .การผลิต
สาเหตุ คงเกิดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง .. เป็นเรื่องที่หวังได้ยากกับการหวังมาลงทุน
ในประเทศเรา.. ขอเศร้าใจด้วยคนครับ..    แต่ต้องฝากความหวังส่วนหนึ่งไว้ กับวิสัยทัศน์
ของผู้นำประเทศครับ.  :)

ตอนนี้เราได้ฝากความหวังไว้กับคนที่เราได้เลือกเข้าไปแล้ว

ยังไงก็คงต้องให้พวกท่านได้ทำตามหน้าที่กันก่อนค่ะ   :)


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:48:47 AM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า

ขอบคุณมากครับ คุณ paiboon.  :D.

ถ้าอัตราจ้างแรงงาน ไทยต่ำกว่า กว่าเวียตนาม  ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี ในเรื่องต้นทุน .การผลิต
สาเหตุ คงเกิดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง .. เป็นเรื่องที่หวังได้ยากกับการหวังมาลงทุน
ในประเทศเรา.. ขอเศร้าใจด้วยคนครับ..    แต่ต้องฝากความหวังส่วนหนึ่งไว้ กับวิสัยทัศน์
ของผู้นำประเทศครับ.  :)

ตอนนี้เราได้ฝากความหวังไว้กับคนที่เราได้เลือกเข้าไปแล้ว

ยังไงก็คงต้องให้พวกท่านได้ทำตามหน้าที่กันก่อนค่ะ   :)


หวัดดีครับ คุณหน่อย เข้าดึกนะครับ  ;D


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:54:54 AM
สวัสดีค่ะพี่เบิ้ม กะดึกค่ะ

พี่เบิ้มก็ยังนอนดึกเหมือนเดิมนะคะ  :D


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:56:54 AM
สวัสดีค่ะพี่เบิ้ม กะดึกค่ะ

พี่เบิ้มก็ยังนอนดึกเหมือนเดิมนะคะ  :D


ขยัน รับจ๊อบครับ กลางคืนเป็นยาม ไม่งั้นกลับบ้านนอนสบายๆแล้วครับ  :D


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ มีนาคม 18, 2008, 03:02:20 AM
สวัสดีค่ะพี่เบิ้ม กะดึกค่ะ

พี่เบิ้มก็ยังนอนดึกเหมือนเดิมนะคะ  :D


ขยัน รับจ๊อบครับ กลางคืนเป็นยาม ไม่งั้นกลับบ้านนอนสบายๆแล้วครับ  :D

ขยันดีค่ะ  ::002::

เป็นยามห้ามนอนหลับนะคะ ระวังเจอขโมยมาสะกิดให้เปิดประตู  ::005::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: paiboon ที่ มีนาคม 18, 2008, 06:56:44 AM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า

ขอบคุณมากครับ คุณ paiboon.  :D.

ถ้าอัตราจ้างแรงงาน ไทยต่ำกว่า กว่าเวียตนาม  ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี ในเรื่องต้นทุน .การผลิต
สาเหตุ คงเกิดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง .. เป็นเรื่องที่หวังได้ยากกับการหวังมาลงทุน
ในประเทศเรา.. ขอเศร้าใจด้วยคนครับ..    แต่ต้องฝากความหวังส่วนหนึ่งไว้ กับวิสัยทัศน์
ของผู้นำประเทศครับ.  :)

เรียนคุณ Ro@d
    ความหมายของคำว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย คือในเวลา 1 ชั่วโมง แรงงานสามารถสร้างงาน ผลิตสินค้า ปฏิบัติงาน มีมูลค่าเท่ากับ 213.6 บาทต่อคน  ขณะที่ประเทศ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95  บาทต่อคน
    ไม่ใช่ค่าแรงงานไทยต่ำกว่า นะครับ  ถ้าเรื่องค่าแรงประเทศไทย ถือว่าอยู่ในระดับแพง ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่ง อย่างเวียดนาม
     ผมมีเพื่อนและคนรู้จักเปิดโรงงานทั้งขนาดกลางและใหญ่  ได้ปิดโรงงานในไทยไปเปิดที่เวียดนาม ได้ข้อมูลน่าสนใจมาอย่างไม่คาดคิด ว่าแรงงานไทยผลิตจะตกฮวบฮาบเมื่อ ไกล้เวลาพัก 30 นาที เช่น พักสี่โมงเช้า  พักเที่ยง  พักสามโมงเย็น และก่อนเลิกงาน  นอกจากนั้นยังมีวันหวยออก  วันเปียแชร์   ยังมีอีกครับเมืองไทยมีวันหยุดเยอะนอกจากวันเสาร์-อาทิตย์  และยังมีแตกต่างกันอีกหลายอย่าง ครับ


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:14:51 AM
ความสามัคคีและรักชาติ นำพาให้ชาติมาสู่ความเจริญ...


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:23:24 AM
ถ้าของเราจะทำไม่ต้องให้ความเร็วถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ.... เสียว ไม่กล้านั่ง  ::003::   ขอแค่ความเร็วที่ใช้วิ่งอยู่ที่ขั้นต่ำ ๑๒๐ กม. ความเร็วสูงสุด ๑๖๐ กม.  ก็เหลือเฟือแล้ว  เพราะไม่ต้องติดไฟแดง  แต่ต้องเป็นแบบมากกว่ารางเดียว  ไม่งั้นต้องรอรถสวนกันหลายเพลาอีก :D


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:33:47 AM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า

ถ้าเผื่อเคยทำงานกับเวียดนาม จะทราบว่าระบบเขายังมีเรื่องที่ต้องปรับปรุงหลายอย่าง ซึ่งส่วนตัวผมหวีงว่าเขาจะปรับปรุงและพัฒนาให้ประเทศเจริญได้ ความจริงของโลกสมัยนี้ไม่ใช่ zero-sum game คือถ้าเขาเริญแสดงว่าเราต้องเสียอะไรไป เหมือนอย่างวงพนัน แต่เป็นการร่วมกันได้ประโยชน์จากความเจริญของชาติอื่นๆ โดยเฉพาะชาติใกล้เคียง มีเพื่อนบ้านฐานะมั่นคงย่อมดีกว่าอยู่ติดสลัมครับ


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:37:07 AM
ฃ่วงต้นศตวรรษที่ 20 ชาติต่างๆ ใช้นโยบายแบบ zero-sum game โดยตั้งกลุ่มทุนสำรองโลหะเงิน และกลุ่มกีดกันทางเศรษฐกิจ ทำไปทำมา เชิญหน้ากันจนเป็นแรงหนึงที่นำไปสู่สงครามโลก


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:51:21 AM
 ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า


ขอบคุณมากครับ คุณ paiboon.  .

ถ้าอัตราจ้างแรงงาน ไทยต่ำกว่า กว่าเวียตนาม  ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี ในเรื่องต้นทุน .การผลิต
สาเหตุ คงเกิดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง .. เป็นเรื่องที่หวังได้ยากกับการหวังมาลงทุน
ในประเทศเรา.. ขอเศร้าใจด้วยคนครับ..    แต่ต้องฝากความหวังส่วนหนึ่งไว้ กับวิสัยทัศน์
ของผู้นำประเทศครับ. 


เรียนคุณ Ro@d
    ความหมายของคำว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย คือในเวลา 1 ชั่วโมง แรงงานสามารถสร้างงาน ผลิตสินค้า ปฏิบัติงาน มีมูลค่าเท่ากับ 213.6 บาทต่อคน  ขณะที่ประเทศ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95  บาทต่อคน
    ไม่ใช่ค่าแรงงานไทยต่ำกว่า นะครับ  ถ้าเรื่องค่าแรงประเทศไทย ถือว่าอยู่ในระดับแพง ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่ง อย่างเวียดนาม
     ผมมีเพื่อนและคนรู้จักเปิดโรงงานทั้งขนาดกลางและใหญ่  ได้ปิดโรงงานในไทยไปเปิดที่เวียดนาม ได้ข้อมูลน่าสนใจมาอย่างไม่คาดคิด ว่าแรงงานไทยผลิตจะตกฮวบฮาบเมื่อ ไกล้เวลาพัก 30 นาที เช่น พักสี่โมงเช้า  พักเที่ยง  พักสามโมงเย็น และก่อนเลิกงาน  นอกจากนั้นยังมีวันหวยออก  วันเปียแชร์   ยังมีอีกครับเมืองไทยมีวันหยุดเยอะนอกจากวันเสาร์-อาทิตย์  และยังมีแตกต่างกันอีกหลายอย่าง ครับ
 
 


ประเทศเราเป็นประเทศที่รับจ้างผลิต และก็รับจ้างผลิตโดยไม่ได้ คิดนวัตกรรมและปรับปรุงจากงานที่เรารับจ้างผลิตให้เป็นของเรา พอดีแรงงานเราเริ่มมีการศึกษาเพิ่มขึ้นค่าแรงแพงขึ้น นายทุนก็ต้องย้ายไปประเทศที่แรงงานถูกกว่า นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ส่งเสริมการพัฒนาการทางด้านการศึกษา โดยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์ อย่างจริงจัง ประกอบการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ผมจำไม่ได้ว่า เราหันมามองคุณภาพของคนแผนไหน แต่จำได้ว่าเป็นแผนท้ายๆ  และนักการเมืองที่ขาดวิสัยทัศน์  การเมืองไม่นิ่ง อย่าแปลกใจครับถ้าเราจะตามหลังชาวบ้านเขา


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ มีนาคม 18, 2008, 07:51:47 AM
เคยได้ยินเหมือนกันครับ..ตอนไปเที่ยว.ต่อไปแมงกะไซที่เวียดนามคงน้อยลง.... :D


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มีนาคม 18, 2008, 08:03:28 AM
ดีใจแทนเพื่อนบ้านด้วยครับ
ประเทศเรายังโกงกันไม่เลิก แถมไม่ยอมจ่ายภาษี กู้เงินนอกมาสร้าง
ก็แบ่งงานให้พวกพ้องกินกันในเครือ ไม่นานก็พัง พอเช็คเจอความเลว
ก็บอกว่าอิจจา ไม่รักชาติ...
คงนั้งรถไฟโบราณแถมตัวเรือดเป็นเพื่อนไปอีก20ปี 


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ มีนาคม 18, 2008, 08:07:13 AM
ประเทศที่การเมืองนิ่ง..................แบบประชาธิปไตยแท้ๆ หรือ สังคมนิยม ตลอดจน สังคมนิยมที่แปรสภาพมาจากคอมมิวนิสต์...............

จะพัฒนาหรือปรับปรุงประเทศได้ง่าย เพราะนโยบายนิ่ง..............และเปลี่ยนแปลงตามวาระ...................

ของเราไม่นิ่ง...............


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ...แมวคราว... ที่ มีนาคม 18, 2008, 08:09:57 AM
ความอดทน  ความขยัน  ค่านิยมของคนในชาติสำคัญครับว่าจะเจริญมากน้อยแค่ไหน
เวียดนามที่ล้าหลังกว่าไทยก็เพราะติดอยู่ในสงครามอันยาวนาน

ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้นผมคิดว่าเป็นการขนส่งที่น่าสนใจไม่น้อย..........
ความปลอดภัยมากกว่าเครื่องบินนะ..........ผมว่า



หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 18, 2008, 08:42:04 AM
ความอดทน  ความขยัน  ค่านิยมของคนในชาติสำคัญครับว่าจะเจริญมากน้อยแค่ไหน
เวียดนามที่ล้าหลังกว่าไทยก็เพราะติดอยู่ในสงครามอันยาวนาน

ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้นผมคิดว่าเป็นการขนส่งที่น่าสนใจไม่น้อย..........
ความปลอดภัยมากกว่าเครื่องบินนะ..........ผมว่า



ความเร็วสูง ต้นทุนสูงครับ

ข้อดีคือรับภาระการโหลดได้เยอะกว่าเครื่องบินครับ

แต่ว่าจำเป็นจริงๆเหรอ ถึงต้องใช้ความเร็วสูง
(มองไปที่ตัวเลขข้างหน้าอีก6ปี)

ในปี2557 ผมว่าเวียตนามยังไม่ถึงจุดนั้น

แต่หากวางเผื่อไว้สำหรับอนาคตอันไกล ว่ากันอีกเรื่องหนึ่งครับ


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 18, 2008, 08:48:40 AM
ประเทศไทยมาไกลได้ถึงขนาดนี้นับว่าเก่งมากแล้วนะครับ...

คนไทยชอบเอาชนะครับ... เลยทำงานเป็นทีมไม่ได้ กล้าในเรื่องที่ให้ตัวเองเด่น แต่ไม่กล้าทำงานเป็นทีม... ฮา...

กระทรวงวัฒนธรรมน่าจะรับผิดชอบเรื่องความเจริญของประเทศได้ที่สุดครับ แต่ไม่ใช่เร็ววันเห็นทันตา... เช่นเสริมสร้างให้คนไทยมีค่านิยมที่อำนวยให้สร้างประเทศ... ตัวอย่างค่านิยมที่ผิดเช่น"ทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย" แต่เสริมการเคารพวินัย ไม่นิยมผู้ร่ำรวยจากการคดโกง ฯลฯ...

นายสมชายไม่เคยรู้ จนกระทั่งไปเรียนหนังสือที่ USA นักเรียนชาติอื่นจับตัวเป็นกลุ่มก้อนดีมาก... แต่นักเรียนไทยจับกลุ่มเหมือนกัน เป็นกลุ่มเล็กๆแล้วชิงดีชิงเด่น... ฮา


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มีนาคม 18, 2008, 09:34:49 AM
ข่าวนี้ ผมไม่ค่อยให้ความสนใจ ..ถือว่าเป็นการสร้างงานที่ไม่สอดคล้อง
กับสภาพ บ้านเมือง..  รถไฟที่จะใช้ความเร็ว ขนาดนี้ ต้องรองรับกับ เมืองทางธุรกิจ

แต่ เวียตนาม  เป็นประเทศ เกษตรกรรม มีความจำเป็นอันใดที่
จะใช้รถไฟที่มีความเร็ว ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชม.มาขนคน..
ปัจจุบัน ทางรถไฟที่เชื่อมระหว่าง-เหนือกับใต้ ต้องใช้การเดินทาง ที่ขนคน ใช้เวลา ๔๘ ชม +/-

มันน่าจะมีเจตนาอะไรที่ลึกไปกว่านี้ ซ่อนอยู่ อยู่ในข่าวนี้.  :)

    ปัจจุบันเวียดนามได้พัฒนาไปมากแล้ว  เมื่อห้าปีก่อนตามประเทศไทยมาติดจนเขาใช้คำว่า "หายใจรดต้นคอ" และหลายประเทศได้ย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม 
    ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย 213.6 บาท/คน/ชั่วโมง  ขณะที่ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95 บาท/คน/ชั่วโมง 
     ถ้าผมเป็นเจ้าของทุนต้องตัดสินใจว่าจะไปจ้างแรงงานที่ใหนดี  เป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับประเทศเรา เมื่อก่อนเขามาดูงานที่ไทย  อีกไม่นานเราจะได้ไปดูงานที่เวียดนาม  แม้แต่ดูงานด้านการศึกษา อีกไม่นานเกินรอ  คิดแล้วเศร้า

ขอบคุณมากครับ คุณ paiboon.  :D.

ถ้าอัตราจ้างแรงงาน ไทยต่ำกว่า กว่าเวียตนาม  ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี ในเรื่องต้นทุน .การผลิต
สาเหตุ คงเกิดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง .. เป็นเรื่องที่หวังได้ยากกับการหวังมาลงทุน
ในประเทศเรา.. ขอเศร้าใจด้วยคนครับ..    แต่ต้องฝากความหวังส่วนหนึ่งไว้ กับวิสัยทัศน์
ของผู้นำประเทศครับ.  :)

เรียนคุณ Ro@d
    ความหมายของคำว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน ไทย คือในเวลา 1 ชั่วโมง แรงงานสามารถสร้างงาน ผลิตสินค้า ปฏิบัติงาน มีมูลค่าเท่ากับ 213.6 บาทต่อคน  ขณะที่ประเทศ เวียดนาม  สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน 378.95  บาทต่อคน
    ไม่ใช่ค่าแรงงานไทยต่ำกว่า นะครับ  ถ้าเรื่องค่าแรงประเทศไทย ถือว่าอยู่ในระดับแพง ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่ง อย่างเวียดนาม
     ผมมีเพื่อนและคนรู้จักเปิดโรงงานทั้งขนาดกลางและใหญ่  ได้ปิดโรงงานในไทยไปเปิดที่เวียดนาม ได้ข้อมูลน่าสนใจมาอย่างไม่คาดคิด ว่าแรงงานไทยผลิตจะตกฮวบฮาบเมื่อ ไกล้เวลาพัก 30 นาที เช่น พักสี่โมงเช้า  พักเที่ยง  พักสามโมงเย็น และก่อนเลิกงาน  นอกจากนั้นยังมีวันหวยออก  วันเปียแชร์   ยังมีอีกครับเมืองไทยมีวันหยุดเยอะนอกจากวันเสาร์-อาทิตย์  และยังมีแตกต่างกันอีกหลายอย่าง ครับ


ขอบคุณมากครับ คุณ paiboon..  :D. ที่กรุณาอธิบาย เป็นการความเข้าใจให้แก่ผมด้วย ครับ.  ::014::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 18, 2008, 10:56:44 AM
ประเทศไทยมาไกลได้ถึงขนาดนี้นับว่าเก่งมากแล้วนะครับ...

คนไทยชอบเอาชนะครับ... เลยทำงานเป็นทีมไม่ได้ กล้าในเรื่องที่ให้ตัวเองเด่น แต่ไม่กล้าทำงานเป็นทีม... ฮา...

กระทรวงวัฒนธรรมน่าจะรับผิดชอบเรื่องความเจริญของประเทศได้ที่สุดครับ แต่ไม่ใช่เร็ววันเห็นทันตา... เช่นเสริมสร้างให้คนไทยมีค่านิยมที่อำนวยให้สร้างประเทศ... ตัวอย่างค่านิยมที่ผิดเช่น"ทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย" แต่เสริมการเคารพวินัย ไม่นิยมผู้ร่ำรวยจากการคดโกง ฯลฯ...
นายสมชายไม่เคยรู้ จนกระทั่งไปเรียนหนังสือที่ USA นักเรียนชาติอื่นจับตัวเป็นกลุ่มก้อนดีมาก... แต่นักเรียนไทยจับกลุ่มเหมือนกัน เป็นกลุ่มเล็กๆแล้วชิงดีชิงเด่น... ฮา



 ::002::  ::002::  ::002::

ไว้มีโอกาสต้องขอหุ้นเด็ดๆจากพี่สมชาย(ฮา)บ้างครับ  :D



หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ใหญ่_ขอนแก่น ที่ มีนาคม 18, 2008, 12:52:05 PM
ดีใจแทนเพื่อนบ้านด้วยครับ
ประเทศเรายังโกงกันไม่เลิก แถมไม่ยอมจ่ายภาษี กู้เงินนอกมาสร้าง
ก็แบ่งงานให้พวกพ้องกินกันในเครือ ไม่นานก็พัง พอเช็คเจอความเลว
ก็บอกว่าอิจจา ไม่รักชาติ...
คงนั้งรถไฟโบราณแถมตัวเรือดเป็นเพื่อนไปอีก20ปี 
ประเทศไทยมาไกลได้ถึงขนาดนี้นับว่าเก่งมากแล้วนะครับ...

คนไทยชอบเอาชนะครับ... เลยทำงานเป็นทีมไม่ได้ กล้าในเรื่องที่ให้ตัวเองเด่น แต่ไม่กล้าทำงานเป็นทีม... ฮา...

กระทรวงวัฒนธรรมน่าจะรับผิดชอบเรื่องความเจริญของประเทศได้ที่สุดครับ แต่ไม่ใช่เร็ววันเห็นทันตา... เช่นเสริมสร้างให้คนไทยมีค่านิยมที่อำนวยให้สร้างประเทศ... ตัวอย่างค่านิยมที่ผิดเช่น"ทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย" แต่เสริมการเคารพวินัย ไม่นิยมผู้ร่ำรวยจากการคดโกง ฯลฯ...

นายสมชายไม่เคยรู้ จนกระทั่งไปเรียนหนังสือที่ USA นักเรียนชาติอื่นจับตัวเป็นกลุ่มก้อนดีมาก... แต่นักเรียนไทยจับกลุ่มเหมือนกัน เป็นกลุ่มเล็กๆแล้วชิงดีชิงเด่น... ฮา

 ;D  ขอUpให้ 8)


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: a lone wolf ที่ มีนาคม 18, 2008, 01:11:34 PM
 >:(
ถ้าพระพุทธเจ้าหลวงท่านทรงฟื้นคืนพระชนม์ชีพมาในวันนี้
พระองค์ท่านคงดีใจปลาบปลื้มกับทางหลวงทางด่วนลอยฟ้าสารพัดในประเทศของเรา (อันนี้เราเหนือกว่าเวียดนามเยอะครับ  อีกยี่สิบปีผมว่าเวียดนามก็ไม่มีทางทาบเราได้)
แต่หากพระองค์ท่านมองทางรถไฟ ขบวนรถ หรือบริการที่ รฟท มีให้
พระองค์ท่านคงผิดหวังมาก อาจถึงกับทรงรำพึงว่าลูกหลานรุ่นหลังทำไมสร้างทางต่อยอดจากที่พระองค์ท่านวางรากฐานเอาไว้ได้นิดเดียว
ส่วนการบริการนั้นถอยหลังเข้าคลองไปมาก
จากบริการที่ร่ำลือกันไปทั่วเอเชียอาคเนย์สมัยกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน มาจนถึงทุกวันนี้เราต้องร่ำลือกันเรื่องตัวเรือดบนขบวนรถแทน

ผมก็แปลกใจครับว่าทำไมทางรถไฟไทยมันมีน้อยจัง
ในขณะที่ถนนก็สร้างเอ๊าสร้างเอา
หรือสร้างถนนมันคุ้มกว่าทางรถไฟ  เข้าถึงทุกอำเภอทุกตำบลได้ง่ายกว่า คุ้มกว่า
ถึงลงทุนสร้างไปคนก็ใช้บริการน้อยอยู่ดี เลยจะไม่ถึงจุดคุ้มทุน

หรือสร้างถนนมันเอื้อให้ผู้รับเหมาและผู้อนุมัติสร้างได้มากกว่า  เขาถึงสร้างถนนกันจัง
แต่เอ  ประเทศที่ถนนดีๆจำนวนมากๆ อย่างอเมริกา หรือในยุโรป  เขาก็มีทางรถไฟมากนี่ครับ

ใครช่วยไขข้อสงสัยทีเถอะครับ

ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงในเมืองไทยนั้นผมไม่กล้าคิดครับ
ขอแค่รถไฟรางคู่ทุกเส้นทางไม่ต้องรอหลีกนี่ก็ดีใจแย่แล้ว
นั่งรถไฟไปตรังทีไรไม่เคยถึงตรงเวลาเลย  อิอิ ;D


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มีนาคม 18, 2008, 01:47:26 PM
มีรถไฟความเร็วสูง จาก กทม -ชม ผม จะไม่ต้องซื้อบ้านอยู่ กทม


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ฮิวโก้ ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:16:07 PM
 ;D...ไปมาแล้วครับ..เวียตนามพัฒนาไปมากๆ... ;D


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:19:45 PM
...ไปมาแล้วครับ..เวียตนามพัฒนาไปมากๆ

แล้วสาวๆที่เวียดนามสวยไหมครับ


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ฮิวโก้ ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:39:08 PM
...ไปมาแล้วครับ..เวียตนามพัฒนาไปมากๆ

แล้วสาวๆที่เวียดนามสวยไหมครับ
;D.. ::002::... :D~ :D~


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: paloma ที่ มีนาคม 18, 2008, 02:40:37 PM
    เอ้าขอแสดงความเห็นหน่อย!! หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นเช่น มาเลย์ สิงคโปร์ เขมรหรือแม้กระทั่งลาว คนไทยจำนวนมากไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ผมมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังครับ(อดนินทาไม่ได้) จากมติการประชุมหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เมือปลายปีที่ผ่านมาที่ประชุมต้องการให้เชียงใหม่เป็น long stay สำหรับชาวญี่ปุ่นที่เกษียณอายุเนื่องจากคนกลุ่มนี้มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยจำนวนมหาศาล จากการศึกษา รายจ่ายเฉลี่ยของคนกลุ่มนี้คิดเป็นเงินไทยคือ 800,000 บาทต่อคน ต่อปี หากสามารถชักจูงให้เข้ามาอาศัยในเชียงใหม(และเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ)จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในเชียงใหม่และท้องถิ่นเหล่านั้นจำนวนมากก่อให้เกิดการจ้างงานในสาขาต่างๆ  ที่สำคัญคือทำให้บัณฑิตที่จบการศึกษาโดยเฉพาะด้านโรงแรมและการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมีงานทำ  เมื่อผมไปสอนป.โทในสถาบันของรัฐแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ผมได้เสนอความคิดกับนศ.ปริญญาโทในม.แห่งนั้นโดยให้อภิปรายถึงความเหมาะสมของนโยบายนี้ ปรากฎว่านศ.ปริญญาโทหลายท่านที่อายุมากต่อต้านโดยให้เหตุผลว่าพวกเราอยู่กันอย่างมีความสุขอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องชักชวนชาวญี่ปุ่นที่เกษียณอายุมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเราเลย.......
     อีกกรณีหนึ่งก็คือหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เสนอว่าควรมีการสร้างรถไฟความเร็วสูงระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสิ่งใฝ่ฝันของคนจำนวนมาก เนื่องจากการเดินทางจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่โดยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 13-15ชั่วโมง ปรากฏว่า เริ่มมีเสียงต่อต้านจากคนบางกลุ่ม ที่เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน(NGO)เหตุผลคือการทำลายธรรมชาติ ไม่ต้องพูดเรื่องการสร้างเขื่อนและอีกหลายโครงการที่จะสร้างประโยชน์ในระยะยาวนะครับ พอเริ่มปุ๊บ จะมีกระแสการต่อต้านติดตามมาทันที
     ผมเลยคิดว่า เมืองไทยอยู่เฉยๆดีกว่า อย่าคิดทำนั่นทำนี่เลย ทะเลาะกันไม่เลิก ดูประเทศอื่นก้าวหน้าต่อไปด้วยใจสงบเหมือนเราดู เกาหลีใต้ที่มาดูงานแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เราเริ่มก่อนในปี 2504 บัดนี้เกาหลีใต้ทิ้งเราไม่เห็นฝุ่นทั้งที่เราอุดมสมบูรณ์กว่าสิบเท่า หลายท่านคงทราบแล้วนะครับว่าเวียดนามประกาศว่าจะเป็นประเทศอุตสาหกรรมเต็มตัวภายในอีก12ปีข้างหน้า แน่นอนว่าประเทศนี้ไม่ทิ้งภาคเกษตรแต่จะเน้นประสิทธิภาพในการผลิตอย่างเต็มที่เฉกเช่นญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ หากทุกท่านสังเกตุดูจะเห็นว่าเวียดนามมีประวัติการต่อสู้ อย่างโชกโชนเนื่องจากต้องผจญกับภัยสงครามนานหลายสิบปีคล้ายกับเกาหลีใต้และประเทศเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากลัทธิขงจื้อจากจีน จึงฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ต้องยอมรับว่าคุณภาพของคนก็ต่างจากเราดังที่หลายท่านกล่าวไว้ข้างต้น ต่อไปคงมีแรงงานไทยไปทำงานในเวียดนามเหมือนสิงคโปร์
     อีกชาติหนึ่งที่ดูถูกไม่ได้คือพม่า ซึ่งเข้ามาเป็นแรงงานก่อนแต่ปัจจุบันเลียนแบบคนจีนโพ้นทะเล ในยุคก่อนที่เริ่มทำธุรกิจและแต่งงานกับคนไทยจนซื้อบ้าน ที่ดิน มีกิจการที่คนไทยยังอาย(แถบอำเภอรอบนอกของเชียงใหม่) หากพวกเรายังไม่ไหวตัวและยังอยู่แบบสบายๆ ตัวใครตัวมันแบบนี้ต่อไปคงลำบากกันบ้างละครับ :-\ :-\ ::001:: ::014::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: S.V ที่ มีนาคม 18, 2008, 03:11:23 PM


ประเทศไทยมาไกลได้ถึงขนาดนี้นับว่าเก่งมากแล้วนะครับ...

คนไทยชอบเอาชนะครับ... เลยทำงานเป็นทีมไม่ได้ กล้าในเรื่องที่ให้ตัวเองเด่น แต่ไม่กล้าทำงานเป็นทีม... ฮา...

กระทรวงวัฒนธรรมน่าจะรับผิดชอบเรื่องความเจริญของประเทศได้ที่สุดครับ แต่ไม่ใช่เร็ววันเห็นทันตา... เช่นเสริมสร้างให้คนไทยมีค่านิยมที่อำนวยให้สร้างประเทศ... ตัวอย่างค่านิยมที่ผิดเช่น"ทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย" แต่เสริมการเคารพวินัย ไม่นิยมผู้ร่ำรวยจากการคดโกง ฯลฯ...

นายสมชายไม่เคยรู้ จนกระทั่งไปเรียนหนังสือที่ USA นักเรียนชาติอื่นจับตัวเป็นกลุ่มก้อนดีมาก... แต่นักเรียนไทยจับกลุ่มเหมือนกัน เป็นกลุ่มเล็กๆแล้วชิงดีชิงเด่น... ฮา


  รู้สึกอย่างนี้เหมือนกันครับ แถมอีกนิดเรื่องขี้โกงด้วย... ::012::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 19, 2008, 09:54:29 AM
>:(
ถ้าพระพุทธเจ้าหลวงท่านทรงฟื้นคืนพระชนม์ชีพมาในวันนี้
พระองค์ท่านคงดีใจปลาบปลื้มกับทางหลวงทางด่วนลอยฟ้าสารพัดในประเทศของเรา (อันนี้เราเหนือกว่าเวียดนามเยอะครับ  อีกยี่สิบปีผมว่าเวียดนามก็ไม่มีทางทาบเราได้)
แต่หากพระองค์ท่านมองทางรถไฟ ขบวนรถ หรือบริการที่ รฟท มีให้
พระองค์ท่านคงผิดหวังมาก อาจถึงกับทรงรำพึงว่าลูกหลานรุ่นหลังทำไมสร้างทางต่อยอดจากที่พระองค์ท่านวางรากฐานเอาไว้ได้นิดเดียว
ส่วนการบริการนั้นถอยหลังเข้าคลองไปมาก
จากบริการที่ร่ำลือกันไปทั่วเอเชียอาคเนย์สมัยกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน มาจนถึงทุกวันนี้เราต้องร่ำลือกันเรื่องตัวเรือดบนขบวนรถแทน

ผมก็แปลกใจครับว่าทำไมทางรถไฟไทยมันมีน้อยจัง
ในขณะที่ถนนก็สร้างเอ๊าสร้างเอา
หรือสร้างถนนมันคุ้มกว่าทางรถไฟ  เข้าถึงทุกอำเภอทุกตำบลได้ง่ายกว่า คุ้มกว่า
ถึงลงทุนสร้างไปคนก็ใช้บริการน้อยอยู่ดี เลยจะไม่ถึงจุดคุ้มทุน

หรือสร้างถนนมันเอื้อให้ผู้รับเหมาและผู้อนุมัติสร้างได้มากกว่า  เขาถึงสร้างถนนกันจัง
แต่เอ  ประเทศที่ถนนดีๆจำนวนมากๆ อย่างอเมริกา หรือในยุโรป  เขาก็มีทางรถไฟมากนี่ครับ

ใครช่วยไขข้อสงสัยทีเถอะครับ

ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงในเมืองไทยนั้นผมไม่กล้าคิดครับ
ขอแค่รถไฟรางคู่ทุกเส้นทางไม่ต้องรอหลีกนี่ก็ดีใจแย่แล้ว
นั่งรถไฟไปตรังทีไรไม่เคยถึงตรงเวลาเลย  อิอิ ;D


ครับพี่ การขนส่งก็เลยใช้รถสิบล้อกันเป็นหลักทั้งข้ามภาค/ข้ามจังหวัด ถ้าใช้รถไฟ ขนได้มากกว่า เร็วกว่า ถูกกว่า ใช้คนน้อยกว่า รถบรรทุกเอาไว้ใช้บรรทุกเข้าโกดังในพื้นที่ก็พอ

...และเท่าที่ผ่านมา ระบบขนส่งด้วยรถบรรทุกทางไกลในเมืองไทยทำให้เกิดอุบัติเหตุคนตายเป็นแสนๆ คนแล้วมั๊ง


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ มีนาคม 19, 2008, 10:12:50 AM
ผมยังไม่ฝันถึง bullet train ในเมืองไทยหรอกคับ แค่รถไฟรางคู่ยังไม่มีเลย อยากให้มีทั่วประเทศก่อนเพราะการรถไฟจัดหาที่ดิน 2 ข้างทางไว้เยอะ  เวลานั่งรถไฟแล้วรอมันสับรางนี่ทรมานจริง ๆ เลยคับ  กลางคืนยังพอทน แต่ถ้าเป็นกลางวันนะนั่งอยู่เฉย ๆ เป็นชั่วโมงนี่น่าเบื่อที่สุด  


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มีนาคม 19, 2008, 10:34:31 AM
เรื่องเส้นทางรถไปเหนือ-ใต้ ในเวียตนาม   สาระสำคัญคงอยู่ที่การขนคน
และเพื่อขนสัมภาระทางการเกษตร . ที่ต้องใช้ความเร็ว ๘๐-๙๐ กม/ชั่วโมง เป็นหลัก ..

แต่เป็นเรื่องที่ฉลาด โดยนำ ความเร็วในระดับ ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชั่วโมง. มาเป็นจุดประชาสัมพันธ์
และเป็นโครงการณ์ในครั้งนี้ .. ความเร็วในระดับ ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชั่วโมง  จะสอดคล้องกับสภาพสังคมที่พัฒนา แล้วเท่านั้น..  ในขณะการวางราง ด้านหลัก ก้เพื่อรองรับ ความเร็ว ๘๐-๙๐ กม./ชม นั่นแหละครับ.

นำเรื่องนี้มากระตุ้นเตือน ให้เรารู้สึกว่าจะต้องก้าวเดิน ไปข้างหน้า แต่ไม่ใช่จะต้องไปเอาอย่างคนอื่นเขา

เรามีในสิ่งที่คนอื่นไม่มี  เราก็ควรปล่อยให้คนอื่นมี.. ในสิ่งที่เรามีไม่ได้ .. มั่ง ครับ

 


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 19, 2008, 10:36:32 AM
quote author=Ro@d link=topic=54371.msg1300821#msg1300821 date=1205897671]
เรื่องเส้นทางรถไปเหนือ-ใต้ ในเวียตนาม   สาระสำคัญคงอยู่ที่การขนคน
และเพื่อขนสัมภาระทางการเกษตร . ที่ต้องใช้ความเร็ว ๘๐-๙๐ กม/ชั่วโมง เป็นหลัก ..

แต่เป็นเรื่องที่ฉลาด โดยนำ ความเร็วในระดับ ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชั่วโมง. มาเป็นจุดประชาสัมพันธ์
และเป็นโครงการณ์ในครั้งนี้ .. ความเร็วในระดับ ๒๐๐-๓๐๐ กม/ชั่วโมง  จะสอดคล้องกับสภาพสังคมที่พัฒนา แล้วเท่านั้น..  ในขณะการวางราง ด้านหลัก ก้เพื่อรองรับ ความเร็ว ๘๐-๙๐ กม./ชม นั่นแหละครับ.

นำเรื่องนี้มากระตุ้นเตือน ให้เรารู้สึกว่าจะต้องก้าวเดิน ไปข้างหน้า แต่ไม่ใช่จะต้องไปเอาอย่างคนอื่นเขา

เรามีในสิ่งที่คนอื่นไม่มี  เราก็ควรปล่อยให้คนอื่นมี.. ในสิ่งที่เรามีไม่ได้ .. มั่ง ครับ

 

[/quote]

 ::002:: ::002::
 :VOV: :VOV:
 ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 19, 2008, 10:49:07 AM
ผมว่ารัฐบาลเขาอ่านเกมส์ในอนาคตมากครับ เขาคิดล่วงหน้ากันเป็นสิบๆปี จึงกล้าสร้าง กล้าลงทุนโครงการใหญ่ๆไว้ ที่สำคัญ ผมว่าใครคิดก่อน ทำก่อนย่อมได้เปรียบ อย่างน้อยก็เรื่องต้นทุนการก่อสร้าง ที่เพิ่มขึ้นทุกๆปี ยิ่งช้า ยิ่งยากที่จะทำได้ครับ ทั้งที่เวียดนามมีทั้งก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน จำนวนมาก แต่เขาเลือกลงทุนในโครงการข่นส่งมวลชนเป็นเรื่องหลัก  ต้องยอมรับว่าคิดกาลไกลจริงๆครับ  ;)


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มีนาคม 19, 2008, 11:11:43 AM
ประเทศไทยเราไม่มีโอกาสเกิดได้หรอก เพราะผู้บริหารแต่ละพรรค แต่ละกลุ่ม มัวแต่ทะเลาะแย่งอำนาจ ผลประโยชน์กัน  อย่างมากก็แค่สร้างเทตอม่อหล่อเสาไว้เป็นอนุสาวรีย์ นี่ถ่ามนุษย์ต่างดาวขับยานผ่าน กทม. คงจะงงกับสิงมหัศจรรย์ (โครงการโฮปเวล)


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ มีนาคม 19, 2008, 01:44:42 PM
>:(
ถ้าพระพุทธเจ้าหลวงท่านทรงฟื้นคืนพระชนม์ชีพมาในวันนี้
พระองค์ท่านคงดีใจปลาบปลื้มกับทางหลวงทางด่วนลอยฟ้าสารพัดในประเทศของเรา (อันนี้เราเหนือกว่าเวียดนามเยอะครับ  อีกยี่สิบปีผมว่าเวียดนามก็ไม่มีทางทาบเราได้)
แต่หากพระองค์ท่านมองทางรถไฟ ขบวนรถ หรือบริการที่ รฟท มีให้
พระองค์ท่านคงผิดหวังมาก อาจถึงกับทรงรำพึงว่าลูกหลานรุ่นหลังทำไมสร้างทางต่อยอดจากที่พระองค์ท่านวางรากฐานเอาไว้ได้นิดเดียว
ส่วนการบริการนั้นถอยหลังเข้าคลองไปมาก
จากบริการที่ร่ำลือกันไปทั่วเอเชียอาคเนย์สมัยกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน มาจนถึงทุกวันนี้เราต้องร่ำลือกันเรื่องตัวเรือดบนขบวนรถแทน

ผมก็แปลกใจครับว่าทำไมทางรถไฟไทยมันมีน้อยจัง
ในขณะที่ถนนก็สร้างเอ๊าสร้างเอา
หรือสร้างถนนมันคุ้มกว่าทางรถไฟ  เข้าถึงทุกอำเภอทุกตำบลได้ง่ายกว่า คุ้มกว่า
ถึงลงทุนสร้างไปคนก็ใช้บริการน้อยอยู่ดี เลยจะไม่ถึงจุดคุ้มทุน

หรือสร้างถนนมันเอื้อให้ผู้รับเหมาและผู้อนุมัติสร้างได้มากกว่า  เขาถึงสร้างถนนกันจัง
แต่เอ  ประเทศที่ถนนดีๆจำนวนมากๆ อย่างอเมริกา หรือในยุโรป  เขาก็มีทางรถไฟมากนี่ครับ
ใครช่วยไขข้อสงสัยทีเถอะครับ

ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงในเมืองไทยนั้นผมไม่กล้าคิดครับ
ขอแค่รถไฟรางคู่ทุกเส้นทางไม่ต้องรอหลีกนี่ก็ดีใจแย่แล้ว
นั่งรถไฟไปตรังทีไรไม่เคยถึงตรงเวลาเลย  อิอิ ;D


ผมขอตอบว่า.......

เรามีกลุ่มทุนใหญ่ด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่มีอำนาจชี้นำทิศทางรัฐบาลมายาวนานหลายยุค
เรากระตุก-รั้งการสร้างเสริมการขนส่งระบบรางที่มีค่าใช้จ่ายต่ำไว้
แต่เร่งรัดสนับสนุนสร้างฐานความต้องการ สร้างค่านิยมการใช้พาหนะส่วนบุคคล  มากกว่าการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน

พูดสวยหรูว่าจะเป็น Detroit of Asia
เรากำลังต้องเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆกับค่าใช้จ่ายน้ำมัน และพลังงานของประเทศ  :'( :'(








หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: KATTE ที่ มีนาคม 19, 2008, 04:06:13 PM
เวียดนามน่าจะวางระบบการขนส่งเเละ Logistics เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมในอนาคต  เพื่อการขนส่งที่รวดเร็ว ต้นทุนที่ตำกว่า    เนื่องจากต้นทุนการขนส่งทางรางมีต้นทุนที่ถูกกว่าทางรถยนต์   ยิ่งในภาวะน้ำมันเเพง  ซึ่งทำให้ต้นทุนการขนส่งตำลง  สามารถเเข่งขันกับประเทศผู้ผลิตอื่น เช่น ไทย จีน อินเดีย

.........น่ากลัวครับคู่เเข่งไทยคิดได้ขนาดนี้  วางแผนระยะยาว.....ต่อไปในอนาคตอันไม่ไกลข้อได้เปรียบทางการเเข่งขัน โดยเฉพาะต้นทุนการผลิต ต้นทุนการขนส่ง น่าจะเป็นตัวชี้ชะตาความอยู่รอดของธุรกิจนั้น  ในความเห็นของผม ผู้ผลิตไทยที่ผลิตสินค้าเหมือนกับเวียดนามเหนื่อยครับ.....เเละเวียดนามคงไม่หยุดเเค่รางรถไฟสายนี้ ต่อไปคงมีการวางรางรถไฟเชื่อมต่อกับ ลาว กัมพูชา จีน เพื่อต่อ Supply Chain ครบทั้งระบบ

..........ประเทศไทย นับว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกลมาก ที่ทรงริเริ่มกิจการการรถไฟขึ้นในประเทศไทย.....เเต่เสียดายที่ไม่มีการพัฒนาใช้การขนส่งทางรางให้มากขึ้น.......เสียดายครับ ผลประโยชน์บังตาผู้บริหารประเทศ.....การรถไฟน่าปรับเปลี่ยนรูปเเบบการบริหารมากกว่าไปเเปรรูปมากกว่า ปตท กฝผ เสียอีก....เพื่อต้นทุนขนส่งรวมทั้งประเทศที่ตำลง

...........ถ้าประเทศไทยมีรถไฟหัวกระสุนต้นทุนการผลิต ต้นทุนการขนส่ง จะตำกว่านี้มาก  สามารถเข่งขันกับประเทศผู้ผลิตอื่นได้สบาย( ตัวเลขผมจำไม่ได้ ว่าการขนส่งทางรางมีต้นทุนที่ต่ำกว่าทางรถเท่าไหร่ เเต่คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นสิบเปอร์เซ็นเหมือนกัน  ต้องขออภัยด้วย  ต้องรอผู้รู้มาช่วยตอบครับ )

        จากข่าวนี้ผมพูดได้สองคำครับ....น่ากล้ว เเละ เสียดาย ครับ


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: meethai ที่ มีนาคม 19, 2008, 10:30:02 PM
คนไทยเราจะรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวก็ตอนมีศึกสงครามเท่านั้นแหละครับ สังเกตุได้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เวลามีศึกสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน คนไทยเราจะร่วมใจรบกันสุดใจขาดดิ้นเลย แต่พอสงครามสงบ เราก็ทะเลาะกันสุดสุดเหมือนกัน โอกาสที่ประเทศไทยจะรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วจึงไม่ค่อยจะมี ก็ได้แต่กระดึบๆ กันไปอย่างนี้แหละครับ ผมลองสังเกตุดูในที่ทำงานของผมแต่ละหน่วย มักจะมีการแบ่งกันเป็นกลุ่มเป็นพวก จะร่วมใจกันทีก็ตอนมีงานประเภทงานแต่ง งานบวช หรืองานศพ ตามประเพณี ถ้าไม่มีงานตามปกติก็กลุ่มใครกลุ่มมัน ถ้าคนไทยเรารวมใจกันเป็นหนึ่ง และมุ่งมั่นพัฒนาสังคมของเรา ให้เป็นกิจลักษณะ ไม่ถึงกับต้องแข่งขันกันประเทศอื่นหรอกครับ ร่วมมือกันตามวิธีการของเราเองก็พอแล้วครับ ประเทศไทยเราจะก้าวไกลไปกว่านี้เยอะ


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: นปพ2201 ที่ มีนาคม 20, 2008, 03:00:42 AM
ประเทศไทยสำคัญตนเองผิดไปมากๆๆๆๆ คิดแต่ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในอาเซื่ยน
รู้ใหมว่าทำไมเวียดนามจึงเติบโตอย่างก้าวกระโดด
เพราะนักลงทุนต่างชาติ  ย้ายฐานการผลิดจากไทยไปลงที่นั่นมากมายมหาศาล เพื่อสู้กับสินค้าจากจีน  ที่นับวันจะน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ....โดยเฉพาะญี่ปุ่น...มาลองติดตามดูนะครับ
ในอดีตเวียดนามไม่ถูกกับจีน ปัจจุบันยังเคียดลึกๆ
ในอดีตญี่ปุ่นไม่ถูกกะจีน ปัจจุบันเคียดลึกๆ
ดังนั้นเพื่อสกัดกั้นสินค้าจากจีน และหยุดการครอบครองเอเชียทางด้านเศรษฐกิจของจีน
ญี่ปุ่นจึงเข้ามาลงทุนในเวียดนามตอนเหนือ(ฮานอย)อย่างมากมาย เพื่อลดต้นทุนแข่งกะจีน
การขยายตลาดไปที่อื่นๆในเอเชีย-ยุโรป เพื่อลดต้นทุนซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศ
ญี่ปุ่นจึง เสนอให้ความช่วยเหลือเวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า อย่างออกหน้าเป็นเจ้าบุญทุ่ม
ส่วนไทยนั้น ให้เห็นแก่ประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้สนับสนุนด้วย
อนาคต...สินค้าญี่ปุ่น เมดอินเวียดนาม จะทะลักเข้าไทย ไปพม่า ออกอินเดีย เข้าสู่ตะวันออกกลาง และยุโรป โดยเส้นทางรถไฟสายเอเซีย ซึ่งจะผ่านมาลาว ไทย พม่า .......
นี่คือเส้นทางการค้า ในอนาคตของญี่ปุ่น  สุดยอดจริงๆมันสมองลูกบูชิโดะ แห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ มีนาคม 23, 2008, 03:13:57 PM

.... ลานความคิดเห็น  ขอยกมาเพื่อให้มีการแสดงความคิดเห็นจากผู้รู้เพิ่มเติม ..... ครับผม ..... แถวบ้านผมก็ได้ยินได้ฟังมาพอสมควรว่าจะมีการทำรางรถไฟมาเป็นชุมทางอยู่แถว เชียงราย หรือไม่ก็พะเยา ..... เผื่อจะฟังแล้วเอามาประติดประต่อกันได้บ้าง ... ครับผม ....

(http://imagehost.compgamer.com/uploads/0c2105ff3b.jpg) (http://imagehost.compgamer.com)


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ มีนาคม 23, 2008, 04:07:14 PM
ของเขาใช้พังเมื่อไหร่ ของเราคงเพิ่งเริ่มสร้าง  ดีจะได้รู้การแก้ปัญหา มันอาจจะเร็วจนบินหลุดไปชนควายข้างทางก็ได้นะ... ::005::


ช่ายครับน้ารัตน์ เร็วแบบนั้นอันตรายจริงๆ  ::005::


เรื่องชนควาย ไม่น่าห่วงครับ เพราะรถพวกนี้ มันวิ่งอยู่ในกรง อยู่แล้ว สบายใจ หายห่วงได้ทั้งสองคน

ลุ้นให้ สร้างได้ก่อน เถิดครับ คริๆ ถ้าจะยาก

ถามว่า สมควรที่จะสร้างด้แล้วยัง น่าจะสร้างตั้งนานแล้ว หาก....จะสร้าง

ผมคิดเอาเองว่า โครงการณ์อย่างนี้ มันทำได้ทีเดียว แล้วยาวเลย แล้วทีหลัง กรูจะทำอะไรรัปประทานอีกละ อย่าลืมว่า การสร้างทางรถยนต์ สร้างได้เรื่อยๆ แล้วก็ซ่อมกันตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จทั้งสาย

หากสร้างขนส่งระบบรางดีเกินไป แล้ว เจ้าของขนส่งทางบก ที่มีอยู่ในปัจจุบันเดือดร้อน เป็นแน่แท้ แล้วเจ้าของขนส่งทางบก แล้วส่วนมาก ก็เป็นท่านผู้ทรงเกียรติ ทั้งนั้น

อาจเดือดร้อนไปถึงของใหม่ พวกเครื่องบินตั๋วถูกต่างๆ แต่ก็ต้องเสี่ยงเอาว่า จ้างใครมาขับ หรือเสี่ยงเอากับการดีเลย์ ของเวลา เครื่องขึ้นลง

คงอีกนานครับ ที่ใครจะหาญกล้ามารื้อรถไฟที่มีอยู่ ในปัจจุบัน ให้ดีขึ้น เพราะขณะนี้ แม้มันจะแจ้งว่าขาดทุนทุกๆปีไป ทำไมมันยังวิ่งอยู่ได้

 ปล.หวังว่า คงจะได้มีโอกาศใช้ ก่อนจะหมดอายุขัย หาดใหญ่-เชียงใหม่ สัก 20ชั่วโมง อย่างนี้ แก่ๆขับรถไม่ใหว ก็จะได้นั่งรถไฟ ไปเที่ยว คงน่าจะดี คริๆ


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 23, 2008, 04:51:55 PM
ของเขาใช้พังเมื่อไหร่ ของเราคงเพิ่งเริ่มสร้าง  ดีจะได้รู้การแก้ปัญหา มันอาจจะเร็วจนบินหลุดไปชนควายข้างทางก็ได้นะ... ::005::


ช่ายครับน้ารัตน์ เร็วแบบนั้นอันตรายจริงๆ  ::005::


เรื่องชนควาย ไม่น่าห่วงครับ เพราะรถพวกนี้ มันวิ่งอยู่ในกรง อยู่แล้ว สบายใจ หายห่วงได้ทั้งสองคน

ลุ้นให้ สร้างได้ก่อน เถิดครับ คริๆ ถ้าจะยาก

ถามว่า สมควรที่จะสร้างด้แล้วยัง น่าจะสร้างตั้งนานแล้ว หาก....จะสร้าง

ผมคิดเอาเองว่า โครงการณ์อย่างนี้ มันทำได้ทีเดียว แล้วยาวเลย แล้วทีหลัง กรูจะทำอะไรรัปประทานอีกละ อย่าลืมว่า การสร้างทางรถยนต์ สร้างได้เรื่อยๆ แล้วก็ซ่อมกันตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จทั้งสาย

หากสร้างขนส่งระบบรางดีเกินไป แล้ว เจ้าของขนส่งทางบก ที่มีอยู่ในปัจจุบันเดือดร้อน เป็นแน่แท้ แล้วเจ้าของขนส่งทางบก แล้วส่วนมาก ก็เป็นท่านผู้ทรงเกียรติ ทั้งนั้น

อาจเดือดร้อนไปถึงของใหม่ พวกเครื่องบินตั๋วถูกต่างๆ แต่ก็ต้องเสี่ยงเอาว่า จ้างใครมาขับ หรือเสี่ยงเอากับการดีเลย์ ของเวลา เครื่องขึ้นลง

คงอีกนานครับ ที่ใครจะหาญกล้ามารื้อรถไฟที่มีอยู่ ในปัจจุบัน ให้ดีขึ้น เพราะขณะนี้ แม้มันจะแจ้งว่าขาดทุนทุกๆปีไป ทำไมมันยังวิ่งอยู่ได้

 ปล.หวังว่า คงจะได้มีโอกาศใช้ ก่อนจะหมดอายุขัย หาดใหญ่-เชียงใหม่ สัก 20ชั่วโมง อย่างนี้ แก่ๆขับรถไม่ใหว ก็จะได้นั่งรถไฟ ไปเที่ยว คงน่าจะดี คริๆ


ถ้าวิ่งซัก200กม.ต่อชม.  คงไม่ถึง10ชม.ครับน้าเข้ม  ขนคนได้วันเป็นหมื่นๆคน  :VOV: :VOV:

ตื่นๆๆๆ.........เช้าแล้ว  อ้าววว......ฝันไปหรอกหรือ  ::005::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มีนาคม 24, 2008, 11:38:21 AM
ของเขาใช้พังเมื่อไหร่ ของเราคงเพิ่งเริ่มสร้าง  ดีจะได้รู้การแก้ปัญหา มันอาจจะเร็วจนบินหลุดไปชนควายข้างทางก็ได้นะ... ::005::


ช่ายครับน้ารัตน์ เร็วแบบนั้นอันตรายจริงๆ  ::005::


เรื่องชนควาย ไม่น่าห่วงครับ เพราะรถพวกนี้ มันวิ่งอยู่ในกรง อยู่แล้ว สบายใจ หายห่วงได้ทั้งสองคน

ลุ้นให้ สร้างได้ก่อน เถิดครับ คริๆ ถ้าจะยาก

ถามว่า สมควรที่จะสร้างด้แล้วยัง น่าจะสร้างตั้งนานแล้ว หาก....จะสร้าง

ผมคิดเอาเองว่า โครงการณ์อย่างนี้ มันทำได้ทีเดียว แล้วยาวเลย แล้วทีหลัง กรูจะทำอะไรรัปประทานอีกละ อย่าลืมว่า การสร้างทางรถยนต์ สร้างได้เรื่อยๆ แล้วก็ซ่อมกันตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จทั้งสาย

หากสร้างขนส่งระบบรางดีเกินไป แล้ว เจ้าของขนส่งทางบก ที่มีอยู่ในปัจจุบันเดือดร้อน เป็นแน่แท้ แล้วเจ้าของขนส่งทางบก แล้วส่วนมาก ก็เป็นท่านผู้ทรงเกียรติ ทั้งนั้น

อาจเดือดร้อนไปถึงของใหม่ พวกเครื่องบินตั๋วถูกต่างๆ แต่ก็ต้องเสี่ยงเอาว่า จ้างใครมาขับ หรือเสี่ยงเอากับการดีเลย์ ของเวลา เครื่องขึ้นลง

คงอีกนานครับ ที่ใครจะหาญกล้ามารื้อรถไฟที่มีอยู่ ในปัจจุบัน ให้ดีขึ้น เพราะขณะนี้ แม้มันจะแจ้งว่าขาดทุนทุกๆปีไป ทำไมมันยังวิ่งอยู่ได้

 ปล.หวังว่า คงจะได้มีโอกาศใช้ ก่อนจะหมดอายุขัย หาดใหญ่-เชียงใหม่ สัก 20ชั่วโมง อย่างนี้ แก่ๆขับรถไม่ใหว ก็จะได้นั่งรถไฟ ไปเที่ยว คงน่าจะดี คริๆ

 :D :D :D    ::002::


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ มีนาคม 24, 2008, 11:48:18 AM
ของเขาใช้พังเมื่อไหร่ ของเราคงเพิ่งเริ่มสร้าง  ดีจะได้รู้การแก้ปัญหา มันอาจจะเร็วจนบินหลุดไปชนควายข้างทางก็ได้นะ... ::005::


ช่ายครับน้ารัตน์ เร็วแบบนั้นอันตรายจริงๆ  ::005::


เรื่องชนควาย ไม่น่าห่วงครับ เพราะรถพวกนี้ มันวิ่งอยู่ในกรง อยู่แล้ว สบายใจ หายห่วงได้ทั้งสองคน

ลุ้นให้ สร้างได้ก่อน เถิดครับ คริๆ ถ้าจะยาก

ถามว่า สมควรที่จะสร้างด้แล้วยัง น่าจะสร้างตั้งนานแล้ว หาก....จะสร้าง

ผมคิดเอาเองว่า โครงการณ์อย่างนี้ มันทำได้ทีเดียว แล้วยาวเลย แล้วทีหลัง กรูจะทำอะไรรัปประทานอีกละ อย่าลืมว่า การสร้างทางรถยนต์ สร้างได้เรื่อยๆ แล้วก็ซ่อมกันตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จทั้งสาย

หากสร้างขนส่งระบบรางดีเกินไป แล้ว เจ้าของขนส่งทางบก ที่มีอยู่ในปัจจุบันเดือดร้อน เป็นแน่แท้ แล้วเจ้าของขนส่งทางบก แล้วส่วนมาก ก็เป็นท่านผู้ทรงเกียรติ ทั้งนั้น

อาจเดือดร้อนไปถึงของใหม่ พวกเครื่องบินตั๋วถูกต่างๆ แต่ก็ต้องเสี่ยงเอาว่า จ้างใครมาขับ หรือเสี่ยงเอากับการดีเลย์ ของเวลา เครื่องขึ้นลง

คงอีกนานครับ ที่ใครจะหาญกล้ามารื้อรถไฟที่มีอยู่ ในปัจจุบัน ให้ดีขึ้น เพราะขณะนี้ แม้มันจะแจ้งว่าขาดทุนทุกๆปีไป ทำไมมันยังวิ่งอยู่ได้

 ปล.หวังว่า คงจะได้มีโอกาศใช้ ก่อนจะหมดอายุขัย หาดใหญ่-เชียงใหม่ สัก 20ชั่วโมง อย่างนี้ แก่ๆขับรถไม่ใหว ก็จะได้นั่งรถไฟ ไปเที่ยว คงน่าจะดี คริๆ


ถ้าวิ่งซัก200กม.ต่อชม.  คงไม่ถึง10ชม.ครับน้าเข้ม  ขนคนได้วันเป็นหมื่นๆคน  :VOV: :VOV:

ตื่นๆๆๆ.........เช้าแล้ว  อ้าววว......ฝันไปหรอกหรือ  ::005::


น้องเบิ้มครับ 10 ชม.น๊ะมันไม่จอกสถานีเลยน๊ะ มันต้องแวะสถานีด้วย เลยให้ 20 ชั่วโมง ผมว่าดีกว่านั่ง เครื่องแบบของลุงปู เยอะเลย

ตัวอย่าง จะไปเชียงใหม่ จากหาดใหญ่ ต้องไปสนามบินก่อนเครื่องขึ้น อย่างน้อยสุด 30นาที เพื่อเช็คยอก(กันไว้เพื่อมันขี้เกียจบิน คริๆ) บินไปลงกรุงเทพฯ อีกชั่วโมง10นาที รอเปลี่ยนเครื่อง อีกกี่นาที ไม่รู้ เพราะไม่เคยบิน อิๆ ใครทราบช่วยคำนวนต่อให้หน่อย ว่าจะถึงเชียงใหม่ เวลา เท่าไหร่

วิว ก็ได้เห็นแค่ก้อนเมฆ เท่านั้นเอง

แต่รถไฟได้เห็นเยอะกว่านั้น ปวดฉี่ ปวดอึ ก็สบายกว่า มีสถานีจอดให้ซื้อ ไก่ย่าง ข้าวหลาม ข้าวโพดปิ้ง กาแฟ อูย ฯลฯ


ปล.แต่อย่าให้มีตัวเรือดมาเพ่นพ่าน ก็แล้วกันครับ รฟท. คริๆ


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ มีนาคม 24, 2008, 11:55:18 AM
ผมขอเสนอ ความคิดของผมเอง ที่ไม่ทราบว่า ปัจจุบัน มันเป็นจริง อยู่ยังไง เพราะผมก็ไม่ได้ใช้บริการรถไฟ นานมากๆแล้วครับ

กะว่า ให้เอกชนเช่าตู้ บริการไปเลย ให้เขา บริหารจัดการของเขา รฟท.ก็แค่ใช้หัวจักรลากตู้ เหล่านั้นไปตามตารางเวลา โดยเอกชน เขาก็บริหารจัดการภายในตู้ของเขาไป ราคาตั๋ว ก็คุยกันจะเท่าไหร่ กำหนดกรอบนโยบายเอาใว้ เขาก็แข่งกันเองแหละ ว่าตั๋วเท่านี้ ผู้โดยสารจะได้อะไรบ้าง คนจัดตู้จัดเตียง เขาก็เลือกมาเอง ใครหาได้สวยเลิศแค่ใหน  บริการดีเท่าไหร่ ผู้โดยสารก็จะพูดบอกกันไปเอง บริษัทใหนทำดี ก็น่าจะอยู่ได้ ถึงเวลารถออก ก็ลากตู้มาต่อกัน (สายยาวๆ) แล้วรฟท.ก็เอาหัวลาก มาลากไป ตู้ใคร ใครก็ล้างเอาเอง จะได้ไม่มีตัวเรือดมาโดยสาร ฟรี คริๆ

อะไรประมาณนี้ครับ อย่าคิดมาก ผมก็แค่คิดเล่นไปเรื่อยเปื่อย ตามประสาคนว่างงานเท่านั้นเอง


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 24, 2008, 12:06:35 PM
   เอ้าขอแสดงความเห็นหน่อย!! หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นเช่น มาเลย์ สิงคโปร์ เขมรหรือแม้กระทั่งลาว คนไทยจำนวนมากไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ผมมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังครับ(อดนินทาไม่ได้) จากมติการประชุมหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เมือปลายปีที่ผ่านมาที่ประชุมต้องการให้เชียงใหม่เป็น long stay สำหรับชาวญี่ปุ่นที่เกษียณอายุเนื่องจากคนกลุ่มนี้มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยจำนวนมหาศาล จากการศึกษา รายจ่ายเฉลี่ยของคนกลุ่มนี้คิดเป็นเงินไทยคือ 800,000 บาทต่อคน ต่อปี หากสามารถชักจูงให้เข้ามาอาศัยในเชียงใหม(และเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ)จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในเชียงใหม่และท้องถิ่นเหล่านั้นจำนวนมากก่อให้เกิดการจ้างงานในสาขาต่างๆ  ที่สำคัญคือทำให้บัณฑิตที่จบการศึกษาโดยเฉพาะด้านโรงแรมและการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมีงานทำ  เมื่อผมไปสอนป.โทในสถาบันของรัฐแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ผมได้เสนอความคิดกับนศ.ปริญญาโทในม.แห่งนั้นโดยให้อภิปรายถึงความเหมาะสมของนโยบายนี้ ปรากฎว่านศ.ปริญญาโทหลายท่านที่อายุมากต่อต้านโดยให้เหตุผลว่าพวกเราอยู่กันอย่างมีความสุขอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องชักชวนชาวญี่ปุ่นที่เกษียณอายุมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเราเลย.......
     อีกกรณีหนึ่งก็คือหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เสนอว่าควรมีการสร้างรถไฟความเร็วสูงระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสิ่งใฝ่ฝันของคนจำนวนมาก เนื่องจากการเดินทางจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่โดยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 13-15ชั่วโมง ปรากฏว่า เริ่มมีเสียงต่อต้านจากคนบางกลุ่ม ที่เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน(NGO)เหตุผลคือการทำลายธรรมชาติ ไม่ต้องพูดเรื่องการสร้างเขื่อนและอีกหลายโครงการที่จะสร้างประโยชน์ในระยะยาวนะครับ พอเริ่มปุ๊บ จะมีกระแสการต่อต้านติดตามมาทันที
     ผมเลยคิดว่า เมืองไทยอยู่เฉยๆดีกว่า อย่าคิดทำนั่นทำนี่เลย ทะเลาะกันไม่เลิก ดูประเทศอื่นก้าวหน้าต่อไปด้วยใจสงบเหมือนเราดู เกาหลีใต้ที่มาดูงานแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เราเริ่มก่อนในปี 2504 บัดนี้เกาหลีใต้ทิ้งเราไม่เห็นฝุ่นทั้งที่เราอุดมสมบูรณ์กว่าสิบเท่า หลายท่านคงทราบแล้วนะครับว่าเวียดนามประกาศว่าจะเป็นประเทศอุตสาหกรรมเต็มตัวภายในอีก12ปีข้างหน้า แน่นอนว่าประเทศนี้ไม่ทิ้งภาคเกษตรแต่จะเน้นประสิทธิภาพในการผลิตอย่างเต็มที่เฉกเช่นญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ หากทุกท่านสังเกตุดูจะเห็นว่าเวียดนามมีประวัติการต่อสู้ อย่างโชกโชนเนื่องจากต้องผจญกับภัยสงครามนานหลายสิบปีคล้ายกับเกาหลีใต้และประเทศเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากลัทธิขงจื้อจากจีน จึงฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ต้องยอมรับว่าคุณภาพของคนก็ต่างจากเราดังที่หลายท่านกล่าวไว้ข้างต้น ต่อไปคงมีแรงงานไทยไปทำงานในเวียดนามเหมือนสิงคโปร์
     อีกชาติหนึ่งที่ดูถูกไม่ได้คือพม่า ซึ่งเข้ามาเป็นแรงงานก่อนแต่ปัจจุบันเลียนแบบคนจีนโพ้นทะเล ในยุคก่อนที่เริ่มทำธุรกิจและแต่งงานกับคนไทยจนซื้อบ้าน ที่ดิน มีกิจการที่คนไทยยังอาย(แถบอำเภอรอบนอกของเชียงใหม่) หากพวกเรายังไม่ไหวตัวและยังอยู่แบบสบายๆ ตัวใครตัวมันแบบนี้ต่อไปคงลำบากกันบ้างละครับ :-\ :-\ ::001:: ::014::


ทำใจเถอะครับพี่

เรื่องความคิดขัดแย้งกัน
คนไทยไมน้อยหน้ากว่าชาติอื่น อาจนำลิ่วไปด้วย เพราะยึดความเป็นอัตตา ตัวกู ของกู

ไม่ได้ยึดเหตุผลนำหน้า หรือยอมรับเหตุผลคนอื่น

แต่ต้องสร้างเหตุผลขึ้นมาร้อยแปด พันเก้า เพื่อสนับสนุนความคิดของตัวเอง


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ มีนาคม 24, 2008, 09:40:55 PM
อ่านไปเซ็งไป


หัวข้อ: Re: รถหัวกระสุนเวียดนาม $33 พันล้านเกิดปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ มีนาคม 25, 2008, 02:48:52 AM
โดยรวมๆแล้วเวียตนามยังห่างเราอีกเยอะครับ.....ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนเหมือนกับฟ้าและเหว เปอร์เซนต์ของคนรวยมีแค่ไม่เกิน 10 % คุณภาพชีวิตและความสะดวกสะบายของประชาชนทั่วๆไปยังห่างกับเรามาก ค่าแรงของคนงานที่ไซง่อนบวกโอทีประมาณ 100 เหรียญต่อเดือน ส่วนที่ฮานอยประมาณ 85 เหรียญต่อเดือนข้าวของแพงมาก ของถูกก็มี แต่คุณภาพสู้เราไม่ได้เลย บะหมี่เป็ดที่ร้านตึกแถวชามละ 55,000 ด่อง (ประมาณ $ 3.5)

คนที่ไซง่อนฟุ้งเฟ้อ ได้เท่าไรจ่ายเกือบหมด เผลอๆหมดเลย ผู้หญิงอยากแต่งงานกับต่างชาติ เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้อนาคตดีขึ้น(ชอบคนไทย เพราะสุภาพกว่าชาติอื่น สาวเวียตนามสวยนา...ถึงแม้โดยเฉลี่ยแล้วจะตัวเล็กๆแต่รูปร่างได้สัดส่วนมาก ) ส่วนคนที่ฮานอยชอบเก็บตัว ไม่ฟุ้งเฟ้อ ประหยัด...

กิจการส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนก็เพราะคิดว่าค่าแรงถูก(แต่ก็มีการสไตร๊คเรื่องค่าแรงบ่อยๆ) และการเอื้ออำนวยของรัฐบาลต่อการลงทุน แต่มักเป็นแรงงานที่ทักษะน้อยกว่าคนไทย (รัฐบาลของเราน่าจะเอาเป็นจุดขายและจุดแข็ง) คนที่รวยๆก็มักเป็นคนที่เกี่ยวพันกับรัฐบาลทั้งนั้น..

คนเวียตนามชอบสินค้าไทย เพราะราคาไม่แพงมากแต่คุณภาพดี ตามซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆจะมีสินค้าไทยวางขายประมาณ 50 % สินค้าไทยที่ไปขายมักจะขายดี แต่แปลกที่คนเวียตนามกลับชอบไปช๊อปปิ้งที่ห้างเมโทร (เยอรมัน) มากกว่าบิ๊ก ซี ของเครือเซ็นทรัลของไทย

ตอนนี้เพิ่งลงมือสร้างซับเวย์ที่ไซง่อน แต่กว่าจะเสร็จก็ปี 2014 โน่น...ส่วนข่าวที่จะสร้างรถไฟหัวกระสุนนั้น เป็นแค่โครงการกระตุ้นการลงทุนมากกว่าการสร้างจริงๆ เอาแค่ทางด่วนที่ฮานอยไปท่าเรือไฮฟอง 2 เลนไปกลับประมาณ 100 กม ที่กำลังสร้างก็คาดว่าจะเสร็จก็อีกประมาณ 5 ปีข้างหน้า (โห..)

ที่แจ๋วกว่าไทยก็คือน้ำมันราถูกกว่าเมืองไทยประมาณ 15 - 20 % จ้า.... ;D