เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 :) นำร่องซ้ำเติมภาคธุรกิจ-ประชาชน บัวหลวงขึ้น ดอกเบี้ยเงินกู้ 0.375% [31 พ.ค. 51 - 05:21]
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   ธนาคารกรุงเทพได้นำร่องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 0.125-1.0% และปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทอัตรา 0.375% มีผลตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ปรับขึ้นจาก 6.875% เป็น 7.25% ดอกเบี้ยเงินกู้เบิกเกินบัญชี (เอ็มโออาร์) ปรับขึ้นจาก 7.125% เป็น 7.50% และดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย (เอ็มอาร์อาร์) ปรับขึ้นจาก 7.375% เป็น 7.75% อัตราดอกเบี้ยสูงสุดยังคงเป็นอัตราเดิม กรณีปกติเท่ากับ 11.50% และกรณีผิดนัดชำระหนี้เท่ากับ 15.00%

สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท จาก 2.25% เป็น 2.375% วงเงินฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป จาก 2.25% เป็น 2.625% เงินฝากประจำ 6 เดือน วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท จาก 2.25% เป็น 2.50% วงเงินฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป จาก 2.25% เป็น 2.75% เงินฝากประจำ 12 เดือน วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท จาก 2.375% เป็น 2.75% วงเงินฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป จาก 2.375% เป็น 3.00% และเงินฝากประจำ 24 และ 36 เดือน ทุกวงเงิน จาก 2.50% เป็น 3.50% 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทย ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นๆ ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม เพื่อป้องกันเงินฝากไหลออก  อย่างไรก็ตาม  การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ในรอบนี้  ส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องแบกรับภาระต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น  นอกจากนี้ยังเป็นการปรับขึ้นตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่าควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นจนไม่สามารถควบคุมปัญหาเงินเฟ้ออยู่

ขณะเดียวกัน  ธนาคารทหารไทยยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับตั๋วแลกเงินอายุ 12 เดือน จากสูงสุด 3% ต่อปี เป็น 3.30% สำหรับตั๋วแลกเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท ขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 มิ.ย.นี้ ส่วนตั๋วแลกเงินอายุ 6 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 3.15% ต่อปี จากเดิม 3.00% ต่อปี และตั๋วแลกเงินอายุ 3 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 3.10% ต่อปี จากเดิม 3.00% ต่อปี ส่วนเงินฝากประจำประเภท 24 เดือนและ 36 เดือน ปรับเพิ่ม 0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป.

 
ที่มา :  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ปีที่ 59 ฉบับที่ 18393 วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม 2551

               อ้าว.......นายทุนใหญ่รุมเหยียบอีก เดี๋ยวอีกหลายธนาคารเอกชนคงตามอีกนะละ  ของรัฐเนี่ยจะช่วยซ้ำมั๊ยก็ไม่รู้ 

ธนาคารใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนหรือไงครับเดี๋ยวนี้เห็นมีแต่รถส่งเงิน ATM ก็จ้างเขานี่ บ๊ะ....คนไทยก็จมธรณีซิอย่างเงี๊ย

แกลบก็ไม่มีให้กินแล้วนาต้องซื้อเขา ::010:: ::010:: ::010:: ::010::

ต้องทำใจครับ.........เศรษฐกิจแย่มากครับ

เมื่อสักครู่ไปซื้อลูกซ้อมของบุลเล็ตฯ 2 กล่อง 2,000 บาทครับ

แบงค์ใหญ่สุด เล่นก่อนเลยแฮะ  :P :P






น่าออดี้ยังมีรมณ์ปั้นx อีกแฮะ   ::003::  ;D

ผมจะไปกินหญ้าแล้วครับ ข้าวแพงจัด

เฮ่อ

ผมก็จะไปกินแกลบแล้วครับ

 ::014:: อาคารสงเคราะห์จ๋า  อย่าไปตามเขานะ ไม่ดี ไม่ดี  :<><> :<><>

อิ อิ เศรษฐกิจพอเพียงครับน้าเบิ้ม.....ไม่ได้เอามาซ้อมนะครับ.....เอามาใช้แทนลูกจริงต่างหากครับ