เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผมขับรถผ่านด่านตรวจอาวุธ ทึ่บริเวณเส้นทางหลัก(ขอสงวนซื่อ) เป็นของทหาร เพราะมีรถทหารที่มีเสาวิทยุ จอดอยู่ข้างจุดตรวจ   อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งผมก็นำ ปืนลูกโม่  บรรจุกระสุน  อยู่ในกระเป๋าเดินทางใว้เบาะหลังทุกครั้ง...ล่าสุด ขณะขับรถผ่านด่านตรงจุดนั้นอีก รถคันอื่นผ่านตลอด แต่รถผม ทหารโบกให้หยุด  แล้วถามว่า  พี่เป็นเจ้าหน้าที่หรือเปล่า   ผมงงนิดหนึ่ง   ก็ตอบว่าเป็นข้าราชการ  ทหารคนนั้นก็บอกต่อว่า  พอดีวันนี้ใช้เครีองตรวจอาวุธ เลย....(เมือนจะบอกว่าเจออาวุธในรถผม)...ผมก็บอกไปก่อน  ว่า  อ้อ  ผมเป็นข้าราชการ วันนีไปทำธุระ...(ประกอบกับ หน้าตา การแต่งตัวของผม คงไม่ส่อลักษณะเหมือนโจร  มั้ง  อิอิ)  ทหาร ก็บอก  งั้น  เชิญ ครับ....  ผมก็เลยมีข้อสงสัยว่า เครืองตรวจอาวุธ สามารถ ตรวจโลหะ(รถก็โลหะ)  หรือ ดินระเบิด ครับ  แค่สงสัย.....

ไม่ทราบเหมือนกันครับ  รอฟังจากท่านที่รู้ละกันครับ  :D

เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ
http://www.applescientific.com/pro_eod_bomblocator.html

แถว ๆ บ้านมีทหารเดินถือกันเกือบทั้งวัน สามารถเปลี่ยนชิปเพื่อตรวจหาอย่างอื่นได้อีกหลายตัว  เช่นสารของยาเสพติด

มาฟังด้วยคน

เข้าใจว่ามันตรวจหาดินปืนครับ

รอฟังจากผู้รู้อีกคนครับ

เคยเจออยู่เหมือนกันครับตอนที่ทหารอเมริกามาฝึกที่อู่ตะเภา ผมไม่รู้ว่ามันคือเครื่องอะไรตั้งไว้สองฝั่งถนนทางเข้าออกค่ายที่มีทหารอเมริกันพักหรือฝึก.....

 เครื่องตรวจวัตถุระเบิด แบบ GT200 ข้อมูลจาก คม-ชัด-ลึก ครับ

 http://www.komchadluek.net/2008/05/07/x_mili_u001_198892.php?newsid=198892
 
 ส่วนข้อมูลกับรายละเอียดที่เหลือ ขอรอผู้รู้ด้วยคนครับ   ::014::

ผมก็โดนครับ ประมาณเดือนละครั้ง พอดีทำงานใกล้พื้นที่ 3 จังหวัด ต้องผ่านด่านตรวจทุกวัน
บางวันโดนโบกให้จอดค้น บางวันก็ไม่โดน แต่ไม่เคยนำปืนติดตัวไปด้วย
เคยสอบถามเจ้าหน้าที่ ท่านแจ้งว่าหากไปยิงปืนจากสนามแล้วมีคราบเขม่าติดมือเครื่องก็ตรวจจับได้
ไม่ทราบจริงหรือเปล่าครับ

รอฟังด้วยคนครับ

ขอรับความรู้ครับ

มี 2แบบ คือ เครื่องที่เป็นคล้ายเคื่องเอ็กซ์เรย์  ที่ติดอยู่ประจำที่แบบโมบาย  จะมีอยู่แถวด่านก่อนเข้านครสวรรค์  และแถวกำแพงเพชร    กับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด  ซึ่งถ้ามีอุปกรณ์ที่มีส่วนประกอบที่เป็นวัตถุระเบิดก้อจะรู้ทันที

กระทู้ดีครับ

ได้ความรู้ครับ.....

รอผู้รู้ ::002::

โอ้วเยี่ยมมากครับเครื่องนี้

GT200 มีความสามารถตรวจได้หลายอย่างครับ ทั้งยาเสพติด สารประกอบระเบิด กระสุนปืน ฯลฯ แล้วแต่ว่าผู้ใช้จะใส่การ์ดอะไรเข้าไป สมมุติว่าจะตรวจกระสุนปืนผู้ใช้ก็ใส่การ์ดสำหรับหากระสุนปืน แล้วทำการเดินเป็นเส้นตรงพอเสาอากาศชี้ไปทางไหนก็สันนิฐานได้ว่าน่าจะมีกระสุนปืนอยู่ มีความแม่นยำถึง 70-80% เลยทีเดียวครับ โจรผู้ร้ายรอดยากเลยงานนี้ ที่ซานติก้าก็ใช้เจ้าตัวนี้ตรวจเจอของดีเข้าทำให้ผู้เกี่ยวข้องหนาวไปตามๆกัน 8)

ในภาพเป็นการตรวจหาสารประกอบระเบิดครับ

(http://i66.photobucket.com/albums/h277/fon_medee/DSC_5093.jpg)

GT200 ชี้ไปที่มอเตอร์ไซด์

(http://i66.photobucket.com/albums/h277/fon_medee/DSC_5094.jpg)

เยี่ยมครับเเต่  ค่าการ์ด  แต่ล่ะอัน มีราคาค่อนข้างสูง ถึงอันล่ะหลายหมื่น บาทครับ

เทคโนโลยีใหม่ ๆ  ;D  ::002::

 ;D ดีใจที่มีเทคโนโลยี ดีๆแบบนี้มาใช้
      นี่ถ้า ผบ.ทบ. ( ผู้บัญชาการ ที่บ้าน) มีเครื่องแบบนี้แล้วใส่ การ์ด หาร่องรอยน้ำหอมแปลกปลอมละก็ ...อึยยย...ซา...หยองงง

ลบข้อความที่ไม่เหมาะสมแล้วครับ    ::014::

ต้องขออภัยที่โพสข้อคสามที่ไม่เหมาะสม  เนื่องจากเป็นความไม่ชอบส่วนตัวกับคุณหมอท่านนี้ครับ    ::014::

ผมขอรับผิดชอบคำที่โพสไว้เพียวผู้เดียว  ไม่เกี่ยวกับเวปฯครับผม   ;D

แง้ววว

 ::014::

พ่อผมเคยทีนึง  ส่วนใหญ่เครืองนี้จะเป็นทหารใช้ตรวจ  หรือตั้งด่านร่วมกับตำรวจ
กำลังจะเอาเครื่องตรวจเข้ารถ  บอกพวกกัน  เค้าเลยปล่อยไป

  ด่านตรวจ  จังหวัดที่อยู่ติดตะเข็บชายแดนทางภาคเหนือ   มีใช้เกือบทุกด่านแล้วครับ       ::002::   

คุณหญิงท่านลงลุยเองเลยนะครับนั่นน่ะ...

    เป็นกระทู้ที่ให้ความรู้ดีครับ...แต่ไหงมีคำพูดส่อเสียดโผล่มาได้ล่ะนั่น..เฮ้ออออ.... ???

  ต้องขออภัยทุกท่านที่ได้กล่าวตักเตือนผมที่ได้โพสข้อความที่ไม่เหมาะสมออกไปครับ   ::014::

ชี้แจงอีกครั้งที่กระผมได้โพสออกไปนั้น  อันเนื่องมาจากเหตุผลส่วนตัวที่ทำให้ไม่ชอบคุณหมอท่านนี้  เนื่องจากกรณีซึนามิครั้งนั้น  ความที่ท่านมีอีโก้สูงทำให้ญาติผมคนนึง ยังไม่ได้รับศพมาจนถึงทุกวันนี้ทั้งที่ จนท.ได้ทำการค้นพบแล้ว   >:(

  ไม่ขอบรรยายมากกว่านี้เดี๋ยวจะมากความ  ทั้งหมดผมต้องขออภัยที่ได้กล่าววาจาไม่ดีออกไปครับ  น้อมรับคำติและตักเตือนทุกอย่าง  และจะไม่ขอพาดพิงคุณหมอท่านนี้อีกครับ   ::014::

ด้วยความเคารพ  soveat   ::014::

เยี่ยมมากครับ ท่าน

รู้เรื่องสักที่...สงสัยมานานแล้วอันเครื่องตัวนี้ ::002::

เคยโดนเรียกจอดเหมือนกัน  แต่ก็ผ่านครับ  ;D ;Dทหารท่านเข้าใจ เพราะพื้นที่มันเสี่ยงครับ  ::014:: ::014::

ปรับเป็นเหล้า รีเจนซี่ 1 กลม เอาไปกินกับ ซซ.ภาคตะวันออก ;D

ได้ภาพมาอีกครับ

เท่าที่ผมทราบคุณหมอเป็นผู้บุกเบิก และแนะนำ รวมทั้งจัดหา GT200 ส่วนหนึ่งด้วยงบของสถาบันนิติวิยาศาสตร์ไปให้ทหารในสามจังหวัดชายแดนใต้ใช้ครับ ผิดถูกเช่นไรพี่ทหารชี้แนะด้วย ส่วนเรื่องซึนามิมันค่อนข้างพูดยากครับ เหตุการนั้นมันวุ่นไปหมดทุกอย่างเป็นสิ่งใหม่ที่พึ่งเคยเกิดกับบ้านเรา ผมรู้เพียงแต่ว่าทุกคนที่ลงไปช่วย(โดยเฉพาะทหาร) ทุ่มเททำงานอย่างเสียสละ และอดทน และแน่นอนว่าการทำงานกับคนหมู่มากย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอะไรให้ถูกใจคนทุกคน
ปล.ที่พูดได้เต็มปากว่าทุกคนทุ่มเท และอดทน ก็เพราะผมเองก็เป็นผู้สังเกตุการอยู่ด้วยตั้งแต่ต้นจนจบครับ ::014::

ยอมรับความผิดพลาดแบบลูกผู้ชายดีครับ

 ผมชอบมากได้ความรู้ดีจังครับ แต่ผมดูภาพแล้วก็อดสงสัยตามประสาคนที่ความรู้น้อยไม่ได้นะครับ

1) ไอ้เครื่องที่ว่านี่ดูแล้ววัสดุ อุปกรณ์กลไกมีไม่มากเลย แถมดูๆแล้วภายในจะกลวงซะส่วนใหญ่ (ดูจากรูปนะครับ) หลักการทำงานของมันนี่มีท่านใดพอทราบไหมครับ

2) การ์ดนี่ มันน่าจะเป็นพวก ซอฟท์แวร์ ไหมครับ ที่ใช้อ่านในเครื่องประมวลผลมากกว่าที่จะใช้ตรวจจับ หรือยังไงครับ

3) ดูรวมๆ แล้ว ราคา มันไม่น่าถึง ล้าน บาท ทุกท่านว่าไหม หรือค่า วิชา มันแพง กว่าค่าวัสดุ

เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในด้านความมั่นคงและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม

ถ้า จนท. ผู้ใช้งานนำมาใช้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ตามที่ระบุตอนของบประมาณจัดซื้อก็ดีไป

แต่ถ้าเมื่อไหร่เอามาใช้โดยไม่แยกแยะสถานะการณ์ ผมว่าประชาชนผู้มีเจตนาสุจริตอาจจะมีเรื่องให้เดือดร้อนเสียเวลากันเป็นพรวนล่ะครับ

ผมอาจคิดมากไปก็ได้ครับ

เมืองไทย ตอนนี้มีอีกเครื่องนะ  ALFA  sIX  ประสิทธิภาพดีกว่า GT200  ตรวจหาอนุมูลอิสระ ของ...........  :-X

เครื่องนี้ผมใช้อยู่ประจำครับ ราคาแค่ เก้าแสนเองครับ :<< :<< :<< เครื่องนี้ใช้ไฟฟ้าจากภายในตัวคนถือครับ ถ้าวันไหนเราพักผ่อนมาเต็มที่ก็ใช้ได้ดี แต่ถ้าวันไหนเมาแฮงค์ขึ้นมาคนๆนั้นจะใช้ไม่ได้ครับ  8) การ์ดที่ใช้มีทั้ง สารระเบิด ยาเสพติด กระสุน ใช้หาคนก็ได้ครับ เช่นศพ ที่ถูกฝังไว้

พอดีที่หน่วยใช้อยู่ครับ แต่เป็น Alpha6 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า GT200 มากครับ (เก็บในกระเป๋าเสื้อได้) ลักษณะการทำงานคล้ายๆกันครับ เมื่อเจออณูของวัตถุที่ต้องการหาซึ่งตรงกับการ์ดที่ใส่ไว้จะชี้ไปที่จุดนั้นครับ ช่วงเทศกาลจะใช้สุ่มตรวจตามด่านต่างๆครับ ตัวการ์ดเปลี่ยนได้ ใช้ตรวจได้ทั้งวัตถุระเบิด และยาเสพติดทุกประเภทครับ ผู้ที่จะใช้ได้ต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีครับ (ไม่ใช่ทุกคนถือแล้วจะชี้ทั้งหมด) และที่สำคัญคนที่จะถือหรือทำงานในวันนั้นต้องพักผ่อนมาอย่างเพียงพอครับ ไม่เช่นนั้นเครื่องจะไม่ทำงานครับ

  ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ หลักการทำงานของเครื่องนี้มันสุดยอดเลยนะครับ ใช้ไฟฟ้าจากตัวคนถือ อืม .........สุดๆ หาอนู ของสิ่งที่ต้องการค้นหา สุดยอดจริงๆ

ถ้าไม่ใช่ข้าราชการจะต้องทำหน้ายังไงดี

มีรุ่นน้องผมด้วยคนหนึ่งครับ กรณีเดียวกัน............. เสียคุณพ่อกับน้องสาวไป ยังไม่ได้ศพ ทั้งๆที่ทหารเรือพบศพพร้อมหลักฐานติดตัวแล้วในห้องพักโรงแรม..........

แต่ไม่ได้ผ่านการตรวจและยืนยันจากชั้นๆเลยสั่งให้เอาป้ายชื่อศพกับหลักฐานออกแล้วเอาไปรวมกันกับศพที่รอการพิสูจน์ซะ ...............รอชั้นตรวจและยืนยันก่อน

ผลคือ บัดนี้ยังไม่ได้รับศพ

 แกคงดู CSI มากไปมั้งครับ

มีเพื่อนที่ไปทำงานที่เขาหลักเสียตอนเกิดซินามิ หลักฐานเป็นชุดที่ใส่ทำงานมีปักชื่อนามสกุลพร้อม ศพถูกน้ำพัดลงทะเล เรือประมงไปพบศพ ญาติจะนำศพกลับ แต่หญิงหมอไม่ยอมอ้างว่ายังไม่ได้ตรวจ ดีที่ญาติได้ถ่ามภาพศพไว้ก่อน แล้วมีหลักฐานเป็นรอยสักที่แขน หญิงหมอสั่งให้ถอดเสื้อผ้าศพออกแล้วเอาไปรวมกับศพที่หาเจอยังไม่มีญาติที่กองรวมกันไว้ แถมไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ท่านใดมาตรวจสอบก่อนทั้งๆ ที่มีหลักฐานบนศพที่สามารถระบุได้ ต้องรอจนศพเน่ามีกลิ่น ยังโชคดีที่มีรอยสักที่เกือบเน่าหมดแล้ว ทำให้สามารถระบุถูกว่าเป็นศพใหน จริงๆหญิงหมอแกต้องการค่าตรวจนะ พอญาติระบุศพ แล้วบอกจะจ่ายค่าตรวจ DNA ให้เองแกรีบให้เจ้าหน้าที่เอาศพมาตรวจเลย เฮ้อทั้งๆที่ตอนพบศพมีหลักฐานชื่อนามสกุลบนเสื้อมีรอยสักที่แขนยังต้องตรวจ DNA ก่อนอีก กว่าจะได้ศพเสียเวลาไปเกือบ 2 วัน แต่ก็ยังดีกว่ากรณีญาติเพื่อนพี่มะขิ่นและคนอื่นๆที่จนปานนี้ยังไม่ได้รับศพเลย เพราะหลังจากหญิงหมอแกถอดตัว ตำรวจนิติฯ เข้ามาดำเนินการแทน ต้องตรวจกันใหม่หมด แล้วศพปนกันจนแยกไม่ออกแล้ว  สำหรับเครื่องตรวจผมมองกว่ามันเป็นเทคโนโลยีของฝรั่งที่ทำมาขาย หลักการน่าจะมีเซนเซอร์ที่ตรวจสอบเทียบกับข้อมูลในชิบการ์ด ถ้าตรวหรือไกล้เคียงก็จะทำให้ตัวชีทิศที่ปลายมีหัวเซนเซอร์ ชีไปในทิศทางที่ตรวจพบ แต่อย่างไงเครื่องมือที่เป็นอีเลคทรอนิคส์ก็ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ครับ งงกับที่ว่าใช้พลังงานจากมือคนนิแหล่ะ แต่เอาเถอะถ้ามีเครื่องนี้แล้วสามารถทำให้ เหตุการ์ณภาคใต้หรืออาชญากรรมลดลง หน่วยงานปกครองทั้งทหารตำรวจก็ควรจัดหามาใช้ให้มากขึ้นครับ

........... ??? เคยเห็นถือเดินไป เดินมา ในงาน เปิดถนนคนเดิน จ.นราธิวาส ครั้งที่ 1. กลางๆปี 51 ครับ  แต่ไง๋  ก็ยังมีเหตุลอบวางระเบิดในงานจนได้  ผมละเซ็ง  ??? ??? ???

 มีท่านผู้รู้ที่พออธิบายหลักการทำงานของเครื่องตรวจหาอาวุธที่ว่านี้ได้บ้างครับ...ขอความรู้ด้วยครับบบ

เหมือนเคยเห็นด่านตรวจอาวุธ แถวๆปากช่องหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ
ขับไปโคราชอยู่ขวามือ ถึงว่าทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่มายืนตรวจ อ่อ ใช้เครื่องนี่เอง

ได้ความรู้เพิ่มครับ...... ::014::

เข้าใจความรู้สึก
พบคนที่มีความรู้สึกในลักษณะนี้มามากเหมือนกันครับ

ล่าสุดเห็นมาออกทีวีกันแล้วครับสำหรับเจ้าเครื่อง GT200 ว่ามันทำงานได้มีประสิทธิภาพจริงหรือ จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นใน 3จว.ชายแดนใต้ โดยที่มีการใช้เครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีระเบิด ปลอดภัย แต่กลับมีการระเบิดขึ้น :-\ เห็นว่าเครื่อง GT200 นี้ ประเทศที่เจริญแล้วเช่น อเมริกา อังกฤษ.....เป็นต้น เขาไม่ใช้กัน เพราะมีเปอร์เซ็นต์ถูกต้องเพียง 50% กว่าๆเท่านั้น ซึ่งเปรียบเหมือนการโยนเหรียญหัวก้อย เดาสุ่มแบบ 50/50 เขาใช้เครื่อง(จำชื่อไม่ได้)แบบอื่น ที่มีคุณภาพสูง และเป็นที่ยอมรับ ซึ่งเครื่องที่ว่านี้มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยที่เครื่อง GT200 มูลค่าเครื่องละประมาณ 1.4 ล้านบาท ประเทศไทยมีอยู่ 1,000 เครื่อง ที่ใช้กันอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ อินเดีย....เป็นต้น

จำรายละเอียดได้ประมาณนี้ครับ ได้ดูผ่านๆ ถ้าท่านใดทราบรายละเอียดกว่านี้ ก็ชี้แจงด้วยครับ ::014::

อย่าบอกนะว่า GT200

ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า มาตรฐานของเครื่องตัวนี้อยู่ตรงไหน อยากให้สถาบันที่เกี่ยวข้องจัดการทดสอบ ที่ได้มาตรฐานตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จัง

เพราะเท่าที่ฟังมา ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายผู้ใช้(อะไรในร่างกายที่มีผลต่อการทำงานของเครื่อง??) เห็นว่าใช้ไฟฟ้าสถิตย์ในร่างกาย ซึ่งไฟแค่นี้หลอดLED มันยังไม่ติดเล้ย นึกการทำงานไม่ออกจริงๆครับ  ใครก็ได้ ผ่าเครื่องในให้ผมดูที

แล้วเท่าที่ทราบตัวนึงแพงมากๆ   :<<  :OO  ::012::  ::011::

ไม่ได้มีอัคตินะครับ สงสัยมากๆ ไม่ใช่แค่ผมด้วยที่สงสัย ถ้าของมันใช้ได้จริง ให้คนนอกมาทดสอบก็ไม่น่ามีอะไรต้องปิดบังใช่มั้ยครับ สบายใจทั้งสองผ่าย

ซึ่งถ้าผลการทดสอบออกมาแล้วเชื่อถือได้ อธิบายหลักการทำงานให้ชัดเจนได้ ผมว่าเป็นสุดยอดเทคโนโลยีเลย

คงไม่มีใครออกมาตอบหรอกครับเป็นความลับทางราชการ ;D เขากลัวว่าเดี๋ยวบอกไปจะเอาไปหลบเลี่ยงกันหมด ::008::

ถึงว่าสิ   ไม่ได้เปิดเครื่องทุกวันนี่เอง    ไม่งั้นเกมส์แล้วผม

ขอบพระคุณครับผู้การ  ::014::

http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=88:-q-200q--&catid=10:2009-11-15-11-15-01&Itemid=3 (http://www.isranews.org/isranews/index.php?option=com_content&view=article&id=88:-q-200q--&catid=10:2009-11-15-11-15-01&Itemid=3)

 ::014::

เครื่องมันคล้าย ๆ กับ เครื่องมือชนิดหนึ่งซึ่งชาวบ้านใช้หาน้ำบาดาลผมเคยเห็นเขาใช้กระบอกไม้ใผ่ แล้วมีเหล็กงอฉากส่วนหนึ่งอยู่ในกระบอกอีกส่วนหนึ่งชี้ไปข้างหน้าเหมือน เครื่องไอ้นั้นแหละ แต่ชาวบ้านเขาใช้ 2 อันถือ มือละอันเดินชี้ให้มันขนานกันห่างกันประมาณ
1 ฟุต ถ้าจุดไหนมีน้ำเหล็กมันก็จะชี้เข้าหากันเองเป็นมุมแหลม  ที่ชาวบ้านใช้ราคาคงไม่ถึงร้อยนะ สงสัยฟารั้งมันมาขโมยความคิดไปคิดต่อราคาเลยเป็นล้าน

   อยากให้ลบรูปที่มีคนผมแดง ๆ ประหลาด ๆ ออกจัง  ::014::

  เป็นข่าวบ่อย เก่งดี เก่งคนเดียว   ::014::


                 

ใช่ครับ หลักการแบบคุณ sombat18 บอก ในตปท.เรียกตัวนี้ว่า dowsing ไม่มีหลักวิทยาศาสตร์อธิบายได้ ผมเคยเห็นผู้ขาย 2 รายอธิบายไม่เหมือนกัน บริษัทหนึ่งบอกใช้หลักการโมเลกุลเคลื่อนที่หาวัตถุประเภทเดียวกัน อีกบริษัทบอกใช้แรงแม่เหล็กดึงดูดกัน ผมว่ามั่วทั้งคู่ ถ้าเป็นโมเลกุล วัตถุที่ถูกผนึกอย่างดีเช่นในขวดก็จะหาไม่เจอเพราะโมเลกุลออกมาเพ่นพ่านไม่ได้ ถ้าเป็นแรงแม่เหล็กจะมีอะไรมาเพิ่มแรงดูดให้เสาอากาศเคลื่อนที่ได้ (ระวังเสาวิทยุท่านๆ หลุดหายนะ) จริงม๊ะ แต่ที่ยังงงก็คือมันหาได้จริงหรือไม่ หรือฟลุ๊ก เข้าทำนองไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เหมือนไม่ชี้หาศพของเซียนล้างป่าช้าอย่างใดอย่างนั้นเลย (แต่ว่าศพในป่าช้ามันเยอะนะ หาได้ครบหรือเปล่า ใครรู้) ฮิๆ

เคยไปเป็นอาสาสมัคร ช่วง สึนามิ     ครับ

เลย คอมเฟิร์ม ว่าที่คุยๆกันนั้น  ข้อมูลถูกต้องครับ
เพราะหมอท่านอื่นๆ ที่ พานักเรียนแพทย์ไปช่วย ผู้ประสบภัย
และ พิสูจน์ผู้เสียชีวิต ก็บ่นกันอุบเลย

กับรายการ ข้ามาคนเดียว ... ทั้งที่ งานหลายส่วนก็ดำเนินไปด้วยดีแล้ว
แต่ เธอ ก็มาสั่งหยุด และ รวบงานไปเฉยๆ  .... ไม่นับ ที่ทิ้งไปเฉยๆ เหมือนกัน

มาหาความรู้ครับ มีตาม กระทู้บ้างและนอกบ้าง  ::012:: ::012::

ประสิทธิภาพของเครื่องตรวจหาสารเสพติดแบบมือถือ ALPHA-6

เครื่องตรวจหาสารเสพติดแบบมือถือพร้อมอุปกรณ์บอกชนิดการตรวจยาเสพติดประเภทต่างๆ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถตรวจได้อย่างละเอียดแม้ซ่อนอยู่ในระยะไกลพื้นที่กว้างและในทุกสภาพอากาศ


พลตำรวจตรี ชำนาญ รวดเร็ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน กล่าวถึงสมรรถภาพของเครื่องตรวจหาสารเสพติดแบบมือถือ ALPHA-6 ว่า สามารถจับสสารได้ในระยะไกล ตั้งแต่ 6 – 200 เมตร แม้สสารนั้นจะเจือปนหรือมีปริมาณต่ำเพียงใดก็ตาม เครื่องมือ อัลฟ่าซิก เป็นเครื่องที่ถูกสร้างให้เน้นในการจับสสารที่ถูกซ่อน หรืออำพรางไว้ได้อย่างแม่นยำ ตรวจจับได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการค้นหาในพื้นที่กว้าง 5,000 ตารางเมตร และไม่ว่าสสารนั้นอยู่ในสถานที่เช่นไร และใช้ได้ในทุกสภาพอากาศแห้ง ชื้น เย็น หรือในสภาพอากาศที่แย่ที่สุด โดยจะระบุพื้นที่ให้ทำการค้นหาอย่างละเอียด และเครื่องจะบ่งชี้ถึงบริเวณที่สสารซ่อนอยู่โดยไม่ต้องสุ่มตรวจ
การใช้งานเครื่องอัลฟ่าซิก ใช้เวลาน้อยกว่า 1 นาทีในการเตรียมพร้อมเครื่อง เนื่องจากไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่วุ่นวายหลากหลาย จึงสามารถส่งผ่านให้เจ้าหน้าที่ผู้อื่นใช้ต่อได้อย่างง่ายดาย แต่เจ้าหน้าที่ที่ใช้เครื่องจะต้องผ่านการอบรมพร้อมทั้งต้องมีการฝึกฝนการใช้เครื่องอย่างสม่ำเสมอ

จีที 200-สนิฟเฟ็กซ์-อัลฟ่า 6 เครื่องตรวจมหัศจรรย์ หรือ ไม้ล้างป่าช้ากายสิทธิ์       
ผศ.ดร. (ว่าที่ร้อยตรี) เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
นักวิชาการอิสระ

วันที่ 8 ตุลาคม 2552 เสียงระเบิดกึกก้องกลางตลาดในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ได้ปลุกกระแสจิตสำนึกของผู้ที่เชื่อมั่นในความถูกต้องของวิทยาศาสตร์ให้ออกมาถกเถียง แลกเปลี่ยน และแสดงความคิดเห็นที่อาจจะพลิกโฉมหน้าวงการวิทยาศาสตร์ไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

          จำเลยหลักที่ถูกกล่าวหากับการระเบิดที่สุไหงโกลก คือ เครื่องตรวจหาวัตถุระยะไกลจีที 200 (GT 200) เครื่องมือมหัศจรรย์ที่ได้เคยเผยโฉมให้ประชาชนคนไทยเห็นมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในการค้นหาวัตถุระเบิด ยาเสพติด ของต้องสงสัย หรือแม้กระทั่งซากศพ ภาพที่เราได้เห็น คือ การที่เจ้าหน้าที่ถือเครื่องมือนี้เข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์สำคัญๆ อย่างเช่น การประท้วงของพันธมิตรฯ หรือเพลิงไหม้ซานติก้าผับ

          ความมหัศจรรย์ของจีที 200 คือ เมื่อถือเครื่องนี้เดินเข้าไปในที่เกิดเหตุ พร้อมกับใส่แผ่นการ์ดระบุชนิดของสารที่ต้องการตรวจ ซึ่งมีหลายสิบชนิด ทั้งสารระเบิด สารเสพติด สารพิษ หรือแม้แต่แบงค์ปลอม เจ้าเสาหนวดกุ้งที่ยื่นยาวอยู่หน้าเครื่องก็เหมือนจะหมุนได้เอง ชี้เป้าไปในทิศที่สงสัยว่าจะมีสิ่งของนั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ว่าจะมีอยู่ปริมาณน้อยนิดเป็นพิโคแกรม (เศษหนึ่งส่วนล้านล้านกรัม) หรืออยู่ห่างไกลไปหลายร้อยเมตร โดยอ้างว่าเป็นผลจากแรงแม่เหล็กดูด/ผลัก (dia/para magnetic) ที่เกิดจากไฟฟ้าสถิตในตัวผู้ใช้ และไม่มีอะไรจะขวางกั้นการตรวจของเครื่องได้ แม้แต่ตะกั่วที่เอาไว้กั้นรังสีนิวเคลียร์

          ข่าวความสำเร็จในการใช้เครื่องจีที 200 ก่อให้เกิดความศรัทธาอย่างยิ่งในวงการความมั่นคงของรัฐ จนมีการสั่งซื้อมาใช้กันขนานใหญ่ในหลายองค์กร เครื่องยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งอ้างหลักการทำงานแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเครื่องสนิฟเฟ็กซ์ (Sniffex) เครื่องอัลฟ่า 6 (Alpha 6) ก็พลอยได้รับความนิยมไปด้วย และถูกนำไปใช้กันทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะในชายแดนภาคใต้เท่านั้น

          แต่ข่าวความสำเร็จ ก็เป็นเพียงแค่ด้านสว่างด้านเดียวของดวงจันทร์ มีหลายต่อหลายครั้งที่เครื่องมือทำนองนี้ได้ให้ผลลัพธ์ที่ผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการที่เครื่อง “บอกว่ามี แต่กลับไม่มี (false positive)” ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ถูกปรักปรำว่าเกี่ยวข้องกับสารระเบิด จนถึงนำตัวไปกักขังสอบสวน หรือ “บอกว่าไม่มี แต่กลับมี (false negative)” จนทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตาย ดังเช่นกรณีที่สุไหงโก-ลก หรือล่าสุดที่จังหวัดยะลา ในระหว่างที่นายกฯมาเลเซียมาเยือนประเทศไทย (วันที่ 9 ธันวาคม)

          คำตอบที่ได้รับฟังจนเหมือนแผ่นเสียงตกร่องจากผู้รับผิดชอบก็มีเพียงแค่ว่าเครื่องมือยังมีประสิทธิภาพดีอยู่ ไม่ได้เสียหายบกพร่อง ผลลัพธ์ที่ผิดพลาดใดๆ น่าจะมาจากเจ้าหน้าที่ผู้น้อยที่ใช้เครื่องผิดวิธี ฝึกมาไม่ดีพอ พักผ่อนน้อยไป ร่างกายอ่อนแอ ขาดสมาธิและศรัทธาในการใช้เครื่อง ทำให้กระแสไฟฟ้าในร่างกายน้อยลง ประสิทธิภาพของเครื่องก็น้อยลงไปด้วย เพราะเครื่องไม่ได้ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

          คำชี้แจงแบบวิทยาศาสตร์เทียม (pseudo-science) เช่นนี้ ทำเอานิสิตนักศึกษา คณาจารย์ นักวิจัย และผู้สนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ แทบจะกรีดร้องออกมา เครื่องมือมหัศจรรย์ราคากว่าล้านบาทที่เคยคิดกันว่าน่าจะมีระบบอิเล็กโทรนิกส์ซับซ้อน มีเซนเซอร์พิเศษตรวจจับสสารด้วยนาโนเทคโนโลยี มีคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วประมวลผลอยู่ภายใน คล้ายกับอุปกรณ์จมูกเทียม (electronic nose) ที่โด่งดังอย่างเครื่องไฟโด (FIDO) ของทหารอเมริกัน กลับการเป็นแค่ “ลวดเดาว์ซิง (Dowsing rod)” หรือ “ไม้ล้างป่าช้า” เท่านั้นเอง

          แม้แต่เด็กก็รู้จักไม้ล้างป่าช้ากายสิทธิ์นี้จากการ์ตูนโดเรมอนตอนที่โดเรมอนเอาเครื่องมือหาบ่อน้ำออกมา ดูแล้วหน้าตาก็เหมือนกับเครื่องจีที 200 และพี่น้องของมันเปี๊ยบเลย แถมทำงานเหมือนกันด้วย เวลาที่โนบิตะถือเครื่องที่เป็นแท่งลวดงอในมือหลวมๆ แล้วเดินไปเรื่อยๆ ปลายแท่งก็จะชี้ไปหาแหล่งน้ำใต้ดินได้อย่างปาฏิหาริย์

          ความเชื่อเรื่องลวดเดาว์ซิงมีมานานมากในประเทศทางยุโรป ทั้งใช้หาแหล่งน้ำ แหล่งแร่ หรือศพในป่าช้า ผู้ที่งมงายศรัทธาในไม้ล้างป่าช้าพวกนี้ มักจะนำเอาหลักการผลัก/ดูดแม่เหล็กมาอ้างเป็นคำอธิบายเสมอ แม้ว่าจะถูกพิสูจน์มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า ลวดเดาว์ซิงเป็นเรื่องลวงโลกแหกตา (bogus) แรงแม่เหล็กที่ว่าก็ไม่ได้มีกำลังมากพอที่จะดูดลวดในมือให้หมุนได้ ถ้าจะให้ทำได้จริง ก็ต้องใช้ขดลวดสร้างแม่เหล็กไฟฟ้าตัวใหญ่เท่าห้อง ถึงจะพอดึงแค่เข็มนาฬิกาให้เคลื่อนได้

          ที่เครื่องไม้ล้างป่าช้าพวกนี้ยังขายได้อยู่ ก็เพราะมันให้ผลการชี้ทิศทางที่กำกวม ไม่ได้ระบุเป็นตัวเลขแต่อย่างใด เมื่อค้นหาในพื้นที่เสี่ยง โอกาสที่จะชี้แล้วหาวัตถุระเบิด อาวุธ หรือยาเสพติดเจอก็มีสูงเป็นธรรมดา แต่ถ้าชี้แล้วไปหาไม่พบ ก็อ้างได้ว่าเครื่องมีความไวสูงจนชี้บริเวณที่ปนเปื้อนวัตถุที่ค้นหาเพียงเล็กน้อย หรือผู้หาหาไม่เจอเอง (ไม่นับรวมที่โบ้ยว่าผู้ใช้เครื่องพักผ่อนไม่เพียงพอด้วย)

          แล้วที่เสาอากาศของเครื่องหันได้เองล่ะ ก็ถ้าไม่ได้ตั้งใจเอนเครื่องเล็กน้อยให้เสาชี้ไปปรักปรำใคร เพราะตั้งธงไว้ก่อนแล้วว่าโรงเรียนนี้หมู่บ้านนี้มีผู้กระทำผิดอาศัยอยู่ ก็จะเกิดจากการเคลื่อนไหวของตัวผู้ใช้เครื่องเองด้วย “จิตใต้สำนึก” สั่งการว่ากำลังสงสัยใครหรือบริเวณใดอยู่ ตามปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Ideomotor effect แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อเล่นผีถ้วยแก้ว เมื่อแก้วเคลื่อนที่เองได้โดยทุกคนปฏิเสธว่าไม่ได้ดัน แต่จริงๆ แล้วดันไปโดยไม่รู้ตัว

          จากความงมงายในลวดเดาว์ซิง ซึ่งอย่างมากก็ใช้ต้มตุ๋นหลอกคนว่าจะหาแหล่งน้ำแหล่งแร่ให้ ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเป็นอะไร แต่ความเชื่อมั่นในเครื่องตรวจระเบิดที่อาศัยหลักการเดียวกัน กลับเหมือนกับเอาชีวิตผู้ใช้ไปแขวนไว้บนเส้นด้าย เอาผู้บริสุทธิ์มาเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว หรือแม้แต่เอาชื่อเสียงเกียรติยศที่ทำมาทั้งชีวิตไปเสี่ยง แม้ว่าจะเป็นความบกพร่องโดยสุจริตก็ตาม

          องค์กรใดที่ใช้ชื่อว่า “วิทยาศาสตร์” แต่เอาเครื่องมือที่เป็น “วิทยาศาสตร์เทียม” เช่นนี้มาใช้ หรือรับรองการันตีว่าเครื่องมือพวกนี้เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์อันทรงประสิทธิภาพ องค์กรนั้นควรจะมีความละอายแก่ใจ สำนึกต่อความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ หรือไม่เช่นนั้นก็เปลี่ยนชื่อไปเป็นองค์การ “ไสยศาสตร์” เสียดีกว่า

          เครื่องตรวจระเบิดลวงโลกพวกนี้ไม่ได้มีใช้อยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้วแม้แต่ประเทศเดียว แต่กลับแพร่หลายอยู่ในหมู่ประเทศกำลังพัฒนาที่ประสบปัญหาการก่อการร้ายและความมั่นคง มีการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นได้ง่าย รวมทั้งยังคงมีประชาชนที่หลงไหลศรัทธาในไสยศาสตร์มากกว่าที่จะยึดมั่นในความจริงทางวิทยาศาสตร์

          ยอมรับอย่างน่าเศร้าใจว่า ไทยเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เพื่อนร่วมชะตากรรมของเราไม่ว่าจะเป็นเม็กซิโก อินเดีย หรืออิรัก (ไม่เกี่ยวกับทหารอเมริกัน) ก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของไม้ล้างป่าช้าพวกนี้ แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากทั่วโลกปรากฏอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ บนอินเตอร์เน็ตให้รัฐบาลแต่ละชาติตระหนักถึงภัยอันตรายที่จะเกิดตามมาหรือเกิดขึ้นแล้วจากการใช้เครื่องตรวจแบบลวดเดาว์ซิง แต่ก็ไม่เป็นผล จะด้วยผลประโยชน์มหาศาลหรือทิฐิมานะที่มี หรือกลัวว่าจะต้องถอดหัวโขนตัวเองออกมาแสดงตัวตนที่แท้จริง ก็ไม่อาจจะทราบได้

          หรือจะอ้างว่ามีเครื่องมืออย่างนี้ย่อมดีกว่าไม่มี จะได้ให้เจ้าหน้าที่รัฐมีเกราะป้องกันตัวเองบ้าง แต่ถ้าเกราะที่เคยคิดว่าจะป้องกันตัวได้ชิ้นนี้ แท้จริงกลับกลายเป็นระเบิดฆ่าตัวตายที่พร้อมจะทำงานทุกครั้งที่เครื่องตรวจไม่เจอว่ามีระเบิด ทั้งที่จริงๆ มีซ่อนอยู่ จะไม่เจ็บปวดใจกันบ้างเลยหรือ คิดไม่ออกเลยว่าจิตใจของคนที่ยังสั่งการให้ใช้เครื่องพวกนี้อยู่นั้นทำด้วยอะไร ทั้งๆ ที่รู้ว่ากำลังหยิบยื่นความตายให้กับผู้น้อยในแนวหน้า

          หรือว่าคนไทยเรายังขาดกระบวนการคิดไตร่ตรองหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ อาศัยแค่ความศรัทธาจากที่เคยใช้เครื่องนี้ได้สำเร็จมาครอบงำจิตใจ จนลืมสงสัยเวลาที่เครื่องผิดพลาด เอาแต่เชื่อในสเป็กเครื่องกับเครดิตของฝรั่งที่มาสาธิตให้ดู ทำไมไม่ลองทำการทดสอบแบบ “ตาบอดสองทิศ (double-blind test)” ที่ผู้ค้นหาต้องไม่รู้ที่ซ่อน ไม่พบหน้าผู้ซ่อนของเลยตลอดการทดลอง และทดลองหลายสิบครั้งเพื่อลดโอกาสในการเดาถูก

          ความจริงแล้ว เครื่องจีที 200 และญาติพี่น้องของมัน ก็ได้เคยถูกเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.1996 ที่เครื่องควอโดร แทรกเกอร์ (Quadro Tracker) ถูกเปิดโปงว่าเป็นเครื่องลวงโลกโดยอัยการของสหรัฐอเมริกา และถูกเอฟบีไอดำเนินคดีไปแล้ว ต่อมาปี ค.ศ. 2007 เครื่องสนิฟเฟ็กซ์ซึ่งมีใช้ในบ้านเราเหมือนกัน ก็ถูกทางกองทัพเรือสหรัฐพิสูจน์ว่าใช้ไม่ได้ผลดีอย่างที่อ้าง ใช้ได้แค่ 50:50 เท่านั้น หรือเทียบเท่ากับโยนเหรียญหัวก้อยเอง

          ส่วนเครื่องโมล (M.O.L.E.) ที่ทำจากบริษัทเดียวกับเครื่องจีที 200 นั้นก็เคยถูกพิสูจน์ตั้งแต่ปี ค.ศ.2002 โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐแล้วว่าลวงโลกเช่นกัน บริษัทผู้ผลิตก็หนีออกไปเปิดใหม่ที่ประเทศอังกฤษ แล้วสร้างเครื่องจีที 200 ออกมาขายประเทศด้อยพัฒนาแทน ทำเอากระทรวงกลาโหมอังกฤษเดือดร้อนต้องออกแถลงการณ์ว่าไม่เกี่ยวข้องหรือเคยเอาเครื่องจีที 200 มาใช้เลย

          เรื่องโอละพ่อของ "ไม้ล้างป่าช้า" ก็มาถึงจุดสรุป เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐออกคำเตือนในเอกสารแนวทางการเลือกซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดของทั้งประเทศว่า ห้ามซื้ออุปกรณ์ตรวจระเบิดแหกตา (bogus explosive detector) ตระกูลที่ใช้หลักการลวดเดาว์ซิงนี้ทุกยี่ห้อ ขณะที่ก็มีการตั้งรางวัลอย่างงามจาก นายเจมส์ แรนดี นักจับผิดเรื่องลวงโลกชื่อดังถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้ามีใครพิสูจน์ได้ว่าเครื่องพวกนี้สามารถตรวจหาระเบิดได้จริง ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครกล้ารับคำท้า

          ใครหลายคนอาจจะคิดว่าไม้ล้างป่าช้าราคาตัวละหลายแสนนี้เป็นเรื่องไกลตัว เป็นปัญหาเฉพาะกับคนที่อยู่ชายแดนใต้ แต่เมื่อกระทรวงมหาดไทยประกาศรณรงค์กวาดล้างยาเสพติดขนานใหญ่ด้วยการส่งเครื่องอัลฟ่า 6 ลูกพี่ลูกน้องของจีที 200 ออกไปประจำการทั่วทุกอำเภอทั่วทั้งประเทศ บาปบริสุทธิ์ครั้งใหญ่กำลังจะเป็นภัยร้ายส่งตรง “ดีลิฟเวอรี่” ถึงตัวท่าน ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะหมดสนุกเมื่อถึงคราวซวย ขับรถผ่านด่านต่างจังหวัด แล้วโดนอัลฟ่า 6 ชี้ว่ามียาซ่อนอยู่ในรถ ถ้าโชคดีหาไม่เจอแต่พูดกันเข้าใจ ก็ปล่อยตัวไป แต่โชคร้ายพูดกันไม่รู้เรื่อง ได้ไปสอบสวนต่อที่โรงพัก หรือค้างแรมฟรีในห้องขังสักคืนสองคืน

          ถึงเวลาหรือยังที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะละเลิกทิฐิมานะในตัวตน แล้วหันมาพูดจากัน ยอมรับข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ด้วยความจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ถึงเวลาหรือยังที่จะหยุดยั้งการสูญเสียของกำลังพลในแนวหน้า และสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจของคนในท้องถิ่น ตลอดจนสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไปจากการใช้ “ไม้ล้างป่าช้ากายสิทธิ์” ที่แอบอ้างตนเป็นเครื่องตรวจมหัศจรรย์นี้ ถึงเวลาหรือยังที่ภาครัฐจะทุ่มเทงบประมาณไปจัดซื้อเครื่องตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง (ดังเช่น เครื่องไฟโด ฯลฯ) ทุ่มเทงบไปที่การข่าวและการฝึกกำลังพลสุนัขตำรวจสุนัขทหารเพิ่มเติม

          มีคำกล่าวเตือนใจทางนิติวิทยาศาสตร์อยู่ว่า “คนเอียง วิทยาศาสตร์ไม่เอียง” ประเด็นไม้ล้างป่าช้าลวงโลกในครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างคลาสสิกที่สุดสำหรับคติพจน์ดังกล่าว เพราะชัดเจนว่าความจริงทางวิทยาศาสตร์นั้นไม่ได้เอียงเข้าข้างใคร ไม่ว่าจะโด่งดังหรือยิ่งใหญ่แค่ไหน อะไรที่ไม่ถูก อะไรที่ใช้ไม่ได้ อะไรที่เป็น “วิทยาศาสตร์เทียม” ย่อมถูกเปิดโปงในที่สุด

          ส่วนคนที่ยึดติดกับหัวโขนตัวเองกับทิฐิมานะตัวเอง หรือแอบอ้างความเป็นวิทยาศาสตร์ คนผู้นั้นแหล่ะที่ “เอียง”

ด่วน+สำคัญมาก "ขออาสาสมัครรณรงค์ต่อต้านเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก"   

หลังจากความพยายามทุกวิถีทางตามระบบระเบียบราชการ ไม่ได้ส่งผลให้เครื่องตรวจระเบิดลวงโลก (GT200, Alpha 6, Sniffex, ADE-101, etc.) ได้ถูกระงับการใช้หรือจัดทดสอบทางวิทยาศาสตร์แต่ประการใด รัฐบาลก็ไม่เคยสนใจ ฝ่ายค้านก็ไม่รับลูก สื่อมวลชนก็เงียบหมด .....
ถึง เวลาแล้วที่จะต้องอาศัยพลังของประชาชนธรรมดาตาดำๆ อย่างพวกเรา ที่จะร่วมกันรณรงค์ต่อต้านเครื่องตรวจระเบิด ตรวจยาเสพติ ลวงโลกพวกนี้ ด้วยการช่วยกันส่งต่อ forward อีเมล์ (ดูตัวอย่างในรูปประกอบ) ไปให้ถึงคนไทยทุกๆ คน ก่อนที่กระแสความงมงายในเครื่องลวงโลกพวกนี้จะแพร่ไปทั่วประเทศ แล้วจะช้าเกินกว่าแก้ไขได้อีก
โปรดส่งอีเมล์มาขอ "forward mail" ได้ที่ AntiGT200@gmail.com และโปรดนำข้อความในไปโพสต์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่เห็นว่าเหมาะสม ..... เราจะขอชื่นชมความกล้าหาญและความเสียสละของท่านตลอดไป

จากประสบการณ์ เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มีธุระจะต้องนั่งรถโดยสาร จาก จังหวัดนึงไปอีกจังหวัดนึง(ทุกทีจะขับรถไปเอง) มาถึงด่านตรวจค้นยาเสพติด เจ้าหน้าที่ขึ้นมาบนรถ แล้วเดินใช้เจ้าเครื่องตัวที่ คุณPeerapat ทำลิ้งค์เอาไว้ แล้วก็มีเสียง บี๊บๆๆๆๆ เจอยาบ้า 1ถุง ที่ผู้โดยสารคนนึง งานเข้าครับ รถที่ผมนั่งติดแง่ก ที่ด่านเป็นเวลาพักใหญ่ ช่วงที่รอ เลยไปคุยกับ จนท. และดูเจ้าตัวที่ว่า เห็น จนท. บอกว่าตรวจ อาวุธก็ได้ เพียงแต่เอา เปลี่ยนชิป ลักษณะเป็น แผ่นการ์ด ใส่เข้าไป เลยได้มีโอกาส ลูบๆคลำ เจ้าเครื่องมือดังกล่าว ขอบคุณ จนท. ท่านนั้นไว้ด้วยครับที่ให้ความรู้

--------------------------------------------------------------------------------

จีที 200-สนิฟเฟ็กซ์-อัลฟ่า 6 เครื่องตรวจมหัศจรรย์ หรือ ไม้ล้างป่าช้ากายสิทธิ์       
ผศ.ดร. (ว่าที่ร้อยตรี) เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
นักวิชาการอิสระ

วันที่ 8 ตุลาคม 2552 เสียงระเบิดกึกก้องกลางตลาดในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ได้ปลุกกระแสจิตสำนึกของผู้ที่เชื่อมั่นในความถูกต้องของวิทยาศาสตร์ให้ออกมาถกเถียง แลกเปลี่ยน และแสดงความคิดเห็นที่อาจจะพลิกโฉมหน้าวงการวิทยาศาสตร์ไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

          จำเลยหลักที่ถูกกล่าวหากับการระเบิดที่สุไหงโกลก คือ เครื่องตรวจหาวัตถุระยะไกลจีที 200 (GT 200) เครื่องมือมหัศจรรย์ที่ได้เคยเผยโฉมให้ประชาชนคนไทยเห็นมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในการค้นหาวัตถุระเบิด ยาเสพติด ของต้องสงสัย หรือแม้กระทั่งซากศพ ภาพที่เราได้เห็น คือ การที่เจ้าหน้าที่ถือเครื่องมือนี้เข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์สำคัญๆ อย่างเช่น การประท้วงของพันธมิตรฯ หรือเพลิงไหม้ซานติก้าผับ

          ความมหัศจรรย์ของจีที 200 คือ เมื่อถือเครื่องนี้เดินเข้าไปในที่เกิดเหตุ พร้อมกับใส่แผ่นการ์ดระบุชนิดของสารที่ต้องการตรวจ ซึ่งมีหลายสิบชนิด ทั้งสารระเบิด สารเสพติด สารพิษ หรือแม้แต่แบงค์ปลอม เจ้าเสาหนวดกุ้งที่ยื่นยาวอยู่หน้าเครื่องก็เหมือนจะหมุนได้เอง ชี้เป้าไปในทิศที่สงสัยว่าจะมีสิ่งของนั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ว่าจะมีอยู่ปริมาณน้อยนิดเป็นพิโคแกรม (เศษหนึ่งส่วนล้านล้านกรัม) หรืออยู่ห่างไกลไปหลายร้อยเมตร โดยอ้างว่าเป็นผลจากแรงแม่เหล็กดูด/ผลัก (dia/para magnetic) ที่เกิดจากไฟฟ้าสถิตในตัวผู้ใช้ และไม่มีอะไรจะขวางกั้นการตรวจของเครื่องได้ แม้แต่ตะกั่วที่เอาไว้กั้นรังสีนิวเคลียร์

          ข่าวความสำเร็จในการใช้เครื่องจีที 200 ก่อให้เกิดความศรัทธาอย่างยิ่งในวงการความมั่นคงของรัฐ จนมีการสั่งซื้อมาใช้กันขนานใหญ่ในหลายองค์กร เครื่องยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งอ้างหลักการทำงานแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเครื่องสนิฟเฟ็กซ์ (Sniffex) เครื่องอัลฟ่า 6 (Alpha 6) ก็พลอยได้รับความนิยมไปด้วย และถูกนำไปใช้กันทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะในชายแดนภาคใต้เท่านั้น

          แต่ข่าวความสำเร็จ ก็เป็นเพียงแค่ด้านสว่างด้านเดียวของดวงจันทร์ มีหลายต่อหลายครั้งที่เครื่องมือทำนองนี้ได้ให้ผลลัพธ์ที่ผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการที่เครื่อง “บอกว่ามี แต่กลับไม่มี (false positive)” ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ถูกปรักปรำว่าเกี่ยวข้องกับสารระเบิด จนถึงนำตัวไปกักขังสอบสวน หรือ “บอกว่าไม่มี แต่กลับมี (false negative)” จนทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตาย ดังเช่นกรณีที่สุไหงโก-ลก หรือล่าสุดที่จังหวัดยะลา ในระหว่างที่นายกฯมาเลเซียมาเยือนประเทศไทย (วันที่ 9 ธันวาคม)

          คำตอบที่ได้รับฟังจนเหมือนแผ่นเสียงตกร่องจากผู้รับผิดชอบก็มีเพียงแค่ว่าเครื่องมือยังมีประสิทธิภาพดีอยู่ ไม่ได้เสียหายบกพร่อง ผลลัพธ์ที่ผิดพลาดใดๆ น่าจะมาจากเจ้าหน้าที่ผู้น้อยที่ใช้เครื่องผิดวิธี ฝึกมาไม่ดีพอ พักผ่อนน้อยไป ร่างกายอ่อนแอ ขาดสมาธิและศรัทธาในการใช้เครื่อง ทำให้กระแสไฟฟ้าในร่างกายน้อยลง ประสิทธิภาพของเครื่องก็น้อยลงไปด้วย เพราะเครื่องไม่ได้ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

          คำชี้แจงแบบวิทยาศาสตร์เทียม (pseudo-science) เช่นนี้ ทำเอานิสิตนักศึกษา คณาจารย์ นักวิจัย และผู้สนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ แทบจะกรีดร้องออกมา เครื่องมือมหัศจรรย์ราคากว่าล้านบาทที่เคยคิดกันว่าน่าจะมีระบบอิเล็กโทรนิกส์ซับซ้อน มีเซนเซอร์พิเศษตรวจจับสสารด้วยนาโนเทคโนโลยี มีคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วประมวลผลอยู่ภายใน คล้ายกับอุปกรณ์จมูกเทียม (electronic nose) ที่โด่งดังอย่างเครื่องไฟโด (FIDO) ของทหารอเมริกัน กลับการเป็นแค่ “ลวดเดาว์ซิง (Dowsing rod)” หรือ “ไม้ล้างป่าช้า” เท่านั้นเอง

          แม้แต่เด็กก็รู้จักไม้ล้างป่าช้ากายสิทธิ์นี้จากการ์ตูนโดเรมอนตอนที่โดเรมอนเอาเครื่องมือหาบ่อน้ำออกมา ดูแล้วหน้าตาก็เหมือนกับเครื่องจีที 200 และพี่น้องของมันเปี๊ยบเลย แถมทำงานเหมือนกันด้วย เวลาที่โนบิตะถือเครื่องที่เป็นแท่งลวดงอในมือหลวมๆ แล้วเดินไปเรื่อยๆ ปลายแท่งก็จะชี้ไปหาแหล่งน้ำใต้ดินได้อย่างปาฏิหาริย์

          ความเชื่อเรื่องลวดเดาว์ซิงมีมานานมากในประเทศทางยุโรป ทั้งใช้หาแหล่งน้ำ แหล่งแร่ หรือศพในป่าช้า ผู้ที่งมงายศรัทธาในไม้ล้างป่าช้าพวกนี้ มักจะนำเอาหลักการผลัก/ดูดแม่เหล็กมาอ้างเป็นคำอธิบายเสมอ แม้ว่าจะถูกพิสูจน์มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า ลวดเดาว์ซิงเป็นเรื่องลวงโลกแหกตา (bogus) แรงแม่เหล็กที่ว่าก็ไม่ได้มีกำลังมากพอที่จะดูดลวดในมือให้หมุนได้ ถ้าจะให้ทำได้จริง ก็ต้องใช้ขดลวดสร้างแม่เหล็กไฟฟ้าตัวใหญ่เท่าห้อง ถึงจะพอดึงแค่เข็มนาฬิกาให้เคลื่อนได้

          ที่เครื่องไม้ล้างป่าช้าพวกนี้ยังขายได้อยู่ ก็เพราะมันให้ผลการชี้ทิศทางที่กำกวม ไม่ได้ระบุเป็นตัวเลขแต่อย่างใด เมื่อค้นหาในพื้นที่เสี่ยง โอกาสที่จะชี้แล้วหาวัตถุระเบิด อาวุธ หรือยาเสพติดเจอก็มีสูงเป็นธรรมดา แต่ถ้าชี้แล้วไปหาไม่พบ ก็อ้างได้ว่าเครื่องมีความไวสูงจนชี้บริเวณที่ปนเปื้อนวัตถุที่ค้นหาเพียงเล็กน้อย หรือผู้หาหาไม่เจอเอง (ไม่นับรวมที่โบ้ยว่าผู้ใช้เครื่องพักผ่อนไม่เพียงพอด้วย)

          แล้วที่เสาอากาศของเครื่องหันได้เองล่ะ ก็ถ้าไม่ได้ตั้งใจเอนเครื่องเล็กน้อยให้เสาชี้ไปปรักปรำใคร เพราะตั้งธงไว้ก่อนแล้วว่าโรงเรียนนี้หมู่บ้านนี้มีผู้กระทำผิดอาศัยอยู่ ก็จะเกิดจากการเคลื่อนไหวของตัวผู้ใช้เครื่องเองด้วย “จิตใต้สำนึก” สั่งการว่ากำลังสงสัยใครหรือบริเวณใดอยู่ ตามปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Ideomotor effect แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อเล่นผีถ้วยแก้ว เมื่อแก้วเคลื่อนที่เองได้โดยทุกคนปฏิเสธว่าไม่ได้ดัน แต่จริงๆ แล้วดันไปโดยไม่รู้ตัว

          จากความงมงายในลวดเดาว์ซิง ซึ่งอย่างมากก็ใช้ต้มตุ๋นหลอกคนว่าจะหาแหล่งน้ำแหล่งแร่ให้ ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเป็นอะไร แต่ความเชื่อมั่นในเครื่องตรวจระเบิดที่อาศัยหลักการเดียวกัน กลับเหมือนกับเอาชีวิตผู้ใช้ไปแขวนไว้บนเส้นด้าย เอาผู้บริสุทธิ์มาเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว หรือแม้แต่เอาชื่อเสียงเกียรติยศที่ทำมาทั้งชีวิตไปเสี่ยง แม้ว่าจะเป็นความบกพร่องโดยสุจริตก็ตาม

          องค์กรใดที่ใช้ชื่อว่า “วิทยาศาสตร์” แต่เอาเครื่องมือที่เป็น “วิทยาศาสตร์เทียม” เช่นนี้มาใช้ หรือรับรองการันตีว่าเครื่องมือพวกนี้เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์อันทรงประสิทธิภาพ องค์กรนั้นควรจะมีความละอายแก่ใจ สำนึกต่อความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ หรือไม่เช่นนั้นก็เปลี่ยนชื่อไปเป็นองค์การ “ไสยศาสตร์” เสียดีกว่า

          เครื่องตรวจระเบิดลวงโลกพวกนี้ไม่ได้มีใช้อยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้วแม้แต่ประเทศเดียว แต่กลับแพร่หลายอยู่ในหมู่ประเทศกำลังพัฒนาที่ประสบปัญหาการก่อการร้ายและความมั่นคง มีการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นได้ง่าย รวมทั้งยังคงมีประชาชนที่หลงไหลศรัทธาในไสยศาสตร์มากกว่าที่จะยึดมั่นในความจริงทางวิทยาศาสตร์

          ยอมรับอย่างน่าเศร้าใจว่า ไทยเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เพื่อนร่วมชะตากรรมของเราไม่ว่าจะเป็นเม็กซิโก อินเดีย หรืออิรัก (ไม่เกี่ยวกับทหารอเมริกัน) ก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของไม้ล้างป่าช้าพวกนี้ แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากทั่วโลกปรากฏอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ บนอินเตอร์เน็ตให้รัฐบาลแต่ละชาติตระหนักถึงภัยอันตรายที่จะเกิดตามมาหรือเกิดขึ้นแล้วจากการใช้เครื่องตรวจแบบลวดเดาว์ซิง แต่ก็ไม่เป็นผล จะด้วยผลประโยชน์มหาศาลหรือทิฐิมานะที่มี หรือกลัวว่าจะต้องถอดหัวโขนตัวเองออกมาแสดงตัวตนที่แท้จริง ก็ไม่อาจจะทราบได้

          หรือจะอ้างว่ามีเครื่องมืออย่างนี้ย่อมดีกว่าไม่มี จะได้ให้เจ้าหน้าที่รัฐมีเกราะป้องกันตัวเองบ้าง แต่ถ้าเกราะที่เคยคิดว่าจะป้องกันตัวได้ชิ้นนี้ แท้จริงกลับกลายเป็นระเบิดฆ่าตัวตายที่พร้อมจะทำงานทุกครั้งที่เครื่องตรวจไม่เจอว่ามีระเบิด ทั้งที่จริงๆ มีซ่อนอยู่ จะไม่เจ็บปวดใจกันบ้างเลยหรือ คิดไม่ออกเลยว่าจิตใจของคนที่ยังสั่งการให้ใช้เครื่องพวกนี้อยู่นั้นทำด้วยอะไร ทั้งๆ ที่รู้ว่ากำลังหยิบยื่นความตายให้กับผู้น้อยในแนวหน้า

          หรือว่าคนไทยเรายังขาดกระบวนการคิดไตร่ตรองหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ อาศัยแค่ความศรัทธาจากที่เคยใช้เครื่องนี้ได้สำเร็จมาครอบงำจิตใจ จนลืมสงสัยเวลาที่เครื่องผิดพลาด เอาแต่เชื่อในสเป็กเครื่องกับเครดิตของฝรั่งที่มาสาธิตให้ดู ทำไมไม่ลองทำการทดสอบแบบ “ตาบอดสองทิศ (double-blind test)” ที่ผู้ค้นหาต้องไม่รู้ที่ซ่อน ไม่พบหน้าผู้ซ่อนของเลยตลอดการทดลอง และทดลองหลายสิบครั้งเพื่อลดโอกาสในการเดาถูก

          ความจริงแล้ว เครื่องจีที 200 และญาติพี่น้องของมัน ก็ได้เคยถูกเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.1996 ที่เครื่องควอโดร แทรกเกอร์ (Quadro Tracker) ถูกเปิดโปงว่าเป็นเครื่องลวงโลกโดยอัยการของสหรัฐอเมริกา และถูกเอฟบีไอดำเนินคดีไปแล้ว ต่อมาปี ค.ศ. 2007 เครื่องสนิฟเฟ็กซ์ซึ่งมีใช้ในบ้านเราเหมือนกัน ก็ถูกทางกองทัพเรือสหรัฐพิสูจน์ว่าใช้ไม่ได้ผลดีอย่างที่อ้าง ใช้ได้แค่ 50:50 เท่านั้น หรือเทียบเท่ากับโยนเหรียญหัวก้อยเอง

          ส่วนเครื่องโมล (M.O.L.E.) ที่ทำจากบริษัทเดียวกับเครื่องจีที 200 นั้นก็เคยถูกพิสูจน์ตั้งแต่ปี ค.ศ.2002 โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐแล้วว่าลวงโลกเช่นกัน บริษัทผู้ผลิตก็หนีออกไปเปิดใหม่ที่ประเทศอังกฤษ แล้วสร้างเครื่องจีที 200 ออกมาขายประเทศด้อยพัฒนาแทน ทำเอากระทรวงกลาโหมอังกฤษเดือดร้อนต้องออกแถลงการณ์ว่าไม่เกี่ยวข้องหรือเคยเอาเครื่องจีที 200 มาใช้เลย

          เรื่องโอละพ่อของ "ไม้ล้างป่าช้า" ก็มาถึงจุดสรุป เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐออกคำเตือนในเอกสารแนวทางการเลือกซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดของทั้งประเทศว่า ห้ามซื้ออุปกรณ์ตรวจระเบิดแหกตา (bogus explosive detector) ตระกูลที่ใช้หลักการลวดเดาว์ซิงนี้ทุกยี่ห้อ ขณะที่ก็มีการตั้งรางวัลอย่างงามจาก นายเจมส์ แรนดี นักจับผิดเรื่องลวงโลกชื่อดังถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้ามีใครพิสูจน์ได้ว่าเครื่องพวกนี้สามารถตรวจหาระเบิดได้จริง ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครกล้ารับคำท้า

          ใครหลายคนอาจจะคิดว่าไม้ล้างป่าช้าราคาตัวละหลายแสนนี้เป็นเรื่องไกลตัว เป็นปัญหาเฉพาะกับคนที่อยู่ชายแดนใต้ แต่เมื่อกระทรวงมหาดไทยประกาศรณรงค์กวาดล้างยาเสพติดขนานใหญ่ด้วยการส่งเครื่องอัลฟ่า 6 ลูกพี่ลูกน้องของจีที 200 ออกไปประจำการทั่วทุกอำเภอทั่วทั้งประเทศ บาปบริสุทธิ์ครั้งใหญ่กำลังจะเป็นภัยร้ายส่งตรง “ดีลิฟเวอรี่” ถึงตัวท่าน ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะหมดสนุกเมื่อถึงคราวซวย ขับรถผ่านด่านต่างจังหวัด แล้วโดนอัลฟ่า 6 ชี้ว่ามียาซ่อนอยู่ในรถ ถ้าโชคดีหาไม่เจอแต่พูดกันเข้าใจ ก็ปล่อยตัวไป แต่โชคร้ายพูดกันไม่รู้เรื่อง ได้ไปสอบสวนต่อที่โรงพัก หรือค้างแรมฟรีในห้องขังสักคืนสองคืน

          ถึงเวลาหรือยังที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะละเลิกทิฐิมานะในตัวตน แล้วหันมาพูดจากัน ยอมรับข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ด้วยความจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ถึงเวลาหรือยังที่จะหยุดยั้งการสูญเสียของกำลังพลในแนวหน้า และสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจของคนในท้องถิ่น ตลอดจนสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไปจากการใช้ “ไม้ล้างป่าช้ากายสิทธิ์” ที่แอบอ้างตนเป็นเครื่องตรวจมหัศจรรย์นี้ ถึงเวลาหรือยังที่ภาครัฐจะทุ่มเทงบประมาณไปจัดซื้อเครื่องตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง (ดังเช่น เครื่องไฟโด ฯลฯ) ทุ่มเทงบไปที่การข่าวและการฝึกกำลังพลสุนัขตำรวจสุนัขทหารเพิ่มเติม

          มีคำกล่าวเตือนใจทางนิติวิทยาศาสตร์อยู่ว่า “คนเอียง วิทยาศาสตร์ไม่เอียง” ประเด็นไม้ล้างป่าช้าลวงโลกในครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างคลาสสิกที่สุดสำหรับคติพจน์ดังกล่าว เพราะชัดเจนว่าความจริงทางวิทยาศาสตร์นั้นไม่ได้เอียงเข้าข้างใคร ไม่ว่าจะโด่งดังหรือยิ่งใหญ่แค่ไหน อะไรที่ไม่ถูก อะไรที่ใช้ไม่ได้ อะไรที่เป็น “วิทยาศาสตร์เทียม” ย่อมถูกเปิดโปงในที่สุด

          ส่วนคนที่ยึดติดกับหัวโขนตัวเองกับทิฐิมานะตัวเอง หรือแอบอ้างความเป็นวิทยาศาสตร์ คนผู้นั้นแหล่ะที่ “เอียง”
 
 
  Re: ด่านตรวจอาวุธและวัตถุระเบิด
&laquo; ตอบ #62 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 05:04:48 PM &raquo;   

--------------------------------------------------------------------------------

ด่วน+สำคัญมาก "ขออาสาสมัครรณรงค์ต่อต้านเครื่องตรวจระเบิดลวงโลก"   

หลังจากความพยายามทุกวิถีทางตามระบบระเบียบราชการ ไม่ได้ส่งผลให้เครื่องตรวจระเบิดลวงโลก (GT200, Alpha 6, Sniffex, ADE-101, etc.) ได้ถูกระงับการใช้หรือจัดทดสอบทางวิทยาศาสตร์แต่ประการใด รัฐบาลก็ไม่เคยสนใจ ฝ่ายค้านก็ไม่รับลูก สื่อมวลชนก็เงียบหมด .....
ถึง เวลาแล้วที่จะต้องอาศัยพลังของประชาชนธรรมดาตาดำๆ อย่างพวกเรา ที่จะร่วมกันรณรงค์ต่อต้านเครื่องตรวจระเบิด ตรวจยาเสพติ ลวงโลกพวกนี้ ด้วยการช่วยกันส่งต่อ forward อีเมล์ (ดูตัวอย่างในรูปประกอบ) ไปให้ถึงคนไทยทุกๆ คน ก่อนที่กระแสความงมงายในเครื่องลวงโลกพวกนี้จะแพร่ไปทั่วประเทศ แล้วจะช้าเกินกว่าแก้ไขได้อีก
โปรดส่งอีเมล์มาขอ "forward mail" ได้ที่ AntiGT200@gmail.com และโปรดนำข้อความในไปโพสต์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่เห็นว่าเหมาะสม ..... เราจะขอชื่นชมความกล้าหาญและความเสียสละของท่านตลอดไป 
 
 

 Re: ด่านตรวจอาวุธและวัตถุระเบิด
&laquo; ตอบ #63 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 05:56:42 PM &raquo;   

--------------------------------------------------------------------------------

จากประสบการณ์ เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มีธุระจะต้องนั่งรถโดยสาร จาก จังหวัดนึงไปอีกจังหวัดนึง(ทุกทีจะขับรถไปเอง) มาถึงด่านตรวจค้นยาเสพติด เจ้าหน้าที่ขึ้นมาบนรถ แล้วเดินใช้เจ้าเครื่องตัวที่ คุณPeerapat ทำลิ้งค์เอาไว้ แล้วก็มีเสียง บี๊บๆๆๆๆ เจอยาบ้า 1ถุง ที่ผู้โดยสารคนนึง งานเข้าครับ รถที่ผมนั่งติดแง่ก ที่ด่านเป็นเวลาพักใหญ่ ช่วงที่รอ เลยไปคุยกับ จนท. และดูเจ้าตัวที่ว่า เห็น จนท. บอกว่าตรวจ อาวุธก็ได้ เพียงแต่เอา เปลี่ยนชิป ลักษณะเป็น แผ่นการ์ด ใส่เข้าไป เลยได้มีโอกาส ลูบๆคลำ เจ้าเครื่องมือดังกล่าว ขอบคุณ จนท. ท่านนั้นไว้ด้วยครับที่ให้ความรู้  

อ่าน3กระทู้นี้แล้วไม่รู้จะเชื่อข้อไหนดี ??? :D

กำลังจะพูดอยู่พอดีเลยครับ  ฝรั่งมันคงมาเห็นของเรา  คือ ไม้ล้างป่าช้า (เป็นลวดคล้ายๆกัน  ชี้ว่ามีศพถูกฝังอยู่ตรงไหน)  และไม้หาผีปอบ (ไม้ที่คนถือแล้วแกว่งๆ วิ่งไปหาผีปอบ จับผีปอบลงหม้อ เป็นที่นิยมทางภาคอิสาน)

คนไทยมีมานานแล้วล่ะ   ;D ;D ;D

;Dแสดงว่าไสยศาสตร์ไทยก้าวไกลกว่าวิทยาศาสตร์เมืองนอกนะเนี่ย :D

ทุกวันนี้แตกประเด็นนำมาออกอากาศทางช่อง3กับเครื่องมือตรวจสอบวัตถุระเบิด เป็นที่ถกเถียงของนักวิชาการกันยกใหญ่ แต่ผมว่าไอ้เครื่องนี้มันน่าจะ 30-70%นะ(70%น่ะคือไม่น่าเชื่อถือ ::014::) ;D ;D

 ::013:: ::013::

อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ  ผมไม่เชื่อไอ้เครื่องนี้ตั้งแต่คุณพรทิพย์นำเสนอแล้วครับ  ::014::

ตอนนี้พวกที่วางระเบิดกำลังหัวเราะชอบใจกันที่ได้เห็นการสาธิตการใช้เครื่องตรวจจับระเบิด มันก็จะได้ดัดแปลงแก้ไขในส่วนมันวางแล้วโดนจับได้ เพราะทหารสาธิตออกทีวีให้เขาดูฟรีๆไม่ต้องเสียซักตังค์แดงเดียว

ขอบคุณที่นำบทความมาเผยแพร่กันครับ

ขอไม่วิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงของเครื่องเหล่านี้

แต่ขอแสดงความเห็นว่า รูปแบบการนำเสนอ การใช้ตรรกะวิเคราะห์ การยกข้อมูลตัวอย่างประกอบ และการอ้างอิงแหล่งข้อมูล ของบทความนี้

ไม่เป็นวิชาการเลยครับ

ผศ.ดร.  คนนั้น  น่าจะทำเครื่องที่  ดีจริง ๆ ให้ใช้ฟรี  หรือขาย  ให้ หน่วยทหาร คงจะดีนะ ::002::

...................... :VOV:.................ช่วยงานได้เยอะดีครับ...................... :VOV:.......................... ::014::

ตรวบจับได้ครับ  ผมโดนมาแล้ว :~) พอดีว่าแฟนเป็นทหารพรานอยู่ เขาพากลับมาเล่นที่บ้าน 1วัน ก็เลยลองเล่นดู ตรวจเจอครับแค่เดินผ่านถ้าในตัวมีคราบของเชื้อประทุหรือดินระเบิดเจอหมด เด็กตานี

แฟนของท่านเป็นทหารพรานหญิงหรือครับ?

ตัวละหนึ่งล้านสองแสนอับ ทหารพรานเอามาเล่นที่บ้านโอ้พระเจ้า เจ้านายครับ...เจ้านาย

ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อเลย ไม่เห็นด้วยตามหลักวิทยาศาสตร์ แหล่งพลังงานไม่มี
ถ้ามาจากไฟฟ้าสถิตในตัวคน แล้วมันจะเข้าเครื่องได้ไง(ผมไม่เคยใช้นะเห็นแต่ในรูป)
ถ้าผมดูไม่ผิดนะ ที่จับมันเป็นฉนวน นะ ถ้าผิดพลาดก็ขอโทษด้วย
ตามหลักฉนวนไม่นำไฟฟ้า แล้วไฟฟ้าสถิตในตัวคนเข้าเครื่องยังไง
แล้วถ้าไฟฟ้าเข้าเครื่องได้ มันใช้ไฟฟ้า แบบไหนกระแสตรง หรือกระแสสลับ
หรือเป็นเบบสนามแม่เหล็ก งง ตามข่าวบอกว่าไม่มีวงจร electronic แล้ว electron
มันจะวิ่งยังไง
สงสัย ทุกอย่าง จึงสรุปว่า ไม่น่าเชื่อ