เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 :) ผมกำลังพูดถึงรายการ คอข่าว ทางช่อง 7 สี  ซึ่งจัดโดย "กนก-พิษณุ-พิสิทธิ์" กับรายการ ความจริงวันนี้ ทางช่อง NBT
จัดโดย "วีระ มุสิกพงศ์-จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ"

ความเหมือน
- เป็นรายการชนิดเดียวกัน
- พิธีกร 3 คน เหมือนกัน
- ออกอากาศวันเดียวกัน และเวลาใกล้เคียงกัน (จริงๆ แล้ว รายการ ความจริงวันนี้ ออกอากาศทุกวัน เว้นเฉพาะวันเสาร์)

ความต่าง
- ออกอากาศคนละช่อง
- รายการคอข่าว ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับอยู่ในโลกปัจุบัญ ที่เทคโนโลยี่ด้านข่าวสารสามารถมองเห็นได้หลายๆ ด้าน
- ราการความจริงวันนี้ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนย้อนยุคไปประมาณ ปี 2516 เหมือนกับได้ฟังแถลงการณ์ของรัฐบาล   
- เห็นได้ชัดว่ารายการไหนให้อะไรกับเราได้ รายการไหนพยายามเหมือนล้างสมองเรา
- บางรายการทำให้เรานึกว่าเราดูรายการผิดหรือเปล่า ดูข่าว แต่เหมือนกับดูสามเกลอหัวแข็ง

 :D เล่าให้ฟังเฉยๆ ครับ

เผลอไปดู และฟัง ที่นายไข่แม้วดำ ตะแบง บิดข้อเท็จจริง
และมีขุนคอย พยัคช่วย จำนรรจา แล้ว ต้องใช้ไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ ล้างหู.  :OO

 :D :D :D ... ผมดูทุกช่องครับ ... (astv/mvtv/สุวรรณภูมิ/nation ...ก็ดู .... ) ... แบบว่าที่บ้านรับเคเบิ้ลทีวี ... บางทียังนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว(ไม่ได้บ้านะครับ) ... ข่าวเรื่องเดียวกัน ... ความเหมือนที่แตกต่างเพียบ ... ใส่สีตีไข่กันก็เยอะ ...  ;D ;D ;D 

..เคยผ่านตาอยู่ครั้ง...หลังจากนั้นไม่เคยดูเลยครับ... ::009::

ตลกจริงก็เอาครับ ;D ;D ;D

อารมณ์เดียวกับฟังวิทยุยานเกราะ สมัยที่หมักจัดอยู่ก่อนหกตุลาครับ

ผมเกือบได้ ทีวี เครื่องใหม่ :D

ไม่เข้าไปดูเลยค่ะ  ::013::

เมื่อก่อนชอบดูรายการ  ชิมไปบ่นไป    รู้วิธีเจียวไข่อย่างไรให้อร่อยครับ ::008::

มาร้อนๆกับข้าวนะ ;D ;D ;D

แถมซุปซี่โครงไก่ใส่ฟักให้อีกชามครับ ::008::

ขนาดข้อกฎหมาย มันยังตะแบง บอกไม่หมด.. ตีความเข้าข้างตัวเอง ได้ใจคนเลว เต็ม ร้อย รวด  8)

เงิน จ้างผีโม่แป้ง.. ท่่านใดพอทราบ ขอความกรุณาช่วยขยายให้ฟังด้วย ขอบคุณมาก นะครับ.  :D

"วีระ มุสิกพงศ์-จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ขาดเจ๊เพ็ญไป1 ไม่งั้นก็ครบทีมรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ เห็นเห่าๆหอนๆ อยู่ทางช่องดาวเทียมMVTVนานแล้วครับ เปิดเจอทีไร หงุดหงิดทุกที  ::009::

เป็นภาษิตของจีนครับพี่
“เงินจ้างผีโม่แป้งได้..” หมายถึงสามารถทำอะไรๆได้เพราะเงิน เรียกว่าเงินบันดาล

มีเรื่อง พุทธภาษิต จะเล่าให้ฟังครับ....

เรื่อง "อสรพิษ" โดย อาจารย์สุคนธ์ สุ่นศิริ

- ครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จประทับ ณ กรุงสาวัตถี เรื่องของชาวนาผู้หนึ่งได้ติดข่ายพระญาณของท่าน ท่านจึงได้เสด็จไปยังที่นาของชาวนาผู้หนึ่ง พร้อมกับพระอานนท์.......ณ ที่แห่งนั้น ชาวนาได้ตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำนาเหมือนเช่นเคย เมื่อไปถึงที่นาก็ลงมือทำนา ครั้นได้แลเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาพร้อมกับพระอานนท์ จึงได้เข้าไปกราบท่าน...พระผู้มีพระภาคไม่ได้ตรัสคำใดๆแก่ชาวนา เพียงรับการกราบไหว้ของชาวนาแล้วเสด็จเลยไปในที่พอแก่ชาวนาจะได้ยินพระสุรเสียงของท่านได้...

- พระพุทธองค์ทรงรับสั่งแก่พระอานนท์อย่างนี้ว่า...ดูกร อานนท์ เธอเห็นไหมอสรพิษ ?...
พระอานนท์ก็ได้กราบทูลว่า...เห็นพระเจ้าข้า อสรพิษร้าย..... แล้วพระพุทธองค์ก็ได้เสด็จจากไป

- ชาวนานั้น ได้ยินพระดำรัสของพระพุทธเจ้าและพระอานนท์ ก็สำคัญว่ามีงูเห่าอยู่ในที่นาของตน จึงได้หยิบปฏักมา หมายจะตีงูเห่าให้ตาย ครั้นเดินมาถึงที่ๆพระผู้มีพระภาคได้ยืนประทับเมื่อครู่ ก็ไม่แลเห็นอสรพิษแต่อย่างใด.....กลับพบเห็นถุงเงินตกหล่นอยู่ที่คันนา เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่า มีเงินอยู่ในห่อถึง ๑๐๐๐ กหาปณะ ก็เข้าใจว่าคงจะมีใครทำตกไว้ ความยินดีพอใจก็เกิดขึ้นแก่ชาวนาโดยมิทันปรารภพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคกับพระอานนท์แม้แต่น้อย จึงได้หยิบห่อเงินนั้นเดินไปที่ท้ายคันนาแล้วขุดหลุมฝังเงินไว้ แล้วก็ไปทำนาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นคิดถึงเงิน ๑๐๐๐ กหาปณะนั้นอยู่

- ที่มาของเงินถุงนั้นก็มีอยู่ว่า....คืนก่อนวันเกิดเหตุ โจรกลุ่มหนึ่งได้พากันมุดอุโมงค์ท่อน้ำ เพื่อแอบเข้าไปยังหมู่บ้าน แล้วได้เข้าไปปล้นเงินในบ้านของเศรษฐีผู้หนึ่ง ได้กวาดเอาทรัพย์สินเงินทองไปเป็นจำนวนมาก แล้วได้จากไปในยามดึกนั่นเอง
ครั้นลอดออกพ้นจากอุโมงค์ท่อน้ำ แล้วก็พากันหลบหนีมาจนถึงที่นาของชาวนานั้น โจรผู้หนึ่งขณะปล้นทรัพย์ของเศรษฐี ก็เกิดยักยอกเงินจำนวน ๑๐๐๐ กหาปณะ ใส่ห่อไว้ เหน็บซ่อนไว้ที่เอว ในขณะที่มีการแบ่งเงิน ทรัพย์สินของพวกโจรทั้งหลาย ปรากฏว่า ถุงเงินที่โจรผู้นั้นแอบยักยอกไว้เกิดหล่นลงไปที่พื้นดินโดยไม่มีใครมองเห็น เพราะเป็นเวลาคืนเดือนมืด...และนี่เป็นที่มา ของเงินที่ชาวนาแอบซ่อนเอาไว้ในคราวที่พบตอนเช้าตรู่

- ในเวลาสาย พวกชาวบ้านได้ออกตามรอยเท้ากลุ่มโจรที่ผ่านอุโมงค์ค์น้ำ ตามมาจนถึงที่นาของชาวนา จากนั้นก็เห็นรอยเท้าใหม่ของชาวนาก็ติดตามไปจนถึงบริเวณที่ชาวนาขุดหลุมฝังห่อเงินไว้ ได้ขุดขึ้นมาแล้วพบห่อเงิน ก็สำคัญว่า ชาวนานั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มโจร จึงได้กรูกันเข้ามาทำร้ายชาวนาแล้วมัดมือไพล่หลังนำส่งพระราชาให้ลงโทษ พระราชาตัดสินประหารชีวิตชาวนา ราชบุรุษจึงได้นำชาวนาที่ถูกมัดมือไพล่หลังนั้นนำตัวไปเพื่อประหารชีวิต

- ระหว่างทาง ชาวนาได้สำนึกผิดและระลึกถึงคำของพระผู้มีพระภาคขึ้นมา จึงสะท้อนใจว่าตัวไม่เฉลียวใจในคำว่าอสรพิษเลย...จึงคร่ำครวญร้องไห้แล้วกล่าวขึ้นมาว่า... “อานนท์ เธอเห็นไหม...อสรพิษ...?” “เห็นพระเจ้าข้า อสรพิษร้าย...”
ชาวนากล่าวไปมาอยู่อย่างนี้ พวกราชบุรุษได้ยินจึงถามชาวนาว่า ใยจึงกล่าวอ้างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นนั้น ชาวนาจึงเล่าเรื่องราวให้ราชบุรุษฟัง ราชบุรุษจึงได้กราบทูลขอพระราชาให้สอบสวนใหม่ ชนทั้งหลายจึงพากันไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นได้กราบพระผู้มีพระภาค แล้วยืนในที่สมควรส่วนข้างหนึ่ง ได้เอ่ยถามเรื่องของชาวนาแก่พระองค์ พระองค์ทรงตรัสรับรองว่าเป็นจริงแล้วได้กล่าวธรรมกถาว่า....

“บุคคลกระทำกรรมใดแล้ว ย่อมเดือดร้อนในภายหลัง เป็นผู้มีหน้าชุ่มด้วยน้ำตา ร้องไห้ เสวยผลของกรรมอยู่ กรรมนั้น..อันบุคคลทำแล้วไม่ดีเลย ไม่ควรทำ ”

- หลังจาก ได้ฟังธรรมกถาของพระผู้มีพระภาค ชาวนาผู้นั้นก็ได้บรรลุธรรม อันเป็นอริยมัค สำเร็จเป็นพระโสดาบันแล้ว ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากพระราชา....

" ธรรมชาติของเงินนั้นมีความร้ายกาจประดุจงูเห่า ถ้าผู้ใช้ใช้ด้วยความประมาท หรือเกี่ยวข้องกับเงินโดยไม่ระวัง ไม่เป็นอย่างถูกต้องชอบธรรมแล้ว ก็จะถูกงูเห่ากัดตายได้"

- มีภาษิตที่เสียดสีอำนาจของเงินดอลล่าร์ว่า  “เงินหยวนพูดภาษาจีน เงินเยนพูดภาษาญี่ปุ่น เงินบาทพูดภาษาไทย ส่วนเงินดอลล่าร์พูดได้ทุกภาษา ”

- เงินนั้นมี อำนาจเพราะเป็นที่ปรารถนาของทุกคน แต่ขอให้พิจารณาว่าเงินนั้น ซื้อทุกสิ่งได้จริงหรือ ?

- เงินซื้อบริวารได้ แต่ซื้อความซื่อสัตย์จงรักภักดีไม่ได้

- เงินซื้อ ตำแหน่งได้ แต่ซื้อศรัทธา ความเคารพรัก นับถืออย่างจริงใจของผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ได้

- เงินซื้ออาหารได้ แต่ซื้อสุขภาพที่ดีไม่ได้

- คนเรากิน ได้เพียง ๑ อิ่ม แม้มีเงินสักเท่าใด บุคคลก็หาได้กิน ๒ อิ่ม ๓ อิ่มไม่ ในเวลาเดียวกัน เงินนั้นแม้จำเป็น แต่ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ผู้หาด้วยว่า มีปัญญาไหม หามาด้วยความสุจริตไหม ? บางคนตายจากอัตภาพนี้แล้วไปเป็นเปรตด้วยเหตุแห่งทรัพย์มากมาย หรือไปเกิดเป็นงูเฝ้าสมบัติก็มีมาก ท่านแสดงว่า บุคคลหาแสวงหาทรัพย์ด้วยความโลภเกินพอดี นั้นเป็น วิสมโลภะ (ความโลภเกินขอบเขต)

- บุคคลใดหาเงินมาด้วยความไม่บริสุทธิ์ ก็ชื่อว่ามีอสรพิษร้าย ระวังมันกัดเอาถึงตาย

ขอบคุณมากครับ คุณวัฒน์ :D   .พุทธภาษิต นี้ เพิ่งอ่านเป็นครั้งแรก. ครับ   ::014::

ผมดู คอข่าว ครับ ;)
ขอบคุณครับพี่วัฒน์

ดู 3 คนช่อง NBT แล้วหงุดหงิดยังไงไม่ทราบ  คนหนุ่มเปิดประเด็น อีกคนคอยชงและเปิดหนังสืออ้างอิง  นั่งกลางแก่สุดเป็นผู้สรุป


ปล. จากคนธรรมดาแจก CD ตามศูนย์การค้า อนุสาวรีย์ ออกตัวเป็นแกนนำ เดี้ยวนี้เป็นใหญ่เป็นโต ไปไหนมาไหนมีคนเรียกท่าน

 ส่วนข้าราชการทำงานแทบตาย ศึกษาหาความรู้ใส่ตัว ขยันหมั่นเพียร ห่างลูกห่างเมียไปทำงาน กว่าจะได้เป็นใหญ่ สุดท้ายแพ้เงิน สุดท้ายต้องไปกราบเด็กหนุ่มที่ใหญ่มาจากการแจก CD    เวรกรรม . . . .. .

ขอโทษทุกท่านที่ผมไร้สาระ  ::014::

เมื่อคืนบังเอิญได้ดู คอข่าว ทางช่อง 7 ดูไปขำไป พิธีกรเค้าแย่งกันพูด คุณพิษณุ พูดไม่ทันทำหน้าเครียด ::007:: ผมละกลัวเค้าทะเลาะกันเอง

ผมไม่เคยดู NBT มาตั้งแต่เปลี่ยนชื่อช่องแล้วครับ...:P

ไม่ไร้สาระหรอกครับ  พวกที่ท่านพูดถึง  ต่างหากที่ไร้สาระ
บวก ๑ ครับ

 8)...ชอบกระทู้นี้...อีกแล้วครับท่าน...+1

...เรื่องที่เป็นภาษิต...เป็นเรื่องที่เพิ่งได้ยิน...ได้รู้....

...ขอบคุณครับ...จะนำไปเล่าให้เด็กฟัง...ที่หน้าเสาธง...

...วันจันทร์ ...ขออนุญาตเผยแพร่ครับ...8)

สามเกลอหัวแข็ง(สมองฝ่อ) ... แค่เห็นหน้าก็เปลี่ยนช่องหนีแทบไม่ทันแล้วครับ ... 8) 8) 8)

บางทีผมก็ฟังบ้างแหละครับ ฟังไว้บางทีก็ดีเหมือนกันนะครับ ไม่ฟังเขา ก็ไม่รู้เท่าทัน

ผมไม่ดู NBT เลย ตั้งเเต่ลิง 3 ตัว รับบัญชาจากหน้าเหลี่ยมมาออกทีวี
........ไม่อยากนำของอัปมงคลเข้าบ้านครับ........