เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
เมื่อเช้าหยิบหนังสือพิมพ์ "กรุงเทพธุรกิจ" ขึ้นมาอ่าน เจอพาดหัวตัวใหญ่ "รัฐให้สัมปทาน 30 ปี สร้างโรงแรม – รีสอร์ท เปิดเอกชนรุมทึ้ง 10 อุทยานดัง" เห็นแล้วต้องรีบอ่านรายละเอียดต่อทันที ได้ความว่า
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศเปิดอุทยานแห่งชาติ 10 แห่ง นำร่องให้เอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่จัดการบริการประกอบด้วย
1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
2.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
3.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
4.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
5.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
6.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
7.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย
8.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
9.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
10.อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
แหล่งข่าวจากกรมฯ ยังเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา มีนักธุรกิจหลายรายเสนอแผนจัดการอุทยานแห่งชาติ ที่ต้องการบริหารมายังกรมฯ และยังพยายามให้กรมฯ ลดราคาค่าเช่าลง  ทั้งนี้กรมฯ กำหนดราคาค่าเช่าพื้นที่เพื่อบริการไว้ตารางเมตรละ 30 บาท หรือไร่ละ 4.8 หมื่นบาทต่อเดือน แต่เอกชนมองว่าเป็นราคาที่สูงเกินไป และต่อรองให้ลดราคาลงเหลือแค่ตารางเมตรละ 3 บาทเท่านั้น

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
สำหรับแผนการเปิดให้เอกชนเข้าเช่าพื้นที่บริหารจัดการ ได้กำหนดเงื่อนไขเบื้องต้น อาทิ จะเปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารในโซนบริการนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร ประกอบด้วย ศูนย์อาหาร ร้านขายของที่ระลึก รีสอร์ท โรงแรม โดยมีอายุสัมปทาน 30 ปี มีเงื่อนไขว่าต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และปลูกป่าเพิ่มเติม   

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
นายวิชิต พัฒนโกศัย รองอธิบดีกรมฯ  กล่าวว่า   'กรมอุทยานฯ ต้องการให้มืออาชีพเข้ามาบริหารพื้นที่บริการ ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนในพื้นที่ นักธุรกิจขนาดใหญ่ หรือขนาดกลาง โดยกรมฯ จะแบ่งพื้นที่ของอุทยานฯ เป็นกลุ่ม ๆ คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และกลุ่มที่มีกำลังซื้อปานกลาง และกลุ่มทั่วไป เพื่อเปิดให้มีตัวเลือกหลากหลาย  ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสของประชาชนในการเข้าถึงธรรมชาติ'

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการส่วนศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า การให้สัมปทานเอกชนเข้าบริหารจัดการในพื้นที่อุทยานฯ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย โดยต่างประเทศหลายประเทศมีการดำเนินการรูปแบบนี้มานานแล้ว และเป็นไปตามโครงงานการจัดการพื้นที่คุ้มครองตามอนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพที่มี 191 ประเทศเป็นสมาชิก เพื่อหาเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนไปบริหารจัดการพื้นที่ป่า เพราะงบประมาณของรัฐไม่เพียงพอ

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์   

ศ.นิวัติ เรืองพานิชย์ นักวิชาการด้านวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงแนวความคิดในการให้สัมปทานอุทยานแห่งชาติแก่ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นการคิดถึงแต่เงินด้านเดียว ไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์หลักในการดูแลรักษาป่าไม้ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งในที่สุดแล้ว จะทำให้ธรรมชาติถูกทำลาย จึงขอเรียกร้องข้าราชการอย่าตามใจฝ่ายการเมืองมากเกินไป

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

อ่านจบก็เกิดคำถามในใจขึ้นมาทันทีว่า "แล้วใครได้ผลประโยชน์จากการกระทำครั้งนี้" ประเทศชาติ ประชาชน ข้าราชการ เอกชน หรือนักการเมือง ที่สุดแล้วก็คิดได้ว่า ทุกฝ่ายคงสมประโยชน์ร่วมกัน ยกเว้นประเทศชาติและประชาชนเท่านั้นที่จะต้องเสียผลประโยชน์ของชาติไป

                             
 
                                         
                                             

เฮ้อ..  ::004::

ประเทศไทยยากจนขนาดนั้นแล้วหรือ ถึงขนาดไม่มีเงินที่จะทำนุบำรุงและปกป้องรักษาสมบัติของชาติ... หรือมรดกโลก

ที่ภูเก็ต...ก็เห็นเกาะไม้ท่อน 1 ตัวอย่างแล้ว.. ดูโดยรวมถึงแม้จะเหมือนดูดี แต่ว่าพอเข้าไป นี่หรือคือผืนแผ่นดินประเทศไทย?

คิดดีแล้วเหรอ... :OO

ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสของประชาชนในการเข้าถึงธรรมชาติ

***

อย่างนี้จะไม่เหลือธรรมชาติเลยต่างหาก :(

ภาวนาให้เป็นธุรกิจของคนไทย ถ้าขืนให้ต่างชาติเข้ามาดำเนินการ ก็คงจะเสียความรู้สึก
ทรัพยากรของชาติแท้ๆ ไม่มีปัญญาทำเอง มันแปลงทุกอย่างให้เป็นทุนจริงๆ วิญญาณชั่วร้ายยังคงเวียนว่ายอยู่อีกหรือ

สงสัยคงจะหมดปัญญา ต้องปล่อยให้นักธุรกิจเข้าดำเนินการแล้วตัวเองก็นอนกินหัวคิว
ถ้าทำไม่เป็นก็ควรจะให้คนอื่นที่มีความสามารถเข้ามาทำดีกว่า ไม่ใช่คิดแต่จะขายลูกเดียว
ยังงี้คงจะขายได้ทุกอย่าง

เอาอะไรคิดเนี๊ย.....
โอ้....ที่นี่...ประเทศไทย

ทำไมมีแต่คนคิดขายสมบัติชาติ  ผลกรรมตกถึงลูกหลาน

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6913736/E6913736.html

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6920969/E6920969.html

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6931312/E6931312.html#321

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6953331/E6953331.html

 
 

ความคิดบรรเจิดอีกแล้วท่านเป็นธุรกิจไปหมด    ผ่านน้ำหนาวว่าจะแวะปัสสาวะซักหน่อยก็เสียเงิน  

      ผมว่าคงช้าไปมากแล้ว  ลองกลับไปดูกระทู้พาเที่ยวสิมิลันอีกทีครับ ....... สัญญาก่อสร้าง ให้สัมปทานกันล่วงหน้าเป็นปีๆแล้ว

อ่านแล้ว....ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก....รัฐบาลนี้อีกแล้วเหรอ....เปิดช่องให้โจมตีกันตลอด...ไม่มีความสำนึกกันเลย
อุทยานแห่งชาตินั้นตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์หลักคืออะไร...... แล้วการนำอุทยานแห่งชาติมาทำอย่างนี้มันถูกต้องตามเจตนารมย์ ในการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติหรือไม่ ควรที่จะเข้าไปดูใน พรบ.ว่าขัดหรือไม่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นปัจจุบันนี้เป็นมรดกโลก....สามารถทำได้หรือไม่

ขออภัย  จริงๆ ที่อื่น  ประเทศอื่น  อย่างญี่ปุ่น เขาก็ให้เอกชนมารับเหมา สัมปทานไปทำมานานแล้ว

ได้ผลดีด้วยครับ

ส่วนเมืองไทยเพิ่งเริ่มต้น  และผมยังไม่ทราบ รายละเอียด  เงื่อนไขต่างๆของสัญญา


เลยตอบไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี


อยากให้เขาเปิดเผยข้อมูลตรงนี้จัง

พรบ.ข้อมูลข่าวสาร พอช่วยเราได้บ้างไหม

อย่างญี่ปุ่น เขาให้รับไปดูแลพื้นที่เดิมๆ ครับ แต่อย่างนี้จะตัดพื้นที่ให้ทำธุรกิจด้วย

จริงหรือเปล่าเนี่ยเอาเวลาว่างตอนไหนไปคิด

คงต้องรีบไปเที่ยวก่อนซะแล้วครับ  ถ้าให้เอกชนบริหารผมกลัวแพง

สาธุ .. ขอให้เอกชนรายย่อยหรือคนท้องถิ่นได้มีโอกาศทำบ้างเถอะ จะได้แบ่งๆกันรวย

    ถ้าทำอย่างที่ว่าจริงๆล่ะก็ เขาใหญ่ก็เตรียมตัวโดนถอดออกจากมรดกโลกได้เลย  เอาหัวแม่ตีนคิดหรือไงก็ไม่รู้ คราวก่อนก็จะตัดถนนผ่ากลางเขาใหญ่ไปทีนึงเกือบโดนเขาถอนไปทีแล้วไม่เข็ด   >:(

อะไรกันนักกันหนากับประเทศไทย แค่นี้ยังไม่พอรึไง  >:(

เป็นความคิดที่ดีครับ  แต่เรื่องกระทำคงต้องดูกันก่อนตัดสินว่าดีหรือเลว  ผมอยู่ญี่ปุ่น20กว่าปี  เคยเข้าไปเที่ยวในเขตอุทยานไม่ต่ำกว่า7แห่ง  เขาทำได้ดีครับ..บางแห่งเข้มงวดถึงขนาดคนไปพักในโรงแรม  ห้ามใช้สบู่-ยาสระผม เพราะเป็นต้นน้ำลำธาร  ถ้ามีการปลูกจิตสำนึกดี  ให้คนในท้องถิ่นรักษาดูแล
อาจได้ผลดีกว่าให้ทางรัฐดูแลก็ได้ครับ  แต่ที่นี่ต่างกับเมืองไทยมากพอสมควร  อย่างเช่นนายอำเถอ-ผู้ว่ามาจากการเลือกตั้ง  มันมีผลต่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างมากมาย.

อันนี้ไม่เห็นด้วยเลยป่าควรเป็นป่า ถึงจะน่าเที่ยว

ความคิดเข้าท่าแต่จะปฏิบัติได้ผลดีหรือเปล่าอันนั้ไม่ขอฟันธง

   ข่าวร้ายจังเลยครับ      เปรียบเทียบจรรยาบรรณของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องมาเปรียบเทียบนายทุนไทยกับนายทุนญี่ปุ่นอีก บริษัทที่จะได้สัมปทานก็คงไม่พ้นชื่อดังเดิมๆ ถ้าทำได้แบบญี่ปุ่นก็ดีครับ   แต่ส่วนตัวแล้วผมไม่เชื่อนายทุนบ้านเราเลย     สงสัยต้องหาเวลาเดินป่าเป็นการสั่งลา

อีกหน่อยราคาค่าบริการคงสูงมากทีเดียวครับ นึกถึงสมัยเรียนเวลาไปเที่ยว จะนึกถึงที่พักของอุทยานแห่งชาติก่อน เพราะราคาถูกเหมาะกับกำลังทรัพย์ของนักเรียนนักศึกษา  :D

สูงแน่นอนครับ ...... ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ กางเต็นท์ก็เสียตังค์ ....... ถ้าพักที่พักของเขา ราคาก็กึ่งๆรีสอร์ทหรูเข้าไปแล้ว

...เท่าที่ไปดูอุทยานแห่งชาติหลายๆ แห่งก็เห็นว่าสภาพค่อนข้างแย่จริงๆ ครับ  ตามความคิดผมการทำ privatization โดยให้เอกชนเช่าพื้นที่  จึงเป็นทางออกสำหรับคนขี้เกียจทำงานครับ  นอกเหนือจากผลประโยชน์มหาศาลจะวิ่งเข้ากระเป๋าผู้เกี่ยวข้อง  เพราะ "สัมปทาน" ให้ทำรีสอร์ตในอุทยานแห่งชาติ  ว่าไปแล้วถือว่าเป็นขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าเลยทีเดียว

...ในพื้นที่ทหารอย่างเช่น "อ่าวมะนาว" นั้น  ทหารอากาศดูแลเป็นอย่างดี  และผมแอบได้ข่าวมาว่ามีเอกชนพยายามจีบจะขอเช่า ทอ. ทำรีสอร์ตตรงนั้น  แต่ทาง ทอ. ไม่ตกลงครับ

เป็นเรื่องเศร้าอีก ๑ เรื่อง ใน รัด-ถะ-บาน ยุค สืบ ทอด

ด้วยความเคารพครับ

ปล.รัด ถะ บาน มิใช่ รัฐบาล ครับผม

สนามหลวง มันก็จะให้เอกชนทำเป็นที่จอดรถชั้นใต้ดิน ความคิดตอนเป็นผู้ว่า อนาคต  ที่ราชพัสดุของหลวงคงทำบ้านจัดสรร
หมดขายให้หมดของหลวงโกยลูกเดียว ::010::

หมดกัน

รัฐวิสาหกิจบางแห่งแปรรูปเป็นบริษัท มันฟันกำไรจากประชาชนปีละเป็นแสนล้าน
ที่ท่องเที่ยวธรรมชาติหลายต่อหลายแห่งที่เอกชนเข้าไปพัฒนาเช่นเขาค้อ เกาะพีพี เกาะเสม็ดสภาพจึงแปรเปลี่ยนไม่เป็นธรรมชาติอีก 

อุทยานแห่งชาติจึงควรเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแบบเข้าใจธรรมชาติ นักท่องเที่ยวต้องปรับตัวให้เข้ากับปธรรมชาติ มิใช่ปรับสภาพอุทยานให้เข้ากับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายเช่นที่พักหรือสิ่งอำนวยความสะดวกในเมือง ทั้งนี้เพื่อรักษาธรรมชาติ ผืนป่า และท้องทะเลให้คงอยู่เพื่อรุ่นลูก หลานของพวกเราสืบไป

ดูท่านๆ.. ทำอะไรแต่ละอย่างซิ... เฮอ!!!

..ต่อไปจะไปเที่ยว.จะถ่ายรูป.คิดค่าถ่ายรูป.ภาพละ.... :<<

รัฐบาลเซลส์แมน มีเรื่องให้ชาวบ้านบ่นตลอด

ไม่อยากพัฒนาตัวเอง..แต่จะเป็นเสือนอนกินอีกรายแล้วหรือไรครับ..เฮ้ยเซ็ง.. รัฐบาล....ชุดนี้...

ถ้าเป็นจริงก็เป็น   สิทธิ์ของเธอครับ   เอาเข้าไป ::009::   

 >:( เลว ......

ขออภัย  เพิ่งอ่านเจอ คุณต๊อกพอมีรายละเอียดเรื่องนี้มั่งมั้ยครับ
หาจากเวบไหนได้บ้าง


ขอบพระคุณครับ

อยากให้ช่วยร่วมลงชื่อและเลขบัตรประชาชนเพื่อร่วมคัดค้านการให้สัมปทานอุทยานแห่งชาติทั้ง 10 แห่งแก่เอกชนด้วยค่ะ ::014::
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6972659/E6972659.html (http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6972659/E6972659.html)

      คัดค้านคงจะสายไปแล้วในบางแห่ง

      เอาเป็นว่าช่วยกันสอดส่องดูแลการปฎิบัติการให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องตามสัญญาอย่างเคร่งครัดดีกว่า
       

ขอบใจหนูโอจ้า

รัฐบาลโง่ หรือ แกล้งโง่  ::004:: ::004:: ::004::

เสียดายธรรมชาติอ่ะค่ะ ตอนนี้กว่าจะรู้ก็สาย(ไปบ้าง) แต่หากเรายังเฉยอยู่ มันก็จะลามไปเหมือนเชื้อโรคอ่ะค่ะพี่ โอส่งรายชื่อคนในบ้านโอไปได้แค่ 7คนเอง ตอนนี้เห็นสมาชิกในเวบเรายอดโชว์ว่ามีตั้ง 3หมื่นกว่าคน(รู้ว่ามีชื่อซ้ำ ชื่ออุปโลกบ้าง) แต่หากร่วมลงชื่อคัดค้านแค่10% ก็จะเป็นประโยชน์มากขึ้นแน่นอนค่ะ ::002::
deadlineในการส่งรายชื่อคือวันที่12(อีก2วัน)ขอให้พี่น้องชาวเวปอวป. ช่วยลงชื่อเพื่อลูกหลานในภายภาคหน้าด้วยนะคะ ::014::

อันนี้เป็นข้อความที่อยากให้คนไทยทุกท่านได้อ่านกันค่ะ เชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญานนะคะ ;)

แต่ที่ผมจะเล่า เป็นเรื่องราวต้นตอของแนวคิดนี้ ยาวหน่อย แต่ลองอ่านกันดูครับ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ที่จะทำให้คุณรู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องนี้ครับ

หลังจากวันนี้ที่ได้ไปร่วมรายการ และ ได้พูดคุยกับทั้งทาง ผอ เจ้าหนาที่จากมูลนิธิสืบ และนายกท่องเที่ยว

เรื่องราวคร่าวๆก็คือว่าเหตุการณ์มันเริ่มมาตั้งแต่สมัยที่มีการอยากสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง และมีการขอแก้ พรบ มากมาย แต่สุดท้ายตกไป

ตามกติกาว่าไว้ว่า มิให้ เอกชน มีสิทธิสร้างสิ่งปลุกสร้างในเขตป่า แต่ให้ทางราชการเท่านั้นที่สร้างได้

เมื่อแก้กฏไม่ได้ จึุงมีการพูดคุยว่า เอกชนกล้ามั้ยหล่ะ ที่จะสร้างแล้วยกให้รัฐ เออ เอามั้ย

โฮะๆๆ ใครวะจะบ้า สร้างไปเปลี่ยนรัฐบวม ต้องมาลุ้นอีกว่าจะต้องไปจ่ายอีกเท่าไหร่

มันเลยตกไป

และก็ได้มีแนวคิดอยากสร้างธุรกิจจากป่า แต่แล้วด้วยเหตุว่า กฏมันแข็ง เลยไม่มีใครสนใจ

ราว 10 ปีผ่านไป ไวดั่งโกหก ล่วงเลยมาจนถึงเหตุการณ์คราว เสม็ด เสร็จทุกรายมีปัญหาเรื่องว่า มีเอกชนรุกที่เข้าไปใช้งาน ทำธุรกิจ

รัฐจริงไปร่างกฏขึ้นมาเพื่อให้เอกชนใช้พื้นที่ได้ โดยรัฐเป็นคนจัดที่ทาง ต้องทำตามรัฐบอก ไม่งั้น ออกไปซะ กฏนี้ก็แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ช่วงเวลานั้น มีแนวคิดของใครไม่รู้ บอกว่าอยากแปลงสิทรัพย์เป็นทุน

ก็เลยไปควักโปรเจ็คนี้กลับมา 555

แต่แล้ว พรบ 2504 นั้น แข็งโป๊กดั่งอะไร เลยทำไม่ได้ แต่แล้วก็ได้มีการพยายามตรา พรบ ใหม่เกิดขึ้น

บังเอิญว่า รัฐบวมชุดนั้น โดนรัฐประหารซะก่อน (เขียนถูกมะ) และแล้วมาถึงรัฐบวมชุดปัจจุบัน

ไม่ต้องคิดมากครับ เขาก็เลยไปขุดมันกลับมา แนวคิดเรื่องแปลงสินทรัพย์เป็นทุน และ แนวทางแก้ พรบ มันมาเป็นเรื่องจริงจังมากมาย

จาก คุณสมศักดิ์ เทพxxx นั่นแหล่ะ

พอดีแกสนิทกะนักธุรกิจ และด้วยความหวังดีต่อชาติ แกเลยไปคุยกะนักธุรกิจรายใหญ่ ว่า เนี่ย อุทยาน มีปัญหา อยากมาแก้มะ

แต่ทำไม อีตา ผอ พูดกะ ผม สองรอบไม่เหมือนกันวะ (แกบอกว่า มีการให้นักธุรกิจลงไปเลือกมาว่าอยากไปทำ ไปช่วย!!! ที่อุทยานไหน) ตัดกลับไปนักธุรกิจใจดีต่อ นักธุรกิจใจดีก็เลยสนใจ ตาเป็นมันอ่ะ กอรปกับมี คนคนนึง ที่เขาคอยช่วยนักธุรกิจ

ล่าสุดก็ลงไปดูพื้นที่กันมา ตา ผอ บอกว่าเขาลงไปเฉยๆ เล่นๆ ไม่จริงจัง (ก็คิดกันเองนะ)

ส่วนหัวหน้าอุทยานหรือ ก็ได้แต่ทำหนังสือคัดค้าน
ฝากมูลนิธิสืบ ก็หัวเดียวกระเทียมลีบ จนมาเจอเรา
ส่วนนายกท่องเที่ยว ตัดแกไปเถอะ ที่ไหนมีที่ให้แกไปทำทัวร์ แกไม่คิดอะไรมาก

แต่ตอนนี้ พรบใหม่ ยังไม่มา เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสืบบอกว่า คุณอรอนงค์แก ระงับไปละ แต่การให้สัมปทานนั้นเขาไม่ต้องใช้ พรบใหม่ครับ

เขาไปตัดยีน มาจากกฏที่เอามาแก้ปัญหา เกาะเสม็ด มาใช้กับอุทยานที่เหลือครับ

ง่ายๆคือ เขาเอากฏระเบียบการเช้าใช้พื้นที่ที่เขียนมาเพื่อแก้ปัญหาเกาะเสม็ดมาใช้

มีข้อนึงเขียนไว้ว่า พื้นที่ 8000 ตรม ให้สิทธิใช้งานได้ 30 ปี

เก่งเนอะ ไปตัดต่อกันมาได้

นี่ไง รียูสเอเบิ้ลลลลล ของจริง เก่งอ่ะ

ก็สรุปว่า ไม่ต้องมี พรบใหม่ ก็ทำได้นะฮะ

อีก 20 วัน คุณวิชิต ที่แกลงไปดูสถาณที่กับนักธุรกิจ จะเกษียณละ ไม่รู้ว่าแกจะมีผลงานอะไร ฝากไว้ในอ้อมอกคนไทยบ้างเนอะ

20 วันอันตรายนะพี่น้องงงงง

มันบังเอิญมากที่ คุณหมูล่องหน เอาเรื่องนี้มาเล่า และพวกเรารวมตัวกันไปสร้างโป่ง

บังเอิญที่เสียงเราไปถึงใครหลายคน

บังเอิญว่ามูลนิธิสืบได้รับรู้ว่า ไม่ใช่มีแค่เขาเท่านั้นที่อยากอนุรักษ์ธรรมชาติ

บังเอิญที่ว่าวันนี้ท่านรอง วิชิต ไม่สามรถมาร่วมรายการได้ และ อีก 20 วันจะเกษียณ

อ้อ

บังเอิญด้วยว่า วันนี้ก็มีการย้ายตำแหน่ง ผอ ในกระทวงด้วย

แว่วๆว่า ตำแหน่งนี้ขายดี มีราคา น่าสนใจ ใครอยากได้ป่าว

เอาเถอะ

มาถึงตรงนี้ ไม่มีข้อสรุปอะไร ผมพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้รับรู้มา ให้ทุกคนได้รับฟัง

จะเชื่อ ก็ตามใจ
จะไม่เชื่อ ก็ตามใจ
จะงง ก็ตามใจ

แต่ข้อมูลที่ให้โปรดใช้วิจารณะยานในการรับสารครับ

เราไม่บังคับกัน

ประชาธิปไตยแบบเราคือ เรามีสิทธิออกเสียงและความคิดได้ครับ

ทั้งหมดที่เล่า คือแนวความคิด และ แนวทาง ที่มันน่าจะเป็นไป

ยังไงลองตรึกตริงกันดูครับว่าสมควรหรือไม่

และมันมีข้อเท็จจริงอย่างไร

ขนาดคนที่มาวันนี้ในรายการทุกท่าน ยังถอนใจอ่ะครับ

ถ้าเราไม่ช่วยกัน


คงไม่เหลืออะไรแล้ว


ผมไม่ได้อยากให้คุณเชื่อ แต่อยากให้คุณพิจารณาดูครับ ว่ามันน่าเชื่อหรือไม่

ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้วอยากคัดค้าน แนวคิดนี้ รบกวนส่งเมล์ ชื่อ และ หมายเลขบัตรประชาชนมาที่ saveournp @ hotmail.com ครับ

รวบรวมมาเยอะๆก็ดีครับ

รับเรื่อยๆ มาก่อนวันที่ 12 กันยายน เราจะนับยอดเพื่อส่งจดหมายคัดค้านฉบับแรก
หลังจากนั้นส่งมาได้เรื่อยๆครับ

ทำ Forward mail ส่งไปเยอะๆก็ดีครับ

ช่วยกันนะครับ

เรียบร้อยแล้ว

ขอบใจจ้านายป่าไม้ :D

เจ๋แก.. หาเงินไปแก้ดั้ง... เฮอ!!!.. เซง...

      ขอบคุณครับพี่โอ ....... นโยบายนี้มีมานาน คล้ายๆให้ต่างชาติครอบครองที่ดินได้นี่แหละ

      มองผิวเผินว่าจะดีเพราะได้ราคาและพัฒนาประเทศ ........ แต่ระยะยาวจะถูกกลืนเป็นของเอกชน

      เหมือนการทำเหมืองแร่  พอเลิกลาไป  ไม่คืนประทานบัตร ...... หมกไว้สักสิบปีก็ยึดเป็นของตนเอง

      ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล ..... สืบพยานแวดล้อม เขาก็บอกว่าเหมืองของคนนั้น คนนี้ ไม่ใช่ของแผ่นดินสักหน่อย


      ตอนนี้เอามาทำประโยชน์เต็มตัว ....... เรียกกันว่า ........ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สวยหรู ร่ำรวยกันเป็นแถบๆ

      เช่น บ้านจัดสรร      สนามกอล์ฟ       ฯลฯ  ................. ประเทศไทยนี่รวยจริงๆ โกงกันเป็นร้อยปียังไม่หมดง่าย

โอไม่เข้าใจค่ะ ว่าคนที่เค้ารวยอยู่แล้วเนี่ย ทำไมไม่รู้จักพอ :-\

...นั่นสินะ...ถ้าพอ...คงได้สงบสุขกว่านี้...แน่ๆ...

เงินใช้คนเดียวคงพอ

แต่พอเอามาใช้สร้างอำนาจ เงินเท่าไรก็ไม่พอ

เพราะมีคนช่วยใช้เยอะกว่าจะได้อำนาจ

ว่าแล้วก็ถอนหายใจดังๆหน่อยนะคะ เผื่อคนๆนั้นจะได้มาเห็นมารับรู้บ้าง...

ตรูละเบื่อ... ::012::

เท่าที่ไปอ่านที่เว็บพันทิป deadline ในการรวบรวมรายชื่อที่คัดค้านจะเป็นวันที่ 11 ก.ย.ก็คือวันนี้ เวลา 21.00 น.นะครับ แล้วเค้าจะตรวจสอบและรวบรวมส่งพรุ่งนี้ครับ  :D

อ้าวเหรอคะ บางคนบอก11 บางคนบอก12 งงๆๆๆ ???
เอาเป็นว่าหากใครมาเห็นข้อความแล้วสนใจมาร่วมลงชื่อค้าน ทำเลยนะคะ อย่ารอ แค่นี้ป่าไม้บ้านเราก็แย่เต็มทนแล้ว มาโดนนายทุนทั้งหลายแสวงหาผลประโยชน์อีก ไม่อยากจะคิด ไม่อยากจะเห็นสิ่งที่กำลังจะตามมาเลยอ่ะค่ะ ::009::

"แม้วซิสเต็ม เทรดดิ้ง กัมปะนี" ภูมิใจนำเสนอ

รายการสินทรัพย์แปลงเป็นทุน

1. ประเทศไทย ซื้อง่าย ขายถูก กำไรงาม

2. การเมืองไทย ลดราคาสวนค่าครองชีพ โปรดติดต่อนายหน้าในพื้นที่สินค้า

รัฐบาลเอาส่วนไหนของร่างกายมาคิดครับนี่ แค่นี้ก็ชาวไทยก็เสียสิทธิหลายๆอย่างมามากเกินพอแล้วครับ ::004::

วันนี้โอได้รับอีเมล์จากกลุ่มที่ร่วมคัดค้านค่ะ ยังมีเวลานะคะ สำหรับผู้ที่รักป่ารักประเทศไทยค่ะ :D




ขอบคุณที่ร่วมกันลงชื่อคัดค้านค่ะ

ถ้ามีชื่อที่ต้องการคัดค้านเพิ่มเติม ก็ส่งมาได้อีกนะคะ แต่ภายในวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายนนี้ เวลา 14.00 น. ค่ะ

นอกจากนี้ เราจะไปทำการยื่นหนังสือคัดค้านในวันที่ 15 กันยายน ที่กระทรวงทรัพย์ฯ ค่ะ

 
ถ้าต้องการเดินทางไปยื่นเรื่อง ไปแสดงพลังร่วมกัน ก็ส่งเมล์มาคุยกันได้นะคะ
แต่รบกวนใช้ subject เมล์ว่า ร่วมยื่นหนังสือคัดค้าน 15 กันยายน  ค่ะ
 
ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ

ทส.ทบทวนแนวคิดให้เอกชนเช่าอุทยานแห่งชาติ

นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกระแสต่อต้านการให้เอกชนเข้าบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติว่า ขณะนี้เป็นเพียงแนวคิดของหลายฝ่ายที่ต้องการปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีความอุดมสมบูรณ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเดิม ซึ่งขณะนี้กำลังคิดหาวิธีการอยู่ แต่ไม่อยากให้ประชาชนคิดเรื่องการให้คนเช่า เพียงแต่เข้ามาบริหารจัดการเพิ่มพูนรายได้ในโซนบริการนักท่องเที่ยว ที่สำคัญต้องไม่ให้อุทยานเสื่อมโทรม แต่หากประชาชนต่อต้านก็พร้อมทบทวน และย้ำว่าจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นของประชาชนก่อน
        นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนคณะทำงาน ซึ่งยังมีกระบวนการสรุปเรื่องเสนอยังกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกระทรวง รวมทั้งการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเป็นลำดับต่อไปด้วย
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000109460

     ขอบคุณครับน้าจงรักษ์ ........ พลังประชาชน (ที่ไม่ใช่พรรคการเมือง) ต้องยิ่งใหญ่เสมอ

 ::014:: แค่ประวิงเวลาก็ยังดีค่ะ ;)

.ในหัวนักการเมืองเค้าคิดได้แค่นี้เหรอครับ

     ขอโทษ คนคิดเรื่องนี้  ใช้ส่วนใหนคิด

  ::006:: ::006::>:( >:( >:( >:( >:( ::006:: ::006::

    >:( >:( >:(    คัดค้านครับ    >:( >:( >:(

เผยกระทรวงทรัพยากรฯเปิดให้เอกชน เช่าพื้นที่ 7 อุทยานแห่งชาติแล้ว

1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา 2 แห่ง คือ เกาะตาชัย เนื้อที่ 45 ไร่ บริเวณอ่าวงวงช้าง เกาะแปด พื้นที่ 40 ไร่

2. อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต 3 แห่ง คือ บริเวณท่าฉัตรไชย หาดลายัน เนื้อที่ 70 ไร่ บริเวณหัวแหลมอ่าวปอ เนื้อที่ 30 ไร่ 

3. อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง จ.พังงา มี 2 แห่งคือ บริเวณพื้นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ลป. 3 (ปาง) และบริเวณข้างเคียง และบริเวณพื้นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ลป. 3 (ปาง) ต่อเนื่องไปทางทิศเหนือ  4. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ มี 4 แห่งคือ บริเวณหาดนพรัตนธารา เนื้อที่ 5 ไร่ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ 2 (สุสานหอย) เนื้อที่ 12 ไร่ บริเวณที่ราบเกาะปอดะใน เนื้อที่ 70 ไร่ และบริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน เนื้อที่ 40 ไร่

 5. อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง รวมพื้นที่ 7 แห่งรวมเนื้อที่ทั้งหมด 1,910 ไร่ ได้แก่ บริเวณที่ทำการอุทยาน (หาดฉางหลาง) เนื้อที่ 809 ไร่ บริเวณหาดยาว เนื้อที่ 440 ไร่ บริเวณเกาะกระดาน เนื้อที่ 118 ไร่ บริเวณหาดหยงหลิน เนื้อที่ 53 ไร่ บริเวณหาดฉางหลาง (เพิ่มเติม) เนื้อที่ 179 ไร่ บริเวณหาดสั้น เนื้อที่ 162 ไร่ และบริเวณเกาะมุกต์เนื้อที่ 149 ไร่ 

6. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ 2 แห่งคือ พื้นที่ตั้งอุทยานแห่งชาติ 1 (เกาะรอก) เนื้อที่ 336 ไร่ บริเวณชายหาดอ่าวไม้ไผ่ ใกล้จุดที่ทำการอุทยานฯ ลันตา เนื้อที่ 26 ไร่ และ

 7. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล 4 จุด คือ บริเวณอ่าวจาก เกาะตะรุเตา เนื้อที่ 80 ไร่ อ่าวเมาะและ เกาะตะรุเตา เนื้อที่ 40 ไร่ บริเวณอ่าวราชา เกาะราวี เนื้อที่ 30 ไร่ และบริเวณอ่าวตะโละปะเหลียน เกาะราวี เนื้อที่ 60 ไร่
 
http://www.suthichaiyoon.com/WS01_A001_news.php?newsid=5227

        มันลงนามในสัญญากันร่วมปีแล้ว นอกจากนี้มีการก่อสร้างที่พักอย่างเป็นรูปธรรมใกล้เสร็จ หรือเสร็จแล้วในบางแห่ง

        ช่วงนี้กระแสต่อต้านรุนแรง ........ รัฐบาลน่าจะทบทวนบทบาทอีกครั้ง ก่อนที่จะกลายเป็นหอกทิ่มแทงตัวเอง (ในส่วนที่ยังไม่ลงนาม)

        สำหรับที่ลงนามแล้วนั้นอาจไม่สามารถยกเลิกได้ แต่ก็ควรกำกับดูแลอย่างเคร่งครัดเข้มงวดจริงจัง ...... ฝ่าฝีนยกเลิกสัญญาสถานเดียว

         การทำอย่างนี้มีการผ่านประชาพิจารณ์หรือครับ.. แล้วทำไมประชาชนอย่างผมไม่เห็นทราบ.. หรือทำเฉพาะคนพื้นที่ซึ่งจริงๆแล้วไม่น่าจะทำได้เนื่องจากเป็นเขตอุทยานฯ  แล้วหากมีนักท่องเที่ยวกระทำผิดใครจะมีอำนาจในการที่จะปรับหรือลงโทษ แล้วถ้าหากผู้ประกอบการทำผิดหมกเม็ดซ้ำอีก การยกเลิกสัญญาหรือปรับค่าเสียหาย ก็ไม่ทำให้สภาพนั้นกลับคืนได้ เห็นทีคงไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานดูแน่ๆ

     เพิ่งจะดูข่าวค่ำ อนงวรรณ บอกยังเป็นเพียงแนวคิด (มีสื่อฯถามเรี่อง โรงแรม ๕ ดาว บนเกาะ ตารุเตา)

เรื่องแจ้งเพื่อพิจารณา/ขออนุมัติ : (ร่าง) หนังสือร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบประเด็นการละเมิดสิทธิและการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม กรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมอุทยานแห่งชาติ (http://www.oknation.net/blog/andamanwatch/2008/09/30/entry-1)

... ::002::...

ป่าไม้ สัตว์ป่าเหลือน้อยลงทุกวัน เพราะคนบุกรุก..เศร้า

ในสมองคนเลว มันมีแต่ความคิดเลว ๆ จริง ๆ ด้วย

นี่คือหนึ่งในจุดตายของรัฐบาลนี้

ถ้าทำงานไม่เป็นหรือทำไม่ไหว ก็เปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลตำแหน่งรัฐมนตรีไปเลยครับ ตัวเองก็นอนอยู่กับบ้านคอยรับเปอร์เซ้นต์ไปเลย เผลออาจมีฝรั่งหรือญี่ปุ่นมายื่นซองประมูลด้วยก็ได้

สุดยอดเลยครับ ขายทุกอย่าง
ต่อไปนี้ประเทศไทยจะเหลืออะไรบ้าง

ฟ้องศาลปกครอง ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ชุมนุมกันแบบพันธมิตรไปเลย

สั่งพับโครงการ เช่าที่อุทยานฯ

อธิบดีใหม่กร้าว นายทุนฝันค้าง!

อธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่เข้ารับตำแหน่งวันแรก ประกาศพับแผน ให้เอกชนเข้าลงทุนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ บอกถึงกฎหมายจะเปิดช่องให้ทำได้ แต่ตราบใดยังเป็นอธิบดีกรมนี้จะไม่อนุญาตอย่างเด็ดขาด เพราะไม่อยากสวนกระแสสังคมต่อต้าน ฝากบอกเอกชนที่เตรียมเข้ามาเช่าพื้นที่ทำรีสอร์ต เลิกคิดไปได้เลย สั่งข้าราชการเน้นทำงานสนองพระราชดำริด้านการอนุรักษ์เป็นอันดับแรก พร้อมกวดขันลักลอบค้าสัตว์ป่า เตรียมจับมือกรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ผุดโครงการ "อุทยานเขียว"

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายอุภัย วายุพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชคนใหม่ เดินทางเข้ารับตำแหน่ง พร้อมมอบนโยบายให้กับหัวหน้าส่วนราชการจำนวนประมาณ 300 คน โดยนายอุภัยกล่าวเน้นให้ข้าราชการ อส. ทำงานสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เป็นสำคัญ โดยเฉพาะงานด้านการอนุรักษ์ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้ตั้งสำนักงานสนองพระราชดำริที่มีกรอบโครงสร้างที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้การดำเนินงานสนองพระราชดำริเป็นไปด้วยความรวดเร็ว คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในส่วนงานด้านอุทยานแห่งชาติ ขอให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญในการดูแลรักษาป่าที่มีอยู่ไม่ให้บุกรุกทำลาย

หลังเสร็จสิ้นการมอบนโยบาย นายอุภัยให้สัมภาษณ์ว่า นอกจากเน้นให้ข้าราชการทำงานสนองพระราชดำริด้านอนุรักษ์แล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การทำงานวิจัยงานด้านวิชาการ และการนันทนาการที่ต้องทำในอุทยานต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งให้ความสำคัญในลำดับรองลงมา ขณะนี้ต้องเร่งรัดการประกาศอุทยานแห่งชาติที่อยู่ระหว่างเตรียมการทั้งหมด รวมทั้งการอนุรักษ์สัตว์ป่า จะให้เข้มงวดกวดขันการลักลอบและค้าสัตว์ป่า และให้มีการชี้แจงต่อประชาคมโลกว่าไทยไม่ได้เป็นแหล่งค้าสัตว์ป่าในภูมิภาคนี้ ขณะที่งานด้านการบริหารองค์กรจะกำหนดให้ทุกสำนักทำยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับแผน และเร่งส่งเสริมค่านิยมของบุคลากรในองค์กรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายการเปิดให้เอกชนเข้าลงทุนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติว่า จะดำเนินการรับช่วงต่อจากอธิบดีคนเดิมหรือไม่ นายอุภัยกล่าวว่า เรื่องนี้ขอกล่าวตรงนี้ว่าโครงการเหล่านี้จะไม่มีเกิดขึ้นแน่นอน ถึงจะมีระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าไปดำเนินกิจการท่องเที่ยว และพักอาศัยในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2547 ที่ให้อำนาจอธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นผู้อนุญาตในกิจกรรม 3 ลักษณะ คือ การขายอาหาร ของที่ระลึก กิจกรรมการท่องเที่ยว และการสร้างที่พักอาศัยหรือรีสอร์ตก็ตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดกระแสการคัดค้านอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ขอยืนยันตรงนี้โดยขอเอาตำแหน่งอธิบดีซึ่งเพิ่งได้รับมาวันนี้เป็นประกัน ว่าจะไม่มีนโยบายเปิดให้เอกชนเข้าไปลงทุนเรื่องที่พักในอุทยานฯ เด็ดขาด

นายอุภัย กล่าวต่อว่า เรื่องแนวคิดการเปิดให้ลงทุนในพื้นที่นันทนาการของอุทยานฯ เป็นความคิดของคนอีกกลุ่มหนึ่งที่คิดจะทำเรื่องนี้ แต่หากตนยังคงอยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ จะไม่มีการดำเนินการแน่นอน ขอให้พับโครงการไปเลยสำหรับคนที่คิดว่าจะเข้ามาลงทุน ถึงในระเบียบระบุว่าให้อำนาจกับอธิบดีดำเนินการได้ แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องให้ทำ ดังนั้น ตนจะไม่ทำอะไรที่สวนกระแสสังคมแน่นอน

เมื่อถามว่ามีการเตรียมตัวเพื่อทำให้อุทยานมีภาพลักษณ์ใหม่ๆ หรือไม่ นายอุภัยกล่าวว่า จะไม่มองเพียงสิ่งที่อยู่ในกรมอย่างเดียว แต่จะขอความเห็นทุกภาคส่วน ขณะนี้มีโครงการอุทยานเขียว เป็นโครงการใหม่ที่จะดำเนินการในเร็วๆ นี้ มีคอนเซ็ปต์ว่าคนที่ไปเที่ยวในอุทยานจะต้องไม่นำโฟมเข้าไป ไม่เอาพลาสติกเข้าไป แต่ให้มีถุงผ้า ถุงกระดาษ รถเสียงดังจะไม่ให้เข้า ลดปัญหามลพิษทางอากาศ และกลิ่นเหม็นจากห้องสุขา เป็นต้น รวมทั้งจะจัดให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวก่อนเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว หากไม่มีเจ้าหน้าที่จะมีแผ่นพับเพื่อเป็นแหล่งความรู้ ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการเตรียมหารือและตั้งคณะทำงาน 1 ชุด จะเชิญผู้แทนจากกรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม มาร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ส่วนอุทยานนำร่องคาดว่าจะเป็นทางบก 1 แห่ง ทางทะเล 1 แห่ง แต่ยังไม่สรุปว่าจะเลือกที่ไหน


ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOekF5TVRBMU1RPT0=&sectionid=TU (http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOekF5TVRBMU1RPT0=&sectionid=TU)

   ดีใจจัง.... ขอให้ท่านผู้นี้คัดค้านแก่งเสือเต้นด้วยครับ