เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: ENOLA GAY ที่ ตุลาคม 20, 2008, 06:24:53 PM



หัวข้อ: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: ENOLA GAY ที่ ตุลาคม 20, 2008, 06:24:53 PM
เพิ่งได้รับเลยเอามาให้ภูมิใจกันครับ เก่งจริงๆ  เสียดายที่ไม่ทราบที่มาของบทความครับ

นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ

(http://img221.imageshack.us/img221/3434/001aq2.jpg) (http://imageshack.us)

หมอกับนักบิน ไม่น่าจะหลอมรวมอยู่ในคนเดียวกันได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความมุ่งมั่น อยากทำในสิ่งที่รัก จนในที่สุด คุณหมอต้วง-กรพรหม แสงอร่าม นักบินการบินไทย และนักบินเทสต์ ไฟลท์โบอิ้ง 777 สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า คนเราเกิดมาไม่จำเป็นต้องยึดติดกับอาชีพใดอาชีพหนึ่ง ขอเพียงแต่ใช้ทุกบทบาทหน้าที่ให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม... เท่านี้ก็ถือว่าบรรลุความเป็นคนแล้ว

'หมอต้วง' เป็นลูกชายคนเดียวของอดีตนักจัดรายการชื่อดัง 'กรรณิกา ธรรมเกษร' เขาใฝ่ฝันอยากเป็นนักบินตั้งแต่จำความได้ อินสุดๆถึงขนาดที่ว่า แค่ได้เห็นเครื่องบิน, ได้ยินเสียงเครื่องบิน หรือได้กลิ่นน้ำมันเครื่องบิน ก็มีความสุขได้ทั้งวัน กระนั้น เนื่องจากที่บ้านมีนักบินอยู่แล้ว 5-6 คน ทั้งพ่อ, อา และอาเขย แถมคุณปู่ยังเป็นทหารบก และนักบินพลเรือน คุณพ่อของเขาจึงอยากให้ลูกชายเป็นหมอมากกว่านักบิน โดยช่วงที่เอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ได้เอารางวัลใหญ่มาล่อ สัญญาว่าถ้าสอบเข้าแพทย์ได้ จะซื้อรถให้ขับ ด้วยความที่อยากได้รถ ไม่ได้คิดอะไรไปไกลกว่านั้น ทำให้ 'หมอต้วง' มุมานะอ่านหนังสือจริงจัง จนเอ็นฯติดคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ เลยจับพลัดจับผลูต้องเรียนหมอจนจบ 6 ปี และไปใช้ทุนอีก 3 ปี ที่ จ.ปราจีนบุรี



ฝันอยากเป็นนักบิน แต่ต้องเรียนหมอรู้สึกเซ็งไหม

ใจจริงอยากสอบเข้าโรงเรียนนายเรืออากาศ แต่พอเอ็นฯติดแพทย์ก็ลองเรียนดู ซึ่งต้องอาศัยความอึดมาก และไหนๆอุตส่าห์เรียนมาได้จนจบ จึงไม่ อยากทิ้งวิชาความรู้ไปเฉยๆ บอกตัวเองว่า อย่างน้อย ก็ควรลองเป็นหมอดูสักตั้งก่อน ส่วนเรื่องเป็นนักบินทำเป็นงานอดิเรกก็ได้ จันทร์ถึงศุกร์ ก็เป็นคุณหมอไป พอเสาร์อาทิตย์ค่อยขับเครื่องบินเล่น โดยระหว่างที่ไปใช้ทุน 3 ปี กะว่าจะแบ่งเวลาไปเรียนขับเครื่องบินที่สถาบันการบินพลเรือน อ.หัวหิน



ทุกอย่างเป็นไปตามแผนไหมคะ

ก็ถือว่าใกล้เคียง!! คือได้เรียนบินสมใจ เพียงแต่ต้องขับรถไกลหน่อย เพราะจับฉลากปิงปองได้ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งใช้เวลาเดินทางเกือบ 5 ชม. กว่าจะถึงหัวหิน พวกเราเรียกธรรมเนียมนี้ว่า จับฉลากปิงปองพาโชค นักเรียนหมอที่จบจากทั่วประเทศพันกว่าคน ต้องมาจับฉลากพร้อมกันหมด เพื่อเลือกจังหวัดที่ต้องการไปใช้ทุน วิธีจับฉลากคือ จะเอาลูกปิงปองเขียนแต้มไว้ ตั้งแต่ 10-60 ใส่ไว้ในปี๊บ ใครจับได้คะแนนเยอะสุด ก็มีสิทธิ์เลือกก่อน ฉะนั้น ต้องคำนวณให้รอบคอบ เพราะถ้าจังหวัดไหนคนแห่เลือกเยอะ โอกาสของเราก็น้อยลง หรือจังหวัดไหนมีโควตาน้อย โอกาสพลาดก็สูง ตอนนั้น จ.เพชรบุรีซึ่งใกล้หัวหินที่สุดรับตำแหน่งเดียว คิดแล้วว่าคงสู้ไม่ไหว เลยถอยไปตั้งหลักใหม่
จำได้ว่า วันนั้นเอาแผนที่ประเทศไทย และวงเวียนไปกางเลย รอบแรกอยู่ในรัศมี 2-300 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ แต่ถ้าหลุดรอบแรกไปแล้วจะเริ่มเขยิบออกไปเรื่อยๆ จนรอบสุดท้ายโน่นไปตกที่ยะลา หรือนราธิวาส ก็คุยกับเพื่อนๆว่า ถ้าไม่อยากไปจับรอบสุดท้าย ต้องเลือกเอาที่เดียวแล้วได้เลย ยอมเลือกไกลๆหน่อย แต่ขอรอบแรก ตอนนั้น จ.ปราจีนบุรี รับ 9 คน ซึ่งก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และก๊วนผมก็ไปกันได้เกือบหมด เลยตกลงเลือกเหมือนกัน ปรากฏว่าได้ยกกลุ่ม!! ตอนนั้นมีให้เลือกหลายอำเภอ แต่ผมขอไปประจำที่โรงพยาบาลเล็กๆใน อ.บ้านสร้าง เพราะมีโควตาหมอแค่ตำแหน่งเดียว จะได้ทำงานรวดเดียว ตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ ไม่ต้องแบ่งเวรกับหมอคนอื่น พอถึงวันหยุดก็มีเวลาเรียนบินเต็มที่ แถมยังได้เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้ว

(http://img233.imageshack.us/img233/6853/002uv8.jpg) (http://imageshack.us)


ปราจีนบุรีกับหัวหินห่างกันตั้งไกล ถอดใจยอมแพ้บ้างหรือเปล่า

ขอให้ได้บิน ทำได้ทุกอย่าง!! ทุกอาทิตย์ผมจะตั้งตารอว่า เมื่อไหร่จะถึงวันเสาร์อาทิตย์ เพราะอยากไปหัวหิน อยากเป็นนักบินเร็วๆ ส่วนใหญ่จะออกเดินทางตั้งแต่เย็นวันศุกร์ หรือไม่ก็เช้าวันเสาร์ ขับจากปราจีนบุรีไปหัวหิน ใช้เวลา 5 ชม. เสาร์อาทิตย์หนึ่งบินจริง 2-3 ชม. ที่เหลือก็เรียนทฤษฎี ผมใช้ทุนทางบ้านไปเรียนบิน หมดไปเกือบ 3 ล้านบาท ในช่วง 2 ปี



เป็น ผอ.ตั้งแต่อายุ 21 ทำยังไงให้คนซูฮกคะ

ไปอยู่ใหม่ๆ ลูกน้องเกลียดผมมาก!! ช่วง 6 เดือนแรก ไม่มีใครพูดด้วยเลย ต้องไปซื้อข้าวกินในตลาดคนเดียว เดินไปตรงไหน ลูกน้องวงแตกหมด ลือกันว่าผมดุเหมือนหมา!! ที่จริงเราก็ไม่ได้ตวาดนะ แค่พูดให้ได้คิดเอง เราอยากพัฒนาโรงพยาบาลให้ดีขึ้น แต่พวกเขาคงเคยชินกับระบบข้าราชการเก่าๆ บางคนอายุมากกว่าพ่อผม คงเปลี่ยนยาก!! ที่จริงผมไม่ได้ไปจู้จี้อะไร แค่จัดระเบียบในโรงพยาบาลใหม่ เช่น บอกฝ่ายธุรการว่า พอ 8 โมงครึ่งให้ขีดเส้นแดงที่สมุดเซ็นชื่อเข้างาน แล้วเอาสมุดมาไว้ที่ห้องผม ใครมาสายให้มาเซ็นกับผมเอง หรืออย่างพื้นโรงพยาบาลสกปรก มีเศษขยะ ผมก็หยิบไม้กวาดมาทำเอง เรียกว่าเป็น ผอ.ต้องทำหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ตรวจคนไข้, สั่งยา, บริหารโรงพยาบาล เรื่องส้วมตัน หรือกระโถนคนไข้ ก็ต้องดูแลหมด ทำเยอะมากมีปัญหามาก จนช่วงหนึ่งรู้สึกท้อแท้ คิดว่า อ.บ้านสร้างมีหมอมาทั้งปีแล้ว ลองไม่มีหมอบ้างก็คงอยู่ได้ เลยตัดสินใจสมัครไปเป็นแพทย์อาสา ที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เป็นติ่งสุดของประเทศไทย อยู่ที่นั่นได้เกือบเดือน ถึงกลับมาใช้ทุนต่อ



กลับมาปราจีนบุรีรอบสอง สถานการณ์ดีขึ้นไหม

เหมือนเราได้ ไปชาร์จแบต ทำให้ใจเย็นขึ้น ปัญหาเดิมๆก็ยังมีอยู่ แต่เราพยายามทำทุกอย่างให้ลูกน้องเห็นความตั้งใจจริงว่าเราอยากพัฒนาโรงพยาบาลจริงๆ จนช่วงปีสุดท้าย พวกเขาเริ่มเข้าใจ และงานโรงพยาบาลก็ไปได้ดี เราได้รางวัลโรงพยาบาลชุมชนดีเด่นภาคตะวันออก เป็นโรงพยาบาลขวัญใจประชาชน มีแต่คนขอย้ายเข้าไม่มีออก ตอนหลังลูกน้องทุกคนก็แฮปปี้ ช่วงที่ผมเป็น ผอ.ได้ทำอะไรไว้เยอะ รวมถึงการเรี่ยไรเงินชาวบ้านได้ 4 ล้านบาท นำมาขยายโรงพยาบาล และซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ทันสมัยขึ้น
ใช้ทุนเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ได้เป็นนักบินสมใจหรือยัง
ยังติดลมอยู่ เลยเลือกเรียนต่อเฉพาะทางด้านผ่าตัดหัวใจ ที่ รพ.จุฬาฯ อยากเป็นหมอหัวใจ เพราะเมืองไทยยังมีน้อย จะได้ช่วยชีวิตคนเยอะๆ ผมเป็นคนที่ 117 ของประเทศ ก่อนเรียนผ่าตัดหัวใจต้องปูพื้นด้วยผ่าตัดทั่วไปก่อน 3 ปี จนจบสอบได้ ถึงมาเรียนผ่าตัดหัวใจอีก 2 ปี ใช้เวลาคลุกคลีกับการผ่าตัดอยู่หลายปี ก็เริ่มกลับมาถามตัวเองว่า เราจะยืนผ่าตัดนานๆอย่างนี้จน 60 ไหวไหม อย่างธรรมดาๆต้องผ่าตัด 5-6 ชม. เคสที่เคยยืนผ่าตัดนานที่สุด ก็ 18 ชม. เลยกลับไปคิดใหม่ว่า เรามีใบอนุญาตนักบินพาณิชย์อยู่แล้ว น่าจะกลับไปสู้อีกครั้ง ลองสอบนักบินการบินไทยดู ถ้าสอบไม่ได้ก็เป็นหมอต่อไป แต่ถ้า สอบได้ ค่อยมาคิดว่าอยากเป็นหมอหรือไม่เป็น
เผอิญช่วงสอบการบินไทย ใกล้กับสอบวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญแพทย์ผ่าตัดหัวใจ ตำราแพทย์ที่ต้องอ่านกองสูงถึงเอว มีเวลาเตรียมตัวแค่เดือนเดียว ก็ต้องตะลุยอ่านหนังสือสลับไปสลับมา เช้าอ่านเรื่องเครื่องบิน กลางคืนอ่านหัวใจ เป็นอย่างนี้ทุกวัน ไม่ออกไปไหน ปรากฏว่าสอบผ่านทั้งสองอย่าง โอ้โฮดีใจมาก!! เชื่อไหมว่าหน้าเรายิ้มอยู่ประมาณเดือนหนึ่ง เรียกว่าตื่นมาหน้าเมื่อยมากเลย เพราะยิ้มมีความสุขมาก ที่สอบนักบินได้

(http://img233.imageshack.us/img233/6439/003zf6.jpg) (http://imageshack.us)


แล้วอาชีพหมอละคะ วางมือไปเลยหรือเปล่า

ถึงจะเป็นนักบินการบินไทย แต่งานผ่าตัดหัวใจก็ไม่ได้ทิ้ง เพราะอาจารย์จะโทรมาตามให้ไปช่วยตลอด ช่วยที่ รพ.จุฬาฯ กับนเรศวร พิษณุโลก และช่วงนี้ยังไปช่วยที่ รพ.เด็กด้วย เพราะในเมืองไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้น้อยมาก เดือนหนึ่งก็จะผ่าตัดสัก 5 ราย ใช้เวลาช่วงวันหยุด หรือถ้าฉุกเฉินจริงๆ จะขอลากิจลาป่วย ซึ่งทางการบินไทยก็เข้าใจดี



ทริปแรกที่ได้เป็นนักบินเต็มตัว รู้สึกตื่นเต้นไหมคะ

ทุกอย่างเหมือนฝัน เวลาไปบินไม่เหมือนไปทำงาน เหมือนพักผ่อนมากกว่า ทริปแรก จำได้ว่าบินไปภูเก็ต วิ่งขึ้นตอนกลางคืน อากาศดี ฝนเพิ่งหยุดตก กรุงเทพฯตอนกลางคืนสวยมาก...โอ้โฮเราได้ขึ้นมาบิน เครื่องบินใหญ่จริงๆเหรอเนี่ย มีความสุขมาก!! อีกอย่างที่ประทับใจคือ ในทริปแรกมีสจ๊วตที่เคยเป็นคนไข้ของผมร่วมบินด้วย เขามีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง และผมเป็นคนผ่าตัดซ่อมหัวใจให้เขา ที่ รพ.จุฬาฯ หลังจากนั้นอีก 2 ปี หัวใจที่ซ่อมไว้ก็ไม่ไหวแล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่ ผมแนะนำให้คนไข้รอช่วงปีใหม่ เพราะปีใหม่มีอุบัติเหตุเยอะ และก็ได้จริงๆ อาจารย์ผมโทรมาบอกช่วงเช้ามืด วันปีใหม่ว่า ได้หัวใจแล้ว ตอนนั้นผมต้องบินกรุงเทพ-เชียงใหม่ และต่อด้วยกรุงเทพ-ฮานอย ก็คิดว่าเอาไงดีละ เลยโทรไปขอลาป่วย บอกตรงๆว่าจะลาไปผ่าตัดคนไข้เป็น พนักงานการบินไทย เขาก็หานักบินมาแทนให้ คิดไว้แล้วว่า ถ้าหาคนบินแทนไม่ได้จริงๆ จะเรียกคุณพ่อมาบินแทน



เจอเรื่องตื่น เต้นบนเครื่อง บินบ้างไหม

ส่วนใหญ่ เป็นเรื่องอาการป่วยของผู้โดยสาร อย่างไฟลท์ หนึ่งบินไปญี่ปุ่น เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ มีผู้โดยสารนอน ป่วยอยู่ท้ายเครื่อง 4-5 คน แอร์โฮสเตสไปตามผมมาดูอาการ เพราะรู้ว่าเป็นหมอด้วย ผมยังแซวว่า นี่เครื่องบิน หรือโรงพยาบาลกันแน่ โชคดีที่ตรวจดูแล้ว ไม่มีใครเป็นอะไรมาก ส่วนอีกไฟลท์ไปญี่ปุ่นเหมือนกัน มีผู้โดยสารปวดท้องมาก ไม่สบาย ก็ประกาศหาหมอในเครื่อง ปรากฏว่าเจอแต่นางพยาบาลญี่ปุ่น เขาก็มาช่วยดู ตรวจเสร็จเรียบร้อย บอกเขาให้ช่วยฉีดยาคนไข้ แถมยังสั่งด้วยว่า ให้วัดความดันทุก 15 นาทีในช่วงแรก และช่วงต่อไปวัดทุก 1 ชม. เขาก็พยักหน้างงๆ แต่ก็เต็มใจทำ พอเรากลับเข้าไปบินต่อ ถึงค่อยนึกได้ว่า เขาเป็นผู้โดยสารบิสซิเนสคลาส นะ ไปใช้เขาได้ยังไง



ตั้งแต่เป็นนักบินมาเคยประสบอุบัติเหตุไหมคะ

เป็นนักบินการบินไทยมา 6-7 ปี ยังไม่เคยเจออุบัติเหตุ เพราะถ้ามีพายุก็จะวนเครื่องบินรอ ไม่ฝืนเอาเครื่องบินลง แต่เคยเจออุบัติเหตุใหญ่ ตอนเรียนขับเฮลิคอปเตอร์ ตอนนั้นอาจารย์ปล่อยให้บินเดี่ยวครั้งแรก เรากำลังคึกก็บินออกไปเลยด้วยความมั่นใจ ปรากฏว่าบินออกไปได้ไม่เท่าไหร่ เครื่องบินหมุนติ้วๆๆ ไม่หยุด ประมาณสัก 7 วินาที เครื่องก็เสียระยะ ค่อยๆหล่นลงมาเรื่อยๆจนจะถึงพื้นอยู่แล้ว ด้วยความที่ประสบการณ์น้อย ทำให้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกแต่ว่าเราจะตายอยู่แล้ว สักพักถึงได้ตั้งสติและนึกถึงคำพูดครูว่า ถ้าไม่รู้อะไร ให้ลดมุมปะทุหลัก และรีบจูนหัวขึ้นให้มีฟอร์เวิร์ด สปีด แล้วจะรอด เราก็ลองทำทีละขั้นตอน ปรากฏว่าหลุดออกมาได้ เป็นครั้งที่เฉียดตายที่สุดแล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ขนลุกจนเจ็บไปทั้งตัว!! ตั้งแต่นั้นมา ก็เลยได้บทเรียนว่า จะเป็นนักบินที่ดีต้องมีสติ










หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 20, 2008, 06:35:06 PM

        น่าศรัทธาและนับถือมากครับ ...... ยอดคนจริงๆ หนึ่งในหลายล้าน


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ ตุลาคม 20, 2008, 06:58:15 PM
ยอดคนครับ ขอแสดงความนับถือ ::002::


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ ตุลาคม 20, 2008, 07:23:57 PM
กินอะไรเข้าไป สมองถึงดีอย่างนี้

ระดับสมองขนาดนี้อยากเรียนอะไร ก็เรียนได้ทั้งนั้นแหละครับ


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: ขวัญชัย - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 20, 2008, 08:43:56 PM
เก่งเลือกได้ครับ


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 20, 2008, 11:57:04 PM
คุ้นๆว่า...

น้องหมอเขาเล่นปืนด้วย...:D

 


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: C๐๐LC@T ที่ ตุลาคม 21, 2008, 12:41:34 AM
ทำอะไรด้วยใจรักนี่..อุปสรรคแค่ใหนก็ฝ่าไปได้นิ ::002::


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ ตุลาคม 21, 2008, 08:13:12 AM
ทำอะไรด้วยใจรักนี่..อุปสรรคแค่ใหนก็ฝ่าไปได้นิ ::002::
สมัยเด็กๆใจรักอยากเป็นนักเขียนรูปก็ไม่ได้ทำ โตขึ้นมาหน่อยใจรักอยากเป็นทหาร ก็ไม่ได้เป็น เพราะสูงน้อยไปหน่อย
ถึงวันนี้ ใจรักแมวเหมียว จะทำอย่างไรดี ;D :VOV:


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ ตุลาคม 21, 2008, 08:24:20 AM
...สุดยอดครับ........  ::002::


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ ตุลาคม 21, 2008, 08:38:09 AM
อาชีพนักบิน มีพื้นฐานมาจากหลายอาชีพครับ บางคนบางท่านยังเป็นสถาปนิก วิศวกร นักกฎหมาย พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาย ช่างเครื่องบิน


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ ตุลาคม 21, 2008, 10:00:43 AM
ประเทศยังต้องการผู้มีความรู้ความสามารถอีกเยอะ
นับถือจริงๆครับ


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: marine-รักในหลวงอย่างไม่มีเงื่อนไขครับ ที่ ตุลาคม 21, 2008, 09:51:41 PM
นับถือครับ

เป็นอาชีพที่ผมใฝ่ฝัน (นักบินพาณิชย์)
แต่ไม่มีความสามารถครับ
(แต่เฉี่ยว ๆ ทั้งสองอาชีพมาแล้วครับ)


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ ตุลาคม 22, 2008, 10:05:08 AM
หัวข้อ.... น่าจะเป็น หมอผ่าตัด ที่เป็นนักบิน ..... ก็เป็นหมอก่อน แล้วค่อยเป็นนักบินนี่ครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ ตุลาคม 22, 2008, 10:09:56 AM
 ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 22, 2008, 11:44:08 AM
ดูตัวเรา.....เฮ้อ...

ตอนคลอด  ลืมขมองไว้ในท้องแม่ป่าวไม่รู้


หัวข้อ: Re: นักบินคนแรกของไทยที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจ (จาก Fw mail )
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ ตุลาคม 22, 2008, 02:04:27 PM
ดูตัวเรา.....เฮ้อ...

ตอนคลอด  ลืมขมองไว้ในท้องแม่ป่าวไม่รู้

พี่ซับฯไม่ได้ลืมครับ แต่พี่เอาไปถ่ายใส่ขวดเหล้าซะเยอะ ทำหกใส่ทิชชู่ซะก็มาก  ::005::