พิมพ์หน้านี้ - อเมริกันดับเบิลสแตนดาร์ดอุ้มธนาคารตัวเองแต่ปล่อยให้ธนาคารไทยล้มปี40

หัวข้อ: อเมริกันดับเบิลสแตนดาร์ดอุ้มธนาคารตัวเองแต่ปล่อยให้ธนาคารไทยล้มปี40
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ กันยายน 17, 2008, 12:51:04 PM

เลห์แมนฯลั่นขายทิ้งธุรกิจในไทย [17 ก.ย. 51 - 04:13]

ความพยายามในการอัดฉีดเงิน และมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินในสหรัฐฯเพื่อหยุดยั้งวิกฤติการล่มสลายของธนาคาร และวาณิชธนกิจน้อยใหญ่ที่อาจจะตามมาภายหลังบริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ ต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ถนนทุกสายทั้งจากฝั่งยุโรป และเอเชียดาหน้าเข้าสู่ตลาดซื้อคืนพันธบัตรเพื่อเสริมสภาพคล่องด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ขณะที่เฟดเตรียมประกาศมาตรการอุ้มสถาบันการเงินในประเทศอีกขั้น

ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องสู่ตลาดการเงินอีก 1.5 ล้านล้านเยน หรือ 500,000 ล้านบาท วานนี้ (16 ก.ย.) เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหลังหุ้นดิ่งลง นับเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินครั้งใหญ่ที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 5 เดือน และได้เริ่มประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินซึ่งจะมีขึ้นต่อเนื่อง 2 วัน เริ่มต้นวันที่ 16 ก.ย. โดยตลาดคาดว่าที่ประชุมจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5%

มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ยื่นขอความคุ้มครองมูลหนี้รวมทั้งสิ้น 3.43 ล้านล้านเยน หรือ 1.12 ล้านล้านบาท ภายใต้กฎหมายล้มละลายต่อศาลกรุงโตเกียว นับเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้
สำนักงานกำกับดูแลการเงินของญี่ปุ่นออกคำสั่งให้เลห์แมนฯระงับการทำธุรกรรมทั้งหมดเป็นเวลา 12 วันนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. รวมทั้งได้ออกคำสั่งอีกฉบับให้เลห์แมนฯคุ้มครองนักลงทุนอย่างเต็มที่และห้ามโยกย้ายทรัพย์สินออกนอกประเทศ ทั้งนี้ เลห์แมนฯในญี่ปุ่นมีทรัพย์สินอยู่ทั้งสิ้น 1.2 ล้านล้านเยน หรือราว 387,600 ล้านบาท

ขณะที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิง 0.27% ไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ทันทีที่รับรู้ข่าวการล้มละลายของเลห์แมนฯ พร้อมกับเตรียมเงินจำนวน 50,000 ล้านเหรียญฯหรือ 1.7 ล้านล้านบาท อัดฉีดสภาพคล่องในระบบหากเกิดปัญหา พร้อมระบุว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพ ในฝั่งยุโรปธนาคารกลางอังกฤษ ได้อัดฉีดเม็ดเงิน 20,000 ล้านปอนด์หรือราว 1.2 ล้านล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในตลาดเงินระยะสั้น หลังจากที่วันก่อนหน้า (15 ก.ย.) ได้อัดฉีดเงินเข้าระบบไปแล้ว 5,000 ล้านปอนด์ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปอัดฉีดเงิน 70,000 ล้านยูโร หรือ 3.36 ล้านล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงินยุโรป

คลังจับตาวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์

ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้ผลักดันให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง มูลค่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.7 ล้านล้านบาท หลังจากอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 6.1% และการล้มละลายของเลห์แมนฯ ซึ่งอาจทำให้เกิดโดมิโนกระทบสถาบันการเงินในภาพรวม ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้เรียกนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเฮนรี่ พอลสัน รมว.คลังสหรัฐฯ และนายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ประชุมด่วนเพื่อถกปัญหา

ด้านคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ที่ได้เริ่มประชุมเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ก็ได้เริ่มประชุมแล้วในวันที่ 16 ก.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดน่าจะปรับลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นผลกระทบในเชิงลบ ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยในระดับ 0.25-0.50%

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รก.รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ผลกระทบจากกรณีเลห์แมนฯ กับเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยถือเป็นการปรับตัวตามตลาดโลก ดังนั้น ยังไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาตรการเสริมเพื่อประคับประคองตลาดหุ้นและตลาดเงิน ส่วนนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รก.รมช.คลัง กล่าวว่า ปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐฯจะทำให้มีการดูดเงินจากประเทศเล็กกลับไปให้บริษัทแม่ ทำให้ห่วงสภาพคล่องเศรษฐกิจไทย โดยถ้าปล่อยไว้ทุนสำรองของไทยลดลง ปริมาณเงินบาทในระบบจะลดมากไป ดังนั้น ควรปล่อยให้สภาพคล่องเข้ามาโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรปล่อยเงินเข้ามาด้วยการซื้อพันธบัตร เพราะถ้าไม่มีมาตรการอะไรทรัพย์สินในตลาดหลักทรัพย์อาจพังได้ และจะดึงให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเงินไหลออกในระยะสั้นมีเพียง 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่มาก

ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รก.รมช.คลัง เปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องเป็นห่วงต่อไปคือ กรณีธนาคารเอไอจี ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจอีกแห่งของสหรัฐฯที่ขาดสภาพคล่องระยะสั้น เพราะเอไอจี เป็นธนาคารที่มาลงทุนในไทยจำนวนมากและเป็นบริษัทแม่ของเอไอเอประกันชีวิต ซึ่งได้มอบหมายให้ไปตรวจสอบแล้วว่า เอไอจีลงทุนในไทยคิดเป็นมูลค่าเท่าใด ธุรกิจใดบ้างเพื่อพิจารณาว่า หากเอไอจีมีปัญหาจะมีผลกระทบต่อไทยอย่างไร

เลห์แมนฯลอยแพทิ้งธุรกิจในไทย

นายกฤษดา กวีญาณ ที่ปรึกษาการลงทุนประจำประเทศไทยของเลห์แมน บราเธอร์ส เปิดเผยว่า มูลค่าเงินการลงทุนของเลห์แมนฯที่มีอยู่ในไทยขณะนี้มากกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท และหลังจากนี้คงต้องหยุดชะงักแบบถาวรหลังเลห์แมนฯล้มละลาย โดยสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมดต้องถูกขายออกเพื่อนำเงินไปช่วยบริษัทแม่ ดังนั้น การลงทุนของเลห์แมนฯในไทยคงจะไม่มีอีกแล้ว

สำหรับผลกระทบต่อไทย คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากเงินลงทุนส่วนใหญ่ 40,000 ล้านบาท จะอยู่ในรูปของอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและสำนักงานให้เช่า แม้จะต้องตัดขายสินทรัพย์ทิ้งทั้งหมดก็ไม่น่ากังวล แต่อาจมีผลทำให้ราคาปรับตัวลงได้ เพราะเลห์แมนฯถือเป็นรายใหญ่สุดของประเทศ พื้นที่รวม 100,000 ตร.เมตร ทั้งโรงแรมและสำนักงานให้เช่า เช่น ตึกอิตัลไทย, ตึกเมอร์คิวรี่, ตึกเมืองไทยภัทร และตึกแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ ย่านสุขุมวิท หากมีการนำทรัพย์เหล่านี้ปล่อยสู่ตลาดในราคาที่ถูก อาจมีผลกระทบต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ไทย แต่ก็เป็นโอกาสของนักลงทุนไทยในการซื้อทรัพย์เหล่านี้

นายกฤษดายังกล่าวว่า เลห์แมนฯยังมีสัญญาที่จะให้สินเชื่อกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นอย่างน้อย 2-3 แห่ง ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งอาจทำให้บริษัทเหล่านี้ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และท่องเที่ยวเกิดปัญหาสภาพคล่อง และต้องหาแหล่งระดมทุนใหม่ในการทำโครงการหรือลงทุนต่อ ซึ่งตนเห็นว่า ธปท.น่าจะเข้ามาช่วยเหลือหาแหล่งเงินทุนให้ หากเห็นว่าเป็นโครงการที่มีอนาคต เพราะบริษัทเหล่านี้ไม่ได้มีปัญหา และหากโครงการดำเนินต่อไปไม่ได้ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจะเป็นคนไทยไม่ใช่ต่างชาติ นอกจากนั้น ธปท.ยังควรจัดตั้งเงินกองทุนรองรับผู้กู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินของโลกครั้งนี้ และหามาตรการรองรับดูแลสภาพคล่องในระบบไม่ให้ขาด รวมถึงดูแลต้นทุนการเงินของเอกชนไม่ให้สูงเกินไป.

ติดต่อโฆษณา นสพ.ไทยรัฐออนไลน์ โทร 0-2636-0726

http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=104447

ก่อนหน้านี้ธนาคารเล็กๆใน usa ล้มละลายก็แค่การรบประปราย แต่การที่ เลห์แมน ล้มละลายนั้นเป็นการเข้าสงครามเศรษฐกิจแท้จริงเพราะเลห์แมนมีการลงทุนทั่วโลก รัฐบาล ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อังกฤษ USA เตรียมเม็ดเงินรองรับวิกฤติครั้งนี้มากกว่างบประมาณต่อปีประเทศไทยไม่น้อยกว่า 5 เท่า ด้วยครับ ลูกที่2 ที่จะตามมาคือ ธนาคาร aig บริษัทแม่ของ aia ก็กำลังจะล้มละลายเช่นกัน หากเราก็ยังทะเลาะกันไม่เลิกหากปล่อยไว้อย่างนี้จะรอดไปได้อย่างไร สงครามยืดเยื้อส่งผลต่อทั้ง2 ฝ่ายมากกว่าสงครามเด็ดขาดที่เผด็จศึกได้ในเวลาอันสั้นครับ:D

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2008, 01:01:32 PM

ต้องดูอาการ AIG ... ถ้าไปอีก.. คงสนุกสนานแน่ๆ.. :D

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ประกาศเมื่อวานแล้วว่าจะอนุมัติเงินกู้ 85,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 2 ล้าน 8 แสน 9 หมื่นล้านบาทให้กับบริษัทอเมริกัน อินเตอร์แนชันแนล กรุ๊ป หรือเอไอจีของสหรัฐซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้รอดพ้นจากการเสี่ยงล้มละลายที่จะสร้างความหายนะต่อตลาดเงินครั้งใหญ่ โดยการอนุมัติเงินกู้ครั้งนี้มีเงื่อนไขหลายข้อรวมถึงรัฐบาลสหรัฐจะเข้าถือหุ้น 79.9% ของเอไอจีเพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของรัฐบาลและผู้เสียภาษี
http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/17/news_295223.php

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2008, 01:30:10 PM

เหมือนโดมิโน่นะครับล้มตามๆกันไป...โดนกันทั่วหน้าต้องรักษาตัวกันให้ดี :~)

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กันยายน 17, 2008, 01:49:31 PM

อืม..ขอบพระคุณข้อมูล

แล้วทีนี้ใครเดือดร้อนจริง อีกละเนี่ย...............

วัวพันหลัก ของทุนนิยม(เข้าใจเอาเองครับ อ้างอิงไม่ได้ คริๆ)

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2008, 02:15:16 PM

ไม่ค่อยรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์เลย
ได้มาก็ใช้ไป เก็บบ้างเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยอะไร ใช้จ่ายที่จำเป็น
รายจ่ายอะไรลดได้ก็ลด
ขอบคุณครับ

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ กันยายน 17, 2008, 02:18:41 PM

...เห็นแว่บๆ ทาง CNN เมื่อตอนเที่ยงว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเข้ามาอุ้ม AIG 85,000 ล้าน USD

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ กันยายน 17, 2008, 02:48:01 PM

เอ ! เดือนหน้าต้องส่งเบี้ยประกัน AIA ชักกังวลแล้วครับ

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ กันยายน 17, 2008, 04:39:27 PM

พวกเรายังแบ่งข้างทะเลาะกันอยู่แบบนี้ ประเทศชาติล้มละลายครับ

ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายชนะก็ตาม แต่ก็ชนะบนทรากปรักหักพังของประเทศ

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2008, 04:45:43 PM

อ้างจาก: ป้อมทอง ที่ กันยายน 17, 2008, 04:39:27 PM

... ::002::..เห็นด้วยครับ.... ::014::

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2008, 04:52:20 PM

เห็นแวบๆตอนกลางวัน ว่า กบข.จะเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ของเลห์แมนในประเทศไทยครับ...

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ กันยายน 17, 2008, 05:31:02 PM

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำวันพุธที่ 17 กันยายน 2551 ปิดที่ 605.14 จุด ลดลง 19.42 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 15,114.00 ล้านบาท ใกล้แตะ500 จุดเต็มทีแล้วครับ :D

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: aniki ที่ กันยายน 17, 2008, 06:36:16 PM

เมืองไทย...ข่าวนี้แทบไม่ออกหรือออกแล้วชาวบ้านไม่สนใจ ผมติดตามเรื่องนี้ในต่างประเทศ เป็นเรื่องใหญ่มาก ที่จะทำให้หลายแสนหลายล้านครอบครัวกระอัก เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ในญี่ปุ่นเองก็ห่วงกับเรื่องนี้มากครับ :~)

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2008, 07:06:47 PM

" เศรษฐกิจพอเพียง"........... ::014::

หัวข้อ: Re: เปิดสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2008, 08:12:07 PM

AIAยันยังปึ้ก-กองทุนสูง 6.9หมื่นล้านบาท

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นายโธมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูง และผู้จัดการทั่วไป เอไอเอ เปิดเผยว่า ความสามารถในการรับผิดชอบต่อภาระผูกพันต่อทุกกรมธรรม์ประกันภัย ณ เดือนกรกฎาคม 51 บริษัทมีเงินสำรองประกันภัยตามราคาประเมิน 2.87 แสนล้านบาท และมีเงินกองทุน 6.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 1,107% ของเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดของคปภ. ที่ให้มีอย่างน้อย 150%

http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/17/news_295338.php

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ กันยายน 17, 2008, 08:24:46 PM

เมื่อสักครู่นี้ดูข่าวแบงค์ชาติแถลงว่าการล้มของเลห์แมนไม่กระทบไทย ช่างคิดได้แบบไทยๆจริงๆ ครับ

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: พราน ที่ กันยายน 17, 2008, 08:36:37 PM

คปค.ก็ออกมาแถลงว่าจะไม่กระทบกับผู้เอาประกันของเอไอเอ ผมก็ว่าพูดความจริงไม่ทั้งหมดครับ เป็นไปไม่ได้ถ้าบริษัทแม่ล้มจะไม่กระทบกับบริษัทลูกเพราะการประกันมีการเอาประกันต่อโดยกองทุนของบริษัทแม่ ;D

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: khaophanom ที่ กันยายน 17, 2008, 08:56:48 PM

;D ตอบจาก การสอบ EC102 ได้ เกรด P จากการสอบถึง 2 ครั้ง ;D (อ้างอิงความรู้ เศรษฐศาสตร์)

พี่น้อง ครับ เศรษฐกิจล่มปี 2540 จะกลายเป็น เด็กๆ เมื่อเทียบกับ ครั้งนี้

ถึง AIG จะได้เงินกู้ จาก Fed ประมาณ 2 ล้านล้าน บาท แล้วคิดเหรอ ว่า AIG จะหาเงินมาใช้ทันพร้อมดอกเบี้ย

แค่ Fed จะพยายามชะลอ การล่มสลายครั้งนี้

ดั่งโบราณท่านว่า ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด( แล้วทีมแมนยู ผมเล่า ใครจะมาเป็นสปอนเซอร์แทน AIG ) ::004::

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กันยายน 17, 2008, 10:04:52 PM

อ้างจาก: พราน ที่ กันยายน 17, 2008, 08:36:37 PM

ก็ต้อง ปรอบใจกันไปก่อน... ค่อยบอกทีเดียวตอนเจ๋ง.. ;D

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 18, 2008, 12:32:55 AM

อ้างจาก: aniki ที่ กันยายน 17, 2008, 06:36:16 PM

เรื่องใหญ่สิครับ...

ผมคุยกับใครก็มีแต่คุยเรื่องนี้ทั้งนั้น...

นายกคนใหม่ยังไม่สนใจเท่าไรเลยครับ...

เพราะผมทราบว่าเที่ยวนี้งานเข้าของจริงครับ...

ปี 40 นั้นแค่จิ๊บๆเมื่อเทียบกับรอบนี้ครับ...

ผมทายว่าเราจะได้เห็น set index ของบ้านเราลงไปต่ำกว่า 500 ก่อนสิ้นปีครับ...

ไม่นับว่าบริษัทล้มละลายอีกกี่สิบกี่ร้อยราย อาจจะแถมธนาคารบางส่วนด้วย...:~)

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กันยายน 18, 2008, 01:01:25 AM

ราคาทองคืนนี้พุ่งขึ้นถึง+80 เหรียญ ประวัติศาสตร์จริงๆ ขอแสดงความยินดีกับท่านที่ช้อนไว้ด้วยครับ ::008::

สุดท้ายไม่รู้ไปลงที่ไหน ก็คงลงที่ทองนี้กระมัง :)

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กันยายน 18, 2008, 01:04:54 AM

อ้างจาก: rute ที่ กันยายน 18, 2008, 12:32:55 AM

อ้างจาก: aniki ที่ กันยายน 17, 2008, 06:36:16 PM

พรุ่งนี้คงหนักอีกมั้งครับพี่หมอ ตลาดลักทรัพย์แห่งประเทศ..... ::003::

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: คีนูแป๊ะ-รักในหลวงครับ ที่ กันยายน 18, 2008, 01:24:00 AM

อ้างจาก: พราน ที่ กันยายน 17, 2008, 08:36:37 PM

ไม่กระทบกับคนที่จะจ่ายเบี้ยประักัน แต่คนที่จะเคลมเอาเงินประกันหละ

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ กันยายน 18, 2008, 08:59:45 AM

ผมก็ทำประกันกับAIAแต่ไม่ซีเรียสอะไร

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กันยายน 18, 2008, 09:42:07 AM

หุ้นทั่วโลกดิ่งเหว!ผวาวิกฤติการเงินสหรัฐ... :o

ตลาดหุ้นทั่วโลกดำดิ่ง! ทั้งยุโรป-เอเซีย ร่วงระนาว ผวาวิฤติการเงินรอบใหม่ในสหรัฐ แม้รัฐบาลจะประกาศเข้าอุ้มเอไอจีกว่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 10609.66 จุด ลดลง 449.36 จุดหรือ -4.06% ดัชนีแนสแด็กปิดที่ระดับ 2098.85 จุด ลดลง 109.05 จุด หรือ -4.94% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 1156.39 จุด ลดลง 57.20 จุด หรือ -4.71%

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ กันยายน 18, 2008, 12:41:31 PM

มันเป็น "สงครามเศรษฐกิจ" อย่างไรอะครับ รบกวนอธิบายหน่อยนะครับ แบบว่า ไม่รู้จริง ๆ น่ะครับ

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กันยายน 18, 2008, 03:05:46 PM

พูดยากครับ ทุนนิยมสุดโต่ง กับ เศรษฐกิจพอเพียง ไปกันไม่ได้เลย มันปั่น มันหมุน ติ้วๆๆ ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ จนมันเวียนหัวล้มเอง เดี๋ยวมันก็ลุกขึ้นเองได้อีก เช่นกันครับ

มันจะเป็นอย่างไรก็เป็นกันละพี่น้องเอ้ย..........เราได้แต่นั่งมอง และก็รอรับผลที่ตามมา อย่างเดียว จะทำอะไรได้

คนรวยๆก็คงกระทบมากหน่อย

คนจนๆ ก็น้อยหน่อย

ว่ากันไป แบ่งกันไป

ยังไงๆ ประเทศไทย ก็ยังมีโชคดีเยอะแยะ เช่น เราผลิตอาหารได้เอง เยอะ ก็คงไม่อดแน่ แต่.......ราคามันจะเป็นอย่างไร ก็ค่อยว่ากัน

คนจนไม่ต้องหวั่นมากครับ สงสารก็แต่คนรวยๆ ที่เอาเงิน เอาทรัพย์ไปฝากใว้กับใครๆ ที่เขายุ่งยากนั้นแหละ คริๆน่าจะเป็นผลบ้าง

หรืออย่างไรไม่ทราบ ผมก็มึนๆไปตามความเข้าใจ ไม่มีข้อมูลอ้างอิงอะไร

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: ลานดาว ที่ กันยายน 18, 2008, 04:04:55 PM

ต้องกระทบแน่นอน มันคือสึนามิ ทางเศรษฐกิจ
ใช้จ่ายกันอย่างระมัดระวังไว้นะค่ะ.

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กันยายน 19, 2008, 09:46:33 AM

ภาคแรงงาน โวยกองทุน สปส.รีดเงินจากค่าหยาดเหงื่อแรงงานไปเล่นหุ้นต่างประเทศขาดทุนกว่า 40 ล้านบาท แนะบอร์ดควรพิจารณาตนเอง พร้อมจับตาขนเงินไปนอกอีก 1.9 หมื่นล้าน ซื้อหนี้เสีย เลห์แมน 19 ก.ย.นี้ พร้อมชี้บทเรียนซ้ำซาก เคยขาดทุนบักโกรกจากหุ้น ธ.ไทยธนาคาร

http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9510000111027

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: Desperado - รักในหลวง ที่ กันยายน 19, 2008, 09:49:40 AM

กะว่าปีนี้จะขยายการลงทุนสักนิดคงต้องเก็บโครงการไว้ก่อน ทำเท่าที่ทำได้ไปก่อน น้อยยังดีกว่าเสีย

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: mrt ที่ กันยายน 19, 2008, 10:17:30 AM

อ้างจาก: ART ที่ กันยายน 17, 2008, 02:48:01 PM

เอ ! เดือนหน้าต้องส่งเบี้ยประกัน AIA ชักกังวลแล้วครับ

:~) :~) ของคุณส่งเบี้ยประกัน(เดาเอาว่าคงทำต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว) แต่ผมสิครับ พึ่งจะทำประกันกับ AIA ไปได้ 4 วันยังไม่ได้เคลมสักครั้ง :~) :~) โอพระเจ้าจอร์จ

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กันยายน 19, 2008, 10:24:32 AM

;D...
(http://img509.imageshack.us/img509/7185/87934941vh3.jpg) (http://imageshack.us)
(http://img213.imageshack.us/img213/4807/35071104xk5.jpg) (http://imageshack.us)
(http://img294.imageshack.us/img294/1019/10930791py5.jpg) (http://imageshack.us)

หัวข้อ: Re: เปิดฉากสงครามวิกฤติเศรษฐกิจโลก!
เริ่มหัวข้อโดย: ลานดาว ที่ กันยายน 19, 2008, 01:10:03 PM

อ้างจาก: mrt ที่ กันยายน 19, 2008, 10:17:30 AM

อ้างจาก: ART ที่ กันยายน 17, 2008, 02:48:01 PM

เอ ! เดือนหน้าต้องส่งเบี้ยประกัน AIA ชักกังวลแล้วครับ

อย่างไรก็กลัวค่ะ
บริษัทนี้ ดาว..มี 4 กรรมธรรม์
ปีนี้ครบ 7 ปีพอดี สามารถหยุดได้ 2 กรรมธรรม์ อีก 2 คงต้องผ่อนให้ครบ 20 ปี

หัวข้อ: อเมริกันดับเบิลสแตนดาร์ดอุ้มธนาคารตัวเองแต่ปล่อยให้ธนาคารไทยล้มปี40
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ กันยายน 23, 2008, 10:10:15 PM

ดับเบิ้ลสแตนดาร์ด

อังคารวันพรุ่งนี้ สถาบันเกษตราธิการชวนนิติภูมิพูด “การสื่อสารเพื่อการจูงใจ” รับใช้ผู้อำนวยการกอง+เกษตรกรและสหกรณ์จังหวัด 92 คน 09.00-10.30 น. ที่อาคารเคยูโฮม ม.เกษตรศาสตร์

จบงานแรก 10.40 น. ผมก็จะเดินมาอาคารสารนิเทศ 50 ปี ม.เกษตร�ศาสตร์จัดพูด “การผลิตบัณฑิตคุณภาพ...บนพื้นฐานคุณธรรมจริยธรรม” โดย ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต และนิติภูมิ

พ.ศ.2539 พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 แต่ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2540 ด้วยวิกฤติเศรษฐกิจ ตอนนั้น อเมริกาปล่อยให้พวกโจมตีค่าเงินออกมาอาละวาดฟาดฟัน รัฐบาลไทยต้องใช้เงินสำรองต่างประเทศเข้าไปต่อสู้ในตลาดค้าเงินตรา ด้วยหวังว่าจะสามารถดึงค่าเงินบาทให้กลับคืนมา แต่บั้นปลายท้ายที่สุด ประเทศไทยไชโยของเราแพ้ราบคาบ พวกนักลงทุนฝรั่งมังค่าทั้งหลายหายหน้าหายตาไป พร้อมกับเงินทองของเราบานเบอะเยอะแยะ

นักธุรกิจไทยฆ่าตัวตายไปไม่น้อย ลูกหลานที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ ในต่างประเทศต้องกลับบ้าน เพราะค่าเงินของเราตกมาก จากดอลลาร์ละ 25 บาท ตกไปเป็น 40 บาท แถมสถานการณ์ยังลามปามจากไทยไปยัง อินโดนีเซียและเกาหลีใต้อีก

รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้เข้ามาบริหารประเทศต่อ มีนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ เป็นรัฐมนตรีคลัง และ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นรัฐมนตรี พาณิชย์

รัฐบาลนายชวนไม่ช่วยเหลือสภาวะเศรษฐกิจไทย เพราะท่านเชื่อทฤษฎีและคำแนะนำของฝรั่งมังค่า ว่าต้องปล่อยให้ธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทที่ไม่มีประสิทธิภาพให้ล้มหายตายจากไป อย่าไปช่วย

รัฐบาลไทยที่บริหารโดยนายชวนและคณะ รวมทั้งรัฐบาลของเกาหลี ใต้เชื่อฝรั่ง ส่วนรัฐบาลมาเลเซียของ ดร.มหฎิร มุฮัมหมัด ไม่เชื่อ

ดร.มหฎิรยังตะโกนก้องร้องด่าไอ้โซรอส ยิวอเมริกันที่เป็นหัวหน้าแก๊งโจมตีค่าเงินซะอีก

อสังหาริมทรัพย์ไทยถูกปล่อยให้ล้มละลาย และขายให้ฝรั่งในราคาถูก ต่อมา บริษัทฝรั่งก็ขายกลับไปให้คนไทยในราคาแพง เพียงชั่วระยะเวลาอันสั้น ฝรั่งมังค่าทำกำไรได้มหาศาลจากการเข้ามาช้อนซื้อเพื่อนำมาปล่อยคืนให้ เจ้าของเดิม

นักการเมืองไทยสมัยนั้น ได้เศษเงินจากฝรั่งกันเยอะ

รัฐบาลประชาธิปัตย์เชื่อฝรั่งทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ
ดร.มหฎิรปิดมาเลเซีย ไม่ให้ฝรั่งเข้าไปโจมตี ผลคือ มาเลเซียรอด

เกาหลีใต้เชื่อฝรั่ง ผลคือ ต้องไปกู้เงินจากไอเอ็มเอฟโดยมีเงื่อนไขว่า เกาหลีใต้ต้องอย่าไปช่วยบริษัทและธนาคารที่กำลังแย่ “ลื้อต้องปล่อยพวกมันให้ล้มไป”

เมื่อฟื้น รัฐบาลเกาหลีนี่แหละ เป็นผู้ชวนให้นิติภูมิบินไปสนทนาพูดจากับรัฐมนตรีของตัว ทั้ง รมว.เกษตรฯ รมว.ศึกษาธิการ รมว.ต่างประเทศ และคนที่ดูแลด้านการเศรษฐกิจ สนทนาเพื่อให้รู้ว่า เกาหลีใต้บริหารยังไงจึงคืนหนี้สินให้ไอเอ็มเอฟได้

ทางประเทศไทย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และคณะ บริหารประเทศ

ได้ดีพอสมควร ประเทศไทยไชโยของเราจึงใช้หนี้ให้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนเวลากำหนด

วันนี้ อเมริกามีปัญหาอย่างเดียวกันเปี๊ยบกับที่ไทย เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย เคยเผชิญเมื่อ พ.ศ.2540

แต่รัฐบาลอเมริกันกลับ “ปฏิบัติ” ต่อธนาคารและบริษัทของตน “แตกต่าง” จากที่เคยสั่งให้ไทยและประเทศเอเชียทั้งหลายทำเมื่อ 10 ปีก่อนโน้น

แทนที่จะปล่อยให้ล้มจมคะมำอย่างที่เคยสั่งพวกเรา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้เงินเอไอจี (บริษัทแม่ของบริษัทประกันชีวิตเอไอเอ) 85,000 ล้านดอลลาร์ (2.7 ล้านล้านบาท) ขณะที่นิติภูมิกำลังเขียนหนังสืออยู่นี้ ก็มีข่าวจากซีเอ็นเอ็น ว่ารัฐบาลอเมริกันเอาเงินไปให้สถาบันสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัย 2 แห่ง ทั้งแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ให้ไปตั้ง 200,000 ล้านดอลลาร์ (6.4 ล้านล้านบาท)

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ยังจำได้ว่ารัฐบาลเพิ่งช่วยวาณิชธนกิจที่มีชื่อว่าแบร์สเติร์นส์ เป็นเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ (9.6 แสนล้านบาท)

อ้าว นี่มันอะไรกันเฟ้ย ตอนเอ็งส่งคนเข้ามาโจมตีพวกข้า รัฐบาลของพวกข้าจะช่วย เอ็งปรามว่าอย่าเข้าไป ไม่เช่นนั้น จะสั่งไอเอ็มเอฟว่าไม่ให้พวกเอ็งกู้เงิน

แต่พอของเอ็งมีปัญหา พวกเอ็งกลับว่า ต้องช่วยๆๆๆ

นักบริหาร นักการเมือง หรือใครก็ตามที่มีความคิดติดฝรั่ง บ้าฝรั่ง พวกเราเอามาใช้ในประเทศไทยไม่ได้เลย ท่านดูจากบทความที่นิติภูมิเพิ่งรับใช้ไปเถิด.

http://www.thairath.co.th/news.php?section=international01&content=104951

หัวข้อ: Re: อเมริกันดับเบิลสแตนดาร์ดอุ้มธนาคารตัวเองแต่ปล่อยให้ธนาคารไทยล้มปี40
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ กันยายน 24, 2008, 12:43:53 AM

อ้างจาก: ดาว ที่ กันยายน 19, 2008, 01:10:03 PM

อ้างจาก: mrt ที่ กันยายน 19, 2008, 10:17:30 AM

อ้างจาก: ART ที่ กันยายน 17, 2008, 02:48:01 PM

เอ ! เดือนหน้าต้องส่งเบี้ยประกัน AIA ชักกังวลแล้วครับ

ของผมก็ประกันมา 7 ปีแล้ว เหลืออีก 13 ปี เป็นคล้ายสะสมทรัพย์ก้อนนี้จะส่งลูกไป เรียน ต่างประเทศขออย่าให้เป็นอะไรเลยครับ

หัวข้อ: Re: อเมริกันดับเบิลสแตนดาร์ดอุ้มธนาคารตัวเองแต่ปล่อยให้ธนาคารไทยล้มปี40
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กันยายน 26, 2008, 01:15:10 PM

ช็อค!กองทุนรวมสหรัฐล่ม เจพีมอร์แกนเข้าเทคโอเวอร์

กองทุนเงินประกันภัยสหรัฐเข้ายึดกิจการกองทุนรวมวอชิงตัน หลังเจอพิษวิกฤตซับไพรม์ ก่อนเจพี มอร์แกน เข้าเทคโอเวอร์กิจการ นับเป็นการล้มของธนาคารใหญ่ที่สุดของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ในประวัติศาสตร์สหรัฐ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1222346016&grpid=00&catid=01

ชักไงๆแล้ว.... :)

หัวข้อ: Re: อเมริกันดับเบิลสแตนดาร์ดอุ้มธนาคารตัวเองแต่ปล่อยให้ธนาคารไทยล้มปี40
เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กันยายน 30, 2008, 02:50:00 AM

นายขวัญอยู่ไส มาวิจารณ์หน่อยครับ
$700 Billions bail out ไม่ผ่านสภาครับ หุ้นตกหวบ

เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ กันยายน 17, 2008, 12:51:04 PM