หัวข้อ: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: ต้นหนาว ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 09:17:40 AM พระพุทธเจ้าเคยอบรมสั่งสอนมนุษย์ไว้ว่า
ทรัพย์สินที่พึงได้จากการประกอบกิจการงานต่าง ๆ นั้น ควรแบ่งออกเป็น 4 กองเท่า ๆ กัน กองแรก เก็บสะสมไว้ใช้ยามขัดสน กองสอง ใช้จ่ายเพื่อทดแทนผู้มีพระคุณ กองสาม ใช้เพื่อความสุขส่วนตัว กองสี่ ใช้เพื่อสร้างสรรค์ความดีงามให้แก่สังคม แล้วการทำงานของมนุษย์ล่ะ หลายคนยังมัววุ่นแก่การทำงานโดยไม่ยอมแบ่งเวลาเหลียวหลังมองถึง บุคคลที่รักและห่วงใยตนเองเลยหรือ ??? มนุษย์บางคนทุ่มเวลาทั้งหมดให้แก่หน้าที่การงาน พร้อมกับคิดว่า การกระทำดังนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่นั่นคือการกระทำที่โง่เขลาเป็นที่สุด ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน แต่ผู้ใดที่ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับงาน โดยไม่ยอมแบ่งปันเวลาให้แก่ผู้ใด แม้กระทั่งตัวเองเป็นมนุษย์ที่เขลาเบาปัญญาที่สุด บริหารไม่ได้แม้กระทั่งเวลา 24 ชั่วโมงของตัวเองในแต่ละวันแล้ว มนุษย์ผู้นั้นจะบริหารอะไรได้ ทำไมมนุษย์ผู้ชาญฉลาดจึงไม่แบ่งปันเวลา ให้เสมือนหนึ่งการแบ่งปันกองเงิน ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าบ้างเล่า... ไม่ต้องแบ่งเวลาให้เป็นสี่กองเท่า ๆ กันหรอก เพียงแต่แบ่งปันเวลาในแต่ละส่วนให้เหมาะสมเท่านั้น 8 ชั่วโมงสำหรับการทำงาน เพื่อความก้าวหน้ามั่นคงในชีวิต 8 ชั่วโมงสำหรับการพักผ่อน เก็บเรี่ยวแรงไว้ต่อสู้กับหน้าที่การงานและอุปสรรคในวันพรุ่งนี้ 5 ชั่วโมงสำหรับการเดินทาง เพื่อประกอบกิจการต่าง ๆ 2 ชั่วโมงสำหรับโลกส่วนตัวของตนเอง 59 นาที สำหรับดูแลและรักษาความสะอ าดของที่อยู่อาศัย และช่วยเหลือสังคม และ 1 นาทีของคุณ ที่มอบให้กับคนที่รักและห่วงใยคุณโดยไม่นำเวลาอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเพียง 1 นาทีนี้ มันมีค่ามากเกินกว่าคณานับได้ในความรู้สึกของเขาคนนั้น จงอย่ากล่าวว่า ' ไม่มีเวลา... ' เพราะเวลาเป็นสิ่งที่ยุติธรรมที่สุดในโลกนี้ที่มีให้แก่มนุษย์ มนุษย์ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน ไม่มีใครมีเวลามาก และไม่มีใครมีเวลาน้อยไปกว่านี้ 24 ชั่วโมงใน 1 วัน ที่มหาเศรษฐี หรือยาจก มีเท่าเทียมกันไม่ขาดเกินแม้แต่เศษเสี้ยวของวินาที ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ผู้ใดที่กล่าวว่า ' ไม่มีเวลา ' จึงเป็นผู้ล้มเหลวในการบริหารเวลา 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันของตนเองอย่างสิ้นเชิง และใช้คำว่า ' ไม่มีเวลา ' เป็นข้อแก้ตัวเพื่อปกปิด ความล้มเหลวเรื่องเวลาของตนเองอย่างขลาดเขลา มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิต จึงไม่ใช่ผู้ที่เก่งแต่การทำงานอย่างเดียว แต่มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องเป็นผู้ที่รู้จักแบ่งสัดส่วนเวลาวันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ได้อย่างลงตัว วันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ที่มีไว้สำหรับการทำงาน การพักผ่อน การเดินทาง มิตรภาพ ความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ความเอื้ออาทร ฯลฯ โดยไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต นี่แหละ คือมนุษย์ผู้ชาญฉลาดที่รู้จัก ' ใช้เวลา ' แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? จงเปลี่ยนความคิดของคุณตั้งแต่บัดนี้นะครับ หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: NU1-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 09:25:14 AM อ่านแว้วดีจังเลยคะ......................อย่าบอกว่าไม่มีเวลาทุกคนมีเวลาเท่ากัน.....
ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดสรรเวลาของตนเองอย่างไรให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ครอบครัว คนรักและเพื่อสังคม ซึ่งตอนนี้ก็กำลังทำอยู่คะทุกเวลาทุกนาทีมีค่า....จะไม่ยอมให้เสียเวลาไปโดยไร้ค่าเด็ดขาด :) หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: pscn ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 10:51:46 AM อ่านแล้วดีครับ ขอบคุณครับน้ายอด :D :D ;)
หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: ภูปทุม-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 11:38:12 AM อ่านกี่ครั้งก็ดีเหมือนเดิม ::002::
หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: NU1-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 01:14:13 PM มาใช้เวลาว่างทำสิ่งดีๆ ให้เป็นประโยชน์ดีกว่าคะ
http://www.goodmap.in.th/download/pdf2007.pdf หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 02:14:49 PM ::014:: ขอบคุณครับ สำหรับบทความดีๆ เอามาแบ่งปันกัน
หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 02:27:00 PM ครับคงต้องหาเวลาให้ได้
หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: Major ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 03:03:12 PM ขอบคุณครับ
ด้วยความเคารพ หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: INHO ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 03:17:48 PM รู้สึกดี ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: จินตา <Jinta> ที่ กรกฎาคม 23, 2008, 06:08:47 PM ขอบคุณครับ... ว่าแล้วเก็บโต๊ะทำงานไปออกกำลังกายดีกว่า...
หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: SaSa ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 08:03:49 AM ขอบคุณครับ....
หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 09:34:36 AM ขอบคุณครับ สำหรับข้อความดีๆ ::014::
หัวข้อ: Re: แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า ' ไม่มีเวลา ' อีกหรือ ? เริ่มหัวข้อโดย: NU1-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 04:22:20 PM ขออนุญาตข้อความดีๆมาให้อ่านคะ
ท่าน ว.วชิรเมธี ::014:: 1. อย่าเป็นนักจับผิด คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง 'กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก' คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส 'จิตประภัสสร' ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี'แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข' 2. อย่ามัวแต่คิดริษยา 'แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน' คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอน ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น 'ไฟสุมขอน' (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 'แผ่เมตตา' หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป 3. อย่าเสียเวลากับความหลัง 90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ 'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น' มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ 'อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน' 'อยู่กับปัจจุบันให้เป็น' ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา 4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ 'ตัณหา' ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม'ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ ไว้ดูเวลาไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อ ความโก้หรูคุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่า 'เิกิดมาทำไม' 'คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน 'ตามหา 'แก่น' ของชีวิตให้เจอ ' คำว่า 'พอดี' คือ ถ้า 'พอ' แล้วจะ 'ดี' รู้จัก 'พอ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข' |