เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ในสถานการณ์ปัจจุบันน้ำมันขึ้นเกือบจะเป็นรายวัน  ข้าวยากหมากแพง ค่าแรงถูก การปลดคนงานยังมีให้เห็น

ผมอยากทราบความเห็นของเพื่อนๆพี่ๆครับว่า

1.ช่วงเวลาแบบนี้ถือว่าเริ่มเข้าวิกฤติของการกินการอยู่หรือเปล่าครับ

2.ถ้าไม่ใช่แล้วแบบไหนถึงเรียกว่าเริ่มเข้าวิกฤติ

3.ถ้าแบบนี้ถือว่าเข้าวิกฤติ เราจะปรับตัวในการดำเนินชีวิตอย่างไรครับ

  เช่นการหารายได้เพิ่ม , การลดรายจ่าย , การป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ฯลฯ


ปล.  หาเมียอีกคนดีไหมครับ  จะได้ช่วยกันทำมาหากิน........อะ..ล้อเล่น....... ;D

  สวัสดีครับคุณณัฐ ....


     ส่วนตัวผมว่าเข้าแล้ว  ...... จริง ๆมันเป็นมานานแล้วเพียงแต่มันค่อย ๆเป็นเราเลยไม่ค่อยรู้สึก  ไม่ใช่แบบเงินบาทลอยตัวซึ่งมันเห็นความแตกต่างมากกว่า   .... ผมว่าแบบนั้นนะครับ  ......

      สำหรับผมเอง ..... ก็ระวังเรื่องการใช้เงินให้มากขึ้น อีกที่ต้องระวังคือผมเองทำกิจการส่วนตัวที่กลัวคือลูกค้า กลัวเขาพังผมก็คงเดือดร้อนด้วย  ประเภทกรู ไม่มี กรูไม่หนี แต่กรูไม่จ่าย ..... ช่วงนี้เลยต้องระวัง
เรื่องลูกใหม่ ๆ ต้องตรวจหรือสอบถามประวัติการเงินให้ดี  .....


      ส่วนการเริ่มกิจการอะไรใหม่ ๆในมุมมองของผม ..... ผมว่าไม่ควรครับ  .... ข้าวยากหมากแพง ค้าขายอะไรถ้าไม่โดนใจจริง ๆ ผมว่ายาก

ผมก็ไม่ทราบได้ว่าช่วงนี้เข้าขั้นวิกฤติหรือยังครับ

แต่จากที่สัมผัสมาจากพ่อค้า-แม้ค้าในตลาดนัด ช่วงสองเดือนหลังมานี้หนักที่สุดตั้งแต่ขายของมา

เดือนที่แล้วขายของไม่ค่อยดีเพราะคนต้องเก็บเงินกลับบ้าน....เดือนนี้ก็เด็กๆเปิดเรียน

ที่จริงช่วงนี้ของทุกปีก็จะเจอปัญหานี้กันอยู่แล้ว แต่ในปีนี้...ตอนนี้หนักสุดๆครับ

หวังเอาไว้ลึกๆว่าจะค่อยๆดีขึ้นบ้าง แต่ทุกปีมันก็แย่ลงๆทุกปี

***************

ตรง ปล. นั้นขอตอบครับ.........ว่าถ้าทำแบบนั้นจริงๆ จะเข้าวิกฤติของการเอาชีวิตรอดเลยละคราบพี่.........อิอิ

  อ่าวลืมเห็น ปล.  ..... อิอิอิ ย่อตัวอักษรให้เล็กหน่อยดีป่ะ กลัว แอบมาเห็นเข้าเดี๋ยวจะเสียการใหญ่  ...... อิอิอิิ

ที่เห็นชัดๆ คือ เห็นพวกปล่อยเงินกู้นอกระบบ ขี่มอไซร์ซ้อน2 ใส่หมวกกันน๊อค เกลื่อนไปหมดครับ เก็บดอกรายวัน แจกนามบัตรแทบทุกบ้าน เงินด่วนร้อยละ 2 ต่อวันด้วยนะครับ

ไม่ใช่ร้อยละ10-20 แบบสมัยก่อน   :P

คิดว่าอีกไม่นานจะมีข่าวแรงๆ มีมาเฟียเต็มเมืองครับ  ::012::

แค่นี้ก็แย่แล้วครับ...ถ้ามากกว่านี้สงสัยจะไปไม่รอด.......

                 หาเรื่องผอมโซคร้าบ... ::008:: ::008:: ::008:: ::008:: ::008::

1.เห็นด้วยว่าเริ่มวิกฤติครับ...

2.คงไม่ต้องตอบ แต่อยากให้ความเห็นเพิ่มว่ามันวิกฤติหนักเมื่อคนเริ่มปล้นชิงอาหารครับ...

3.การปรับตัวในการดำรงชีพสำหรับผมนั้น ผมหลีกเลี่ยงรายจ่ายที่ไม่จำเป็น รายได้ไม่รู้จะไปหาเพิ่มอย่างไร การดูแลและป้องกันทรัพย์สินนั้นผมคงทำเต็มความสามารถ อีกเรื่องคือการดูแลสุขภาพตัวเองครับ พยายามเพิ่มความใส่ใจมากขึ้นครับ...:D

สนับสนุนให้มีเมียเยอะครับสร้างกิจการแบบไม่จ้างแรงงาน อ่ะล้อเล่งครับพี่

๑. ไม่ใช่ช่วงนี้ครับ......ก่อหน้านี้สักสองปีแล้วครับ
๒. รายได้ไม่พอกับรายจ่ายครับ ส่วนเรื่องการเมือง เรื่องคนอื่นช่างไปก่อนครับ
๓. เศรษฐกิจพอเพียงครับ

ป.ล. ถ้า ผบ. สส .ยอมละก็เป็นความคิดที่ดีครับ แต่.........ยากครับ  ::014::

ตรง ปล มันจะไม่เป็นวิกฤติเศรษฐกิจสิครับ

มันเป็นวิกฤติชีวิต

ผมก็แย่เหมือนกันงานรับเหมาก็มองไม่เห็นกำไร     งานขายวัสดุก็เงียบเหงาแบ๊งค์ก็มาขอเงินฝาก    พอหนี้น้อยลงก็มาถามให้กู้อีก    เซ็งๆตกเย็นก็เดินห้างแล้วก็นวดแผนโบราณ     น่าเห็นใจจริงๆพับผ่า :D

 
ผมว่าไม่ใช่ยุค.............  ข้าวยาก     ข้าวมันมีอยู่

แต่คนที่ครอบครองข้าวอยู่ต้องการขายข้าวให้มันได้ในราคาสูง

ที่ไปเข้าแถวซื้อข้าวธงฟ้า   ไม่ใช่เพราะข้าวไม่มีให้ซื้อ    จึงต้องไปต่อแถว

แต่ไปเข้าแถวเพื่อซื้อข้าวที่คิดว่าราคาถูก    ซึ่งจำกัดปริมาณการซื้อด้วย

และข้าวแพงก็จริง   แต่ผลมันไม่ได้ตกไปที่ชาวนา    เพราะชาวนาไม่ใช่ผู้ครอบครองข้าว


มันแปลกไหมครับ.......ประเทศไทยเป็นผู้ส่งข้าวออกในระดับต้น ๆ

แต่.........ประชาชนในประเทศ    ต่อแถวเพื่อซื้อข้าว.............  :OO

ช่วงวิกกฤติน่าจะเป็นช่วงที่ไม่มีน้ำมันจำหน่ายครับ...

ระบบนายทุนกักตุน โกงทางนโยบาย

เศรษฐกิจพอเพียงค่ะ

อาจจะยากในสมัยนี้ แต่ต้องปรับตัวเพื่อจะอยู่รอด  :D

 ::002::......... ;)

..ถ้าค้าขาย.ช่วงนี้จะทราบครับ.เงียบสุดๆ...เออ..ปล.น่ะผมก็คิดเหมือนกัน.. ;D..... :D.... :D~

ผมชอบอันสุดท้าย อันสุดท้ายดีที่ซู๊ดดดดดดด ;D ;D ;D

         ผมเคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่พูดได้นานแล้วว่า ............

         เกิดวิกฤติ หรือ เข้ายุคข้าวยากหมากแพง เป็นเพราะ จังไรครองเมือง ไม่รู้จริงหรือเปล่า

ผมว่าจริงครับ น้าปู
ไม่งั้นเราๆจะมาบ่นอย่างนี้หรือ !!!

สำหรับความเห็นผม คิดว่าเป็นวิกฤติแล้วครับ ซึ่งเกิดจากความวิบัติ กระทำโดยมนุษย์พวกเรา
อย่างไรก็ดีหากลดละเลิก ซึ่งที่ไม่จำเป็น แล้วตั้งมั่น ตามพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง
อยู่รอดแน่ๆครับ  ผมเลิกบริโภคหรือซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นแล้วมี สุขภาพดีขึ้น เงินเก็บมากกว่าเดิมครับ
 :)

วิกฤตอย่างไร ไม่น่าสนใจ .... มากไปกว่า จะประหยัดอย่างไร ให้กินอยู่ แล้วเหลือเงินเก็บครับ ;D ;D ;D

ตอนนี้ เริ่มรัดเข็มขัด....และหาตังค์ซื้อกระสุน ตุน ไปเรื่อย ๆ ครับ.... ;D

สถานการณ์ทุกเรื่องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มากบ้างน้อยบ้าง

ส่วนเรื่องที่พิจารณากันอยู่นี้ผมเข้าใจว่าเ็ป็นผลกระทบกับความเป็นอยู่ส่วนบุคคล

ดังนั้นจะวิกฤตหรือไม่ขึ้นกับ สภาวะของท่านในสถานการณ์เหล่านี้

ถ้าการปรับตัวทำให้ลำบากลำบน ก็วิกฤตละครับ

สำหรับการวิกฤตการกินการอยู่ส่วนรวมผมว่าต้องถึงขั้นปันส่วนจริงๆ คือจำกัดการซื้อ มีเงินก็ซื้อไม่ได้ เหมือนกับชาติยุโรปหลายชาติ (รวมทั้งอังกฤษ) ช่วงระหว่างและหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ในพม่าเท่าที่ผ่านมา (ก่อนมีพายุนะครับ) ประชาชนธรรมดาก็ต้องปันส่วนน้ำมันเชื่อเพลิงรถยนต์ กำจัดการซื้อ  ..ใช่ละครับ พม่าเป็นประเทส่งออกน้ำมัน ตามธรรมดาของเขาอย่างนี้ จะมองว่าวิกฤตก็ได้ หรือจะว่าไม่ใช่วิกฤตก็ได้ เพราะเป็นวิถีทางปรกติที่เขาไม่ดำเนินการเปลี่ยนให้เป็นอื่น

การตายไม่ใช่การพักผ่อนชั่วคราวครับ ::008::

หืยยยส์ กะมักเนาะ ;D ;D ;D

..สถานการณ์ตอนนี้ ไม่คิด ไม่หวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะช่วยเหลือประชาชนได้..
..ต้องพึ่งตนเองเป็นสำคัญ..
..ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น..ประหยัดเท่าที่จะทำได้โดยไม่เดือดร้อนมากนัก.. ::004::
..และที่สำคัญ ต้องระมัดระวัง ดูแลคนในครอบครัว และทรัพย์สินต่าง ๆ ให้มากขึ้น.. :OO
..เพราะสถานการณ์แบบนี้ โจร ขโมย เต็มบ้าน ล้นเมือง..

..นี่ยังไม่นับ โจรใส่สูทผู้ทรงเกียรติ ครอกใหญ่ในสภา.. ::009::

ผมจะลด การใช้รถส่วนตัวครับ ถ้าการเดินทางไม่ไกล หรือ ไม่ถึงกับยากลำบาก ก็จะใช้รถประจำทางเป็นหลัก เพราะบ้านกับที่ทำงาน อยู่ฝั่งธน (บ้านอยู่ทุ่งครุ ที่ทำงานอยู่บางแค) ลดค่าน้ำมันได้มากเลยครับ ::002::

ไม่รูจะเป็นแบบนี้อีกนานไหม....สงสัยต้องกลับไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายทำนาแล้วล่ะซิ

ผมคิดว่า  เหรียญมีสองด้าน  เงินไม่ได้หายไปไหน
เงินที่จ่ายไป  มันมีที่ไป
น้ำมันแพงใครได้ประโยชน์
ที่ดินแพงใครได้ประโยชน์

ของแพงเงินเข้ากระเป๋าใคร  เราก็พยายามไปแชร์ตรงนั้น
บางคน   จ่ายน้ำมันปีหนึ่งเท่าไหร่   สมมุติ  1000 บาท     เราจ่ายแพงเงินเข้า  ปตท.   ปตทสผ.
 สมมุติ   เงิน 100 ได้ปันผล  5 บาท  ก็เอา 1000/5*100  เท่ากับ 20000 บาท  เราเอาเงิน 20000 ซื้อหุ้น  ปตท. ระหว่างปีจ่ายค่าน้ำมัน  พอสิ้นปีได้ปันผลกลับมา  ชดเชยกันได้  ถ้านำมันถูกมากๆ ปตท. กำไรน้อย   แต่เราก็จ่ายให้ปั๊มน้อยด้วย
บางคนทำสวนปาล์มน้ำมันก็ชดเชยกันไปบางส่วน อาจโดยไม่รู้ตัว

 1. เข้าขั้นวิกฤติแล้ว เพราะ ผู้บริหารประเทศเป็นขนมจีนน้ำพริก หรือไม่ก็ขนมจึนราดแกงเขียวหวาน
 3. ดำรงชีวิตอยู่อย่างพอเพียง ทำไร่นาสวนผสม  ส่งเสริมให้มีการทำการเกษตรอินทรีย์  ซื้อหาเฉพาะ
สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต  สินค้าฟุ่มเฟือยงด  

        ส่วน ปล. ไม่ดีแน่   ::005::

 
  หุ้น ปตท. มันคงไม่กระจายมาถึงคนธรรดาๆ นะสิครับ

ข้าวแพง แต่ผลประโยชน์ไม่ได้ตรงไปที่ชาวนา ( ตรงไปที่ใครหว่า.... )

ข้าวปลาอาหาร ค่าเทอม ค่าขนส่ง ค่าบริการ ขึ้นราคาหมด

ตอนนี้เงิน 100 บาทซื้อข้าวแกงกินได้กี่จานเอ่ย

พนักงานโรงงานที่ต้องซื้อข้าวกินเองนี่ก็อ่วมนะครับ

ค่าเช่าหอ ค่าเครื่องอุปโภคประจำเดือน

ค่าน้ำ ค่าไฟ  ภาษีสังคม ( กฐิน , ผ้าป่า , แต่ง , บวช , งานศพ ฯลฯ )

  อะ.....ลองใหม่ ( เด็กโรงงานแถวๆ จังหวัดที่ผมอยู่นะ )

ค่าเช่าหอ                                 เดือนละ 2,000  บาท
ค่าน้ำ + ค่าไฟ                          เดือนละ    300  บาท
ค่ากิน 3 มื้อๆละ30 บาท             เดือนละ  2,700  บาท
ค่าเครื่องอุปโภค ( ประมาณ )     เดือนละ   1,000 บาท

หลักๆก็น่าจะแค่นี้  โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น

ค่าเลี้ยงลูก , ค่านมลูก , ค่าใช้จ่ายของลูก
ค่าภาษีสังคม
ค่าใช้จ่ายที่ต้องส่งให้ทางบ้านทุกเดือน ( พ่อ , แม่ )
ค่าเดินทาง ( ถ้าไม่มีรถรับ-ส่ง หรือต้องไปในที่ต่างๆ เช่น  , ตลาด , ธนาคาร ฯลฯ )

 หนักเอาการนะครับ สำหรับคนที่รายได้น้อย

ในกรณีนี้ผมหมายถึงคนที่ผูกชีวิตไว้กับโรงงานนะครับ ( ผมด้วย ;D ) ไม่มีรายได้ทางอื่น

 :D แสดงว่าถือหุ้นตัวนี้อยู่ แบบนี้เป็นการมองแบบคนมีเงิน คนในรัฐบาลก็คิดแบบนี้ ถึงได้ไม่มีมาตรการเกี่ยวกับน้ำมันที่มันแพงขึ้นทุกวัน เพราะกลัวเสียผลประโยชน์ แต่ผลกระทบมันกลับมากกว่าหลายเท่าในแง่เศรษฐกิจมหาภาค

ขอปฏิเสธนะครับว่าผมไม่ได้ถือตัวนี้  :) และไม่เคยซื้อหุ้นตัวนี้+หุ้นในเครือ สักครั้งในชีวิต    แต่มีรายได้ทางอ้อม(ที่เลือกไม่ได้) จากหุ้นตัวนี้ เพราะมาร์เก็ตแคปสูงมากในตลาด  ลูกค้าชอบ  บางครั้งก็มีความขัดแย้ง   ในประเด็นแปรรูปไม่ชอบ  ,ท่อก๊าซ , และการเอาลูกของ ปตท. เข้าตลาดบ้าง  ,ควบรวมบ้าง   พฤติกรรมผมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่มีต่อ ปตท. เหมือนการทุบหม้อข้าวตัวเอง(คนเดียว)  และพังไป 7เดือน  แต่ญาติพี่น้องบ้านนอกของผมจะได้ประโยชน์ถ้า ปตท. ออกจากตลาดไปเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนเดิม สรุปแล้วก็คือคุ้ม
ในมุมหนึ่งผมแนะนำให้ลูกค้าบางคน ที่ไม่สามารถปลูกพืชน้ำมันได้ ซื้อเก็บไว้  จากวัตถุประสงค์เรื่องแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
และยังมีหุ้นตัวอื่นที่โดยปกติแล้วเขาเป็นลูกค้าประจำ  ก็อาศัยหลักของ  ดร. นิเวศน์ ที่ท่าน ชอบทานสเวนเซ่น  พิซซ่าคอมปานี ก็เลยลุงทุนในหุ้น  ไมเนอร์ฟู๊ดกรุ๊ป ซะเลย
หุ้นโรงกลั่นยังมี  RPC  อีกตัว  แต่เล็กกว่า TOP 
ตลาดหุ้นไทยยังมีหุ้นที่ดีอีกเยอะ  สัก 50 บริษัทก็พอสำหรับเลือกซื้อและเปลี่ยนตัวเล่น
หุ้นบางตัว  เหมือนๆธุรกิจขายล็อตเตอรี่  แถมยังมีหน่วยงานรัฐมาคุ้มครอง  แล้วผมจะต้องไปซื้อ ปตท. และพวก ซึ่งเหมือนการรับซื้อของโจรให้หม่นมอง ทำไม :)