เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

พอดีทราบมาว่าอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง หากทานมากๆทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งได้สูง เนื่องจากวัสดุที่นำมาทำเป็นภาชนะ(พลาสติก)ไม่สามารถทนความร้อนจริงๆได้ จึงปล่อยสารก่อมะเร็งมาปนกับอาหารที่เราอุ่นทาน ทำให้เรามีโอกาสเป็นมะเร็งได้ แต่โอก็ดูที่กล่องแล้วนะว่ามันก็มีอย.นี่หน่า...แต่ทำไมเค้าก็ยังมีการเตือนกันแบบนี้ ใครทราบช่วยตอบทีเหอะค่ะ ทานอาหารแล้วไม่สบายใจเลย เพราะช่วงนี้โอต้องพึ่งอาหารแช่แข็งพวกนี้ทุกเช้าเลยอ่ะค่ะ ซื้อที่เซเว่น สะดวกดี บางทีไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนก็3มื้อรวด ::004::

ปล. ไม่ทราบว่าใช้คำถูกบ้างเปล่า เพราะจำชื่อไม่ได้ว่าไอ้สารดังกล่าวเนี่ยมันชื่อว่าอะไรอ่ะค่ะ :D

คุณโอ..ชอบอาหารนะครับ

3 มื้อ แถมมื้อดึก อีกมื้อ ....มื้อละ 2 กล่อง...อิอิ :DD

ไม่น่าเชื่อค่ะคุณเอ๋...อาหารกล่องเนี่ย มันก็อร่อยดีอ่ะค่ะ หากพิสูจณ์ว่ามันไม่มีพิษมีภัย ขอแนะนำเลยอ่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เกี๊ยวกุ้งน้ำ, ข้าวต้มหมู/ไก่, สปาเก็ตตี้ไก่สับ หรือ ข้าวกุ้งกระเทียม โอลองมาเกือบทุกเมนูเค้าเลยอ่ะค่ะ...อิอิ ::008::


เมื่อคืนโออยู่ดึก เกือบซัดอีกกล่องค่ะพี่ ห้ามใจไว้ก่อน เพราะน้ำหนักกำลังอยู่ขาขึ้น(ตามกระแสทอง น้ำมัน) ::005::

สารในโฟมชานอ้อย...ได้แก่

Styrene Monomer พบได้ในโฟมทุกประเภท และพลาสติกบางชนิด
มีผลต่อร่างกาย คือ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมและต่อมลูกหมาก
ทำให้ระบบฮอร์โมนผิดปกติ

Dioxin  พบในพลาสติกบางประเภท
มีผลต่อร่างกายเป็นสารก่อมะเร็งในปอด กระเพาะอาหารตับ ต่อมน้ำเหลือง
และผิวหนัง มีผลต่อระบบการสืบพันธุ์

Vinyl Chloride Monomer ซึ่งพบในพลาสติกบางชนิดโดยเฉพาะพลาสติกพีวีซี (PVC)
ยังมีผลต่อร่างกายอีกเช่น เป็นสารก่อมะเร็งตับ
และจะปนเปื้อนกับอาหารมากขึ้น  เมื่อนำไปบรรจุอาหารแช่แข็งหรือเย็นจัด

อย่างไรก็ดี ผลการสำรวจระหว่างปี 2540-2550
กับบรรจุภัณฑ์โฟมที่มีสารสไตรีน ประมาณ 100 ตัวอย่างในท้องตลาด
ยังไม่พบรายใดที่มีสารดังกล่าวตกค้างเกินกว่ามาตรฐานกำหนด


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

เออ...ใช่ สารไดอ๊อกซินเนี่ยแหล่ะที่เราได้ยินมาอ่ะ ::008::

นึกว่า สารไดมารู คริ คริ

แต่ได้ข่าวว่า51อยากทานสารไซยาไนท์ช่ายป่ะ ::005::

ถ้าโอป้อน....กรัมม็อกโซน ก็จะหม่ำจ๊ะ  คริ คริ
เขิลลลลล์ จัง

นั่นยี่ห้อคู่แข่งชั้นย่ะ ::006::

เราไม่ป้อนหรอก เดี๋ยวโดนข้อหา ::001::

แต่ผมว่าอร่อยนะครับ  ผมชอบไก่กระเทียมของอีซี่โก เซเว่น ครับ  ::002:: ::002::

กลัวอันตรายเหมือนกันครับ ....แต่เทียบกับแอลกอล์ฮอลที่กินทุกวัน....ไม่รู้จะกลัวอะไรดีครับ พี่โอ  ::005:: ::005::

ลองเทใส่ภาชนะกระเบื้องสิครับ อาจอยู่ทานเพิ่มได้อีก 10 ปี ;D ;D ;D  ไม่ทำอาหารง่ายๆกินเองบ้างรึ

ยังมีควันบนถนน กับบุหรี่อีกครับ ;D ;D ;D  ปลาทะเลก็สารปรอท ไก่ หมูเนื้อแดงก็ สารเคมีเพียบ

55555...สงสัยไม่ต้องรับทานกันพอดี สารเคมีรอบตัว ::005::

ไซยาไนท์ ดีกว่าครับ

ให้ร่างกายใช้แต่ ไขมัน บริสุทธิ์ ๆ ในตัวเธอ..
ก็อยู่ได้ไปอีกร้อยปีแว้ว.....คริ คริ

เหมือนกันครับ กินดีเหมือนกัน ข้าวแกงแถวที่ทำงานกินจนเบื่อแล้ว ตอนนี้ผมเลยกินอาหารแช่ 7/11

อือม์ แต่ที่จริงผมรู้น่าว่าคุณโอชอบกิน NY Steak แช่แข็ง ขนาด 12 ปอนด์

เดี๋ยวนี้ออกข่าว ไขมันเอาไปทำดั้ง เสริมสวยได้แล้วนะ มีประโยชน์ ;D ;D ;D

ใช่ค่ะ โอทานของอีซี่โก อร่อยจริงๆ ไก่กระเทียมรสชาติพริกไทยจัดดีค่ะ ::002::

หลังๆชักรู้สึกว่าตัวเองแก่ เลยต้องรักษ์สุขภาพไว้ก่อนอ่ะค่ะ กลัวเสียแล้วหาอะไหล่ไม่ได้ ::005::

แต่แอลกอฮอล์มันไ่ม่อิ่มอ่ะค่ะ ::005::

อ๊าย...ท่าน yod นี่...ไม่โรแมนซ์ เอาซะเลย...อ่ะ
ชอบแบบจิบเดียว...วอด จิบเดียวไป

ต้องแบบยาฆ่าหญ้า ย่ะหล่อน
กว่าจะสิ้นใจ...ได้ออด ได้อ้อน ได้ออเซาะอีกสองสามวันอ่ะ คริ คริ

โรแมนซ์...จะตาย...คริ คริ

อาหารทานซ้ำๆกันบ่อยๆก็ไม่ดีครับ

บางทีได้รับประโยชน์บ้าง ได้รับพิษบ้างก็ยังโอเคครับ พิษต้านพิษ :)

 เกี๊ยวกุ้งน้ำ....อร่อยดีครับเจ๊

แต่นานๆกินที ของพวกนี้และสมัยนี้มีสารปนเปื้อนทั้งนั้นครับ

กินบ่อยๆเหมือนๆเดิม....ไม่ดีแน่นอน .........อิอิ

ห้องครัวไม่พร้อมค่ะพี่ ไม่ได้ทำอาหารที่บ้านนานแล้ว ไปทำที่บ้านคนอื่นประจำ...อิอิ ::005::

ครั้งต่อไป(หากไม่หิวจนตาลาย)คงต้องรอให้มันละลายนิดหน่อยอ่ะค่ะ แล้วก็มาใส่จานกระเบื้องอุ่น แต่เอ...จานกระเบื้องจะมีสารตะกั่วอีกเปล่าค๊า :DD

เลี้ยงเจ๊เหรอตัว ซื้อมา 2ชิ้นจิ แล้วเจ๊จะทำให้กิน ค่าแรงทำของเจ๊1ชิ้นด้วยแหล่ะ ::008::

เห็นม๊า...คันไหม เอ๊ย ไขมันก็มีปร๊าาาาโยชน์ ;D

แบบไม่มีสีสิครับ ;D ;D ;D หรือแก้ว

อ๋อ.....

  โรมิโอ กะ จูเลียต


แหม... ไม่เข้าแก๊ปเลยเรา.....

ระวังนะ...  นู๋ ไปเฉาะมาแล้ว................. ตัวเอง....   ::007::

อิอิ...แกล้งเอ๋อค่ะพี่ ::005::

กะจะให้พี่บอกว่า มามะน้องโอ ไปทานข้าวที่บ้านพี่ดีกว่าอ่ะค่ะ ::008::


กลัว นู๋ จ้าย ม๊า :DD

กลัว นู๋ จ้าย ม๊า  


ไม่บอกได้ป่าว.....

หลีกเลี่ยงหากทำได้ครับ ;)

สาเหตุที่ร่างกายได้รับสารก่อมะเร็งนั้น สามารถเกิดจาก

การดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่แช่ในตู้เย็น

การใช้พลาสติกคลุมอาหาร เพื่ออุ่นในเตาไมโครเวฟ

การใช้ถุงพลาสติกใส่อาหาร เพื่ออุ่นกับเตาไมโครเวฟ

การใช้วัสดุโฟมใส่อาหารที่ร้อนและมัน

ก็เทใส่จานกระเบื้องหรือเมลามีนก่อนนำไปอุ่นในเตาไมโครเวฟ

น่าจะช่วยได้นิดนึงมั้งคะ  :D

ขอบคุณค่ะพี่
เคยได้ยินว่าน้ำในขวดพลาสติกที่เราเก็บดองไว้ในรถก็มีผลเช่นกันค่ะ :D


ป๊าดโท่ นิดเดียวเองเหรอ :~)

เสียเวลานิดเดียวท้องเจ๊โอ สั่งเพิ่มอีกกล่องแน่ๆ...........อิอิ

เดี๋ยวนี้กินจุขึ้นซะด้วยสิเรา :~)

แต่ก่อนผมก็กินบ่อยมากเลยครับพวกแช่แข็งของ s&p ซื้อตุนไว้เต็มตู้เย็นเลย แต่เดี๊ยวนี้เลิกแล้วครับทำกินเองไม่ยากอย่างที่คิด มีไข่ในตู้เย็นก็ไม่อดตายแล้ววว  ::005::

อิอิ.......ถูกขังไว้ในบ้านอะจิตัวเอง

 ::006:: รู้อีกน๊ะพี่โป้ง แสดงว่าเคยโดนเหมือนกันหละซิครับ  ::008::

ใช่ครับ ผมห้ามแฟนและลูกสาวไม่ให้ดิ่มเด็ดขาด
เอาไปเติมในกระป๋องพักน้ำหม้อน้ำรถหรือฉีดปัดน้ำฝนครับ ;)

  ::005::รุ่นน้องโอนี่ยังกลัวอยู่เหรอน่าจะกลัว....ไม่อิ่มมากกว่า

อิอิ...เดี๋ยวนี้ตายกันโรคแปลกๆทั้งนั้นอ่ะค่ะ โอว่าส่วนหนึ่งที่สำคัญคือพฤติกรรมอาหารการกิน โอไม่อยากเสียเงินซ่อมบำรุงแล้วยังเจ๊งอ่ะค่ะ เสียดายตังค์ ::005::

กินอย่างไร ปลอดภัยโรคและสารพิษ

       ปัจจุบันปัญหาพิษภัยในอาหาร และความไม่สะอาดปลอดภัยในการบริโภคอาหารของประชาชน นับวันยิ่งต้องทวีความรุนแรงขึ้น ด้วยรูปแบบของปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไป ตามอิทธิพลของวัฒนธรรม ประเพณี และสังคม ตลอดจนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเป็นเมือง และการเดินทางไปสู่ประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ของประเทศไทย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีชีวิตของประชาชน วัฒนธรรมการบริโภคอาหารของประชาชน ได้เปลี่ยนจากการปรุง ประกอบอาหารในบ้าน ไปเป็นการบริโภคอาหารนอกบ้าน อาหารปรุงสำเร็จ อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารพร้อมรับประทาน จนเกิดผลกระทบที่สำคัญต่อปัญหาสุขภาพ ของประชาชนที่มีพฤติกรรมการเลือกซื้อ เลือกบริโภค หรือมีพฤติกรรมอนามัยที่เกี่ยวกับอาหารไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการเสี่ยงต่อการเจ็บปวดด้วยโรค ที่เกิดจากอาหารเป็นสื่อ ทั้งจากเชื้อโรค และสารเคมีอันตราย เช่น โรคอุจจาระร่วง ไทฟอยด์ ไวรัสตับอักเสบเอโรคมะเร็ง เป็นต้น

      ในบางรายที่ได้รับจุลินทรีย์ หรือสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าไปเป็นจำนวนมาก ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ การป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นสื่อ ตลอดจนการดูแลควบคุมความสะอาด และปลอดภัยในอาหาร จึงเป็นบทบาทหน้าที่ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการปรุง ประกอบ จำหน่ายอาหาร
     
      ผู้บริโภค ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ในหน่วยงานต่างๆ ที่จะต้องช่วยกันดูแลควบคุม และปฏิบัติงานให้ถูกต้อง เพื่อลดอัตราการป่วยด้วยโรคดังกล่าว ผู้บริโภคสามารถควบคุมดูแลความสะอาด ปลอดภัยในอาหาร ที่จะนำมาบริโภคได้ด้วยตนเองโดยจะต้องพิจารณาตั้งแต่ การเลือกซื้ออาหาร การเตรียม การเก็บ และการปรุง ประกอบอาหารในบ้าน เพื่อลดการปนเปื้อนของอาหาร จากจุลินทรีย์ต่างๆ จุดเสี่ยงสำคัญที่ผู้บริโภคจะต้องพิจารณา มีดังนี้

 การเลือกซื้ออาหาร (Purchasing) การเก็บอาหาร (Storage) การเตรียมอาหาร (Preparation) การปรุงอาหาร (Cooking)

 การบริโภคอาหาร (Serving) การจัดการกับอาหารที่เหลือ (Handling leftover) การรักษาความสะอาด (Hygienic Practices)

การเลือกซื้ออาหาร (Purchasing) เพื่อควบคุมความปลอดภัยของอาหาร
ในการเลือกซื้ออาหารทุกชนิด ผู้บริโภคควรปฏิบัติดังนี้

เลือกซื้ออาหารสด พวกเนื้อสัตว์ หรืออาหารอื่นที่มีคุณภาพ ผลิตและจำหน่ายในบริเวณที่สะอาด ปลอดภัย เชื่อถือได้ หรือได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

เลือกซื้อผักสด / ผลไม้ ตามฤดูกาล มีสีสดตามธรรมชาติ อยู่ในสภาพดี ไม่เหี่ยวเฉา ไม่มีร่องรอยเน่าซ้ำ ไม่มีคราบวัตถุสีขาวของสารฆ่าแมลง และผลิตจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้

เลือกซื้ออาหารกระป๋องที่ไม่บุบ บวม รั่วซึม หรือขึ้นสนิม ไม่มีร่องรอยของสัตว์ แมลงนำโรคเช่น คราบสกปรกจากปัสสาวะหนู ไข่แมลงสาบ เป็นต้น เลือกใช้ถุง / ภาชนะบรรจุ อาหารเนื้อสัตว์ดิบที่ไม่รั่วซึม สามารถห่อหุ้มเนื้อสัตว์ได้ อย่างมิดชิด แยกวางห่างจากฟลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ และนำไปแช่เย็น หรือแช่แข็งโดยเร็วทันที

ภายหลังการซื้อ การเก็บอาหาร (Storage) การเก็บอาหารที่อุณหภูมิเหมาะสม จะช่วยรักษาคุณภาพและป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในอาหารได้ ดังนี้

อาหารเนื้อสัตว์สด / อาหารที่เน่าเสียง่าย นมและผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์ หรืออาหารปรุงสุกที่เสื่อมคุณภาพง่าย ควรเก็บไว้ในตู้เย็น ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 5?C ป้องกันไม่ให้น้ำจากเนื้อสัตว์ดิบต่างๆ หยดลงสู่อาหารอื่นโดยบรรจุในภาชนะที่ไม่มีการรั่วซึม หรือวางห่อ/ถุง ที่บรรจุเนื้อสัตว์ดิบบนถาด / จานที่สามารถรองรับน้ำนั้นได้ ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง

ผักสด / ผลไม้ ให้เก็บตามความเหมาะสม ผักบางชนิดเหี่ยวเฉาง่าย ควรเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 7-10?C ภายหลังจากการล้างทำความสะอาด และแยกเก็บเป็นสัดส่วนเฉพาะ อาหารกระป๋อง ควรเก็บในบริเวณที่สูงจากพื้นอย่างน้อย 30 ซม. ในที่แห้งเย็นสะอาด หลีกเลี่ยงการเก็บในบริเวณที่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป

อาหารที่ปรุงสุกที่บริโภคร้อน ต้องเก็บที่อุณหภูมิสูงกว่า 60?C ขณะให้บริการ / จำหน่าย และห้ามเก็บอาหารปรุงสุกทุกชนิดที่อุณหภูมิห้องปกติ นานเกิน 2 ชม. ไม่เก็บอาหารทุกชนิดในตู้เย็นเป็นเวลานานเกินไป

การเตรียมอาหาร (Preparation) การควบคุมป้องกันความปลอดภัยของอาหาร ระหว่างการเตรียมอาหาร มีดังนี้

ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนการเตรียมอาหาร แยกการเตรียมอาหารเนื้อสัตว์ดิบ และอาหารที่บริโภคได้ โดยไม่ต้องผ่านความร้อน เช่น สลัดผัก ผลไม้ เป็นต้น ออกจากกัน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้าม ระหว่างอาหารดิบ และอาหารอื่นๆ เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ต้องล้างทำความสะอาด ก่อนนำมาปรุงเพื่อบริโภค ละลายอาหารแช่แข็งในตู้เย็น  ไม่ละละายอาหารแช่แข็งที่อุณหภูมิห้อง

การใช้เตาไมโครเวฟในการละลายอาหารแช่แข็ง (Thawing) ควรปรุงอาหารนั้นทันที ภายหลังการละลายอาหาร

แยกใช้ภาชนะบรรจุอุปกรณ์ เช่น เขียง มีด เป็นต้น ในการเตรียมอาหารเนื้อสัตว์ดิบ ผักสด และอาหารปรุงสุก ล้างทำความสะอาดเขียงทุกครั้ง ภายหลังการใช้กับอาหารเนื้อดิบ โดยใช้น้ำร้อน สารเคมีทำความสะอาด และฆ่าจุลินทรีย์ แล้วทิ้งไว้ให้แห้งเอง หรือใช้เครื่องอบความ
ร้อนฆ่าจุลินทรีย์ ทำความสะอาดโต๊ะ เตรียมปรุงอาหาร ภาชนะอุปกรณ์ทุกชิ้นทันที ภายหลังการใช้

การปรุงอาหาร (Cooking) การปรุงอาหารจะช่วยกำจัด และลดการเปื้อนของจุลินทรีย์ได้ ดังนี้

ปรุงอาหารโดยใช้ความร้อยสูงเพียงพอ ในขั้นตอนเดียวที่จะทำให้อาหารพวกเนื้อสัตว์ / สัตว์ปีก / ไข่ / อาหารทะเล สุดทั่วถึง เช่น ต้มให้สุก หรือปิ้ง ทอด ในครั้งเดียว ไม่ใช่เพียงทำอาหารให้สุกเพียงครึ่งเดียว ในขั้นตอนแรก แล้วนำไปทำให้สุกต่อ โดยวิธีอื่น เพราะอาจยังมีจุลินทรีย์หลงเหลืออยู่ในอาหารได้

หากใช้เตาไมโครเวฟในการปรุงอาหารควรใช้ภาชนะเฉพาะ มีการปกปิดที่มิดชิด ใช้เวลา และความร้อนตามที่กำหนดไว้เพื่อให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง อุ่นอาหารทุกชนิดด้วยความร้อนที่สูงเพียงพอ ที่จะทำให้ทุกส่วนของอาหารมี อุณหภูมิอย่างน้อย 70?C หรือร้อนทั่วถึงกันทุกส่วน

น้ำใช้ในการปรุงอาหาร ต้องได้มาตรฐานน้ำดื่ม และมาจากแหล่งที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

การบริโภคอาหาร (Serving) ควรบริโภคอาหารทันที หรือเร็วที่สุด ภายหลังการปรุง และควรปฏิบัติดังนี้

ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนบริโภคอาหาร รับประทานอาหารที่ปรุงใหม่ ไม่บริโภคอาหารที่ปรุงสุก แล้วตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกิน 2 ชม.โดยไม่ได้อุ่นให้ร้อนทั่วถึง เพราะจะทำให้จุลินทรีย์ที่อาจหลงเหลือ อยู่ในอาหารเจริญเติบโต และเพิ่มจำนวนจนถึงปริมาณที่ทำให้เกิดโรคได้

-ต้องใช้ช้อนกลางทุกครั้ง หากบริโภคอาหารร่วมกับผู้อื่น

 -ควบคุมอุณหภูมิอาหารทุกชนิดให้อยู่นอกเขตอันตราย คือ อาหารบริโภคร้อน จะต้องเก็บที่อุณหภูมิสูงกว่า 63 องศาเซลเซียส และอาหารบริโภคเย็น จะต้องเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 5  องศาเซลเซียส 

-ไม่นำอาหารที่หมดอายุแล้วมาบริโภค

การจัดการกับอาหารที่เหลือ (Handling leftover) การจัดการกับอาหารที่เหลือจากการบริโภค ควรปฏิบัติดังนี้

เก็บอาหารในภาชนะที่สะอาด และมีการปกปิดมิดชิด หากอาหารที่เหลือมีจำนวนมาก ให้แบ่งเป็นส่วนๆ และใส่ภาชนะที่กว้างและตื้น
ก่อนนำอช่ในตู้เย็น หรือทำให้เย็นอย่างรวดเร็ว อาหารที่เหลือ หากจะนำมาบริโภคใหม่ ต้องอุ่นด้วยความร้อน ให้อาหารมีอุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส

การรักษาความสะอาด (Hygienic Practices)
ล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ทุกครั้งก่อนเตรียมปรุง และรับประทานอาหาร ล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ ห้องส้วม หยิบจับขยะ / สิ่งสกปรกต่างๆ ล้างทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรค ภาชนะอุปกรณ์ และบริเวณที่เตรียมปรุงอาหาร

หลังการเตรียมปรุงอาหารทุกครั้ง มีการป้องกันไม่ให้สัตว์ / แมลงนำโรคเข้ามาในบริเวณห้องครัว หรือสถานที่ปรุงประกอบจำหน่าย และให้บริการอาหาร นอกจากช้อควรปฏิบัติที่กล่าวมาแล้ว ผู้บริโภคควรมีสุขนิสัยในการบริโภคอาหารที่ถูกต้อง เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ที่มีอยู่ไปสู่ผู้อื่น

สุขนิสัยในการบริโภคอาหารที่ควรปฏิบัติ คือ

- บริโภคอาหารปรุงสุกใหม่ที่ผ่านการฆ่าจุลินทรีย์ด้วยความร้อน

- เลือกบริโภคอาหารที่สะอาด ปลอดภัย โดยคำนึงถึงความสะอาดของตัวอาหาร ภาชนะ อุปกรณ์ ร้าน หรือแหล่งผลิตที่สะอาด

- ล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ ก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง

- ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารทุกครั้ง ไม่รับประทานอาหารกับผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง เช่น วัณโรค เป็นต้น


ปล. ขอบคุณข้อมูลจาก กินอย่างไร ปลอดภัยโรคและสารพิษ โดย กองสุขาภิบาลอาหาร กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ใน กินอาหารสะอาด รสชาติอร่อย

เมลามีนใส่ของร้อนได้ แต่ห้ามใส่ไมโครเวฟครับ .... เพราะทนได้ไม่มากเท่าในเตาครับ ....

รีบเตือนด้วยความเป็นห่วง ....  8)

จะอุ่นอาหารกล่อง ก็ดูก่อนว่ากล่องที่ใส่มานั้นเขียนว่าเข้าไมโครเวฟได้หรือเปล่า ... ถ้าไม่มีเขียนไว้ ก็ไม่ต้องลอง ... ถึงเขียนไว้ ผมก็กลัวมันละลายคาเตาเหมือนกัน ....

สรุป ... ชามกระเบื้องเท่านั้นที่เราต้องการ  ;D ;D