เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Army - รักในหลวงครับ ที่ พฤศจิกายน 21, 2008, 09:33:26 AM



หัวข้อ: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Army - รักในหลวงครับ ที่ พฤศจิกายน 21, 2008, 09:33:26 AM
พอดีไปเจอข่าวในเว็บบล็อก oknation เกี่ยวกับการเจรจาปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าเรายอมให้ใช้แผนที่ที่จัดทำโดยฝรั่งเศสในการเจรจาเรื่องเขตแดนกับกัมพูชา ผมไม่แน่ใจว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน เลยอยากจะสอบถามพี่ๆเพื่อนๆซึ่งอาจจะมีหน้าที่เกี่ยวข้องหรืออยู่ใกล้แหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือสูงว่าเป็นความจริงหรือเปล่าครับ มีท่านใดพอจะทราบไม๊ครับ ถ้าเป็นความจริงทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้มันถึงเงียบเหลือเกิน แล้วทำไมเราถึงได้ยอมได้ง่ายๆขนาดนั้น ไม่คิดถึงผลที่ตามมาบ้างเลยเหรอครับ   >:(

รายละเอียดตามลิงค์ครับ

http://www.oknation.net/blog/inter/2008/11/13/entry-1

ขอบคุณครับ

=====================

วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน 2551
ไทย ตกลงใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันพรมแดนกับเขมร
Posted by ThelastKGB , ผู้อ่าน : 544 , 00:24:45 น.   
 พิมพ์หน้านี้

ไทยและกัมพูชา ตกลงกันได้ในหลักการเมื่อวาน เรื่องการลดกำลังทหาร และการใช้แผนที่การสำรวจอายุ 1 ศตวรรษเพื่อช่วยในการสะสางปัญหากรณีพิพาทเรื่องพรมแดน ที่ดำเนินมายาวนาน

การตกลงระหว่างนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย กับนายฮอร์ นัม ฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา เป็นผลมาจากการเจรจากันนาน 3 วันที่จังหวัดเสียมราฐ ของกัมพูชา

รัฐมนตรีทั้งสองบอกว่า ทั้งสองประเทศจะให้ความสำคัญกับเรื่องการกำหนดพรมแดนในพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากที่นี่ ทั้งสองฝ่ายส่งทหารมาเผชิญหน้ากันตั้งแต่เดือนกรกรฎาคม งานนี้จะใช้แผนที่การสำรวจสมัยอาณานิคมฝรั่งเศสฉบับปี 2450 เป็นหลัก

แต่รัฐมนตรีไทยบอกว่า ในเบื้องต้น รัฐสภาไทยจะต้องให้การอนุมัติในทั้งสองเรื่องที่จะช่วยลดความตึงเครียด และสะสางปัญหาการอ้างพื้นที่กรรมสิทธิ์ เสียก่อน

โดยในการเปิดแถลงข่าวหลังการหารือ รัฐมนตรีสมพงษ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ก็เหลือปัญหาเล็กๆอีกแค่ 2 เรื่องให้ต้องแก้ไข แต่งานนี้ไทยต้องการการตัดสินใจจากรัฐสภา

ฝ่ายรัฐมนตรีกัมพูชาบอกว่า นี่เป็นย่างก้าวที่เดินไปข้างหน้าที่ชัดเจนและรวดเร็ว การกำหนดพรมแดนที่พระวิหารจะเริ่มในกลางเดือนธันวาคม

ทั้งสองฝ่ายบอกด้วยว่าในเดือนมกราคมปีหน้า จะมีการมาหารือกันอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะต้องจัดตั้งคณะทำงานชายแดน ที่จะติดต่อประสานงานกันตลอดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันอีก เพราะไม่นานหลังการเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศรอบที่แล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมาจบลงด้วยความล้มเหลว ทหารทั้งสองฝ่ายก็เกิดปะทะกัน จนทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตไป 4 นาย
 


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 21, 2008, 10:02:53 AM
 >:( ถ้าจริงตามข่าวล่ะน่าดู >:(


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 21, 2008, 10:21:02 AM
ต้องผ่านการอภิปรายจากรัฐสภาก่อนมิใช่หรือ....ผมว่าผ่านยากยังมี สส. ฝ่ายค้านอืกเยอะ
แต่ถ้า สส.ฝ่ายรัฐบาลยกมือให้ผ่านและมีเสียงมากกว่าล่ะก็ งานนี้....ประชาชนไม่ยอม...ผมเอาด้วย
 หน่อยๆๆๆได้คีบจะเอาศอก วิหาร รกร้างสูญหายไปเป็น 1000 ปี แต่ค้นพบใหม่โดยคนไทยถ้าจำไม่ผิดราว 500 ปี
โดยพระยา ....อะไรจำไม่ได้ มาทวงคืนไปแล้วจะเอาอะไรอีก แม้แต่ท่านนายยกสมัยนั้นยังยืนยันเจตนาจะทวงคืนให้ใด้
และฝากต่อมายังลูกหลานด้วยแต่รัฐบาลลูกหลานดันจะยกให้เขา..มันน่านัก.....จะมาเสียซ้ำเสียซ้อนไม่ได้แล้ว
 หนอยออกหนังสือ....ผมไม่ได้ขายชาติ....ศาลวินิจฉัยฟันธงแล้วว่าเอ็งกับพวกขายชาติ.....อายวิญาญปู่ไม๊

วิญาญปู่น่าจะมาหักคอไอ้พวกนี้ให้หมด


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ พฤศจิกายน 21, 2008, 10:24:40 AM
ตกลงจะขายชาติขายแผ่นดินให้ได้เลยใช่มะ  พวกเวรนี่  หรือตรูไม่มีแผ่นดินอยู่พวกเอ็งก็ต้องไม่มีด้วยใช่มะ   ::009:: ::009:: >:(


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 21, 2008, 10:36:03 AM
 ::009::...


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ พฤศจิกายน 21, 2008, 10:53:43 AM
 :~)


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ พฤศจิกายน 27, 2008, 11:23:25 PM
    ขออนุญาตเด้อ..เห็นแว๊ปๆ ...เลยขอดึงมาเน้นอีกครั้ง เพราะกลัวว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อสายไปแล้ว    ผมเพิ่งรู้ว่ามีข้อมูลบางอย่างอยู่กับตัว เพียงเล็กน้อย สำหรับท่านที่สนใจนะครับ สำหรับท่านที่ทราบแล้วต้องขออภัยด้วยครับ  จริงเท็จประการใดพิจารณากันเองนะครับ เพิ่งมาอ่านเจอวันนี้นี้เอง ผมเอามาถ่ายทอดและแทรกความคิดเห็นส่วนตัวบ้างบางส่วน ..

  ขอย้อนหลังเล็กน้อยครับ.. ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา มีการทำบันทึกความเข้าใจ (TOU ) เรื่องการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก เมื่อ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ในสมัยรัฐบาล พรรคประชาธิปัตธ์ และต่อมาได้มี การทำแผนแม่บทและข้อกำหนดของอำนาจหน้าที่ หรือ TOR เมื่อสิงหาคม พ.ศ.2546  หลังจากนั่นมีการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 5 เมื่อ กุมภาพันธ์ ปี 2549 ที่กรุงพนมเปญ ซึ่งที่ประชุมกำหนดให้มีการสำรวจเขตแดนทางบกให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2549 และสำรวจเขตแดนทางน้ำให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2550 และได้มีการเริ่มต้นการปฎิบัติงานในพื้นที่จริงๆเมื่อ มิถุนายน พ.ศ. 2549  สำหรับเส็นเขตแดนทางบกที่มีปัญหาคือจำนวนหลักเขตแดนรวมทั้งหมด 72 หลัก สำหรับทางน้ำมีพื้นที่เหลื่อมล้ำกันที่ยังคงมีปัญหาทางทะเลประมาณ 34,043 ตร.กม.

 
  เริ่มขี้เกียจพิมพ์แล้วครับ...แต่จะพยายามพิมพ์ให้จบจนถึง ว่าเกิดอะไร?ขึ้น ที่มีนักการเมืองขายชาติแอบไปทำอะไร? ไว้  และทำไมต้องเป็น มกราคม ปีหน้าตามข่าว   ( ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอุบัติเหตุก่อนนะครับ )  ท่านใดพอหาข้อมูลการประชุมสภาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2551 ได้ ลองดูว่ามีนักการเมืองขายชาติตนไหนแอบยัดไส้ในเรื่องกรอบการเจรจาเรื่องปราสาทพระวิหารเข้าสู่สภา เพื่อข้ออ้างว่าจะนำไปเจรจากับกัมพูชาดูประกอบก่อนก็ได้ครับ...ระวังให้ดีเถอะคนต่างชาติโดยเฉพาะคนเขมรจะเข้ามาเดินเล่นแบบไม่ต้องขออนุญาตได้ถึง อุบลราชธานี...เชี่ยวหล่ะ

   


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ พฤศจิกายน 29, 2008, 12:39:47 AM
        ขอกลับมาต่อแบบสรุปๆ .. ขออนุญาตย้อนทบทวนความจำนิดหนึ่ง.. ;).
                                   
       ปี 2548  กัมพูชาเริ่มยื่นจดทะเบียนปราสาทพระวิหารให้เป็นมรดกโลก โดยกัมพูชาแจ้งว่าจะร่วมมือกับไทยในครั้งนี้
 
       ปี 2550  ประเทศไทยแจ้งข้อกังวลเกี่ยวกับเขตแดนให้ฝ่ายกัมพูชาได้รับทราบและกระทราวรการต่างประเทศได้ยื่นบันทึกช่วยจำแก่กัมพูชาเพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกและได้ทำเอกสารแย้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยขอให้มีการได้ข้อยุติเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและการใช้อำนาจอธิปไตยเสียก่อนสุดท้ายคณะกรรมการมรดโลก สมัยที่ 31 ได้มีมติให้เลื่อนการพิจารณาการขึ้นทะเบียนของกัมพูชาออกไป และให้ไทยกับกัมพูชาร่วมมือกันก่อน
      ม.ค. 2551  มีการประท้วงจากฝ่ายไทยในระหว่างการประชุมผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศที่เสียมราฐ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเขตแดน
      ก.พ. 2551  ในการประชุม รมว.การต่างประเทศ อาเซียนที่สิงคโปร์ ซึ่งมี นายนพดล ปัทมะ ในฐานะ รมว.การต่างประเทศของไทยเข้าร่วมการประชุมด้วย  กัมพูชาออกแถลงการ์ณว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารจะไม่กระทบต่อผลการเจรจาเรื่องเขตแดน ที่ดำเนินโดยคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชาและกัมพูชายินดีที่จะเข้าร่วมในการพัฒนาเขาพระวิหารซึ่งในครั้งนี้ นายนพดล ตอบชี้แจงว่าไทยมิได้คัดค้าน
      มี.ค. 2551  นายสมัคร สุนทรเวช เยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการและบอกว่าไทยไม่ขัดขวางการเสนอขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา และกัมพูชาได้เสนอให้มีการจัดทำแถลงการณ์ร่วมเพื่อให้ไทยพิจารณา ซึ่งระบุว่าไทยสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกและการกำหนดพื้นที่อนุรักษ์ตามที่ปรากฎในแผนที่แนบท้ายเอกสารประกอบการขึ้นทะเบียน                                           
      เม.ย. 2551  มีการกล่าวอ้างและทำหนังสือแจ้งเรื่องที่กัมพูชา เข้ามาใช้พื้นที่และมีการละเมิดอำนาจอธิปไตยของดินแดนไทย แต่กัมพูชาไม่ยอมรับ                                           
      พ.ค. 2551  มีการเปิดถนนหมายเลข 44 และสะพาน 4 แห่งในกัมพูชา หลังจากนั่น " นายนพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ " ได้มีการหารือเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกและการกำหนดเขตทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา และพื้นที่ซับซ้อนบริเวณไหล่ทวีป และในเดือนเดียวกันนี้ นายนพดล ปัทมะ นำคณะผู้แทนไทยไปหารือกับกัมพูชาที่ฝรั่งเศส เพื่อหาข้อยุติก่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก และมีการลงนามย่อกำกับร่างแถลงการณ์ร่วมด้วย
                                         
      5-11 มิ.ย. 2551  กัมพูชาเสนอร่างแผนผังฉบับปรับปรุงให้ไทยพิจารณา กรมแผนที่ทหารเข้าทำการสำรวจ
       16  มิ.ย. 2551   สมช. เห็นชอบตามร่างคำแถลงการณ์รวมทั้งแผนผังที่กัมพูชาส่งให้ไทยพิจารณา
       17  มิ.ย. 2551   ครม. ยุคนายสมัคร สุนทรเวช เห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา
       18  มิ.ย. 2551   นายนพดล ปัทมะ  ในฐานะ รมว.การต่างประเทศลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
       23  มิ.ย. 2551   มีการอภิปรายในสภาฯ ว่าสิ่งที่นายนพดล ปัทมะ ทำนั่นไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูธ มาตรา 190 วรรคสอง และหลังจากนั่นได้มีการยื่นฟ้อง ครม.ทั้งหมดต่อศาลปกครองกลางให้เพิกถอนมติ ครม.และการลงนามพร้อมขอคุ้มครองชั่วคราว
       27  มิ.ย. 2551 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ต่อมติครม.ดังกล่าว รวมทั้งห้ามดำเนิการตามมติดังกล่าวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
        7   ก.ค. 2551   คณะกรรมการมรดกโลกมีมติให้ขึ้ทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
        8   ก.ค. 2551  ศาลรัฐธรรมนูธวินิจฉัยว่า คำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว ไม่ได้ปฎิบัติและเป็นไปตามรัฐธรรมนูธมาตรา 190 วรรคสอง

       หมายเหตุ :  ข้อมูลข้างต้นส่วนใหญ่ผมนำมาจากหนังสือ "แฉเอกสารลับที่สุด " ของ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ พิมพ์ครั้งแรก กรกฎาคม 2551 ,สนพ.มติชน


        เท่าที่อ่านๆเจอมาพอสรุปได้ดังนี้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีคำสั่งของศาลปกครองและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูธ ออกมาแล้วก็ตามทีและมีการเปลี่ยนรัฐบาลแต่ขบวนการสอดไส้เพื่อให้ผ่านรัฐสภายังคงมีการดำเนินการและพยายามจัดทำตลอดมา ลองอ่านข่าวที่ออกมาจาก จกท. ข้างล่างดูครับ มันมีบางอย่างที่ซ่อนไว้อยู่..และจะมีผลต่อการเสียดินแดนที่เป็นเรื่องอย่างถาวร

        โดย "นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.การต่างประเทศ " ให้สัมภาษณ์ที่น่าสนใจคือ..."  ทั้งสองประเทศจะให้ความสำคัญกับเรื่องการกำหนดพรมแดนในพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากที่นี่ ทั้งสองฝ่ายส่งทหารมาเผชิญหน้ากันตั้งแต่เดือนกรกรฎาคม งานนี้จะใช้แผนที่การสำรวจสมัยอาณานิคมฝรั่งเศสฉบับปี 2450 เป็นหลัก  นอกจากนี้ นายสมพงษ์ ยังโยนลูกต่อไปอีกว่า ".. ในเบื้องต้น รัฐสภาไทยจะต้องให้การอนุมัติในทั้งสองเรื่องที่จะช่วยลดความตึงเครียด และสะสางปัญหาการอ้างพื้นที่กรรมสิทธิ์ เสียก่อน.."

       ฝ่ายรัฐมนตรีกัมพูชาบอกว่า นี่เป็นย่างก้าวที่เดินไปข้างหน้าที่ชัดเจนและรวดเร็ว การกำหนดพรมแดนที่พระวิหารจะเริ่มในกลางเดือนธันวาคม และอีกประโยคหนึ่ง " ทั้งสองฝ่ายบอกด้วยว่าในเดือนมกราคมปีหน้า จะมีการมาหารือกันอีกครั้ง.. "   

      อย่าลืมนะครับว่า...ต้องออกตัวก่อนว่า ถ้าจำไม่ผิด มติของคณะกรรมการมรดกโลกที่กำหนดให้กัมพูชาต้องส่งเอกสารทั้งหมดสำหรับขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้เรียบร้อยแล้วเสร็จ ในเดือน มกราคม 2552  แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวพันมีผลกระทบกันขนาดไหนกับสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินไปแล้ว นั่นคือ  Joint communique  ดังนั่นจึงมีคนพยายามที่จะยัดไส้ในกรอบการเจรจาเพื่อให้ผ่านรัฐสภาให้จนได้สำเร็จ นั่นหมายถึงสิ่งที่รัฐบาลไทยคัดค้านมาตลอดในเรื่องแผ่นที่ตั้งแต่เสียปราสาทพระวิหารจะสิ้นสุดลงทันที... ยังไงเสียผมหวังว่ารัฐบาลนี้คงหมดสภาพเสียก่อนก่อนที่จะได้ทีโอกาสทำอะไร?ต่อไป ..ยังเหลือตอนสุดท้าย ครับ..ขยันพิมพ์เมื่อไหร่จะมาต่อให้จบให้ได้ครับ..



                                   


   


       


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ พฤศจิกายน 29, 2008, 12:41:19 AM
....เรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อนครับ.......


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2008, 01:28:46 AM
ถ้าเป็นจริง...

ไอ้พวกนี้มันขายชาติชัดๆครับ...


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤศจิกายน 29, 2008, 05:50:06 AM
เขาทำธุรกิจกันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกัน เห็นไปตี golf กันไงหลังจากนั้นชายแดนมีเรื่องเลย


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ พฤศจิกายน 30, 2008, 01:43:08 PM
....เรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อนครับ.......

    ถ้าต้องการเอกสารอ้างอิง บอกมานะครับ....  ;)  จะพยายามหามาให้  เพราะเรื่องส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วและมีการพูดคุยใน บอร์ดนี้ กันหลายครั้งแล้วครับ ผมเพียงแค่สรุปอีกครั้ง
    แต่ถ้าผิดตรงไหน หรือไม่ถูกต้อง หรือว่ามีอะไร?เพิ่มเติม ..จะขอบคุณมากครับ
   
     มีเวลาว่างผมจะมาต่อให้ครับ...ว่า แผนที่การสำรวจสมัยอาณานิคมฝรั่งเศสฉบับปี 2450 ...นั่นมันขายชาติหรือสนับสนุนการขายชาติตรงไหน? ของคนที่เห็นด้วยกับแผนที่ฉบับนี้ครับ


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Army - รักในหลวงครับ ที่ ธันวาคม 01, 2008, 09:04:52 AM
ขอบคุณคุณ SA-KE มากครับ ผมอ่านข่าวแล้วก็รู้สึกกังวลมาก เพราะเท่าที่ติดตามดูเหมือนมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ใช้แผนที่ฉบับของฝรั่งเศสให้ได้ คงจำกันได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ราวๆปลายเดือนตุลาคมหรือต้นพฤศจิกายน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ก็ได้สอดไส้แผนที่ฉบับนี้ให้สภาอนุมัติแต่โดนฝ่ายค้านทักท้วง เลยถอนข้อเสนอออกไป แต่ข่าวก็ดูเงียบๆไปราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย เลยอยากถามผู้ที่ทราบความเคลื่อนไหวว่าเป็นยังไงบ้างน่ะครับ ยังรอคุณ SA-KE มาสรุปตอนสุดท้ายนะครับ ขอบคุณครับ  :D


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 01, 2008, 09:37:11 AM
ขออนุญาต ยกครับ


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ ธันวาคม 01, 2008, 09:51:14 AM
ขอบคุณคุณ SA-KE มากครับ ผมอ่านข่าวแล้วก็รู้สึกกังวลมาก เพราะเท่าที่ติดตามดูเหมือนมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ใช้แผนที่ฉบับของฝรั่งเศสให้ได้ คงจำกันได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ราวๆปลายเดือนตุลาคมหรือต้นพฤศจิกายน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ก็ได้สอดไส้แผนที่ฉบับนี้ให้สภาอนุมัติแต่โดนฝ่ายค้านทักท้วง เลยถอนข้อเสนอออกไป แต่ข่าวก็ดูเงียบๆไปราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย เลยอยากถามผู้ที่ทราบความเคลื่อนไหวว่าเป็นยังไงบ้างน่ะครับ ยังรอคุณ SA-KE มาสรุปตอนสุดท้ายนะครับ ขอบคุณครับ  :D

   สวัสดีครับ " คุณ Army "   ดีใจที่ "คุณ Army " หยิบประเด็นนี้ขึ้นมา ตอนนั่นผมอ่านผ่านๆ เพราะใจมัวไปจดจ่อเรื่องอื่นอยู่ เพิ่งเอานิตยสารที่ซื้อเก็บไว้มาอ่าน เพิ่งนึกออก เลยต้องย้อนกลับมาใหม่  ผมนึกว่าจะไม่แวะเข้ามาทักทายกันเสียแล้ว... :D :D   พอดีเมื่อคืนนั่งพิมพ์เล่นๆ ไว้ 2 ตอนและยังเหลืออีกตอนเดียว คงเกือบหมดแล้วครับ จะพยายามลงให้หมดภายใน 2 วันนี้ ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดหรือเพิ่มเติม รบกวนด้วยครับ

  ต้องขอบคุณทุกท่านทีเข้ามาอ่านและช่วยปรับแต่ง เพิ่มเติมครับ.... ::014::

   


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: 7 x 7 # รักในหลวง # ที่ ธันวาคม 01, 2008, 10:07:27 AM
ขอบคุณท่าน SA-KE มากครับที่นำความช่วยนำความรู้มาเผยแพร่ครับ  +1   ::002:: ::002:: ::002::

อ้อ...และท่าน Army ด้วยครับ   ::014::


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ ธันวาคม 01, 2008, 10:07:52 AM
    “..ก่อนอื่นขอแก้ไข จากกระทู้ก่อนหน้านี้ว่า  มติของคณะกรรมการมรดกโลก ที่ให้ กัมพูชาจะต้องเสนอรายงานนั่น ขอเปลี่ยนจาก “มกราคม 2552 “ เป็น “ กุมภาพันธ์ 2552 “ แทน ...”

        
        ต่อครับตอนที่ 3....


         ในกรณีการทำ บันทึกความเข้าใจ ( TOU ) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2543 สมัยที่  "นายชวน หลีกภัย "  ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์  เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี " ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร "  ตำแหน่งในขณะนั่นเป็น  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ    ถ้าใครจำได้ ในช่วงกรกฎาคม 2551  หลังจากที่ "นายนพดล ปัทมะ"   เจียนอยู่เจียนไป   มีข้อมูลจงใจปล่อยออกมาทางอินเตอร์เนต หลายเวปไซด์  กล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตถ์ ได้ทำ บันทึกความเข้าใจ  ฯ ดังกล่าว ว่ามีการยอมรับและ ยกแผ่นดินให้กับกัมพูชาโดยมีข้อความเพิ่มเติมถึงการยอมรับ  “  แผนทีที่เกิดจากการปักปันเขตแดนของฝรั่งเศส ปี  1904 “   แต่ที่สุดแล้วเรื่องนี้ก็เงียบไปในที่สุด                        

         หลังจากมีการทำ  TOR และเริ่มมีการสำรวจ.ในปี พ.ศ. 2549 แล้วนั่น  จนกระทั่งปัจจุบัน  ในส่วนความคืบหน้าของการปักปันตามเอกสารดังกล่าวนั่น  ตอนนี้ผมยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ว่ามีความคืบหน้าเช่นไร?   จนกระทั่งที่ผ่านมาไทยเองยังคงมีปัญหาชายแดนกับกัมพูชามาตลอด  จนกระทั่งกัมพูชายื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกและมีเรื่อง มีราว หลายเรื่องตามที่ทราบกันมาในบ้านเรา

        ส่วนกรณีที่ “นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.การต่างประเทศ “  ได้ให้สัมภาษณ์และอ้างว่าต้องนำกรอบการเจรจาดังกล่าวไปใช้ ในการเจรจรกับฝ่ายกัมพูชา ในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JCB ) ไทย-กัมพูชา ที่จะเกิดขึ้น  และอ้างถึงแผนที่ดังกล่าวนั่น   ซึ่งในเนื้อหามีความหมายเดียวกันคือ ให้ไทยยอมรับในแผนที่ของกัมพูชาดังกล่าว...คือ

         “  ..... แผนที่ที่จัดทำขึ้นตามผลงานการปักปันเขตแดนของคณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีน ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาฉบับปี ค.ศ.1904 และสนธิสัญญาฉบับปี ค.ศ.1907 กับเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับ การบังคับใช้อนุสัญญาฉบับปี ค.ศ.1904 และสนธิสัญญาฉบับปี ค.ศ.1907 ระหว่างสยามกับฝรั่งเศส..”  

        ประเด็นมันอยู่ที่ว่า แผนที่ที่ “ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ “  กล่าวถึงนั่น คือแผนที่ฉบับไหน ? ซึ่งหลายท่านเข้าใจว่าเป็นแผนที่ฉบับเดียวกับที่กัมพูชากล่าวอ้างตลอดมา ตั้งแต่กัมพูชาใช้เป็นข้ออ้างสู้กับไทยในดคีปราสาทพระวิหาร เมื่อขึ้นสู่ศาลโลก เมื่อปี พ.ศ. 2505 และเป็นแผนที่ฉบับเดียวกัน ที่ใช้ในกรณีขอยื่นเรื่อง ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร  เพื่อเป็นมรดกโลกต่อคณะกรรมการมรดกโลก และมีมติให้ขึ้นทะเบียนได้ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2551  และเป็นฉบับเดียวกัน ที่ศาลปกครองกลางมีการกล่าวอ้างถึง ในคำสั่งกำหนดมาตรการหรือ วิธีการคุ้มครองชั่วคราวฯ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551  ซึ่งยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ 4.6 ตร.กม.  และบางทีอาจจะเกี่ยวพันย้อน รวมไปถึงพื้นที่ ทางทะเลในอ่าวไทย ซึ่งกำลังมีการกล่าวถึงแหล่งก๊าซและน้ำมันจำนวนมาก   ........ ลิงค์ข้างล่างเป็นเรื่องที่เราเคยคุยกันในนี้ครับ

              
                                                   http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=58420.1500


  
                                             กระทู้ต่อไปผมจะยกผลคำตัดสินของศาลโลกเรื่องแผนที่ฉบับดังกล่าวมาให้พิจารณา กันครับ    .......


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: fflluukk ที่ ธันวาคม 01, 2008, 10:08:01 AM
ใจเย็นครับแต่ละท่าน ที่ผมรู้มามันมีแผนที่ที่เราทำกับฝรั่งเศสในสัญญาปี1903  กับแผนที่ที่ฝรั่งเศสเขียนเองฝ่ายเดียวในปี1907

ซึ่งเห็นว่าตอนศาลโลกตัดสินเราก็เกือบชนะเพราะแผนที่เราทำก่อนที่เค้าเขียนขึ้น  แต่ทนายเค้าเก่ง ยกข้อกฏหมายปิดปาก(เรียกแบบนี้รึเปล่า)เพราะเราไม่เคยคัดค้านแผนที่ใหม่ ทำให้เราแพ้คดี แต่ศาลโลกไม่กล้ารับรองแผนที่ของปี 1907  เพราะหากรับรองจะทำให้แผนที่ 1907 ถูกต้องกว่าของไทยเราที่ออกก่อน และเขมรคงจะฟ้องศาลโลกเอาพื้นที่ในแผนที่ไม่ต้องรอปักปันกับไทยใหม่หรอกคับ

ผมว่าที่ข่าวเขียนว่า"ใช้แผนที่อายุ 1 ศตวรรษ"  อาจจะเป็นแผนที่ 1903 ก็ได้ต้องหารายละเอียดอีกที



หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: fflluukk ที่ ธันวาคม 01, 2008, 10:11:30 AM
สงสัยเราต้องเสียอะไรไปหลายอย่างละครับหากใช้ปี 1907


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ ธันวาคม 01, 2008, 11:42:57 AM
           
            ขออนุญาตต่อครับ ตอนที่ 4 ....


            ถ้าท่านใดเคยอ่านคำพิพากษากรณีข้อพิพาทไทย - กัมพูชา ของศาลโลกกรณีปราสาทเขาพระวิหารคงจะจำได้ว่า  ในกรณีข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อปี  พ.ศ. 2505  นั่นกัมพูชาได้ยื่นเรื่องต่อศาลโลกให้พิจารณาและชี้ขาด กรณีเขาปราสาทพระวิหาร จำนวน 5 กรณี ( ย่อๆ )ดังนี้คือ

            1. พิพากษาและชี้ขาดว่าแผนที่ดังกล่าวได้ถูกจัดทำและพิมพ์เผยแพร่ในนามของคระกรรมการปักปันเขตแดนผสมที่ตั้งขึ้นโดยสนธิสัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1904 ( พ.ศ. 2547 ) 
            2. พิพากษาและชี้ขาดเส็นเขตแดนระหว่างกัมพูชาและไทยในเขตพิพาท โดยอ้างแผนที่ฉบับดังกล่าว
            3. พิพากษาและชี้ขาด ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา
            4. พิพากษาและชี้ขาดไทยต้องถอนทหารที่ส่งไปประจำออกจากปราสาทพระวิหาร
            5. พิพากษาและชี้ขาดว่าสิ่งปฎิมากรรม ฯ  ที่ถูกโยกย้าย นับแต่ ค.ศ. 1954 นั่นให้รัฐบาลไทยต้องส่งคืนทั้งหมด

            ผลจากการต่อสู้ในศาลโลกระหว่างไทยและกัมพูชา เมื่อ ปี พ.ศ. 2505  ครั้งนั่นศาลมีคำพิพากษาและชี้ขาดเพียงแค่ ข้อ  3 , 4 และข้อ 5  เท่านั่น สำหรับข้อ 1 และ ข้อ 2 ศาลโลกไม่ได้พิพากษารับรองหรือชี้ขาดแผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าถูกต้องหรือมีสถานะทางกฎหมายแต่เพียงอย่างใด  รวมทั้งไม่ได้พิพากษาชี้ขาดให้ใช้เส็นเขตแดนที่ปรากฎบนแผ่นที่ที่กัมพูชากล่าวอ้างเช่นกัน

            นั่นหมายถึง “  ..... แผนที่ที่จัดทำขึ้นตามผลงานการปักปันเขตแดนของคณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีน ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาฉบับปี ค.ศ.1904 และสนธิสัญญาฉบับปี ค.ศ.1907 กับเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับ การบังคับใช้อนุสัญญาฉบับปี ค.ศ.1904 และสนธิสัญญาฉบับปี ค.ศ.1907 ระหว่างสยามกับฝรั่งเศส..”   ยังไม่มีการรับรองความถูกต้องอย่างเป็นทางการ นอกจากการกล่าวอ้างของ กัมพูชาเพียงฝ่ายเดียว

           ที่นี้ทำไม? ถึงมั่นใจว่าสิ่งที่กัมพูชากล่าวอ้างถึงแผนที่ดังกล่าวไม่เป็นความจริง    เพราะนอกจากศาลโลกไม่รับรองแล้ว แผนที่ดังกล่าวยังไม่เคยมีคณะกรรมการปักปันร่วมฯจากฝ่ายไทย ที่เข้าร่วมการทำแผนที่ดังกล่าวและประเทศไทยเราปฎิเสธแผนที่ฉบับนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่คำให้การแก้ฟ้องในศาลโลก  ปี พ.ศ. 2505 ตามที่ กัมพูชาอ้างถึง   

           สิ่งที่จะสนับสนุนกรณีข้างต้นได้ดี คงต้องย้อนกลับไปพิจารณา คำตัดสินของศาลโลก เมื่อปี พ.ศ. 2505 ที่ไทยใช้โต้แย้งกัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าในความเป็นจริงจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการปักปันดังกล่างตามสนธิสัญญา ฯ ถึง 2 ครั้งก็ตามที  แต่ว่าฝ่ายไทยเรามิได้มีส่วนร่วมทั้งสองครั้งเช่นกัน โดยให้ฝรั่งเศสเป็นผู้จัดทำเพียงฝ่ายเดียวและหลังจากนั่นก็มิได้โต้แย้งแผนที่ดังกล่าวแต่อย่างไร ก่อนที่จะมีกรณีพิพาก  แต่คำโต้แย้งในกระบวนการพิพากษาก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง ซึ่งประเทศไทยยังคงแย้งและยังคงยืนยัน ตลอดมาว่า

           1. แผนที่นี้มิใช่ผลงานของคณะกรรมการผสมและย่อมจะไม่มีลักษณะผูกพันใดๆ
           2. เพราะว่าในตอนที่เกี่ยวกับพระวิหาร แผนที่นี้มีข้อผิดพลาดอย่างสำคัญซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจใน การดัดแปลงแก้ไขโดยใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการ ความหมายคือ เส็นเขตแดนตามที่แสดงไว้บนแผนที่ไม่ใช่เส็นสันปันน้ำอันแท้จริงที่ปรากฎในบริเวณนั่นตามสนธิสัญญา ฯ ปี ค.ศ.1904  


          หมายเหตุ :  ผมว่าปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่จากอดีตจนปัจจุบัน มีเรื่องหนึ่งที่เราแก้กันไม่ตก คือเรื่อง ระบบเอกสารข้อมูลและความต่อเนี่อง 
   
         


                                                                                                                                                                .......คงต้องต่ออีกตอนสุดท้ายครับ


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 01, 2008, 12:34:55 PM
ยังมีคนเห็นดีเห็นงามกับพวกขายชาติพวกนี้อีกเยอะครับ  ::004::


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: INFANTRY - LONG LIVE THE KING ที่ ธันวาคม 01, 2008, 04:36:52 PM
ขออนุญาตแลกเปลี่ยนข้อมูลเท่าที่ทราบครับ...

ในการประชุม ระหว่างกต.ไทย กับ กต.กัมพูชา เมื่อ ๑๐-๑๒ พย.ที่ผ่านมา ยังไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการครับ
เนื่องจากติดขัดใน รธน.มาตรา๑๙๐ แต่ส่วนใหญ่แล้วมีความคิดเห็นตรงกัน
โดยเฉพาะ ปัญหาเส้นเขตแดนทางบก โดยให้ย้ายพื้นที่การสำรวจมาที่บริเวณเขาพระวิหาร
และยึดถืออนุสัญญาไทย-ฝรั่งเศส ปี๑๙๐๔ และสนธิสัญญาปี๑๙๐๗
ในการสำรวจเส้นเขตแดนทางบก
ไม่ได้มีการพูดถึงแผนที่ประกอบ (ถ้าไม่มีการหมกเม็ด..)

โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า คงไม่มีนักการเมืองคนไหนกล้าที่จะทำอะไรโดยพลการอีกแล้วครับ
เพราะคนไทยทั้งประเทศ จับตาดูอยู่ เฉพาะประเด็นนี้นะครับ

สำหรับประเด็นขัดแย้งในการประชุม...
กัมพูชาต้องการให้เรียก ปราสาทพระวิหาร ว่า เปรี๊ยะวิเฮีย...

ดูมัน แสบจริงๆ...

กรณีการเสนอข่าว ยอมรับแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำ...
ในบ้านเรา ผมไม่ทราบที่มา ที่ไปครับ

แต่ในเขมร ออกข่าวอย่างนี้มานานแล้วครับ เพราะเขาได้ประโยชน์
จากการติดตาม(แปล)การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนกัมพูชา
ยังมีอีกหลายข่าว ที่เป็นข่าวในเชิงลบของฝ่ายไทย ขออนุญาตไม่กล่าวถึงครับ


ผิด ถูก อย่างไรลองพิจารณาดูครับ...

หมายเหตุ....
ผมไม่ได้อยู่ กต. แต่มีความจำเป็นต้องติดตาม แล้วก็ไม่ได้แปลข่าวเองครับ(แต่ได้อ่าน)


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ ธันวาคม 02, 2008, 12:22:54 AM
    เจอคนวงในคนจริงเสียงจริงแล้วครับ..  ::002::  " คุณ INFANTRY " ถ้าพอมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือพอบอกกล่าวเล่าสู้กันฟังได้ต้องรบกวนแล้วครับ  ส่วนใหญ่ผมอาศัยหาข้อมูลจากสือและเอกสารจากภายนอกเพียงอย่างเดียว  ที่ยังสนใจคือว่า ถ้ามีการเปลี่ยนมาสำรวจที่เขาพระวิหารก่อน โดยยังคงยึดถือ TOU เดิม  ผมว่าตรงนี้น่าสนใจครับ " ระหว่างสันปันน้ำ กับแผนที่ที่กัมพูชายึดถือ"   น่าติดตามว่าผลการประชุมในอนาคตจะออกมามีข้อสรุปอย่างไร?  ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูธวินิจฉัย จะเจาะจงเรื่องเฉพาะคำแถลงการ์ณเป็นหนังสือสัญญาหรือไม่ตาม มาตรา 190 วรรคสอง เท่านั่น   ส่วนศาลปกครองกลางมีมาตรการคุ้มครองการใช้ประโยชน์จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2551 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ครม. เห็นชอบร่างคำแถลงการ์ณร่วมไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกรวมทั้งแผนผังที่กัมพูชาส่งให้ไทย ผมเลยขอเข้าใจเอาเองนะครับว่า ถ้าเกิดเฉพาะแผนที่อย่างเดียว  ( ขอตีความแบบศรีธนนชัย นะครับ ) สอดไส้เพื่อผ่านรัฐสภาได้  ยังน่าคิดอยู่เลยว่า ผลจะออกมาและกระทบต่อกันอย่างไร? ( แต่จากข้อมูลที่ "คุณ Army "นำมา ถูกตีตกไปโดยฝ่ายค้านแล้ว )

      ขอถามเพิ่มเติมหน่อยครับ ความหมายระหว่าง " ปราสาทพระวิหาร กับ เปรี๊ยะวิเฮีย " จุดประสงค์ที่เขาต้องการคืออะไร?หรือครับ เพราะจริงๆแล้วเท่าทีเจอข้อมูลในเอกสารต่างๆเขาใช้คำว่า "เปรี๊ยะวิเฮีย " และผมเข้าใจเอาเองว่า ปราสาทพระวิหารเป็นคำแปลที่เรียกใช้ในบ้านเราเท่านั่นเองครับ  ..ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Army - รักในหลวงครับ ที่ ธันวาคม 02, 2008, 01:08:35 PM
ขอบคุณคุณ SA-KE คุณ INFANTRY และเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านที่ช่วยกันนำเสนอข้อมูลครับ หวังว่ารัฐบาลไทยคงไม่ยอมเรียกปราสาทพระวิหารว่าเปรี๊ยะวิเฮียตามเขมรนะครับ กลัวว่าจะถูกนำไปอ้างในระดับนานาชาติในภายหลังว่าเรายอมรับว่าเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: INFANTRY - LONG LIVE THE KING ที่ ธันวาคม 02, 2008, 04:51:53 PM
ผมไม่ถึงขั้น คนวงในหรอกครับ...

แต่มันเกี่ยวข้องกับงานของผม เลยต้องติดตามครับ
ในบางเรื่อง บางประเด็น พี่ๆ เพื่อนๆ ในนี้ยังมีข้อมูลมากกว่าผมอีก

ถือว่า แลกเปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ

ส่วนเรื่องชื่อ ตามที่คุณArmy กล่าวครับ....


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 02, 2008, 06:01:03 PM
ทักษิณหมดอำนาจเมื่อไหร่  ได้กลับคืนมาแน่ครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ไทยยอมใช้แผนที่ฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดนกับกัมพูชาแล้วจริงหรือครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ ธันวาคม 02, 2008, 11:48:38 PM
 สุดท้ายแล้วครับ ..... การเมืองวันนี้คงจะดึงเวลาได้อีกโขเลย ... :D :D


       สำหรับกรณีคนต่างชาติ สามารถเข้ามาในประเทศไทยได้ถึง อุบลราชธานี  ,ศรีสะเกษ และสุรินทร์ นั่น  หลายท่านคงจะจำเรื่องที่มีข่าวว่า การที่กรมอุทยานฯ จะนำพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฯ รวม 7 แห่ง จำนวนพื้นที่ 1.5 ล้านไร่ เข้าไปเสริมเพื่อให้กลายเป็นพื้นที่พัฒนาร่วมมีแผนบริหารจัดการร่วม ซึ่งมันจะกินพื้นที่ไปถึงจังหวัดดังกล่าว  ถ้าเป็นพื้นที่ร่วม ลองคิดดูอะไร? จะตามมา เพราะคำว่าร่วม คงไม่ใช่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียวแน่นอน  แต่สำหรับกรณีนี้คงจะต้องรอให้กรณีแรกเกิดก่อน  ถ้ากรณีแรกเกิดไม่ได้ กรณีที่สองก็ไม่น่าจะเกิดได้เช่นกัน

      เรื่องปราสาทพระวิหาร ยังไม่มีบทสรุปที่แน่นอนในเรื่องของแผนที่และเส็นเขตแดน  การมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวจากศาลปกครองกลางนั่น  บุคคลที่เกี่ยวข้องคงต้องไปยืนยันในกระบวนการยุติธรรมกันเองก่อนที่จะดำเนินการอะไร? ต่อไป อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนักว่ามีใคร? บางกลุ่มพยายามยกแผ่นดินให้คนอื่น  ตราบใดเท่าที่คดีนี้ยังไม่สิ้นสุดในลักษณะของสถานะการ์ณที่ยังคลุมเคลือไม่ชัดเจน  ตราบใดที่เราไม่ได้บุกไปฆ่าประชาชนประเทศอื่นและยึดครองแผ่นดินเขา ยังไงเสียผมคงต้องขอเลือกผลประโยชน์ข้างฝั่งเราและเลือกที่จะเชื่อ “นักวิชาการ “ ที่กล้าแสดงออกชัดเจนเอาไว้ก่อนดีกว่า สำหรับในสถานะการ์ณอย่างนี้

       สุดท้ายนี้หากมีสิ่งดีๆ คงต้องยกเครดิตความดีทั้งหมด ให้กับ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญสถาบันไทยคดีศีกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  “ ม.ล. วัลย์วิภา  จรูญโรจน์ “   ท่านให้สัมภาษณ์ใน  นิตยสาร คนมีสี  รายปักษ์วิจารณ์  ปี่ที่4   ฉบับที่ 83  ปักษ์หลัง พฤศจิกายน 2551 หน้า 41- 43   ผมอ่านคำสัมภาษณ์ของท่านแล้วนำมาขยายต่อเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะมีข้อผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนจากสิ่งที่ท่านต้องการสื่อบ้าง ก็อาจเป็นได้ ซึ่งข้อผิดพลาดดังกล่าวคงไม่เกี่ยวข้องกับท่าน  หากสมาชิกท่านใดสนใจลองหาเอกสารทั้งสองฉบับข้างต้นที่กล่าวถึง อ่านเพิ่มเติมดูนะครับ   ( ถ้าเรื่องเกี่ยวกับ “ปราสาทพระวิหาร  “  4  เล่มที่มีขายในซีเอ็ด ฯ  ผมซื้อ 2 เล่ม เพื่อนำมาเปรียบเทียบเนื้อหา ยืนอ่านฟรี 1 เล่ม ไม่ได้อ่าน 1 เล่ม ผมแนะนำสำหรับท่านที่สนใจ ลองดุ “อ.บวรศักดิ์  อุวรรณโณ” ครับ นอกนั่นก็เป็นบทความต่างๆตามนิตยสารทั่วไป โดยเฉพาะบทความของ “ คุณโรม  บุนนาค “  )   

      ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ...  ::014::