เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ::004:: เป็น.38super colt ยังไม่ได้ไปแจ้งเจ้าของเดิมถึงแก่กรรมด้วยครับ มีขั้นตอนอะไรบ้างครับรบกวนหน่อยนะครับ....ขอบคุณมากครับ ::014::

        เป็นบิดาของท่านหรือเปล่าครับ ..ถ้าใช่ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ  ::014::

        ผมขอเล่าให้ฟังแล้วกันครับ...ตอนนี้ที่ผมทำอยู่มี 1 กระบอกของพ่อภรรยา ชื่อปืนเป็นของพ่อของพ่อภรรยาซึ่งถึงแก่กรรมนานมากแล้ว (เกิน 7-8 ปี)  สถานที่ทำเรื่องนี้เป็นจังหวัดติดกทม.

        ไม่ทราบว่า คุณพ่อก่อนท่านเสียได้ทำพินัยกรรมไว้รึเปล่าครับ ถ้าไม่มี เอกสารที่สำคัญที่สุดและวุ่นที่สุดคือคำสั่งศาลเรื่องผู้จัดการมรดกครับ เพราะเป็นเอกสารสำคัญประกอบในการโอนกรรมสิทธิ์ โดยทางอำเภอผมเขาจะยึดถือเรื่องเอกสารนี้เป็นเอกสารที่สำคัญสุด (อำเภอไม่มีกระบวนการสอบและติดประกาศเอง) ส่วนของท่านเองลองไปสอบถามที่อำเภอก่อนครับเผื่อยังรับทำอยู่

         วิธีการที่ผมทำอยู่และดูจะประหยัดเงินที่สุด เนื่องจากผมไม่รีบร้อน คือ ผมใช้บริการจากศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย (สำนักงานจะอยู่ที่อัยการจังหวัด) ลองไปติดต่อดูครับ เขาจะแนะนำขั้นตอนเพื่อเตรียมเอกสารและยื่นคำร้องต่อศาล รวมถึงตั้งทนายให้ เสียค่าธรรมเนียมศาลอย่างเดียว ที่สำคัญของเรื่องนี้คือ ตกลงกับคนในครอบครัวให้ดีนะครับ ว่าใครจะเป็นผู้จัดการมรดก กรณีของผม พ่อภรรยาเป็นบุตรคนเดียว ทรัพย์สินที่เหลือยังไม่ได้ดำเนินการคืออาวุธปืนกระบอกเดียว ที่เหลือโอนกันก่อนเรียบร้อยแล้ว งานนี้เลยไม่มีทะเลาะกับใคร  ;D

         ซึ่งหลังจากจบขั้นตอนจนได้หนังสือแต่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว ก็กลับมาที่อำเภอ นำคำสั่งศาลมารวมกับเอกสารประกอบทั่วไปในการขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองความประพฤฒิ หนังสือรับรองรายได้ ใบป.๔ ฉบับเก่า อาวุธปืนเพื่อตรวจ  ก็ดำเนินการโอนอาวุธปืนได้ตามขั้นตอนครับ  ;D

ขอบมากนะครับ...ขอบคุณมาก

ตามนั้นเลยครับ

แต่ถ้ามีลูกหลายคนก็ตกลงกันให้ดีก่อน

รอนานหน่อยครับ

บิดาเสียชีวิตไป 3 ปีแล้ว  ยังไม่ได้ทำเรื่องโอนปืนมีปัญหาและขั้นตอนอะไรบ้างครับ  




กรณีขอรับโอนอาวุธปืน โดยมรดก โดยที่ไม่มีพินัยกรรม นั้น 
นอกจากใบมรณะบัตรและหลักฐานยืนยันการเสียชีวิตของเจ้าของปืนเดิม แล้ว
ผมไม่แน่ใจว่า  จำเป็นจะต้องร้องขอคำสั่งจากศาลหรือไม่ นะครับ

ทั้งนี้  ถ้าผู้ขอรับโอนอาวุธปืนดังกล่าว  เป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก อยู่แล้ว
หากใช้เป็นหนังสือแสดงความยินยอมจากทายาทโดยธรรม ลำดับอื่น
ซึ่งยินยอมให้ท่าน (ผู้เป็นทายาทโดยธรรม เช่นกัน) รับโอนอาวุธปืนข้างต้น ได้

ก็น่าจะเพียงพอนะครับ...สำหรับหลักฐานประกอบการยื่นใบแบบ ป.1 อ่ะครับ


เว้นแต่ ผู้ขอรับโอน จะมิได้เป็นทายาทใด ๆ ของเจ้าของปืนเดิม
คงจะต้องโอนให้ทายาทของเจ้าของปืนเดิมก่อน ตามขั้นตอนก่อน
แล้วจึงจะให้ทายาทของเจ้าของปืนเดิม โอนให้แก่ผู้รับโอน แหละครับ


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

     ถ้ามันง่ายเหมือนเมื่อก่อนก็ดีสิครับ พี่ 51... ไม่งั้นผมก็คงไม่ต้องมานั่ง รอ...ร้อ..รอ. อยู่อย่างนี้ นัดขึ้นศาลนัดแรกก็ ปาเข้าไป 1 เดือนนับจากยื่นเรื่อง

      เมื่อก่อน นายทะเบียนสามารถสอบทายาทติดประกาศได้ แต่ทุกวันนี้ประมาณว่า สอบไปแล้วติดไปแล้ว ดันมีคนมาฟ้องทีหลังบ่อยๆ แถมจะมาเล่นงานทางกฎหมายนายทะเบียนอีก ท่านก็เลยใช้วิธีให้ทายาททำเรื่องขอคำสั่งศาลซะเลย จะได้ชัวร์

       ถ้าอำเภออื่นอาจจะยังมีวิธีแบบที่พี่บอก แต่อำเภอผมตามนี้จริงๆครับ เฮ้อ....

ของผมก็ ปืน พ่อตา ครับ    พ่อตา เสีย ไป 3-4 มั้ง ถึงได้ ทำเรื่องโอน เนื่องจากไม่รู้กฎหมาย

ตอนโอนก็ไม่ได้ตั้งผู้จัดการมรดก ไม่ถึง ศาล     โอนเป็น ชื่อ ภรรยาผม เลย

ประมาณ ว่า ทายาท คนอื่น ยอมยก ให้

เหมือนกันครับ มีปืนของเจ้าคุณตากระบอกนึง พี่น้องห้าคนตกลงยินยอมยกให้กับแม่ผม ไปสอบถามนายทะเบียนบอกว่าต้องพาพี่น้องทั้งหมดมาเซ็นยินยอม
ต่อหน้านายทะเบียนจึงจะดำเนินการต่อได้  แต่ทุกวันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับเพระแต่ละคนอยู่ไกลกันมากนัดให้มาพร้อมๆกันไม่ได้
จึงยังไม่รู้ผลครับว่าจะเป็นอย่างไร

รบกวนถามต่อด้วยว่า
ถ้าเป็นขนาดที่ขอยากๆ พวก.357Mg .45ACP และพวกไรเฟิลขนาดหนักประมาณ .375H&H
จะรับโอนมรดกได้ไหมครับ(มีประมาณ 10 กว่ากระบอก)

ของผมเป็นขนาด .38 super auto

...ด้วยความเคารพ ผมต้องขออนุญาตท่านจขกท. และพี่ๆ ในเว็ปที่ผมยกกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้ง ก็เนื่องจากกระทู้นี้เป็นกรณีที่คล้ายๆ กับสถานการณ์ของเพื่อนผมที่ผมเพิ่งมีโอกาสคุยกันเรื่องการโอนปืนมรดกวันนี้เองครับ มีหลายๆ คำถามที่เกี่ยวข้องกับกม. อวป. ที่ผมไม่สามารถตอบเค้าได้ชัดเจนนัก ผมจึงขออนุญาตรบกวนปรึกษาพี่ๆ ที่มีความรู้ในด้านกม. อวป. ดังนี้ครับ...

...เรื่องก็คือว่า เพื่อนสนิทของผมพบโดยบังเอิญว่า "บิดาของเขาที่เสียชีวิตไปกว่าสิบปีแล้ว" มีปืน 9 มม. อยู่กระบอกหนึ่ง โดยหลังจากที่บิดาของเขาเสียชีวิตไปแล้วนั้น ครอบครัวของเขาได้ขายบ้านเก่าและย้ายมาซื้อบ้านอีกที่นึง (โดยยังอยู่ในกทม. แต่คนละเขต) ซึ่งไม่เคยมีใครในครอบครัวรู้เลยว่าบิดาของเพื่อนผมนั้นมีปืนกระบอกนี้อยู่ จนกระทั่งเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา "มารดาของเพื่อนผมซึ่งศาลได้แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมายหลังจากที่บิดาของเขาเสียชีวิตไปแล้วนั้น (เพราะบิดาของเขาไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้)" ได้เปิดตู้เซฟและเจอปืนกระบอกนี้เข้าโดยบังเอิญเนื่องจากปืนถูกซ่อนในเซฟเป็นอย่างดีและเซฟตู้นี้ก็แทบจะไม่เคยถูกเปิดเลยก็ว่าได้ ซึ่งตามคำที่เพื่อนผมเล่านั้นผมเข้าใจนั้นว่าเอกสาร (น่าจะเป็น ป. 4) ยังอยู่ครบซึ่งก็ถูกเก็บไว้ในเซฟกับปืนกระบอกนี้...

...ผมเลยอยากขอคำแนะนำจากพี่ๆ ว่าควรจะดำเนินการอย่างไรต่อ โดยผมขออนุญาตตั้งคำถามแทนเพื่อนผมดังนี้ครับ...

1. เนื่องจากปืนกระบอกนี้ยังไม่ได้ทำการโอนให้กับผู้รับมรดก (ซึ่งในกรณีนี้ผู้รับมรดกน่าจะเป็นเพื่อนผม เพราะพี่ชายเค้าก็ไม่สนใจเรื่องอวป. เลย) มารดาของเพื่อนผมควรจะไปแจ้งที่เขต (ที่อยู่ปัจจุบัน) ก่อนหรือไม่ว่า ปืนกระบอกนี้ปัจจุบันอยู่ในบ้านของเธอ หรือควรจะไปแจ้งที่วังไชยาครับ

2. ถ้าผมจำไม่ผิด ว่ากันตามระเบียบแล้ว ผู้ครอบครองปืนกระบอกนี้จะต้องแจ้งเรื่องการเสียชีวิตของเจ้าของปืนต่อ "นายทะเบียนท้องที่" ภายใน 30 วันหลังจากการเสียชีวิต แต่นี่ผ่านมากว่าสิบปีแล้ว ผู้จัดการมรดกตามกฎหมาย (มารดาของเพื่อนผม) ควรจะทำอย่างไรครับ และในกรณีนี้ "นายทะเบียนท้องที่" คือใครครับ

3. การยื่นคำร้องขอย้ายอาวุธปืนต่อ "นายทะเบียนท้องที่เดิม" และ "นายทะเบียนท้องที่ซึ่งย้ายไปอยู่ใหม่" ต้องทำภายใน 15 วัน นับแต่วันย้ายออกไปและวันที่ไปถึง ไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรครับ เพราะเรื่องมันล่วงเลยมากว่าสิบปี จะมีค่าปรับหรือไม่ และ "นายทะเบียนท้องที่เดิม" และ "นายทะเบียนท้องที่ซึ่งย้ายไปอยู่ใหม่" คือใครครับ (หมายเหตุ: ครอบครัวเพื่อนผมย้ายจากเขตปทุมวันไปอยู่เขตสายไหมครับ)

4. ตอนนี้เพื่อนผมเป็นกังวลมากว่ามารดาของเขาจะมีความผิดเพราะไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อวป. แต่เพื่อนผมมั่นใจว่ามารดาของเขาไม่รู้จริงๆ ว่าบิดาของเขามีปืนกระบอกนี้อยู่ ครอบครัวเขากลัวว่าจะต้องแต่งตั้งทนายให้ดำเนินการให้ ซึ่งครอบครัวเขาก็กลัวว่าจะไม่มีเงินจ้าง ไม่ทราบว่าผมควรจะแนะนำเพื่อนผมอย่างไรดีครับ...


...ด้วยความเคารพ ผมคงต้องขอรบกวนพี่ๆ ที่มีความรู้เรื่องนี้แนะนำด้วยครับ เพราะเพื่อนผมเป็นกังวลมาก ประกอบกับผมมีความรู้เรื่องนี้ไม่มากนัก คงไม่สามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับเพื่อนของผมได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผมคำถามที่ผมถามข้างต้นนั้น อาจจะไม่ครอบคลุมเรื่องที่เกี่ยวข้องและขั้นตอนต่างๆ ที่จะต้องทำให้ถูกต้องตามกม.อวป. ดังนั้นผมขอรบกวนขอคำแนะนำจากพี่ๆ ด้วยครับ...

...ผมขอบคุณล่วงหน้าครับ...


 ::014:: ::014:: ::014::

ตามกฏหมาย ทายาทที่สละมรดกต้องลงนามสละมรดกเป็นลายลักษณ์อักษร  การนี้การแจ้งความจำนงค์ว่าจะขอสละมรดกเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมบัตรประชาชนลงนามให้หมด จะให้หมดปัญหาทุกกรณีก็ให้นายอำเภอที่ที่ทายาท
อยู่ลงนามรับรองเอกสารว่าเป็นลายมือชื่อของทายาทผู้สละมรดกจริง แล้วส่งเอกสารทั้งหมดของทายาทนั้นๆรวมกันให้
ครบแล้วไปยื่นขอรับ/โอนรับที่อำเภอได้
หรือไม่ก็ให้ทายาทที่สละมรดกทุกคนทำหนังสือมอบอำนาจให้ทายาทคนใดคนหนึ่งมาลงนามสละแทน ผู้รับมอบอำนาจ
สามารถรับมอบอำนาจจากผู้มอบหลายๆท่านได้ แต่ต้องมีข้อความในใบมอบว่ายินยอมให้ผู้รับมอบทำการแทนท่านอื่นๆได้ด้วย

...สำหรับกรณีของเพื่อนผม มารดาของเขาเป็นผู้จัดการมรดก ดังนั้นจะต้องให้ทายาททุกคนยินยอมอีกหรือไม่ครับ...


 ::014:: ::014:: ::014::

ไม่ต้องครับ ผู้จัดการมรดก มีสิทธิที่จะจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์มรดกทุกชิ้น ตามอำนาจที่ได้รับเป็นผู้จัดการมรดก โดย
คำสั่งศาล และการจำหน่ายจ่ายโอนในฐานะผู้จัดการมรดกย่อมชอบด้วยกฏหมาย โดยดุลยพินิจและไม่ต้องมีทายาท
แสดงการสละมรดกอีก (ถ้าไม่เห็นด้วยต้องคัดค้านตั้งแต่ต้น ตอนมีคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก)

...ต้องรบกวนขอถามอีกนิดนึงครับว่า "นายทะเบียนท้องที่เดิม" และ "นายทะเบียนท้องที่ซึ่งย้ายไปอยู่ใหม่" เป็นบุคคลท่านเดียวกันหรือไม่ครับ เพราะยังอยู่ในพื้นที่กทม. ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เพื่อนผมคงจะต้องไปติดต่อที่วังไชยาใช่มั้ยครับ เพื่อทำการขอรับโอนอาวุธปืนมรดก (เจ้าของปืนตาย) และการแจ้งการย้ายอาวุธปืน ใช่มั้ยครับ...

 ::014:: ::014:: ::014::

ผมย้ายออกจากกทมหลายสิบปีแล้ว ก่อนนี้ตอนอยู่แถวๆบางนาเคยขอป๓ ต้องไปขอที่เขตพระโขนง แต่ปัจจุบันไม่ทราบ จะให้ดีถ้าอยู่กทม ให้ร้านปืนทำเรื่องให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องว่าไม่แจ้งเรื่องย้ายกลัวว่าจะผิดกฏหมาย ๑๐ปีแล้วยังไม่แจ้ง ผมว่าปรับไม่เท่าไหร่และเรามีเหตุผลว่า ผู้จัดการ
มรดกยังตกลงกับทายาทไม่ได้ว่าจะโอนให้ใคร หรือทายาทอายุยังไม่ถึงรับโอนไม่ได้ ข้อนี้อย่ากังวลเลยครับ โทษแค่ปรับ ไม่มีจำ

เรียน คุณCT Pro4 ....
เข้าใจว่าผู้เกี่ยวข้องน่าจะมีภูมิลำเนาในกทม.ทั้งหมด ... เป็นอำนาจ/หน้าที่ของนายทะเบียนฯกทม. วังไชยา

ศาลแต่งตั้งคุณแม่เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ปืนจะโอนให้ลูกชายซึ่งเป็นทายาท อาจติดเพียงว่าไม่ได้ทำรายการแจ้งศาลว่าปืนเป็นทรัพย์มรดกมาแต่ต้น
ถ้าจำเป็นก็เพียงไปแจ้งรายการทรัพย์เพิ่มเติมต่อศาล

ผมว่า เอาสำเนาเอกสารป.4 สำเนาคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดกไปหารือจนท.ที่วังไชยาเลยครับ ว่าจะเอาอย่างไร
ผมเคยเห็นปืนที่ทายาทร้องขอโอนโดยไม่มีผจก.มรดก ก็เพียงติดประกาศตามกฎหมายกำหนด แล้วรับโอนได้เลย
เคยชื่นชมกับนายทะเบียนฯกทม. ที่ดำเนินการใช้ประชาชนโดยไม่ยุ่งยาก หรือมีเงื่อนไข เหมือนบางพื้นที่ ที่ทำการเหมือนผลักปืนดีๆให้เป็นปืนเถื่อน

การไม่แจ้งเหตุเจ้าของปืนเสียชีวิตแล้ว อาจมีโทษปรับจิ๊บจ๊อย และน่าหมดอายุความไปแล้วครับ
ไปติดต่อวังไชยาเลยครับ ไม่น่าจะยุ่งยากอะไร ขอให้ทายาทผู้รับโอนมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายก็แล้วกัน

 :)

ลุงของพ่อผมเสียไปกว่า 30ปีแล้ว ทายาทพึงไปรับโอนเพราะเขาไม่อยู่มืองไทยเลยก็ไม่มีปัญหาครับ จำไม่ได้ว่าเสียค่าปรับเท่าไร แต่ไม่มาก

ผมมาเติมให้ จากที่เพื่อนคอปืน แนะนำไป ให้แล้ว..  :D

บอกกับเพื่อนท่านว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล และไม่จำต้องไปย้อนกระทำ ตามที่ถาม

เพียงใคร ก็ตามอยากครอบครองเป็นเจ้าของ ๙ พารากระบอกนี้  จะเป็นเพื่อนท่านที่เป็นทายาท หรือจะเป็นใครก็ตาม . ก็ให้ไปยื่นคำร้องขอรับโอน ยังนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่ของผูํ้ขอรับโอน  และให้มารดา ที่เป็นผู้จัดการมรดก เป็นผู้โอน กระทำแทนบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว แนบหลักฐาน สำเนาคำสั่งศาลฯ  ไปด้วย

ทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของการจัดการมรดก ซึ่งผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาล ยังมีอำนาจ
อยู่ครับ.

ไม่มีค่าปรับอะไร ครับ.
 

...ขอบคุณครับพี่ Ro@d พี่ธำรง และทุกท่านที่ให้ข้อมูลด้วยครับ...  ::014:: ::014:: ::014::