เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ด้วยความเคารพ หัวข้อนี้ ขอยกเว้น เรื่องการเมือง กับศาสนา น๊ะครับ ถึงหากแม้นว่า เรื่องที่คิดขึ้นมา จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือศาสนาอยู่บ้าง ก็รบกวนว่า เลี่ยงๆเสีย จะเป็นการดี  :VOV:

จุดประสงค์ ก็เพื่อ พูดคุย เน้น จริงจังบ้าง บันเทิงบ้าง บอกกล่าวบ้าง คาดการณ์กันบ้าง ข้อมูลบ้าง  ควรจะมีที่อ้างอิงหากนำมาจากใหน ให้ศึกษาต่อ เพื่อประดับความรู้ ที่ตั้งหัวข้อขึ้นมาก็เนื่องจาก ความคิดว่า น่าจะลองตั้งดู ว่าพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ จะได้มาแลกเปลี่ยนความรู้สึก กันครับ

จากสิ่งที่ว่า

อดีต...ไม่สามารถแก้ไขได้

ปัจจุบัน...ทำให้ดีที่สุด

อนาคต...เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิด พอจะคาดการณ์ และเตรียมพร้อม หรือเตรียมตัว อื่นๆ ประมาณนี้

 ::014::ด้วยความเคารพ

ขอเสนอแนะสักหัวข้อครับ "เรื่องสภาวะอากาศของโลกในอนาคตครับ"
ผมว่าน่าสนใจครับ ;)

ที่ผมว่าน่าทำครับ (ทำไม่ค่อยได้เหมือนกัน)

1. ประหยัด เพราะเศรษฐกิจผันผวน และสภาพสังคมที่มีภาพลวงเรื่องสวัสดิการแต่ที่จริงเป็นการเปิดตลาด บริการสำหรับคนมีเงิน ต้องพึ่งตัวเองมากขึ้น

2. รักษาสุขภาพ
2.1 ระวังการกิน การใช้ ไม่เติมมลภาวะให้ร่างกายเป็นพิศษ เพราะอากาศ และน้ำน่าจะจะยิ่งสกปรกมากขึ้น
2.2 พักผ่อนให้มากๆ

3. ทำจิตใจให้สดชื่น หลีกเลี่ยง/อย่าสะสมความเหนื่อยล้าทางจิตใจจากชีวิตประจำวัน

4. หาความรู้มากๆ ความรอบรู้จะช่วยมุมมอง และการตัดสินใจต่างๆ

5. อย่าเครียดเนื่องจากการพยายามปฏิบัติตามข้อคิดข้างต้น ฮ่า ฮ่า

         มองงงงง เธอสาว เธอสวย ฉันจึงได้มองงง ....... เกี่ยวกันมะเนี่ย ....... อะฟิ้ววววววววววส์ส์ส์

      ไทย เป็นชาติ " กสิกรรม "  แต่คนใหญ่คนโตพยายามแปลงให้เป็นเมือง " อุตสาหกรรม "

       มันฝืนธรรมชาติ และภูมิศาสตร์ เคยจำได้มีสโลแกนบอกว่า " เราจะก้าวสู่ความเป็น nic's "

       ตอนนี้เป็นไง สารพัดปัญหาและโรคภัยไข้เจ็บ   สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ฯลฯ 

ผมอยากให้ประเทศของเรากลับไปเขียวขจีเหมือนเดิมในอนาคตครับ   และผมอยากมีภรรยาที่น่ารัก เอาใจเก่ง ไม่ขี้บ่น มีเหตุผล ยืดหยุ่นกับสามี ไม่บ้าช้อปปิ้ง ไม่แต่งหน้าแต่งตัวจนเวอร์ ไม่จ้องจับผิด ไม่เล่นการพนัน ทำกับข้าวและขนมตลอดจนกับแกล้มเก่ง ไม่หน้างอแต่ยิ้มแย้มแจ่มใสเวลาสามีพาเพื่อนมากินเหล้าที่บ้าน ดูแลบ้านเรือนเรียบร้อย ตื่นก่อน นอนพร้อมกันในอนาคตครับ.. :D

 :) ผมว่าถ้าจะคุยกันเรื่องอนาคตเรื่องเศษรฐกิจ น่าจะเหมาะนะครับน้าเข้ม จะทำอย่างไร จะอยู่กันอย่างไร ถ้าน้ำมันมันขึ้นทะลุลิตรละ 50 บาท ช่วยกันมองหาแนวทางในการพึ่งพาตนเอง

จริงๆ อยู่ที่การบริหารจัดการด้วยครับ ชาติอุตสาหกรรมที่จัดการดีๆ หลายชาติีพื้นที่เขียวมากๆ ญี่ปุ่นมีพื้นที่ป่ามากที่สุดในชาติโลกที่ 1 แต่เพราะว่านั่นเป็นพื้นที่ภูเขาด้วย แต่เยอรมันก็มีพื้นที่ป่ามากกว่าไทยมากๆ เหมือนกันครับ

ตอนนี้ผมอ่านเรื่อง Collapse ของ Jared Diamond เป็นเรื่องการล่มสลายของอารยธรรมโบราณทั้งที่เป้นเกาะอย่างอีสเตอร์กัที่เป็นเมือง ยังอ่านไม่จบ แต่น่าสนใจมากครับ การขุดค้นแสดงหลักฐานหลายอย่างว่าหลายพื้นที่ๆ แห้งแล้วรกร้างเคยเป็นพื้นที่สมบูรณ์ที่มนุษย์ตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์ใช้ซะพัง ฯลฯ เขาว่าญี่ปุ่นมีการบริหารจัดการใช้ป่าเชิงอนุรักษ์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 แล้ว

ตอนนี้ และอนาคตข้างหน้า ผมจะลดการใช้พลาสติกครับ

คิดถึงแล้ว ได้แต่ร้อง เฮ้อออออ ครับลุงเข้ม ...

ตั้งแต่ใช้ชีวิตมายี่สิบกว่าๆ แล้ว พึ่งจะเห็นอะไรที่มันแย่ที่สุดก็ยุคนี้สมัยนี้ครับ ...

ก็ได้แต่ ตั้งตนให้ไม่ประมาท ใสการดำเนินชีวิตครับ ยังไงก็ต้องดำเนินต่อไป เราต้องมีหน้าที่ปรับตัวเข้าหามันครับ ...

...อนาคต.....มองไม่เห็นครับ มันคดจริงๆ ::007::

แต่ที่แน่ๆ ปัญหาเรื่องชู้สาวในอดีตหรือปัจจุบัน มันเป็นตัวการดับอนาคตจริงๆครับ

หลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา.... ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง THE DAY AFTER TOMORROW ครับ

อยากให้มีเลนจักรยานทั้วประเทศ รถไฟรางคู่ทั้วประเทศครับ  :D

ผมผ่านไปทางที่ดินเขตส.ป.ก.บ่อยๆ.....ชอบที่มีแผงโซล่าเซลล์ให้ชาวบ้านใช้ครับ

คิดไว้ว่าถึงบ้านผมจะมีไฟฟ้าใช้.....แต่ก็อยากจะมีแผงโซล่าเซลล์ใหญ่ๆใช้สักอัน

ไม่อยากให้แดดมันส่องผ่านไปเปล่าๆครับ

ขออภัยครับพี่ซับ ถ้าพวกพี่ตี๋ พี่วรรณ เข้ามาเห็นนะ........ฮาตรึม.......อิอิ

*****************

ผมจะทำความดีให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ....อิอิ

ทำไมผมไปกระทู้ไหนก็เจอพี่เอ๋ทุกทีเลย หน้าซื้อขายยังเจอเลย ;D ;D ;D

ชอบอ่าน...ตามอ่านไปเรื่อย.. ;D ;D ;D

ฟังมาก็หลายท่าน พวกเรามีความตื่นตัวกันดีครับ

อาจจะพูดได้ว่าเพราะ เป็นปัญญาชน ก็ได้ แต่มิได้หมายความว่า จะว่าท่านอื่นโง่(พูดตรงๆแบบนี้น๊ะครับ เข้าใจง่ายดี)

เพียงอาจว่า พวกเราทั้งหลาย อาจจะบริโภคข่าวสาร สารพัดข่าว ได้เยอะ กว่าชาวบ้านทั่วไปหน่อย (ให้เข้าใจดังนี้ น๊ะครับ) เดี๋ยวจะว่าผมดูถูกบุคคลอื่น ซึ่งไม่ได้คิดอย่างนั้นครับ ด้วยความเคารพ

เรื่องอะไรก็ได้ครับ ที่น่าคิด และน่านำเสนอ

จะเศรษฐกิจ

สังคม

ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม

ลองๆมาพูดคุยกัน ถือเสียว่า พวกเรา มามี๊ตติ้งกัน ก็แล้วกัน คุยกันได้ สัพเพเหระ แต่ก็ขอร้อง เรื่องการเมือง และศาสนาเท่านั้น จะได้ไม่เกิดความขัดแย้ง

เอาประมาณว่า เรื่องใกล้ตัวพวกเราที่สุด ตอนนี้ ก็เรื่อง น้ำมัน ราคาน้ำมัน

มันกระทบ กับชีวิตประจำวันของพวกเราแน่นอน และก็เป็นอยู่แล้ว ท่านทั้งหลายคิดว่า อนาคต มันจะไปในแนวทางใหน จะ ทำอย่างไรกันบ้าง ทำอย่างไรกันดี หรือว่า แล้วแต่จะเกิดอะไรขึ้น ก็ค่อยว่า กันไป บางทีพูดเรื่องเหล่านี้ ก็เหมือนการพายเรือในอ่าง มันวนไปวนมาอยู่ตรงนั้น

หรือเราจะทำอะไร สักอย่าง ผมว่าเราก็น่าจะทำเลย อย่างที่บางท่านบอกว่าเรื่องโลกร้อน เราทำหนึ่งคน มันก็ลดได้ในจำนวนที่เราทำ ผมก็ว่ามันดีที่มันลบ แม้นจะน้อยนิด แต่เมื่อไปรวมกับนิดน้อยอื่นๆ มันก็มากเข้า ก็ยังดีกว่าเราทำให้เกิดด้านบวก

อย่างผมเอง อาจจะเพิ่งทำ เรื่องประหยัดน้ำมัน เพราะที่ผ่านมา ถือว่ายังพอใหว แต่พอเฉียด 40 ขึ้นมารำไร ก็เริ่มคิดมากขึ้น ก็ด้วยการซื้อ มอเตอร์ไซค์ รับส่งนักเรียน เช้าเย็น ที่ทำได้อาจเพราะโรงเรียนอยู่ใกล้ ไปกลับสัก กิโลกว่าๆ (เลือกโรงเรียนใกล้ใว้แล้วด้วย แต่หากฝนตก ก็ต้องเอารถยนต์ออก สงสารใอ้ตัวเล็ก จะกางร่มมอไซค์ ก็ไม่อยากเสี่ยง) อะไรประมาณนี้

อันนี้ที่ทำปัจจุบันครับ

สำหรับอนาคต ที่ผมคิดว่า เป็นไปได้แน่นอน ในไม่ช้านี้ มองไปที่ น้ำมันลิตรละ50 หรือมากกว่า โดยเพิ่มจากวันนี้ แค่ 20กว่า เปอร์เซนต์ ท่านว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ มีอะไรที่เราจะคิดต่อกันอีกบ้างครับพี่น้องครับ

ด้วยความเคารพ

ถ้าเรื่องน้ำมัน....ผมเอารถที่บ้านไปติดแก๊สมาแล้ว 2 คัน ประหยัดค่าน้ำมันลง3เท่า

แต่ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาเรื่องน้ำมันหมดและโลกร้อน

ส่วนถ้าตามกระแสแก้โลกร้อนจริงๆ ก็คือการขอร้อง(บังคับนั้นแหละ) ให้พ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาขายของที่ตลาด ต้องเปลี่ยนหลอดไฟ

จากหลอดกลม หลอดใส้ มาเป็นหลอดตะเกียบประหยัดไฟ ได้ผลค่าไฟลดลงเกือบ20k.ต่อเดือน และในตลาดก็เย็นขึ้น

ตอนนี้กำลังจะติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ในตลาด เพราะกฎหมายออกมาแล้ว แต่ทางการไม่ค่อยมีการจับปรับจริงจัง

วันนี้ก็เลยเข้าไปขอใบที่เมืองมา20ใบ เอาไปติดในตลาด พวกพ่อค้านั้นแหละตัวดี........จะจับปรับเองซะเลย(ล้อเล่น)

ต้องช่วยกันครับพี่น้อง พูดอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ ต้องทำด้วย

เช่นที่ท่านปืนเด็ก ทำ ก็ถือได้ว่า ท่านทำแล้ว +1 ครับ

ปล. ประมาณ สิบกว่าปี นิดๆ ที่ผมมีใช้รถเครื่องดีเซล เป็นของตัวเองครั้งแรก เติมน้ำมัน เต็มถัง จำนวนหลักไม่กี่ร้อยร้อยบาท ประมาณว่าหากจำไม่ผิด เอาตัวเลขลุ่น ง่ายว่า 7/ลิตร มาบัดนี้ คิดเอาง่ายๆ (ไม่ทราบว่าผมคิดถูกหรือไม่ เวลาแค่ประมาณ สิบปี มันทยานไปประมาณ 400 เปอร์เซนต์แล้วพี่น้อง อิๆ

ถือซ๊ะว่า ตอนนี้ครึ่งค่อนชีวิต หากไม่ตายเล่นๆ ตายลวกตายโลน ซ๊ะก่อน มันจะไปเท่าไหร่ จะคิดหาหนทางกันอย่างไรดี ใครมีความคิดดีๆ บอกกล่าว เล่าสู่กันฟังบ้างครับพี่น้อง

เรื่องเอารถไปติดแก็สก็เป็นอีกทางเลือกครับ

แต่พี่น้องครับ.......อนาคตรถเครื่องเบนซินก็คงจะแห่ไปติดตามๆกัน

แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้นมาอีก.....อุปสงค์มากอุปทานมันมีเท่าไรเพียงพอให้เราใช้ไปอีกกี่สิบปี

พลังงานทดแทนที่เห็นๆกันว่าช่วยทำให้ราคาเชื้อเพลิงต่ำลงก็ต่ำลงไม่มากเท่าไร

แถมผู้บริโภคยังไม่มั่นใจว่าใช้แล้วจะมีผลต่อรถยนต์ของตนหรือไม่

คิดว่า หากราคาน้ำมันยังสูงขึ้นเรื่อยๆแบบไม่มีท่าทีว่าจะหยุด  ก็คงมีคนหาทางออกแกมบังคับ  เหมือนตอนเพื่อนบ้านมาขอช้างเผือกอยุธยาครับ   น้ำมันแพงมีหลายประเทศที่เดือดร้อน และบางประเทศก็มีอำนาจมากๆด้วย  และการที่จะขอร้องให้คนไปใช้ชีวิตแบบ ๒๐๐ปีที่แล้วคงเป็นไปไม่ได้  พลังงานทดแทนก็ยังอยู่ในขั้นลองผิดลองถูกอยู่ 

ความเดือดร้อนก็ลุกลามมากขึ้นทุกวัน  และเราก็คงจะเจอคนที่กล้าทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ  เพื่อเงินมากขึ้น
รายได้ของประเทศพวกส่งออกและท่องเที่ยวคงโตมากขึ้น  แต่ของพวกนี้มันไม่มั่นคงและกัดกินตัวเองเมื่ออยู่ในโลกทุนนิยมสุดโต่ง  คงมีคนที่กินตามน้ำกอบโกยจนรวยได้ไม่กี่คน  ขณะที่คนส่วนใหญ่ต้องจ่ายในส่วนที่เหลือเพื่อให้ตัวเองอยู่ได้  เช่น มีคนเบียดเบียนธรรมชาติ  เจ้าของธุรกิจไม่กี่รายขายของได้จนรวย  แต่ธรรมชาติก็เสียสมดุล  น้ำทะเลสูงขึ้นจนกรุงเทพจะจมน้ำ  คนทั้งประเทศก็ต้องมาเสียเงินภาษีสร้างเขื่อนกั้นน้ำหลายแสนล้าน

ไม่รู้สิครับ เรื่องติดแก๊ส .................

ประเทศไทยมันแปลกอยู่อย่างหนึ่งครับ ตรงที่ถ้าอะไรเขานิยม ไม่นานมันก็จะแพงตามความนิยมไปด้วย

เช่นปาล์มน้ำมัน ก่อนหน้านี้แพงจริงๆครับ เพราะเรื่องไบโอดีเซลกำลังเป็นพลังงานทางเลือก ชาวสวนจึงยอมตัดโค่นต้นเงาะ ยางพารา เพื่อปลูกปาล์ม เพราะเห็นว่าอนาคตราคาดี

แต่พอถึงคราวเก็บผลผลิต กลับราคาหล่นฮวบฮาบจนต้องมาปิดถนน ประทวงกัน

ผมเชื่อว่าอนาคต ราคาแก๊สคงไม่ต่างกับราคาน้ำมัน .....
เพราะจริงๆแล้วเรื่องราคาของอุปโภค บริโภค ราคาไม่ได้ขึ้นอยู่กับต้นทุนหรอกครับ แต่อยู่กับคนเก็งกำไรมากกว่าครับ

จองพื้นที่ไว้ก่อน  นึกใด้เดี๋ยวมาตอบ คริ คริ ;D

สาธุครับพี่หลวง

น้ำมันแพง ก็รณรงค์ให้ประหยัดโดยการใช้รถโดยสาร แล้วตอนนี้ก็ขึ้นค่าโดยสารอีก คนที่ต้องขึ้นรถเมล์สามสี่ต่อก็อ่วม  ::013::

รณรงค์ให้ใช้จักรยาน แต่ก็ไม่มีถนนให้จักรยาน เราต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงบนถนนที่รถราคับคั่ง จะให้ทำยังไง   ::012::

อีกหน่อยก็ไม่ค่อยมีรถแล้วครับ ซื้อมาจอด ไม่ค่อยขับ  เราก็จะมีถนนว่างๆไง ไว้ขี่จักรยานกัน    :D

ผมก็อยากใช้จักรยานนะครับพี่ แต่ใส่เสื้อแขนยาวผูกเนคไท เสื้อคุมอีกตัว ประกอบกับบ้านกับที่ทำงานห่างกัน ๙ กิโล กว่าจะถึง.....
...เหงื่อท่วมครับ  :~)

หุๆ มีอะไรที่อัดอั้นตันใจ ก็ระบายๆกันไปครับพี่น้อง อย่าเก็บเอาใว้ให้มันอัดแน่น

ขออย่างเดียวอย่าเอาประเด็น การเมือง และศาสนา ขึ้นมาอ้างอิง เท่านั้น

การเมืองเรื่องดีอยู่แล้ว

ศาสนา ก็เป็นสิ่งดีอยู่แล้ว ทุกศาสดา

เราลองมามองถึงเหตุ กันบ้างดีเปล่าครับ ส่วนผลนั้น ก็เป็นที่รู้เห็นกันอยุ่ ลองมาคุยกันถึง สาของเหตุนั้น และหนทางในการเพิ่มหรือลดเหตุ กันดีหรือไม่ครับ เอาสนุกๆ อย่าคิดมาก คริๆ

แก๊ส LPG ได้จากกระบวนการกลั่น ตราบใดที่ยังมีน้ำมันราคาแก๊ส ไม่แพงกว่าน้ำมันครับ

ติดแก๊สรอ รถสองระบบหรือรถไฟฟ้า เอาส่วนต่างค่าเติมน้ำมันเก็บไว้ซื้อรถใหม่^^

ไม่เหมือนกับ NGV ที่มาจากบ่อ ที่ประเทศเราขุดมาใช้หมดแล้วหมดเลย ตอนนี้แปดบาทกว่า ถ้าต้องนำเข้า แพงแน่ๆ

เพราะค่าขนส่งสูงกว่า LPG บาน

จริงๆ อยู่ที่การบริหารจัดการด้วยครับ ชาติอุตสาหกรรมที่จัดการดีๆ หลายชาติีพื้นที่เขียวมากๆ ญี่ปุ่นมีพื้นที่ป่ามากที่สุดในชาติโลกที่ 1 แต่เพราะว่านั่นเป็นพื้นที่ภูเขาด้วย แต่เยอรมันก็มีพื้นที่ป่ามากกว่าไทยมากๆ เหมือนกันครับ

ตอนนี้ผมอ่านเรื่อง Collapse ของ Jared Diamond เป็นเรื่องการล่มสลายของอารยธรรมโบราณทั้งที่เป้นเกาะอย่างอีสเตอร์กัที่เป็นเมือง ยังอ่านไม่จบ แต่น่าสนใจมากครับ การขุดค้นแสดงหลักฐานหลายอย่างว่าหลายพื้นที่ๆ แห้งแล้วรกร้างเคยเป็นพื้นที่สมบูรณ์ที่มนุษย์ตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์ใช้ซะพัง ฯลฯ เขาว่าญี่ปุ่นมีการบริหารจัดการใช้ป่าเชิงอนุรักษ์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 แล้ว

     เห็นด้วยกับความคิดนี้เป็นอย่างยิ่งครับ ท่ามกลางโลกาภิวัตน์ เราต้องพัฒนาและปรับตัว โดยคงไว้ซึ่งความสมดุลย์ เราจะหยุดไม่ได้

ครับผม เท่าที่รู้มาบ้าง ผมเชื่อว่าโลกใบนี้ยังมีทรัพยากรเหลืออยู่มากพอสำหรับคุณภาพที่ดีของมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน แ่อยู่ที่การบริหารจัดการ

ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเปรียบเทียบว่าคนเมกันใช้ทรัพยากร/พลังงานมากกว่าคนบังคลาเทศกี่เท่า เพราะคุณภาพชีวิตของคนบังคลาเทศไม่่ใช่จุดมุ่งหมายที่ควร แต่ถ้าดูยุโรปตะวันตกหลายชาติ จะเป็นว่ามีการใช้ทรัพยากร/พลังงานได้อย่างมีปรสิทธิภาพสูงและยั่งยืน และเขาปลูกฝังเรื่องความรับผิดชอบของผู้ผลิต/ผู้ค้าด้วยถึงแม้จะไปทำการนอกประเทศ ถ้าโดนแฉว่าไปสร้างปัญหาคนจะไม่ชอบหรือเลิกซื้อ บางทีก็รวมถึงเรื่องการเมืองตามที่เราได้รับผลกระทบเพราะความไม่เข้าใจ หรือมองการเมืองมุมไม่กว้างพอนั่นแหละครับ

ความคิดว่า สมัยก่อนดีเยี่ยม อนาคตลงเหว ไม่ใช่ความจริงเสมอไป ทั้งทางสิ่งแวดล้อมและสังคมชาติยุโรปยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมสภาพเน่าจริงๆ มากๆ สังคมก็เน่า โรงงานนรกทำงานวันละกว่า 12 ชม ใช้แรงงานเด็ก ฯลฯ ศตวรรษที่ 19 อังกฤษก็ยังซื้อขายตำแหน่งข้าราชการกันเป็นธรรมดา แต่เมื่อคนมีการศึกษามากขึ้น มีจิตสำนึกมากขึ้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้

เรื่องทางสังคมก็เหมือนกันครับ ผู้ใหญ่ฝรั่งในยุค 30 หรือ 60 ก็คงคิดว่าโลกกำลังจะหยุดหมุนแล้วเพราะวัยรุ่นใหม่ที่แหลวแหลก ความชั่วของแจส และความบ้าของฮิปปี้ ฯลฯ

ผมเข้าใจ ในความหมายของ จขกท. แต่จะเกิดผลดี อย่างมาก
ถ้าทุกความเห็นในทุกเรื่องราว.. จะต้องยื่นอยู่กับความเป็นจริง ใกล้สัจธรรม เข้าไว้เสมอ.

เป็นไปตามที่ควรจะเป็นไป .. ไม่ใช่เป็นอย่างที่เราอยากจะให้เป็น .

การดำรงชีวิต ควรจะต้องมี ศาสนา เป็นเครื่องนำทางเสมอ
และไม่ควรนำความต่าง ความเชื่อทางศาสนา.. มาเป็นข้อขัดแย้งระหว่างกัน

หลักของทุกศาสนา จะช่วยนำทางให้ท่้านได้เป็นอย่างดีที่สุด .ของในแต่ละความเชื่อถือศรัทธา

ผมนับถือพุทธ ย่อมจะเห็นเป็นสิ่งประเสริฐสุด ในการนำทางชีวิตสำหรับผม

"ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต"  "มีสติ ให้อยู่กับภาวะการณ์ที่เป็นปัจจุบัน"

"ไม่ติดอยู่กับอดีต ไม่หวังกับอนาคต ทำปัจจุบัน ที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดไว้เสมอ
เพียงทำปัจจุบันให้ดี สิ่งที่ตามมาคือผลในอนาคต ย่อมต้องดีตามไปด้วย"

"อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด เมื่อมีตระเตรียมที่ดี ไม่ประมาท ย่อมเป็นทางที่จะไว้รับมือได้"

และมีอีกมากมายนักจากศาสนาพุทธ..  ล้วนเป็นเครื่องนำทางที่ดีสำหรับผม ทั้งสิ้น  ::014::

มองๆแล้วมันตันๆ อย่างไรไม่ทราบ เพราะตัวเองไม่มีองค์ภูมิความรู้พอที่ประมาณการณ์ได้ ทราบเพียงแต่ว่า ตัวเองบังอาจในความคิด ที่มาตั้งกระทู้ "มองไปข้างหน้า" บังอาจคิด แต่จริงแล้ว ด้วยเพียงอยากรู้ อยากทราบ ความคิดเห็น แหละครับ เพราะจริงแล้ว คงไม่มีใครรู้ได้แท้จริง เพียงแต่คาดการณ์ ผมอยากทราบแนวคาดการณ์แหละครับ เพราะจะได้บริโภค ความคิด หากท่านใดว่าเป็นเรื่องจริง ผมก็คงไม่เชื่อ การพูดเรื่องจริงในอนาคต คงเป็นการ อวดอุตริ

พี่ๆเพื่อนๆน้องๆท่านใด พอจะมีข้อมูลเรื่องราวใดๆ ที่พอจะประมาณการณ์อนาคต ลองเอามาบริจาก ให้รับรู้กันบ้าง ก็ดีครับ

ด้วยความเคารพ

มีแต่คาดว่า ทั้งนั้นแหละท่าน....  ::014::

ยังนึกถึงเรื่องหมอดู(ฝรั่ง) คนหนึ่ง ที่ทำนายวันตายของตัวเองไว้เสร็จสรรพ.... และคงจะถืออัตตามาก..

เมื่อถึงกำหนดเวลา.....ยังไม่ตาย.... เอาไงล่ะ มีชีวิตอยู่ต่อก็ขายขี้หน้า... แต่ถ้าตาย ได้กู้ศักดิ์ศรีคืนมา..

ว่าแล้ว แกก็กระทำอัตวินิบาตกรรม......

นั่น....คือคนที่กำหนดอนาคต... คนที่ยืนยันว่า รู้อนาคต......

ส่วนอย่างเรา ๆ ดีสุดก็.... ศึกษาอดีต พิจารณาปัจจุบัน แล้วประมาณการณ์อนาคต  น่าจะได้แค่นี้....

ว่ากันตามที่จริง อนาคตผม มันก็มืดปิ๊ดปี๋อยู่เลย....  ;D

 :) เป็นการดีนะครับ ที่มาวิเคราะห์เรื่องที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า ว่าเราควรจะทำอะไร, อยู่อย่างไร? ในสภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลงทุกวัน ไม่ใช่การทำนาย (การทำนายไม่ต้องมีเหตุผลมาประกอบ) ขนาดระดับองกรค์ใหญ่ๆยังมีแผนกวิจัยแนวโน้มของเศรษฐกิจ การตั้งกระทู้เปรียบเสมือนการระดมความคิดอย่างหนึ่ง เพื่อนสมาชิกในนี้หลากหลายอาชีพจะได้เสนอแนวทาง 

 :VOV: ผมว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ดี กระทู้หนึ่ง

 :) แนวโน้มว่าในไม่ช้าเราจะยากลำบากมากขึ้น เงินจะหาได้ยากขึ้น การจัดระเบียบค่าใช้จ่ายในแต่ละวันมีความสำคัญ ลองสำรวจดูรายจ่ายของเราในแต่ละวัน ส่วนที่ไม่จำเป็นมีเยอะมากน้อยแค่ไหน ตัดออกเสียบ้าง จะเหลือเงินมากโขอยู่นะครับ

 :) แนวคิดใช้รถสาธารณะเป็นความคิดที่ดีครับ เรื่องรถโดยสารขึ้นราคาเราคงแก้ไขเองไม่ได้ หรืออาจใช้รถร่วมกัน ที่ทำงานเดียวกันอยู่ทางเดียวกันผลัดกันใช้ อาศัยรถกันคนละอาทิตย์ มีน้องคนหนึ่งทำงานแถวราชดำเนินกลาง อาศัยแถวละแวกบางบัวทอง ก็ออกรถตู้โดยเก็บค่าโดยสารจากเพื่อนๆ ที่เส้นทางผ่านแถวที่ทำงานเดียวกัน หรือใกล้กัน คนละ 20 บาท คันหนึ่งก็ได้ 13 คน วันละ 2 เที่ยว ได้ประโยชย์ทั้งเจ้าของรถ ได้ประโยชน์ทั้งเพื่อนที่ทำงาน 

 :) ส่วนเรื่องใช้จักรยานถ้ามีแนวโน้มว่าเสียงผมว่าหลีกเลี่ยงก่อนดีกว่า

แต่ที่แน่ๆอนาคตในการเดินทางไปทำงาน แบบงานหนึ่งไปครั้งหนึ่งต้องยกเลิกและคิดให้รัดกุมมากขึ้น เช่น มีงานที่ต้องไป ๔ จุด ในเส้นทางเดียวกัน ต้องพยายามดึงเรื่องไว้เพื่อให้ไปทำให้เสร็จในวันเดียว หากไปสี่ครั้ง ครั้งหนึ่งไปกลับ ๒๐๐ โล ไม่คุ้มแล้วครับ

สำหรับผมก็คงทำวันี้ไห้ดีที่สุดมีเท่าไรก็ใช้บ้างเก็บบ้างโดยไม่ฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุและก็จะไม่ประหยัดจนเกินเหตุ จะหลีกเลี่ยงและจะไม่พยายามใช้สิ่งที่เป็นอนาคตไม่ว่าจะเป็นเงินหรือทรัพยากรก็ตาม.....

......ลองมานั่งคิดๆดูแล้วสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์นั้นมันไม่ได้มากมายเลย ลองดูรอบๆตัวเองแล้วสิ่งของหลายๆอย่างเกินความจำเป็นด้วยซ้ำไป....

สวัสดีครับ ลุงรินทร์ ลุงรินทร์เดินทางมามาก ไม่มีอะไรมาบอกกล่าวน้องๆบ้างหรือครับ ในสิ่งที่เห็นมา รวมกับความคิดครับ ไม่มีอะไรผิด อะไรถูกครับ

ด้วยความเคารพ

     ใครเป็นเจ้าของกระทู้ (จขกท.) ครับ ...... อ่านแล้วจะบร้าาาาาาาา ว้อยย (มิตติ้งแถวหวันตกมั่งแล)

เห็นด้วยครับพี่นรินท์

เสื้อผ้าก็ใส่ได้ทีละชุด รถก็ขับได้ทีละคัน ข้าวก็กินได้เท่าที่อิ่ม.......เมียก็มีได้ทีละคนหรือมีได้คนเดียว.............อิอิ

ท่านปืนเด็กครับ ที่พิมพ์ว่า .......เมียก็มีได้ทีละคนหรือมีได้คนเดียว....ผมว่าท่านคิดอะไรๆ ล่วงหน้าบ้างแล้วน๊ะครับ คำพูดถึงออกมาแนวนี้ 55+

อิๆ ลองมีทีละหลายคนดูซิครับ แล้วผลเป็นอย่างไร มาบอกกล่าวกันบ้าง คริๆ

ก็พอมีบ้างนิดหน่อยครับน้าเข้ม....เอาเป็นว่าเท่าที่สังเกตุพวกคนทางยุโรป(แท้ๆ)จะค่อนข้างประหยัดครับ รู้จักกิน รู้จักใช้ ตัวก็เบ้อเริ่มแต่ใช้รถคันนิดเดียว ประหยัดน้ำมัน ใช่เทคโนโลยี่เพื่อช่วยให้ให้ประหยัด นิยมใช้ระบบสาธารณะ มีวินัยสูง รักษาธรรมชาติได้ยอดเยี่ยม.... ::002::

พวกอเมริกันมีหลายแบบครับ คละเล้ากันไป บางพวกก็ฟุ้งเฟ้อ บางพวกก็โลโซ บางพวกก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่สิ่งที่แน่ๆก็คือรัฐบาลอเมริกันจะไม่พยายามใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติของตัวเองครับ... (ผลประโยชน์ของตัวเองจะมาอันดับหนึ่งเสมอ)  ::006::

พวกละตินนี่เป็นพวกที่ชอบสนุกสนาน แต่น่าสงสารที่ถูกพวกชนผิวขาวครอบงำซะจนทำอะไรไม่ค่อยเป็น ทรัพยากรที่สำคัญๆก็มักจะตกเป็นของต่างชาติซะส่วนใหญ่... ::012::

พวกอัฟริกานี่ยิ่งน่าสงสารครับ ยิ่งทำอะไรไม่ค่อยเป็นเลย ไม่อยากเหลาเลยครับมันหดหู่เอาเป็นว่าก็อย่างที่พวกเราๆได้เห็นจากสื่อต่างๆแหละครับ....  ::004::

พวกตะวันออกกลางนี่ผมสัมผัสน้อยครับ ไม่กล้าวิจารณ์ แบบว่ากลัวหน้าแตกครับ เอาเป็นว่าต่างก็ตกอยู่ใต้อิทธิพลของพวกผิวขาวทั้งหลายก็แล้วกันครับ... ::012::

ที่นี้ก็มาถึงพวกที่สำคัญแล้วละครับคือพวกเอเชียอย่างพวกเราๆนี่แหละครับ ไม่อยากบอกเลยว่าน่าสงสารอย่างที่ซู๊ดดด....เอาเป็นว่าถูกครอบงำโดยชาติตะวันตกมากที่ซู๊ด....เป็นนักบริโภคที่มูมมามที่ซู๊ด...เป็นนักทำลายทรัพยากรมากที่ซู้ด....อะไรที่เป็นตะวันตกก็มักจะมองว่าเป็นมาตรฐาน ดีเด่น เท่ห์ หรู....ถูกพวกตะวันตกปั่นหัวได้ง่าย สิ่งที่ดีๆหลายๆอย่างไม่รักษาไว้กลับไปวิ่งตามซะจนไม่ลืมหูลืมตา ไม่ค่อยมีวินัย ไม่ค่อยยอมรับกติกา มีแต่กติกู โปรแกรมก๊อปปี้สูง โปรแกรมพัฒาตัวเองเสื่อม บางคนทะเลาะกันแทบเป็นแทบตาย ไม่ค่อยยอมกัน หาบทสรุปไม่จบ แต่พอหัวแดงพูดเท่านั้นแหละ โอว์เยส ไช่เลย  ::012::

เท่าที่สังเกตุเห็นที่ยอดเยี่ยมก็คงจะเป็นญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้และใต้หวันเท่านั้นที่ ยอดเยี่ยมอย่างไรก็ลองดูมาตรฐานการดำเนินชิวิตของเขาดูซิครับ.... ::002::

ฟังจากนักวิเคราะห์หลายๆท่านว่าอีกหน่อยจีนจะเป็นใหญ่ แต่สำหรับผมแล้ว 5555  เป็นแค่ในฝันครับ เพราะอะไรหรือ ก็เพราะคนจีนถูกครอบงำโดยทางวัฒนธรรมของพวกตะวันตกหมดแล้วน่ะซิครับ... ::007::

ก็แค่มุมมองของคนๆหนึ่งเท่านั้นครับน้าเข้ม อาจไม่ถูกก็ได้ครับ ก็แค่ 17 ปีของการเดินทางทั่วโลกครับ และก็คงจะเดินทางต่อไปเรื่อยๆจนกว่าแบตจะเสื่อมครับ  ;D ;D ;D

จากมองอนาคต มาเป็น ฟังมุมมองของคนๆหนึ่ง เช่นพี่นรินทร์ ก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาเยอะเลย  :D

ขอบคุณลุงรินทร์ ที่เล่าเรื่องราวให้ฟัง เท่ากับได้มองอนาคตแล้วเช่นกันครับ

ลองแตกรายละเอียดปลีกย่อยก็ดีครับ ถือเป็นเล่าสู่กันฟัง สำหรับคน(เช่นผม)ที่ไม่มีโอกาศ ออกไปเห็น ก็เท่ากับว่า ได้มองสู่ท้องทุ่งกว้างไกล ออกไปจากแนวสายตาตัวเอง

หากท่านที่สนใจได้อ่าน ได้เห็น แม้นเพียงส่วนน้อยนิด ผมว่าอาจเป็นประโยชน์ได้

ขอบคุณครับ