เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ได้ชมแล้วดูสึกดีครับเลยอยากทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งขึ้นมาครับ  ท่านใดทราบบ้างเอ่ย.......

(http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/newimages2/patewdo9.jpg)

เรื่อง แม่ต้อย
เป็นเรื่อง  ที่เรียบเรียงจากเรื่องจริงของ "ครูติ๋ว  สุธาสินี  น้อยอินทร์" แห่งบ้านโฮมฮัก จ.ยโสธร ครับ


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

  รวดเร็วทันใจ   ::002::

ขอบคุณมากครับลุง 51  ;D

เป็น 1 ในหลายๆโฆษณาที่ผมตั้งใจดูอย่างดีจนจบ...

 ::002::

เอาลิงค์มาแปะครับ   ;D

http://www.youtube.com/watch?v=E96fakb89ks&feature=related (http://www.youtube.com/watch?v=E96fakb89ks&feature=related)

โฆษณาไทยประกันฯทำน้ำตาซึมหลายเรื่องแล้วคะ ::004::แต่ ::002::

โฆษณาได้ประทับใจมากครับ  ::002::  :VOV:

ขอบคุณครับ  :D :D :D

ดูทุกครั้ง...ที่เห็นออกอากาศครับ...เยี่ยมทั้งคนทําและเจ้าของเรื่อง....

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ;D

ประทับใจค่ะ  ::002::

ทำโฆษณา ได้ดีนะครับ มีสาระกว่าอีกหลายๆ โฆษณาเยอะเลย

มันสะท้อนให้เห็นว่า เรื่องน่าเศร้าอันแสนเลวร้ายในชีวิตจริงคือ รวยแล้วก็เลว ฉลาดแล้วก็ชั่ว

.หนึ่งใน.โฆษนา.ที่ดีมีสาระ. ;D

 :) ขอบคุณครับ

สังคม มีดี ไม่ดีปะปน ทั่วทุกหนแห่ง

อยู่ที่ตัวเรา จะเลือก จับหยิบ ทำสิ่งใหน

ด้วยความเคารพ

เชอะ....คราวหน้าก็...รอไปก่อนเฮอะ...คริ คริ

ดูท่าทาง ท่านพี่ 51 จะประจำเดือนไม่ปกติน๊ะ รอบนี้ คริๆๆๆ

ด้วยความเคารพครับ ท่าน51

แหม๋...ท่านยูดม คาที่...ฮับ
ชื่อป๋ม...ก็บอกอยู่แว้ว...ว่า น้อง ว่า น้อง...
น้องเบญจone อ่ะครับ...คริ คริ

ดูทุกครั้ง  ประทับใจทุกครั้งครับ...

“ชีวิตที่มีค่า คือการทำชีวิตผู้อื่นให้มีค่า”



PRODUCTION HOUSE = PHENOMENA
DIRECTOR = ธนญชัย ศรศรีวิชัย


ไทยประกันชีวิตไม่หวั่นเศรษฐกิจซบ มุ่งปั้นแบรนด์ต่อเนื่อง
ล่าสุดออกหนังโฆษณาชุดใหม่ ตอกย้ำคุณค่าแห่งชีวิต ด้วยแนวคิด “ชีวิตที่มีค่า คือการทำชีวิตผู้อื่นให้มีค่า”  
ต่อยอดทำกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านโครงการหนึ่งคนให้ หลายคนรับ


นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้าย
บริษัทฯ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “Melody of Life” โดยเริ่มออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทุก
ช่องตั้งแต่วันที่ ๒ พฤศจิกายนเป็นต้นไป ทั้งนี้แนวคิดของภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าวต่อยอดมาจาก
แนวคิดเดิม คุณค่าของชีวิต หรือ Value of Life และได้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น คือ การเพิ่มคุณค่าในการใช้ชีวิต
หรือ The Value Added of Living โดยต้องการปลุกกระแสให้คนในสังคมดูแลและใส่ใจซึ่งกันและกัน
อันเป็นการเพิ่มคุณค่าชีวิตให้กับตนเอง และในขณะเดียวกันยังทำชีวิตของผู้อื่นให้มีคุณค่าด้วยเช่นกัน
   

      ภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าว บอกเล่าถึง แม่ต้อย หญิงสาวที่มีฐานะยากจน แต่จิตใจกว้างขวาง ดำรง
ชีวิตอย่างมีคุณค่า โดยสร้างและแบ่งปันคุณค่าให้แก่ชีวิตอื่น ด้วยการนำเด็กจรจัด เด็กถูกทำร้าย และเด็ก
โปลิโอมาดูแล พร้อมมอบความรักเฉกเช่นเดียวกับลูกของตัวเอง แม้จะไม่ใช่สายเลือดแท้ๆ ในขณะที่แม่ต้อย
ก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย และป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ถือเป็นความยากลำบากในการที่ต้องดูแลเด็กเล็กถึง ๓ คน
แต่เธอกลับสุขใจกับการได้มอบชีวิตใหม่ให้แก่เด็กๆ และยังคงอิ่มเอมใจที่จะทำเช่นนั้นจนกว่าจะถึงวาระสุดท้าย
ของชีวิต
 
        ที่ผ่านมาการสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิต ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างการรับรู้ในแบรนด์
เท่านั้น หากแต่เนื้อหายังมีส่วนกระตุ้นเตือนให้คนมีส่วนร่วมในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งความรับ
ผิดชอบต่อสังคมดังกล่าวถือเป็นพันธกิจหลักของบริษัทฯ ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ภายใต้โครงการ
“หนึ่งคนให้ หลายคนรับ”


        ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมกับมูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน หรือบ้านโฮมฮัก จัดกิจกรรม
หนึ่งคนให้ หลายคนรับ ฮักน้องบ้านโฮมฮัก โดยนำเด็กในมูลนิธิจำนวน ๔๐ คน พร้อมพี่เลี้ยงอาสา ซึ่งเป็น
พนักงานของบริษัทฯ จำนวน ๔๐ คน ทัศนศึกษาพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย อำเภอสัตหีบ
จังหวัดชลบุรี เพื่อให้เด็กได้เปิดโลกทัศน์ และเรียนรู้การมอบความรัก ความเอื้ออาทรแก่ผู้อื่น
   

        รวมถึงการสนับสนุนโครงการ Club 25 of Thailand ของสภากาชาดไทย ซึ่งเป็นโครงการรณรงค์ให้
เยาวชนอายุระหว่าง ๑๗-๒๕ ปี บริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอหรือชักชวนเพื่อนร่วมบริจาคโลหิต ทั้งนี้ เพื่อปลูกฝัง
ให้เยาวชนตระหนักถึงการให้เพื่อสร้างคุณค่าชีวิตแก่ตนเองและผู้อื่น
 
          “ลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ทุกกรมธรรม์ของบริษัทฯ นับเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือสังคม เพราะบริษัทฯ ตระหนัก
ดีว่าเบี้ยประกันรับทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินของลูกค้า รวมถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจของไทยประกันชีวิต
มุ่งแสวงหากำไรที่เหมาะสม ไม่ได้แสวงหากำไรสูงสุด ดังนั้นกำไรที่ได้จากการบริหารงานส่วนหนึ่งจึงคืนกลับ
สู่สังคมผ่านการดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย ฉะนั้นทั้งบริษัทฯ และลูกค้าจึงเป็นเสมือนหนึ่งผู้ให้แก่สังคมไทย
เช่นเดียวกัน” นายไชยกล่าว


เวบไซด์อ้างอิง (http://tamdee.net/db/forum_posts.asp?TID=992&PID=1566)

ขอบคุณครับ 

 ขอบคุณ ลุง submachine อีกหนึ่งท่านครับ ::002::

ปล. พี่ 51 งอนอีกละ ( แล้ว )

****************************************

โฆษณา ใช้ ณ ไม่ใช่ น ครับ

เรียกพี่....งั้นมาใกล้ ๆ ซิจ๊ะ
อยู่นิ่ง ๆ นะ  เดี๋ยวพี่ให้ตังค์....คริ คริ

ชอบคนแสดงค่ะ เล่นเก่งดี ::002::

อ้าว ผม ก็นึกทึกทักไปเอง ว่าท่านozero ลงทุนไปแสดงให้เขาซะอีก ::005:: ::005:: ::005::
.
.
.
.
.
.
.อะ ล้อ เล่ง ล้อ เล่ง  . . . . . แว๊บ ::008::

ด้วยความเคารพครับ

อิอิ...คิดๆอยู่เหมือนกันค่ะ ::005::

อีกโฆษณาที่ตั้งใจดูทุกครั้ง  ประทับใจ...
มิทราบว่าเพลง(เสียงกีต้าร์)คุ้นๆหรือเปล่า?..ไพเราะดีครับ

 แก้แล้วครับพี่  ขอบคุณมากครับ

.....หงะ  ::011:: ..........

ชอบเหมือนกันครับ
อันก่อนๆตอนพ่อกับลูกสาว(ท้อง)ยิ่งประทับใจ :)

ท่าทางเจ้าของกระทู้เพลี้ยงพล้ำอีตา51แน่ๆ

ชอบครับ

   โฆษณาของไทยประกันชีวิต ทำได้ซึ้งกินใจผมอยู่หลายเรื่องครับ ...นับตั้งแต่..
   ..ปู่ชิว..ทำให้เห็นคุณค่าของความรัก และ คำมั่นสัญญา..
   ...เจ้าตัวเล็ก...สื่อให้เห็นความรัก& ห่วงใย ของพ่อ ที่มีต่อลูก(ที่เพิ่งจะคลอด)
   ...ลูกสาวท้อง...ความรักของพ่อกับแม่นั้นยิ่งใหญ่นัก...พร้อมจะให้อภัยทุกๆอย่าง..แม้กระทั่งตอนที่ลูกสาวสุดที่รักก้าวพลาดครั้งยิ่งใหญ่
   ...และล่าสุด..แม่ต้อย...ทำให้เห็นคุณค่าของการมีชีวิต การอยู่เพื่อทำคุณประโยชน์ให้กับผู้อื่นที่ด้อยโอกาส...
                                    
                ......เยี่ยมทุกเรื่องราวเลยครับ... ::002:: ::014::

        โฆษณาของเขานำเสนอได้ดีมาก ๆ ทุกเรื่องครับ
อยากให้บริษัทที่ผลิตโฆษณาทำผลงานที่มันสร้างสรรค์อย่างนี้เยอะ ๆ ครับ

 :D
เห็นโฆษณาไทยประกันชีวิตทีไร
ผมอิจฉา โอกิลวี่ ทุ๊กที
เห็นแล้วอยากไปทำงานบริษัทนี้

ในฐานะคนทำงานด้านนี้
แคมเปญของไทยประกันชีวิตก้าวผ่านขั้นที่ต้องมาอธิบายโปรดักส์ของตัวเองไปแล้ว
หลายปีก่อนหน้าโน้น มีแคมเปญว่าเป็น บริษัทของคนไทย
แม้ยามสงครามโลก บริษัทประกันต่างชาติ ต้องปิดกิจการไป
แต่ บริษัทของไทย ที่ยังอยู่รักษาคำมั่นสัญญาที่มีไว้กับคนไทยด้วยกัน

แต่แคมเปญในยุคหลัง...พูดคำเดียว...."ชีวิตเป็นสิ่งมีคุณค่า"
ซึ้งจังครับ
บางเรื่องอาจโดนด่า เช่นน้ำเน่า
หรือส่งเสริมเป็นใจให้เด็กวัยรุ่นปล่อยตัวปล่อยใจ จนอาจท้องก่อนแต่ง
บางเรื่อง...น่ากลัวเกินไป  (เช่นฉากที่พ่อขับรถชนรถบรรทุก)

แต่ทั้งหมดล้วนชี้ให้เห็นว่าชีวิตเป็นสิ่งมีคุณค่า  สายใยระหว่างคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
สรุปอีกที...ซึ้งครับ :D