เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: nin ที่ ตุลาคม 13, 2008, 08:28:35 PM



หัวข้อ: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: nin ที่ ตุลาคม 13, 2008, 08:28:35 PM
ทีแรกว่าจะโพสไว้ในหน้าซื้อขาย
เพราะพี่เขาเก็บค่าเข้าชมครับ
 :VOV: :VOV: :VOV:



ผู้จัดการรายสัปดาห์ฉบับ 16 ตุลาคม 2551
ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
ให้สัมภาษณ์ หน้ารัฐสภา 7 ตุลา 51


1. เหตุผลของพี่ตู้ในการจัดทอล์คโชว์ครั้งนี้คืออย่างไรครับ ?

เพราะพี่อิจฉารากหญ้าครับ
การที่อนุญาตให้คนที่ไม่เรียนมีสิทธิเท่าเทียมคนที่เรียน เป็นกติกาสากลสำหรับ
ประเทศที่ระดับการศึกษาเฉลี่ยสูงถึงขั้นปลอดภัยแล้ว
การเลือกตั้งของเค้าจึงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานได้
ซึ่งไม่ถูกต้องสำหรับประเทศที่การศึกษาเฉลี่ยต่ำครับ
เพราะจริงๆแล้วสิทธิขั้นพื้นฐานเดิมนั้นกำหนดเฉพาะเรื่องพื้นฐาน เช่น
การนับถือศาสนา การสาธารณะสุข การแสดงความคิด การสมรส
สวัสดิภาพในการดำรงชีวิต ฯลฯ รวมไปถึง การศึกษา
แต่ไม่รวมการเลือกตั้งเข้าไปในสิทธิขั้นพื้นฐานครับ
อันตรายต่อความอยู่รอดของบางเผ่าพันธุ์ในทันที
แต่เผ่าพันธุ์นั้นๆจะไม่ค่อยรู้
เพราะดันไปสงสารเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ที่ควรกำจัดเพราะเป็นภาระ
เราไม่ได้เกรงใจภาระเพราะเราใจดีนะครับ
เราเกรงใจภาระเพราะเราขี้ขลาด เราเกรงกลัวพวกภาระครับ
ภาระจึงได้ใจ ครอบครองเมืองโดยไม่ยอมพัฒนาพวกตน
พี่อิจฉามันครับ

เมื่อการศึกษาคือสิทธิขั้นพื้นฐาน
ใครไม่ยอมเรียนก็ต้องถือว่าผู้นั้นละเลยสิทธิขั้นพื้นฐาน
ก็แปลว่าบกพร่องในหน้าที่ซึ่งโยงกับบางสิทธิ
ผู้บกพร่องในหน้าที่ก็ควรถูกเพิกถอนบางสิทธิที่เกี่ยวข้อง เช่น
สิทธิในการตัดสินใจเรื่องอนาคตของประเทศชาติ
เพราะเราจำเป็นต้องกำหนดที่การศึกษาครับ
ไม่ใช่กำหนดที่อายุเหมือนประเทศพัฒนา ตายซิ่
ระดับการศึกษาเฉลี่ยของเราต่ำกว่ามาตรฐานประเทศประชาธิปไตยในโลกครับ
ไม่ต้องอาย ต่ำกว่ามากเลยจริงๆ ต้องยอมรับ
ต้องแก้กติกาครับ ไม่งั้นตาย หลายศพแล้วด้วย
และจะมีอีกครับถ้าไม่รีบแก้กติกา อย่าอาย
เพื่อนร่วมชาติเราโง่ครับ ยอมรับซะจะได้แก้กติกากัน

.........................





สนใจอ่านต่อ download ได้ที่นี่ครับ

http://www.uploadtoday.com/download/?70099&A=327547 (http://www.uploadtoday.com/download/?70099&A=327547)


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 13, 2008, 09:36:16 PM
โอ่ะ...

พี่ตู้แรงกว่านายสมชายแยะอ่ะ...

นายสมชายโฟกัสอีตรงทำยังไงไม่ให้คนขี้โกงมันโกงภาษีของนายสมชาย... โห


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 13, 2008, 10:46:27 PM
ฮาหรือไม่ฮาดีครับ...

พี่แกพูด ตร้ง ตรง...::005::


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: ek_suwat ที่ ตุลาคม 13, 2008, 11:51:10 PM
....................ทำยังไงล่ะครับไม่ใช่เฉพาะคนที่ไม่มีการศึกษาที่ไม่มีความรู้ที่จะนำพาประเทศไปได้หรอกขอรับ เมื่อวานซืนได้นั่งคุยปัญหาการเมืองกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มีสิ่งที่ทำใจอยู่แล้วว่าความคิดที่ไม่สนใจการเมืองว่าจะเป็นอย่างไรสนแต่ว่าวันนี้จะมีความสุขอย่างไรจะพรั่งพรูออกมาจากปาก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีฐานะเป็นน้องๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้ฟังและไม่น่าเชื่อว่าน้องๆ ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท (ม. ชื่อดังของรัฐ) ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ส.ส. มีหน้าที่ทำอะไร และรัฐบาลทำหน้าที่อะไร ยังเหมารวมๆ กันอยู่ และผมได้ถามคำถามหนึ่งว่า รู้มั้ยว่าในหลวงท่านทรงใช้อำนาจผ่านทางใดบ้าง ทุกคนอึ้ง และเปลี่ยนประเด็นคุยทันที ที่ผมเขียนมานี้นอกจากจะสนับสนุนคำพูดของพี่ตู้แล้วผมว่าเรายังมีปัญหาที่ใหญ่ และอยากจะบอกว่าใหญ่มากๆ คือการไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นของวัยรุ่นไทยที่มีโอกาส เพราะคนพวกนี้จะโต จะมีโอกาสสูงที่จะเป็นกำลังหลักขับเคลี่อนของประเทศ ไม่อยากคิดต่อแล้วขอรับ....................


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ ตุลาคม 14, 2008, 08:23:58 AM
คุณตาผมไม่ได้เรียนหนังสือมาจากจีนไหหลำยังมีความรู้เรื่องการเมืองแน่นกว่าเด็กสมัยนี้ที่จบปริญญาซะอีก
แกไม่ได้เรียนเลยยังชอบและรักการอ่าน ยิ่งหนังสือพิมพ์แกจะอ่านทุกหน้าทุกหัวข้อ


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ ตุลาคม 14, 2008, 08:36:14 AM
ถูกใจครับ


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: deore XT ที่ ตุลาคม 14, 2008, 11:14:54 AM
เป็นความคิดของพวกศักดินาจริงๆ

คือเห็นประชาชนเป็นราษฎร(ผู้ถูกปกครอง) ไม่ได้เห็นเป็นพลเมือง


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 14, 2008, 12:07:01 PM
 :) คุณ.deore XT ลองให้คำจำกัดความของคำว่า ราษฎร, พลเมือง, ประชาชน, พสกนิกร, ปวงชน ให้เพื่อนๆในเวปรับทราบความคิดหน่อยครับ อย่าดีแต่เล่นโวหาร 


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 14, 2008, 12:08:22 PM
มีหลายอย่าง ให้คิดครับ  คำว่าเรียน กับไม่เรียน
ไม่ได้หมายถึง ชั้นเรียนภาคบังคับอย่างเดียว แต่หมายถึง
ชั้นเรียนภาคบังคับจะสอนแนวคิด วิธีการคิด และการตัดสินใจและการวางแผนในการใช้ชีวิต ในการทำงานด้วยครับ

คนรู้จักกับผมหลายคนที่เรียนน้อย  แต่บางคนโชคดีที่ได้อยู่ใกล้ๆหรือทำงานร่วมกับคนเรียนเยอะ
เลยได้ แนวคิด วิธีการคิดและวางแผนจากคนที่เรียนเยอะมาด้วย  
เมื่อเขาเอามาใช้ ทำให้ประสบความสำเร็จ

บางคนเห็นคนนี้เรียนน้อย แต่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่อยากเรียนต่อ เพราะคนนี้เรียนน้อยยังประสบความสำเร็จได้เลย


หารู้ไม่  องค์ประกอบกว่าจะมาถึงจุดนั้นมันหลายอย่าง

แต่คนที่เรียนน้อยที่ผมรู้จักนั้น เขาก็ยอมรับอย่างหนึ่งว่า  หากเขาไม่ได้เจอคนที่เรียนเยอะ
หรือไม่ได้ทำงานกับคนที่เรียนเยอะ  ไม่มีประสบการณ์ตรงนั้น เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จ


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: a lone wolf ที่ ตุลาคม 14, 2008, 12:29:48 PM
มีหลายอย่าง ให้คิดครับ  คำว่าเรียน กับไม่เรียน
ไม่ได้หมายถึง ชั้นเรียนภาคบังคับอย่างเดียว แต่หมายถึง
ชั้นเรียนภาคบังคับจะสอนแนวคิด วิธีการคิด และการตัดสินใจและการวางแผนด้วยครับ

คนรู้จักกับผมหลายคนที่เรียนน้อย  แต่บางคนโชคดีที่ได้อยู่ใกล้ๆหรือทำงานร่วมกับคนเรียนเยอะ
เลยได้ แนวคิด วิธีการคิดและวางแผนจากคนที่เรียนเยอะมาด้วย  
เมื่อเขาเอามาใช้ ทำให้ประสบความสำเร็จ

บางคนเห็นคนนี้เรียนน้อย แต่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่อยากเรียนต่อ เพราะคนนี้เรียนน้อยยังประสบความสำเร็จได้เลย


หารู้ไม่  องค์ประกอบกว่าจะมาถึงจุดนั้นมันหลายอย่าง

แต่คนที่เรียนน้อยที่ผมรู้จักนั้น เขาก็ยอมรับอย่างหนึ่งว่า  หากเขาไม่ได้เจอคนที่เรียนเยอะ
หรือไม่ได้ทำงานกับคนที่เรียนเยอะ  ไม่มีประสบการณ์ตรงนั้น เขอก็ไม่ประสบความสำเร็จ
พี่ตู้คงต้องการสื่อว่า "แกไม่ยอมให้ชีวิตแกมาถูกกำหนดโดยคนที่โง่กว่าแกอีกต่อไปแล้ว" นะครับ
คนที่โง่นั้นพี่ตู้ยกเรื่องระดับการศึกษามาใช้สื่อความ  เดาว่าแกคงมิได้หมายความว่า "ระดับการศึกษาตามระบบ" อย่างจริงจัง
แต่คนโง่ น่าจะหมายถึง "คนที่แยกไม่ออกระหว่าง ผิด-ชอบ"
จบปริญญาตรี แยก ผิด-กับ-ชอบ ไม่ออก หรือไม่จบป. 4 กลับแยกออก  ก็มีให้เห็นกันเกลื่อนเมือง

คงมีคนออกมาแย้งว่า ใครจะนิยามล่ะ ความ ผิด-ชอบ นั่นน่ะ
เพราะความ ผิด-ชอบ ในสายตาของคนที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณ  ก็เป็นความ ผิด-ชอบ คนละนิยามกับคนที่รักระบอบนี้

แต่ป่วยการครับ
ผมว่าบ้านเมืองเราทรุดถึงจุดที่ยกทฤษฏีมาเถียงกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ต้องกลับไปสู่เบสิคที่ว่า ใครแกร่งกว่าคนนั้นชนะ
พวกที่บอกว่าต้องการรักษาระบอบประชาธิปไตย  โดยให้รัฐบาลของพลังประชาชนได้สิทธิบริหารประเทศ  คนอื่นต้องเคารพกฏนี้ ก็มีกำลังประมาณหนึ่ง
พวกที่ไม่เห็นด้วย เช่นผมเป็นต้น  ก็มีกำลังอยู่ประมาณหนึ่ง
กำลังสองกำลังนี้ต้องมาปะทะกันแล้วล่ะ 
เพราะรำคาญเหม็นเบื่อเต็มทน  กับพวกอ้างกฏเกณฑ์มาสูบเลือดประเทศชาติ
ชาตินี้ก็ของกรูเหมือนกัน  นั่งดูพวกมรึงปู้ยี้ปู้ยำ  แล้วมรึงบอกให้กรูนั่งเฉยๆ  เพราะมรึงได้เสียงส่วนใหญ่มา
ใครจะทนก็ทนไปเหอะ  ท้ายสุดก็ต้องถือมีดถือไม้ถือปืนมาจ้องตากัน....กรูไม่กลัวมรึง

นั่งเถียงมันป่วยการครับ  นาทีนี้แล้ว >:(


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: deore XT ที่ ตุลาคม 14, 2008, 12:41:41 PM
เป็นความคิดของพวกศักดินาจริงๆ

คือเห็นประชาชนเป็นราษฎร(ผู้ถูกปกครอง) ไม่ได้เห็นเป็นพลเมือง

ไม่ได้เล่นโวหารหรอกครับท่าน

รายการช่วยคิดช่วยทำ ช่อง3 ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ราษฎร = ผู้ถูกปกครอง
พลเมือง = ผู้มีส่วนในการขับเคลื่อนสังคมนั้น

พสกนิกร, ปวงชน ผมไม่ได้กล่าวถึง ไม่รุ รู้แต่พลังประชาชน  ::002::


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 14, 2008, 12:59:54 PM
เป็นความคิดของพวกศักดินาจริงๆ

คือเห็นประชาชนเป็นราษฎร(ผู้ถูกปกครอง) ไม่ได้เห็นเป็นพลเมือง

ไม่ได้เล่นโวหารหรอกครับท่าน

รายการช่วยคิดช่วยทำ ช่อง3 ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ราษฎร = ผู้ถูกปกครอง
พลเมือง = ผู้มีส่วนในการขับเคลื่อนสังคมนั้น

พสกนิกร, ปวงชน ผมไม่ได้กล่าวถึง ไม่รุ รู้แต่พลังประชาชน  ::002::

 :) ถ้าอย่างนั้น ผมเอาความหมายมาฝากจะได้ใช้ให้ถูกต้อง

พลเมือง แปลว่า กำลังของเมือง หมายถึง ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง พลเมือง คือ ราษฎรชาวเมือง บางทีใช้ว่า ไพร่บ้านพลเมือง จำนวนผู้คนที่เป็นประชากรในประเทศหรือในเมืองหนึ่ง เป็นจำนวนพลเมืองของประเทศหรือเมืองนั้น เช่น ปัจจุบันประเทศไทยมีพลเมืองประมาณ ๖๐ ล้านคน โลกมีพลเมืองหลายพันล้านคน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายคำว่า พลเมือง ว่าประชาชน ราษฎร ชาวประเทศ แต่โดยทั่วไปมักใช้ คำว่า พลเมือง หมายถึง บุคคลที่มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เช่น มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยว่า พลเมืองไทยมีสิทธิและหน้าที่เสมอกัน เช่น มีสิทธิเท่าเทียมกันในการออกเสียงเลือกบุคคลไปทำหน้าที่ทางนิติบัญญัติคนละ ๑ เสียง นอกจากสิทธิ พลเมืองทุกคนย่อมมีหน้าที่ซึ่งต้องปฏิบัติเพื่อประเทศชาติ เช่น หน้าที่ในการปกป้องชาติ หน้าที่ในการเสียภาษี เพื่อให้พลเมืองของชาติไทยรู้จักหน้าที่ของตน จึงมีวิชาหน้าที่พลเมืองสอนให้นักเรียนไทยทุกคนเรียนในโรงเรียน คนที่รู้จักสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองและปฏิบัติตามโดยไม่ขัดขืนบิดพลิ้ว เป็นพลเมืองที่สมบูรณ์ของชาติ ส่วนคนที่ช่วยเหลือกิจการของชาติโดยไม่คิดถึงความยากลำบากใดๆ เช่น ช่วยแจ้งเบาะแสของคนร้ายให้ตำรวจทราบ ช่วยเหลือคนที่ถูกโจรทำร้าย ช่วยเหลือคนที่ได้รับเคราะห์ เป็นต้น จะเรียกว่า พลเมืองดี

ราษฎร หมายถึง พลเมืองของประเทศ ในกรณีที่เป็นผู้มีสิทธิในการปกครองประเทศ เช่น ผู้ที่ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่นิติบัญญัติแทนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เรียกว่า ผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คำว่า ราษฎร เป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤตว่า ราษฎร แปลว่า แว่นแคว้น บ้านเมือง ประเทศ ตรงกับคำว่า ราฏฺฐ ในภาษาบาลี ไทยใช้คำว่า รัฐ ตามความหมายเดิม แต่ใช้คำว่า ราษฎร หมายถึง ผู้ที่อยู่ในรัฐ หรือคนในรัฐ บางครั้งใช้ ราษฎร หมายถึง คนธรรมดา คนที่ไม่มีตำแหน่ง คนที่ไม่ใช่ขุนนาง ไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่นักบวช และเป็นคำที่ใช้แทนคำว่า ประชาชนได้

ประชาชน แปลว่า หมู่คน พลเมือง หมายถึง สามัญชนทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าราชการ พ่อค้า หรือนักบวช  คำว่า ประชาชน ใช้หมายถึง ผู้คนทั้งหมดในลักษณะที่เป็นคนทั่วไป ไม่ได้แสดงความหมายใดเป็นพิเศษ ประชาชน อาจใช้ว่า ประชา หรือชาวประชา ในคำประพันธ์ หรือใช้ว่า ประชาราษฎร์ ประชาราษฎร์ทั้งหลาย เช่น ประชาราษฎร์ได้รับความเสียหาย จากอุทกภัยครั้งนั้นเป็นอันมาก เมื่อเกิดสงครามอาณาประชาราษฎร์ก็เดือดร้อนกันทั่วหน้า ผู้ปกครองประเทศมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนราษฎร์ทั้งหลาย ส่วนคำว่า ประชากร ใช้หมายถึง จำนวนคนที่จัดเพื่อกิจการหนึ่ง หรือเพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง เช่น อบจ.เริ่มดำเนินการสำรวจสำมะโนประชากร ประชากรที่ตอบแบบสอบถามมีจำนวนกว่า ๒,๐๐๐ คน นอกจากนี้ยังใช้คำว่า ประชากร หมายถึงจำนวนของสิ่งอื่นๆ สำหรับงานทางสถิติด้วย เช่น การสำรวจประชากรหมูที่เพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง การขยายประชากรโคกระบือเพื่อการทำนา

พสกนิกร แปลว่า หมู่ชนผู้อยู่ในอำนาจ หมายถึง ผู้คนที่อยู่ในประเทศ ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พสกนิกร จึงหมายถึง คนไทยทุกภาค กลุ่มชาติพันธุ์ทุกเผ่า และคนต่างชาติทั้งปวงที่มาอยู่ มาทำงาน หรือมาเที่ยวอยู่ในประเทศไทย ผู้คนทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นพสกนิกรในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสิ้น แม้คนไทยที่ไปเรียน ไปอยู่ หรือไปทำงานในต่างประเทศ ก็ถือว่าเป็นพสกนิกรของพระองค์ด้วย เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกของพระองค์ ทรงปรารถนาให้พสกนิกรอยู่เย็นเป็นสุขด้วยการรู้รักษ์สามัคคี ไม่เบียดเบียนกัน และดำรงชีวิตอยู่ในระบบเศรษฐกิจพอเพียง

ปวงชน หมายถึง ผู้คนทั้งหมด ประชาชน ชาวบ้าน ชาวเมือง เป็นคำที่ใช้ในเชิงวรรณศิลป์ อย่างการแต่งคำประพันธ์ที่มีฉันทลักษณ์ เช่น ขอปวงชนทั้งชายหญิงอย่านิ่งช้า หรือในการกล่าวสุนทรพจน์ เช่น ความสงบสุขเป็นของขวัญอันมีค่าของปวงชน ปวงชนชาวไทยมีใจรักสงบ


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: deore XT ที่ ตุลาคม 14, 2008, 01:03:56 PM
ขอบคุณครับ

ถ้าเป็นข้อสอบ ที่ผมตอบ ได้กี่คะแนนครับ


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ตุลาคม 14, 2008, 01:59:20 PM
สงสัยผมคงเลือกเป็นราษฎร ในผู้ปกครองที่ทรงคุณธรรม

มากกว่าจะเป็นพลเมืองของทรราชย์


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: Bird ที่ ตุลาคม 14, 2008, 02:36:44 PM
เป็นความคิดของพวกศักดินาจริงๆ

คือเห็นประชาชนเป็นราษฎร(ผู้ถูกปกครอง) ไม่ได้เห็นเป็นพลเมือง

หูบาง  รับฟังความจริงไม่ได้หรือครับ

สิ่งที่พี่ตู้พูด เป็นความจริงที่ตีแสกหน้าใครหลายคนที่พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่อง ว่ามาจากประชาธิปไตย มาจากพลังประชาชน(ขาดโอกาสทางการศึกษา)

หาเหตุผลมาคัดแย้งไม่ได้ ก็ตะแบงไปว่าเป็นศักดินา ตีรวนไว้ก่อน
ไม่เวิร์คครับ... ใช้กับที่นี่ไม่ได้
คุณภาพคนไม่เหมือนกันครับ

ทางที่ดีคุณกลับไปที่ๆคุณอยู่ดีกว่า   คำพูดและวลีหลายประโยคมันฟ้องว่าคุณมาจากที่ไหน  มีแนวคิดอย่างไร
ระยะหลังนี้คุณคงไม่มีโอกาสเข้าโรงหนังนะครับ... มีคนรอตืบอยู่เยอะ


ปล. เสียใจด้วย  หาที่ให้คะแนนจากคำตอบของคุณไม่ได้เลย



หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: ๏แก้วเดียวจุก๏รักในหลวง ที่ ตุลาคม 14, 2008, 02:48:04 PM
เป็นความคิดของพวกศักดินาจริงๆ

คือเห็นประชาชนเป็นราษฎร(ผู้ถูกปกครอง) ไม่ได้เห็นเป็นพลเมือง

ไม่ได้เล่นโวหารหรอกครับท่าน

รายการช่วยคิดช่วยทำ ช่อง3 ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ราษฎร = ผู้ถูกปกครอง
พลเมือง = ผู้มีส่วนในการขับเคลื่อนสังคมนั้น

พสกนิกร, ปวงชน ผมไม่ได้กล่าวถึง ไม่รุ รู้แต่พลังประชาชน  ::002::

น่าให้เจอกับคุณ "หนวดหิน" จริงๆ
คุณดิออร์ครับ ลอง PM ไปถกกับคุณ  "หนวดหิน" หน่อยซิครับ เรื่องการปกครอง การถูกปกครองนี่แหละ
พี่คนนั้นเค้ามีข้อมูลเยอะเลยครับ


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: Bird ที่ ตุลาคม 14, 2008, 02:54:39 PM
พี่ตู้นานๆพูดที  แต่ที่แกพูดแต่ละครั้ง  ทำเอาเราฉุกคิดได้เหมือนกัน

จริงๆแล้วผมชอบฟังแกพูดนะครับ
แนวคิดแกจะแผลงๆ  ขวางโลกในบางครั้ง
แม้ผมจะไม่เห็นด้วยทั้งหมดก็ตาม  แต่ก็มีประเด็นให้กลับมาคิด

เทียบกับโน้ต-อุดม ....   ผมเลือกฟังพี่ตู้ครับ...



หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: J_D ที่ ตุลาคม 14, 2008, 08:02:05 PM
คุณภาพของผู้นำสะท้อนคุณภาพประชาชน  ถ้าประชาชนด้อยคุณภาพประเทศก็ล้มจมมันก็แค่นั้นแหละครับโดยเฉพาะในประเทศประชาธิปไตยจะชัดเจนมาก   

 ปัญหาของพี่ตู้ผมพอเข้าใจคือทำไมกรูต้องมาแหง่กอยู่ตรงนี้    วิธีแก้ก็คือยึดสิทธิที่จะปกครองคืนมาจากคนด้อยคุณภาพ  แล้วพัฒนาให้คนส่วนใหญ่มีคุณภาพเสียก่อนค่อยคืนสิทธิให้  ประมาณนั้น  แต่ทำจริงคงไม่มีถ้ากรุงไม่แตกอยุธยาก็ไม่มีวันเจริงไปกว่านั้น

ตอนนี้ประเทศไทยเมืองคนบาปไปแล้ว  ผู้นำขุนนางโกหกขี้โกงแบบสุดขั้ว  ประชาชนก็เห็นแก่ตัวขี้เกียจ  มองไปทางไหนก็เจอแต่คนบาป


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ ตุลาคม 14, 2008, 08:33:55 PM
เอา ประชาธิปไตย มาใช้ขณะที่ยังไม่พร้อมก็เป็นอย่างนี้แหละ


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: chew - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 15, 2008, 08:39:36 AM
ในฐานะคนชอบปืนด้วยกันกับพี่ตู้ ผมพอจะรู้นิสัยพี่คนนี้ครับ
ตรง แต่ไม่โง่ ไม่สนใจว่าใครจะโกรธเพราะแกรับได้ครับ 
บังเอิญไม่ได้ฟังรายการแกเลยไม่สามารถออกความเห็นได้ครับ
แต่เชื่อว่าพี่เขาคงมีข้อมูลดีก่อนที่จะพูด :D


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: sombat_ ที่ ตุลาคม 16, 2008, 02:14:26 AM
จบ ป.ตรี ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 1 คะแนน
จบ ป.โท ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 2 คะแนน
จบ ป.เอก ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 3 คะแนน

จบราม.ให้สิทธิเลือก สส.ได้ 1 คน จบจุฬาให้สิทธิเลือก สส.ได้ 2 คน
จบเมืองนอกที่เจริญแล้วให้สิทธิเลือก สส.ได้ 3 คน

ใครไม่จบปริญญา ไม่มีสิทธิเลือก สส.  แต่ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร อย่างงี้จะเอาไหม ยุติธรรมดี


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: Bird ที่ ตุลาคม 16, 2008, 03:07:40 AM
แนวคิดของพี่ตู้ ก็ฟังดูรุนแรงเกินไปครับ
แต่ถ้าคิดตาม ก็คงเถียงไม่ได้

แนวคิดสุดขั้วตามแบบของแกนี้ คงเกิดจริงได้ยากครับ
แต่อาจเอามาเป็นข้อคิดหาแนวทางในการพัฒนาคน พัฒนาจิตสำนึกและคุณภาพของการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้

>
>
>

แต่ถ้าเป็นอย่างบรรทัดสุดท้ายของ คุณหูดับตับไหม้ เนี่ย...

เรียนก็ไม่เรียน ... สส.ก็ไม่เลือก ... ภาษีก็ไม่เสีย ... รับใช้ชาติก็ไม่เอา ...
อย่างนี้ อยู่ไปทำไมครับ...

เดี๋ยวก็กลายเป็น ลิงบาบูน ของพี่ตู้หรอก...


ปล. การศึกษาภาคบังคับคือชั้น ม.6 ครับ



หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: ScaRECroW ที่ ตุลาคม 16, 2008, 05:26:52 AM
จบ ป.ตรี ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 1 คะแนน
จบ ป.โท ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 2 คะแนน
จบ ป.เอก ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 3 คะแนน

จบราม.ให้สิทธิเลือก สส.ได้ 1 คน จบจุฬาให้สิทธิเลือก สส.ได้ 2 คน
จบเมืองนอกที่เจริญแล้วให้สิทธิเลือก สส.ได้ 3 คน

ใครไม่จบปริญญา ไม่มีสิทธิเลือก สส.  แต่ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร อย่างงี้จะเอาไหม ยุติธรรมดี


อย่างนี้ผมลงได้หลายคนเลย  จบรามเลือกได้ 1 คน + จบ เมืองนอกอีกด้วย ได้อีก 3 คน เลือกได้สี่คนละ 5555

ดีครับ ช่วย ๆ กันคิด โดยส่วนตัวผมเชือว่า ความคิดโง่ ๆ บ้า ๆ บางครั้งก็อาจจะเป็นความคิดที่ดีก็ได้


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: nin ที่ ตุลาคม 16, 2008, 11:20:14 AM
จบ ป.ตรี ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 1 คะแนน
จบ ป.โท ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 2 คะแนน
จบ ป.เอก ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 3 คะแนน

จบราม.ให้สิทธิเลือก สส.ได้ 1 คน จบจุฬาให้สิทธิเลือก สส.ได้ 2 คน
จบเมืองนอกที่เจริญแล้วให้สิทธิเลือก สส.ได้ 3 คน

ใครไม่จบปริญญา ไม่มีสิทธิเลือก สส.  แต่ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร อย่างงี้จะเอาไหม ยุติธรรมดี

ผมเรียนพี่หูดับตับไหม้อย่างนี้ครับ

คือถ้าได้ฟังหรืออ่านความเห็นของพี่ตู้ แว้บแรกคือแกชอบประชดประชัน เสียดสี มีอารมณ์ขัน
และถ้าพิจารณาดีๆ มันมีความเจ็บปวดปนอยู่ด้วยครับ

การที่พูดเรื่องคนที่ไม่ได้รับการศึกษานั้น ไม่ได้ต้องการไปตอกย้ำแต่อย่างใดครับ
หากแต่ต้องการให้ทุกๆ คนเกิดความอยากที่จะพัฒนาตนเอง แข่งขันกันเรียนรู้ แข่งขันกันสร้างสรร
เมื่อตนเองดีขึ้นแล้ว ก็ช่วยเหลือ-หยิบยื่นโอกาสให้คนรอบข้างได้ดีขึ้นด้วย แล้วก็ขยายวงออกไปทั้งสังคม
ดีจะตายไปครับ

แต่ที่ผ่านมา คนที่เราเลือกเป็นตัวแทนของเรานั้น ส่วนมากเป็นคนที่พัฒนาตัวเองแล้ว แต่ไม่ยอมมาพัฒนาคนอื่นๆ ต่อ
ไม่หยิบยื่นโอกาสให้ผู้ที่ฝากความหวังไว้กับเขา ตามที่ควรจะทำ ในบางครั้งก็กดไว้และมอมเมาด้วยสิ่งล่อใจต่างๆ
“หาปลามาให้  แต่ไม่ได้สอนให้จับปลา”
(หรือหาเงินมาให้ แต่ไม่ได้สอนให้หาเงิน-ก็คือซื้อนั่นแหละ)
พี่หูดับฯ คงเคยได้ยินใช่ไหมครับ

ก็ดันเลือกเข้าไปแล้ว ทำไงได้
แต่ยังไม่เข็ด สมัยหน้าก็เลือกเข้าไปใหม่ ก็ไม่ทราบอะไรมาบังตา
หรือเราใช้อารมณ์ชั่ววูบตอนเขาเข้ามาทักทายในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

พอใจหรือครับที่เลือกเข้าไปตั้งหลายสมัยแล้ว เราก็ยังเจริญอยู่กับที่
เลือกตั้งแต่สมัยพ่อ จนพ่อเลิกเล่นแล้วเลือกลูกมันต่อ เราก็ยังเจริญเหมือนเดิม

อย่างนี้จะโทษคนเลือกหรือคนถูกเลือกครับ

การออกเรียกร้องสิทธิในเรื่องต่างๆ เป็นสิ่งที่ดีครับ ไม่ว่าเราจะเป็นใครตาม เพราะแสดงว่าเราไม่ใช่คนหงอ ไม่ได้จำยอม
และต้องไม่ใช่แค่เรื่องสิทธิในการเลือกตั้งเท่านั้นนะครับ  เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพต่างๆ
ชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษาของลูกหลาน และอีกมากมายก็ต้องไม่ลืมครับ

เราก็คงรู้อยู่แล้วว่า การที่สิทธิในการเลือกตั้งเป็นประเด็นขึ้นมา ก็ด้วยมีนักการเมืองหนุนหลังอยู่ เพราะมันเป็นช่องทางที่ทำให้เขาได้อำนาจมาอย่างชอบทำ

ถ้าคนมีสิทธิเลือกไม่พัฒนา  มีหรือครับที่นักการเมืองจะพัฒนา


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 16, 2008, 12:07:25 PM
ถูกครับ ท่านเฉย


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: J_D ที่ ตุลาคม 17, 2008, 11:25:40 AM
จบ ป.ตรี ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 1 คะแนน
จบ ป.โท ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 2 คะแนน
จบ ป.เอก ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 3 คะแนน

จบราม.ให้สิทธิเลือก สส.ได้ 1 คน จบจุฬาให้สิทธิเลือก สส.ได้ 2 คน
จบเมืองนอกที่เจริญแล้วให้สิทธิเลือก สส.ได้ 3 คน

ใครไม่จบปริญญา ไม่มีสิทธิเลือก สส.  แต่ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร อย่างงี้จะเอาไหม ยุติธรรมดี


ถ้าจบ ดร.แต่ขี้โกง กับจบ ป.4 แต่คนดีล่ะครับ


หัวข้อ: Re: ทอล์คโชว์พี่ตู้ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ตุลาคม 17, 2008, 11:32:42 AM
จบ ป.ตรี ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 1 คะแนน
จบ ป.โท ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 2 คะแนน
จบ ป.เอก ให้มีสิทธิลงคะแนนได้ 3 คะแนน

จบราม.ให้สิทธิเลือก สส.ได้ 1 คน จบจุฬาให้สิทธิเลือก สส.ได้ 2 คน
จบเมืองนอกที่เจริญแล้วให้สิทธิเลือก สส.ได้ 3 คน

ใครไม่จบปริญญา ไม่มีสิทธิเลือก สส.  แต่ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร อย่างงี้จะเอาไหม ยุติธรรมดี


ถ้าจบ ดร.แต่ขี้โกง กับจบ ป.4 แต่คนดีล่ะครับ

สงสัยต้องถาม ดร.เป็ดครับ