เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: silstar ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 01:36:43 PM



หัวข้อ: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: silstar ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 01:36:43 PM
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผมได้ไปยื่นเรื่องขอ ป.3 ปืนอีก 1 กระบอก ขนาด .357 เดิมผมมี 9 มม. และ 11 มม. อยู่แล้ว หลังจากดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่รอคอย คนรับเรื่อง (ขอเรียกคนรับเรื่องแล้วกัน เพราะคนรับเรื่องเป็นเจ้าหน้าที่เก่าที่ปลดเกษียณไปแล้ว แต่อำเภอเอามานั่งทำเอกสารเหมือนเดิมก่อนเกษียณ จึงถือว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่) ขอค่าบำรุงอำเภอ 2,000 บาท รวมใบอนุญาตด้วย โดยยกว่าผมมีหลายกระบอกแล้ว (แค่ 2 เอง) ความรู้สึกผมนี้อึ้งไปเลย  เอกสารก็ระบุนี่หว่าว่า ผม ร.ต.อ........ รอง สว......ขอมีอาวุธปืนเพื่อใช้ในราชการ และเพื่อการกีฬา ผมยังเงียบ ก็เลยลดลงเหลือ 1,500 บาท คนรับเรื่องก็เพื่อนพ่อเพื่อนแม่ผมนะ พ่อก็ไปด้วยนะ ตกลงจะเอากันจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 01:48:17 PM
อย่าไปยอมนะครับ... ให้ไปหกบาทก็พอ... ขนาดเป็นนายตำรวจยังโดยเรียกเก็บค่าบำรุงอำเภอ... แล้วนี่ประชาชนทั่วไปจะขนาดไหน...

...น่าจะจับกุมข้อหาเรียกรับสินบนครับ... จับบนอำเภอ... คาโต๊ะทำงานเลย...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ROONEY 10 รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 01:49:34 PM
อย่าไปยอมนะครับ... ให้ไปหกบาทก็พอ... ขนาดเป็นนายตำรวจยังโดยเรียกเก็บค่าบำรุงอำเภอ... แล้วนี่ประชาชนทั่วไปจะขนาดไหน...

...น่าจะจับกุมข้อหาเรียกรับสินบนครับ... จับบนอำเภอ... คาโต๊ะทำงานเลย...
เห็นด้วยครับ เอาให้หนัก ...  >:( >:(


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: KCharng ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 01:58:28 PM

กล้าจริงๆ รีดไถตำรวจ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อนซัง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 02:10:23 PM
อย่ายอมครับ เคยตัว


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 02:18:08 PM
แสดงว่าอำเภอนี้........ขาดการบำรุงครับ อิ อิ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 02:30:11 PM
แล้วคนธรรมดาอย่างเรา จะต้องบำรุงอำเภอเท่าไหร่ ::013::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ปาล์มๆ...ซุ่มโป่ง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 02:36:56 PM
มันเป็นช่องทางหาเงินของเจ้าหน้าที่บ้างคน ทำเป็นขอยากๆหน่อย ถ้าไม่จ่ายก็ดองเรื่องไว้จนลืม


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 02:55:01 PM
แล้วคนธรรมดาอย่างเรา จะต้องบำรุงอำเภอเท่าไหร่ ::013::

จ่ายเท่าไรก็ได้.....สุดแต่ใจจะไขว่คว้า อิ อิ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 02:55:28 PM
โอว์ แม่เจ้า ข้าวโพดคั่ว


หัวข้อ: text
เริ่มหัวข้อโดย: silstar ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 03:04:30 PM
กะ  ว่าวัน  ไปรับ  ใบ ป.4 จะ   เอา  เรื่อง  เกี่ยวกับศาลปกครอง  ไป  ให้  ไว้อ่าน ผมก็ขึ้นศาลอาญามา  เยอะ   ลองขึ้นศาลปกครองซักครั้งจะ   เป็น  ไร  ไป   แล้วว่าจะ  ร้อง  เรียน  เรื่องที่  เอาคนที่  ไม่  ใช่ข้าราชการมารับ  เรื่อง พิจารณา  เอกสาร บนสถานที่ราชการ  ได้ยัง  ไง


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: kesi2007 ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 03:05:13 PM
อย่ายอมครับ หรือลองเอาแบบผมก็ได้ ผมบอกว่าจะให้ก็ต่อเมื่อทุกอย่างเรียบร้อบแล้ว (รับใบป 4 ของเรา) พอถึงเวลาจริงผมก็ไปรับกับเจ้าหน้าที่ เรียบร้อยแล้วผมหันหลังกลับเลย ไม่นใจ ดัดหลังให้เข็ดคนพวกนี้


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 03:11:52 PM
ประชาชนเจอหนักกว่าเยอะครับ  เดี๋ยวนี้หลักหมื่นอัพแล้ว ไม่มีไม่ยอมคุยแล้ว ตั้งเอกสารทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ เฮ้อ...มาตรฐานราชการไทย :P


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: patara ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 03:13:22 PM
สุดยอดครับ ที่ว่าการอำเภอแห่งนี้ สงสัยมีความจำเป็นต้องบำรุงอำเภออย่างเร่งด่วน
แล้วตัวอาคารเป็นไงบ้างครับ ต้องรีบซ่อมด่วนหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 04:07:38 PM
กะ  ว่าวัน  ไปรับ  ใบ ป.4 จะ   เอา  เรื่อง  เกี่ยวกับศาลปกครอง  ไป  ให้  ไว้อ่าน ผมก็ขึ้นศาลอาญามา  เยอะ   ลองขึ้นศาลปกครองซักครั้งจะ   เป็น  ไร  ไป   แล้วว่าจะ  ร้อง  เรียน  เรื่องที่  เอาคนที่  ไม่  ใช่ข้าราชการมารับ  เรื่อง พิจารณา  เอกสาร บนสถานที่ราชการ  ได้ยัง  ไง

ผมว่าเอาไปให้เขา เขาไม่อ่านหรอกครับ ท่านรองฯ :D
ถ้าเขาอ่าน คงอ่านไปนานแล้ว และคงไม่ทำอย่างแบบนี้หรอกครับ

หรือไม่ก็อ่านแล้วแต่ไม่จำครับ  ::014::

เคยถามว่า "คุณเอาระเบียบหรือกฎหมายไหนมาขอค่าบำรุงอำเภอ"
เสมียนปลัดอำเภอ ตอบ "ไม่มี แต่ไม่กล้ารับปาก ว่านายอำเภอจะพิจารณาให้อนุญาตหรือเปล่า"

ดูดู๊ดู่ ดูมันทำ >:( >:(


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: dig5712 ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 04:12:03 PM
 ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: sun2000 ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 04:32:33 PM
 ::005::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: SaSa ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 04:34:06 PM
 ::004:: ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 04:39:43 PM
เรื่องของเรื่องผมติดแค่เป็นเพื่อนคุณพ่อของท่าน จขกท.แค่นั้นเองครับ...

แนะนำให้ถามคุณพ่อว่าคิดอย่างไร ถ้าหากคุณพ่อเห็นด้วยให้จ่ายเงิน หรือคุณพ่อไม่เห็นด้วย ก็ว่าตามนั้นเลยครับ...

ครั้นจะยุให้ลุยไปเลยก็เกรงว่าคุณพ่อท่าน จขกท.จะเสียเพื่อนไปน่ะครับ...:D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: P1911- รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 04:48:04 PM
ความผิดซึ่งหน้าเลยนะเนี่ย ท่านรองสารวัตรไม่บอกเขาไปแหละครับจะได้เหลือ หก  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::บาท


หัวข้อ: hidden
เริ่มหัวข้อโดย: silstar ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 04:59:58 PM
อย่างที่คุณruteว่าครับ พ่อบอกให้จ่ายไป แถมเก็บทันทีด้วย พอลงมาก็คุยกับพ่อว่า เดี๋ยวจะเล่นอำเภอกลับมั่งนะ  พ่อกลับบอกว่าอย่าไปทำเลย   นี่ถ้าพ่อไม่มาด้วยมันส์แน่


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 05:58:56 PM
ขนาดคนรู้จักกันนะเนี่ย... อยากรู้จังครับ... ว่าอำเภอไหน...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: dhirayut ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 07:25:52 PM
บังอาจมากทำแบบนี้ได้ กับตำรวจไทย


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danai58 ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 07:35:54 PM
อำเภอที่ผมอยู่ก็เหมือนกันครับท่านรองฯ

ใช้เจ้าหน้าที่ ที่เกษียญอายุราชการไปแล้วมานั่งรับเรื่อง

อ้างว่าเจ้าหน้าที่ไม่พอ  เด็กใหม่ๆยังไม่เข้าใจงาน ( ว่าไปนั่น..)

ป.3 ขนาด 9 มม. หรือ .38  ลงมา  ราคามาตรฐานเดียวกัน 2,000 +100   ( ค่าบำรุงปากท้อง + ค่าธรรมเนียม ป.3)

ท่านรองฯ ยศ  ร.ต.อ.   ผม ข้าราชการ ซี 6   โดนมาตรฐานเดียวกัน แต่คนละอำเภอซะแล้ว ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 07:42:24 PM
ได้ข่าวว่านายอำเภอคนใหม่ของอำเภอผม... ขอ ป.๓ ง่ายครับ... ไม่เรียกเงิน... ไม่เรียกไปถาม... ว่างๆ ต้องไปพิสูจน์ซะแล้วครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 08:18:11 PM
ประชาชนเจอหนักกว่าเยอะครับ  เดี๋ยวนี้หลักหมื่นอัพแล้ว ไม่มีไม่ยอมคุยแล้ว ตั้งเอกสารทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ เฮ้อ...มาตรฐานราชการไทย :P



ด้วยความเคารพครับ

ไม่คุยไม่ว่า ขอยื่น ป.๑ ให้ได้ แล้วขอทำสำเนาเอาไว้ ให้ลงชื่อรับรองสำเนาให้เรียบร้อย แล้วรอครับ

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: pol2373 ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 08:24:38 PM
นี่ขนาด ตำรวจยังโดน แล้วประชาชนจะพึ่งใคร ละครับ

 ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: pp2005 ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 09:29:44 PM
อืม ดีใจอยู่ลึกลึก คือเขาไม่เลือกปฏิบัติ อิอิ  ขนาดนาย ตร ยังโดน


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 09:36:06 PM

       เรื่องจริง หรือ discredit ใครหรือเปล่า ....... อำเภอที่ว่าน่ะ ...... ไหน ??



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danai58 ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 09:47:21 PM

       เรื่องจริง หรือ discredit ใครหรือเปล่า ....... อำเภอที่ว่าน่ะ ...... ไหน ??


ด้วยความเคารพ...

ถ้าคิดจะ discredit  คงบอกชื่ออำเภอในกระทู้ไปแล้วครับ   

ท่าน จขกท.  คงนำเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง

แบ่งปันประสบการณ์  ไม่น่าซีเรียสอะไรมากมายนะครับ....


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 09:52:32 PM

         ไม่มีปัญหาครับ ...... ถ้าเป็นเรื่องจริงเรามีหน่วยงานช่วยท่านได้  (ถ้าท่านพร้อมสู้)



       


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ภูปทุม-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 10:01:29 PM
ด้วยความเคารพ อย่างนี้ท่านรองละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเปล่าครับ ในประมวลกฏหมายมีระบุไว้ไม่ใช่หรือครับความผิดซึ่งหน้า
ความเห็นท่านน่าจับกุมได้ และเป็นบรรทัดฐานให้เจ้าหน้าที่ที่คิดผิดกลับตัวกลับใจ
ขนาดเป็น รอง สว.ยังกล้าเรียกร้อง ชาวบ้านไม่เป็นลูกไก่เลยหรือครับ (จะไปเรียกร้องกับใคร แจ้งตำรวจหรือ)  :-\ :-\ :-\


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 10:02:02 PM

       เรื่องจริง หรือ discredit ใครหรือเปล่า ....... อำเภอที่ว่าน่ะ ...... ไหน ??


ด้วยความเคารพ...

ถ้าคิดจะ discredit  คงบอกชื่ออำเภอในกระทู้ไปแล้วครับ   

ท่าน จขกท.  คงนำเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง

แบ่งปันประสบการณ์  ไม่น่าซีเรียสอะไรมากมายนะครับ....

ถ้าเป็นเรื่องจริงจขกท.ก็น่าจะบอกชื่ออำเภอได้ไม่ใช่หรือครับ
การบอกชื่ออำเภอเป็นการ discredit อย่างไรหรือครับ  ???


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: กิต ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 10:28:55 PM
น่าจะจับ ขังซะ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: vinchy ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 11:16:23 PM
       ผมยศ ส.ต.ท. ครับ ยังไม่เคยจ่าย ถึงหลักพันบาท เลยครับ
เต็มที่ก็จ่ายค่าธรรมเนียม+ถ่ายเอกสารบัตรประจำตัว+คัดสำเนาทะเบียนบ้าน
แต่มีบางครั้งก็เคยช่วยซื้อบัตรกาชาดบ้าง ไม่ได้บังคับซื้อนะครับแต่เต็มใจซื้อเอง
ไม่ซื้อก็ไม่เห็น ท่านพูดอะไรไม่ดีครับ   


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: yakdee ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 11:35:19 PM
ขนาดคนรู้จักกันนะเนี่ย... อยากรู้จังครับ... ว่าอำเภอไหน...
 

ราคาที่เรียกนี่.....ก็โดยฐานคนรู้จัก    ;D

ประชาชนธรรมดา  น่าจะโดนเรียกมากกว่านี้... :-\


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danai58 ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 11:43:16 PM

       เรื่องจริง หรือ discredit ใครหรือเปล่า ....... อำเภอที่ว่าน่ะ ...... ไหน ??


ด้วยความเคารพ...

ถ้าคิดจะ discredit  คงบอกชื่ออำเภอในกระทู้ไปแล้วครับ   

ท่าน จขกท.  คงนำเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง

แบ่งปันประสบการณ์  ไม่น่าซีเรียสอะไรมากมายนะครับ....

ถ้าเป็นเรื่องจริงจขกท.ก็น่าจะบอกชื่ออำเภอได้ไม่ใช่หรือครับ
การบอกชื่ออำเภอเป็นการ discredit อย่างไรหรือครับ  ???

อำเภอก็คืออำเภอ.....อำเภอไม่ได้ผิด  แต่คนปฏิบัติมันชั่วเอง...เพราะฉะนั้นถ้าท่านรองจะบอก..

ก็บอกชื่อผู้ที่กระทำไปเลย...อย่าให้ปลาเน่าตัวสองตัว...แล้วเอาไปตีความว่าเขาชั่วทั่วหมด

มีความยุติธรรมให้กับเจ้าหน้าที่คนอื่นเขาบ้าง.....ที่พล่ามอยู่นี่ก็เพราะกระผมก็รับราชการอยู่เหมือนกัน

และคิดเสมอว่าข้าราชการส่วนมาก..มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี...ยังไงก็ว่ากันเป็นคนๆไป..ดีกว่านะ...


หัวข้อ: text
เริ่มหัวข้อโดย: silstar ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:29:45 AM
จริงๆ   เคยมีกระ ทู้ เช็คจังหวัดที่ห้องข้างๆ  ก็ เห็นคนจังหวัด เดียวกันหลายคน ผม เคยย้ายทะ เบียนบ้าน ไปหลายจังหวัดตามที่ทำ งาน  หรือตามที่เรียนหนังสือ ผมเกิดที่ท่าม่วงครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:53:26 AM

       เรื่องจริง หรือ discredit ใครหรือเปล่า ....... อำเภอที่ว่าน่ะ ...... ไหน ??


ด้วยความเคารพ...

ถ้าคิดจะ discredit  คงบอกชื่ออำเภอในกระทู้ไปแล้วครับ   

ท่าน จขกท.  คงนำเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง

แบ่งปันประสบการณ์  ไม่น่าซีเรียสอะไรมากมายนะครับ....

ถ้าเป็นเรื่องจริงจขกท.ก็น่าจะบอกชื่ออำเภอได้ไม่ใช่หรือครับ
การบอกชื่ออำเภอเป็นการ discredit อย่างไรหรือครับ  ???

อำเภอก็คืออำเภอ.....อำเภอไม่ได้ผิด  แต่คนปฏิบัติมันชั่วเอง...เพราะฉะนั้นถ้าท่านรองจะบอก..

ก็บอกชื่อผู้ที่กระทำไปเลย...อย่าให้ปลาเน่าตัวสองตัว...แล้วเอาไปตีความว่าเขาชั่วทั่วหมด

มีความยุติธรรมให้กับเจ้าหน้าที่คนอื่นเขาบ้าง.....ที่พล่ามอยู่นี่ก็เพราะกระผมก็รับราชการอยู่เหมือนกัน

และคิดเสมอว่าข้าราชการส่วนมาก..มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี...ยังไงก็ว่ากันเป็นคนๆไป..ดีกว่านะ...


ผมเข้าใจครับว่าในน้ำดีย่อมมีปลาเน่าบ้าง
ผมจะคิดตื้นไปตีความว่าคนทั้งอำเภอนั้นชั่วหมดไปได้อย่างไรครับ เข้าใจเจตนาผมผิดแล้วหละครับ
ไม่ได้จะว่าอำเภอ หรือตำหนิว่าอำเภอโน้นนี้ไม่ดีครับ
เพียงแต่ว่า ถ้ารู้อำเภอแล้วเราสามารถสืบเสาะตัวผู้กระทำได้ในทางอ้อมครับ
ผมไม่เห็นด้วยกับการระบุชื่อครับ
ถ้าจขกท. ระบุชื่อผู้กระทำออกมา ผมว่าฝ่ายเสียเปรียบจะกลายเป็นจขกท.ซะมากกว่าน๊ะครับ
อาจเข้าข่ายกล่าวหาหรือโดนข้อหาหมิ่นประมาทก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นอ้อมๆหน่อยก็ได้ครับตรงเกินไปก็ไม่ดี


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danai58 ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:58:25 AM
จริงๆ   เคยมีกระ ทู้ เช็คจังหวัดที่ห้องข้างๆ  ก็ เห็นคนจังหวัด เดียวกันหลายคน ผม เคยย้ายทะ เบียนบ้าน ไปหลายจังหวัดตามที่ทำ งาน  หรือตามที่เรียนหนังสือ ผมเกิดที่ท่าม่วงครับ

บังเอิญจริงๆครับ



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 07:47:53 AM
บังอาจ....จั่นเจาไปจับตัวมันมาขึ้นศาลไคฟงเดี๋ยวนี้
หวังเฉา...หม่าฮั่น เตรียมเครื่องประหารหัวแลนเดี๋ยวนี้..


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 09:37:14 AM
บังอาจ....จั่นเจาไปจับตัวมันมาขึ้นศาลไคฟงเดี๋ยวนี้
หวังเฉา...หม่าฮั่น เตรียมเครื่องประหารหัวแลนเดี๋ยวนี้..
:OO....5.5.5.... ::005::..... ::007::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 09:42:10 AM
บังอาจ....จั่นเจาไปจับตัวมันมาขึ้นศาลไคฟงเดี๋ยวนี้
หวังเฉา...หม่าฮั่น เตรียมเครื่องประหารหัวแลนเดี๋ยวนี้..
:OO....5.5.5.... ::005::..... ::007::
ขออนุญาตท่านพงษ์ 555 ด้วยครับ ;D ::007:: ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 10:03:31 AM
บังอาจ....จั่นเจาไปจับตัวมันมาขึ้นศาลไคฟงเดี๋ยวนี้
หวังเฉา...หม่าฮั่น เตรียมเครื่องประหารหัวแลนเดี๋ยวนี้..
:OO....5.5.5.... ::005::..... ::007::
ขออนุญาตท่านพงษ์ 555 ด้วยครับ ;D ::007:: ;D

ขออนุญาตครับพี่... "แลน" เป็นภาษาถิ่น... ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้... ต้องบอกว่า... "เครื่องประหารหัวเห้... " ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 11:18:12 AM
ผมว่า จขกท.ไปเจอมันคราวหน้า เอาเหรียญกล้าหาญ ไปให้มันด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: SEEZ ..รักในหลวง.. ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:12:57 PM
บังอาจ....จั่นเจาไปจับตัวมันมาขึ้นศาลไคฟงเดี๋ยวนี้
หวังเฉา...หม่าฮั่น เตรียมเครื่องประหารหัวแลนเดี๋ยวนี้..
:OO....5.5.5.... ::005::..... ::007::
ขออนุญาตท่านพงษ์ 555 ด้วยครับ ;D ::007:: ;D

ขออนุญาตครับพี่... "แลน" เป็นภาษาถิ่น... ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้... ต้องบอกว่า... "เครื่องประหารหัวเห้... " ;D ;D ;D
   เครืองผัดเผ็ดเอามาด้วยปล่าวพี่  :D~ :D~


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: moose ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:24:16 PM
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผมได้ไปยื่นเรื่องขอ ป.3 ปืนอีก 1 กระบอก ขนาด .357 เดิมผมมี 9 มม. และ 11 มม. อยู่แล้ว หลังจากดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่รอคอย คนรับเรื่อง (ขอเรียกคนรับเรื่องแล้วกัน เพราะคนรับเรื่องเป็นเจ้าหน้าที่เก่าที่ปลดเกษียณไปแล้ว แต่อำเภอเอามานั่งทำเอกสารเหมือนเดิมก่อนเกษียณ จึงถือว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่) ขอค่าบำรุงอำเภอ 2,000 บาท รวมใบอนุญาตด้วย โดยยกว่าผมมีหลายกระบอกแล้ว (แค่ 2 เอง) ความรู้สึกผมนี้อึ้งไปเลย  เอกสารก็ระบุนี่หว่าว่า ผม ร.ต.อ........ รอง สว......ขอมีอาวุธปืนเพื่อใช้ในราชการ และเพื่อการกีฬา ผมยังเงียบ ก็เลยลดลงเหลือ 1,500 บาท คนรับเรื่องก็เพื่อนพ่อเพื่อนแม่ผมนะ พ่อก็ไปด้วยนะ ตกลงจะเอากันจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย ::004::

เรื่องจริงหรือเปล่าครับ ได้ยินแต่ตำรวจไถชาวบ้าน ถ้าจริงจับเลยครับข้อหาเรียกร้องสินบน ไม่ย่างนั้นเขาไม่เชื่อตำรวจออกมาพูดเองครับ ต้องทำให้มีหลักฐานจับให้เข็ดเลยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: หมูแดง ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 01:24:36 PM
แสดงว่าอำเภอนี้........ขาดการบำรุงครับ อิ อิ
สุดยอดครับ ที่ว่าการอำเภอแห่งนี้ สงสัยมีความจำเป็นต้องบำรุงอำเภออย่างเร่งด่วน
แล้วตัวอาคารเป็นไงบ้างครับ ต้องรีบซ่อมด่วนหรือเปล่า

ความจริงตอนนี้ มท. 1 เขา  อยู่บำรุง  แล้ว ไม่น่าขาดการบำรุง


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 01:27:28 PM
1500  2000  ไม่แพงครับ  บางพื้นที่ 5000-7000


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: TOR158 ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 01:52:06 PM
ของผม
   - .22 = 2000.-
   - 9/.98/ลูกซอง = 3000-3500.-(แล้วแต่ขาประจำหรือไม่)
   - 11/.357  = 10000.-
 2 วันได้ แต่ผมจะย้ายหนีเข้า กทม.แล้ว วันก่อนฝันถึง 11 กับ .357 โบราณว่าเข้ากรุงเถิดลูก เจ้าจะได้ดังหวัง(ไม่ต้องใต้โต๊ะ555555555)


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 02:08:52 PM
อืม ดีใจอยู่ลึกลึก คือเขาไม่เลือกปฏิบัติ อิอิ  ขนาดนาย ตร ยังโดน


 ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: 1529 ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 03:23:56 PM
ไม่รู้ว่าผมเสียมารยาทหรือไม่ แต่ผมคัดลอกข้อความมาจากอีกบอร์ดนึง ตาม link นี้คับ http://www.gun.in.th/webboard/index.php/topic,45999.0.html

ไปขอป.3 จังหวัดปริมณฑลมาครับ มันส์มากครับเลยอยากเล่าให้ฟัง

เมื่อวานวันดีครับ วันหยุดแต่ราชการไม่หยุดเลยเข้าทาง ไปขอใบ ป.3 ซะเลยดีกว่า

เตรียมเอกสารเพรียกพร้อม ไม่มีขาดตกหล่น (ศึกษาจากพี่ๆในเวบนี้อย่างดี)

ไปถึงเขียนคำร้องขอขนาด .45 เมื่อเสร็จเอาไปยื่น เจ้าหน้าที่หน้าตามีปัญหาตลอด

ชื่อตัวย่อ ป. (เป็นคำต่อของ เมตตา) แต่ไม่สมชื่อพี่เขาเลยอ่ะครับ ทีนี้คนที่

อยู่อำเภอเมือง จังหวัดที่ผมอยู่คงพอเดาได้ว่าเป็นจังหวัดอะไร

เจ้าหน้าที่ ป.  มาขอขนาด .45 เลยเหรอ

โป้ง              ครับพี่

เจ้าหน้าที่ป. ขอไปทำอะไร   

โป้ง            เพื่อการกีฬาครับ ผมมีเอกสารรับรอง นักกีฬาครับ ใบผ่านการอบรม

เจ้าหน้าที่ ป. รู้แล้วใครๆเขาก็ขอกันอย่างนี้ทั้งนั้นล่ะ เห็นไปสมัคเป็นนักกีฬาแล้วก็มาขอทุกที

โป้ง             เงียบ........(ไม่รู้จะตอบอะไร)

เจ้าหน้าที่ ป. เดี๋ยวพี่รับเรื่องไว้แล้วกัน แล้วจะส่งให้นาย ไม่รู้นะนานเท่าไร แล้วจะผ่านป่าวก็ไม่รู้

พูดเสร็จก็เขียนกระดาษโน๊ตเบอร์โทรส่งให้ผม

เจ้าหน้า ป. แล้วโทรมาสอบถามแล้วกันนะ ไม่รู้ว่านานเท่าไรนะถึงจะทราบเรื่อง

ผมก็กลับลงมาในใจคิดแล้วจะทำไงว่ะนี่ปืนก็โอนลอยมาแล้ว จะเอาไปออกต่อก็เสียดายนานๆจะได้เจอปืนในฝันซะที

คิดไปคิดมาอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง ตัดสินใจลองโทรถามดีกว่าว่าจะเอาไง

โป้ง              สวัสดีครับพี่ ป. สะดวกคุยไม๊ครับ

เจ้าหน้าที่ ป. ได้ค่ะสะดวกค่ะ

โป้ง              พี่ครับ .45 นี่มันเรื่องยากส์ขนาดนั้นเลยเหรอครับพี่

เจ้าหน้าที่ ป. (คุยเสียงเบา เหมือนแอบคุย) ทำไมน้องไม่มีใครแนะนำเหรอว่าจะต้องทำอย่างไร

โป้ง             ก็เคยได้ยินมาบ้างอ่ะครับพี่

เจ้าหน้าที่ ป. อืม แล้วเขาว่าไงล่ะ

โป้ง              ก็เห็นเขาว่าใช้ประมาณ 3ใบ

เจ้าหน้าที่ ป. 3.ใบอะไรสามพันนะเหรอ โอ๊ยไม่ได้หรอกอันนั้นมันขนาด 9 ขนาด 22 ขนาดเล็กขนาดใหญ่ไม่ได้หรอก
                       
                      ลองๆถามลูกค้าพี่ได้ (สาบานได้ เขาใช้คำว่าลูกค้า )  ว่าเขาใช้เท่าไร

โป้ง                ตกลงแล้วผมจะต้องใช้ประมาณเท่าไรอ่ะครับพี่

เจ้าหน้าที่ ป.  จะมีปัญหารึป่าวถ้าไม่มีก็ 9 ใบ

โป้ง               (คิดในใจ) โอ้วแม่เจ้า 9ใบนั่นมันร่วม 20 % ของราคาปืนเลยนะนั้น เลยลองต่อดู

                     พี่ครับซัก 5-6 ใบไหวไม๊อ่ะครับพี่

เจ้าหน้าที่ ป. ไม่ได้หรอก เดี๋ยวไว้มาเป็นลูกค้ากันก่อนแล้วค่อยว่ากัน (ลูกค้าเลยเหรอวะ)

โป้ง              ครับพี่ก็ได้ครับ (จำใจยอม ทำไรไม่ได้แล้วนี่หว่า).ให้ผมเอาไปให้ช่วงบ่ายสะสดวกไม๊ครับพี่

เจ้าหน้าที่ ป. ได้สะดวก ยังไงก็ใส่ซองมานะ อย่าให้มันประเจิด ประเจ้อนักล่ะ

โป้ง              ครับพี่ (คิดในใจ) ในที่สุดเราก็ได้เป็นลูกค้าของรัฐที่เราเสียภาษีให้ทุกปีจนได้





............................................บ่าย......................................................................

ผมเอาเงินใส่ซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ขึ้นไปหาเจ้าหน้าที่ ขณะนั้นคนเยอะพอสมควร พอเจ้าหน้าที่เห็นผมเท่านั้น

เรียกมาลัดคิวแรกเลย ผมก็เลยยื่นซองส่งให้

เจ้าหน้าที่ ป. เขียนชื่อกับเบอร์โทรไว้ที่หน้าซองนะ

โป้ง             ครับพี่ แล้วจะผ่าน ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไม๊ครับ

เจ้าหน้าที่ ป. ไม่มีปัญหาแล้วมารับใบซักอาทิตย์หน้า

โป้ง              ครับพี่แล้วถ้าเกิดผมขออีกกระบอกอ่ะครับขนาด .357 พี่จะว่าไงครับ (กระซิบนะครับ )

เจ้าหน้าที่ ป. พี่คิด 8 ใบแล้วกันดูนี่ซิ (ชี้ไปที่เจ้าหน้าที่ราชทัณท์ที่มายื่นขอใบ) นี่เขายังไม่ไดเลยยังไงก็โทรมาถามพี่แล้วกัน

ผมเดินลงมาที่รถจะเดินทางกลับบ้านในใจต่างคิดต่างๆนาๆ นี่ถ้าขอซัก 3 กระบvกนี่ค่าใบ ป.3 นี่จะได้ปืนกระบอกนึงแล้วนะนี่

แล้วตอนไปตัดโอนจะโอนอะไรอีกป่าวนี่  เพื่อการกีฬาใช้ไม่ได้กับอำเภอนี้จริงๆ แล้วเราจะเล่นกีฬาชนิดนี้ต่อดีไม๊วะ

นี่เราเป็นลูกค้าของคนที่กินเงินเดือนจากภาษีของเราเหรอเนี๊ย

เรื่องที่เล่ามานี่แก้เครียดและอยากระบายให้พี่น้องฟัง เฮ้อ.........
 
 
เห็นมีหลายคนยืนยันการมีตัวตนและพฤติกรรมที่เป็นอยู่จริง มันมีชื่อว่า ปราณี อยู่อำเภอเมืองนนทบุรี  :VOV:


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: itt ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 05:04:23 PM
อำเภอที่รักของผม  ก่อนเปลี่่ยนท่าน นอภ  9 มม/.38/.22/ลูกซอง  7000 ครับ 
.357/ 11 มม  15000-20000
ตอนนี้ นอภ ท่านใหม่ เสียเฉพาะค่าธรรมเนียม สำหรับ 9 มม/.38/.22  ใบออกง่ายโดยเฉพาะปืนสวัสดิการ  แต่ไม่ออกใบ .357/11 มม. ให้เด็ดขาด ก็นับว่ายังดี

อยู่ทางใต้ครับ อำเภอ ห. จังหวัด ส. คร้าบ    ;D ;D ;D[/flash]


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: pong1 ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 05:12:47 PM
 ???

ประชาชนตาดำๆจะเหลืออะไร...เอ้อ

 ???


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๓ ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 10:20:46 PM
บังอาจมากทำแบบนี้ได้ กับตำรวจไทย

ประเด็นคงไม่ได้อยู่ที่ว่าเพราะผู้ขอเป็นตำรวจหรอกครับ
ผมว่า มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยนะ แม้จะเป็นคนธรรมดา รวย จน อย่างไร ก็ควรได้รับสิ่งเดียวกัน
ถ้าไม่เช่นนั้น เสร็จจากเรื่องเงินค่าธรรมเนียมเถื่อน ป.3  ก็ต้องมาติดเรื่องเรื่องเลือกปฏิบัติต่อคนไทยด้วยกันเองอีก
เราอยากเห็นความถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นไม่ใช่เหรอครับ หรือว่าแค่ไม่อยากเสียตังค์ค่า ป.3 ?


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danjedee ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 10:54:43 PM
แล้วจะแก้ไขอย่างไรครับ ในเมื่อคนอยากได้ปืนก็ยอมเสียเงิน  ไม่เสียเงินก็ไม่ได้ใบ ป.4  จะเอาเรื่องถึงศาลปกครองก็เสียเวลา เสียเงินมากกว่าค่าขอ ป.4 เสียอีก  จริงๆแล้วเงินใต้โต๊ะม้นก็เกิดจากเราๆท่านๆยอมจ่าย ก็เลยสร้างนิสัยอย่างนั้นให้กับอำเภอ  ถ้ามีความพอดีและพอเพียง  มีปืนสั้น-ยาว อย่างละ 1 กระบอก  ก็เพียงพอแล้ว    เมื่อคุณๆอยากได้กันอีก ก็เป็นข้อต่อรองอย่างโน้นอย่างนี้ขึ้นมาได้

สรุปว่าพอกันทั้งสองฝ่ายครับ

......ชีวิตที่ดีพอ...คือการใช้ชีวิตอย่างพอดี....

....ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ....ไอ้ที่ถูกใจดันไม่ถูกต้อง...ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับ...



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Dexphet ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 12:02:22 AM
แล้วจะแก้ไขอย่างไรครับ ในเมื่อคนอยากได้ปืนก็ยอมเสียเงิน  ไม่เสียเงินก็ไม่ได้ใบ ป.4  จะเอาเรื่องถึงศาลปกครองก็เสียเวลา เสียเงินมากกว่าค่าขอ ป.4 เสียอีก  จริงๆแล้วเงินใต้โต๊ะม้นก็เกิดจากเราๆท่านๆยอมจ่าย ก็เลยสร้างนิสัยอย่างนั้นให้กับอำเภอ  ถ้ามีความพอดีและพอเพียง  มีปืนสั้น-ยาว อย่างละ 1 กระบอก  ก็เพียงพอแล้ว    เมื่อคุณๆอยากได้กันอีก ก็เป็นข้อต่อรองอย่างโน้นอย่างนี้ขึ้นมาได้

สรุปว่าพอกันทั้งสองฝ่ายครับ

......ชีวิตที่ดีพอ...คือการใช้ชีวิตอย่างพอดี....

....ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ....ไอ้ที่ถูกใจดันไม่ถูกต้อง...ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับ...


ใช่ครับในเมื่อยอมจ่ายไปแล้ว ได้ป.3-ป.4 มาแล้วก็คือจบครับ  พูดไปก็เท่านั้นมานั่งชื่นชม ปืนใหม่ของท่านดีกว่าครับ  คิดซะว่าเสียตังค์ขึ้นทางด่วน ข้างล่างรถมันเยอะใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดหมายครับ ::014::

แต่ติตรงที่ว่าบางที่นั้น เสียค่าทางด่วนแพงเกินเหตุไปครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ต้นหนาว ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 12:16:53 AM
 ::004:: ::004:: ::004::ปลง


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 06:59:06 PM
แล้วจะแก้ไขอย่างไรครับ ในเมื่อคนอยากได้ปืนก็ยอมเสียเงิน  ไม่เสียเงินก็ไม่ได้ใบ ป.4  จะเอาเรื่องถึงศาลปกครองก็เสียเวลา เสียเงินมากกว่าค่าขอ ป.4 เสียอีก  จริงๆแล้วเงินใต้โต๊ะม้นก็เกิดจากเราๆท่านๆยอมจ่าย ก็เลยสร้างนิสัยอย่างนั้นให้กับอำเภอ  ถ้ามีความพอดีและพอเพียง  มีปืนสั้น-ยาว อย่างละ 1 กระบอก  ก็เพียงพอแล้ว     เมื่อคุณๆอยากได้กันอีก ก็เป็นข้อต่อรองอย่างโน้นอย่างนี้ขึ้นมาได้

สรุปว่าพอกันทั้งสองฝ่ายครับ

......ชีวิตที่ดีพอ...คือการใช้ชีวิตอย่างพอดี....

....ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ....ไอ้ที่ถูกใจดันไม่ถูกต้อง...ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับ...



สำหรับผม... และอีกหลายๆ ท่านในนี้... คิดว่าคงไม่เพียงพอหรอกครับ... ไม่ได้โลภมากนะครับ... แต่ปืนแต่ละกระบอก... ออกแบบมาในจุดประสงค์ของการใช้ที่แตกต่างกัน... ปืนยิงเป้า ๑๙๑๑ แต่งซิ่งแบบ IPSC... เอามาใช้ป้องกันตัวแบบพกซ่อนก็คงไม่ได้... หรือจะเอาเอ็ม ๒๑ เอ... ไปยิงแข่งกับ ๑๙๑๑ ก็คงไม่ได้... เอาลูกกรด... ไปยิงเป้าบิน... หรือเอาลูกซองมานั่งปั้น X มีใครเขาเคย...

...ในประเด็นที่พูดถึงกัน... หัวข้อก็คือ... เรามีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะสามารถครอบครองอาวุธปืนได้... ที่ขอๆ กันนั้นก็ล้อนอยู่ในขอบเขตกฏหมายกำหนด... ไม่มีใครทะลึ่งไปขอ ป.๓ เพื่อซื้ออาก้าหรือปืนใหญ่... และกฏหมายก็ไม่ได้ระบุไว้... ว่ามีได้ไม่เกินคนละไม่เกินเท่าไหร่... จะมาโทษว่าเกิดจากคนขอไม่พอเพียงคงฟังไม่ค่อยขึ้นนัก... บอกว่าผู้มีอำนาจใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควรจะมีน้ำหนักกว่าครับ... หากทำถูกต้อง... ตามขั้นตอน... ไม่มียึกยัก... ก็คงไม่มีใครอยากเสียเงินจำนวนมาก... โดยไม่จำเป็นหรอกครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 09:38:44 PM
แล้วจะแก้ไขอย่างไรครับ  ในเมื่อคนอยากได้ปืนก็ยอมเสียเงิน  ไม่เสียเงินก็ไม่ได้ใบ ป.4  จะเอาเรื่องถึงศาลปกครองก็เสียเวลา เสียเงินมากกว่าค่าขอ ป.4 เสียอีก  จริงๆแล้วเงินใต้โต๊ะม้นก็เกิดจากเราๆท่านๆยอมจ่าย ก็เลยสร้างนิสัยอย่างนั้นให้กับอำเภอ  ถ้ามีความพอดีและพอเพียง  มีปืนสั้น-ยาว อย่างละ 1 กระบอก  ก็เพียงพอแล้ว    เมื่อคุณๆอยากได้กันอีก ก็เป็นข้อต่อรองอย่างโน้นอย่างนี้ขึ้นมาได้

สรุปว่าพอกันทั้งสองฝ่ายครับ

......ชีวิตที่ดีพอ...คือการใช้ชีวิตอย่างพอดี....

....ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ....ไอ้ที่ถูกใจดันไม่ถูกต้อง...ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับ...



แก้ไขได้โดยปรับแนวคิด..................ให้เคารพตนเองและกล้าสู้กับความไม่เป็นธรรม......
หากไม่คิดสู้ ก็อย่าป่าวร้องชวนสยบยอมอธรรม

ผมรับว่าอ่านกระทู้นี้ด้วยความหดหู่ใจ ..........  ::014::



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๓ ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 09:47:28 PM
แล้วจะแก้ไขอย่างไรครับ  ในเมื่อคนอยากได้ปืนก็ยอมเสียเงิน  ไม่เสียเงินก็ไม่ได้ใบ ป.4  จะเอาเรื่องถึงศาลปกครองก็เสียเวลา เสียเงินมากกว่าค่าขอ ป.4 เสียอีก  จริงๆแล้วเงินใต้โต๊ะม้นก็เกิดจากเราๆท่านๆยอมจ่าย ก็เลยสร้างนิสัยอย่างนั้นให้กับอำเภอ  ถ้ามีความพอดีและพอเพียง  มีปืนสั้น-ยาว อย่างละ 1 กระบอก  ก็เพียงพอแล้ว    เมื่อคุณๆอยากได้กันอีก ก็เป็นข้อต่อรองอย่างโน้นอย่างนี้ขึ้นมาได้

สรุปว่าพอกันทั้งสองฝ่ายครับ

......ชีวิตที่ดีพอ...คือการใช้ชีวิตอย่างพอดี....

....ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ....ไอ้ที่ถูกใจดันไม่ถูกต้อง...ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับ...



แก้ไขได้โดยปรับแนวคิด..................ให้เคารพตนเองและกล้าสู้กับความไม่เป็นธรรม......
หากไม่คิดสู้ ก็อย่าป่าวร้องชวนสยบยอมอธรรม

ผมรับว่าอ่านกระทู้นี้ด้วยความหดหู่ใจ ..........  ::014::



ตามนั้นครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: fink ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 09:52:06 PM
อย่าไปยอมนะครับ... ให้ไปหกบาทก็พอ... ขนาดเป็นนายตำรวจยังโดยเรียกเก็บค่าบำรุงอำเภอ... แล้วนี่ประชาชนทั่วไปจะขนาดไหน...

...น่าจะจับกุมข้อหาเรียกรับสินบนครับ... จับบนอำเภอ... คาโต๊ะทำงานเลย...
น่าจะจับเลยครับ หรือไม่งั้นก็พา อีตานักข่าว คึก ชัด ลม คนที่เขียนว่าขอปืนง่ายไปด้วยครับ
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ทำตัวอย่างงี้ต้องเจอแก๊งถอนหงอก ::006::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างบอย ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 10:27:57 PM
ขนาดเป็นนายตำรวจยังโดน แล้วผมละครับ ข้าราชการตัวเล็กๆๆกว่าท่านอีกโดนแน่นๆๆ :<< :<<


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: J ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 10:37:21 PM
ผมเป็นพลเรือนขอปืนก็หลายกระบอกแล้วยังไม่เคยโดนไถและเพื่อนๆหลายคนก็ไม่เห็นเคยโดน จะด้วยโชคดีแก่อำเภอนี้อย่างไรไม่ทราบ ::014::
ผมเองชอบปืนและรู้สึกว่าปืนแต่ละกระบอกมีจุดประสงค์แตกต่างกัน ถ้าผมมีปืนอยู่แล้วแต่ขอเพิ่มแล้วโดนไถคงมีสองทางที่ผมเลือกคือหนึ่งกลับไปพิจารณาว่าจำเป็นไหมสำหรับกระบอกต่อไป ถ้าไม่..ผมก็คงยุติการขอ  สองถ้าจำเป็นหรือเป็นจากกิเลสล้วนๆก็คงยอมจ่าย ถามว่าชมชอบกับการกระทำไหมขอบอกว่าสะอิดสะเอียนตัวเองแน่นอนครับ ::009:: แต่อาการคงบรรเทาถ้าได้จับต้องปืนใหม่ ส่วนทางเลือกที่จะลุยผมคงขอผ่าน...เนื่องจากสำหรับผมการลุยแต่ละครั้งแลกมาด้วยสารพันปัญหา ::006::
แต่กรณีจขกท.เป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามแต่ดันถูกไถนี่มันอุบาทส์สุดๆเลยครับ ::004::
ผมว่าเรื่องเพื่อนพ่อเนี่ยไม่ต้องคิดมากแล้วล่ะครับมันหมดไปกับคำว่า2000แล้วล่ะครับ ตอนแรกก็เห็นใจคิดว่าแกคงถูกบังคับไม่มีสิทธ์ใดๆ แต่เอ..ไหงกลับลดราคาได้นี่แสดงว่าถ้าแกจะขอให้ลูกเพื่อนสักกระบอกก็น่าจะได้แต่กลับ่ไม่ทำ
เรื่องจะลุยนี่ท่านลองไตร่ตรองขั้นตอนและผลที่จะได้รับก่อนนะครับ การสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้องประเสริฐมาก ::014:: แต่มันจะต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนแน่นอน ถ้าลุยจริงขอเป็นกำลังใจครับ ::002::
 


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: น้องมลคับผม ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 02:35:17 PM
แล้วคนธรรมดาอย่างเรา จะต้องบำรุงอำเภอเท่าไหร่ ::013::

ลูกกรด  ลูกซอง  .38  และ 9 มม.  ห้าพันบาทคับ  ส่วน 357 กับ 11  ไม่ให้อนุญาติคับ

(http://img212.imageshack.us/img212/3523/indexok1.gif)


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 03:37:45 PM
ลูกกรด  ลูกซอง  .38  และ 9 มม.  ห้าพันบาทคับ  ส่วน 357 กับ 11  ไม่ให้อนุญาติคับ


กฎหมายประเทศไหนครับ  ด้วยความเคารพ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danjedee ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 03:45:45 PM
แล้วจะแก้ไขอย่างไรครับ ในเมื่อคนอยากได้ปืนก็ยอมเสียเงิน  ไม่เสียเงินก็ไม่ได้ใบ ป.4  จะเอาเรื่องถึงศาลปกครองก็เสียเวลา เสียเงินมากกว่าค่าขอ ป.4 เสียอีก  จริงๆแล้วเงินใต้โต๊ะม้นก็เกิดจากเราๆท่านๆยอมจ่าย ก็เลยสร้างนิสัยอย่างนั้นให้กับอำเภอ  ถ้ามีความพอดีและพอเพียง มีปืนสั้น-ยาว อย่างละ 1 กระบอก  ก็เพียงพอแล้ว   เมื่อคุณๆอยากได้กันอีก ก็เป็นข้อต่อรองอย่างโน้นอย่างนี้ขึ้นมาได้

สรุปว่าพอกันทั้งสองฝ่ายครับ

......ชีวิตที่ดีพอ...คือการใช้ชีวิตอย่างพอดี....

....ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ....ไอ้ที่ถูกใจดันไม่ถูกต้อง...ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับ...



สำหรับผม... และอีกหลายๆ ท่านในนี้... คิดว่าคงไม่เพียงพอหรอกครับ... ไม่ได้โลภมากนะครับ... แต่ปืนแต่ละกระบอก... ออกแบบมาในจุดประสงค์ของการใช้ที่แตกต่างกัน... ปืนยิงเป้า ๑๙๑๑ แต่งซิ่งแบบ IPSC... เอามาใช้ป้องกันตัวแบบพกซ่อนก็คงไม่ได้... หรือจะเอาเอ็ม ๒๑ เอ... ไปยิงแข่งกับ ๑๙๑๑ ก็คงไม่ได้... เอาลูกกรด... ไปยิงเป้าบิน... หรือเอาลูกซองมานั่งปั้น X มีใครเขาเคย...

...ในประเด็นที่พูดถึงกัน... หัวข้อก็คือ... เรามีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะสามารถครอบครองอาวุธปืนได้... ที่ขอๆ กันนั้นก็ล้อนอยู่ในขอบเขตกฏหมายกำหนด... ไม่มีใครทะลึ่งไปขอ ป.๓ เพื่อซื้ออาก้าหรือปืนใหญ่... และกฏหมายก็ไม่ได้ระบุไว้... ว่ามีได้ไม่เกินคนละไม่เกินเท่าไหร่... จะมาโทษว่าเกิดจากคนขอไม่พอเพียงคงฟังไม่ค่อยขึ้นนัก... บอกว่าผู้มีอำนาจใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควรจะมีน้ำหนักกว่าครับ... หากทำถูกต้อง... ตามขั้นตอน... ไม่มียึกยัก... ก็คงไม่มีใครอยากเสียเงินจำนวนมาก... โดยไม่จำเป็นหรอกครับ...

ผมคนความรู้น้อยครับ  แล้วก็เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา  มิอาจที่จะมีปืนหลายกระบอกแบบคุณๆได้หรอก  เอาเงินไว้ดำรงชีพน่าจะเหมาะกับผมมากกว่า
ที่เข้ามาออกความคิดเห็นก็ อยากจะให้ข้อคิดกับประชาชนตาดำทั่วไป  ส่วนพวกคุณๆที่มีเงินกันมากๆ  อยากจะซื้อไว้ใช้งานตามใจปรารถนาก็เชิญเถอะครับ
ความพอเพียงมันฟังไม่ขึ้นสำหรับคนมีฐานะอย่างคุณๆ  ที่ออกความคิดเห็นไปนั้นมันเป็นความคิดเห็นสำหรับคนที่เห็นคุณค่าของความพอเพียงเท่านั้น
การเปรียบเท่ากระบอกนั้นต้องใช้อย่างนี้  ขนาดนี้ต้องใช้ยิงอย่างนั้น  คนพอมีคาวมรู้และคนที่ศึกษาเรืองอาวุธปืน คงทราบครับ  อยู่ที่ความจำเป็นมากกว่า  ถ้าคุณๆเป็นนักกีฬาก็คงต้องมีหลายกระบอกและหลายขนาดตามความเหมาะสม เป็นสิทธิของคุณในขอบเขตของกติกาบ้านเมือง
สิทธิที่พึงมี..กับความพอเพียง  ต้องแยกกัน มันคนละเรื่องนะครับ
ส่วนการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูก ก็ต้องไปว่ากันในศาล  ...คนที่ทราบว่าใครใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกแล้วไม่ดำเนินการผมก็ไม่เห็นด้วย  แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อคุณๆก็ไม่กล้าพอที่จะเปิดโปงขบวนการเหล่านี้  
ผมเสนอความคิดเห็นในกระทู้แรก  เนื่องจากผลมันเป็นอย่างนั้น...และที่เหตุมันแก้ได้ยาก...ฉะนั้นคุณๆก็ต้องแก้ที่ตัวคุณเอง
ส่วนคุณๆท่านใดอยากจะแก้ที่เหตุก็เชิญเถอะครับ  จะยกย่องเป็นอย่างยิ่ง...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 04:08:32 PM
แล้วจะแก้ไขอย่างไรครับ ในเมื่อคนอยากได้ปืนก็ยอมเสียเงิน  ไม่เสียเงินก็ไม่ได้ใบ ป.4  จะเอาเรื่องถึงศาลปกครองก็เสียเวลา เสียเงินมากกว่าค่าขอ ป.4 เสียอีก  จริงๆแล้วเงินใต้โต๊ะม้นก็เกิดจากเราๆท่านๆยอมจ่าย ก็เลยสร้างนิสัยอย่างนั้นให้กับอำเภอ  ถ้ามีความพอดีและพอเพียง มีปืนสั้น-ยาว อย่างละ 1 กระบอก  ก็เพียงพอแล้ว   เมื่อคุณๆอยากได้กันอีก ก็เป็นข้อต่อรองอย่างโน้นอย่างนี้ขึ้นมาได้

สรุปว่าพอกันทั้งสองฝ่ายครับ

......ชีวิตที่ดีพอ...คือการใช้ชีวิตอย่างพอดี....

....ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ....ไอ้ที่ถูกใจดันไม่ถูกต้อง...ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับ...



สำหรับผม... และอีกหลายๆ ท่านในนี้... คิดว่าคงไม่เพียงพอหรอกครับ... ไม่ได้โลภมากนะครับ... แต่ปืนแต่ละกระบอก... ออกแบบมาในจุดประสงค์ของการใช้ที่แตกต่างกัน... ปืนยิงเป้า ๑๙๑๑ แต่งซิ่งแบบ IPSC... เอามาใช้ป้องกันตัวแบบพกซ่อนก็คงไม่ได้... หรือจะเอาเอ็ม ๒๑ เอ... ไปยิงแข่งกับ ๑๙๑๑ ก็คงไม่ได้... เอาลูกกรด... ไปยิงเป้าบิน... หรือเอาลูกซองมานั่งปั้น X มีใครเขาเคย...

...ในประเด็นที่พูดถึงกัน... หัวข้อก็คือ... เรามีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะสามารถครอบครองอาวุธปืนได้... ที่ขอๆ กันนั้นก็ล้อนอยู่ในขอบเขตกฏหมายกำหนด... ไม่มีใครทะลึ่งไปขอ ป.๓ เพื่อซื้ออาก้าหรือปืนใหญ่... และกฏหมายก็ไม่ได้ระบุไว้... ว่ามีได้ไม่เกินคนละไม่เกินเท่าไหร่... จะมาโทษว่าเกิดจากคนขอไม่พอเพียงคงฟังไม่ค่อยขึ้นนัก... บอกว่าผู้มีอำนาจใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควรจะมีน้ำหนักกว่าครับ... หากทำถูกต้อง... ตามขั้นตอน... ไม่มียึกยัก... ก็คงไม่มีใครอยากเสียเงินจำนวนมาก... โดยไม่จำเป็นหรอกครับ...

ผมคนความรู้น้อยครับ  แล้วก็เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา  มิอาจที่จะมีปืนหลายกระบอกแบบคุณๆได้หรอก  เอาเงินไว้ดำรงชีพน่าจะเหมาะกับผมมากกว่า
ที่เข้ามาออกความคิดเห็นก็ อยากจะให้ข้อคิดกับประชาชนตาดำทั่วไป  ส่วนพวกคุณๆที่มีเงินกันมากๆ  อยากจะซื้อไว้ใช้งานตามใจปรารถนาก็เชิญเถอะครับ
ความพอเพียงมันฟังไม่ขึ้นสำหรับคนมีฐานะอย่างคุณๆ  ที่ออกความคิดเห็นไปนั้นมันเป็นความคิดเห็นสำหรับคนที่เห็นคุณค่าของความพอเพียงเท่านั้น
การเปรียบเท่ากระบอกนั้นต้องใช้อย่างนี้  ขนาดนี้ต้องใช้ยิงอย่างนั้น  คนพอมีคาวมรู้และคนที่ศึกษาเรืองอาวุธปืน คงทราบครับ  อยู่ที่ความจำเป็นมากกว่า  ถ้าคุณๆเป็นนักกีฬาก็คงต้องมีหลายกระบอกและหลายขนาดตามความเหมาะสม เป็นสิทธิของคุณในขอบเขตของกติกาบ้านเมือง
สิทธิที่พึงมี..กับความพอเพียง  ต้องแยกกัน มันคนละเรื่องนะครับ
ส่วนการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูก ก็ต้องไปว่ากันในศาล  ...คนที่ทราบว่าใครใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกแล้วไม่ดำเนินการผมก็ไม่เห็นด้วย  แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อคุณๆก็ไม่กล้าพอที่จะเปิดโปงขบวนการเหล่านี้  
ผมเสนอความคิดเห็นในกระทู้แรก  เนื่องจากผลมันเป็นอย่างนั้น...และที่เหตุมันแก้ได้ยาก...ฉะนั้นคุณๆก็ต้องแก้ที่ตัวคุณเอง
ส่วนคุณๆท่านใดอยากจะแก้ที่เหตุก็เชิญเถอะครับ  จะยกย่องเป็นอย่างยิ่ง...

แล้วที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะมีคนยอมจ่ายมิใช่หรือครับ... ที่ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ... ก็ในเรื่องของการรักษา"สิทธิ" ที่เราพึงมีครับ... ผมก็ไม่ได้มีปืนหลายกระบอก... แล้วก็ไม่ใช่นักกีฬายิงปืนหรอกครับ... เป็นเพียงผู้น้อยเหมือนหลายๆ ท่านครับ... แต่ผมไม่อยากให้ใครๆ มากำหนดว่า... มีแค่นี้พอนะ... หรือว่า... คนธรรมดาใช้แค่นี้พอแล้ว... ฯลฯ เพราะในเมื่อมันเป็นสิทธิที่เราพึงมีพึงได้... เราต้องรักษาสิทธินั้นไว้ครับ... อย่าให้ใครมาปล้นไป...

...การศึกษา... ฐานะ... มันไม่ได้บ่งบอกคุณค่าของคนหรอกครับ... การกระทำตัวมากกว่า... ทื่บ่งบอกคุณค่าของคน... อย่าพยายามดึงสิ่งเหล่านั้นมาเป็นช่องว่างระหว่างสังคมเลยครับ... ถึงแม้ว่าในสังคมจริงจะมีเรื่องอย่างนี้เป็นปกติ... ผมไม่ใช่คนที่มีฐานะทางสังคน... เป็นเพียงคนเดินดินคนหนึ่ง... ออกจะอยู่ในระดับล่างของสังคมด้วยซ้ำ...

...ผมอาจจะโชคดีกว่าหลายๆ ท่าน... ที่ท้องที่ที่ผมอาศัยอยู่ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danjedee ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 04:20:30 PM

แล้วที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะมีคนยอมจ่ายมิใช่หรือครับ... ที่ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ... ก็ในเรื่องของการรักษา"สิทธิ" ที่เราพึงมีครับ... ผมก็ไม่ได้มีปืนหลายกระบอก... แล้วก็ไม่ใช่นักกีฬายิงปืนหรอกครับ... เป็นเพียงผู้น้อยเหมือนหลายๆ ท่านครับ... แต่ผมไม่อยากให้ใครๆ มากำหนดว่า... มีแค่นี้พอนะ... หรือว่า... คนธรรมดาใช้แค่นี้พอแล้ว... ฯลฯ เพราะในเมื่อมันเป็นสิทธิที่เราพึงมีพึงได้... เราต้องรักษาสิทธินั้นไว้ครับ... อย่าให้ใครมาปล้นไป...

...การศึกษา... ฐานะ... มันไม่ได้บ่งบอกคุณค่าของคนหรอกครับ... การกระทำตัวมากกว่า... ทื่บ่งบอกคุณค่าของคน... อย่าพยายามดึงสิ่งเหล่านั้นมาเป็นช่องว่างระหว่างสังคมเลยครับ... ถึงแม้ว่าในสังคมจริงจะมีเรื่องอย่างนี้เป็นปกติ... ผมไม่ใช่คนที่มีฐานะทางสังคน... เป็นเพียงคนเดินดินคนหนึ่ง... ออกจะอยู่ในระดับล่างของสังคมด้วยซ้ำ...

...ผมอาจจะโชคดีกว่าหลายๆ ท่าน... ที่ท้องที่ที่ผมอาศัยอยู่ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นครับ...

ก็ตามสิทธิที่คุณๆพึงมีเถอะครับ   
อ่านข้อความของผมแล้ววิเคราะห์ให้ดี  ผมย้ำให้คุณๆทราบแล้วว่าให้ไปอ่านกระทู้แรกที่ผมออกความคิดเห็น
ผมก็พูดเรื่องที่มีคนยอมจ่ายใช่หรือไม่....แล้วก็พูดเรื่องการแก้ไข..ว่าจะแก้ที่เหตุ...หรือจะแก้ที่ผล...ใช่หรือไม่...
แล้วผมได้ยกเรื่องฐานะความรวยจนขึ้นมาอ้าง..หรือไม่....ลองไปทบทวนดูครับ
ช่องว่างๆเกิดจากคุณๆ   ถ้าอยากแก้..ก็ไปแก้ที่เหตุ...ไปใช้สิทธิให้เต็มที่...จะยกย่องเป็นอย่างยิ่ง...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 04:39:51 PM

แล้วที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะมีคนยอมจ่ายมิใช่หรือครับ... ที่ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ... ก็ในเรื่องของการรักษา"สิทธิ" ที่เราพึงมีครับ... ผมก็ไม่ได้มีปืนหลายกระบอก... แล้วก็ไม่ใช่นักกีฬายิงปืนหรอกครับ... เป็นเพียงผู้น้อยเหมือนหลายๆ ท่านครับ... แต่ผมไม่อยากให้ใครๆ มากำหนดว่า... มีแค่นี้พอนะ... หรือว่า... คนธรรมดาใช้แค่นี้พอแล้ว... ฯลฯ เพราะในเมื่อมันเป็นสิทธิที่เราพึงมีพึงได้... เราต้องรักษาสิทธินั้นไว้ครับ... อย่าให้ใครมาปล้นไป...

...การศึกษา... ฐานะ... มันไม่ได้บ่งบอกคุณค่าของคนหรอกครับ... การกระทำตัวมากกว่า... ทื่บ่งบอกคุณค่าของคน... อย่าพยายามดึงสิ่งเหล่านั้นมาเป็นช่องว่างระหว่างสังคมเลยครับ... ถึงแม้ว่าในสังคมจริงจะมีเรื่องอย่างนี้เป็นปกติ... ผมไม่ใช่คนที่มีฐานะทางสังคน... เป็นเพียงคนเดินดินคนหนึ่ง... ออกจะอยู่ในระดับล่างของสังคมด้วยซ้ำ...

...ผมอาจจะโชคดีกว่าหลายๆ ท่าน... ที่ท้องที่ที่ผมอาศัยอยู่ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นครับ...

ก็ตามสิทธิที่คุณๆพึงมีเถอะครับ 
อ่านข้อความของผมแล้ววิเคราะห์ให้ดี  ผมย้ำให้คุณๆทราบแล้วว่าให้ไปอ่านกระทู้แรกที่ผมออกความคิดเห็น
ผมก็พูดเรื่องที่มีคนยอมจ่ายใช่หรือไม่....แล้วก็พูดเรื่องการแก้ไข..ว่าจะแก้ที่เหตุ...หรือจะแก้ที่ผล...ใช่หรือไม่...
แล้วผมได้ยกเรื่องฐานะความรวยจนขึ้นมาอ้าง..หรือไม่....ลองไปทบทวนดูครับ
ช่องว่างๆเกิดจากคุณๆ   ถ้าอยากแก้..ก็ไปแก้ที่เหตุ...ไปใช้สิทธิให้เต็มที่...จะยกย่องเป็นอย่างยิ่ง...

ครับ... ผมใช้สิทธิ์ของผมเต็มที่... โดยพยายามไม่ละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น... แล้วก็เคารพตนเอง... เคารพผู้อื่น... แบบที่พี่ธำรงว่าไว้... แล้วคุณล่ะครับ... ใช้สิทธิ์ของคุณเต็มที่หรือยัง... เคารพตัวเองหรือยังครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: fink ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 06:34:42 PM
ในหลวง ท่านทรงให้ความหมายของคำว่า พอเพียง ว่ามีกิน มีใช้ มีเก็บ ไม่ใช่ว่า พอเพียงหรูหรามิได้ ใช้ของแพงมิได้
แต่ให้ใช้ ให้มี ตามแก่ฐานะของเรา ไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน
ที่ยกมานั้น ผมมิได้ยกเมฆเอาเองครับ เป็นคำพูดของคุณขวัญแก้ว(น่าจะเป็นท่านนะครับถ้าผมจำไม่ผิด) หรือ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทเป็นผู้ขยายความครับ

ถ้าเพื่อนสมาชิกทุกคนที่นี่ซื้อปืนหลายกระบอก แต่ไม่เดือดร้อนใคร สมแก่ฐานะของตน มีเงินออม ไม่ไปกู้หนี้ยืมสินใครให้ครอบครัวเดือดร้อน
ผมว่าทุกคนก็พอเพียงครับ

ฉะนั้นตามกฎหมายว่าเราสามารถมีปืนกี่กระบอกก็ได้ เจ้าหน้าที่ควรรับใช้ประชาชน ผมว่าเราใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ครับ
แล้วความพอเพียงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ
ด้วยความเคารพครับ คุณ danjedee ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danjedee ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 08:16:38 PM
ในหลวง ท่านทรงให้ความหมายของคำว่า พอเพียง ว่ามีกิน มีใช้ มีเก็บ ไม่ใช่ว่า พอเพียงหรูหรามิได้ ใช้ของแพงมิได้
แต่ให้ใช้ ให้มี ตามแก่ฐานะของเรา ไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน
ที่ยกมานั้น ผมมิได้ยกเมฆเอาเองครับ เป็นคำพูดของคุณขวัญแก้ว(น่าจะเป็นท่านนะครับถ้าผมจำไม่ผิด) หรือ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทเป็นผู้ขยายความครับ

ถ้าเพื่อนสมาชิกทุกคนที่นี่ซื้อปืนหลายกระบอก แต่ไม่เดือดร้อนใคร สมแก่ฐานะของตน มีเงินออม ไม่ไปกู้หนี้ยืมสินใครให้ครอบครัวเดือดร้อน
ผมว่าทุกคนก็พอเพียงครับ

ฉะนั้นตามกฎหมายว่าเราสามารถมีปืนกี่กระบอกก็ได้ เจ้าหน้าที่ควรรับใช้ประชาชน ผมว่าเราใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ครับ
แล้วความพอเพียงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ
ด้วยความเคารพครับ คุณ danjedee ::014::

ต้องขอขอบคุณที่เข้าใจใจเจตนา  และขอบคุณความเหมาะสมในการใช้ภาษา
ผมพยายามที่จะอธิบาย....แต่ผลที่ได้รับกับมา..คือคำถามแก้มประชดประชัน...
ทำให้ผมไม่แปลกใจกับคนยุคใหม่(ไม่ทุกคน)ที่มักมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง..จนลืมเหลียวกับมามองโลกแห่งความเป็นจริง
ระบบราชการไทยมีอะไรที่ต้องแก้ไขมายมากเพียงใด..ผมไม่ทราบ
แต่ฝากกับคุณๆทั้งหลายว่า  ควรแก้ไขเรื่องใกล้ตัวคุณๆ...เรื่องภายในหน่วยงานราชการที่คุณๆอยู่  ให้ได้ก่อน
ผมเชื่อว่าทุกๆท่านมีคำตอบในใจอยู่แล้วว่า มันแก้ได้ยากง่ายเพียงใด

ก็ขอใช้สิทธิอันพึงมีเล็กๆน้อยๆ...และขอใช้สิทธิในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เสียภาษีอากรเพื่อเป็นเงินเดือนให้กับ
ข้าราชการทั้งหลายว่า..โปรดยืนอยู่เคียงข้างประชาชน...และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนบ้าง..
สิทธิอันพึงมีของผมคงมีเท่านี้..

เรื่องคำถามที่คุณกระทู้ข้างบนถามไว้..อย่าให้ผมตอบเลยนะครับ...
เท่านี้ก็ทำให้ เจ้าของกระทู้ อึดอัดพอสมควร     ผมหยุดดีกว่าครับ...



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: snowwhite ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 08:42:24 PM
"...บำรุงอำเภอ...."    ::012::

ดูดู๊ดู ดูเธอทำกับหมวดได้ ::005::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ๏แก้วเดียวจุก๏รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 10:58:54 PM

แล้วที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะมีคนยอมจ่ายมิใช่หรือครับ... ที่ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ... ก็ในเรื่องของการรักษา"สิทธิ" ที่เราพึงมีครับ... ผมก็ไม่ได้มีปืนหลายกระบอก... แล้วก็ไม่ใช่นักกีฬายิงปืนหรอกครับ... เป็นเพียงผู้น้อยเหมือนหลายๆ ท่านครับ... แต่ผมไม่อยากให้ใครๆ มากำหนดว่า... มีแค่นี้พอนะ... หรือว่า... คนธรรมดาใช้แค่นี้พอแล้ว... ฯลฯ เพราะในเมื่อมันเป็นสิทธิที่เราพึงมีพึงได้... เราต้องรักษาสิทธินั้นไว้ครับ... อย่าให้ใครมาปล้นไป...

...การศึกษา... ฐานะ... มันไม่ได้บ่งบอกคุณค่าของคนหรอกครับ... การกระทำตัวมากกว่า... ทื่บ่งบอกคุณค่าของคน... อย่าพยายามดึงสิ่งเหล่านั้นมาเป็นช่องว่างระหว่างสังคมเลยครับ... ถึงแม้ว่าในสังคมจริงจะมีเรื่องอย่างนี้เป็นปกติ... ผมไม่ใช่คนที่มีฐานะทางสังคน... เป็นเพียงคนเดินดินคนหนึ่ง... ออกจะอยู่ในระดับล่างของสังคมด้วยซ้ำ...

...ผมอาจจะโชคดีกว่าหลายๆ ท่าน... ที่ท้องที่ที่ผมอาศัยอยู่ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นครับ...

ก็ตามสิทธิที่คุณๆพึงมีเถอะครับ  
อ่านข้อความของผมแล้ววิเคราะห์ให้ดี  ผมย้ำให้คุณๆทราบแล้วว่าให้ไปอ่านกระทู้แรกที่ผมออกความคิดเห็น
ผมก็พูดเรื่องที่มีคนยอมจ่ายใช่หรือไม่....แล้วก็พูดเรื่องการแก้ไข..ว่าจะแก้ที่เหตุ...หรือจะแก้ที่ผล...ใช่หรือไม่...
แล้วผมได้ยกเรื่องฐานะความรวยจนขึ้นมาอ้าง..หรือไม่....ลองไปทบทวนดูครับ
ช่องว่างๆเกิดจากคุณๆ   ถ้าอยากแก้..ก็ไปแก้ที่เหตุ...ไปใช้สิทธิให้เต็มที่...จะยกย่องเป็นอย่างยิ่ง...

คำพูดของคุณ จะยกข้อเปรียบเทียบเรื่องฐานะหรือไม่ อยากให้ลองทบทวนดูครับ



ผมคนความรู้น้อยครับ  แล้วก็เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา  มิอาจที่จะมีปืนหลายกระบอกแบบคุณๆได้หรอก  เอาเงินไว้ดำรงชีพน่าจะเหมาะกับผมมากกว่า
ที่เข้ามาออกความคิดเห็นก็ อยากจะให้ข้อคิดกับประชาชนตาดำทั่วไป  ส่วนพวกคุณๆที่มีเงินกันมากๆ   อยากจะซื้อไว้ใช้งานตามใจปรารถนาก็เชิญเถอะครับ
ความพอเพียงมันฟังไม่ขึ้นสำหรับคนมีฐานะอย่างคุณๆ   ที่ออกความคิดเห็นไปนั้นมันเป็นความคิดเห็นสำหรับคนที่เห็นคุณค่าของความพอเพียงเท่านั้น
การเปรียบเท่ากระบอกนั้นต้องใช้อย่างนี้  ขนาดนี้ต้องใช้ยิงอย่างนั้น  คนพอมีคาวมรู้และคนที่ศึกษาเรืองอาวุธปืน คงทราบครับ  อยู่ที่ความจำเป็นมากกว่า  ถ้าคุณๆเป็นนักกีฬาก็คงต้องมีหลายกระบอกและหลายขนาดตามความเหมาะสม เป็นสิทธิของคุณในขอบเขตของกติกาบ้านเมือง
สิทธิที่พึงมี..กับความพอเพียง  ต้องแยกกัน มันคนละเรื่องนะครับ
ส่วนการใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูก ก็ต้องไปว่ากันในศาล  ...คนที่ทราบว่าใครใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกแล้วไม่ดำเนินการผมก็ไม่เห็นด้วย  แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อคุณๆก็ไม่กล้าพอที่จะเปิดโปงขบวนการเหล่านี้ 
ผมเสนอความคิดเห็นในกระทู้แรก  เนื่องจากผลมันเป็นอย่างนั้น...และที่เหตุมันแก้ได้ยาก...ฉะนั้นคุณๆก็ต้องแก้ที่ตัวคุณเอง
ส่วนคุณๆท่านใดอยากจะแก้ที่เหตุก็เชิญเถอะครับ  จะยกย่องเป็นอย่างยิ่ง...
[/quote]

คุณแบ่งแยกฐานะ ในเชิงประชดประชันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  แล้วจะว่าคนอื่นประชดประชันได้ยังไง


ความเพียงพอ ของใคร ?
ถ้าของเราเอง เรารู้ว่าเราจะพอแค่ไหน ในเมื่อกฎมันไม่ห้าม แล้วยังไง ใครจะห้าม
ห้ามยังไง เหตุผล?
   ต่างคนต่างใจครับ คิดแทนกันไม่ได้
   คุณพอ ผมไม่พอ แล้วยังไง คุณก็ว่าผมไม่พอเพียง ถูกต้องแล้วหรือ
บางคนมีปัญหาตั้งแต่กระบอกแรกด้วยซ้ำ
  แล้วใครคือคนตัดสิน
ไม่ใช้สิทธิก็ไม่เป็นไร เพียงแต่บอกข้อมูล วิเคราะห์กันเอาเอง อะไรถูก อะไรผิด

คนส่วนใหญ่ไม่ใช่ถูกเสมอไป  แต่มีข้อให้คิดอยู่แล้วไม่คิดกันล่ะ
    ถามกันเป็นข้อๆ เลย ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่
1. มีกฎหมายบอกว่า ให้คุณมีได้สั้น 1 กระบอก ยาว 1 กระบอกหรือ ?  บอกมาตรามาเลย
2. มีกฎหมายบอกว่าห้ามคุณมีซ้ำขนาดหรือ ?   บอกมาตรามาเลย
3. มีกฎหมายบอกว่า .357 .45 เป็นอาวุธสงครามหรือ? บอกมาตรามาเลย
4. มีกฎหมายบอกว่า มีสั้น1กระบอก ก็เพียงพอแล้ว หรือ ?  บอกมาตรามาเลย

    นี่คือสิ่งที่เราเอามาโต้แย้ง ไม่ใช่ความพอหรือไม่พอ ความพอมันตัดสินแทนกันไม่ได้ ของใครของมัน
เราโต้แย้งกันด้วยหลัก ใช่หรือ ไม่ใช่ กฎ หรือ ไม่มีกฎ ห้าม หรือ ไม่ห้าม


 


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 11:10:29 PM
.............


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 11:17:30 PM
ในหลวง ท่านทรงให้ความหมายของคำว่า พอเพียง ว่ามีกิน มีใช้ มีเก็บ ไม่ใช่ว่า พอเพียงหรูหรามิได้ ใช้ของแพงมิได้
แต่ให้ใช้ ให้มี ตามแก่ฐานะของเรา ไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน
ที่ยกมานั้น ผมมิได้ยกเมฆเอาเองครับ เป็นคำพูดของคุณขวัญแก้ว(น่าจะเป็นท่านนะครับถ้าผมจำไม่ผิด) หรือ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทเป็นผู้ขยายความครับ

ถ้าเพื่อนสมาชิกทุกคนที่นี่ซื้อปืนหลายกระบอก แต่ไม่เดือดร้อนใคร สมแก่ฐานะของตน มีเงินออม ไม่ไปกู้หนี้ยืมสินใครให้ครอบครัวเดือดร้อน
ผมว่าทุกคนก็พอเพียงครับ

ฉะนั้นตามกฎหมายว่าเราสามารถมีปืนกี่กระบอกก็ได้ เจ้าหน้าที่ควรรับใช้ประชาชน ผมว่าเราใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ครับ
แล้วความพอเพียงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ
ด้วยความเคารพครับ คุณ danjedee ::014::

ต้องขอขอบคุณที่เข้าใจใจเจตนา  และขอบคุณความเหมาะสมในการใช้ภาษา
ผมพยายามที่จะอธิบาย....แต่ผลที่ได้รับกับมา..คือคำถามแก้มประชดประชัน...
ทำให้ผมไม่แปลกใจกับคนยุคใหม่(ไม่ทุกคน)ที่มักมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง..จนลืมเหลียวกับมามองโลกแห่งความเป็นจริง
ระบบราชการไทยมีอะไรที่ต้องแก้ไขมายมากเพียงใด..ผมไม่ทราบ
แต่ฝากกับคุณๆทั้งหลายว่า  ควรแก้ไขเรื่องใกล้ตัวคุณๆ...เรื่องภายในหน่วยงานราชการที่คุณๆอยู่  ให้ได้ก่อน
ผมเชื่อว่าทุกๆท่านมีคำตอบในใจอยู่แล้วว่า มันแก้ได้ยากง่ายเพียงใด

ก็ขอใช้สิทธิอันพึงมีเล็กๆน้อยๆ...และขอใช้สิทธิในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เสียภาษีอากรเพื่อเป็นเงินเดือนให้กับ
ข้าราชการทั้งหลายว่า..โปรดยืนอยู่เคียงข้างประชาชน...และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนบ้าง..
สิทธิอันพึงมีของผมคงมีเท่านี้..

เรื่องคำถามที่คุณกระทู้ข้างบนถามไว้..อย่าให้ผมตอบเลยนะครับ...
เท่านี้ก็ทำให้ เจ้าของกระทู้ อึดอัดพอสมควร     ผมหยุดดีกว่าครับ...



วันนี้ขออนุญาตยืมเสียงหัวเราะพี่มะขิ่นหน่อยนะครับ...  หึ... หึ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Enruoblem ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 01:41:39 AM
อ่านความเห็นของแต่ล่ะท่าน ทำให้หายสงสัยว่าทำไมบางท่านยังคิดว่าการจ่ายเงินใต้โต๊ะเป็นเรื่องสุดวิสัย น่าเศร้าใจ :'(


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 10:49:29 AM
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=47629.0


ช่วยกันครับ ทำไมต้องจ่ายด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: danai58 ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 11:26:00 AM
ไม่ได้มาดูวันสองวัน เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วครับ  ท่านรองฯ 555 :D :D :D

ต่างคนต่างความคิดจริงๆเด๊อ...คนไทย ;D

แต่ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล  ว่ากันไม่ได้   :D

ว่าแต่ไม่เห็นมีใครเสนอวิธีแก้ไขซักคน...รอฟังอยู่เด๊อท่าน..555 : ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: nice Sky ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 11:57:34 AM
น่าจะอัดเสียง แอบถ่ายกล้องไว้เวลเขาพุดด้วยนะครับ เอาให้เข็ด


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงตุ้ย ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 12:11:17 PM
 8)ขออภัยครับ ท่านรองฯ เรื่องอย่างที่ท่านเล่ามา มันน่าอายมากครับ หดหู่ อย่าที่พี่ธำรงว่าไว้


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 12:31:52 PM
ฝรั่งบอกว่า คนไทย  =  Everyone Big

.....................


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Runya ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 01:49:00 PM
ผมก็โดนมาเหมือนกันครับ กระบอกแรกสั้น= 3K.กระบอกที่สองยาว=2K. คือปลัดเป็นคนขอ ถ้าไม่ให้คือไม่อนุญาติ โหดจริงๆครับอำเภอนี้ คือปลัดบอกว่าเป็นนโยบายของนาย.


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 02:55:12 PM
บ้านเมืองเราก็เป็นอย่างนี้แหละครับ...

ลองคำนวณถึงเงินเดือนท่านๆ....แล้วประมาณรายจ่ายแต่ละเดือนของท่านๆ...

ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าท่านๆเอาเงินมาจากไหน...

คิดถึงเรื่องพวกนี้ กับ เรื่องการเมือง....ผมถือว่ามันเป็นปมด้อยของบ้านเมืองเรา...

แต่ก็ยังดีกว่าพม่า....มั้ง...

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 05:27:27 PM
น่าจะอัดเสียง แอบถ่ายกล้องไว้เวลเขาพุดด้วยนะครับ เอาให้เข็ด
..ใช้ในศาลไม่ได้ครับ ศาลไม่รับฟังทางที่ดีคือทางลาดยาง อุ๊ยไม่ใช่ ทางดีถ้าจะเล่นกันจริงๆซ่อนกล้องถ่ายคลิปไปเลย งานนี้ถ้าเรื่องถึงศาลรอดยากส์ครับ.. ::005::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: น้องมลคับผม ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 08:24:42 PM
ลูกกรด  ลูกซอง  .38  และ 9 มม.  ห้าพันบาทคับ  ส่วน 357 กับ 11  ไม่ให้อนุญาติคับ


กฎหมายประเทศไหนครับ  ด้วยความเคารพ

เขาเรียกว่าสินน้ำใจไม่ใช่กฏหมายหรอก ผมไปขอผมยังให้เลย ถ้านายให้ .357  10000บาทผมยังให้เลย

(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)





หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: น้องมลคับผม ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 08:42:07 PM
ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)   ::002::


(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: -จ่าตะพาบน้ำ- * รักในหลวง* ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 09:01:11 PM
ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)   ::002::


(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)

ผมต้องขออนุญาตยืมเสียงหัวเราะของพี่มะขิ่นด้วยอีกคนน่ะครับ 

หึ  ....   หึ   ::012:: ::012::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: sg228/17 ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 09:08:51 PM
บ้านเมืองเราก็เป็นอย่างนี้แหละครับ...

ลองคำนวณถึงเงินเดือนท่านๆ....แล้วประมาณรายจ่ายแต่ละเดือนของท่านๆ...

ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าท่านๆเอาเงินมาจากไหน...

คิดถึงเรื่องพวกนี้ กับ เรื่องการเมือง....ผมถือว่ามันเป็นปมด้อยของบ้านเมืองเรา...

แต่ก็ยังดีกว่าพม่า....มั้ง...

ขอบคุณครับ
เท่าที่ผมเคยทราบมาทางการพม่าในชาวบ้านในพื้นที่ซื้อปืนได้และมีใว้เป็นของตนเอง แต่ต้องไปแจ้งให้ทางการทราบเพื่อขึ้นบัญชีไว้หากทางการมีความจำเป็นต้องใช้จะต้องให้นำไปใช้ได้ ใครจะซื้อปืนอะไรก็ได้ ถ้ามีเงิน  ไม่ทราบว่าตอนนี้เขายังใช้วิธีนี้อยู่หรือไม่


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๓ ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 09:25:58 PM



เขาเรียกว่าสินน้ำใจไม่ใช่กฏหมายหรอก ผมไปขอผมยังให้เลย ถ้านายให้ .357  10000บาทผมยังให้เลย

(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)


ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)



คุณน้องมลคับผม ดูเหมือนจะใ่ส่ครุยบัณฑิตใช่หรือเปล่าครับเนี่ย??  ครุยสวยดีครับ  เอิ๊ก !!  ::009::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 09:27:20 PM
ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)   ::002::


(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)

ผมต้องขออนุญาตยืมเสียงหัวเราะของพี่มะขิ่นด้วยอีกคนน่ะครับ 

หึ  ....   หึ   ::012:: ::012::

ขอ... หึ... หึ... แบบหดหู่ ด้วยคน  ::004:: ::004:: ::004::



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: fink ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 12:11:57 AM
หึ.......หึ....  อีกคนครับ  เวรกรรม ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: rerng ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 01:16:09 AM
ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)   ::002::


(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)
  ::002:: ::002:: ::002::ขอให้เจริญๆ :~)


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 08:23:41 AM

เขาเรียกว่าสินน้ำใจไม่ใช่กฏหมายหรอก ผมไปขอผมยังให้เลย ถ้านายให้ .357  10000บาทผมยังให้เลย

(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)



ผมทำเรื่องโอนปืนขนาด .๓๕๗ แล้วไม่ได้เสียซักบาท... ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่รูจักกับนายอำเภอเป็นการส่วนตัว... แล้วนายอำเภอก็ไม่ทราบว่าผมเป็นใคร... ตามปกติแล้ว ค่าใบ ป.๓ หกบาท... แต่ของผมเป็นอำเภอเดียวกันเลยไม่ต้องเสียหกบาท... น่าเสียดายเงินนะครับ... ตั้งหมื่นบาท... นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างอื่นได้มากมาย... แทนที่จะนำไปให้เหลือบสังคมเหล่านั้น...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: เห่าดง - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 10:15:42 AM
ที่อำเภอเมือง ขอนแก่น  พ่อผมจะโอน 11 ให้ ปลัดบอก 11=10,000 บาท ลดให้เหลือ 5,000 บาท เพราะบอกว่าพ่อผมทหารยศพันโท ข้าราชการด้วยกัน   

2 พ่อลูกมองหน้ากัน แล้วเดินลงจากอำเภอ ยังไม่โอนก็ได้
เดี๋ยวเจอกัน


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 10:23:31 AM
คุณ Bogie's Daddy ลองทำตามขั้นตอนที่พี่ๆ แนะนำสิครับ... ยื่น ป.๑ ก่อน... หากไม่ผ่านก็ขอให้ทางอำเภอทำหนังสือชี้แจงเหตุที่ไม่ผ่าน... แค่นี้ทางอำเภอก็คงพอจะรู้แล้วครับ... ว่าเราคงเอาไปฟ้องศาลปกครอง... เรื่อง อาจจะ ง่ายขึ้นครับ... ส่วนจะฟ้องหรือไม่ฟ้องก็อีกเรื่องหนึ่งครับ... ทำแบบว่า... ข่มไว้ก่อนครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 10:33:24 AM
..รู้จัก สวป.ท่านหนึ่งทางภาคเหนือที่สนามยิงปืน แกเล่าว่าช่วงที่คำสั่งเฮี่ยเหลี่ยมออกใหม่ๆปี46หรือ47จำไม่ได้ แกไปขอ.357 นายอำเภอไม่ให้ และบอกแกว่าอาวุธทางราชการก็มีอยู่แล้วขนาดที่แรงๆ เหตุที่ไปขอขนาดนี้เพราะครั้งหนึ่งล่อซื้อยาแล้วคนร้ายไหวตัวทันยิงสวนออกมา แกก็ยิงสวนด้วยขนาด9มม. คนร้ายไม่ล้มทันทีและก็ยิงสวนออกมาอีก ดีที่ลูกน้องแกซัดด้วย11 ไม่งั้นแกตายไปแล้ว..นายอำเภอคงคิดว่าให้แกสะพายHK33มั้งไปล่อซื้อ เพราะขนาดมันแรงดี..ประสาท ::012::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: น้องมลคับผม ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 10:48:34 AM

เขาเรียกว่าสินน้ำใจไม่ใช่กฏหมายหรอก ผมไปขอผมยังให้เลย ถ้านายให้ .357  10000บาทผมยังให้เลย

(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)



ผมทำเรื่องโอนปืนขนาด .๓๕๗ แล้วไม่ได้เสียซักบาท... ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่รูจักกับนายอำเภอเป็นการส่วนตัว... แล้วนายอำเภอก็ไม่ทราบว่าผมเป็นใคร... ตามปกติแล้ว ค่าใบ ป.๓ หกบาท... แต่ของผมเป็นอำเภอเดียวกันเลยไม่ต้องเสียหกบาท... น่าเสียดายเงินนะครับ... ตั้งหมื่นบาท... นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างอื่นได้มากมาย... แทนที่จะนำไปให้เหลือบสังคมเหล่านั้น...



ผมอยากจะย้ายไปอำเภอคุณบ้างเวลาขอปืนจะได้ไม่ต้องเสยตังอำเภอผมต้องเสียทั้งนั้น


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 10:58:40 AM
....ระบบส่วยฝังรากหยั่งลึกในสังคมและจิตใจ........
 .......จะติดต่องานราชการ ทุกหนแห่ง จักต้องจ่ายเบี้ยใบ้รายทาง.......
     ........ทำยากเป็นง่าย ทำง่ายเป็นยาก ทำถูกเป็นผิด ทำผิดเป็นถูก........
               ......... อนาถแท้ สังคมไทย.............


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 12:48:29 PM
ลูกกรด  ลูกซอง  .38  และ 9 มม.  ห้าพันบาทคับ  ส่วน 357 กับ 11  ไม่ให้อนุญาติคับ


กฎหมายประเทศไหนครับ  ด้วยความเคารพ

เขาเรียกว่าสินน้ำใจไม่ใช่กฏหมายหรอก ผมไปขอผมยังให้เลย ถ้านายให้ .357  10000บาทผมยังให้เลย


ขออนุญาตรื้อฟื้น  เพราะเข้าใจว่าจบไปแล้ว

รัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๔๐ กำหนดให้มีองค์กรอิสระ คือศาลปกครองขึ้นมา  ประชาชนตาดำ ๆ มีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวันได้บ้าง

ทีนี้ ลองนึกดูนะครับ ว่า ท่าน ๆ บนหอคอย กับคหบดี(เลว ๆ) เขาหาช่องทางเอาประโยชน์จากช่องโหว่กฏหมายกัน ท่านชอบไหม

แล้วเมื่อมีช่องทาง ให้ท่านได้วิ่งเต้น อย่างถูกต้อง ท่านจะทำไหม

ถ้าท่านไม่ทำ ก็ตามใจท่าน แต่ อย่าเอาวิธีการที่ "ไม่ถูกต้อง" มานำเสนอเลย  จริงเท็จอย่างไร พี่ ๆ น้อง ๆ ในเว็บนี้ รู้อยู่แก่ใจทั้งนั้น

พี่ ๆ น้อง ๆ ในเว็บ ส่วนหนึ่ง อยู่ในวงการปืน ผ่านการขออนุญาตมาแล้วหลายครั้ง  เรื่องที่ท่านนำเสนอและแจกแจง ไม่ใช่เรื่องใหม่

หากแต่เป็นเรื่องที่ หลายท่าน เรียกว่าเกือบทุกท่าน กำลังต่อต้านกันอยู่

จะดีกว่าไหม ถ้าเราใช้สิทธิตามกฏหมาย ได้เต็มที่ โดยไม่ต้องจ่าย สินน้ำใจ(หน้าที่เขา ไม่น่าเรียกว่าน้ำใจ)  หรือท่านว่าไง

เคารพทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: กันตภณ ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 12:55:18 PM
....ระบบส่วยฝังรากหยั่งลึกในสังคมและจิตใจ........
 .......จะติดต่องานราชการ ทุกหนแห่ง จักต้องจ่ายเบี้ยใบ้รายทาง.......
     ........ทำยากเป็นง่าย ทำง่ายเป็นยาก ทำถูกเป็นผิด ทำผิดเป็นถูก........
               ......... อนาถแท้ สังคมไทย.............
นี่และครับสังคมไทย  ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ  ทุกสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีนะครับเพียงแต่ว่าทำอย่างไรจะได้คนดีมาปกครองคนไม่ดี  ก่อนอื่นต้องเริ่มที่ตัวเราก่อนครับตัวเรามีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าทีของเราให้ดีที่สุด  จะได้เป็นตัวอย่างให้ลูกหลาน  ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่บัดนี้ประเทศเราก็คงติดอันดับหนึ่งในสิบของประเทศที่คอรัปชั่นที่สุดในโลกตลอดไป  แล้วเมื่อไหร่บ้านเมืองเราจะเจริญรุ่งเรืองสักที  ::004:: ::004:: ::004::  ไทยฆ่าไทยแล้วจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง ::014:: ::014:: ::014::   


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 12:58:50 PM
สมัยหนึ่ง ดำรง อารีกุล นักเขียนเล็ก ๆ จากปักษ์ใต้คนหนึ่ง  ร้องแรกแหกกระเฌอ ต่อต้านจักรยานยนต์สองจังหวะ

ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้น ดำรง ต่อสู้เพียงเดียวดาย

ปัจจุบันนี้ ทุกบริษัท ยกเลิกสายการผลิตรถสองจังหวะไปแล้ว    ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 01:05:34 PM
คุณ Pandanus ครับ... ผมก็ชอบอ่านนะครับ... หนังสือของดำรง อารีกุล... เรื่อง กอดลมไว้อย่าให้หงอย... อ่านจนบ้าบิ๊กไบค์ไปช่วงหนึ่ง...

....วงการปืนเรามีนักเขียนอยู๋หลายท่าน... น่าจะส่งไปลงหนังสืออื่นๆ นอกจาก อวป. ก็ดีนะครับ... ผู้อ่านจะได้ขยายวงกว้างมากขึ้นครับ...

******

ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้นครับ... ทุกคนทำได้... โดยเริ่มที่ตัวเอง... แต่หากว่า... มันหนักหนาเกินกำลัง... ผมเชื่อว่าสมาชิกท่านอื่นๆ คงยินดีให้คำปรึกษาครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: zx9 ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 02:22:28 PM
หากเป็นประชาชนธรรมดาผมว่าคงต้องจ่ายมากกว่านี้หลายเท่า......ขนาดนายตำรวจยังโดนรีดไถ่    ที่นี่ประเทศไทยครับอะไรก็เกิดเกิดขึ้นได้   ผมเคยไปขอลูกกรด  ขนาด .22  เจอเจ้าหน้าที่ถาม  เคยจ่ายเท่าใหร่ราคานี้ตั้งแต่สมับใหนจะจ่ายหรือเปล่าจะเอาหรือไม่เอาถ้าไม่จ่ายก็ตามใจ  .......


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: silstar ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 07:38:46 PM
ลูกกรด  ลูกซอง  .38  และ 9 มม.  ห้าพันบาทคับ  ส่วน 357 กับ 11  ไม่ให้อนุญาติคับ


กฎหมายประเทศไหนครับ  ด้วยความเคารพ

เขาเรียกว่าสินน้ำใจไม่ใช่กฏหมายหรอก ผมไปขอผมยังให้เลย ถ้านายให้ .357  10000บาทผมยังให้เลย

(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)




ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)   ::002::


(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)


สินน้ำใจเนี่ยนะครับ คุณไม่ต้องมาเรียกร้องทำงานให้ดี ทำงานให้ไว ประทับใจเดี๋ยวให้เอง  .45 กระบอกก่อนผมได้มาก่อนที่จะไปยื่นขอ 7 ปี กระบอกนั้นไม่ได้เรียกร้องอะไร แถมได้เร็วด้วยเขียนเสร็จเดินไปให้นายอำเภอเซ็นเลย  โอเคอย่างงี้เสร็จงานมีน้ำใจให้  แต่ไอ้ประเภทที่เป็นหน้าที่ที่คุณต้องทำแล้วมาเรียกร้อง  อย่างงี้จะไม่มีน้ำใจให้จะทำไม  ไม่ให้ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร  อย่างมากก็ย้ายทะเบียนบ้านไปที่อื่น  แต่ถ้าเอกสารผมครบคุณสมบัติผมถูกต้องตามหลักเกณฑ์  ก็อยากให้ลองไม่ให้เหมือนกัน 


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: KOE SA รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 09, 2008, 10:34:21 AM
จับเลยครับผู้กอง


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ พฤษภาคม 09, 2008, 01:58:17 PM
ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)   ::002::


(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)



ผมก็อยากได้ นายทะเบียนไม่อนุญาต ผมก็ทำตามสิทธิ์ที่พึงมีตามกฏหมาย


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๓ ที่ พฤษภาคม 09, 2008, 03:15:47 PM



เขาเรียกว่าสินน้ำใจไม่ใช่กฏหมายหรอก ผมไปขอผมยังให้เลย ถ้านายให้ .357  10000บาทผมยังให้เลย

(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)


ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)



คุณน้องมลคับผม ดูเหมือนจะใ่ส่ครุยบัณฑิตใช่หรือเปล่าครับเนี่ย??  ครุยสวยดีครับ  เอิ๊ก !!  ::009::

ฮั่นแน่........  คุณ "น้องมลคับผม"  เปลี่ยนรูปซะแล้ว รูปที่ใส่ชุดครุยไปไหนซะแล้วล่ะครับ หรือว่า ทางมหาวิทยาลัยเรียกคืนครับ  ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: ROONEY 10 รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 09, 2008, 06:18:40 PM



เขาเรียกว่าสินน้ำใจไม่ใช่กฏหมายหรอก ผมไปขอผมยังให้เลย ถ้านายให้ .357  10000บาทผมยังให้เลย

(http://img383.imageshack.us/img383/4277/indexif9.gif)


ในเมื่อเราอยากได้มันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยกันบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ให้นายเขาก็ไม่ว่าไม่ได้เป้นการบังคับกัน เป็นความเต็มใจ (ในเมื่อเราอยากได้มีการแลกเปลี่ยนเล็กน้อยจะเป็นอะไรไปล่ะ)



คุณน้องมลคับผม ดูเหมือนจะใ่ส่ครุยบัณฑิตใช่หรือเปล่าครับเนี่ย??  ครุยสวยดีครับ  เอิ๊ก !!  ::009::

ฮั่นแน่........  คุณ "น้องมลคับผม"  เปลี่ยนรูปซะแล้ว รูปที่ใส่ชุดครุยไปไหนซะแล้วล่ะครับ หรือว่า ทางมหาวิทยาลัยเรียกคืนครับ  ::007:: ::007:: ::007::
หุ หุ ...  ::013:: ::013:: ::013::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: dhamdham_05 ที่ พฤษภาคม 09, 2008, 10:16:53 PM
ล้อเล่นมั้งครับท่านรอง....ก็เปนเพื่อนพ่อเพื่อนแม่ท่านไม่ใช่หรือครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JAKUNG ที่ พฤษภาคม 09, 2008, 11:23:42 PM
น่าเศร้าใจจริงๆนะครับ ข้าราชการไทย(บางคน) ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: 1529 ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 11:05:48 PM
ที่อำเภอเมือง ขอนแก่น  พ่อผมจะโอน 11 ให้ ปลัดบอก 11=10,000 บาท ลดให้เหลือ 5,000 บาท เพราะบอกว่าพ่อผมทหารยศพันโท ข้าราชการด้วยกัน   

2 พ่อลูกมองหน้ากัน แล้วเดินลงจากอำเภอ ยังไม่โอนก็ได้
เดี๋ยวเจอกัน

จริงๆแล้วยศเป็นผู้พัน นี่มันยังกล้าเรียกอีกเหรอ ข้าราชการด้วยกันมันยังด้านเรียกอีก


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: dhirayut ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 11:11:56 PM
ขรก มีทั้งดีทั้งเลว  บางเรื่องก้อปล่อยไปบ้างไม่เปนไร ตัวเราเอง มีปืน ไม่ใช่ว่าเราจะทำถูกไปซะหมด  เหน พกปืนออกนอกบ้านกันเยอะแยะ
ผิดกฎหมายชัดๆ  ขรก เลวๆก้อเยอะ เหมือนกัน ขรก ดีๆก้อมีมากเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: I Love My King (AkNaRiN~*) ที่ พฤษภาคม 11, 2008, 02:49:40 AM
สำหรับคนทำมาหากิน   ถ้าเจอแบบนี้

ใจหนึ่งก็อยากจะลุย เล่นกันดูซักตั้ง

แต่ในความเป็นจริง การทำมาค้าขาย

ก็ยังต้องพึ่งพาอำเภออยู่

ที่อยากจะสู้กันซักตั้งด้วยกฎหมาย.... คงเป็นได้แค่ความฝัน....


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 11, 2008, 08:42:46 AM

จริงๆแล้วยศเป็นผู้พัน นี่มันยังกล้าเรียกอีกเหรอ ข้าราชการด้วยกันมันยังด้านเรียกอีก

ผมว่า... ไม่ว่าจะเป็นใคร... ก็ไม่สมควรเรียกหรอกครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอำเภอ
เริ่มหัวข้อโดย: sopon7 ที่ พฤษภาคม 11, 2008, 10:15:10 AM
 จขกท.  อย่าคิดมาก ครับ