เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ท่านใดเคยเข้าป่าแล้วเจออสรพิษแบบผมมั่งครับ จังๆเลยนะเมื่ออาทิตย์ปลายเดือนนี่เองผมกลับบ้าน แล้วเลยไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิมันเลยพาเที่ยวป่าในเขตรักษาพันสัตว์ป่า ตะเบาะ-ห้วยใหญ่ รอยต่อ เพชรบูรณ์-ชัยภูมิ
  เดินเข้าป่าไปได้ชั่วโมงกว่าๆเองเจอของดีสิครับ  จงอางตัวเท่าแขนยาวตั้งเกือบ 4 เมตรขวางทางอยู่เพือนผมบอกให้ผมอยู่นิ่งๆเดี๋ยวมันก็ไป แต่มันเล่นยกหัวแผ่แม่เบี้ยใส่ ผมก็โดดขึ้นต้นไม้เลยสิครับเร็วอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เรียกว่าบั้งสเดิด หันลงมาดูเพือนผมด้วยความเป็นห่วง อ้าวตามผมมาติดๆนั่งข้างผมเลย  ผมเลยบอกว่า เฮ้ยยิงเลย(เพื่อนหิ้วอีเดี่ยวมาด้วย)มันบอกไม่อยากยิงว่ะตัวใหญ่ไปเดี๋ยวคู่มันมาล้างแค้น :~) มันเฝ้าเป็นชั่วโมงเลยครับ จนเพื่อนผมนั่นแหละทนไม่ได้เองยิงโดนยหัวมันแล้วหิ้วกลับบ้าน  ต้มยำกินกันหมดเหล้าไปหลายขวด ตอนพากันเดินกลับบ่นมันไปตลอดทางเลยถ้ายิงตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง :~)

ใครเคยเจอแบบผมจังๆแบบนี้มั่งครับช่วนเล่าให้ฟังที แล้วตั้งสติกันยังไงครับ :o

น่าจะมีภาพมาฝากด้วยนะครับ  เจอสัตว์พวกนี้ต้องตั้งสติให้ดีครับ อย่าตกใจ   จงอางเลื้อยไวนะครับ อาจจะวิ่งหนีไม่ทัน  กัดได้พ้นหัวน่ะครับ  จ้องตามันไว้ดีๆครับ งูถ้าจะฉก มันจะหลับตาครับ    :OO :OO

เสียววววว......   ผมกะงูมะค่อยถูกกัน

ผมม่ายมีกล้องคร้าบ :~) ว่าจะซื้อไว้อยู่เหมือนกันแต่เก็บไว้รอ G19 อยู่คับ

น่าจะจับมาเป่าปี่เรียกงู แบบภาพที่ 3 นะครับ  :OO

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

เจองูเขียวผมก็วิ่งแล้วครับ

 :OOอารายกานนนน...กลัวงูแบบนี้ต้องส่งไปเป็น หน.ช่างแถว ๆ หนองโดน แถวนั้นนะจับงูกินกันเป็นเรื่องสนุกสนาน....หนีลงรูก็ขุด...โดนฉกก็ให้พรรคพวกขี่แม่งกาใซค์ไปอนามัย ;D

เรื่องงูไม่ต้องพูดถึง  :OO :OO

ไม่ทำร้ายพวกเดียวกัน เพราะผมเกิดปีงูเล็กครับ

โชดดีนะที่เจอมันก่อน ถ้ามันเจอเราก่อนหล่ะ ฮึ แม่อยากคิดครับ

โถ่โดนยิงเสียแล้ว หาตั้งนานไปอยู่ตั้งรอยต่อ เพชรบูรณ์-ชัยภูมิ นั่นเอง แล้วจะหาที่ไหนมาใส่ศรีษะล่ะเนี่ย  ;D ;D  :D :D  ;) ขำๆ นะครับ ;D

ผมปีมะโรง งั๊ยกลัวงู :OO

แค่เห็นห่างๆ แถมอยู่ในกรงยังสยองเลย  :OO :OO

กลัวเมียนี้เกิดปีไหนครับพี่    ::) ::) ::) ::)

              เล่นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์เลยเหรอครับ  เป็นผมเผ่นแบบไม่เห็นฝุ่นครับเพราะผมไม่ถูกกันจริงๆกับงู  กินแต่กลัวมีพิษไม่มีพิษไม่เคยคิดคบเลยงูเนียะ  จัวววววววววว

...อ่านแล้วสงสัยนิดเดียวว่ายิงงูจงอางในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ได้หรือครับ หรือว่ามันไม่ใช่สัตว์สงวน  ::) 8)

...ความจริงยิงในเขตไม่ได้นะครับ...แต่คงเพราะความจำเป็นเลยต้องยิงมาผัดกระเพรา..แซบดีหลายเด้อ... ;D

ไม่รู้เด๊ะ แต่ที่รู้ สงสัยจะเป็นปีมะโรง ง๊ะ :'( :'(

สมัยหนุ่มๆวัยกำลังห้าวชอบเที่ยวป่า ครั้งหนึ่งเข้าไปเที่ยวแถวเทือกเขาสอยดาว จันทบุรีเย็นนั้นฝนตกหนักจำเป็นต้องหาที่หลบเพราะไม่มีเต็นและอุปกรณ์กันฝนไปด้วย กว่าจะเจอถ้ำเล็กๆที่ต้องคลานเข้านอนหลบฝนเพราะผนังถ้ำต่ำมากไม่สามารถนั้งได้ ผมกับเพื่อนจึงต้องนอนหลบฝนทั้งเปียกๆ และในถ้ำก็มืดมาก  เพื่อนๆเคยนอนโดยที่ผนังถ้ำด้านบนห่างจากใบหน้าเราประมาณคืบกว่าๆมั้ยและมีค้างคาวบินผ่านใบหน้าดังวิ๊ดๆ ผมและเพื่อนไม่กล้าเปิดไพฉายกลัวม้นตกใจพากันบินออกมาชน เวลาผ่านไปสัก10นาทีเห็นจะได้เพื่อนผมสกิดและกำแขนผมไว้แน่นพร้อมกับกระซิบเบาว่าอย่าขยับพักผมก็รู้สึกว่ามีอะไรอย่างหนึ่งเคลื่อนตัวจากลำตัวเพื่อนซึ่งนอนติดกันเพราะถ้ำแคบมาก มันเลื้อยข้ามมาสู่ตัวผมตรงช่วงท้องพอดีผมรู้สึกได้ถึงหนักของลำตัวมัน ผมไม่เคยกลั้นลมหายใจได้นานขนาดนั้นมาก่อนเลย อึดใจยาวๆนั้นมันก็เลื้อยผ่านเราไปผมไม่มีโอกาสได้รู้ด้วยซ้ำไปว่ามันเป็นงูอะไรแต่ขนาดของมันก็พอๆกับท่อนแขน และการที่มันไม่ทำร้ายเราผมคิดว่าเสื้อผ้าผมและเพื่อนเปียกฝนจึงไม่มีความร้อนในร่างกายละเหยออกมาให้มันรู้สึกได้
                                 

นึกภาพยังขนลุก :OO

รสชาติมันแบบไหน กินแล้วร้อนหหรือเปล่าอยากรู้ เคยกินแต่งูเหลือมตัวโต (ที่ใด้เพราะมันกินเก้งแล้วไปไม่รอด รอย่อย) เนื้อของงูเหลือมย่างไฟเหลืองอ๋อยจิ้มน้ำปลาอร่อยมาก. ;)

น่ากลัวมาก ๆ เลยคะ :OO :OO :OO ถ้าเจอจริง ๆ นู๋ช็อกแหง๋ ๆ :OO :OO :OO

โธ่พี่สน ตัวขนาดนันไม่วิ่งก็เกินคนแล้วคร้าบบบบ   แต่ถ้าลองเป็นงูสิงดูเด่ะวิ่งหากะทะไปแล้ว

ยังไงก็ถวายลูกปืนก่อน 1 ดอกครับ ยิ่งถ้าเจอระยะเผาขนอย่างว่าเนี่ยยิงไว้ก่อนครับ
หน้านี้งูเริ่มจับคู่แล้วครับ ไม่จำเป็นอย่าพึ่งเที่ยวป่าเลยครับ ยิ่งเดือนตุลา พฤศจิกา เนี่ยให้เอาช้างมาลากไปเที่ยวป่ายังไงก็ไม่ไป
เคยเจอกันบ่อยครับ เคยเจอแบบจวนตัวจริงๆก็แค่พุ่งลอดขา
ขนาดเท่าแขนเนี่ยกำลังอร่อยครับไม่เหนียวมาก เนื้อเหมือนไก่ ขาวๆซีดๆ กินแล้วร้อนต้องกินไปถอดเสื้อไป.....(ร้อนเพราะเหล้าขาวมากกว่า  ;D)

ยิงด้วยลูกเก้าหรือลูกปรายครับ

 :OO :OO :OO :OOผมกลัวงูครับไม่ว่าเล็กใหญ่ ขอวิ่งก่อนครับ :-\

 ;D ;Dไม่รู้จริงหรือเปล่านะครับที่เขาว่า ถ้างูมันหันมามองตรงๆ หน้าเรามันจะมองเห็นไม่ชัด แต้ถ้ามันเอียงข้างให้เราละก็มันจะมองเห็นชัดเเจ๋วเลยละครับ(ผมไม่เคยให้มันมองจังๆ สักที มีแต่เจอกันทีไรวิ่งกันตับทรุดทุกที....) ;D ;D

ต้องลองส่งงู (เวป) ไปปะทะกับ (ร้าน) แขก...

 :OO :OO :OO กลัวที่สุด  :OO :OO :OO

ยิงด้วยปืนขนาดอะไรครับ 8)อยากรู้อะครับ ;D

อสรพิษทุกชนิด  หลีกได้เป็นดีครับมันมีคู่และอาฆาตแรงครับ...อย่าฆ่ามันตอนเที่ยงโดยเฉพาะตอนแดดแรงๆครับ   ฟังจากหมองูมาเขาว่ามันจะอาฆาต+พยาบาทแรงกว่าปรกติครับ

 :).จงอาง คู่ของมันอาฆาต  แต่ไม่ต้องกังวล ถ้าไม่ทิ้งซากไว้ .. แต่ถ้าทิ้งซากไว้ มันเอาตายแน่ ไล่ทุกคน กัดไม่เลือก..
    โชคดีจัง ครับ คุณsoveat..  ถ้ามันไล่ คิดหนีต้องคาดว่าหนีแล้วพ้น. ถ้าไม่ขึ้นต้นไม้ อาจเสร็จมันไปแล้ว.
    ไม่ก็ต้องเลือกที่จะยิงหัว หรือยิงให้โดนพอให้หยุด แล้วเข้าไปซ้ำอีกทีครับ.. :)
 

 :D :D  ผมเคยเจอครั้งนึง...วันนั้นหาอะไรรับประทานไม่ได้เลย...จะว่าไม่มีก็ไม่เชิง...ได้รับประทานข้าวเหนียวกับแจ่วและผักติ้ว...(ถ้ารู้แบบนี้ไปรับประทานต้มงูจงอางคงอร่อยกว่าเป็นใหนๆ) :D :D

 :VOV:เป็นงูที่สวยรองจากงูเห่าในสายตาผม แต่ยังน่ารักน้อยกว่าจระเข้ :VOV:

 ;D สับให้พอแหลก      ผัดกับกระเพราป่า      รวนให้แห้ง ๆ :D~ :D~

...อืมมม์  ผมว่ามีสมาชิกหลายๆ ท่าน ที่เห็นงูแล้วน้ำลายสอ   :D~

เสียววววๆๆๆๆๆ
เคยได้ยินจากผู้เฒ่าที่บ้านท่านบอกว่า พวกงูเห่า,จงอาง เวลากลางวันแดดจัดๆมันตามันจะแพ้แสง ดูพร่ามัวมองอะไรไม่ชัดครับ และพยายามอย่าเคลื่อนไหวครับมันจะได้ไม่เห็นเรา แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืน เสร็จแน่ๆ ตัวใครตัวมันครับ

เสียวครับ :D :D :D

อันนี้ซิเด็ดครับพี่ป้อม ;) ;) ;) ;)

งูไม่เคยครับ เคยเจอแต่เหี้ยวิ่งไล่ครับ !!! ทำงานที่กาฬสินธุ์ ตกเย็นนั่งกินเหล้ากับลูกน้องที่แค๊มป์ ชักปวดฉี่ ก็เดินไปฉี่ (เป็นไร่มันครับ มีหนองอยู่ทั่ว) เดินกลับมาเพื่อนโผล่ขึ้นมาจากหนองพอดีตรงหน้าเลยครับ ตัวขนาดขาอ่อน อารมณ์เมาและมืดนึกว่าจรเข้ ร้องเฮ้ยลั่น โกยเข้าหาพรรคพวกทันที เจ้ากรรมมันตกใจเสียงผม หรือเปล่ามันดันวิ่งตาม ลูกน้องเห็นหัวเราะลั่น พี่นั่นมันเหี้ย ถือไม้วิ่งไล่ตีกันสนุกสนาน พอผมรู้ว่าวิ่งหนีเหี้ยมา อายแทบแทรกแผ่นดินครับ วิ่งกลับห้องไล่ยิงมันด้วย 9 มม. สุดท้ายได้มาแกล้มเหล้าจนได้ ไม่เคยกินก็ต้องกินให้หายแค้น โธ่ ไอ้เหี้ยเอ๊ยยย....ทำเราเสียฟอร์มหมด จนเดี๋ยวนี้พวกลูกน้องเก่าๆมันยังล้ออยู่เลยครับ :~) :~)

ผมเหมือนกันครับไม่ถูกโรคกับงูครับ  เคยเจอตอนเด็กครับ  กลับจากโรงเรียนกำลังจะเอาเสื้อไปใส่ตะกร้าซักหลังบ้าน  จองูเห่าขดอยู่ตรงหน้าประตูระหว่างทางเดินครับ  กระโดดเข้าบ้าน  ปิดประตูไม้สูง 180 เซน โดยไม่ต้องใช้เก้าอี้ต่อขาเลยครับ (อายุประมาณ 8 ขวบ) กลัวมากครับสงสัยติดมาจนวันนี้ครับ

ลองเหมือนผมสิครับ
ขับรถมอเตอร์ไซด์บนถนนลูกรัง ฝนตกพรำๆ
ผ่านโค้งออกมา เอี้ยตัวโตกว่าขาขวางหน้าอยู่
เราหลบไม่ทัน พวกก็ไม่หลบเรา

รถไปทาง คนไปทาง....สิครับ...
โงหัวขึ้นมา เอี้ยเจ้ากรรม ไม่อยู่แล้วครับ
เสื้อผ้าแดงเถือก..ก.ก....ไปด้วยโคลนลูกรัง......
จุกจนต้องนั่งยองๆอยู่เกือบ15นาที

ตู๊ดดดดด.......     กบว. ดูดเสียง      ;D :D ;) 5555  ล้อเล่น


พญางูมา....  ไปดีกว่า

 
 :D :Dน่าสงสารท่านซับครับ..ใครไม่เคยไม่รู้หรอก :D :D

ยาวตั้ง 4 เมตร เสียวครับ แต่ก็เสร็จคุณ SOVEAT

ตอนนั้นเรียนอยู่ที่ มอ.ปัตตานี ช่วงนั้นเป็นฤดูฝนหรือช่วงมรสุมเข้าจำไม่ได้ รู้แต่ฝนตกตลอด พอดีผมไปได้ลูกงูหลามมาจากยามที่เฝ้าประตู มอ. เลยเอาไปเลี้ยง วันนึงฝนตก ไม่มีเรียน นอนเล่นอยู่ ไอ้หมาพุดเดิล 2 ตัวของแฟนผมก็เห่าโวยวายขึ้นมา พอออกมาดูเห็นมันเห่าที่ตะกร้างูหลาม ก็ยังไม่คิดอะไรชะโงกเข้าไปดูใกล้ๆ เด้งหนีแทบไม่ทัน งูเห่าตัวดำมะเมื่อมนอนขดอยู่ข้างหลัง เลยเรียกเพื่อนอีกคนออกมาช่วยกันไล่ ถือร่มกันคนละคัน กางๆหุบๆเคาะให้มันตกใจ มันเลื่อยออกมาแผ่แม่เบี้ยเลย ต้องกระโดดหนี ดีที่มันยอมไปง่ายๆ ไม่รู้มันมานอนกับงูของเราทำไม ผมเลยปล่อยไปเลย ไม่ล้งไม่เลี้ยงมันแล้ว

 ;D ;D สนับสนุนครับ แต่ต้องถอดกระดูกก่อนนะครับกระดูกงูจะแข็งมาก :D :D

เคยเจอจังๆเหมือนกันครับ   ตอนนั้นชอบเที่ยวป่าไปเจอจงอางที่ทางใต้   จังหวัดตรังไม่กล้ายิงครับกลัวพาดนะครับ    ปืนลูกกรดครับกลัวเอาไม่อยู่ระยะแค่3-4เมตรเอง   ก็ได้แต่ยืนนิ่งๆแล้วคิดในใจว่าทางใครก็ทางมันต่างคนต่างไปก็แล้วกัน     สักพักเขาก็เลื้อยเข้าป่าหายไปเลย :<><> :<><> :<><>

2 เมตร นี่ไม่เอาแล้วครับ เจอขนาด 4 เมตรคงแย่

เมื่อปีก่อน บ้านผมเลี้ยงหนู แฮมสเตอร์ไว้หลายสิบตัวครับ มีกรงไว้ข้างล่าง ตอนเช้าผมเดินลงมา มีงูเหลือมขนาดประมาณ 2 เมตรกว่าๆ  :OO :OO :OO เข้าไปในกรงครับ กินหนูหมดเลย  :~) :~) :~) แล้วเลี้อยออกจากกรงไม่ได้ (คือ ท้องบวมขึ้นเยอะ) เลยครึ่งตัวอยู่นอกกรง แล้วอีกครึ่งอยู่ในกรง  ;D ;D สรุปเลยต้องเรียกเค้ามาจับส่งสวนสัตว์ตามระเบียบ

ในชีวิตประจำวันของคนเรา โอกาสที่จะถูกงูกัดมีไม่มากนัก แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยมีความเสี่ยงที่จะถูกงู หรือสัตว์ที่มีพิษกัดต่อย เนื่องจากสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัย หรือการดำเนินชีวิต โดยที่หลายคนยังไม่มีความรู้ในการดูแลรักษาตัวเองหลังถูกงูพิษกัด มิหนำซ้ำยังมีความเชื่อที่ผิด ๆ อีกด้วย

ดังนั้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “X-RAY สุขภาพ” จึงมาพูดคุยกับ ผศ.น.พ.สุชัย สุเทพารักษ์ สาขาวิชาพิษวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผศ.น.พ.สุชัย กล่าวว่า จากสถิติในปีหนึ่ง ๆ ประเทศไทยมีคนที่ถูกงูกัดประมาณ 7,000-10,000 ราย ประมาณ 30% เป็นงูพิษ สำหรับงูพิษที่กัดมากที่สุด คือ งูกะปะ และงูเขียวหางไหม้ พิษของงูเหล่านี้จะมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด บริเวณที่ถูกกัดจะบวมมาก ในกรุงเทพฯ งูที่กัดส่วนใหญ่เป็นงูเขียวหางไหม้ ส่วนงูประเภทอื่น ๆ ก็มีบ้างเช่น งูเห่าถ้ารักษาไม่ทัน มาโรงพยาบาลช้าคนไข้หยุดหายใจอาจเสียชีวิตได้

วิธีการรักษาตัวเองในเบื้องต้นก่อนมาพบแพทย์นั้นค่อนข้างจะมี หลากหลายวิธี อาจถูกบ้างผิดบ้าง โดยวิธีที่ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์ เมื่อคนไข้โดนงูพิษกัด พยายามอย่าเคลื่อนไหวอวัยวะที่ถูกกัด เพราะการเคลื่อนไหวจะกระตุ้นให้พิษงูถูกดูดซึมมากขึ้น แผลที่บวมก็จะบวมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากถูกงูกัดที่บริเวณแขนก็ให้หาอุปกรณ์มาดามแขนเอาไว้ แต่หากถูกกัดบริเวณขาคงลำบากหน่อย และควรทำการล้างแผลด้วยน้ำสะอาดเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ

การใช้มีดกรีดแผลเพื่อบีบพิษงูออก การใช้ไฟจี้ ไม่พบว่าได้ประโยชน์ ตรงกันข้ามอาจทำให้เนื้อบริเวณที่ถูกงูกัดเป็นแผลติดเชื้อง่ายขึ้น ส่วนการใช้ปากดูด บริเวณที่ถูกงูกัดคนดูดไม่เป็นอันตรายหรอกครับ แต่คนถูกดูดอาจเป็นอันตรายจากเชื้อโรคทำให้เกิดแผลติดเชื้อได้ ดังนั้นการกรีด ดูด จี้ บริเวณที่ถูกงูกัดไม่น่าจะทำ การใช้สมุนไพรพอกหรือทาก็เช่นกัน อาจจะได้ประโยชน์ในแง่การรักษาแผลที่โดนงูกัด แต่การรักษาพิษงูในกระแสเลือดคงไม่สามารถรักษาได้

การใช้เชือกหรือยางรัดบริเวณเหนือแผล โดยทั่วไปไม่เชื่อว่าน่าจะได้ประโยชน์และหากรัดไม่ถูกวิธีอาจจะเกิดโทษได้ เช่น บางคนตกใจรัดจนแน่น ทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงบริเวณส่วนที่โดนงูกัดเลย อาจจะเกิดเนื้อเยื่อเสียหาย เนื้อเยื่อตาย ยิ่งเป็นงูกะปะ งูเขียวหางไหม้ หรืองูแมวเซา คนไข้จะไม่เสียชีวิตทันที แต่แผลที่ถูกกัดจะบวมมาก หากเอาอะไรไปรัดจะยิ่งทำให้แผลบวมและแย่กันไปใหญ่ ที่สำคัญคนไข้ควรรีบมาพบแพทย์ภายใน 2 ชั่วโมงหลังถูกกัด ยิ่งถ้าเป็นงูเห่าต้องมาเร็วกว่านั้น ยิ่งเร็วยิ่งดี

ขั้นตอนการรักษาคนไข้ถูกงูพิษกัด เมื่อคนไข้มาโรงพยาบาลแพทย์จะดูความดันโลหิต ดูการหายใจ ถ้ามีปัญหาต้องรีบแก้ไข เช่น ถ้าคนไข้หยุดหายใจจากการถูกงูเห่ากัด ก็จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นก็ดูแผลว่าถูกงูพิษกัดหรือไม่ โดยดูจากรอยเขี้ยว และการบวมของแผล รวมทั้งสอบถามคนไข้ว่าเป็นงูพิษชนิดใด ซึ่งบางคนอาจบอกไม่ได้เพราะไม่เห็น หรือไม่รู้จัก แพทย์ก็อาจจะวินิจฉัยจากอาการของคนไข้ หรือบางกรณีอาจวินิจฉัยโดยการเจาะเลือดไปตรวจ

แพทย์จะให้การรักษาคนไข้ตามชนิดของงูที่กัด ซึ่งการให้เซรุ่มนั้นคนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าเมื่อถูกงูกัดแพทย์จะต้องให้เซรุ่มเสมอ ไม่มีเซรุ่มแย่แน่ จึงขอชี้แจงว่า เมื่อคนไข้ถูกงูที่มีพิษต่อระบบเลือดกัด ไม่ได้หมายความว่าแพทย์จะต้องให้เซรุ่มทุกคน เพราะการให้เซรุ่มจะมีตัววัดระดับความรุนแรงโดยการสังเกตอาการและเจาะเลือดไปตรวจด้วย ที่ผ่านมามีคนไข้ถูกงูเขียวหางไหม้กัดไม่จำเป็นต้องให้เซรุ่มก็ หลายราย ให้เพียงยาแก้ปวดก็พอ และให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ ส่วนบริเวณที่ถูกกัดพยายามยกให้สูงไม่ให้เลือดไหลลงไปบริเวณแผลที่ถูกกัดเพื่อไม่ให้เกิดอาการบวม

ในกรณีที่เป็นงูเห่า หรืองูจงอางกัด ในที่นี้จะพูดถึงเฉพาะงูเห่า เพราะงูจงอางพบได้ไม่บ่อยนัก ถ้างูเห่ากัด อาการแรกที่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ หนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น เพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการแบบนี้จะให้เซรุ่มได้เลย เพราะหากปล่อยทิ้งไว้คนไข้อาจหยุดหายใจ ในกรณีพื้นที่ห่างไกลไม่มีเซรุ่มระหว่างการส่งต่อคนไข้จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไปตลอดทาง

คนไข้ที่ถูกงูกัดและเสียชีวิตส่วนใหญ่เพราะถูกงูเห่ากัด เนื่องจากคนไข้มาถึงมือหมอช้า หยุดหายใจนานแล้ว บางรายอาจช่วยชีวิตได้แต่การที่คนไข้หยุดหายใจไป นาน ๆ สมองก็เสียไปแล้ว อยู่อีกไม่กี่วันก็เสียชีวิต ส่วนที่ถูกงูเขียวหางไหม้ส่วนใหญ่มักจะไม่เสียชีวิต ดังนั้นไม่ต้องตกใจมาก เพราะถ้าตกใจมากอาจจะรีบเร่งขับรถไปโรงพยาบาลจนเกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนงูกะปะอาจมีเสียชีวิตบ้าง เพราะบางครั้งคนไข้มาหาหมอช้า แผลที่ถูกกัดเริ่มเน่าเปื่อยเกิดการติดเชื้อจนเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้

ในกรณีที่โดนแมลง สัตว์กัดต่อย มีพิษไม่มาก เช่น ตะขาบ แมงป่อง ผึ้ง แตน นั้น การบรรเทาอาการปวดในเบื้องต้นคือการรับประทานยาพาราเซตามอลแก้ปวด และการประคบเย็นบริเวณที่ถูกกัด หรือต่อย ป้องกันอาการบวม แต่ถ้าอาการปวดรุนแรง ยาพาราเซตามอลเอาไม่อยู่ เช่น คนไข้โดนตะขาบก็มักจะมาพบแพทย์ เพราะทนไม่ไหว ซึ่งเราจะให้ยาแก้ปวดแบบฉีดที่แรงกว่าพาราเซตามอล หรือบางครั้งอาจฉีดยาชารอบแผลให้เกิดอาการชาจะได้ไม่ปวดมาก จากนั้นก็ให้ยาแก้คัน แก้แพ้กลับไปกินที่บ้าน
 
ข้อแนะนำสำหรับคนไข้ที่โดนผึ้งต่อย ควรรีบเอาเหล็กในออกโดยเร็ว เพราะเหล็กในจะมีต่อมพิษติดมาด้วย ถ้าปล่อยทิ้งไว้ต่อมพิษจะปล่อยพิษมากขึ้น วิธีง่าย ๆ คือ เอาของแข็ง ๆ ขูดบริเวณที่โดนต่อย

ท้ายนี้เชื่อว่าผู้อ่านคงจะมีสติมากขึ้น เพราะถ้าหากวันหนึ่งเกิดโชคร้ายถูกงูกัด หรือคนรอบข้างโดนงูกัด อย่างน้อยจะได้ไม่ตกใจจนเกินเหตุ คุมสติให้อยู่ และรู้จักวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยต่อลมหายใจให้กับชีวิตได้อีกต่อไป.

         ทำต้มยำครับ ถอดกระดูก แล้วนำไปทอดให้กรอบ.....ไม่ต้องทิ้งกระดูกครับ กินได้หมด ยกเว้นหัว....เหอะ ๆ ๆ น้ำยาย หยายยยย :D

ต้มยำจงอางแซบบบบบบมากกกก :D~ :D~
หมดเหล้าไปสี่ห้าขวด :D~ :D~
แล้วก็นอนกลิ้งอยู่แถวๆนั้นแหละ :~)