หัวข้อ: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ สิงหาคม 09, 2008, 02:55:50 PM :) เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ 'มิสอุไรพร'
ครูที่มีจิตวิทยาสูงในการสอนเด็ก รักใดไหนเล่าเท่ารักแม่...วีรกรรมสุดยิ่งใหญ่ของแม่ที่ลูกทุกคนต้องอ่าน ตึกเซนต์หลุยส์มารี โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม ราวกลางปี พ.ศ.2539 'มิสคะ ช่วงพักเที่ยงจะมีผู้ปกครองมารอพบสองท่านที่หน้าห้องรับรองค่ะ' โทรศัพท์แจ้งจากห้องประชาสัมพันธ์ทำให้มิสอุไรพร นาคะเสถียร ครูสาวประจำระดับชั้นป.4 รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะจำได้ว่ามีการโทรนัดหมายจะมาพบจากคุณแม่ท่านหนึ่งเพียงท่านเดียวในวันนี้ เอ...ใครล่ะนี่ จะมีเรื่องอะไรรึเปล่านะ เมื่อมิสอุไรพรเดินมาถึงหน้าห้องประชาสัมพันธ์ ครูสาวก็แทบยกมือรับไหว้จากสุภาพสตรี ทั้งสองท่านไม่ทัน หากก็รู้สึกแปลกใจที่เห็นคุณแม่ท่านหนึ่งยกมือไหว้แต่เพียงแขนข้างเดียว อย่างไรก็ตามมิสได้เชิญคุณแม่ท่านแรก เข้าไปคุยก่อนตามลำดับการนัดโดยเก็บงำความแปลกใจไว้ หลังจากคุยกับคุณแม่ท่านแรกเสร็จมิสจึงเชิญคุณแม่อีกท่านเข้ามาคุยในห้องรับรอง ภาพแรกที่ได้เห็นชัดๆทำให้ครูสาวตกใจเล็กน้อย แขนซ้ายของคุณแม่เป็นแขนเทียม คุณแม่มาปรึกษาเรื่อง การเรียนของลูก เพราะไม่ได้มาในวันนัดพบผู้ปกครองประจำปีเมื่อต้นปี การศึกษาที่ผ่านมา 'ลูกเขาไม่อยากให้มา เขาว่าเขาอายที่แม่ใส่แขนเทียม กลัวโดนเพื่อนล้อแม่มาทีเพื่อนก็ล้อกันประจำว่าแม่แขนเดียว แม่เป็นหุ่นยนต์เหรอ อะไรนี่น่ะค่ะ เลยไม่ได้มา' น้ำเสียงของคุณแม่แฝงแววเอ็นดูมากกว่าที่จะโกรธหรือไม่พอใจ มิสอุไรพรขออนุญาตซักถามเกี่ยวกับสาเหตุที่คุณแม่ต้องใส่แขนเทียม เมื่อได้ทราบความจริงทั้งหมดครูสาวก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องจัดการ เรื่องที่ลูกไม่ยอมรับและไม่เข้าใจแม่นี้โดยเร็ว หากปล่อยเรื่องนี้ไป...ก็จะเป็นบาปอันหนักยิ่งติดตัวเด็กไปในภายหน้า ทั้งตัวลูกชายและคนที่ล้อเพื่อนด้วย ช่วงเย็นวันนั้นมีชั่วโมงลูกเสือแต่ฝนตกหนัก มิสอุไรพรจึงได้โอกาสนำเรื่องนี้มาเล่าให้นักเรียนฟังในห้องเรียน เรื่องราวที่ว่านั้น มีดังต่อไปนี้ วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2536หลังวันแม่เพียงไม่กี่วัน... ครอบครัวหนึ่งได้เดินทางไปเที่ยวนากุ้งที่จังหวัดสตูล ครอบครัวนี้ประกอบด้วยคุณพ่อ คุณแม่ และลูกชายอีกสามคนพวกเขาเดินชมนากุ้งไปตามทางเดินซึ่งเป็นคันดิน ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ โดยคุณพ่อเดินนำหน้ากับลูกชายคนโตสองคน ส่วนคุณแม่เดินตามหลังมากับลูกชายคนเล็ก ทางเดินที่เป็นคันดินนั้นมีการแบ่งเป็นท้องร่องเพื่อติดตั้งระหัดวิดน้ำ ซึ่งมีใบพัดทำจากเหล็กสูงจากคันดินราว 25 ซม. คุณพ่อและลูกคนโตสองคนก็ข้ามท้องร่องแล้วเดินนำต่อไปข้างหน้า ไม่มีใครฉุกใจคิดระวังถึงเหตุร้าย แต่แล้วลูกชายคนเล็กกลับก้าวพลาดล้มลงไปในท้องร่อง ขากางเกงเข้าไปติดกับร่องของระหัดวิดน้ำที่กำลังหมุนอยู่ และฉุดขาของลูกทั้งสองข้างเข้าไปในใบพัดเหล็ก 'ถ้าเป็นพวกคุณ น้องตกลงไปอย่างนี้คุณจะทำอย่างไร' มิสหยุดเรื่องไว้ก่อนเพื่อซักถาม มองหน้าเด็กนักเรียน ทั้งห้องที่นั่งเงียบกริบ หน้าซีด โดยเฉพาะ 'ลูกชาย' ของคุณแม่ท่านนั้น 'ทุกคนตกตะลึงใช่มั้ย คิดไม่ทันใช่มั้ย แต่นักเรียนรู้มั้ยว่าคุณแม่ท่านตัดสินใจทำอย่างไร' คุณแม่ไม่ยอม เสียเวลาคิดอะไรเลย ท่านรีบยึดดึงตัวลูกเอาไว้แล้วเอาแขนซ้ายที่ว่างอยู่เข้าไปขวางใบพัดเหล็กไว้ก่อน... ใบพัดจึงหมุนเอาแขนของคุณแม่เข้าไป...คนงานที่เห็นเหตุการณ์รีบปิดเครื่องทันที แต่แรงเฉื่อยทำให้ใบพัดยังหมุนต่อด้วยกำลังแรง... แรงจนกระชากแขนซ้ายของคุณแม ่ขาดสะบั้นลง! คุณแม่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสสติสัมปชัญญะดับวูบลงในทันที ท้องร่องทั่วบริเวณแดงฉานไปด้วยเลือด...เลือดของแม่... ใบพัดเหล็กยังหมุนต่อไปอีกเล็กน้อยและบดเอาขาทั้งสองข้างของลูกชายคนเล็ก จนกระดูกหัก...แต่ไม่ขาด ไม่ขาด...เพราะแขนซ้ายของแม่ขาดแทน...ไม่ขาด...เพราะแม้จะไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ มือขวาของคุณแม่ก็ยังยึดตัวลูกเอาไว้แน่น...ไม่ยอมปล่อย... คุณพ่อและลูกคนโตทั้งสองคนหันกลับมามองตามเสียงตะโกนเอะอะโวยวายของคนงาน พร้อมๆกับเสียงกรีดร้องของคุณแม่ ภาพที่เห็นทำให้พวกเขาช็อกจนแทบสิ้นสติ! คุณพ่อกระโจนพรวดเดียวถึงตัวคุณแม่และลูกน้อย แต่...มันสายเกินไปแล้ว! สิ่งเดียวที่ทำได้คือรีบพาสองแม่ลูกส่งโรงพยาบาลทันที ผลของการรักษาคือคุณแม่ต้องใส่แขนเทียมแทนแขนซ้ายที่ขาดไป ส่วนลูกคนเล็กที่ขาหักต้องอยู่โรงพยาบาลนานราวสามเดือนจึงสามารถเดินเหินได้เป็นปกติ มิสอุไรพรกวาดสายตามองไปรอบๆห้องถามขึ้นอีกว่า 'นักเรียนคิดว่าคุณแม่ท่านนี้กล้าหาญมั้ยคะ' 'กล้าหาญมาก' เด็กๆพากันตอบเป็นเสียงเดียวกันพลางพยักหน้า หลายๆคนยังหน้าซีดเซียวเมื่อนึกภาพเหตุการณ์ไปตามที่ครูเล่า มิสมองหน้า 'ลูกชาย' ของคุณแม่แล้วบอกต่อว่า 'นักเรียนทราบมั้ยว่าคุณแม่ท่านนี้เป็นคุณแม่ของเพื่อนเราในห้องนี้เองไหน ใครเป็นลูกของคุณแม่ท่านนี้ยืนขึ้นให้เพื่อนเห็นหน่อยสิ' เด็กนักเรียนคนนั้นยืนขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือของเพื่อนทั้งห้อง 'วันนี้เมื่อคุณกลับไปบ้านมิสฝากเรียนคุณแม่ด้วยว่าพวกเราชื่นชม และยกย่องท่านมากจริงมั้ยพวกเรา' 'จริงครับๆ ใช่ครับๆ' เสียงเล็กๆตอบมาเป็นทางเดียวกัน 'มิสได้ทราบมาว่ามีหลายๆคนไปล้อเลียนเพื่อน ไหนคนไหนบ้างคะที่เคยล้อคุณแม่เขา ถ้ามีเราเป็นลูกผู้ชายต้องกล้ารับค่ะ' มีนักเรียน 3-4 คนยืนขึ้น สีหน้าของแต่ละคนซีดเซียวอย่างสำนึกผิด มิสอุไรพรมองหน้าของเด็กกลุ่มนี้อย่างอ่อนโยน ถามว่า 'ดีมากนักเรียน ตอนนี้คุณคงอยากพูดอะไรกับเพื่อนใช่มั้ยคะ' เด็กชายกลุ่มนั้นเดินเข้าไปโอบกอดคอแล้ว กล่าวขอโทษเพื่อนด้วยความจริงใจ ครูสาวน้ำตาคลอ ยืนมองภาพนั้นด้วยความปลาบปลื้มยินดีหนักใจอยู่เหมือนกันว่า หากถามขึ้นมาแล้วไม่มีใครยอมรับว่าเคยล้อเพื่อน...จะทำอย่างไร? เธอไม่เคยผิดหวังในตัวนักเรียนอัสสัมชัญและจนถึงเวลานี้ก็ยังคงไม่ผิดหวัง ใครเล่า...จะเข้าใจความเจ็บช้ำขมขื่นในหัวใจเล็กๆของเด็กชายคนหนึ่ง ที่ถูกเพื่อนล้อเลียนประสาเด็กโดยไม่ทันคิด หากบัดนี้...ความรักของแม่และน้ำใจของเพื่อนได้สลายปมด้อยในใจ ของเด็กคนนี้ลงจนสิ้นแล้ว เหลือเพียงความรักและภาคภูมิใจในตัวคุณแม่เท่านั้น เมื่อหมดชั่วโมงเรียน มิสอุไรพรได้เรียกตัว 'ลูกชาย' เข้าไปคุยอีกครั้ง 'วันนี้เรามีอะไรในใจที่คิดว่าควรพูดกับคุณแม่มั้ยคะ' เด็กคนนั้นนิ่งคิดไปชั่วครู่ก่อนจะตอบเสียงสั่นปนสะอื้นไห้ว่า 'ผม...ผมจะไปขอโทษคุณแม่แล้ว...แล้วบอกคุณแม่ว่าผมรักคุณแม่ที่สุดในโลกเลยครับ' รู้มั้ยน้ำนมหยดหนึ่งซึ่งไหลมาต้องใช้น้ำตาหยาดเหงื่อสักเท่าไหร่ บอกแม่เถอะนะ บอกทุกวัน ว่ารักท่านมากมาย กอดแม่เถอะนะ ให้คุ้นเคย กอดเลยไม่ต้องอาย ก่อนไม่มีแม่ให้กอด... (http://img232.imageshack.us/img232/3268/35192792eo7.jpg) ::014:: ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ สิงหาคม 09, 2008, 04:19:18 PM เรื่องดีๆครับ...
พรุ่งนี้พาหลานไปไหว้คุณย่าซักหน่อยดีกว่า...::014:: ขอบคุณท่านวัฒน์ครับ...:D หัวข้อ: hidden เริ่มหัวข้อโดย: ZAZA ที่ สิงหาคม 09, 2008, 05:38:58 PM ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆมาให้อ่านคะ
หัวข้อ: Re: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ สิงหาคม 09, 2008, 06:58:35 PM ขอบคุณมากครับ.
หัวข้อ: Re: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: nanmaxnum ที่ สิงหาคม 09, 2008, 10:48:19 PM แม่ พระในบ้าน พรหมของลูก หัวข้อ: Re: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ สิงหาคม 10, 2008, 12:29:02 AM :VOV: :VOV:
หัวข้อ: Re: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 10, 2008, 07:30:17 AM "แม่" คำๆ นี้ยิ่งใหญ่จริงๆ ครับ
หัวข้อ: Re: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ สิงหาคม 10, 2008, 07:36:01 AM :VOV: :VOV: :VOV:........... ::002::
หัวข้อ: Re: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: ลานดาว ที่ สิงหาคม 10, 2008, 07:46:38 AM แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่....มากกว่าชีวิตเรา เพราะถ้าเราไม่มีแม่..ก็คงไม่มีเรา หัวข้อ: Re: แม่...คำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ สิงหาคม 10, 2008, 07:22:38 PM ซาบซึ้งยิ่งนัก ....... รักแม่ครับ |