เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: andaman ที่ มิถุนายน 10, 2008, 05:13:56 PM



หัวข้อ: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 10, 2008, 05:13:56 PM
คำศัพท์นี้มีใช้ในภาษาไทยมานานหรือยังครับ
---------------------------------------------------------------.....------
คำแปล 
 
ขัดขืนหรือต่อต้านแบบคนมีอารยธรรม

ตัวอย่าง
การออกเสียงไม่เลือกใครถือเป็นการต่อต้านแบบอารยะขัดขืน
 
ที่มาของคำ
เป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษว่า civil disobedience

ที่มา http://rakpasathai.sanook.com/word.php?word=20070606
--------------------------------------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มิถุนายน 10, 2008, 05:19:55 PM
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำผิดกฏหมายได้ ......

;D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มิถุนายน 10, 2008, 05:33:46 PM
ทำผิดติดคุกได้ ;D ;D ;D ว่าแต่ว่าผิดหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ มิถุนายน 10, 2008, 08:17:02 PM
เห็นจากข่าวก็สงสัยในคำศัพท์ใหม่ๆ แปลกๆหู แล้วเค้าทำเพื่ออะไร อารยขัดขืน


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ มิถุนายน 10, 2008, 08:24:31 PM
 ::005:: อารยะขัดขืนก็ยังดี......ถ้าเป็นอารยะข่มขืนนี่สิน่ากลัว ::007::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มิถุนายน 10, 2008, 09:32:01 PM
::005:: อารยะขัดขืนก็ยังดี......ถ้าเป็นอารยะข่มขืนนี่สิน่ากลัว ::007::
;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มิถุนายน 10, 2008, 09:43:36 PM
 :D :D :D ... ได้ยินครั้งแรก ... จาก ... แกนนำพันธมิตร ฯ ... เมื่อครั้งที่แล้ว ... ก่อนรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ...  ครับ ... :D :D :D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ มิถุนายน 10, 2008, 11:02:37 PM
ถ้าเป็นภาษาอีสานเรียกว่าหน้ามึนใช่ใหมครับ ;D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 10, 2008, 11:48:39 PM
คือสิถืกอยู่เด้อสหายตุ๊     


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 12:06:39 AM

เป็นคำที่แสดงออกทางการเมือง ที่ใช้หลักของการปฎิเสธ ไม่กระทำ ตามที่รัฐสั่งในความรับผิด
ในเรื่องอิสระภาพของบุคคล โดยผู้กระทำยอมรับผิด ในสิ่งที่จะมีตามมาโดยไม่ขัดขืน

อย่างการปฎิเสธ ไม่เสียภาษี ค่าน้ำ ค่าไฟ . รัฐอยากได้เงินก็ไปฟ้องบังคับเอาซิ ให้รู้สึกยุ่งยากลำบากขึ้น ในการไปยึดทรัพย์ ไปเรียกเบี้ยปรับ เงินเพิ่มขึ้นเอาเอง .

แต่ต้องไม่ใช่การก่อการกระทำที่ผิดกฎหมายขึ้นมาตอบโต้ .. เป็นขั้นตอนหนึ่งที่ยกระดับการต่อสู้ ของแนวทางอหิงสา คือไม่ต่อต้าน โดยไม่ใช้อาวุธ .. มีมาตั้งแต่โบราณกาล
และ มหาตะมะคานที ได้นำมาใช้กับ เพื่อ รวบรวมประชาชน เพื่อปลดแอกจาก สหราชอาณาจักร

เหมือนกับคำทางกฎหมาย ว่า ดื้อแพ่ง .. คือเฉย ไม่ปฎิบัติ ตามที่กฎหมายบังคับ .. อยากได้ก็มาบังคับ
มายึดทรัพย์เอาเอง จะให้ส่งเอกสาร อะไรก็ไม่ส่ง อยากได้ก็ไปค้นเอาเอง ซิ.

ประมาณ นี้ ครับ ที่ผ่านมาเคยมีการนำมาใช้บ้าง แ่ต่อาจไม่ตรงนัก ก็ยังเรียกว่า อารยะ ขัดขืน.
 

หรืออย่างที่ี นาย ๒๕ ไม่ให้สัมภาษก์ สื่อ โดยการนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ ก็อาจเข้าเป็นเรื่อง อารยะขัดขืน. มั้งครับ.  ::005::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ มิถุนายน 11, 2008, 12:36:24 AM
ไม่น่าเรียกให้หรูเริดจนต้องแปลไทยเป็นไทยแบบนี้หรอก

เรียกว่า   หน้ามึน   ตามแบบภาษาอีสานนะดีแล้ว


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มิถุนายน 11, 2008, 01:05:29 AM
ไม่น่าเรียกให้หรูเริดจนต้องแปลไทยเป็นไทยแบบนี้หรอก

เรียกว่า   หน้ามึน   ตามแบบภาษาอีสานนะดีแล้ว

 ::007:: ::007:: ::007::ตรงตัวเป๊ะครับท่านป้อมทอง


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: BSW ที่ มิถุนายน 11, 2008, 07:58:30 AM
ดูจากทีวีเมื่อคืนนี้   มีการยกตัวอย่างของท่านสาธุคุณ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง   ในเรื่องอารยะขัดขืน ว่า

"เข้าไปนั่งในสถานที่ที่มีกฏหมายห้ามไม่ให้คนผิวสีเข้าไป    โดยผู้จงใจฝ่าฝืน ยอมรับโทษในการกระทำความผิดนั้นด้วย"

ท่านสาธุคุณ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง  เป็นท่านหนึ่งที่รณรงค์เรื่องการแบ่งสีผิวในสหรัฐอเมริกา   และได้นำวิธี อารยะขัดขืน มาเป็นเครื่องมือในการแสดงออกด้วย  :)

ท่านมหาตมะ คานธี   ก็นำมาใช้เช่นกัน  ตามที่คุณ Ro@d  ยกตัวอย่างเอาไว้แล้ว ;D :D ;D




หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 11, 2008, 08:12:29 AM
ถ้ากรณีดื้อ(หน้ามึน) ไม่ยอมจ่ายภาษี ไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟนี่  คนที่หน้ามึนยังต้องขอรับหรือรับบริการจากรัฐหรือเปล่าครับ เช่นไม่รับสวัสดิการจากรัฐ ไม่ใช้น้ำใช้ไฟจากรัฐ  หรือว่าให้หน้ามึนใช้บริการจากรัฐ ผมกลัวไฟฟ้า ประปา มาตัดมิเตอร์น่ะครับ ถ้าเขาไม่ตัดมิเตอร์ผมจะอารยขัดขืนค่าน้ำค่าไฟก่อนเป็นอับดับแรก


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มิถุนายน 11, 2008, 08:34:18 AM

หรืออย่างที่ี นาย ๒๕ ไม่ให้สัมภาษก์ สื่อ โดยการนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ ก็อาจเข้าเป็นเรื่อง อารยะขัดขืน. มั้งครับ.  ::005::

คงใกล้บ้าแล้วครับ  ลองไม่มีตำรวจคุ้มกันซิ ไม่กล้ายืนจ้องแบบนี้แน่ๆครับ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มิถุนายน 11, 2008, 08:34:43 AM
ดูจากทีวีเมื่อคืนนี้   มีการยกตัวอย่างของท่านสาธุคุณ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง   ในเรื่องอารยะขัดขืน ว่า

"เข้าไปนั่งในสถานที่ที่มีกฏหมายห้ามไม่ให้คนผิวสีเข้าไป    โดยผู้จงใจฝ่าฝืน ยอมรับโทษในการกระทำความผิดนั้นด้วย"

ท่านสาธุคุณ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง  เป็นท่านหนึ่งที่รณรงค์เรื่องการแบ่งสีผิวในสหรัฐอเมริกา   และได้นำวิธี อารยะขัดขืน มาเป็นเครื่องมือในการแสดงออกด้วย  :)

ท่านมหาตมะ คานธี   ก็นำมาใช้เช่นกัน  ตามที่คุณ Ro@d  ยกตัวอย่างเอาไว้แล้ว ;D :D ;D

การเรียกร้องตามสิทธิเสรีภาพของความเป็นมนุษย์นั้นก็น่าจะดีครับ

การดื้อแพ่งต่อผู้ปกครองเชื้อชาติอื่น ก็น่าจะดีครับ

แต่การดื้อแพง่ ต่อรัฐบาลของตัวเอง .... .... ....

ผมไม่ได้มองว่ารัฐต้องเป็นผู้ถูกเสมอ ล้มล้างไม่ได้นะครับ แต่ในเมื่อเรามีกฏหมาย มีระเบียบ มีศาล ถ้าฝ่ายรัฐทำไม่ถูกตรงไหน ก็ต้องใช้กระบวนการต่าง ๆ ที่มี .... ถ้าไม่มีกระบวนการ การออกมาชุมนุมก็เป็นสิ่งที่ทำได้อยู่แล้ว โดยควรจะมีข้อเรียกร้องที่จำกัด เมื่อได้รับความคืบหน้าบ้าง ก็ควรสลายตัว ... ไว้จะทวงถามเมื่อไร ก็รวมตัวกันอีกหน

ดังนั้น การที่จะทำอารยะขัดขืน มันก็น่าจะต่างจากการดื้อแพ่งทั่ว ๆ ไปสิครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 09:25:38 AM
อารยะ ความหมาย คือความเจริญ คนที่เจริญแล้ว จะไม่ใช้วิธีการที่ป่าเถื่อน รุนแรง ทำร้าย ต่อกัน

อารยะขัดขืน
ใช้ความดื้อ ตาใส เข้าต่อต้าน. และที่สำคัญ จะต้องใช้ปริมาณ .. หรือจุดประกายให้เกิดปริมาณ ตามมา
เป็นการยกระดับ การต่อสู้้ให้สูงขึ้น จึงจะก่อผลสะเทือนใน วงที่กว้างขึ้น ที่มีตามมา
เป็นเรื่องเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของกลุ่มคน ไม่ใช่กระทำแบบตัวคนเดียวเพื่อตน.
เป็นพฤติกรรม ทางการเมือง เท่านั้น ครับ 

ดื้อแพ่ง ให้่มองถึงพฤติการ เหมือนกัน แต่เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เพื่อผลทางการเมือง

ทุกการเคลื่ือนไหว จะมี ๒ แนวทางหลักเสมอ เห็นด้วย กับไม่เห็นด้วย จึงเป็นเรื่องธรรมดา
ที่จะต้องยอมรับบรรดา เสียงด่า ตามมาด้วย
ส่วนพวกเป็นกลางนั้น. เป็นอาการ ของการ งง งัน.. รอเวลาให้ถูกจูง  จากทั้งสองทา่ง. ไม่ใช่ตัวหลัก  แต่อาจเป็นตัวเอก ที่จะต้องใช้ นโบย่ายแนวร่วมดึงมาเป็นพวก

การเึคลื่อนไหว สิ่งที่สำคัญ ที่มองข้ามไม่ได้ คือ ต้องให้ คนที่ติดตามข่าวสารนั้น ทราบว่า
ในสังคมนั้นมีความเป็นชนชั้น แฝงตัวอยู่ และมีพื้นฐานทางผลประโยชน์ที่ขัดกัน คือ ฝ่ายที่วางตนเป็นผู้ปกครอง กับประชา่ชน ผู้ถูกปกครอง  .. และให้เข้าใจว่า ตนอยู่ฝ่ายใด

เพื่อจะได้ไม่เผลอตัวไป ปกป้อง ไปเห็นดีเห็นงาม กับการกระทำ ที่มุ่งหาประโยชน์
ของอีกฝ่ายแล้ว มาย้อน ทิ่มต่ำ พวกเดียวกันเอง โดยไม่รู้ตัว.

เมื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติให้มากขึ้น ก็อาจลดความเสียหาย ในความขัดแย้งนี้ ได้มากขึ้นด้วย.. เพียงการกระจาย ผลประโยชน์ ให้ประชาชนได้ทั่วกันไม่ให้เดืดร้อน สังคมก็สงบสุขได้..

ถามว่า น้ำมัน น้ำตาล ข้าว ขึ้นราคา ใครได้ประโยชน์ ก็ไอ้พวกเลวทราม ในกลุ่มที่วางตัวเป็น ผู้ปกครองที่กุมอำนาจรัฐ และโคตรของมัน นั่นแหละได้ประโยชน์ ..  ???


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 09:40:40 AM
พรรคการเมือง คือองค์จัดตั้งเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการขึ้นเพื่อ เป็นฝ่ายปกครอง

พรรคการเมือง สมัยเรียน ราม. ในพื้นฐานวิชา รัฐศาสตร์เบื้องต้น การเมืองการปกครอง

พรรคการเมือง คือกลุ่มผลประโยชน์ .. วิชาการบอกในห้องเรียนอย่างนี้ แหละครับ  .  ::002::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มิถุนายน 11, 2008, 09:46:57 AM
ถ้ากรณีดื้อ(หน้ามึน) ไม่ยอมจ่ายภาษี ไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟนี่  คนที่หน้ามึนยังต้องขอรับหรือรับบริการจากรัฐหรือเปล่าครับ เช่นไม่รับสวัสดิการจากรัฐ ไม่ใช้น้ำใช้ไฟจากรัฐ  หรือว่าให้หน้ามึนใช้บริการจากรัฐ ผมกลัวไฟฟ้า ประปา มาตัดมิเตอร์น่ะครับ ถ้าเขาไม่ตัดมิเตอร์ผมจะอารยขัดขืนค่าน้ำค่าไฟก่อนเป็นอับดับแรก
ถ้ากรณีดื้อ(หน้ามึน) ไม่ยอมจ่ายภาษี ไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟนี่  คนที่หน้ามึนยังต้องขอรับหรือรับบริการจากรัฐหรือเปล่าครับ เช่นไม่รับสวัสดิการจากรัฐ ไม่ใช้น้ำใช้ไฟจากรัฐ  หรือว่าให้หน้ามึนใช้บริการจากรัฐ ผมกลัวไฟฟ้า ประปา มาตัดมิเตอร์น่ะครับ ถ้าเขาไม่ตัดมิเตอร์ผมจะอารยขัดขืนค่าน้ำค่าไฟก่อนเป็นอับดับแรก

ถ้าเชื่อในเรื่องอะไรก็ลองทำเพื่อความเชื่อนนั้นดูสิครับ อย่างที่อาจารย์ไชยยันต์ฉีกบัตรเลือกตั้งก็ไม่รู้แน่หรอกครับว่าจะไม่โดนดำเนินคดีจนต้องรับผิดจริงๆ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มิถุนายน 11, 2008, 09:50:41 AM

เป็นคำที่แสดงออกทางการเมือง ที่ใช้หลักของการปฎิเสธ ไม่กระทำ ตามที่รัฐสั่งในความรับผิด
ในเรื่องอิสระภาพของบุคคล โดยผู้กระทำยอมรับผิด ในสิ่งที่จะมีตามมาโดยไม่ขัดขืน

อย่างการปฎิเสธ ไม่เสียภาษี ค่าน้ำ ค่าไฟ . รัฐอยากได้เงินก็ไปฟ้องบังคับเอาซิ ให้รู้สึกยุ่งยากลำบากขึ้น ในการไปยึดทรัพย์ ไปเรียกเบี้ยปรับ เงินเพิ่มขึ้นเอาเอง .

แต่ต้องไม่ใช่การก่อการกระทำที่ผิดกฎหมายขึ้นมาตอบโต้ .. เป็นขั้นตอนหนึ่งที่ยกระดับการต่อสู้ ของแนวทางอหิงสา คือไม่ต่อต้าน โดยไม่ใช้อาวุธ .. มีมาตั้งแต่โบราณกาล
และ มหาตะมะคานที ได้นำมาใช้กับ เพื่อ รวบรวมประชาชน เพื่อปลดแอกจาก สหราชอาณาจักร

เหมือนกับคำทางกฎหมาย ว่า ดื้อแพ่ง .. คือเฉย ไม่ปฎิบัติ ตามที่กฎหมายบังคับ .. อยากได้ก็มาบังคับ
มายึดทรัพย์เอาเอง จะให้ส่งเอกสาร อะไรก็ไม่ส่ง อยากได้ก็ไปค้นเอาเอง ซิ.

ประมาณ นี้ ครับ ที่ผ่านมาเคยมีการนำมาใช้บ้าง แ่ต่อาจไม่ตรงนัก ก็ยังเรียกว่า อารยะ ขัดขืน.
 

หรืออย่างที่ี นาย ๒๕ ไม่ให้สัมภาษก์ สื่อ โดยการนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ ก็อาจเข้าเป็นเรื่อง อารยะขัดขืน. มั้งครับ.  ::005::

อือม์ สำหรับคำถามสุดท้ายนี้ตำราเล่มไหนเล่มไหนก็ชี้ว่านักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต้องตอบคำถามของประชาชนทั้งนั้นครับ คนในตำแหน่งที่ใช้สาธาราณะไม่ชี้แจง ตอบสนอง รับผิดชอบ ต่อประชาชน ก็เป็นพวกระบอบของนาย คิม จอง อิล หรือ กัดดาฟี่ เท่านั้นครับ ถ้าอยู่ในระบอบอื่นก็ต้องเรียกว่าเป็นพวกตลบแตลง ตอแหล โกหกอย่างเลวที่สุด


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 11, 2008, 09:52:19 AM
พรรคการเมือง คือกลุ่มผลประโยชน์

เพราะ การเมือง คือเรื่องของผลประโยชน์


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มิถุนายน 11, 2008, 09:56:30 AM
พรรคการเมือง คือกลุ่มผลประโยชน์

เพราะ การเมือง คือเรื่องของผลประโยชน์

ไม่ว่าตอนนี้ใครจะเป็นยังไง หากจำจำหรือใส่ในพจนานุกรม ผมขออนุญาตยืมคำมาเติมให้เต็มๆ ครับ

พรรคการเมือง คือกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ของชาติ

เพราะ การเมือง คือเรื่องของผลประโยชน์ของชาติ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 10:04:58 AM
พรรคการเมือง คือกลุ่มผลประโยชน์

เพราะ การเมือง คือเรื่องของผลประโยชน์

แต่อย่าเพียงมองคำแล้วเข้าใจลอย ลอยนะครับ.

จะต้องมองให้ออกถึง หลายวิธีการ ที่ดิ้นได้ ทั้งในแบบ และนอกแบบ เพื่อใช้ผลประโยชน์
ให้เกิดการสนับสนุน. และการกระทำนั้น เพื่อคนส่วนใหญ่ คือพลเมือง ส่วนใหญ่ของประเทศ

แต่เรื่องอย่างนี้ นักการเมือง ที่ชาญฉลาด จะทราบดี วิธีการ ที่หลอก ตบตาบิดเบือน ที่ให้เกิดความเข้าใจว่า  กระทำเพื่อประเทศชาติ คนส่้วนใหญ่ จึงถูก ผลักออกมา

แต่มาในยุค ของ นาย ๒๕ . กลับตรงกันข้าม .. พังประชาชน ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ดึึงดันจะกระทำเพื่อนาย ๒๓ สถานเดียว. เหมือนอยากจะแตกหัก ปานนั้น .
ไม่มีเรื่องใดเลย ที่แสดงออกเพื่อ ปากท้องชาวบ้าน ทั้งยังซ้ำเติม ด้วยซ้ำ

การกระทำเป็นเครื่องชี้เจตนา .. ไม่ใช่ปาก.  แต่เมื่อเกิิดการหลิงตนเองของ
พังประชาชน ทั้งปาก การกระทำจะสอดคล้อง ดึงดัน. ไม่สนแม้แต่ นาย ๒๕


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 11, 2008, 10:07:57 AM

ไม่ว่าตอนนี้ใครจะเป็นยังไง หากจำจำหรือใส่ในพจนานุกรม ผมขออนุญาตยืมคำมาเติมให้เต็มๆ ครับ

พรรคการเมือง คือกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ของชาติ

เพราะ การเมือง คือเรื่องของผลประโยชน์ของชาติ

ครับ ถ้าพรรคการเมือง/นักการเมืองในบ้านเราส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ก็ดี


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 10:29:44 AM

หรืออย่างที่ี นาย ๒๕ ไม่ให้สัมภาษก์ สื่อ โดยการนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ ก็อาจเข้าเป็นเรื่อง อารยะขัดขืน. มั้งครับ.  ::005::

คงใกล้บ้าแล้วครับ  ลองไม่มีตำรวจคุ้มกันซิ ไม่กล้ายืนจ้องแบบนี้แน่ๆครับ

ทำไปได้............บ้า... ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ มิถุนายน 11, 2008, 12:17:02 PM
หน้าท่านนายกตอนนี้ หมดสง่าราศีอย่างยิ่ง

หลายๆคนที่มีอำนาจอยู่ตอนนี้ ทำไม หน้าตาหมองคล้ำ เหมือนเป็นคนป่วย


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 12:24:09 PM
หน้าท่านนายกตอนนี้ หมดสง่าราศีอย่างยิ่ง

หลายๆคนที่มีอำนาจอยู่ตอนนี้ ทำไม หน้าตาหมองคล้ำ เหมือนเป็นคนป่วย

เห็นหน้าท่าน ๒๕ ทางข่าวโทรทัศน์เมื่อคืน ที่ทำหน้าถมึงทึง .... หมดราศี  8)






หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ มิถุนายน 11, 2008, 12:36:54 PM
อารยะ  คงแปลว่าผู้เจริญแล้ว
ขัดขืน  คงแปลว่าการไม่ยอมตาม ไม่ปฏิบัติตาม
รวมความน่าจะหมายถึง  การไม่ปฏิบัติตาม หรือต่อสู้  อย่างผู้เจริญแล้ว

แต่ที่เห็นเขาทำ ทั้งหน้ามึน ทั้งน่าชัง ไม่เห็นมีแวว อารยะตรงไหน (นี่ผมก็ไม่ได้ชอบรัฐบาลอะไรนักหนา)
เบื่อ ::010::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ มิถุนายน 11, 2008, 12:41:18 PM
หน้าท่านนายกตอนนี้ หมดสง่าราศีอย่างยิ่ง

หลายๆคนที่มีอำนาจอยู่ตอนนี้ ทำไม หน้าตาหมองคล้ำ เหมือนเป็นคนป่วย

น้องโอค   คนป่วย  เป็นคำไม่สุภาพ  ต้องใช้คำว่า  คนไข้  ครับ   อิ  อิ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 12:50:42 PM
หน้าท่านนายกตอนนี้ หมดสง่าราศีอย่างยิ่ง

หลายๆคนที่มีอำนาจอยู่ตอนนี้ ทำไม หน้าตาหมองคล้ำ เหมือนเป็นคนป่วย

น้องโอค   คนป่วย  เป็นคำไม่สุภาพ  ต้องใช้คำว่า  คนไข้  ครับ   อิ  อิ

 ;D ;D ;D   ..

บอกตามตรงไอ้หน้า แบบนี้ ผมไม่รู้สึกต้องไปเกรงกลัวมันเลยสักนิด ..
คนมันลง ไม่้คิดจะกลัวกันอยู่แล้ว .. ไม่นานหัวโขน ก็ต้องหลุด กระเด็น

ผู้สื่อข่าวที่นิ่งอยู่ หลายคนคง คิดว่าเป็น ขี้หมา เก็บมือไว้ไม่ให้เลอะ . มั้งครับ  ::001::



หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 01:51:40 PM
หน้าท่านนายกตอนนี้ หมดสง่าราศีอย่างยิ่ง

หลายๆคนที่มีอำนาจอยู่ตอนนี้ ทำไม หน้าตาหมองคล้ำ เหมือนเป็นคนป่วย

เป็นไฝเป็นฝ้า หน้ามืดหมองมัว ใช้ "โทนาฟ" "โทนาฟ" ยังใช้ลดไข้แก้ปวดหัวตัวร้อน....บีบใส่ปากตามด้วยกาแฟเย็น...สองชั่วโมงเห็นผล...สิบท่านแรกที่สั่ง...จะได้สวดฟรีหนึ่งคืน..โทรมาตอนนี้....แถมผ้าลินินห่อตัวอย่างดี......

เห็นหน้าท่าน ๒๕ ทางข่าวโทรทัศน์เมื่อคืน ที่ทำหน้าถมึงทึง .... หมดราศี  8)







หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มิถุนายน 11, 2008, 02:13:30 PM




ผมอยากให้    พวกพาลทะมิด    ชุมนุม    อยู่ที่นั่น    นาน ๆ   .......     ::007::   ::007::








หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 11, 2008, 02:31:56 PM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มิถุนายน 11, 2008, 02:38:30 PM


กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ




ถ้า  .....    ถามพวกเขา    .....    เขาอาจจะตอบว่า    ใช่

ถ้า  .....    ถามประชาชนทั่ว ๆ  ไป    (  โดยเฉพาะ    ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน  )    ...........    คงจะ    ไม่ใช่    


 ;D



หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 11, 2008, 02:42:26 PM
เห็นมีการกล่าวอ้างถึงมหาตม คานธี  แต่การปฏิบัติมันช่างแตกต่างกัน  เกรงว่าจะกลายเป็นอารยขัดขืน ขืนใจชาวบ้าน


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 02:50:36 PM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ

ไม่น่าใช่ ครับ .แต่สถานการณ์ ที่ตามมา นั้นเป็นครรลอง

อารยะขัดขืน เป็นขั้นตอน เป็นการยกระดับการต่้อสู้ ที่สูงขึ้น
มาให้ความรู้แ้ลกเปลี่ยนกันในทางวิชาการ ผิด-ถูก ล้วนเกิดประโยชน์

ผม เป็นคนคอปืน ก็เป็นผู้มีอารยะ รู้จัก ผิดชอบชั่วดี ไม่ได้เออ ห่อหมก
เลือกหยิบ สาระมายก ระดับความคิด มุึมมอง ผู้ร่วมสนทนา .. 
แต่ีบางความเห็นผมมองเป็นอารมณ์ขัน มากกว่าเป็นความขัดแย้ง  .  ;D 


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 11, 2008, 02:53:45 PM
ดีครับคุณ Ro@d   


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 11, 2008, 02:55:52 PM
เวลาคุย กันอย่าไปหยิบ กะี้พี้มาแกะ หาแมลงซิครับ คุณ andaman

ครั้่งมหาคานธี เขาหยิบสาระ  มาเป็นหลักในปัจจุบัน  เขาไม่้ได้เลือก ที่มันเป็นกะพี้
วิธีการ อีกเยอะแยะ  ที่เราไม่รู้  มาบอกกัน...  ต่างกรรมต่างวาระ กันเลือกที่เป็นประโยชน์
ที่ไม่ดี ข้ัามมันไปเสีย  ::002::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ มิถุนายน 11, 2008, 06:13:33 PM
คำว่าอารยะขัดขืน กับ ดื้อแพ่ง เหมือนหรือต่างกันอย่างไรคะ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ฮิวโก้ ที่ มิถุนายน 11, 2008, 06:31:53 PM
เข้ามาอ่านเฉยๆ...ไม่ด่า...วันนี้ไม่ด่าเพราะเป็นวันพระครับ...สาธุ ;D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มิถุนายน 11, 2008, 06:39:34 PM
 :D :D :D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: INNOVA ที่ มิถุนายน 11, 2008, 07:26:57 PM




ผมอยากให้    พวกพาลทะมิด    ชุมนุม    อยู่ที่นั่น    นาน ๆ   .......     ::007::   ::007::







ผมก็อยากให้ท่านอยู่ที่นี่นานๆเช่นกันครับ ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มิถุนายน 11, 2008, 08:06:54 PM




ผมอยากให้    พวกพาลทะมิด    ชุมนุม    อยู่ที่นั่น    นาน ๆ   .......     ::007::   ::007::










ผมก็อยากให้ท่านอยู่ที่นี่นานๆเช่นกันครับ     ::007:: ::007:: ::007::





ขอบคุณมาก    ...................     ::007::   ::007::





หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: INNOVA ที่ มิถุนายน 11, 2008, 08:08:16 PM
อ๋อ.. ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มิถุนายน 11, 2008, 10:44:18 PM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ

ไม่ใช่ครับ

ผมก็ไม่ชอบ จะม็อบสมัชชาคนจน,ม็อบแท็กซี่,ม็อบรถเมล์ม็อบรับจ้างไหนๆผมก็ไม่ชอบหมดเลย

แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

สัปดาห์ที่แล้วคนสงขลา,ภูเก็ตเหมาเครื่องบินขึ้นไปช่วยกันชุมนุม เฉพาะภูเก็ต ช่วงเช้าปาเข้าไป2ไฟลต์เต็ม.....นายสนธิคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าเดินทางให้มังครับ แพงกว่าค่าน้ำมันรถอีแต๋นเยอะ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มิถุนายน 11, 2008, 11:38:23 PM
แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

ถ้าสมมติรัฐบาลนาย ๒๕ มีอันต้องหมดอายุก่อนเวลา ... ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร  ???

หมดอายุตามวิธีที่ระบุในกฏหมายนะครับ ... ผมไม่ชอบการยึดอำนาจ ... แม้จะสมมติก็ไม่ชอบครับ  ::001::



หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Charoon รักในหลวงครับ ที่ มิถุนายน 12, 2008, 06:35:03 AM
งานชิ้นแรกของอาระยขัดขืนคือ

ดับไฟ รัฐสภาครับ พี่น้อง


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: BSW ที่ มิถุนายน 12, 2008, 07:37:24 AM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ

ไม่ใช่ครับ

ผมก็ไม่ชอบ จะม็อบสมัชชาคนจน,ม็อบแท็กซี่,ม็อบรถเมล์ม็อบรับจ้างไหนๆผมก็ไม่ชอบหมดเลย

แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

สัปดาห์ที่แล้วคนสงขลา,ภูเก็ตเหมาเครื่องบินขึ้นไปช่วยกันชุมนุม เฉพาะภูเก็ต ช่วงเช้าปาเข้าไป2ไฟลต์เต็ม.....นายสนธิคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าเดินทางให้มังครับ แพงกว่าค่าน้ำมันรถอีแต๋นเยอะ



เสาร์ที่แล้ว (7 มิ.ย.)   คนสุราษฎร์ฯ ก็มีขึ้นเครื่องไปร่วมกับเค้าหลายคนเหมือนกันครับ    ;D :D ;D         

(แต่ผมป่าวไปนะ   อยู่รับ-ส่งเจ้านายจ๊ะ) 


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 07:49:49 AM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ

ไม่ใช่ครับ

ผมก็ไม่ชอบ จะม็อบสมัชชาคนจน,ม็อบแท็กซี่,ม็อบรถเมล์ม็อบรับจ้างไหนๆผมก็ไม่ชอบหมดเลย

แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

สัปดาห์ที่แล้วคนสงขลา,ภูเก็ตเหมาเครื่องบินขึ้นไปช่วยกันชุมนุม เฉพาะภูเก็ต ช่วงเช้าปาเข้าไป2ไฟลต์เต็ม.....นายสนธิคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าเดินทางให้มังครับ แพงกว่าค่าน้ำมันรถอีแต๋นเยอะ



เสาร์ที่แล้ว (7 มิ.ย.)   คนสุราษฎร์ฯ ก็มีขึ้นเครื่องไปร่วมกับเค้าหลายคนเหมือนกันครับ    ;D :D ;D        

(แต่ผมป่าวไปนะ   อยู่รับ-ส่งเจ้านายจ๊ะ) 

ผมแวะเข้าไปสามสี่ครั้ง  พบกับผู้ชุมนุม ที่เป็นข้าราชการจำนวนมาก   ผู้พิพากษาหลายสิบคน  ทหารระดับนายพลก็มากพอ ๆ กัน  ยกมือไหว้ตลอดทาง  ยิ่งพวกทหารเรือ มาทั้งเครื่องแบบ ใส่แจ็ตเก็ตบาง ๆ คลุมไว้แค่นั้นเอง


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 08:04:33 AM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ

ไม่ใช่ครับ

ผมก็ไม่ชอบ จะม็อบสมัชชาคนจน,ม็อบแท็กซี่,ม็อบรถเมล์ม็อบรับจ้างไหนๆผมก็ไม่ชอบหมดเลย

แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

สัปดาห์ที่แล้วคนสงขลา,ภูเก็ตเหมาเครื่องบินขึ้นไปช่วยกันชุมนุม เฉพาะภูเก็ต ช่วงเช้าปาเข้าไป2ไฟลต์เต็ม.....นายสนธิคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าเดินทางให้มังครับ แพงกว่าค่าน้ำมันรถอีแต๋นเยอะ



เสาร์ที่แล้ว (7 มิ.ย.)   คนสุราษฎร์ฯ ก็มีขึ้นเครื่องไปร่วมกับเค้าหลายคนเหมือนกันครับ    ;D :D ;D        

(แต่ผมป่าวไปนะ   อยู่รับ-ส่งเจ้านายจ๊ะ) 

นายผมเลิกดูละคร มาเฝ้าหน้าจอASTV
พอมีข่าวว่ารัฐบาลจะขอศาลปกครอง เพิกถอนการคุ้มครองชั่วคราวASTVในการออกอากาศ
ผมถามว่าแล้วจะทำอย่างไร เธอบอก...ก็ต้องไปที่สะพานมัฆวานฯ   ::005::




หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 08:55:58 AM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ

ไม่ใช่ครับ

ผมก็ไม่ชอบ จะม็อบสมัชชาคนจน,ม็อบแท็กซี่,ม็อบรถเมล์ม็อบรับจ้างไหนๆผมก็ไม่ชอบหมดเลย

แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

สัปดาห์ที่แล้วคนสงขลา,ภูเก็ตเหมาเครื่องบินขึ้นไปช่วยกันชุมนุม เฉพาะภูเก็ต ช่วงเช้าปาเข้าไป2ไฟลต์เต็ม.....นายสนธิคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าเดินทางให้มังครับ แพงกว่าค่าน้ำมันรถอีแต๋นเยอะ



เสาร์ที่แล้ว (7 มิ.ย.)   คนสุราษฎร์ฯ ก็มีขึ้นเครื่องไปร่วมกับเค้าหลายคนเหมือนกันครับ    ;D :D ;D         

(แต่ผมป่าวไปนะ   อยู่รับ-ส่งเจ้านายจ๊ะ) 

นายผมเลิกดูละคร มาเฝ้าหน้าจอASTV
พอมีข่าวว่ารัฐบาลจะขอศาลปกครอง เพิกถอนการคุ้มครองชั่วคราวASTVในการออกอากาศ
ผมถามว่าแล้วจะทำอย่างไร เธอบอก...ก็ต้องไปที่สะพานมัฆวานฯ   ::005::


 :D :D :D    ::002::

วิทยุชุมชน ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับไฟเขีัยว จาก ฝ่ายทหาร
จะ้ถ่ายทอดสด ASTV ..จากสะพานมัฆวานฯ . หรือไม่ก็ได้ ไม่ได้ห้าม
ในขณะที่วิทยุชุมชนบางแห่ง หลังวัดพระสิงห์  .. ระดมคนเพื่อเข้ากรุงฯ    :)


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 09:04:23 AM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ

ไม่ใช่ครับ

ผมก็ไม่ชอบ จะม็อบสมัชชาคนจน,ม็อบแท็กซี่,ม็อบรถเมล์ม็อบรับจ้างไหนๆผมก็ไม่ชอบหมดเลย

แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

สัปดาห์ที่แล้วคนสงขลา,ภูเก็ตเหมาเครื่องบินขึ้นไปช่วยกันชุมนุม เฉพาะภูเก็ต ช่วงเช้าปาเข้าไป2ไฟลต์เต็ม.....นายสนธิคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าเดินทางให้มังครับ แพงกว่าค่าน้ำมันรถอีแต๋นเยอะ



เสาร์ที่แล้ว (7 มิ.ย.)   คนสุราษฎร์ฯ ก็มีขึ้นเครื่องไปร่วมกับเค้าหลายคนเหมือนกันครับ    ;D :D ;D         

(แต่ผมป่าวไปนะ   อยู่รับ-ส่งเจ้านายจ๊ะ) 

ผมแวะเข้าไปสามสี่ครั้ง  พบกับผู้ชุมนุม ที่เป็นข้าราชการจำนวนมาก   ผู้พิพากษาหลายสิบคน  ทหารระดับนายพลก็มากพอ ๆ กัน  ยกมือไหว้ตลอดทาง  ยิ่งพวกทหารเรือ มาทั้งเครื่องแบบ ใส่แจ็ตเก็ตบาง ๆ คลุมไว้แค่นั้นเอง


 :D :D :D..

ผมก็ ใช้ มหาวิทยาลัย ราชดำเนิน  up date ข้อเท็จจริง .. ด้วยเหมือนกัน .  ::008::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มิถุนายน 12, 2008, 09:37:34 AM
แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

ถ้าสมมติรัฐบาลนาย ๒๕ มีอันต้องหมดอายุก่อนเวลา ... ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร  ???

หมดอายุตามวิธีที่ระบุในกฏหมายนะครับ ... ผมไม่ชอบการยึดอำนาจ ... แม้จะสมมติก็ไม่ชอบครับ  ::001::

ถ้ารัฐบาลนี้หมดอายุไป... คดีที่ค้างคาศาลเอาไว้ก็จะไม่ถูกแทรกแซง คนที่ผิดก็จะถูกว่าตามผิด คนที่ถูกก็จะว่าตามถูก... รัฐบาลใหม่ที่จะเข้าทำงานก็จะใช้เวลาบริหารบ้านเมืองตามที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ใช้เวลาไปกับการตามทวงสมบัติของนายใหญ่ อย่างกับหนังบู๊หนุ่มสุรินทร์วิ่งไล่ตาม..."เอาช้างกรูคืนมา"...

ส่วนประเด็นว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ ทั้งๆที่ สส. พชป. ยังเต็มสภาฯ... ค่อยว่ากันต่อไป แต่เรื่องรัฐบาลแห่งชาติก็มีผู้เสนอมาให้เห็นแล้ว...

ผลกระทบทางสังคมก็คือ... วัฒนธรรมที่เริ่มจะเสียไปก็จะถูกดึงกลับมา เราสามารถสอนเด็กๆ ให้ยึดมั่นในผลแห่งการทำความดี ไม่ใช่ผลแห่งพวกมากลากไป... ไม่ใช่ใครทำตามกฏจะโดนเอาเปรียบ ซึ่งต่อไปจะเกิดวัฒนธรรมและทัศนคติที่ผิด จ้องลัดเลาะหาช่องโหว่เพื่อเอาเปรียบคนอื่น และการอยู่ในกฏเกณฑ์คือคนโง่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด...

นายสมชายขอแช่งปรมาจารย์ความเลวแห่งการเลี่ยงกฎหมายภาษี(นายสุฯ วลัยฯ)... หน้าขาวๆ ใส่แว่นที่เคยทำเรื่องให้นาย 23 เลี่ยงภาษีแล้วยังมีหน้ามาออกทีวีว่าไม่ผิดกฏหมาย... ให้นายนี่ไม่ตายดี... และขอให้ลูกหลานมันโดนรถทับตายยกตระกูล... ไม่ฮา


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 10:13:14 AM
ระบอบของทักษิณ . เป็นระบอบ ที่ฉาบฉวย ที่อาศัย ความถ่อย เห็นแก่ตัวละโมบ
ไร้คุณธรรม เชิดชู ส่งเสริมคนโกง แม้คนที่ถูกศาลพิพากษาว่าผิด ในเรื่องโกง กิน
ถึงถูกไล่ออกจากราชการ ยังสนับสนุนเข้ามาเป็น เม็ด เบี้ย ขับเคลื่อนให้กับ บริษัท ๒๓
เพื่อ สะสม ทรัพย์สินและจำเป็นจะต้องใช้อำนาจรัฐ มาคุ้มครอง

ความที่เป็นมาร จะคงอยูได้ด้วยการตบตา หลอกลวง บิดเบือน ทั้งให้ผลประโยชน์ เข้าล่อและตอบแทน . ขยายความเห็นแก่ตัว มากกว่าเห็นแก่ ส่วนรวม
จนอาจกลายเป็นวัฒนธรรม ที่จอมปลอม
ความฉาบฉวย .. ที่สุดจะต้องเอวัง วิบัติ ชิบหาย .. เพราะจะไม่มีใครยอมที่จะให้ระบอบนี้ คงอยู่ สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ.. เพื่อบา่งโคตร  ต่อไปได้อีก.

คนเลว จะสร้่าง ระบอบของเขาขึ้นมา เพื่อประโยชน์ของพวกเขา และกดหัวคนดี
คงหวัง จะเข็น รัฐเกสตาโป. เพื่อกดหัวพลเมือง.. อย่างที่ คอการเมือง เริ่มพูดถึง

คนดี ย่อมต้องกระทำ ดุจเดียวกับพวกมาร ที่ตรงข้าม ..ด้วยเช่นกัน   ::002::

 


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 10:26:25 AM
แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

ถ้าสมมติรัฐบาลนาย ๒๕ มีอันต้องหมดอายุก่อนเวลา ... ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร  ???

หมดอายุตามวิธีที่ระบุในกฏหมายนะครับ ... ผมไม่ชอบการยึดอำนาจ ... แม้จะสมมติก็ไม่ชอบครับ  ::001::


จะเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร ต้องเข้าใจว่านั้่นเป็นสิทธิ เป็นเสรีภาพ .อย่าได้กังวล
แต่จะหลุดรอดไปได้ จะต้อง อยู่กับความเป็นจริง ไม่ใช่ อยู่ที่อยากจะให้เป็น

เ้หมือนการคิดใช้อาวุธปืน ปกป้องตัวเอง.  อย่าคิดเอา่เรื่อง ร้อยแปดความ กังวล
ขลาดกลัว มาลดทอน ศักยภาพของตนเอง .. จนตัวเองต้องถูกโจร คนร้าย ยิงตาย .

ค่อย ค่้อย คิด .. ค่อย ค่อย คิด มีเวลา ค่อยคิดทบทวน ก็ยังไม่สาย  .  ::002::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Chayanin-We love the king ที่ มิถุนายน 12, 2008, 10:39:49 AM
แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

ถ้าสมมติรัฐบาลนาย ๒๕ มีอันต้องหมดอายุก่อนเวลา ... ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร  ???

หมดอายุตามวิธีที่ระบุในกฏหมายนะครับ ... ผมไม่ชอบการยึดอำนาจ ... แม้จะสมมติก็ไม่ชอบครับ  ::001::

ถ้ารัฐบาลนี้หมดอายุไป... คดีที่ค้างคาศาลเอาไว้ก็จะไม่ถูกแทรกแซง คนที่ผิดก็จะถูกว่าตามผิด คนที่ถูกก็จะว่าตามถูก... รัฐบาลใหม่ที่จะเข้าทำงานก็จะใช้เวลาบริหารบ้านเมืองตามที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ใช้เวลาไปกับการตามทวงสมบัติของนายใหญ่ อย่างกับหนังบู๊หนุ่มสุรินทร์วิ่งไล่ตาม..."เอาช้างกรูคืนมา"...

ส่วนประเด็นว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ ทั้งๆที่ สส. พชป. ยังเต็มสภาฯ... ค่อยว่ากันต่อไป แต่เรื่องรัฐบาลแห่งชาติก็มีผู้เสนอมาให้เห็นแล้ว...

ผลกระทบทางสังคมก็คือ... วัฒนธรรมที่เริ่มจะเสียไปก็จะถูกดึงกลับมา เราสามารถสอนเด็กๆ ให้ยึดมั่นในผลแห่งการทำความดี ไม่ใช่ผลแห่งพวกมากลากไป... ไม่ใช่ใครทำตามกฏจะโดนเอาเปรียบ ซึ่งต่อไปจะเกิดวัฒนธรรมและทัศนคติที่ผิด จ้องลัดเลาะหาช่องโหว่เพื่อเอาเปรียบคนอื่น และการอยู่ในกฏเกณฑ์คือคนโง่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด...

นายสมชายขอแช่งปรมาจารย์ความเลวแห่งการเลี่ยงกฎหมายภาษี(นายสุฯ วลัยฯ)... หน้าขาวๆ ใส่แว่นที่เคยทำเรื่องให้นาย 23 เลี่ยงภาษีแล้วยังมีหน้ามาออกทีวีว่าไม่ผิดกฏหมาย... ให้นายนี่ไม่ตายดี... และขอให้ลูกหลานมันโดนรถทับตายยกตระกูล... ไม่ฮา

อาจารย์  ทองปลอม  ผมโชคดีที่ไม่ได้เป็นศิษย์สำนักนี้  และไม่ได้อ่านตำราที่ อาจารย์ ทองแต่ง
เรื่อง อารยะขัดขืน ผมขอรณณรงค์ให้คนที่มีธุรกิจส่วนตัว ในนามบุคคลธรรมดา    ไปจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน  เพื่อลดภาษี  เช่น เอารถ  เอาตึก ไปคิดค่าเสื่อม  ค่าน้ำมัน  และสารพัดยุทธวิธี    ปรึกษาผู้สอบบัญชีเอาเองนะครับ  ว่า จดแล้วคุ้มหรือไม่    เมื่อเงินเราเข้ารัฐ(เฮงซวย)น้อยลงแล้ว  เราจะคืนสังคมอย่างไรโดยไม่ให้ผ่านรัฐ  ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละท่านครับ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มิถุนายน 12, 2008, 10:46:04 AM
แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

ถ้าสมมติรัฐบาลนาย ๒๕ มีอันต้องหมดอายุก่อนเวลา ... ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร  ???

หมดอายุตามวิธีที่ระบุในกฏหมายนะครับ ... ผมไม่ชอบการยึดอำนาจ ... แม้จะสมมติก็ไม่ชอบครับ  ::001::

ถ้ารัฐบาลนี้หมดอายุไป... คดีที่ค้างคาศาลเอาไว้ก็จะไม่ถูกแทรกแซง คนที่ผิดก็จะถูกว่าตามผิด คนที่ถูกก็จะว่าตามถูก... รัฐบาลใหม่ที่จะเข้าทำงานก็จะใช้เวลาบริหารบ้านเมืองตามที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ใช้เวลาไปกับการตามทวงสมบัติของนายใหญ่ อย่างกับหนังบู๊หนุ่มสุรินทร์วิ่งไล่ตาม..."เอาช้างกรูคืนมา"...

ส่วนประเด็นว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ ทั้งๆที่ สส. พชป. ยังเต็มสภาฯ... ค่อยว่ากันต่อไป แต่เรื่องรัฐบาลแห่งชาติก็มีผู้เสนอมาให้เห็นแล้ว...

ผลกระทบทางสังคมก็คือ... วัฒนธรรมที่เริ่มจะเสียไปก็จะถูกดึงกลับมา เราสามารถสอนเด็กๆ ให้ยึดมั่นในผลแห่งการทำความดี ไม่ใช่ผลแห่งพวกมากลากไป... ไม่ใช่ใครทำตามกฏจะโดนเอาเปรียบ ซึ่งต่อไปจะเกิดวัฒนธรรมและทัศนคติที่ผิด จ้องลัดเลาะหาช่องโหว่เพื่อเอาเปรียบคนอื่น และการอยู่ในกฏเกณฑ์คือคนโง่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด...

นายสมชายขอแช่งปรมาจารย์ความเลวแห่งการเลี่ยงกฎหมายภาษี(นายสุฯ วลัยฯ)... หน้าขาวๆ ใส่แว่นที่เคยทำเรื่องให้นาย 23 เลี่ยงภาษีแล้วยังมีหน้ามาออกทีวีว่าไม่ผิดกฏหมาย... ให้นายนี่ไม่ตายดี... และขอให้ลูกหลานมันโดนรถทับตายยกตระกูล... ไม่ฮา

หนุ่มบุรีรัมย์ครับ "เอาเงินนายกู คืนมาาาาๆๆๆ"


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:02:52 AM
คนเลว จะสร้่าง ระบอบของเขาขึ้นมา เพื่อประโยชน์ของพวกเขา และกดหัวคนดี
คงหวัง จะเข็น รัฐเกสตาโป. เพื่อกดหัวพลเมือง.. อย่างที่ คอการเมือง เริ่มพูดถึง

คนความรู้เรี่ยดินอย่างผมเลยต้องถามต่อ ... ว่า "รัฐเกสตาโป" เป็นอย่างไร ... ขอแบบขยายความ

เกสตาโป คำนี้ได้ยินบ่อย ทราบแต่ว่าเป็นชื่อหน่วยงานตำรวจลับ คอยทำมิดีมิร้ายกับคนมีความเห็นไม่เหมือนรัฐบาล ...

ผมสงสัยมานาน จะโทรถามใคร ก็กลัวเปลืองค่าโทรศัพท์ครับ  ::005:: ::005::

นายสมชายขอแช่งปรมาจารย์ความเลวแห่งการเลี่ยงกฎหมายภาษี(นายสุฯ วลัยฯ)... หน้าขาวๆ ใส่แว่นที่เคยทำเรื่องให้นาย 23 เลี่ยงภาษีแล้วยังมีหน้ามาออกทีวีว่าไม่ผิดกฏหมาย... ให้นายนี่ไม่ตายดี... และขอให้ลูกหลานมันโดนรถทับตายยกตระกูล... ไม่ฮา

ตอนนั้นผมก็ดูครับ ท่านปรมาจารย์ด้านการออมท่านพูดไม่ครบ ... อะไรที่จะรัดคอนาย ๒๓ ท่านก็เลี่ยงไม่ตอบ

หนังสือซีรีย์ สอน xxx ให้รวย ของท่าน ผมซื้อมาอ่าน ๑ เล่มครับ ... สอนเมียให้รวย ... สอนไปสอนมา เธอเลิกฝากออมทรัพย์ หันมาฝากประจำ ฝากกองทุน ล่าสุดฝากตลาดหุ้นครับ  ::003::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:06:23 AM
"หนุ่มบุรีรัมย์ครับ "เอาเงินนายกู คืนมาาาาๆๆๆ" 

ลืมตาดูโลกเมื่อ ปี ๒๕๐๑ ตรงกับปี สุนัข ของปีนักษัตร์ .

กระทำในเรื่องของหมา หมา ได้ถนัดใจดีแท้..  สุนัข นั้นถ้าดุ กัดเก่ง อันตราย คือปาก
อาจไม่ต้องใช้ไม้ตีสุนัขหวดก็ได้ . อาจหาวิธี ล้อมคอก งดน้ำ-งดเนื้อ..
เมื่อขาเดี้ยงไร้แรง ปากนั้น ก็หมดแรงงับ.  ค่อยเข้าไปใช้ไม้ หวดเอาอีกที


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:09:11 AM
แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

ถ้าสมมติรัฐบาลนาย ๒๕ มีอันต้องหมดอายุก่อนเวลา ... ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร  ???

หมดอายุตามวิธีที่ระบุในกฏหมายนะครับ ... ผมไม่ชอบการยึดอำนาจ ... แม้จะสมมติก็ไม่ชอบครับ  ::001::



ผมกลับมองว่า...การจะอยู่หรือไปของนาย 25 นั้นไม่สำคัญเลย...หากพวกสมุนนาย 23 ไม่เข้าไปแทรงแซงกลไกตรวจสอบต่างๆเพื่อหนีความผิด...

แต่สมุนของนาย 23 ต้องรีบเขามาทำภาระกิจให้สมกับค่าจ้างและส่วนแบ่งของความอยู่รอด...จากคุกและยุบพรรค

แต่การเข้ามาของสมุนนาย23ครั้งนี้...ก็มาทำกันชุ่ยๆ...ให้เขาเห็นกันจะๆ...ยังดันทุรังจะแก้ รัฐธรรมนูญปี50 มาตรา 237 และ 309 แต่พอเขาจับไต๋ได้ว่าแก้เพื่อ นาย23 กลุ่ม 111 และความอยู่รอดของ พปช....ก็เลยแก้เกี้ยว..แก้ทั้งฉบับ...

การเลือกรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้...ก็แสนที่จะทุเรศ...มาจากส่วนแบ่งของกลุ่มทั้งหลาย.... ผมว่าราชการบางคนแทบไม่อยากจะยกมือไหว้.... ::013::

นาย25 แค่แก้ปัญหาภายในให้ได้....ก็ลำบากแล้ว....โดยเฉพาะกลุ่มยี้ห้อย...ซึ่งกร่างเหลือกิน....ถ้าไม่คิดถึงนาย25ติดคดีรถดับเพลิง..ผมก็ยังดูไม่ออกว่านาย25อยู่ไปเผื่ออะไร...

ผมเผ้าติดตามเวทีราชดำเนิน ... ก็ไม่ได้ชอบคนเหล่านี้พูดทั้งหมด...แต่ต้องยอมรับว่าข้อมูลของเขาแต่ละเรื่อง..นั้น ::002::

สรุป. ข้อดี-การไปของนาย 25 ก็ยังดีกว่า....อยู่เผื่อแทรกแซง...และแก้ปัญหาประเทศไม่ได้...ตลอดจนหน่วยงานกลไกของรัฐน่าจะทำงานอิสระขึ้น
        ข้อเสีย- ที่ผมเห็นก็คงเปลืองงบประมาณการเลือกตั้ง

การเมืองภาคประชาชนเข็มแข็ง....ระบบยุติธรรมไม่ถูกแทรกแซง....ผมคิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:20:34 AM
รัฐเกสตาโป.  ถูกเปิดเป็นประเด็นไว้ .เป็นเรื่องของการใช้อำนาจรัฐ อัีันละเมิดกฎหมาย เพื่อกดขี่ พลเมือง
เป็นเรื่องทางวิชาการ ค้น อ่านความเห็นในที่สาธารณะ ค้น หาจาก Google. ดูครับ.  ;)
หรือท่านใดจะช่วยตอบแทน ข้อสงสัยนี้ เชิญครับ.    ::002::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:30:24 AM
รัฐเกสตาโป. 

ต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:38:32 AM
รัฐเกสตาโป. 

ต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ ;D ;D ;D

 ::012:: ::012::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:44:12 AM
โห.. คุณคาร์  ;D ;D    ;D   
แต่ถ้าเป็นหญิง เรียก เกสยายปี .  พอได้ไหม  ::005::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:47:48 AM
โห.. คุณคาร์  ;D ;D    ;D  
แต่ถ้าเป็นหญิง เรียก เกสยายปี .  พอได้ไหม  ::005::

ได้ครับพี่ ;D ;D ;D พี่ว่าไงผมว่าตาม


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มิถุนายน 12, 2008, 11:54:53 AM
ขออนุญาตเกริ่นนำคร่าวๆ ครับ

ฮิตเลอร์ใช้วิธี แตกแยกแล้วปกครอง ทั้งพรรคนาซี และกลไกต่างๆ ของรัฐ (เนชั่นเแนล โซเชียลลิส ดอยเชอร์ อาไบตุง ปาร์ไตย - NSDAP หรือเรียนย่อๆ ว่า NAZI) เมื่อดูระบบหน่วยราชการต่างๆ ของเยอรมัน จึงวุ่นวาย สับสน มากๆ เพื่อการล้วงลูก และการคานอำนาจกันเอง แต่ละหน่วยงานก็มีหน่วยข่าวล้วงความลับกันเอง เพื่อเอาไปให้ฮิตเลอร์รักษา "หัว" ของหน่วย

กลไกใช้ความรุนแรงของพรรค ตอนแรกเริ่มเมื่อฮิตเลอร์คุมพรรคได้ ฮิตเลอร์ไม่ได้เป็นคนตั้งพรรค แต่เป็นสมาชิกรุ่นแรกๆ แล้วตั้งตนเป็นหัวหน้าทีหลัง ฮิตเลอร์ก็จัดให้มี Storm trooper เชิ๊ตน้ำตาลหรือ SA เป็นอันธพาลที่คอบไล่ตีคนพรรคอื่น หรือป่วนที่ประชุมของพรรคอื่น หัวหน้าเชิ๊ตน้ำตาลคือ เอิร์ส เริม

ส่วนคนอื่นในพรรคก็แย่งอำนาจกันไป ต่อมาเชิ๊ตดำ SS มีบทบาทมากขึ้น เริ่มจากหน่วยหนึ่งในตำรวจของรัฐปรัสเซียนที่ตอนนั้นนาย แฮรมันเกอริง เป้นผู้บัญชาการ

ต่อมานาย ไฮริช ฮิมเลอร์ แย่ง SS ไปได้ แย่งอำนาจกับ เริม ส่งคนไปฆ่า เริม ในเหตุการณืไล่ฆ่ากันที่เรียกว่า Night of the long knife ฮิมเลอร์ก็รวบการบังคับบัญชาทั้ง SA และ SS SA ก็เสื่อมบทบาทลงไป ส่วน SS ได้รับการขยายให้ใหญ่ขึ้นเรื่องๆ

ช่วงแรกเป็นกลุ่มติดอาวุธของพรรค ยังไม่มีส่วนที่เป็นกำลังไปรบเหมือนทหารหรือ Waffeืn SS ทำงานการเมืองให้พรรคนาซีเท่านั้น เช่น อารักขาฮิตเลอร์ ไล่ทุบชาวบ้าน คุมค่ายกักกันและ

ฝ่ายหนึ่งของ SS ก็ทำงานสืบสวน จับกุม อุ้มฆ่า คือ เกสตาโป ซึ่งเป็นคำเรียกย่อๆ ของ เกฮาร์ม สตรัส โปลิไซ (Secret state police)



หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Chayanin-We love the king ที่ มิถุนายน 12, 2008, 12:04:12 PM
ระบอบทักษิณ  จะตายเร็วตายช้า  ผมชอบทั้งนั้น   พร้อมเสมอ
อารยะขัดขืน
อนารยะขัดขืน
อะไรจะเกิดมันต้องเกิด  ก็มันเลือกจุดจบตัวมันเอง


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มิถุนายน 12, 2008, 12:31:48 PM
..ดังนั้นเวลาเห็นเยอรมันยุคนาซีแต่งเครื่องแบบอย่างทหาร ก็ไม่ใช่ทหารเสมอไป พวกที่คุมค่ายกักกัน ค่ายฆ่า คนเป็น SS สายการเมืองทั้งนั้นพวกนี้ไม่ออกรบแนวหน้า มี SS บางกลุ่มจัดเป็น ไอซ์แซสกรุปเปน เป็นกลุ่มๆ เดินตามหลังกองทัพในแนวด้านตะวันออก กองทัพรบไปยึดที่ไหนได้พวกนี้ก็จับคนกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์มายิงทิ้ง

ส่วนค่ายเชลยศึกเยอรมันจะให้ทหารหน่วยต่างๆ คุมข้าศึกหน่วยเดียวกัน เช่น ทหารอากาศก็คุมค่ายเชลยทหารอากาศอังกฤษ หรือ กองบินทหารบกเมกัน ค่ายพวกนี้จึงมีสภาพเป็นคุกมีเครื่องมืออุปกรณ์ยังชีพต่างๆ เป็นเรื่องเป็นราวดีหน่อยตามอัตภาพ อย่างที่เห็นในเรื่อง The great escape ค่าย Starlag Luft III ไม่ใช่ค่ายนรกอย่างในเรื่อง Schindler's list


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มิถุนายน 12, 2008, 01:53:04 PM
แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

ถ้าสมมติรัฐบาลนาย ๒๕ มีอันต้องหมดอายุก่อนเวลา ... ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร  ???

หมดอายุตามวิธีที่ระบุในกฏหมายนะครับ ... ผมไม่ชอบการยึดอำนาจ ... แม้จะสมมติก็ไม่ชอบครับ  ::001::

ถ้ารัฐบาลนี้หมดอายุไป... คดีที่ค้างคาศาลเอาไว้ก็จะไม่ถูกแทรกแซง คนที่ผิดก็จะถูกว่าตามผิด คนที่ถูกก็จะว่าตามถูก... รัฐบาลใหม่ที่จะเข้าทำงานก็จะใช้เวลาบริหารบ้านเมืองตามที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ใช้เวลาไปกับการตามทวงสมบัติของนายใหญ่ อย่างกับหนังบู๊หนุ่มสุรินทร์วิ่งไล่ตาม..."เอาช้างกรูคืนมา"...

ส่วนประเด็นว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ ทั้งๆที่ สส. พชป. ยังเต็มสภาฯ... ค่อยว่ากันต่อไป แต่เรื่องรัฐบาลแห่งชาติก็มีผู้เสนอมาให้เห็นแล้ว...

ผลกระทบทางสังคมก็คือ... วัฒนธรรมที่เริ่มจะเสียไปก็จะถูกดึงกลับมา เราสามารถสอนเด็กๆ ให้ยึดมั่นในผลแห่งการทำความดี ไม่ใช่ผลแห่งพวกมากลากไป... ไม่ใช่ใครทำตามกฏจะโดนเอาเปรียบ ซึ่งต่อไปจะเกิดวัฒนธรรมและทัศนคติที่ผิด จ้องลัดเลาะหาช่องโหว่เพื่อเอาเปรียบคนอื่น และการอยู่ในกฏเกณฑ์คือคนโง่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด...
นายสมชายขอแช่งปรมาจารย์ความเลวแห่งการเลี่ยงกฎหมายภาษี(นายสุฯ วลัยฯ)... หน้าขาวๆ ใส่แว่นที่เคยทำเรื่องให้นาย 23 เลี่ยงภาษีแล้วยังมีหน้ามาออกทีวีว่าไม่ผิดกฏหมาย... ให้นายนี่ไม่ตายดี... และขอให้ลูกหลานมันโดนรถทับตายยกตระกูล... ไม่ฮา

พี่สมชายตอบไว้ดีกว่าที่ผมจะตอบได้ครับ  ::002::

ข้อความที่เน้นไว้ทำให้นึกถึงวิธีคิดของคนในบ้าน พ่อผมอายุร่วม60แล้วยังออกมาขุดดินปลูกต้นไม้ ส่วนใหญ่เป็นไม้ผลอายุยืน

ตอนนั่งคุยเล่นกันเรื่องต้นไม้ที่เอามาลงหลังบ้าน พ่อบอก"ไม่แน่ใจหรอกว่ามันจะออกผลทันให้พ่อได้กิน แต่ลูกๆผมมันได้กินกันแน่นอน"

หลายปีมานี่เจอแต่เรื่องจริยธรรมแบบบิดๆเบือนๆ ผู้คนที่สายตาแคบสั้นก็ออกมาหยอดแล้วหยอดเล่าให้เราก้มหัวยอมรับความโสมมฉ้อฉลว่าเป็นธรรมดาของโลก

คนไทยหลายสิบล้าน ยังเหลือซักกี่คนที่ยังเชิดหน้ายืดอกซดกับมนุษย์อัปรีย์พวกนี้ ?

เรากำลังปลูกต้นอะไรไว้ให้ลูกหลาน ..... สบตาเด็กๆแล้ว ในหัวใจยังมียางอายหยดออกมากันบ้างไหม ? ? ?


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มิถุนายน 12, 2008, 02:56:54 PM
..ในตอนหนึ่งของหนังสือเรื่อง Warrior อัตชีวประวัติที่ Aerial Sharon เขียน

ตอนชารอนเป็นเด็ก รัฐอิสราเอลยังง่อนแง่นโงนเงนอาหรับจะตีล่มเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พ่อเขาทำไร่ ไม่ห่างไปนักทหารยิวยังยิงกับอาหรับอยู่ เขาจำได้ว่าเห็นกระสุนส่องวิถีเป็นแนวๆ ที่ขอบฟ้า แต่พ่อเขาก็ยังก้มหน้าก้มตาขุดดินปลูกต้นส้มเพิ่มเพื่อให้ออกลูกในวันหน้า..


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 03:22:48 PM
Band of Brothers.   ................ จากบันทึกอัตถประวัติสหายสงคราม ผู้ร่วมรบ
ผู้พัน วินเทอร์ ส่ง ๓๐-๐๖ จาก M ๑ Garand นัดสุดท้ายทียิงในสมรภูมินี้
เป้าคือ หน่วย  ss  ที่กำลังถอนตัว .  :)


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 07:08:53 PM
กลุ่มพันธมิตรยึดพื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ชุมนุม ที่พัก โดยไม่สนใจผู้ใช้ถนนทั่วๆไป  เป็นแนวทางอารยขัดขืนด้วยหรือเปล่าครับ

ไม่ใช่ครับ

ผมก็ไม่ชอบ จะม็อบสมัชชาคนจน,ม็อบแท็กซี่,ม็อบรถเมล์ม็อบรับจ้างไหนๆผมก็ไม่ชอบหมดเลย

แต่ม็อบสนธินี่ผมชังน้อยหน่อย เพราะผู้ที่ไปร่วมชุมนุม"ส่วนใหญ่"ไม่ได้ไปเรียกร้องเพื่อตัวเองเหมือนม็อบอื่นๆ

สัปดาห์ที่แล้วคนสงขลา,ภูเก็ตเหมาเครื่องบินขึ้นไปช่วยกันชุมนุม เฉพาะภูเก็ต ช่วงเช้าปาเข้าไป2ไฟลต์เต็ม.....นายสนธิคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าเดินทางให้มังครับ แพงกว่าค่าน้ำมันรถอีแต๋นเยอะ



เสาร์ที่แล้ว (7 มิ.ย.)   คนสุราษฎร์ฯ ก็มีขึ้นเครื่องไปร่วมกับเค้าหลายคนเหมือนกันครับ    ;D :D ;D        

(แต่ผมป่าวไปนะ   อยู่รับ-ส่งเจ้านายจ๊ะ) 

นายผมเลิกดูละคร มาเฝ้าหน้าจอASTV
พอมีข่าวว่ารัฐบาลจะขอศาลปกครอง เพิกถอนการคุ้มครองชั่วคราวASTVในการออกอากาศ
ผมถามว่าแล้วจะทำอย่างไร เธอบอก...ก็ต้องไปที่สะพานมัฆวานฯ   ::005::




ฝากบอก ผบ.ทบ.ว่าไม่ต้องไปหรอกครับ
ศาลปกครองมีคำพิพากษาเรื่อง ASTV ให้เพิกถอนหนังสือกรมประชาสัมพันธ์ ที่ขอให้ตัดสัญญาณ   และยังให้ กสท.ชดใช้ค่าเสียหายอีกด้วย


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 09:03:26 PM
ความเป็นมาของ ASTV ครับ
คัดลอกจากตำรากฎหมายกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ของโรงเรียนเหล่าทหารพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม  คนเขียนตำรา ก็อยู่ในบอร์ดนี้แหละ

   เอเอสทีวี (Asia Satellite TV) เป็นของเอเชียไทม์ออนไลน์ ซึ่ง บริษัท ไทยเดย์ ดอตคอม จำกัด เป็นผู้รับจ้างผลิตเนื้อหา   โดยการส่งสัญญาณภาพผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังสถานีส่งสัญญาณภาพขึ้นดาวเทียมที่ ฮ่องกง ไปยังดาวเทียม NSS-6 ของ NewSkies Satellite ประเทศเนเธอร์แลนด์ และยิงสัญญาณภาพลงมา โดยใช้ South East Asia Beam ครอบคลุม บางส่วนของพม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ บางส่วนของจีนตอนใต้ อินโดนีเซีย และบรูไน โดยสามารถรับชมได้ผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียมย่าน Ku-Band ที่ความถี่ 11676 Polarization:Horizontal Symbol Rate:27500 Local Freq.:9750,10600 และทางอินเทอร์เน็ตที่ เว็บไซท์ของ เอเอสทีวี หรือทางเคเบิลท้องถิ่นที่ผู้ประกอบการอนุญาตให้ถ่ายทอดได้โดยไม่มีค่าตอบแทน   สำหรับผู้ชมใน สหรัฐอเมริกา และใน ประเทศแคนาดา สามารถรับชมช่อง ASTV NEWS1 ได้ที่ดาวเทียม Intelsat Americas5 ย่านKu-Band ที่ความถี่ 12152 Polarization:Horizontal Symbol Rate:20000
   เอเอสทีวี เริ่มต้นเมื่อปลายปี พ.ศ. 2546 เมื่อบริษัท บีทีวี อาร์เอ็นที ของ พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ได้รับสิทธิ์จากกรมประชาสัมพันธ์ ให้ขยายช่องรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เป็นช่อง 11/1 ทำรายการข่าวโทรทัศน์โดยมีรายได้จากค่าโฆษณา ถ่ายทอดผ่านดาวเทียม และเคเบิลทีวียูบีซี เป็นการอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายทำรายการโทรทัศน์ช่องใหม่ โดยใช้ใบอนุญาตเดิม และหลีกเลี่ยงข้อกำหนดเดิมที่ช่อง 11 ไม่สามารถมีโฆษณาได้
   ผู้บริหารช่อง 11 ได้ชักชวนนายสนธิ  ลิ้มทองกุล ให้รับจ้างผลิตรายการให้ช่อง 11/1 โดยใช้ชื่อว่า 11 News1 เป็นโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และถ่ายทอดทางยูบีซี ต่อมาถูกถอดออกจากยูบีซี เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 เนื่องจากปัญหาภายในของยูบีซี ที่ถูกร้องเรียน และวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับโฆษณาแฝง
   เมื่อไม่สามารถถ่ายทอดสัญญาณผ่านสัญญาณของยูบีซีได้ แต่ได้ลงทุนสร้างห้องส่ง และจัดซื้ออุปกรณ์ไปแล้ว นายสนธิ  ลิ้มทองกุล จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม มุ่งกลุ่มเป้าหมายไปที่คนไทยในต่างประเทศ ทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา และเปลี่ยนชื่อเป็น Asia Satellite TV หรือ ASTV โดยมีช่องหลักที่เป็นจุดขาย คือช่อง NEWS 1
   ในช่วงของการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เอเอสทีวีถูกตัดสัญญาณดาวเทียมของไทยคมจึงเปลี่ยนวิธีการออกอากาศโดยส่งสัญญาณภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปที่ฮ่องกง   และใช้สัญญาณดาวเทียมของเนเธอร์แลนด์ ถ่ายทอดกลับมาที่ประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย กับอนุญาตให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นในประเทศไทย นำสัญญาณไปถ่ายทอดต่อ และให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถรับชมผ่านทางเว็บไซต์ได้
   เมื่อปลายปี พ.ศ. 2548 มีความพยายามจากกรมประชาสัมพันธ์ ที่จะปิดรายการของเอเอสทีวี ด้วยข้อหาว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายควบคุมวิทยุโทรทัศน์   โดยการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง แต่ฝ่ายเอเอสทีวีได้มีการฟ้องต่อศาลปกครองกับขอรับความคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ความคุ้มครอง โดยให้เหตุผลว่า เพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ในการรับทราบการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสาร   และภายหลังก็ได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนหนังสือของกรมประชาสัมพันธ์


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ มิถุนายน 12, 2008, 09:21:13 PM
ฝากบอก ผบ.ทบ.ว่าไม่ต้องไปหรอกครับ
ศาลปกครองมีคำพิพากษาเรื่อง ASTV ให้เพิกถอนหนังสือกรมประชาสัมพันธ์ ที่ขอให้ตัดสัญญาณ   และยังให้ กสท.ชดใช้ค่าเสียหายอีกด้วย

 :D ขอบคุณครับ  ::014::

ความเป็นมาของ ASTV ครับ
คัดลอกจากตำรากฎหมายกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ของโรงเรียนเหล่าทหารพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม  คนเขียนตำรา ก็อยู่ในบอร์ดนี้แหละ

 ::005:: ::005::  ::002::  ::002::


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 13, 2008, 02:53:48 PM
มท.1.เกาะติดม็อบพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ “สมัคร" สั่ง“เหลิม”หาเหตุเอาผิดเอเอสทีวี ให้ผู้ว่าฯแจ้งความเคเบิลท้องถิ่นที่นำสัญญาณเผยแพร่

http://www.komchadluek.net/2008/06/13/x_main_a001_206913.php?news_id=206913

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000069466

..มาตรา 85 ประมวลกฎหมายอาญา

“ ผู้ใดโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด และความผิดนั้นมีกำหนดโทษไม่ต่ำกว่าหกเดือน ผู้นั้นต้อง ระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

ถ้าได้มีการกระทำความผิดเพราะเหตุที่ได้มีการโฆษณาหรือ ประกาศตามความในวรรคแรก ผู้โฆษณาหรือประกาศต้องรับโทษ เสมือนเป็นตัวการ”


ไม่แน่บางพื้นที่อาจจะต้องไป ที่สะพานมัฆวานฯ ... ::009::




หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มิถุนายน 13, 2008, 04:25:37 PM
..ในตอนหนึ่งของหนังสือเรื่อง Warrior อัตชีวประวัติที่ Aerial Sharon เขียน

ตอนชารอนเป็นเด็ก รัฐอิสราเอลยังง่อนแง่นโงนเงนอาหรับจะตีล่มเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พ่อเขาทำไร่ ไม่ห่างไปนักทหารยิวยังยิงกับอาหรับอยู่ เขาจำได้ว่าเห็นกระสุนส่องวิถีเป็นแนวๆ ที่ขอบฟ้า แต่พ่อเขาก็ยังก้มหน้าก้มตาขุดดินปลูกต้นส้มเพิ่มเพื่อให้ออกลูกในวันหน้า..

ผมอยากเห็นคนรุ่นเรามีความตั้งมั่นในคุณธรรมมากกว่านี้ กล้าที่จะเชิดหน้าชนกับความไม่ถูกต้องมากกว่านี้ ตลบแตลงปลิ้นปล้อนกันให้น้อยกว่านี้ ใช้โวหารบิดเบือนดี-ชั่วกันให้น้อยลง....เลิกละโมบในลาภที่ไม่พึงได้กันเสียที

แล้วมันจะเป็นรากแก้วแห่งต้นคุณธรรมให้ลูกให้หลานเราเอง.....

บอกตามตรงว่าพอเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งทีผมยิ่งรังเกียจผู้คน ยิ่งแก่ขึ้นผมอาจอ่อนโยนขึ้น ฝึกใจตัวเองให้เมตตามากขึ้น แต่ความรู้สึก"เหยียด"มนุษย์ยิ่งทียิ่งมาก ยิ่งเมื่อต้องมาทำงานอยู่กับกองเงินต้องลงลึกเข้าไปเตะเค้กก้อนเค้กออกจากปากพวกปอบชั้นต่ำก็ยิ่งสะอิดสะเอียนคน.....ใครมันจะตามน้ำ บอกว่าเป็นเรื่อง"ตามระบบ บ้านนี้เมืองนี้มันเป็นกันแบบนี้"ก็ตามใจ แต่ผมไม่ทำ

ผมนึกไม่ออก ว่าปู่ย่าตายายบุพการีของคนพวกนั้นเค้าสอนกันมายังไง แต่อากงผมสอนลุงสอนพ่อมาว่าอย่าทำ พ่อกับลุงๆก็สอนผมว่าอย่าทำ อย่ายอม ..... ผมไม่กล้าเป็นคนอกตัญญู

ผมคบคนไม่เคยสนใจว่ารวย-จน ไม่สนว่าสถานภาพทางสังคมจะสูงหรือต่ำ เดินเข้าสนามยิงปืนผมยกมือไหว้คนขับตุ๊กๆคนนึงทุกครั้งที่เจอหน้าแต่เคยชี้ธรณีประตูไม่ให้ผู้สมัครสส.คนนึงล่วงเข้ามาในบ้าน......เรื่องนี้อาบุญสวัสดิ์เป็นพยาน


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มิถุนายน 13, 2008, 04:34:21 PM
มท.1.เกาะติดม็อบพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ “สมัคร" สั่ง“เหลิม”หาเหตุเอาผิดเอเอสทีวี ให้ผู้ว่าฯแจ้งความเคเบิลท้องถิ่นที่นำสัญญาณเผยแพร่

http://www.komchadluek.net/2008/06/13/x_main_a001_206913.php?news_id=206913

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000069466

..มาตรา 85 ประมวลกฎหมายอาญา

“ ผู้ใดโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด และความผิดนั้นมีกำหนดโทษไม่ต่ำกว่าหกเดือน ผู้นั้นต้อง ระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

ถ้าได้มีการกระทำความผิดเพราะเหตุที่ได้มีการโฆษณาหรือ ประกาศตามความในวรรคแรก ผู้โฆษณาหรือประกาศต้องรับโทษ เสมือนเป็นตัวการ”


ไม่แน่บางพื้นที่อาจจะต้องไป ที่สะพานมัฆวานฯ ... ::009::


... ประชุมกระทรวงเมื่อเช้า ... คำสั่งออกแล้วเหรอครับ ...  :D :D :D


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 13, 2008, 04:43:47 PM
พยายามหาว่า มท.๑ บอกหรือไม่ว่า ผู้ให้บริการเคเบิ้ลโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิดอะไรถึงจะใช้มาตรา ๘๕ ครับ



หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มิถุนายน 13, 2008, 04:44:22 PM



เรื่องการ    ระงับการส่งสัญญาณ  ASTV  



โดยส่วนตัว    .......    ผมไม่เห็นด้วย

ผมอยากให้    ประชาชนส่วนใหญ่    ......    เป็นผู้ตัดสินใจ    มากกว่า


 ;D




หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 13, 2008, 06:37:48 PM
ท่าน ดร.เฉลิม  คงลืมนึกถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๕
   มาตรา ๔๕  บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น
   การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัวหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันหรือระงับความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชน
   การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรานี้ จะกระทำมิได้
   การห้ามหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นทั้งหมดหรือบางส่วน หรือการแทรกแซงด้วยวิธีการใดๆ เพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรานี้ จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง
   การให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะกระทำในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม แต่ทั้งนี้จะต้องกระทำโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 13, 2008, 08:01:08 PM
ดร. ท่านคงเข้าใจว่า รัฐธรรมนูญ เป็นส่วนหนึ่งของ ประมวลกฎหมายอาญา... :~) :~)


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: papae~ ที่ มิถุนายน 13, 2008, 08:28:07 PM
เรื่องระงับการส่งสัญญาณ  ASTV 
อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำถูกต้องตามกฏหมายหรือป่าว

ถ้าถูก คงไม่มีไร
แต่ถ้าไม่ถูก เหลิมคงโดนจัดการเอง ภายหลัง

ส่วนตัวไม่อยากให้ปิดครับ ทั้งๆที่ไม่เคยดู
เหตุผล..... หุหุ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 13, 2008, 09:32:45 PM
เรื่องระงับการส่งสัญญาณ  ASTV 
อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำถูกต้องตามกฏหมายหรือป่าว

ถ้าถูก คงไม่มีไร
แต่ถ้าไม่ถูก เหลิมคงโดนจัดการเอง ภายหลัง

ส่วนตัวไม่อยากให้ปิดครับ ทั้งๆที่ไม่เคยดู
เหตุผล..... หุหุ

พอที่จะ..ชี้แนะเหตุผลได้ไหมครับ...


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ มิถุนายน 13, 2008, 09:33:49 PM
 พรุ่งนี้ก็เช้าแล้วครับ...  :D   ผมไม่เคยให้เครดิตกับคำพูดของคนที่มีปมด้อยอย่างนายเป็ดง่อยคนนี้เลยครับ ตั้งแต่สมัย "นายกชาติชาย" แล้ว...  ::006::
  



หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 13, 2008, 09:58:34 PM
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

หมวด ๑
บททั่วไป

มาตรา ๖  รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้ บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้


หมวด ๓

สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย

ส่วนที่ ๗

เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน

มาตรา ๔๖  พนักงานหรือลูกจ้างของเอกชนที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อมวลชนอื่น ย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็นภายใต้ข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าของกิจการนั้น แต่ต้องไม่ขัดต่อจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ และมีสิทธิจัดตั้งองค์กรเพื่อปกป้องสิทธิ เสรีภาพและความเป็นธรรม รวมทั้งมีกลไกควบคุมกันเองขององค์กรวิชาชีพ

ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจในกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อมวลชนอื่น ย่อมมีเสรีภาพเช่นเดียวกับพนักงานหรือลูกจ้างของเอกชนตามวรรคหนึ่ง

การกระทำใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าวหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะของบุคคลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและไม่มีผลใช้บังคับ เว้นแต่เป็นการกระทำเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: papae~ ที่ มิถุนายน 13, 2008, 10:06:38 PM
เรื่องระงับการส่งสัญญาณ  ASTV 
อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำถูกต้องตามกฏหมายหรือป่าว

ถ้าถูก คงไม่มีไร
แต่ถ้าไม่ถูก เหลิมคงโดนจัดการเอง ภายหลัง

ส่วนตัวไม่อยากให้ปิดครับ ทั้งๆที่ไม่เคยดู
เหตุผล..... หุหุ



พอที่จะ..ชี้แนะเหตุผลได้ไหมครับ...

เป็นไปอย่างที่คิด ปิดแล้ววุ่นแน่
ถ้าคิดจะปิดจิงๆ ต้องไปหาวิธีอื่นครับ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 13, 2008, 10:10:01 PM
ทันทีทำคำสั่ง มท .1 ออกมา  ยุทธศาสตร์ดาวกระจายได้เริ่มจุดติดขึ้นมา    ทั้งๆที่พันธมิตรปลุกกระแสตั้งนานยังจุดไม่ติดดี

.....เป็ด เอ๋ย เป็ด .....


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 13, 2008, 10:14:13 PM
ทันทีทำคำสั่ง มท .1 ออกมา  ยุทธศาสตร์ดาวกระจายได้เริ่มจุดติดขึ้นมา    ทั้งๆที่พันธมิตรปลุกกระแสตั้งนานยังจุดไม่ติดดี

.....เป็ด เอ๋ย เป็ด .....

เป็ด... ก็... คิดและทำแบบ... เป็ด....


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ มิถุนายน 13, 2008, 10:21:03 PM
ไปดูมาที่จวนผู้ว่าขอนแก่นประตูทางเข้าอส.ประมาณ20นาย    รถติดเข้าไม่ได้เลยกลับมาดูASTVที่บ้านครับ


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มิถุนายน 14, 2008, 04:00:42 PM

พี่สมชายตอบไว้ดีกว่าที่ผมจะตอบได้ครับ  ::002::

ข้อความที่เน้นไว้ทำให้นึกถึงวิธีคิดของคนในบ้าน พ่อผมอายุร่วม60แล้วยังออกมาขุดดินปลูกต้นไม้ ส่วนใหญ่เป็นไม้ผลอายุยืน

ตอนนั่งคุยเล่นกันเรื่องต้นไม้ที่เอามาลงหลังบ้าน พ่อบอก"ไม่แน่ใจหรอกว่ามันจะออกผลทันให้พ่อได้กิน แต่ลูกๆผมมันได้กินกันแน่นอน"

หลายปีมานี่เจอแต่เรื่องจริยธรรมแบบบิดๆเบือนๆ ผู้คนที่สายตาแคบสั้นก็ออกมาหยอดแล้วหยอดเล่าให้เราก้มหัวยอมรับความโสมมฉ้อฉลว่าเป็นธรรมดาของโลก

คนไทยหลายสิบล้าน ยังเหลือซักกี่คนที่ยังเชิดหน้ายืดอกซดกับมนุษย์อัปรีย์พวกนี้ ?

เรากำลังปลูกต้นอะไรไว้ให้ลูกหลาน ..... สบตาเด็กๆแล้ว ในหัวใจยังมียางอายหยดออกมากันบ้างไหม ? ? ?


แฮ่ๆ... ขอบคุณครับ...

นายสมชายปลูกบ้านในที่ดินตัวเอง ยังย้ายตำแหน่งบ้านหลบต้นไม้ครับ... หลายคนถามว่าทำไมไม่ตัด นายสมชายกับเมียคิดตรงกันครับ ว่าเราสองคนยังไงก็อายุไม่เกินร้อย... แต่ต้นไม้มันอยู่ต่อ...

อยู่ต่อไปดูลูกหลายนายสมชายครับ... เย้


หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 15, 2008, 12:33:00 AM
"ไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติที่ให้เปิดอภิปรายฯในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ 

ประกอบกับจะมีการอภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณอยู่แล้ว ซึ่งเหมือนกับการอภิปรายรัฐบาลกลายๆ
 
อีกทั้งติดขัดในเรื่องเวลาที่มีไม่เพียงพอ เพราะจะต้องพิจารณาทั้ง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีกหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็น ร่าง พ.ร.บ. การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  ร่าง พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีศาลรัฐธรรมนูญ และ ร่าง พ.ร.บ. จัดสรรคลื่นความถี่ "


มาตรา ๑๗๙   ในกรณีที่มีปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่คณะรัฐมนตรีเห็นสมควรจะฟังความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา นายกรัฐมนตรีจะแจ้งไปยังประธานรัฐสภาขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้รัฐสภาจะลงมติในปัญหาที่อภิปรายมิได้





หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องอารยะขัดขืน
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มิถุนายน 15, 2008, 10:49:32 AM
พรุ่งนี้ก็เช้าแล้วครับ...  :D   ผมไม่เคยให้เครดิตกับคำพูดของคนที่มีปมด้อยอย่างนายเป็ดง่อยคนนี้เลยครับ ตั้งแต่สมัย "นายกชาติชาย" แล้ว...  ::006::
  



เช้าแล้ว ก็เปลี่ยนใจครับ