เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 06:08:36 PM



หัวข้อ: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 06:08:36 PM
ข้อมูลจาก http://talk.mthai.com/topic/16115

ผมเป็นกัปตันเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่ขอบอกชื่อนะครับ ขณะนี้เรือผมได้ทอดสมออยู่ที่หาดแหลมเจริญ เพื่อรอรับน้ำมันดีเซลจาก IRPC หรือ TPI เก่าละครับ
แต่เมื่อปตทได้ซื้อไปก็เปลี่ยนชื่อเป็น IRPC ผมรับน้ำมันเพื่อส่งไปที่เขมรและเวียดนาม
เรื่อผมบรรทุกก๊าส LPG ไม่ได้เพราะไม่ใช่เรือบรรทุกก๊าซ แต่ผมมีเพื่อนที่เป็นกัปตันเรือบรรทุกแก๊ส LPG อยู่หลายคน
พวกจะมารับแก๊ส LPG จาก IRPC เพื่อไปส่งเขมรและเวียดนามเหมือนผมเดือนละหลายเที่ยวเรือ
ขณะที่ผมกำลังโพสอยู่นี่ก็มีเรือแก๊สรอรับอยู่ 3 ลำ ตั้งแต่ผมเดินเรือมายังไม่เคยเห็นเรือแก๊สที่นำเข้าเลยแม้แต่ลำเดียว
มีแต่เรือส่งออก ปตท บอกได้นำเข้าแก๊ส มาจากต่างประเทศปีละเป็นล้านตัน แล้วเขาเอาเข้ามาทางไหนละครับ
ถ้าทางเรือผมไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่เรือส่งออก ลองมาดูที่แหลมเจริญที่ระยองซิครับมีเรือมาคอยรับทุกวันครับ
เพื่องส่งไปเขมร เวียดนาม แล้วไอ้นักวิชาการด้านน้ำมันที่มาออกรายการตาสว่างนะครับ เขาเป็นอดีตคนที่ทำงานปตท
สิ่งที่เขาพูดนะ เป็นการแก้ต่างให้ปตททั้งนั้น ปตท ได้ไปลงทุนในการวางท่อแก๊ส NGV จากมาเลเซีย และพม่า ตั้งหลายแสนล้านบาท
ปตทจึงต้องการให้คนไทยใช้ NGV เพราะก๊าซ NGV เขามีกันทุกประเทศละครับ
เขมรตอนนี้ก็เจอ ก๊าซ NGV อยู่หลายหลุม เวียดนามก็เจอ พม่าเขาก็มีเยอะ ทั่วโลกเขามีกันหมด
ถ้าคนไทยไม่ใช่ NGV แล้วปตท จะเอาไปขายใครละครับ ต้องบังคับให้คนไทยใช้ให้ได้
โอยอ้างว่าก๊าซ NGV ปลอดภัยกว่า จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ อันตรายพอๆกันละครับ
เพราะ NGVเป็นก๊าซที่มีแรงดันสูง โอกาศที่จะระเบิดก็ยอมมีสูงตามไปด้วย
ถ้ามันอยู่ในกระโปรงหลังรถ มันจะออกไปไหนละครับ มันก็จะระเบิดอยู่ที่ท้ายรถละครับ
ตอนนี้ยังไม่มีเรือลำไหนสามารถบรรทุกก๊าซ NGV ได้เลย
เรือที่บรรทุก LPG ไม่สามารถบรรทุก NGVได้ เพราะ NGV มีแรงดันสูงกว่า LPG หลายเท่า ปตท เลยไม่สามารถส่งออกได้
นอกจากมาหลอกขายคนไทย ตอนนี้โรงกลั่นเป็นของปตท เกือบหมดแล้ว
ปั้มน้ำมันที่ไม่มีโรงกลั่นก็ต้องไปซื้อน้ำมันจากปตทมาขายอีกที เลยต้องขายแพงกว่าปตท
ปตทไม่ได้ช่วยอะไรคนไทยเลยนะครับ สำหรับเรื่องการบอยคอตปั๊ม PTT รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นั้น บอกตามตรงว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
แต่อยากจะบอกข้อมูลในอีกแง่หนึ่งไว้ให้ทราบว่าการไม่เติมน้ำมันปั๊ม ปตท.นั้น ปตท.แทบจะไม่เดือดร้อนอะไรเลย
คนที่เดือดร้อนจริง ๆ คือเจ้าของกิจการนั้น ๆ ครับ เพราะอะไรนะเหรอ
ก็อย่างที่ท่าน ๆ ทราบกันดี ว่าโรงกลั่นตอนนี้ใครคุม เค้าไม่ขายน้ำมันในปั๊มเค้าเอง เจ้าอื่นก็ต้องมาซื้อกับเค้าอยู่ดี
หรือหากทุกคนหันไปเติมแต่เจ้าอื่น น้ำมันของเจ้าอื่นก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของทุกคน
ถามต่อว่างั้นแล้วทำไมเจ้าของกิจการไม่เปลี่ยนไปขายน้ำมันให้เจ้าอื่นละ
ตอบ ก็เพราะติดสัญญาทาส ของ ปตท. ไงครับ
หากท่านที่อยู่ตาม ตจว. ลองสังเกตุดูสักนิด รูปแบบของปั๊ม ปตท. เมื่อก่อนปั๊มใหญ่ๆ จะมีออฟฟิศอยู่กลางปั๊มเพื่อจะได้ดูได้ทั่วถึง
ทั้งซ้าย-ขวา แต่ ปตท. อ้างเหตุห่าเหวไรมิทราบ (ขออภัยที่ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ) บอกออฟฟิศต้องไปอยู่ท้ายปั๊มเท่านั้น
คราวนี้แหละครับ การย้ายอ๊อฟฟิศและหัวจ่ายต้องลงทุนอีกกี่ล้าน
(ถ้าเจ้าของกิจการมีทุน ลงทุนเองก็แล้วไป แต่ถ้าไม่มีทุน ปตท. ออกให้ + สัญญาทาสต่อไปอีก 7-8 ปี )
แล้วไหนจะยังเรื่อง ร้านกาแฟอเมซอนอีก ปั๊มไหนไม่มี ถือว่าไม่ได้มาตรฐานของ ปตท.
(แล้วถามว่าค่าเฟรนด์ชายนะกี่แสนแล้วยิ่งเป็น ตจว. Volum ของผู้บริโภค ต่อวัน อีกกี่ปีมันจะคุ้มกับค่าเฟรนด์ชายและการทำร้านที่ต้องลงทุนไป)
ทั้งที่โดยปกติทุกปั๊มเดี๋ยวนี้ เค้าก็มันจะมีร้านขายกาแฟสดกันอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ใช่เบนด์ดังๆ ราคาแพงๆ เท่านั้นเอง
แต่ถ้าพูดถึงรสชาตินะ บอกตรงๆ มันไม่ด้อยกว่าเบรนด์ดังๆ เลยทีเดียว ดีไม่ดีอาจรสชาติดีกว่าซะด้วยซ้ำ
ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูลอีกส่วนหนึ่งไว้พิจารณานะครับ ว่าการเอาเปรียบของนายทุนใหญ่นั้น
เค้าไม่ได้เอาเปรียบแค่ที่ปลายทางอย่างผู้บริโภคเท่านั้น เค้าเอาเปรียบตรงไหนได้เค้าทำหมดหล่ะครับ
ปล.ตอนผมเด็ก ๆ รู้สึกดีมากกับ ปั๊ม ปตท. เพราะน่าเข้า น่าเติม ปั๊มเยอะไปที่ไหนๆ ก็เจอแต่ปั๊ม ปตท.
ห้องน้ำสะอาด ซึ่งถือเป็นตัวอย่างในการพัฒนารูปแบบของปั๊มน้ำมันในยุคนั้นเลยทีเดียว
แต่พอได้มารับรู้เรื่องราวอะไรต่างๆ ในช่วงหลัง บอกตามตรงถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผมก็ไม่เติมและใช้ผลิตภัณฑ์ของ ปตท. แล้วเช่นกัน
Mr.Lek
ผู้บริหารปต... เก่า

อีกหนึ่ง

ได้มีการรวบรวมข้อมูลและประมวลสถานะการ์ณต่างๆที่อาจ จะเกิดขึ้น ดังนี้
เรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทย ไม่ว่าเป็น ดีเซล เบนซิน แก๊สโซฮอล NGV หรือ
LPG ต่างก็ยังไม่ได้ลอยตัวครับ ถ้าให้ลอยตัวเหมือนกันหมดราคาเชื้อเพลิงที่ กล่าวถึงก็คงจะขึ้น
ราคา แต่คงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตรครับ แต่ที่ ปตท. ซึ่งไม่ใช่หน่วย งานของรัฐ เป็นบริษัทเอกชน
เช่น เอสโซ เชลล์ มาออกข่าวว่าต้องขึ้นราคาแก๊ส LPG อีก 11 บาทนั้น เขาอ้างอิงจากราคาตลาด
โลก แต่ประเทศไทยผลิตได้เองส่วนหนึ่งจาก แหล่งผลิตในประเทศ และจากการกลั่นน้ำมันดิบ
ประเทศในยุโรป ไต้หวัน เกาหลี อินเดีย และอีกหลายประเทศ รัฐบาลเขามีนโยบาย สนันสนุนผู้
ใช้แก๊ส ทั้ง NGV และ LPG ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม ในครัวเรือน หรือในการขนส่ง ด้วย
สาเหตุที่ว่า แก๊ส LPG และ NGV เป็นเชื้อเพลิงสะอาด (clean fuel) หรือพลังงานสะอาด (clean
energy) ลดมลภาวะในอากาศที่เกิดจากการใช้ เชื้อเพลิงประเภทเบนซินหรือดีเซล ประโยชน์ที่
ได้รับจากการสนับสนุนตรงนี้คุ้มกว่าผลเสียที่ก่อให้เ กิดทางสังคม เช่นโรคทางเดินหายใจ หรือ
โรคอื่นๆ มาก หลายประเทศ รัฐบาลเขาออกมาประกันราคา NGV และ LPG ว่าจะไม่ขึ้นภายใน
เวลาหนึ่ง เพื่อส่ง เสริมให้ประชาชนเขาลงทุนติดตั้งระบบแก๊สในรถยนต์
ในประเทศไทย การใช้แก๊ส LPG ในรถยนต์มีมามากกว่า 20 ปีเท่าทีผมจำความได้ หรือมากกว่า
นั้น ถ้าจำไม่ผิดรัฐบาลเองในยุคก่อนมีนโยบายส่งเสริมการใช ้ LPG เหมือนกับประเทศอื่นๆ
ด้วยซ้ำ แต่มาในยุค ปตท. แปรสภาพจากรัฐวิสาหกิจที่เป็นสมบัติของคนทั้งประเทศ ไปเป็น
บริษัทเอกชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ (ด้วยการขายหุ้นราคาถูกกว่าราคาจริงเบื้องต้น เปรียบเสมือน
เอาสมบัติของประเทศมาขายในราคาต่ำกว่าราคาจริง ให้กับพวกพ้องคนรวยไม่กี่ตระกูล)
รัฐบาลกับมีนโยบายสนับสนุนการใช้ NGV ในรถยนต์ โดยให้คำมั่นว่าจะคงราคา NGV ไว้ที่ กก.
ละ 8.50 บาท ส่วน LPG ที่เคยส่งเสริมนั้นไม่พูดถึง แต่มา เร็วๆ นี้ ปตท. และ รัฐบาล ออกมาอ้าง
ว่าต้องขึ้นราคา LPG เพราะอุ้มสุดตัว และบีบ ผ่านทาง ปตท. ไม่ให้เกิดปั้มแก๊ส LPG หรือด้วย
วิธีการอื่นๆ และจะขึ้นราคา NGV อีก
... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน สนับสนุนการใช้ NGV
สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG มีดังนี้
1. ปตท. เป็นผู้ผูกขาดธุรกิจ NGV แต่ผู้เดียวในประเทศไทย ไม่มีการแข่งขัน
2. ปตท. รับซื้อแก๊สธรรมชาติ (natural gas) จากพม่าผ่านทางท่อส่งมายังราชบุรี ซึ่งการวาง
ท่อส่งแก๊สนี้ทำให้เกิดปัญหากระทบกระเทือนสภาพแวดล้อ ม ซึ่งเป็นการลงทุนของคนไทยทั้ง
ประเทศ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ปตท. ที่เรารู้กันอยู่ ปตท. จำเป็น ต้องขาย NGV ให้มากที่สุด
เพื่อคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายให้พม่าเป็นค่าแก๊ส
3. ปตท. ต้องแสดงผลประกอบการเป็นกำไร เพื่อให้ผู้ถือหุ้น (ใหญ่) พอใจ เพื่อให้ผู้บริหาร ปตท.
ได้อยู่ในตำแหน่ง ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินเดือนค่าจ้าง สวัสดิการที่สูงลิ่ว
4. นักการเมืองที่ดูแลกระทรวงพลังงาน เป็นอดีตพนักงานระดับสูงของ ปตท.
5. ปตท. สนับสนุนการใช้ NGV ด้วยการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสนับสนุนราคาถังแก๊ส
NGV จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ยอมลงทุนสร้างปั้มแก๊ส NGV ให้ทั่วประเทศ และระบบส่งแก๊ส NGV
ไม่สามารถหาผู้ร่วมลงทุนจากเอกชนรายอื่นๆ ได้ เพราะเขารู้ว่าไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เป็น
เหตุผลทางการเมืองและผลประโยชน์ของ ปตท. เอง (ขอย้ำว่าไม่ใช่ผลประโยชน์ต่อสังคม) อีก
ทั้งข้อจำกัดทางเทคนิค ไม่เป็นที่นิยมของผู้ใช้รถยนต์เท่า LPG ปตท. จึงต้องหามาตรการอื่นมาบีบ
การที่ ปตท. ทำอย่างนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจเพราะเป็นบริษัทเอกชน ย่อมหาหนทางใดๆ ก็ได้เพื่อให้
ได้กำไรสูงสุดเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น (ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่ใช่ผลประโยชน์ของสังคม) แต่การ
ที่ภาครัฐผ่านทางกระทรวงพลังงานเลือกปฏิบัติโดยสนับส นุนการใช้ NGV ในรถยนต์สุดตัว
โดยไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ เช่น ระบบการส่งแก้ส NGV ปั้มแก๊ส NGV และบีบการใช้
LPG ในรถยนต์ ถือว่าไม่เหมาะสม รัฐบาลควรให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างถูกต้องถึงผลได้ผล
เสียต่อสังคมของการใช้พลังงานทางเลือก และควรกำกับดูแลไม่ให้บริษัทเอกชนบริษัทใดบริษัท
หนึ่งเอาเปรียบสังคม
เรื่อง ปตท. บีบไม่ให้ตั้งปั้มแก๊ส LPG เป็นเรื่องจริงครับ เมื่อ 26 ธ.ค. 48 ผมคุยกับ เจ้าของกิจการ
โรงบรรจุแก๊สแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เขาบอกว่าค่าการตลาดจากการขายแก๊ส LPG สูงคุ้มค่ากับ
การลงทุนเปิดปั้มแก๊สเติมรถยนต์มากกว่าการเปิดปั้มเบ นซิน ดีเซล แต่ ปตท. บีบไม่ให้ตั้ง มิ
ฉะนั้นจะไม่ส่งแก๊ส LPG ให้ และแก๊สที่มาส่งก็มาจากแหล่งผลิตในประเทศที่ลานกระบื อนี่เอง
ส่วนการตั้งปั้มแก๊ส NGV เขาไม่กล้าลงทุน เพราะแพงมาก มีรถยนต์ใช้น้อยไม่คุ้ม และมี
อุปสรรคเรื่องระบบขนส่งแก๊ส NGV
... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน สนับสนุนการใช้ NGV
สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG
LPG สามารถกลั่นจาก น้ำมัน(ซึ่งมีต้นทุนสูงนำเข้า) และก๊าซธรรมชาติ(ซึ่งมาจากอ่าวไทยของ
เราเอง) NGV (ก๊าซมีเทน)ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติซึ่งมีอยู่ประมา ณ 66 mol% LPG(c3+c4)
6 mol% แล้วทำไมจะไม่ควรสนับสนุนการใช้ NGV จะซื้อน้ำมันต่างชาติมากลั่นทำไม
อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงพลังงานที่เป็นข้อมูลราชการ ที่
http://www.eppo.go.th/info/T25.html
เรานำเข้า natural gas ปี 2005 156,733 bbl/day จากปริมาณการใช้ 568,742 bbl/day หรือ 27.55
% ของการใช้ในประเทศไทย ซึ่งก็คือนำเข้าจาก พม่า เสียเงินตราต่างประเทศให้พม่า
ข้อมูลการส่งออก LPG ครับ จากกระทรวงพลังงาน ตาราง 34 ที่
http://www.eppo.go.th/info/T34.html
ไทยส่งออก LPG ปี 2005 เฉลี่ยเดือนละ 150 ล้านลิตร เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 8.5 % จากปี 2004 (
นั่นคือส่งออก LPG มากขึ้น) ขณะที่ปริมาณแก้ส LPG ที่ใช้ในรถยนต์ของไทยประมาณปีละ 100
ล้านลิตร หรือแค่ 10% ของแก้ส LPG ที่ส่งออกทั้งปี ยังมีเหลือ อีกมากสำหรับสนองความต้อง
การในประเทศซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม
LPG ได้มาจากสามแหล่งครับ คือ หนึ่ง เป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบทำเบนซิน ดีเซล
ถ้าไม่ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สอง ปนมากับน้ำมันดิบที่ขุดได้จากบ่อน้ำมันหรือแก้ส ถ้าไม่ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง
สาม กลั่นจากแก้สธรรมชาติ (natural gas) ส่วน NGV ได้มาจากการกลั่นจากแก้สธรรมชาติ
NGV เหมาะสำหรับรถสาธารณะขนาดใหญ่เนื่องจากอุปกรณ์ยุ่งยา กราคาสูงและต้องใช้ถังแก๊ส
ความดันสูงจำนวนมาก
จากการศึกษารายงานนโยบายการใช้พลังงานของ APEC ที่ไทยเป็นสมาชิกหนึ่งในยี่สิบเอ็ด
ประเทศ ไทยเป็นประเทศเดียวที่จำกัดการใช้ LPG และส่งเสริม NGV ในรถยนต์ทั้งๆ ที่ผลิต
LPG ได้เกินความต้องการต้องส่งออกไปขาย และยังต้องสั่งแก้สธรรมชาติ จากพม่าเป็น
ปริมาณประมาณหนึ่งในสี่ของการใช้ในประเทศ
ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย ต่างส่งเสริมและสนับสนุนการใช้แก๊ส LPG ในรถ
ยนต์ ด้วยมาตรการทางภาษีและสนับสนุนราคา LPG ให้ต่ำกว่าเบนซิน ดีเซล ประมาณครึ่งหนึ่ง
ประเทศที่กล่าวมายกเว้นออสเตรเลียต่างต้องนำเข้า LPG ไม่มีแหล่งเองเหมือนประเทศไทย
ฮ่องกงเอง ได้เปลี่ยนให้รถแทกซี 90 เปอร์เซ็นต์มาใช้แก้ส LPG ด้วยการให้เงินสนับสนุน และ
กำลังมีโปรแกรมใหม่ที่จะเปลี่ยนรถบัสเล็ก 5,000 คันมาใช้แก๊ส LPG(ย้ำ LPG) ด้วยเงินสนับ
สนุนและมาตรการส่งเสริมของรัฐบาล
เราผลิต LPG ได้ปีละประมาณ 3,200 ล้านลิตร ส่งออกประมาณ 800 ล้าน (25%) ใช้กับยานยนต์
(แบบเว่อร์ๆ 2 เท่าเลย) 200 ล้านลิตร ที่เหลืออีก 2,200 ล้านลิตร หายไปไหนครับ??? ไปอยู่ภาค
ครัวเรือน ให้ประชาชนใช้หุงต้ม 1,000 ล้านอยู่ภาคอุตสาหกรรม ทำอาหาร ทำแก้ว หลอมโลหะ
ฯลฯ อีก 1,200 ล้าน
แล้วไอ้ที่มาโกหกปาวๆๆๆ ว่า รถยนต์ใช้แกส ทำให้โครงสร้างพลังงานเสียหาย เพราะรัฐฯ ต้อง
ชดเชยถึงกิโลละ 11 บาท .. หรือลิตรละ 6 บาท (มาได้งัยก็ไม่รู้) .. ชดเชยให้ใครกัน?
ชดเชยให้คนใช้รถ .. 200x6 = 1,200 ล้าน
ชดเชยให้คนทำกับข้าวกิน .. 1,000x6 = 6,000 ล้าน (สาธุ)
ชดเชยให้พ่อค้านายทุน ผลิตสินค้า = 1,200x6 = 7,200 ล้าน (ก็ .. ยังดี .. ของจะได้ไม่แพง)
ชดเชย ((Embedded image moved to file: pic06840.gif)Huh!!!!?? ชดเชยทำไม) ให้กับการ
ส่งออก 800x6 = 4,800 ล้าน!!!!!
บ.น้ำมัน ไม่รวยพุงปลิ้นวันนี้ ก็ไม่รู้จะพูดงัยแล้ว...
เบนซิน91 หรือเบนซิน95 ต้องนำเข้าน้ำมันดิบ 100 %
แก๊สโซฮอล นำเข้าเป็นน้ำมันดิบเพื่อกลั่นเป็นเบนซิน 90 % และยังเป็นเอธานอลส่วนหนึ่งที่เรา
ผลิตไม่พอ ดังนั้นเท่ากับนำเข้ามากกว่า 90 % แต่รัฐบาลโปรโมตสุดลิ่มทิ่มกบาล
LPG ไม่ต้องนำเข้าเพิ่มเติม ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบส่วนหนึ่ง กับแยกจากแก๊ส
ธรรมชาติของไทยหรือพม่าอีกส่วนหนึ่ง มีเหลือขายต่างประเทศ ลองใช้หัวแม่เท้าคิดดูก็แล้วกัน
ครับ ใช้เบนซิน 100 ล้านลิตร หรือแก๊สโซฮอล 90ล้านลิตร ก็ต้องนำเข้าน้ำมันดิบในจำนวนที่มากกว่า

ใช้ LPG 100 ล้านลิตร ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพราะจากกระบวนการกล ั่นเหลือ ใช้จน
ต้องขายต่างประเทศ การนำLPG 100 ล้านลิตรมาใช้แทนน้ำมัน เมื่อเทียบกับการใช้เบนซิน 90
ล้านลิตร หรือ เบนซินในแก๊สโซฮอล 80กว่าลิตรแบบไหนจะเสียเงินตราของชาติมากกว่ากัน(ให้
อัตราสิ้นเปลืองLPGมากกว่าประมาณ 10 %)แบบไหนประหยัดเงินตราของชาติมากกว่ากัน ต่อ
ให้คิดโดยเสมอภาคนั่นคือหากชดเชยก็ชดเชยเท่ากัน หรือไม่ชดเชยก็ต้อง ไม่ชดเชยเหมือนกัน
ค่าการตลาดต่อลิตรเท่ากัน
***จุดที่จะประหยัดเงินตราต่างประเทศมากที่สุดคือ จุดที่มีจำนวนผู้ใช้ LPG มากขึ้นจนแทบ
ไม่มีเหลือส่งออก เพราะเราก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่าเดิม หากจำนวนคนที่ใช้ LPG เพิ่ม
ขึ้นจากเดิมจนถึงจุดที่เราแทบไม่เหลือ LPG ส่งออกนอกนั้น ใช้เบนซินหรือโซล่า หรือแม้แต่
แก๊สโซฮอลก็ตาม จะต้องนำเข้าน้ำมันดิบอีกเท่าไหร่
อย่าเพิ่งไปกลัวเลยครับ ผมว่าที่ปตท ออกมาขู่เรื่องราคาแก๊ส lpg ว่าราคาจะลอยตัว ราคาที่แท้
จริงต้องบวกเพิ่มอีก 9บาท ต่อลิตร ตกลิตรละ18บาท สงสัยจะเป็นอุบาย ของปตท ที่จะทำให้
คนที่คิดจะติดlpg ลังเลใจแล้วมาติด ngvแทน เพราะปัจจุบัน ngv ขายไม่ออก ที่เขาบอกว่าlpg
ราคาขึ้นเป็น600ดอลล่า/ตัน ถ้าวิเคราะห์ดูดีๆ ตันหนึ่งมี 1000 กก 1กกมี1.8ลิตร 1ตันเท่ากับ 1800
ลิตร 600ดอลล่าเท่ากับ 24000บาท คิดแล้วลิตรหนึ่งตก 13บาทกว่าเท่านั้นเอง นี่ยังไม่รวมถึง
แหล่งที่มาของราคาที่เขาใช้เป็นราคากลางด้วยว่า600ดอ ลล่า/ตัน มาจากที่ไหน ที่อื่นที่ถูกกว่านี้
ก็มี เช่นซื้อมะม่วงแถว ต่างจังหวัด ราคาย่อมถูกกว่าที่ไปซื้อที่สีลมอยู่ดี อีกอย่างlpg เราก็ผลิตได้
เองบางส่วน จะมาอ้างราคาตลาดโลกได้อย่างไร ทำไมไม่ตั้งราคาขาย มะม่วงทุเรียน และผลผลิต
ทางการเกษต ที่เราผลิตได้ในประเทศ ให้มีราคาสูงเหมือนที่ขายในญี่ปุน ในอเมริกาละ โดยอ้าง
ราคาตลาดโลกบ้าง ขายทุเรียนลูกละซัก2000บาทไปเลยซิ คิดว่าประชาชนโง่ เหมือนตู๊ดๆตู๊ดๆตู๊ดๆตู๊ดๆเหรอ
ครับ รัฐบาลอย่ามาขูดรีดขูดเนื้อประชาชนเลยครับ
นี้คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ขอให้ทุกท่านร่วมหาทางแก้ไขอีกทั้ง รัฐบาลเราคงหวังเพิ่ง
พาอาศัยไม่ได้แล้ว



หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 08:01:31 PM
 :) จะขอกล่าวเรื่องคุณสมบัติของก๊าซให้ทราบ เรื่องธุรกิจหรือเทคติกการตลาดไม่ขอกล่าวถึง...

ความแตกต่างระหว่างก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas Vehicles: NGV) และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas: LPG)

• ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนซึ่งมีองค์ประกอบของก๊าซมีเทน (Methane) เป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถนำไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้

• ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ซึ่งมีองค์ประกอบของก๊าซโพรเพน (Propane) เป็นส่วนใหญ่ ซื่งสามารถนำไปเป็นสารตั้งต้นใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

- โดยทั่ว ๆ ไปแบ่งอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้เป็น  2  ขั้นตอน  คือ
   1. อุตสาหกรรมขั้นต้น  เป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตสารเคมีซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำหรับอุตสาหกรรมขั้นต่อเนื่อง โดยนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตสารเคมีโมเลกุลเล็ก ๆ ที่เรียกว่า มอนอเมอร์ ซึ่งสามารถนำไปผลิตพอลิเมอร์ได้ เช่น นำอีเทนและโพรเพนมาทำให้เป็นเอทิลีน (อีทีน) และโพรฟิลีน (โพรพีน) ซึ่งรวมกันเรียกว่า โอเลฟิน  ใช้เนฟทาในการผลิตสารอะโรมาติก  เช่น เบนซิน โทลูอีน และไซลีน โดยเฉพาะเบนซีน  เมื่อทำปฏิกิริยากับเอทิลีน  จะได้สไตรีน  ซึ่งเป็นมาอนอเมอร์อีกชนิดหนึ่ง
   
   2.อุตสาหกรรมต่อเนื่อง  เป็นการนำมอนอเมอร์ที่ได้จากอุตสาหกรรมขั้นต้นมาทำให้เป็นพอลิเมอร์  เช่น พลาสติก เส้นใยสังเคราะห์  ยางสังเคราะห์  สารซักล้างและตัวทำละลายชนิดต่าง ๆ เป็นต้น  ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากอุตสาหกรรมขั้นต่อเนื่องนี้เป็นสารตั้งต้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมท่อพลาสติก เส้นใย  ผงซักฟอก สี  กาว  ถุงพลาสติก และขวด เป็นต้น  ผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจัดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะทำให้เกิดอุตสาหกรรมต่าง ๆ จำนวนมาก 

 :) ทีนี้ประเทศเรามีก๊าซทั้งสองประเภท สามารถผลิตขึ้นได้เอง และสามารถส่งออกไปขายได้ และก๊าซทั้งสองประเภทสามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงให้กับยานยนต์ให้พลังงานได้เหมือนๆกัน ก็คล้ายๆกับว่าเราต้องการจะอยากได้น้ำร้อน ทีนี้เราจะต้องเลือกว่าเอาไม้สักที่เรามี หรือเอาไม้ยางพารา ไปเป็นฟืนต้มน้ำเพื่อให้ได้น้ำร้อน


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ภูปทุม-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 08:18:43 PM
ร้านกาแฟอเมซอนอีก ปั๊มไหนไม่มี ถือว่าไม่ได้มาตรฐานของ ปตท.
(แล้วถามว่าค่าเฟรนด์ชายนะกี่แสนแล้วยิ่งเป็น ตจว. Volum ของผู้บริโภค ต่อวัน อีกกี่ปีมันจะคุ้มกับค่าเฟรนด์ชายและการทำร้านที่ต้องลงทุนไป)
ทั้งที่โดยปกติทุกปั๊มเดี๋ยวนี้ เค้าก็มันจะมีร้านขายกาแฟสดกันอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ใช่เบนด์ดังๆ ราคาแพงๆ เท่านั้นเอง
แต่ถ้าพูดถึงรสชาตินะ บอกตรงๆ มันไม่ด้อยกว่าเบรนด์ดังๆ เลยทีเดียว ดีไม่ดีอาจรสชาติดีกว่าซะด้วยซ้ำ

เห็นด้วยที่ร้านขายกาแฟสดกันอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ใช่เบนด์ดังๆ รสชาติดีกว่า


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: big__jod - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 08:47:32 PM
อยากจะบ้าตาย....ประเทศไทย
 :~) :~) :~) :~)

นี่พวกเขาจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าผลการกระทำของพวกเขา
ทำให้ประชาชนจำนวนเท่าใหร่ต้องเดือดร้อน
เหมือนฆ่ากันทั้งเป็น

 ::012:: ::012:: ::012:: ::012::


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 08:55:24 PM
เห็นบ่อยแล้วครับ ..

๑. กัปตันที่ว่า พูดเหตุการณ์ของปีไหน .... นี่ไม่นับว่าเป็นกัปตันจริงหรือเปล่า

๒. มีอีกข้อความมาต่อ ที่ใช้ชื่อว่า ผู้บริหารปตท...เก่า .... งั้นท่านนี้ก็ได้หุ้น ปตท. ด้วยสิครับ  ::005:: ... อ่านแล้วผมหาสาระไม่พบครับ

๓. ข้อมูลปี ๒๐๐๕ อธิบายสถานะการณ์ปี ๒๐๐๘ .... จะให้พูดอย่างไรดี ....

;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 09:37:46 PM
ขอบคุณครับ สุดท้ายประชาชนต้องรับกรรมกันต่อไป


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SaSa ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 10:09:33 PM
ผมไม่มีความรู้และไม่มีข้อมูล...แต่ทุกวันนี้ผมคิดว่าที่ ปตท.ทำทุกอย่างเพื่อธุรกิจของบริษัทตนเอง...


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 10:55:37 PM
ผมเชื่อข้อมูลนั่นคับ


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 10:55:58 PM
 ::014:: IRPC เดิมชื่อ tpi ผลิตเม็ดพลาสติค  กลั่นน้ำมัน...เปลี่ยนชื่อแล้ว ผลิต LPG ด้วยหรือครับ...

 ::014::เรื่อที่เห็น น่าจะเป็นเรือที่มาส่งก๊าซบางชนิด ที่นำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีครับ

 ::014::ออกความเห็นไปตามประสาคนไม่รู้เรื่อง...ไม่มีข้อมูลครับ


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ahu ที่ กรกฎาคม 10, 2008, 11:09:49 PM
แข่งขันทางการฆ่าเสรี....แข่งขันทางการค้าเสรี 
 


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: noomrider ที่ กรกฎาคม 11, 2008, 04:44:21 AM
เรื่องข้อมูลที่ผ่านมาทางเมล์ผมสนใจเเต่ไม่ใส่ใจ

เเต่ผมสนใจเเละใส่ใจเรื่องที่มีตัวเเทนจาก ปตท. มาออกรายการทีวี    เมื่อถามคำถามหลายๆคำถามคำตอบที่ได้ทำไมไม่ค่อยตรงคำถามหรือบางคำตอบไปตอบเรื่องที่ไม่ตรงกับคำถามเเละบางข้อก็ตอบไม่ได้ครับ





หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 11, 2008, 08:02:43 AM
::014:: IRPC เดิมชื่อ tpi ผลิตเม็ดพลาสติค  กลั่นน้ำมัน...เปลี่ยนชื่อแล้ว ผลิต LPG ด้วยหรือครับ...

 ::014::เรื่อที่เห็น น่าจะเป็นเรือที่มาส่งก๊าซบางชนิด ที่นำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีครับ

 ::014::ออกความเห็นไปตามประสาคนไม่รู้เรื่อง...ไม่มีข้อมูลครับ
ท่านประธาน บริษัท มาเอง ;D


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2008, 09:21:39 AM
::014:: IRPC เดิมชื่อ tpi ผลิตเม็ดพลาสติค  กลั่นน้ำมัน...เปลี่ยนชื่อแล้ว ผลิต LPG ด้วยหรือครับ...

 ::014::เรื่อที่เห็น น่าจะเป็นเรือที่มาส่งก๊าซบางชนิด ที่นำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีครับ

 ::014::ออกความเห็นไปตามประสาคนไม่รู้เรื่อง...ไม่มีข้อมูลครับ

IRPC กลั่นน้ำมัน.... แล้วก็ได้ LPG ด้วย... ครับ
ปี   2550 ผลิตได้ 340.788 ล้านลิตร

ปตท. เอากำไรมากเกินไป... อันนี้ผมเห็นด้วยครับ

http://www.doeb.go.th/information/stat/product_year.xls

(http://img58.imageshack.us/img58/7484/baseoilij9.jpg) (http://imageshack.us)





หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ต้นหนาว ที่ กรกฎาคม 11, 2008, 09:30:58 AM
ขอบคุณครับ...


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2008, 10:20:43 AM
เรือที่ขนก๊าซ LPG น่าจะต้องมีสัญลักษณ์ ที่แสดงว่าขน LPG...  ??
http://www.pttplc.com/TH/nc_bu_dt.aspx?id_=MTgxNQ==
(http://img55.imageshack.us/img55/7093/1815001au4.jpg) (http://imageshack.us)



หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity_TheOne ที่ กรกฎาคม 11, 2008, 10:53:30 AM
ใครมีข้อมูลมากกว่านี้ช่วยนำมาเปิดเผยด้วยครับ อยากทราบจริงๆ


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Major ที่ กรกฎาคม 11, 2008, 11:25:36 AM
ผมก็ได้รับเป็น FW Mail มาครับ ข้อมูลเหมือนกันเลย

แล้วประชาชนตาดำ ๆ ทำอย่างไร กันดี เนี่ย

ด้วยความเคารพ


หัวข้อ: Re: ได้ข้อมูลมา.....พี่ๆคิดเห็นประการใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2008, 09:11:54 PM
ผมเองอ่านแล้ว ก็ไม่ได้เชื่อไปซะหมด แต่บางข้อก็น่าคิดนะครับ