เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Bird ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 04:32:22 PM



หัวข้อ: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: Bird ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 04:32:22 PM

เอาอารยธรรมคืนมา

คอลัมน์ ชั่วๆดีๆ (มติชน วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ปีที่ 26 ฉบับที่ 9262)


โดย เสกสรรค์ ประเสริฐกุล

ลูกชายคนเล็กของผมเป็นคนชอบหาเลี้ยงตนเอง เพราะฉะนั้น จึงรับจ้างทำงานโน่นนี่จิปาถะ อยู่ตลอดเวลา ล่าสุด นอกเหนือไปจากรับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการทีวีวัยรุ่นแล้ว เขายังรับจ้างแจกแบบสอบถามของน้าสะใภ้ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ในมหาวิทยาลัยดัง

เย็นวันหนึ่ง หลังจากตระเวนช่วยอาจารย์น้าทำวิจัยไปทั่วเมือง เจ้าสิงห์ก็กลับบ้านมาด้วยสีหน้าอันเหนื่อยอ่อนบวกหงุดหงิดในอารมณ์

"เพื่อนๆ มันหาว่าผมโง่" เขาระบายให้พ่อฟัง "มันบอกว่าเดินแจกแบบสอบถามอยู่ได้ ทำไมไม่กรอกเองแล้วรับค่าจ้างโดยไม่ต้องเหนื่อย"

"อ้าว ขืนทำอย่างนั้นผลการวิจัยก็ผิดความจริงไปหมดสิ" ผมอุทานอย่างตกใจ

"ใช่....ผมก็บอกพวกมันอย่างนี้"

"แล้วเขาว่ายังไง"

"มันประชดผมต่ออีก..บอกว่าเออๆ เอ็งมันคนดี"

"สิงห์ทำถูกแล้ว อย่ายอมแพ้นะลูก อย่ายอม" ผมรีบให้กำลังใจ

หลังจากนั้น ผมก็นั่งครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน ส่วนลึกของจิตวิญญาณบอกผมว่าสอนลูกได้ถูกต้อง แต่สัญชาตญาณของความเป็นพ่อก็ทำให้อดห่วงไม่ได้ว่า ลูกผมจะอยู่ร่วมกับโลกแบบนี้ได้อย่างไร

ใช่...โลกที่ความซื่อสัตย์สุจริตถูกหยามหยัน ความขยันหมั่นเพียรถูกดูแคลน

ผมมาลองนึกๆ ดูว่าอะไรหนอที่ทำให้สังคมไทยเสื่อมลงได้ขนาดนี้ ขณะเดียวกันก็ลองเทียบเบ้าหลอมของตนเองกับชนรุ่นลูกรุ่นหลาน ผมสงสัยเหลือเกินว่าอะไรทำให้เราต่างกันได้ราวสัตว์คนละสปีซีส์ ทั้งๆ ที่จะว่าไป ทั้งผมและพวกเขาล้วนถือกำเนิดมาในประเทศเดียวกัน

ความคิดของผมมาหยุดลงที่ระบบทุนนิยม

แต่เปล่า...ผมไม่ได้คิดจะประณามทุนนิยมตามสูตรสำเร็จเก่าๆ ของฝ่าย "ซ้าย" หรือด่ากราดแบบไม่มีชิ้นดีตามจุดยืนของนักศีลธรรมโบราณ ผมเพียงแต่รู้สึกว่าคนรุ่นหลังเติบโตมา ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นทุนนิยมเหมือนกันก็จริง หากทว่าเป็นทุนนิยมคนละขั้นตอน

สมัยผมเป็นเด็กโตมาในระบบทุนนิยม "แห่งชาติ" อย่างน้อยรัฐก็ยังสอนให้ประหยัดมัธยัสถ์รู้จักประดิษฐ์คิดสร้าง ขยันขันแข็ง รวมทั้งมีความซื่อตรงในการใช้ชีวิตและในการทำงาน

คนรุ่นผมที่ได้เรียนหนังสือย่อมไม่ลืมเรื่องของ "อุดมเด็กดี" ซึ่งตรงข้ามกับ "ชะลอหลังยาว" ไม่ลืมเรื่องของเด็กช่างคิดอย่างเรณูกับปัญญา ยังไม่ต้องเอ่ยถึงตำราเรียนอันชวนสะเทือนใจเรื่องนกกางเขน

ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่าทุนนิยมยุคแรกมีส่วนอย่างสูง ในการพามนุษย์ไปสู่อารยธรรมที่สูงขึ้นขณะเดียวกันก็ขอยืม และสืบทอดคุณค่าชีวิตแบบก่อนทุนนิยมมาหลายอย่าง ทำให้การส่งต่อจากยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่งไม่ถึงกับต้องหักล้างกันทุกเรื่องราว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของทุนนิยมก็คือพอก่อเกิดขึ้นมาแล้วมันหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ อีกทั้งโดยเนื้อแท้ยังเป็นระบบโลก เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะเผชิญกับวิฤตอันเนื่องมาจากการผลิตที่ล้นเกิน และการค้าที่ล้นเกิน ซึ่งข้อนี้ผมเข้าใจว่าเป็นสภาพที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

เพื่อความอยู่รอดของระบบ การผลิตที่ล้นเกินย่อมเรียกร้องให้มีการบริโภคที่ล้นเกิน ซึ่งหมายถึงว่าจะต้องสร้างนักบริโภคสมบูรณ์แบบขึ้นมา ในจำนวนที่มากพอจะประคองตลาดไว้ได้

อันที่จริงคาร์ล มาร์กซ อาจารย์เก่าแก่ของผมสอนไว้นานแล้วว่าทุนนิยม ไม่เพียงผลิตสินค้าเท่านั้นหากยังผลิตผู้บริโภคด้วย แต่กระนั้นก็ตาม ผมคิดว่าเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ท่านอาจารย์คงไม่มีทางนึกออกเลยว่า นักบริโภคสมบูรณ์แบบนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร

อันดับแรก คนเราจะซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ จะต้องไม่มีแนวคิดเรื่องประหยัดมัธยัสถ์หรือ การใช้ชีวิตแบบสันโดษสมถะเหลืออยู่เลย อันดับต่อมาคนเหล่านี้จะต้องนิยมการปรุงแต่งตัวตนในทุกขอบเขตทุกปริมณฑล เบื่อง่ายหน่ายเร็วจะได้ซื้อสินค้าใหม่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังต้องไม่คิดมากในเรื่องสาระของชีวิต เพราะขืนคิดก็จะพบว่าสินค้าส่วนใหญ่ไร้สาระสิ้นดี...

และอันดับสุดท้ายซึ่งน่ากลัวที่สุดคือ... จะต้องไม่ใช่คนทำงานหนักหรือมีจริยธรรมในการทำงาน เพราะมันจะทำให้ไม่ค่อยกล้าใช้เงิน ตรงกันข้ามพวกเขามักไม่ได้หาเงินเอง หรือหาด้วยวิธีง่ายๆ แบบเก็งกำไร ใช้สินเชื่อ กระทั่งบางทีก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ก็เอา

ครับ กล่าวอย่างสรุปรวบยอดแล้ว บุคลิกภาพของคนที่ถูกหลอมโดยทุนนิยมยุคโลกาภิวัตน์ หากไม่ถูกแทรกแซงโดยพลังแวดล้อมอื่นเลย ก็คือคนที่ถอนตัวออกจากศีลธรรมและคุณธรรมอันมีมาแต่เดิมทั้งปวง

ดังนั้น ใครจะมาบอกผมว่าทุนนิยมเป็นแค่ระบบเศรษฐกิจ ผมคงต้องขอเถียงคอเป็นเอ็นเพราะแท้จริงแล้วมันได้ผูกพ่วงเอามิติอื่นๆ ของชีวิตไว้ด้วยทั้งยวง

ในเวลานี้ลูกชายผมถูกหยามหยันเพราะเขาทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต ขณะในปีกของสังคมเราก็กำลังถูกครอบคลุม ด้วยข่าวโจรคนชั้นกลางเที่ยวปล้นโทรศัพท์มือถือ ข่าวอาชญากรรมรวมหมู่ของผู้บริโภคซีดีโป๊ ซึ่งผู้ค้าแอบก๊อบปี้มาจากฉากส่วนตัวของปัจเจกบุคคล ยังไม่ต้องเอ่ยถึงข่าวนาฏกรรมแฉส่วยที่ส่งให้เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเจ้าของกิจการโรงนวด และอะไรต่างๆ อีกมากมาย

ผมรู้สึกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน

และนับวันผมก็ยิ่งรู้สึกว่าการขยายตัวของทุนนิยม กับความเจริญของมนุษย์กำลังสวนทางกันโดยสิ้นเชิง

ไม่ทราบว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเอาอารยธรรมคืนมา?

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ข้อเขียนนี้ อาจารย์เสกสรรค์เขียนไว้เมื่อปี 2546 ผมคิดว่ามันยังทันสมัย และเห็นจริงขึ้นเรื่อยๆ

ตอนอาจารย์เขียนบทความนี้ อาจารย์จะรู้ไหมว่า ผ่านไปอีก 5 ปี  กลุ่มทุนนิยมสามานย์ที่ผูกคอซื้อประชาชนและพรรคพวกไว้ไม่ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี จะสำแดงฤทธิ์เดชถึงขั้นจะทำเอาชาติล่มสลาย...

ผมอยากรู้ว่า จะมีข้อเขียนใดๆที่เกี่ยวข้องกับสภาวะการปัจจุบัน จากนักเขียน นักคิด นักปฏิวัติที่ชื่อ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อีกไหม...



หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 04:41:53 PM
เยี่ยมครับ...

ภาษาไทยสวยงาม งดงามทั้งความรู้สึก ความหมาย และการลำดับความคิดลดหลั่นกระจายเป็นกลุ่มย่อยที่จะถูกผูกเข้าหาธีมของเรื่องแบบเดียวกับสาแหรกที่ปลายไม้คานแม่ค้าขายขนมไทย... ซึ่งก็เป็นสัญญลักษณ์อารยธรรมไทยแบบเรียบง่าย สังคมพึ่งพากันตามเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นรากฐานของวิธีคิดแบบคนไทยครับ...

นายสมชายชอบสำนวนแปลคำบรรยายภาษาไทยในภาพยนต์ของภรรยา อ.เสกสรร มานานแล้ว... แค่เห็นสองสามประโยคก็ทราบว่าเป็นของใคร "จิรนันท์ พิตรปรีชา"...

นายสมชายดูหนังมากเสียจนใน UBC ไม่เคยมีหนังดีๆ ที่นายสมชายยังไม่เคยดูมาฉายครับ...

แค่เห็นสองสามฉาก เห็นมุมกล้องสองสามมุมก็ทราบแล้วว่าหนังของใครเป็นผู้กำกับ...

แค่อ่านสองสามประโยคก็ทราบแล้วว่าเป็นของ อ.เสกสรร เขียน...


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 04:47:41 PM
สังคมแบบไทย ๆ ดั้งเดิม ถูกกลืนกิน ไปแทบจะสิ้น


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 04:57:24 PM
 ::014:: ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 06:25:07 PM



ขอบคุณครับ     ;D



 


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: สุกรจากโลกันต์ ที่ พฤศจิกายน 08, 2008, 12:09:20 AM
แทงใจดำครับ โดยเฉพาะ ประโยคที่ว่า ผู้บริโภคซีดีโป็
ของผมทั้งดีวีดี wmv. rmvb. avi. มีเพียบเลย แต่ผมยังไม่เคยก่ออาชญากรรม เพราะยังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง
แต่ก็อยากลองนะ อิอิ...
ทุนนิยม เป็นทั้งแนวทางการดำเนินชีวิต และเศรษฐกิจครับ มันจะเหมือนกับ แนวคิดแบบ บริโภคนิยม กับสุขนิยม คือเอาสบายเข้าว่า จะเป็นหนี้เป็นสินหรือจะคดโกงคนอื่นมาก็ไม่สนขอให้มีกินมีใช้ไว้ก่อน


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 08, 2008, 07:06:25 AM
...ขอบคุณครับ... ::002::...... ::014::


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: foxbat.....รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 08, 2008, 09:46:32 AM



ขอบคุณครับ     ;D



 

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                   มีความคิด ด้วยแฮะ


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 09, 2008, 12:38:40 AM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: ๏แก้วเดียวจุก๏รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 09, 2008, 12:44:30 PM
มาซึมซับด้วยคนครับ


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 09, 2008, 05:05:37 PM
ขอบคุณมากครับ คุณ Bird .  :D





หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: SEEZ ..รักในหลวง.. ที่ พฤศจิกายน 09, 2008, 09:34:11 PM
          คนเก็บเงินได้นำส่งเจ้าของหรือตำรวจ  ถูกหาว่าโง่ที่ไม่เก็บไว้เอง    :~) :~)  แปลกไหมครับ :~) :~)


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: Bird ที่ พฤศจิกายน 09, 2008, 10:33:58 PM
ขอบคุณทุกท่านครับ  จริงๆแค่เข้ามาอ่าน ผมก็รู้สึกนับถือแล้ว...

ที่คุณ Seez พูดมา ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า ครั้งหนึ่งผมเคยนั่ง taxi จากสุวรรณภูมิกลับบ้าน พอเริ่มพูดคุยกันโชเฟอร์ก็พูดเป็นต่อยหอย  สุดท้ายเค้าก็เล่าอย่างภาคภูมิใจที่สามารถโขกเงินค่าโดยสารชาวต่างชาติที่เพิ่งมาถึงเมืองไทยได้โดยไม่ต้องกดมิเตอร์ หรือไม่ก็หลอกชาวต่างชาติให้จ่ายเงินเกินจากมิเตอร์ได้ครั้งละหลายร้อยบาท  ชาวต่างชาติบางคนเมื่อเห็นว่ามีมิเตอร์ก็ขอให้เขาใช้มิเตอร์  เขาก็ขู่จะไล่ลงกลางมอเตอร์เวย์
ผมได้แต่นึกอนาถใจ ไม่ได้เออออกับเขาสักคำ   ทำไมโชเฟอร์คนนี้ถึงได้ภาคภูมิใจในการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ถึงเพียงนี้  แล้วจะมีแบบนี้อีกกี่คน...

ก่อนผมจะลงจากรถ ยังมีหน้ามาบอกผมอีกว่า ครั้งนี้มัวแต่คุยเพลินทำให้ขับได้ช้า ปกติจะทำเวลาได้เร็วกว่านี้มาก  สามารถกลับไปเข้าคิวรอโขกชาวต่างชาติได้อีกหลายรอบ...


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 09, 2008, 11:21:44 PM
  ขอบพระคุณครับ .... 

      ระบบเป็นเพียงส่วนนึงครับ ......  แต่อีกสิ่งที่ผมว่ามันขาดหายไปจากสังคมคือ "คุณธรรม" 


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ พฤศจิกายน 10, 2008, 12:11:08 AM
คุณธรรม จริยธรรม ..............

มือใครยาว สาวได้สาวเอา ..............

ดูได้ ใน การเมืองไทย

มีหลงเหลือ อยู่บ้างมั้ย


เพียงประโยค   บกพร่องโดยสุจริต

ผมเองก็ยังนึกไม่ออก ว่า จะสอนลูกหลานอย่างไร


หัวข้อ: Re: เอาอารยธรรมคืนมา
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 10, 2008, 12:16:35 AM
คุณธรรม จริยธรรม ..............

มือใครยาว สาวได้สาวเอา ..............

ดูได้ ใน การเมืองไทย

มีหลงเหลือ อยู่บ้างมั้ย


เพียงประโยค   บกพร่องโดยสุจริต

ผมเองก็ยังนึกไม่ออก ว่า จะสอนลูกหลานอย่างไร

  นี่แหละครับพี่ยอดที่ผมกลัว ....  คุณธรรม และ จริยธรรมในสังคมเรามันอ่อนลงทุกวัน


  หลาย ๆคนเห็นแก่ประโยชน์ที่จะได้มากกว่า ความถูกผิด

ถามว่าทุกวันนี้ รู้ไหมอะไรถูกอะไรผิดผมก็เชื่อว่าคนเราทุกวันนี้

มีการศึกษามากขึ้นรู้ถูก รู้ผิดแต่เลือกในสิ่งผิดเพียงเพราะผลประโยชน์เท่านั้น