เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: wasanami ที่ เมษายน 17, 2008, 02:07:50 PM



หัวข้อ: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wasanami ที่ เมษายน 17, 2008, 02:07:50 PM
มีลูกมีหลาน ระวังพวกลักเด็กกันหน่อยนะครับ

ข่าวจาก manager online

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000044893 (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000044893)

ชุมพร-พ่อแม่เด็กชายวัย 10 ขวบ ถูกคนร้ายลักพาตัวมาจากอุดรธานีนานกว่า 1 เดือน ตระเวนเร่ขายของตามที่ต่างๆ ถูกตำรวจชุมพรจับได้ เดินทางมารับตัวกลับบ้านเกิดแล้ว พร้อมเร่งสอบมีส่วนพัวพันขบวนการค้าแรงงานเด็กหรือไม่
       
       จากกรณี พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ สวป.สภ.เมืองชุมพร จับกุมตัว นายจำเริญ อินทรสมบัติ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 3 ต.น้ำเชื้อ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังลักพาตัว ด.ช.ไชยยันต์ อุทัยแสง อายุ 10 นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนมหาไถศึกษา ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี มาเดินเร่ขายตัวตั๊กแตนจักสานด้วยใบตาล บริเวณหน้าสถานีรถไฟชุมพร คืนวันที่ 16 เมษายน 2551 ที่ผ่านมานั้น
       
       ล่าสุด นายไพโรจน์ อุทัยแสง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแสง อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 4 ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยภรรยา นางพิมพร อุทัยแสง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.หนองแสง และบรรดาญาติๆ กว่า 10 คน เดินทางด้วยรถยนต์กระบะมารับตัว ด.ช.ไชยยันต์ ลูกชายที่ถูกลักพาตัวหายไปนานกว่า 1 เดือน หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร โดยมี พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จ.ชุมพร และพ.ต.อ.พูนประยูร อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา ผกก.สภ.เมืองชุมพร คอยให้การต้อนรับ
       
       เมื่อทั้งสองสามีภรรยามาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พานายไพโรจน์ และนางพิมพร ขึ้นไปพบกับ ด.ช.ไชยยันต์ ภายในห้องประชุมชั้น 2 ของ สภ.เมืองชุมพร เมื่อทั้งสองเห็นลูกชายถึงกับโผเข้าโอบกอดร่ำไห้โฮออกมา รวมทั้งญาติๆ ที่เดินทางมาด้วยถึงกับสะอื้นร่ำไห้เช่นกัน โดยนางพิมพรได้มอบช่อดอกไม้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่จับกุมคนร้ายดังกล่าว จนนำลูกชายของตนเองกลับคืนสู่อ้อมกอดอีกครั้ง
       
       นายไพโรจน์ กล่าวว่า ตนเองมีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 20 ปี ส่วน ด.ช.ไชยยันต์ อายุ 10 ปี เป็นลูกชายคนสุดท้อง ถูกลักพาตัวหายไปตั้งแต่คืนวันที่ 7 มีนาคม 2551 ขณะออกไปเที่ยวงานประจำปีกับญาติ ที่วัดทุ่งสว่างโค ต.ตะโด อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.กุมภวาปี แต่คดีไม่คืบหน้า
       
       อีกทั้งได้เดินทางไปบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้หลายแห่งเพื่อต้องการได้ตัวลูกชายกลับคืนมา พร้อมกับตระเวนออกติดตามสืบหาเรื่อยมา จนในที่สุดตนได้ไปร้องต่อตำรวจกองปราบปราม ที่กรุงเทพมหานคร และตำรวจกองปราบได้ลงไปเก็บรวบราวพยานหลักฐาน รวมทั้งคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ จนสามารถสเกตช์ภาพคนร้าย และออกหมายจับซึ่งก็ตรงกับนายจำเริญ อินทรสมบัติ อายุ 41 ปี เนื่องจากเคยต้องคดีในลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง
       
       จากนั้น นายไพโรจน์ และนางพิมพร พร้อมญาติๆ ได้ลงไปดูโฉมหน้าของนายจำเริญ อินทรสมบัติ ผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังอยู่ในห้องขัง และได้ตะโกนด่าสาปแช่งต่างๆ นานาอย่างโกรธแค้น โดยมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงอีกจำนวนหนึ่งที่ทราบข่าวต่างพากันมายืนดูหน้าผู้ต้องหา และร่วมตะโกนด่าสาปแช่งด้วยเช่นกัน
       
       พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เหมือนคนเป็นโรคจิตเคยถูกจับกุมในข้อหา “พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันควร” มาแล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่งทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา เป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมด และแต่ละครั้งศาลได้ตัดสินจำคุก 3-5 ปี แต่ลดหย่อนโทษเหลือ 1 ปี 6 เดือน หรือ 2 ปีบ้าง
       
       เมื่อจำคุกในเรือนจำก็จะมีเหตุบรรเทาโทษอีก เหลือติดคุกจริงไม่มากนัก เมื่อออกมาก็ได้กระทำผิดซ้ำซากมาตลอด จนกระทั่งออกมาก่อเหตุในครั้งนี้อีก ถือเป็นอันตรายต่อเด็กเป็นอย่างยิ่ง โดยแต่ละครั้งที่กระทำผิดก็จะบังคับพาเด็กตระเวนเร่ขายสินค้าไปทั่วประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งค้าเด็กด้วยหรือไม่ต่อไป








หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ฮิวโก้ ที่ เมษายน 17, 2008, 02:39:19 PM
ขอบคุณข้อมูลครับ...เยี่ยมครับ ::002::คนอุดรเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: pscn ที่ เมษายน 17, 2008, 02:39:50 PM

ขอบคุณครับ ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: นายต้นงิ้ว ที่ เมษายน 17, 2008, 02:44:58 PM
จับได้บ้านผม แต่ไม่ใช่คนบ้านผม รอดตัวไป


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ตูรุส ที่ เมษายน 17, 2008, 03:02:44 PM
ผมก็ติดตามข่าวนี้เหมือนกันครับ เรื่องจริงผ่านจอ

ยินดีกับครอบครัวด้วยครับ


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 17, 2008, 03:05:35 PM

        ดีใจกับพ่อแม่เด็กครับ ...... เมฆหมอกร้ายผ่านไปขอให้เจอแต่โชคดีเข้ามาแทน


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ เมษายน 17, 2008, 03:10:01 PM
โทษทำไมมันเบาจังครับ...โดนจับตั้งหลายครั้ง.....ทำไม..ไม่เพิ่มโทษให้หนักกว่าเดิมซะเลย....หรือว่าต้องรอ...ให้ศาลเตี้ย...ตัดสินกันเอง...เหมือนกันพวก  ข่มขืน  ปล้น ฆ่า  สารพัด....พอเข้าไปในคุก ก็ทำตัวดี..ออกมาได้ ก็กลับไปชั่วอีก....

ถ้ามาทำกับผม...ไอ้ชาติชั่วคนนี้....เป็นได้..แค่"ปุ่ย " บำรุงหญ้า ข้างถนนเท่านั้นแหละ



 ::014::ขอบคุณพี่เอ๋ มากครับ...อ่านเรื่องทำนองนี้ทีไร...ชักมีอารมณ์ ทุกที


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: sopon870 ที่ เมษายน 17, 2008, 03:26:15 PM
โทษทำไมมันเบาจังครับ...โดนจับตั้งหลายครั้ง.....ทำไม..ไม่เพิ่มโทษให้หนักกว่าเดิมซะเลย....หรือว่าต้องรอ...ให้ศาลเตี้ย...ตัดสินกันเอง...เหมือนกันพวก  ข่มขืน  ปล้น ฆ่า  สารพัด....พอเข้าไปในคุก ก็ทำตัวดี..ออกมาได้ ก็กลับไปชั่วอีก....

ถ้ามาทำกับผม...ไอ้ชาติชั่วคนนี้....เป็นได้..แค่"ปุ่ย " บำรุงหญ้า ข้างถนนเท่านั้นแหละ



 ::014::ขอบคุณพี่เอ๋ มากครับ...อ่านเรื่องทำนองนี้ทีไร...ชักมีอารมณ์ ทุกที
มีอารมณ์ๆ... พักนี้พี่เหน่งหงุดหงิดง่ายแฮะ ::008::


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ เมษายน 17, 2008, 03:34:18 PM
มีอารมณ์ๆ... พักนี้พี่เหน่งหงุดหงิดง่ายแฮะ ::008::

ผมมันพวกเก็บกลด..น่ะ...ช่วงก่อนต้องเก็บทุกวัน  เย็นกาง เช้าเก็บ....กลด....ไม่ใช่เก็บกฏนะ.. ::008::


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: deore XT ที่ เมษายน 17, 2008, 04:14:57 PM
ผมดูข่าวจากทีวี เห็นคนร้ายบอกว่าจะพาเด็กลงใต้ไปเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายจะขายเด็กให้กับโรงงานที่ใช้แรงงานเด็กทางใต้

อยากให้ตำรวจท่านสอบสวนขยายผลประเด็นนี้ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ เมษายน 17, 2008, 04:27:00 PM
มีอารมณ์ๆ... พักนี้พี่เหน่งหงุดหงิดง่ายแฮะ ::008::

ผมมันพวกเก็บกลด..น่ะ...ช่วงก่อนต้องเก็บทุกวัน  เย็นกาง เช้าเก็บ....กลด....ไม่ใช่เก็บกฏนะ.. ::008::

ฮิ ฮิ ฮิ


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ชัยบึงกาฬ รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2008, 04:49:59 PM
มีอารมณ์ๆ... พักนี้พี่เหน่งหงุดหงิดง่ายแฮะ ::008::

ผมมันพวกเก็บกลด..น่ะ...ช่วงก่อนต้องเก็บทุกวัน  เย็นกาง เช้าเก็บ....กลด....ไม่ใช่เก็บกฏนะ.. ::008::
เก็บจริงๆ... ::007:: ::007::.....ผมว่าน่าเอามาทำเป้าปืนบีบีนะ...ชั่วจริงๆ..


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 17, 2008, 05:02:13 PM
อันตรายจริงๆ ระวังกันไว้ครับพ่อ แม่ พี่ น้อง


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ เมษายน 17, 2008, 05:05:51 PM
มีอารมณ์ๆ... พักนี้พี่เหน่งหงุดหงิดง่ายแฮะ ::008::

ผมมันพวกเก็บกลด..น่ะ...ช่วงก่อนต้องเก็บทุกวัน  เย็นกาง เช้าเก็บ....กลด....ไม่ใช่เก็บกฏนะ.. ::008::
เก็บจริงๆ... ::007:: ::007::.....ผมว่าน่าเอามาทำเป้าปืนบีบีนะ...ชั่วจริงๆ..


           คนจำพวกที่ เช่น ปล้น ฆ่า ข่มขืน ลักพา น่าจะเอา การลงโทษ แบบสมัยก่อน ที่เรียกว่า "แบบจารีตนครบาล" มาใช้ซะให้เข็ด เปิดให้ดูชม ถ่ายทอดสดกันซะเลย จะได้มีคนเกรงกลัว กฏหมายบ้าง...อย่างเช่น  เอาตะขอเบ็ดเกี่ยว ๆ ๆ  แล้ว ถลกหนังศรีษะ เปิดให้เห็นกะโหลก แล้ว เอาสิ่ว เจาะ ๆ ๆ โดยรอบกะโหลก  แล้วเปิดกะโหลกออก  เอาเหล็กลนไฟทำเป็นคล้ายทัพพี ตักเอาสมองออกมา  แล้ว ตักถ่านไฟร้อน ๆ ใส่เข้าไปแทน

  หรือ เอาดาบ กรีดเนื้อ หนัง แขน ขา ทีละน้อย แล้วเอาน้ำเกลือราด ๆ ภายใน ๓ วัน ค่อย ๆ กรีด ให้ได้รับความทุกข์ ทรมาณ ทีละน้อย ... ตัดมือ ตัดเท้า ตัดลิ้น ...ควักลูกตามัน

  ยังไม่พอ ... เอาตัวไปฝังดินเหลือแค่หัว อีก ๓วัน ๗ วัน  ถ้าไม่ตายก็เอามาซ้ำ ถ้าตาย ก็เอาไปเผาไฟซะ....แบบนี้...มันน่าทำให้คนที่คิดทำชั่วได้ ตระหนักบ้าง...


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 17, 2008, 05:08:43 PM
ตายแน่ครับ ไม่ต้องรอบสอง


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ เมษายน 17, 2008, 05:26:19 PM
ตายแน่ครับ ไม่ต้องรอบสอง
ครับพี่... ;D

ประวัติการลงโทษของไทย

     วิวัฒนาการการลงโทษผู้กระทำผิดในทุกประเทศ มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันคือ เริ่มจากการลงโทษอย่าง
โหดร้ายเพื่อตอบแทนให้สมแค้น เพื่อข่มขู่ยับยั้งให้เกรงกลัวและเข็ดหลาบ แล้วคลี่คลายลงมาเป็นการฟื้นฟู
อบรมแก้ไขให้คืนดี รูปแบบการลงโทษในแต่ละยุคสมัยก็เปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะการปกครอง และ
สังคมเป็นสำคัญ

การราชทัณฑ์ของประเทศไทย อาจแบ่งวิวัฒนาการเป็น 3 ยุค คือ
1. ยุคก่อนสมัยรัชกาลที่ 5
2. ยุคแห่งการปรับปรุงในสมัยรัชกาลที่ 5
3. ยุคปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่สมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475

ยุคก่อนสมัยรัชกาลที่ 5
สมัยกรุงศรีอยุธยา
     แม้กฎหมายเก่าในสมัยกรุงศรีอยธยาจะสูญหายไปมาก แต่จากกฎหมายตราสามดวง ซึ่งได้ประมวลไว้
ในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ สามารถแสดงให้เห็นเค้าโครงการลงโทษในสมัยกรุงศรีอยุธยาได้
ว่า เป็นการลงโทษเพื่อแก้แค้น ตอบแทน และข่มขู่ยับยั้ง เพราะมุ่งลงโทษที่ตัวผู้กระทำผิดอย่างเต็มที่ โดย
เฉพาะโทษประหารชีวิตในพระอัยการขบถศึก อันว่าด้วยโทษทวะดึงษ์กรรมกรณ์ 32 ประการ ได้กำหนดวิธี
การประหารชีวิตหลายรูปแบบอย่างน่าสยดสยอง

การลงโทษสมัยอยุธยา พอจะประมวลได้ ดังนี้

 
     1.การประหารชีวิต ปกติใช้วิธีตัดศรีษะด้วยดาบ แต่ใน
กรณีกบฏได้มีบทบัญญัติในลักษณะที่โหดร้ายทารุณอย่างยิ่ง ซึ่งเข้าใจว่ามุ่งหมายข่มขู่ให้เกรงกลัว และในกรณีลงโทษพระ-
ราชวงศ์ก็มีวิธีประหารชีวิตแตกต่างจากสามัญชน
     2.การลงโทษร่างการให้เจ็บปวดทรมาน โดยปกติใช้เฆี่ยน
ด้วยหวาย หรือทวนด้วยลวดหนัง จองจำหรือพันธนาการด้วย ขื่อ
คา พวงคอ ล่ามโซ่ ตรวน ขึ้นขาหย่าง บั่นทอนอวัยวะด้วยการตัด
มือ ตัดเท้า ตอกเล็บ ควักนัยตา แหวะปาก ตัดลิ้น 
     3.ประจาน ได้แก่ สักหน้าหรือตัว แหวะหน้าผากหรือแก้ม พร้อมทั้งจำเครื่องพันธนาการ มีคนตีฆ้อง
ร้องประกาศความชั่วตระเวนไปรอบเมือง
        4.ปรับตามลักษณะความร้ายแรงของความผิดและตามฐานันดรศักดิ์
        5.ริบทรัพย์ มักคู่กับโทษประหารชีวิต เรียกว่า ริบราชบาตรคือถูกริบทั้งหมดทั้งทรัพย์สินเงินทอง
รวมทั้งลูกเมีย
        6.โทษจำคุก ไม่มีกำหนดยาวนานเท่าใด แล้วแต่พระเจ้าอยู่หัวจะโปรดพระราชทานอภัยโทษ หรือ
มีพระบรมราชโองการสั่ง
 


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ เมษายน 17, 2008, 05:28:09 PM
อันนี้ ก็โหด....มาก ๆ ครับ  :o


การจองจำ 5 ประการ

     สันนิษฐานว่า มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวิธีการจองจำผู้กระทำความผิดที่ต้องโทษประหารชีวิต
จำคุกตลอดชีวิต และตามความเหมาะสมที่พระทำมะรง เห็นสมควรด้วยเครื่องพันธนาการ 5 ชนิด ตามที่
อธิบายไว้ในหนังสือสารานุกรมไทย คือ ตรวนใส่เท้า เท้าติดขื่อไม้ โซ่ล่ามคอ คาใส่คอทับโซ่ มือทั้งสอง
สอดเข้าไปในคา และไปติดกับขื่อทำด้วยไม้ แต่ในหนังสือ "เล่าเรื่อง กรุงสยาม" ซึ่งสังฆราชปาเลกัวซ์ เขียน
ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2397 ระบุว่ามีดังนี้ คือ ตรวนเหล็กที่คอ กุญแจมือ ตรวนใส่เท้า โซ่ล่ามเอว คาใส่คอ การจองจำ
5 ประการ ได้ถูกยกเลิกในปี พ.ศ. 2434 (ร.ศ.110) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล
ที่ 5

 

เครื่องมือทรมาน

      เครื่องมือทรมานเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "เครื่อง จารีตนครบาล" ปรากฎหลักฐานตามกฎหมายตราสาม
ดวง สันนิษฐานว่ามีการใช้กันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น คำว่า "จารีต
นครบาล" คือวิธีการไต่สวนจำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอาญาแผ่นดินให้รับสารภาพด้วยวิธีการ
ทรมานร่างกายให้เกิดความทุกข์ ทรมานเจ็บปวด เช่น ตอกเล็บ บีบเล็บ บีบขมับ ขึ้นขาหยั่ง เป็นต้น จารีต
นครบาลได้ถูกยกเลิกอย่างเด็ดขาด ในปี พ.ศ.2451 (ร.ศ.127) โดยประกาศประมวลกฎหมาย ลักษณะอาญา
ยกเลิกการไต่สวนโดยจารีตนครบาล

 

1. ไม้บีบเล็บ

      ลักษณะเป็นไม้เนื้อแข็ง 2 อัน ปลาย 2 ข้างเป็นปุ่ม และ
เรียวลงไปตอนกลางโป่ง ยึดปลายข้างหนึ่งไว้ด้วยเชือกให้แน่น
เมื่อเอาบีบลงตรงเล็บผู้ที่ถูกสอบสวนแล้ว ก็เอาเชือกรัดขัน
ปลาย อีกข้างหนึ่ง ให้แน่นแล้วใช้ค้อนไม้เนื้อแข็งทุบลงไป
ตรงกลางที่วางเล็บไว้ ตามหลักฐานใช้สำหรับทรมานผู้ร้าย
เวลาไต่สวนเพื่อให้รับสารภาพ ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า เริ่ม
ใช้สมัยกรุงศรีอยุธยาโดยกฎหมาย "พระอัยการ ขบถศึก" จุล
ศักราช 796 (พ.ศ. 1978) เลิกใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาล
ที่ 5) โดยประมวลกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451)
 

 

2. ไม้บีบขมับ

     เป็นเครื่องมือทรมานทำด้วยไม้เนื้อแข็ง มี 2 อัน ปลายข้างหนึ่งใช้
เชือกผูกไว้ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งมีเชือกขันตรงกลางมีปุ่ม 2 ปุ่ม สำหรับ
ใส่ตรงขมับทั้ง 2 ข้าง และขันเชือกอีกปลายด้านหนึ่งให้แน่น กดขมับให้
เจ็บปวดจนกว่าจะให้ถ้อยคำเป็นที่เชื่อถือได้ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า เริ่ม
ใช้สมัยกรุงศรีอยุธยาโดยกฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศักราช 796
(พ.ศ. 1978) เลิกใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 5) โดยประมวลกฎ
หมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ.2451)   

 

3. ฆ้อนตอกเล็บ

      ทำด้วยไม้แก่นปลายไม้ข้างหนึ่งแหลมใช้สำหรับใส่เข้า
ไประหว่างเล็บและเนื้อแล้วใช้ฆ้อนตอกไม้ปลายแหลมเข้าไป
ในเล็บปรากฏหลักฐานแน่ชัด ว่าเริ่มใช้สมัยกรุงศรีอยุธยา โดย
กฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) เลิก ใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่5) โดยประมวลกฎหมาย ลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451) 

 

4. หีบทรมาน

     ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง มีลักษณะคล้ายหีบศพขนาดพอดีกับตัวคน ที่ฝาปิด
มีรูเจาะไว้ 2 รู เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้ว สำหรับให้พอหายใจได้
เท่านั้น เมื่อเอาผู้ร้ายเข้าไปนอนในหีบ ปิดฝาแล้วจะพลิกหรือตะแคงตัว
ไม่ได้อาจวางนอน หรือวางยืนไว้กลางแดดก็ได้ ร้อนจนอึดอัดแทบขาดใจ
ตาย เป็นการทรมานเพื่อให้รับสารภาพ ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มใช้
สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยกฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศึกราช 796
(พ.ศ.1978) เลิกใช้ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 5) โดยประมวลกฎ-
หมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451)   

 

5. ไม้ขาหย่าง

      เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ ซึ่งมักใช้เป็นโทษประจานให้ได้อาย มีลักษณะเป็นไม้
กลม 3 ท่อน ยาวท่อนละประมาณ 1.60 เมตร ปลายมีเหล็กแหลมหุ้มสำหรับเสียบ
ลงในดินให้แน่น ปลายอีกข้างหนึ่งใช้เชือกมัดรวมแล้วมัดผู้กระทำผิดไว้บนไม้สาม
ขา หรืออาจแขวนห้อยไว้ไม่ให้เท้าหยั่งพื้นถึง มีเจ้าหน้าที่ตีฆ้องร้องป่าว มิให้คนอื่น
เอาเยี่ยงอย่าง 

 

6. เบ็ดเหล็ก

     ใช้เพื่อลงทัณฑ์ผู้ต้องโทษโดยเกี่ยวเบ็ดเหล็กเข้าใต้คาง ปลายแหลม
ของเบ็ดเหล็กเสียบทะลุคางถึงใต้ลิ้น แล้วชักรอกดึงรั้งคางของผู้ต้องโทษ
ให้ตัวลอยขึ้นจนปลายเท้าลอยพ้นจากพื้นดิน โดยไม่ให้คางหลุดจากเบ็ด
เหล็ก เบ็ดเหล็กนี้ทำด้วยเหล็กท่อนขนาด 4 หุน ปลายแหลมเหมือน เบ็ดตก
ปลา ยาวประมาณ 16 นิ้ว เริ่มใช้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตรงกับสมัยแผ่นดิน
ของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) ซึ่งปรากฎใน
กฎหมายพระอัยการขบถศึก และเลิกใช้ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ร.ศ. 127
(พ.ศ. 2451) เมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายลักษณะอาญา 

 

7. ตะกร้อลงโทษ (ตะกร้อช้างเตะ)

      เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ มีลักษณะทรงกลมทำด้วยหวาย
เส้นสานกันห่างๆ หวายที่สานมีด้วยกันแผงละ 13 เส้น เส้นผ่า
ศูนย์กลางประมาณ 80 เซนติเมตร มีช่องขัดเสียบเหล็กแหลม
ลงไปช่องละ 6-9 ตัว วิธีการลงทัณฑ์จับคนโทษ ยัดใส่ตะกร้อ
แล้วใช้ช้างเตะให้เลียดกลิ้งไปกับพื้นเหล็กแหลมจะทิ่มแทง
ตามร่างกายให้ได้รับความเจ็บปวด ตะกร้อที่จัดแสดงไว้ที่
พิพิธภัณฑ์ ตามหลักฐานได้มาจากคุกเมืองโคราชหรือเรือนจำ
กลางนครราชสีมาปัจจุบัน   

 

8. หวาย

     เป็นเครื่องมือทรมานในการไต่สวนคนร้ายที่ถูกกล่าวหาให้รับสัตย์
(รับผิด) เริ่มใช้สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์และเลิกใช้สมัยรัชกาลที่ 5
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ร.ศ. 115 (พ.ศ. 2439) หวายที่ใช้ลงโทษผู้ต้อง
ขัง มี 3 ลักษณะ   

8.1 หวายแช่น้ำแสบ (น้ำเกลือ)

      ทำด้วยหวายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1.10 เมตร ที่ด้านมือจับควั่นด้วยเปลือก
หวายเส้น วิธีการทรมาน จับคนร้ายมัดหันหน้าติดพื้นหรือนอนคว่ำหน้ากับพื้นราชทัณฑ์จะใช้หวายแช่น้ำแสบ
(น้ำเกลือ) ที่เตรียมเอาไว้ หวดเฆี่ยนบนหลังคนร้ายตามกำหนดการเฆี่ยนใช้ นับเป็นยก "ยกหนึ่ง" หมายถึง
30 ขวับ จนกว่าคนร้ายจะรับสัตย์ (รับผิด)

8.2 หวายกระชากหนังกำพร้า

       ทำด้วยหวาย 3 เส้นมัดรวมกัน แต่ละเส้นวันเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 1 เซนติเมตร ยาวประมาณ
1.25 เมตร ครึ่งปลายของหวายหุ้มด้วยเปลือกหวายขัด เพราะเปลือกหวายขัดนี่เอง เวลาหวดลงหวายไปแต่ละ
ทีหนังกำพร้าจะหลุดติดออกมาเป็นริ้วๆ การนับก็เป็น "ยก" เช่นเดียวกับ หวายแช่น้ำแสบ

8.3 หวายสามแนว

        ทำด้วยหวาย 3 เส้น แต่ละเส้นวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 1 เซนติเมตรยาวประมาณ 1.25 เมตร
โดยเอาหวาย 3 เส้นมัดรวมกัน แค่ครึ่งหนึ่งของตัวหวายไว้เป็นที่จับ อีกครึ่งหนึ่งของส่วนปลายปล่อยเปลือย
การเฆี่ยนตีหรือโบยด้วยหวายสามแนวเหมือนกับหวายแช่น้ำแสบ และหวายกระชากหนังกำพร้า


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 17, 2008, 05:31:14 PM
ตอนนี้พูดได้หรือยังว่ากฎหมายบ้านเราไม่ศักดิ์สิทธิ์ ;D ;D ;D นักการเมืองไม่กลัวเลย


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ เมษายน 17, 2008, 05:32:59 PM
อันตรายจริงๆ ระวังกันไว้ครับพ่อ แม่ พี่ น้อง
จริงครับพี่ ขออย่าเจอกับลูกหลานหรือกะใครเลยครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ เมษายน 17, 2008, 05:34:00 PM
สำหรับพวกนักการเมืองขี้ฉ้อ..มันน่าจะโดนข้อนี้ก่อนเป็นอันแรก..ครับ...เอาให้เข็ดซะเลย.. ::009::

7. ตะกร้อลงโทษ (ตะกร้อช้างเตะ)

      เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ มีลักษณะทรงกลมทำด้วยหวาย
เส้นสานกันห่างๆ หวายที่สานมีด้วยกันแผงละ 13 เส้น เส้นผ่า
ศูนย์กลางประมาณ 80 เซนติเมตร มีช่องขัดเสียบเหล็กแหลม
ลงไปช่องละ 6-9 ตัว วิธีการลงทัณฑ์จับคนโทษ ยัดใส่ตะกร้อ
แล้วใช้ช้างเตะให้เลียดกลิ้งไปกับพื้นเหล็กแหลมจะทิ่มแทง
ตามร่างกายให้ได้รับความเจ็บปวด ตะกร้อที่จัดแสดงไว้ที่
พิพิธภัณฑ์ ตามหลักฐานได้มาจากคุกเมืองโคราชหรือเรือนจำ
กลางนครราชสีมาปัจจุบัน  



หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ชัยบึงกาฬ รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2008, 05:48:42 PM
เอามาให้สมาชิก..ดีดหู..คนละสองทีก็พอแล้วมั้ง...อิๆ


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ เมษายน 17, 2008, 06:05:10 PM
เอามาให้สมาชิก..ดีดหู..คนละสองทีก็พอแล้วมั้ง...อิๆ

เอาให้ขี้หู...ออกมาเต้นระบำ...เลย.... ::007::


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 17, 2008, 06:07:58 PM
สำหรับพวกนักการเมืองขี้ฉ้อ..มันน่าจะโดนข้อนี้ก่อนเป็นอันแรก..ครับ...เอาให้เข็ดซะเลย.. ::009::

7. ตะกร้อลงโทษ (ตะกร้อช้างเตะ)

      เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ มีลักษณะทรงกลมทำด้วยหวาย
เส้นสานกันห่างๆ หวายที่สานมีด้วยกันแผงละ 13 เส้น เส้นผ่า
ศูนย์กลางประมาณ 80 เซนติเมตร มีช่องขัดเสียบเหล็กแหลม
ลงไปช่องละ 6-9 ตัว วิธีการลงทัณฑ์จับคนโทษ ยัดใส่ตะกร้อ
แล้วใช้ช้างเตะให้เลียดกลิ้งไปกับพื้นเหล็กแหลมจะทิ่มแทง
ตามร่างกายให้ได้รับความเจ็บปวด ตะกร้อที่จัดแสดงไว้ที่
พิพิธภัณฑ์ ตามหลักฐานได้มาจากคุกเมืองโคราชหรือเรือนจำ
กลางนครราชสีมาปัจจุบัน  



เบาไปมั้ง ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ชัยบึงกาฬ รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2008, 06:12:26 PM
เอามาให้สมาชิก..ดีดหู..คนละสองทีก็พอแล้วมั้ง...อิๆ

เอาให้ขี้หู...ออกมาเต้นระบำ...เลย.... ::007::
หู..มันจะบ่บานเท่าฝ่ามือบ่...อิๆ


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ เมษายน 17, 2008, 06:18:29 PM
แล้วต่อด้วย นี่เลย  หม่ำกันดีนัก

 ::010::

6. เบ็ดเหล็ก

     ใช้เพื่อลงทัณฑ์ผู้ต้องโทษโดยเกี่ยวเบ็ดเหล็กเข้าใต้คาง ปลายแหลม
ของเบ็ดเหล็กเสียบทะลุคางถึงใต้ลิ้น แล้วชักรอกดึงรั้งคางของผู้ต้องโทษ
ให้ตัวลอยขึ้นจนปลายเท้าลอยพ้นจากพื้นดิน โดยไม่ให้คางหลุดจากเบ็ด
เหล็ก เบ็ดเหล็กนี้ทำด้วยเหล็กท่อนขนาด 4 หุน ปลายแหลมเหมือน เบ็ดตก
ปลา ยาวประมาณ 16 นิ้ว เริ่มใช้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตรงกับสมัยแผ่นดิน
ของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) ซึ่งปรากฎใน
กฎหมายพระอัยการขบถศึก และเลิกใช้ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ร.ศ. 127
(พ.ศ. 2451) เมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายลักษณะอาญา 



หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ตูมตาม - รักในหลวง - ที่ เมษายน 17, 2008, 08:52:23 PM
 ::002::  ดีใจกับ พ่อ แม่ และญาติ ของเด็ก..ด้วยครับ คนบ้านเดียวกัน ( อุดร )  ขอปรบมือดังๆให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่นำสืบหาจนพ่อ แม่ ลูก ได้พบกันครับ...... ::002::










หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: NAI HEAW ที่ เมษายน 18, 2008, 05:25:57 AM
::002::  ดีใจกับ พ่อ แม่ และญาติ ของเด็ก..ด้วยครับ คนบ้านเดียวกัน  ( อุดร )  ขอปรบมือดังๆให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่นำสืบหาจนพ่อ แม่ ลูก ได้พบกันครับ...... ::002::









อ้าว ! อยู่บ้านเดียวกับคุณตูมตามหรอกรึ ?  ;D


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ตูมตาม - รักในหลวง - ที่ เมษายน 18, 2008, 06:20:19 AM
::002::  ดีใจกับ พ่อ แม่ และญาติ ของเด็ก..ด้วยครับ คนบ้านเดียวกัน  ( อุดร )  ขอปรบมือดังๆให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่นำสืบหาจนพ่อ แม่ ลูก ได้พบกันครับ...... ::002::




อ้าว ! อยู่บ้านเดียวกับคุณตูมตามหรอกรึ ?  ;D




คนจังหวัดเดียวกันหรือใกล้เคียง...ใช้คำพูดหรือภาษาถิ่นเหมือนกัน....คนบ้านผมจะถือเสมือนว่าคนบ้านเดียวกันครับ.....อย่า...งงครับนายแห้ว.... ::005:: 


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Dexphet ที่ เมษายน 18, 2008, 06:30:32 AM
นิสัยไม่ดี >:(


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ เมษายน 18, 2008, 06:38:44 AM
โชคดีค่ะที่เจอ ดีใจกับพ่อแม่ญาติพี่น้องของเด็กด้วย


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ เมษายน 18, 2008, 07:50:45 AM
โชคดีที่ได้ลูกคืนครับ  แต่เคยได้ยินว่าลักพาเด็กไปทำงานในเรือประมง
ทำงานหนัก โอกาสรอดไม่มี หากทนไม่ได้มีแต่ตายกลางทะเลเป็นคนสาบสูญไป


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 18, 2008, 07:54:00 AM

          ตามข่าวว่าเจ้าตัวหัวขโมยนี้ ต้องคดีลักพาหลายครั้งแล้ว นี่ก็เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน

          มาทำตัวเลวๆซ้ำซากอีก ........ ไม่น่าเก็บไว้ให้หนักแผ่นดินและเป็นภัยร้ายแรงของสังคมเลย

          อยากให้กฎหมายกำหนดโทษผู้ร้ายทำการผิด+ชั่วร้ายซ้ำๆเกิน 3 ครั้งขึ้นไป ...... ฆ่าให้ตายสถานเดียว



หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ เมษายน 18, 2008, 10:24:18 AM
 ::002::  ดีใจที่ได้ลูกคืนครับ


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ เมษายน 18, 2008, 10:26:30 AM

          ตามข่าวว่าเจ้าตัวหัวขโมยนี้ ต้องคดีลักพาหลายครั้งแล้ว นี่ก็เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน

          มาทำตัวเลวๆซ้ำซากอีก ........ ไม่น่าเก็บไว้ให้หนักแผ่นดินและเป็นภัยร้ายแรงของสังคมเลย

          อยากให้กฎหมายกำหนดโทษผู้ร้ายทำการผิด+ชั่วร้ายซ้ำๆเกิน 3 ครั้งขึ้นไป ...... ฆ่าให้ตายสถานเดียว



เห็นด้วยกับพี่ปูครับ แบบนี้ถ้าหลุดมาอีก เด็กคนต่อไปอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้ครับ

ต้องลงโทษสถานหนัก ไม่ก็ขังลืมไปเลยครับ


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: นายต้นงิ้ว ที่ เมษายน 18, 2008, 11:53:21 AM

          ตามข่าวว่าเจ้าตัวหัวขโมยนี้ ต้องคดีลักพาหลายครั้งแล้ว นี่ก็เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน

          มาทำตัวเลวๆซ้ำซากอีก ........ ไม่น่าเก็บไว้ให้หนักแผ่นดินและเป็นภัยร้ายแรงของสังคมเลย

          อยากให้กฎหมายกำหนดโทษผู้ร้ายทำการผิด+ชั่วร้ายซ้ำๆเกิน 3 ครั้งขึ้นไป ...... ฆ่าให้ตายสถานเดียว



อาศัยกฎหมายคงยากครับ ต้องพิพากษากันเอง บ้านผมในอดีต ทำผิดหลายครั้งมีเตือนทั้งคนทำ พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ไม่สำนึกพิพากษาเอง(คนในชุมชน) ถือว่าเตือนแล้ว ให้โอกาศแล้ว สมัยนี้ได้แค่คิดครับ


หัวข้อ: Re: ด.ช.ถูกลักจากอุดรธานีกลับบ้านแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 18, 2008, 12:33:12 PM
          อยากให้กฎหมายกำหนดโทษผู้ร้ายทำการผิด+ชั่วร้ายซ้ำๆเกิน 3 ครั้งขึ้นไป ...... ฆ่าให้ตายสถานเดียว

ดูเหมือนโหดแต่ผมเห็นด้วยครับ ;D ;D ;D ไม่เอาไว้แล้ว