เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

วิธีการใช้ไม่มีปัญหาครับ  ;D

แต่...

ผมสะดุดตรงที่เจอคำถามว่า
หากใน Xbar chart และ S chart มีจุดที่นอกเหนือการควบคุมไม่ตรงกัน เช่น

สมมติว่า ในXbar chart ออกนอกจุดควบคุมที่ชิ้นงานตัวอย่างที่ 5 แต่ S chart ณ.ตัวอย่างนี้ยังอยู่ในการควบคุม เรายังควรอนุโลมได้ให้ชิ้นงานตัวอย่างนี้อยู่ในการควบคุมได้ไหมครับ

และถ้า ใน S chart ออกนอกจุดควบคุมที่ชิ้นงานตัวอย่างที่ 7 แต่ ใน Xbar chart ชิ้นงานตัวอย่างนี้ยังอยู่ในการควบคุม เรายังควรอนุโลมให้ชิ้นงานนี้อยู่ในการควบคุมได้หรือไม่ ? (ตามความเข้าใจ ผมคิดว่าไม่ควรอนุโลมเพราะ เบี่ยงเบนมาก)

หวังว่าคงจะไม่งงนะครับ  :'(

เรื่องอะไรครับ งง??   ;D

 ;D

เป็นเรื่องคอนโทรลชาร์ตในวิชา Quality Control ครับ แหะๆ

เดี๋ยวผมไปเปิดตำราก่อนจำไม่ได้แล้ว    ว่าแต่ท่าน NaiDiputs เรียนสาขาอะไรครับ

ของคอมพิวเตอร์ใช่รึเปล่าครับ  :D

วิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการครับ  ::014::


แหะๆ ผมก็ไม่ทราบว่าจะเหมือนกันหรือเปล่านะครับ ที่ผมเรียนเป็นการใช้ QC ในอุตสาหกรรมครับ  ::014::  ;D

อายจัง ตอบผิด ว่าทำไมแปลก ๆ ไม่เคยได้ยิน  ::005::

อ่อQCนี่เอง.....เรื่องที่จีนแดงไม่รู้จัก.......ชื้อของจีนตาดีได้ตาร้ายเสีย

คณะเดียวกันสาขาเดียวกันเลย   ฮา.........

ผมก็นึกว่าท่านจะหมายถึงการวิเคราะห์ QC โดยใช้คอมพิวเตอร์นะครับ  :)   ::014::


แสดงว่าเรียน QC ที่นี่ จะรุ่ง ถ้าไปทำงานที่จีนแดงใช่ไหมครับ    ;D  ::014::


 :) เจอเพื่อนร่วมทางในสาขาวิชาชีพเดียวกัน
ขอคารวะรุ่นพี่นะครับ  ::014::
แต่คงจะยกจอกดื่มคารวะไม่ได้เพราะผมไม่ดื่มเหล้า  ::005::
ช่วยแนะนำด้วยนะครับ    ::014::

วิชา QC และ Engineering Statistic คืนอาจารย์หมดทันทีที่จบคอร์ส  เกือบ 20 ปีแล้ว...

แต่ที่ได้ผ่านหูผ่านตาบ้างในการทำงาน  การจะตัดสินใจ reject หรือยอมรับ จะต้องดูที่เกณฑ์การยอมรับของแต่ละกระบวนงานหรือแต่ละชิ้นงาน ซึ่งมักจะมีมาตรฐานการผ่าน/ไม่ผ่านเป็นของตัวเอง
เช่น บางงานจะ reject หรือ recheckใหม่ ทันทีที่มี ตย.ใด ตย. ออกนอก CL
บางงานอาจจะ reject หรือ recheckใหม่ เมื่อมีตย.2ตย.ขึ้นไป ใน 5 ตย.ที่ต่อเนื่องกัน ออกนอก CL
ขึ้นอยู่ที่ต้องการยอมรับหรือ reject ที่ระดับความเชื่อมั่นกี่เปอร์เซ็น (Confidence Interval)  ซึ่งตรงนี้มีความสัมพันธ์กับการ set ค่า CL ด้วย

โดยส่วนตัว ผมจะไม่ปล่อยผ่านทั้ง 2 กรณี  เพราะทั้ง XBar และ S เป็นตัวเลขจากการคำนวณสะสม ไม่ใช่ค่า individual


แต่การใช้งานจริง กับทฤษฏีในตำราอาจต่างกัน  แนะนำให้กลับไปดูภาคทฤษฎีที่อาจารย์ใช้ก่อนดีกว่าครับ เพราะท่านจะให้คะแนนตามนั้น

...เว็บนี้ดีจริงๆ ถามอะไรก็มีคำตอบ  ::002::

ขอบคุณ คุณ Bird มากนะครับ  ::014::
ตอนนี้ผมกำลังเข้าใจว่า อันดับแรกจะต้องดู S chart ก่อน ถ้าออกนอกลิมิตก็ reject ทันทีโดยที่ไม่ต้องไปดู X bar Chart เพราะการผลิตมีความเบี่ยงเบนจนออกนอกลิมิตแล้ว...

จากนั้นก็ทำการเช็ค X bar Chart อีกทีว่าออกนอกลิมิตหรือไม่ ถ้าออกก็ reject   ;)
โดยสมมติว่าการผลิตนี้ไม่เกิด pattern ของจุดที่พล็อตบน chart ทั้ง 9 กรณี (อ้างอิงจาก : การควบคุมคุณภาพ Quality Control - ผศ.ศุภชัย นาทะพันธ์ )  ;D


เว็บนี้อบอุ่นมากครับ  ::014::

อย่างที่บอกครับ ... QC และ Stat เป็นวิชาที่เกลียดที่สุดในสมัยที่เรียน  เพราะมีตัวเลขและสูตรจมหู คำนวณยุ่งยาก เพราะสมัยนั้นการใช้งาน Statistic Application บน Computer ยังไม่แพร่หลาย เครื่องยอดฮิตในคณะในสมัยนั้นคือ 8088 หรืออย่างดีก็ 286 ...
เมื่อเสียเวลาได้ผลการคำนวณ(ด้วยมือ)มาแล้ว ยังต้องตีความอีกต่างหาก   เรียนไปก็ไม่รู้ว่าจะได้ใช้อะไรนักหนา มองภาพไม่ออก  ถวายคืนพระอาจารย์ เอาหัวไปจำอย่างอื่นดีกว่า...

ทำงาน 10 ปีแรก ไม่เคยได้เฉียดกรายไปใกล้งาน QC หรือ QA เลย   เพราะไม่ชอบไม่มันส์  ทำงานเกี่ยวกับการปริหารผลิตโดยตรงยังสนุกกว่า

จนกระแส Six Sigma มาแรงเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว  เลยจำเป็นต้องศึกษาวิชาแขนงนี้อีกครั้งตามนโยบายและหลักสูตรที่บริษัทจัดไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ก้าวหน้า     แต่อย่างที่ว่าครับ...เป็นการเรียนรู้ให้เข้าใจเชิงบริหารโดยให้น้องๆเป็นผู้ปฏิบัติการ  ความละเอียดในทฤษฎีจะไม่เท่าการสมัยเรียน
สมัยนี้มี Computer Application ที่เกี่ยวกับงานแขนงนี้มากมาย ทำให้การคำนวณและวิเคราะห์ง่ายขึ้นมาก แค่รู้ว่า input ค่ายังไง  ใช้คำสั่ง Calculation tools ตัวไหน  ตีความผลการคำนวณได้  ก็เอาไปวางแผนแก้ปัญหาหรือวางแผนปรับปรุงงานต่อไปได้  โดยไม่ต้องรู้ detail ทางสถิติมากนัก

ลองดูตรงนี้เพิ่มเติมครับ ...
http://www.qualityamerica.com/knowledgecente/knowctrInterpreting_an_Xbar_S_Chart.htm

ถ้าเป็นนี้ ผมตีความว่า ให้ดึง(reject)ตย.ที่7 ออกไปก่อน (แล้วหาสาเหตุที่ทำให้ S อยู่นอก CL)
จากนั้นก็ plot กราฟทั้งคู่ใหม่ โดยไม่มีตย.ที่7 ...  แล้วค่อยดูที่ XBar Chart อีกที ว่ามีตย.ไหนที่ออกนอก CL บ้าง เพื่อดึงออกมาตรวจสอบหาสาเหตุ

เรียนกันครบทุก chart มั้ยครับ เรียนมันเข้าไปเยอะๆเหมือนท่านว่าละครับ เรียนเรื่องสุ่มตัวอย่าง พอไปโรงงานก็เห็นมันจับตรวจห้ากันหมดไม่ว่าจะชิ้นส่วนอะไร ไม่รู้ว่าคนคุมงานเค้าไปบอกความเสี่ยงกันยังไง

มันก็ไม่ควรปล่อยไปทั้งสองแบบนั่นแหละครับ
เพราะมันจะเปลืองค่าน้ำมัน เคลมกันบานเลย

ขอบ่นเรื่อง อุตสาหกรรมยานยนต์กันหน่อยนะครับ เหมาช่วงกันบานเลย บ้างที่รับงานมาให้บ.ตัวเอง บริษัทต่างชาติเค้าระอาครับ จ้างไปจ้างมา งานไปอยู่โรงกลึงเก่าๆก็มี ยี่ห้อดังๆทั้งนั้น

ขอโทษที่บ่นมากไปหน่อยนะครับ

อยากให้ประเทศไทยเจริญๆครับ

อ้อ ฝากปัญหาการศึกษาด้านวิศวกรรม ตอนนี้เราอ่อนกันมากไปเรื่อยๆแล้วครับ เมื่อทบวงเข้ากับกระทรวงศึกษาโดนนักบริหาร ยัดวิชาต่างๆนาๆที่ดูแล้วไม่เข้าท่าแล้วตัดวิชาพื้นฐานออกไป เมื่อตอนประชุมคณบดีคณะวิศวกรรมทั่วประเทศปีที่แล้ว กระทรวงพูดต่อหน้าคณบดีทั้งหมดว่า เพราะว่ามีวิศวกรจบไปแล้วฆ่าคน มีสุขภาพจิตไม่ดี ต้องเพิ่มวิชาเกี่ยวกับสังคมเข้าไป   คิดได้ไง

         ตรงนี้ผมเห็นด้วยกับพี่ fflluukk ว่าทางกระทรวงพูดไม่ถูกจริงๆ  แต่การที่เพิ่มวิชาทางสังคมเข้ามาผมเห็นด้วยนะครับ  เพราะผู้ที่จบปริญญาทางวิศวกรรมจะเป็นผู้ที่ทำงานอยู่ตรงกลางระหว่างผู้บริหารกับลูกน้องที่อยู่ในระดับผู้ปฎิบัติงาน  นั่นคือนอกจากความรู้ความชำนาญที่ต้องใช้ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์และจิตวิทยาที่ดีด้วยจึงจะประสานประโยชน์ให้ทั้ง2ฝ่ายและได้ประสิทธิภาพสูงสุดให้แก่องค์กร

        อีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากให้เพิ่มเข้าไปในหลักสูตรวิศวะ  คือพื้นฐานช่างครับโดยเฉพาะผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย  น้อยคนนักที่จะมีพื้นฐานด้านช่าง  เพราะบางครั้งปัญหาบางอย่างในตำราก็ไม่มีวิธีแก้ หากต้องใช้ประสบการณ์    ::014:: ::014::

ขอบคุณครับ
คำตอบนี้แหละครับที่ผมต้องการ ...  ::014::

เพราะเวลาทำชาร์ต Xbar กับ S แล้วเกิดพบปัญหาที่เป็น assignable cause (ทำนองว่าเป็นปัญหาที่เกิดจากตัวบุคคลซะมากกว่า) เราจะสามารถตัดจุดที่พล็อตนั้นออกจากชาร์ตได้
ทีนี้ถ้าจุดที่มีปัญหานั้นออกนอกลิมิตในชาร์ตใดชาร์ตหนึ่ง แต่อีกชาร์ตไม่ออกนอกลิมิต
หากเราตัดจุดนั้นในชาร์ตที่ออกนอกลิมิตแล้ว เราจะต้องตัดจุดนั้นในอีกชาร์ตที่ไม่ออกนอกลิมิตไหมครับ ... ขอบคุณครับ

ก็ต้องคอยดูกันไปครับ ตอนนี้ที่คณะปีหน้า ตัดวิชา เทอร์โม แล้วกระทรวงบอกให้เรียนวิชา ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน อ้าวเรียนซ้ำเรียนซ้อนกันอีก
เรื่องแรกคือ เทอร์โมมันเป็นพื้นฐานด้านเครื่องจักร แล้วไหนจะตัวต่อ โซลิด ฟลูอิด อีกมันต้องเปลี่ยนรึเปล่ายังสงสัยกันอยู่ครับ เห็นอาจารย์บอกว่าเค้าจะเอาภาษาไทยเข้าอีก

เรื่องวิชาสังคม เขาก็มีให้เลือกไม่ใช่เหรอครับผมก็ว่ามันน่าจะพอแล้วนะครับ  จิตวิทยา1 ใครยังติดใจก็เรียน จิตวิทยา2

แล้ววิชาช่างพื้นฐานที่มหาลัยไม่มีตัวพื้นฐานให้สำหรับนักศึกษาคณะเหรอคับ แบบว่าทุกเมเจอร์เรียนเหมือนกัน และสำหรับ ie ก็มีวิชากระบวนการผลิตกับวิชา tool ที่จะเน้นๆหน่อย 

แล้วขอถามหน่อยครับว่าจะเลือกเรียนวิชาไปทางแนวไหนครับ ไปแนวการผลิตหรือสายบริหาร ครับ เรียน qc อยู่น่าจะอยู่ปีสองเทอมสอง  ตอนนี่ก็น่าจะเรียน or ด้วยใช่มั้ครับ

เทอร์โมที่คณะผมยังเรียนอยู่ครับ รวมทั้งไฟฟ้าเบื้องต้นด้วย ภาษาไทยไม่มีแฮะ  จิตวิทยา กับสังคม มีอยู่พอแล้วครับ  ส่วนวิชาช่างพื้นฐาน มาหาลัยผมเพิ่งจะมีปี้นี้ปีแรก  :~) :~)  QC  OR  เรียนแน่ๆอยู่แล้วครับ  ;D ;D

"...หากเราตัดจุดนั้นในชาร์ตที่ออกนอกลิมิตแล้ว เราจะต้องตัดจุดนั้นในอีกชาร์ตที่ไม่ออกนอกลิมิตไหมครับ ..."


ตอบจากประสบการณ์   ต้องตัดครับ ... ถ้าต้องการเอาข้อมูลชุดที่เหลือไปวิเคราะห์ต่อ  ชุดข้อมูลเหล่านั้นต้อง Stable

ตย.ที่ออกนอกลิมิตของชาร์ตใดชาร์ตหนึ่ง เมื่อเราพิจารณาว่าเป็น Outliner ... นั่นหมายความว่าตย.นั้นไม่เหมาะจะนำมาใช้อีกต่อไป

แต่เมื่อตัดตย.นั้นออก แล้วใช้ชุดตย.ที่เหลือวิเคราะห์ต่อ    อย่าลืมกลับมาหาสาเหตุของ Outliner นั้น  แล้วหาวิธีป้องกันควบคู่กันไป


เพื่อนสมาชิกคนใดมีประสบการณ์กับงานควบคุมคุณภาพโดยตรง  น่านะให้ข้อมูลได้ดีกว่าผมครับ...
ตอนนี้พัวพันกับงานเชิง Strategic Management  และธุรกิจส่วนตัวซะมากกว่า  เพราะเริ่มแก่แล้ว... 8)

ขอบคุณ คุณ Bird อีกครั้งครับ  ::014::  :) ที่นำประสบการณ์จากการทำงานจริงมาแชร์
+1 คะแนนให้นะครับ

..................

ที่ม.ของผมมีวิชาช่างพื้นฐานอยู่แล้วครับตอนผมเข้ามา
ตอนนี้กำลังสนุกกับ QC แต่งานเริ่มโถมเข้ามา ส่วน OR นี่มึนตึ๊บเลยครับ แต่วิชานี้ก็เป็นวิชาที่น่าสนใจเหมือนกัน  ::012::
ส่วนตัวผมแล้ววิชา IE ที่ผมเรียนมาแล้วผมถนัดและชอบที่สุดน่าจะเป็น Automation ล่ะมั๊งครับ
อีกวิชาที่ผมสนใจก็คือ Metallurgy  :<< ... รู้สึกภาควิชานี้จะเรียนอะไรที่จับฉ่ายพอสมควรเพื่อที่จะไปเป็นวิศวกรผู้บริหารและจัดการภายในโรงงาน

...เคยเรียนมาแต่ลืมหมดแล้วครับ  ::005::