เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: rucha ที่ มีนาคม 10, 2009, 12:36:50 AM



หัวข้อ: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: rucha ที่ มีนาคม 10, 2009, 12:36:50 AM
เนื้อหาโดยสรุป..ผู้สร้างหนัง หาว่า รัฐบาล ไม่ไห้ความเป็นธรรม กับผู้ทีจะสร้างหนังแน้วโป้ๆ (โดนเซ็นเซอร์) ผู้สร้างหนังบางคนเลยไปทำหนังนวกุ๊กกิก
ผมอยาก ระดมความคิดเห็น  ว่า
1) ประเทศไทยจะล่มจมหรือไม่ หากไม่มีการ ส่งเสริม พัฒนา การสร้างหนังแนวโป้ๆ
2)เราควรออกมาประท้วงรัฐบาลกันดีใหม  เพื่อให้มีการสร้างหนังแนวโป้ๆ ส่งออกไปต่างประเทศเป็นรายได้  ทดแทนราคานมโค  หรือ ราคาพืชผลการเกษตร ที่ตกต่ำ
3)ในขณะที่ข้าราชการที่ทำงานใน 3 จว.ภาคใต้ โดนลอบทำร้าย คนแล้วคนเล่า  บางคนจะซื้อปืนขอ ป3 ยุ่งอยาก อาจไม่ผ่าน  หรือคนที่ มีอาวุธปืน แต่ไม่มีใบพกพา  เวลาจะไป   ทำงานในแต่ละวัน(บางครั้งต้องเข้าในเมือง)  ต้องชั่งใจ ถามตัวเอง ว่า กลัวโจร  หรือกลัวตำรวจ


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: FORD-TECH-CHI-CHI รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2009, 12:41:13 AM
เนื้อหาโดยสรุป..ผู้สร้างหนัง หาว่า รัฐบาล ไม่ไห้ความเป็นธรรม กับผู้ทีจะสร้างหนังแน้วโป้ๆ (โดนเซ็นเซอร์) ผู้สร้างหนังบางคนเลยไปทำหนังนวกุ๊กกิก
ผมอยาก ระดมความคิดเห็น  ว่า
1) ประเทศไทยจะล่มจมหรือไม่ หากไม่มีการ ส่งเสริม พัฒนา การสร้างหนังแนวโป้ๆ
2)
อ้างถึง
เราควรออกมาประท้วงรัฐบาลกันดีใหม  เพื่อให้มีการสร้างหนังแนวโป้ๆ ส่งออกไปต่างประเทศเป็นรายได้  ทดแทนราคานมโค  หรือ ราคาพืชผลการเกษตร ที่ตกต่ำ
3)ในขณะที่ข้าราชการที่ทำงานใน 3 จว.ภาคใต้ โดนลอบทำร้าย คนแล้วคนเล่า  บางคนจะซื้อปืนขอ ป3 ยุ่งอยาก อาจไม่ผ่าน  หรือคนที่ มีอาวุธปืน แต่ไม่มีใบพกพา  เวลาจะไป   ทำงานในแต่ละวัน(บางครั้งต้องเข้าในเมือง)  ต้องชั่งใจ ถามตัวเอง ว่า กลัวโจร  หรือกลัวตำรวจ





 ::005:: ::005:: คิดได้ไงครับ โดนเลยครับ บวกให้1 ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: FORD-TECH-CHI-CHI รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2009, 12:43:04 AM
 ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::โอ้ย.....หยุดขำไม่ได้ครับ ชอบ ชอบ...... ::007:: ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: at75 ที่ มีนาคม 10, 2009, 12:55:35 AM
ทุกวันนี้ คนเรา เห้นแก่ เงินเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจศิลธรรม
ผู้สร้างหนังก้เอาแต่ใจ อยากมีอิสระไม่มีขอบเขตุ ผมฟังแล้ว รู้สึกว่า เห้นแก่ตัวมากเกินไป ทุกวันนี้สังคมเรายัง ทรามไม่พอเหรอครับ คดี ข่มขืน โทรมหญิง จะล้นโรงพักอยู่แล้ว แค่ แผ่นCd ลามกเถื่อน ก็สร้างปัญหามากพอแล้ว ถ้าส้รางกันแบบเสรี จะเกิดอ่ะไรขึ้น ทุกวันนี้ สังคมเรายังถูกย่ำยี ไม่พอรึไงครับ  ผุ้สรางหนัง ก้อย่าเห้นแก่ ตัว เอาแต่ใจนักเลย วันๆก้อ้าง แต่รัฐ ใช้แต่อำนาจ แล้วลองคิดดูบ้างไม๊ ว่าสังคมต้องการหนัง แบบนี้หรือปล่าว หรือ ว่า คิดเองเออเอง โดยที่ไม่ต้องสนใจสังคมเลย เอาตัวเองเป้นตัวแทนสังคม โดยไม่ได้ถาม สังคมเลย ผมว่ากลับไป พิจารณาตัวเองบ้างดีกว่า


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: FORD-TECH-CHI-CHI รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2009, 12:59:13 AM
ทุกวันนี้ คนเรา เห้นแก่ เงินเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจศิลธรรม
ผู้สร้างหนังก้เอาแต่ใจ อยากมีอิสระไม่มีขอบเขตุ ผมฟังแล้ว รู้สึกว่า เห้นแก่ตัวมากเกินไป ทุกวันนี้สังคมเรายัง ทรามไม่พอเหรอครับ คดี ข่มขืน โทรมหญิง จะล้นโรงพักอยู่แล้ว แค่ แผ่นCd ลามกเถื่อน ก็สร้างปัญหามากพอแล้ว ถ้าส้รางกันแบบเสรี จะเกิดอ่ะไรขึ้น ทุกวันนี้ สังคมเรายังถูกย่ำยี ไม่พอรึไงครับ  ผุ้สรางหนัง ก้อย่าเห้นแก่ ตัว เอาแต่ใจนักเลย วันๆก้อ้าง แต่รัฐ ใช้แต่อำนาจ แล้วลองคิดดูบ้างไม๊ ว่าสังคมต้องการหนัง แบบนี้หรือปล่าว หรือ ว่า คิดเองเออเอง โดยที่ไม่ต้องสนใจสังคมเลย เอาตัวเองเป้นตัวแทนสังคม โดยไม่ได้ถาม สังคมเลย ผมว่ากลับไป พิจารณาตัวเองบ้างดีกว่า


จริงครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: mchaivis ที่ มีนาคม 10, 2009, 02:08:26 AM
ผมคิดว่าท่านเจ้าของกระทู้จับประเด็นผิดครับ
คนทำหนังไม่เคยออกมาเรียกร้องจะทำหนังโป๊ครับ
มีแต่ทางการเท่านั้นที่ชอบอ้างว่าคนทำหนังเรียกร้องจะทำหนังโป๊
เพราะมันเป็นประเด็นที่ชัดเจนละเอียดอ่อน
หยิบมาพูดทีไร คนทำหนังก็ถูกด่าทุกที
ประเด็นมันอยู่ที่คนทำหนังเรียกร้องเสรีภาพในการทำงานครับ
อุตส่าห์คุยกันจนตกผลึกกับทางการ
เห็นพ้องต้องกันว่า เซ็นเซอร์แบบเก่าไม่เอาแล้ว
เปลี่ยนใหม่มาเป็นแบ่งอายุคนดูแทน
ซึ่งหลายประเทศเขาก็ใช้กัน ไม่ใช่เฉพาะในอเมริกา สิงคโปร์เขาก็ใช้
ไปๆมาๆ กลับเป็นว่า แบ่งอายุคนดูก็ได้
แต่ต้องเอาบทมาให้เซ็นเซอร์ก่อน
แล้วมันจะต่างกับของเดิมที่ตรงไหน
คนทำหนังไม่อยากทำหนังโป๊หรอกครับ
แต่เขาอยากทำหนังที่ ตำรวจเป็นผู้ร้ายบ้าง นักการเมืองเป็นผู้ร้ายบ้าง ฯลฯ
ซึ่งเซ็นเซอร์เดิมไม่ให้ครับ
แม้บ้านเราจะพัฒนาเรื่องสิทธิเสรีภาพ
แต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่น้อยยังคุ้นเคยอยู่กับการบังคับ
คิดอยู่ตลอดว่าคนไทยคิดไม่เป็น ต้องให้ข้าพเจ้าคิดแทน
เรื่องนี้ไม่ได้มีอยู่เฉพาะวงการคนทำหนังนะครับ
วงการนักนิยมปืนก็เจอทุกวี่ทุกวัน
ขอป.3 คุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนด แต่ไม่ได้ครับ
คนที่มีหน้าที่ไม่อนุมัติ ซะอย่าง
หรือขอซื้อปืนไปทำไมเยอะแยะ ไม่ให้ .45 เพราะเป็นอาวุธสงคราม
สรุปนะครับ คนทำหนังที่ออกมาขยับตัวไม่ได้เพราะอยากทำหนังโป๊
มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาเรียกร้องกัน
คล้ายกับนักนิยมปืน ที่บางคนมีปืนสองสามกระบอก
แล้วมีใครคิดจะเอาปืนไปยิงชาวบ้านเล่นบ้างครับ
เราอยากมีปืนเพราะสารพัดเหตุผล ยกเว้นเหตุผลข้างบนครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Ninja 19 + รักในหลวง + ที่ มีนาคม 10, 2009, 03:16:43 AM
ผมคิดว่าท่านเจ้าของกระทู้จับประเด็นผิดครับ
คนทำหนังไม่เคยออกมาเรียกร้องจะทำหนังโป๊ครับ
มีแต่ทางการเท่านั้นที่ชอบอ้างว่าคนทำหนังเรียกร้องจะทำหนังโป๊
เพราะมันเป็นประเด็นที่ชัดเจนละเอียดอ่อน
หยิบมาพูดทีไร คนทำหนังก็ถูกด่าทุกที
ประเด็นมันอยู่ที่คนทำหนังเรียกร้องเสรีภาพในการทำงานครับ
อุตส่าห์คุยกันจนตกผลึกกับทางการ
เห็นพ้องต้องกันว่า เซ็นเซอร์แบบเก่าไม่เอาแล้ว
เปลี่ยนใหม่มาเป็นแบ่งอายุคนดูแทน
ซึ่งหลายประเทศเขาก็ใช้กัน ไม่ใช่เฉพาะในอเมริกา สิงคโปร์เขาก็ใช้
ไปๆมาๆ กลับเป็นว่า แบ่งอายุคนดูก็ได้
แต่ต้องเอาบทมาให้เซ็นเซอร์ก่อน
แล้วมันจะต่างกับของเดิมที่ตรงไหน
คนทำหนังไม่อยากทำหนังโป๊หรอกครับ
แต่เขาอยากทำหนังที่ ตำรวจเป็นผู้ร้ายบ้าง นักการเมืองเป็นผู้ร้ายบ้าง ฯลฯ
ซึ่งเซ็นเซอร์เดิมไม่ให้ครับ
แม้บ้านเราจะพัฒนาเรื่องสิทธิเสรีภาพ
แต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่น้อยยังคุ้นเคยอยู่กับการบังคับ
คิดอยู่ตลอดว่าคนไทยคิดไม่เป็น ต้องให้ข้าพเจ้าคิดแทน
เรื่องนี้ไม่ได้มีอยู่เฉพาะวงการคนทำหนังนะครับ
วงการนักนิยมปืนก็เจอทุกวี่ทุกวัน
ขอป.3 คุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนด แต่ไม่ได้ครับ
คนที่มีหน้าที่ไม่อนุมัติ ซะอย่าง
หรือขอซื้อปืนไปทำไมเยอะแยะ ไม่ให้ .45 เพราะเป็นอาวุธสงคราม
สรุปนะครับ คนทำหนังที่ออกมาขยับตัวไม่ได้เพราะอยากทำหนังโป๊
มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาเรียกร้องกัน
คล้ายกับนักนิยมปืน ที่บางคนมีปืนสองสามกระบอก
แล้วมีใครคิดจะเอาปืนไปยิงชาวบ้านเล่นบ้างครับ
เราอยากมีปืนเพราะสารพัดเหตุผล ยกเว้นเหตุผลข้างบนครับ


.................  ::002:: ::002:: ::002::  เห็นด้วยครับ + 1 ...  ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ มีนาคม 10, 2009, 06:22:50 AM
ขนาดจัดเรตติ้งแล้วมันยังจะเซนเซอร์บทอีก กบว เอ่ย กบว


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: rucha ที่ มีนาคม 10, 2009, 08:08:12 AM
ในขณะที่ ผู้เลี้ยงโคนม ต้องเอาน้ำนมมาเททิ้ง.....
ประชาชนเดือดร้อนรายได้น้อย  ....
ชาวบ้าน   ข้าราชการ  โดนฆ่า เหมือนผักปลา,,,
ผู้สร้างหนัง ต้องการความอิสระ  เปิดโลกทัศน์  เสนอมุมมอง  ให่มๆ  ตีแผ่ให้เห็นปัญาหาของ สังคม (ชาวนา จ่ายเงิน มาดูหนัง แล้วกลับไป ปฎิรุป  วิถีชีวิตของตัวเอง ไม่มีหนี้สิน ได้หรือครับ)
...สมัยหนึ่ง  หนังเรื่อง  เสียดาย สิบปีที่แล้ว  อ่านบท วิจารณ์  ท่านว่า เป็นการกล้านำเสนอ เอาปัญหาสังคมมาตี่แผ่ ให้สังคมรับทราบ แล้ว วันนี้ สังคม มันดีขึ้นใหมครับ,,
  ผู้สร้างหนังส่วนใหญ่ มีการศึกษา อยูในสังคม ชั้นสูง  ท่านเลี่ยงไปทำหนังแนวอื่น  เลี้ยงท้องไปก่อน  ได้ใหม
 ในขณะเดียวกัน  ผมเองและข้าราชการ ใน 3 จว.  ก็หาวิธีการ เอาตัวไห้รอด เลี้ยง ลูกเมียไปก่อน เช๋นเดียวกัน


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 10, 2009, 08:24:20 AM
รบกวน จขกท. เล่าใหม่ครับ... จะตั้งใจฟัง...

ที่อ่านมาข้างบนยังผูกเรื่องไม่ค่อยติดครับ... เย้

เอารายละเอียดเรื่อง 3 จชต. มาเป็นจุดเริ่มแล้วผูกเรื่องเข้าหาหนังซิครับ...

จะคอยฟัง(อ่าน)ครับ...



หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: พรานเฒ่า ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:05:03 AM
เรื่องนี้ไม่ได้มีอยู่เฉพาะวงการคนทำหนังนะครับ
วงการนักนิยมปืนก็เจอทุกวี่ทุกวัน
ขอป.3 คุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนด แต่ไม่ได้ครับ
คนที่มีหน้าที่ไม่อนุมัติ ซะอย่าง
หรือขอซื้อปืนไปทำไมเยอะแยะ ไม่ให้ .45 เพราะเป็นอาวุธสงคราม
สรุปนะครับ คนทำหนังที่ออกมาขยับตัวไม่ได้เพราะอยากทำหนังโป๊
มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาเรียกร้องกัน
คล้ายกับนักนิยมปืน ที่บางคนมีปืนสองสามกระบอก
แล้วมีใครคิดจะเอาปืนไปยิงชาวบ้านเล่นบ้างครับ
เราอยากมีปืนเพราะสารพัดเหตุผล ยกเว้นเหตุผลข้างบนครับ

ถูกต้องเป็นที่สุดครับ สำหรับนักนิยมปืน


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: สุกรจากโลกันต์ ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:11:46 AM
ปัญหาใหญ่ อยู่ที่ข้าราชการแก่ ๆ ประเภทไดโนเสาร์ เห็นประชาชนเป็นขี้ข้า ตัวเองเป็นจ้าวเป็นนาย จะบีบบังคับ ตั้งกฏเกณฑ์ตามใจตัว อย่างที่ว่าเรียนสูง ๆ จะไ้ด้เป็นจ้าวคนนายคนไงครับ ซึ่งในปัจจุบันความคิดนี้มันผิด ถึงจะเป็นนายกก็ต้องทำงานให้ประชาชนที่เป็นขี้ข้าอยู่ดีละครับ เมื่อไหร่ ไดโนเสาร์จะศูนย์พันธุ์เสียที


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: พรานเฒ่า ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:23:52 AM
ปัญหาใหญ่ อยู่ที่ข้าราชการแก่ ๆ ประเภทไดโนเสาร์ เห็นประชาชนเป็นขี้ข้า ตัวเองเป็นจ้าวเป็นนาย จะบีบบังคับ ตั้งกฏเกณฑ์ตามใจตัว อย่างที่ว่าเรียนสูง ๆ จะไ้ด้เป็นจ้าวคนนายคนไงครับ ซึ่งในปัจจุบันความคิดนี้มันผิด ถึงจะเป็นนายกก็ต้องทำงานให้ประชาชนที่เป็นขี้ข้าอยู่ดีละครับ เมื่อไหร่ ไดโนเสาร์จะศูนย์พันธุ์เสียที

 ไดโนเสาร์พวกนี้จะม้วนไปม้วนมา ให้เรางง....แล้วมีปัญหา


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:26:26 AM
เนื้อหาโดยสรุป..ผู้สร้างหนัง หาว่า รัฐบาล ไม่ไห้ความเป็นธรรม กับผู้ทีจะสร้างหนังแน้วโป้ๆ (โดนเซ็นเซอร์) ผู้สร้างหนังบางคนเลยไปทำหนังนวกุ๊กกิก
ผมอยาก ระดมความคิดเห็น  ว่า
1) ประเทศไทยจะล่มจมหรือไม่ หากไม่มีการ ส่งเสริม พัฒนา การสร้างหนังแนวโป้ๆ
2)
อ้างถึง
เราควรออกมาประท้วงรัฐบาลกันดีใหม  เพื่อให้มีการสร้างหนังแนวโป้ๆ ส่งออกไปต่างประเทศเป็นรายได้  ทดแทนราคานมโค  หรือ ราคาพืชผลการเกษตร ที่ตกต่ำ
3)ในขณะที่ข้าราชการที่ทำงานใน 3 จว.ภาคใต้ โดนลอบทำร้าย คนแล้วคนเล่า  บางคนจะซื้อปืนขอ ป3 ยุ่งอยาก อาจไม่ผ่าน  หรือคนที่ มีอาวุธปืน แต่ไม่มีใบพกพา  เวลาจะไป   ทำงานในแต่ละวัน(บางครั้งต้องเข้าในเมือง)  ต้องชั่งใจ ถามตัวเอง ว่า กลัวโจร  หรือกลัวตำรวจ





 ::005:: ::005:: คิดได้ไงครับ โดนเลยครับ บวกให้1 ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::



ทุกวันนี้ คนเรา เห้นแก่ เงินเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจศิลธรรม
ผู้สร้างหนังก้เอาแต่ใจ อยากมีอิสระไม่มีขอบเขตุ ผมฟังแล้ว รู้สึกว่า เห้นแก่ตัวมากเกินไป ทุกวันนี้สังคมเรายัง ทรามไม่พอเหรอครับ คดี ข่มขืน โทรมหญิง จะล้นโรงพักอยู่แล้ว แค่ แผ่นCd ลามกเถื่อน ก็สร้างปัญหามากพอแล้ว ถ้าส้รางกันแบบเสรี จะเกิดอ่ะไรขึ้น ทุกวันนี้ สังคมเรายังถูกย่ำยี ไม่พอรึไงครับ  ผุ้สรางหนัง ก้อย่าเห้นแก่ ตัว เอาแต่ใจนักเลย วันๆก้อ้าง แต่รัฐ ใช้แต่อำนาจ แล้วลองคิดดูบ้างไม๊ ว่าสังคมต้องการหนัง แบบนี้หรือปล่าว หรือ ว่า คิดเองเออเอง โดยที่ไม่ต้องสนใจสังคมเลย เอาตัวเองเป้นตัวแทนสังคม โดยไม่ได้ถาม สังคมเลย ผมว่ากลับไป พิจารณาตัวเองบ้างดีกว่า


จริงครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง


ตกลงแล้ว...ชอบแบบไหนครับ.....


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: FORD-TECH-CHI-CHI รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:30:12 AM
เนื้อหาโดยสรุป..ผู้สร้างหนัง หาว่า รัฐบาล ไม่ไห้ความเป็นธรรม กับผู้ทีจะสร้างหนังแน้วโป้ๆ (โดนเซ็นเซอร์) ผู้สร้างหนังบางคนเลยไปทำหนังนวกุ๊กกิก
ผมอยาก ระดมความคิดเห็น  ว่า
1) ประเทศไทยจะล่มจมหรือไม่ หากไม่มีการ ส่งเสริม พัฒนา การสร้างหนังแนวโป้ๆ
2)
อ้างถึง
เราควรออกมาประท้วงรัฐบาลกันดีใหม  เพื่อให้มีการสร้างหนังแนวโป้ๆ ส่งออกไปต่างประเทศเป็นรายได้  ทดแทนราคานมโค  หรือ ราคาพืชผลการเกษตร ที่ตกต่ำ
3)ในขณะที่ข้าราชการที่ทำงานใน 3 จว.ภาคใต้ โดนลอบทำร้าย คนแล้วคนเล่า  บางคนจะซื้อปืนขอ ป3 ยุ่งอยาก อาจไม่ผ่าน  หรือคนที่ มีอาวุธปืน แต่ไม่มีใบพกพา  เวลาจะไป   ทำงานในแต่ละวัน(บางครั้งต้องเข้าในเมือง)  ต้องชั่งใจ ถามตัวเอง ว่า กลัวโจร  หรือกลัวตำรวจ





 ::005:: ::005:: คิดได้ไงครับ โดนเลยครับ บวกให้1 ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::



ทุกวันนี้ คนเรา เห้นแก่ เงินเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจศิลธรรม
ผู้สร้างหนังก้เอาแต่ใจ อยากมีอิสระไม่มีขอบเขตุ ผมฟังแล้ว รู้สึกว่า เห้นแก่ตัวมากเกินไป ทุกวันนี้สังคมเรายัง ทรามไม่พอเหรอครับ คดี ข่มขืน โทรมหญิง จะล้นโรงพักอยู่แล้ว แค่ แผ่นCd ลามกเถื่อน ก็สร้างปัญหามากพอแล้ว ถ้าส้รางกันแบบเสรี จะเกิดอ่ะไรขึ้น ทุกวันนี้ สังคมเรายังถูกย่ำยี ไม่พอรึไงครับ  ผุ้สรางหนัง ก้อย่าเห้นแก่ ตัว เอาแต่ใจนักเลย วันๆก้อ้าง แต่รัฐ ใช้แต่อำนาจ แล้วลองคิดดูบ้างไม๊ ว่าสังคมต้องการหนัง แบบนี้หรือปล่าว หรือ ว่า คิดเองเออเอง โดยที่ไม่ต้องสนใจสังคมเลย เอาตัวเองเป้นตัวแทนสังคม โดยไม่ได้ถาม สังคมเลย ผมว่ากลับไป พิจารณาตัวเองบ้างดีกว่า


จริงครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง


ตกลงแล้ว...ชอบแบบไหนครับ.....



ไอ้ส่วนที่ขำมันก็ขำอ่ะครับ ไอ้ส่วนที่เป็นสาระของกระทู้นั้นผมไม่เห็นด้วยครับ ที่บอกชอบ ๆเนี่ย ชอบตรงที่ขำนี่แหละครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:32:19 AM
ถ้าพยายามทำมาหากิน โดยที่ไม่เดือดร้อนตัวเองและคนอื่น ผมว่าไม่เกิดปัญหาครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:36:09 AM
เนื้อหาโดยสรุป..ผู้สร้างหนัง หาว่า รัฐบาล ไม่ไห้ความเป็นธรรม กับผู้ทีจะสร้างหนังแน้วโป้ๆ (โดนเซ็นเซอร์) ผู้สร้างหนังบางคนเลยไปทำหนังนวกุ๊กกิก
ผมอยาก ระดมความคิดเห็น  ว่า
1) ประเทศไทยจะล่มจมหรือไม่ หากไม่มีการ ส่งเสริม พัฒนา การสร้างหนังแนวโป้ๆ
2)
อ้างถึง
เราควรออกมาประท้วงรัฐบาลกันดีใหม  เพื่อให้มีการสร้างหนังแนวโป้ๆ ส่งออกไปต่างประเทศเป็นรายได้  ทดแทนราคานมโค  หรือ ราคาพืชผลการเกษตร ที่ตกต่ำ
3)ในขณะที่ข้าราชการที่ทำงานใน 3 จว.ภาคใต้ โดนลอบทำร้าย คนแล้วคนเล่า  บางคนจะซื้อปืนขอ ป3 ยุ่งอยาก อาจไม่ผ่าน  หรือคนที่ มีอาวุธปืน แต่ไม่มีใบพกพา  เวลาจะไป   ทำงานในแต่ละวัน(บางครั้งต้องเข้าในเมือง)  ต้องชั่งใจ ถามตัวเอง ว่า กลัวโจร  หรือกลัวตำรวจ





 ::005:: ::005:: คิดได้ไงครับ โดนเลยครับ บวกให้1 ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::



ทุกวันนี้ คนเรา เห้นแก่ เงินเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจศิลธรรม
ผู้สร้างหนังก้เอาแต่ใจ อยากมีอิสระไม่มีขอบเขตุ ผมฟังแล้ว รู้สึกว่า เห้นแก่ตัวมากเกินไป ทุกวันนี้สังคมเรายัง ทรามไม่พอเหรอครับ คดี ข่มขืน โทรมหญิง จะล้นโรงพักอยู่แล้ว แค่ แผ่นCd ลามกเถื่อน ก็สร้างปัญหามากพอแล้ว ถ้าส้รางกันแบบเสรี จะเกิดอ่ะไรขึ้น ทุกวันนี้ สังคมเรายังถูกย่ำยี ไม่พอรึไงครับ  ผุ้สรางหนัง ก้อย่าเห้นแก่ ตัว เอาแต่ใจนักเลย วันๆก้อ้าง แต่รัฐ ใช้แต่อำนาจ แล้วลองคิดดูบ้างไม๊ ว่าสังคมต้องการหนัง แบบนี้หรือปล่าว หรือ ว่า คิดเองเออเอง โดยที่ไม่ต้องสนใจสังคมเลย เอาตัวเองเป้นตัวแทนสังคม โดยไม่ได้ถาม สังคมเลย ผมว่ากลับไป พิจารณาตัวเองบ้างดีกว่า


จริงครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง


ตกลงแล้ว...ชอบแบบไหนครับ.....



ไอ้ส่วนที่ขำมันก็ขำอ่ะครับ ไอ้ส่วนที่เป็นสาระของกระทู้นั้นผมไม่เห็นด้วยครับ ที่บอกชอบ ๆเนี่ย ชอบตรงที่ขำนี่แหละครับ

อ้อ....เข้าใจแล้วครับ...


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:40:42 AM
หนังโป๊ ใครก็ชอบดู แต่การสร้างมันยังผิดศีลธรรมอยู่ เลยต้องแอบๆถ่ายทำกันไป
จะปล่อยให้โจ่งแจ้งมากก็ไม่ดี เพราะบ้านเรามันเมืองพุทธ  ไม่เหมือนฝรั่ง กอดจูบ กันเห็นเป็นเรื่องธรรมดา  :o :<><> :<><>


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 10, 2009, 10:58:24 AM
หนังโป๊ มีคนสร้างแล้วเยอะแยะ ญี่ปุนถึงกับเป็นธุระกิจถูกกฎหมายไปเลย
รวมถึงฝรั่งอีกเพียบ
 ไทย ไม่สร้าง ไม่เอาอย่าง สักประเทศคงไม่ถึงกับทำให้วงการนี้ซบเซาหรอกน่า
อีกอย่างเห็นว่าหนังแบบนี้ใช่ว่าผลตอบแทนทางธุรกิจจะดีเด่สักแค่ไหนอาศัยจำนวนมากเข้าว่า
มีหนังคูณเรื่องไหนทำรายได้ถึง ร้อยล้าน พันล้านมั่ง

เราไม่ต้องไปตามอย่างสิ่งเลวร้ายเหล่านี้หรอก ทำหนังดีๆมีคุณภาพก็ขายได้เองแหละ อย่างของท่านมุ้ยก็ถึงพันล้านได้
ของ จา พนม ก็ออกจะทำเงิน


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: FORD-TECH-CHI-CHI รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2009, 11:00:42 AM
หนังโป๊ มีคนสร้างแล้วเยอะแยะ ญี่ปุนถึงกับเป็นธุระกิจถูกกฎหมายไปเลย
รวมถึงฝรั่งอีกเพียบ
 ไทย ไม่สร้าง ไม่เอาอย่าง สักประเทศคงไม่ถึงกับทำให้วงการนี้ซบเซาหรอกน่า
อีกอย่างเห็นว่าหนังแบบนี้ใช่ว่าผลตอบแทนทางธุรกิจจะดีเด่สักแค่ไหนอาศัยจำนวนมากเข้าว่า
มีหนังคูณเรื่องไหนทำรายได้ถึง ร้อยล้าน พันล้านมั่ง

เราไม่ต้องไปตามอย่างสิ่งเลวร้ายเหล่านี้หรอก ทำหนังดีๆมีคุณภาพก็ขายได้เองแหละ อย่างของท่านมุ้ยก็ถึงพันล้านได้
ของ จา พนม ก็ออกจะทำเงิน




ไม่ต้องคิดมากอ่ะครับ มันไม่เหมาะไม่ควรอยู่แล้วเห็นๆๆ


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ มีนาคม 10, 2009, 11:01:45 AM
หนังโป๊ มีคนสร้างแล้วเยอะแยะ ญี่ปุนถึงกับเป็นธุระกิจถูกกฎหมายไปเลย
รวมถึงฝรั่งอีกเพียบ
 ไทย ไม่สร้าง ไม่เอาอย่าง สักประเทศคงไม่ถึงกับทำให้วงการนี้ซบเซาหรอกน่า
อีกอย่างเห็นว่าหนังแบบนี้ใช่ว่าผลตอบแทนทางธุรกิจจะดีเด่สักแค่ไหนอาศัยจำนวนมากเข้าว่า
มีหนังคูณเรื่องไหนทำรายได้ถึง ร้อยล้าน พันล้านมั่ง

เราไม่ต้องไปตามอย่างสิ่งเลวร้ายเหล่านี้หรอก ทำหนังดีๆมีคุณภาพก็ขายได้เองแหละ อย่างของท่านมุ้ยก็ถึงพันล้านได้
ของ จา พนม ก็ออกจะทำเงิน

เราเป็นสังคมปากว่าตาขยิบ......

เกลียดและกลัวหนังโป๊....

แต่มีขายให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่กันทุกมุมถนน....

เชื่อสิ.....บ้านนักการเมืองใหญ่ๆ....ต้องมีหนังโป๊อยู่ในตู้สักเรื่องสองเรื่องทั้งนั้น....


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: รปศ. PSRU @ รักพระเจ้าอยู่หัว @ ที่ มีนาคม 10, 2009, 11:36:58 AM
เหอะ  เหอะ  เขามักจะพูดกันว่า  อ้างว่า  เพื่อ " ศิลปะ "
ผมว่าอีกไม่นานน่าจะมีฉากร่วมเพศของคู่พระ-นาง  ในละครหรือภาพยนต์  แล้วท่านทั้งหลายก็อ้างว่า " เพื่อศิลปะ "

อยากให้คนไทยเข้มแข็งและศรัธาในวัฒนธรรมของตัวเองครับ  บางอย่างไม่ต้องทำตามใครก็อยู่ได้ครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: a lone wolf ที่ มีนาคม 10, 2009, 01:10:04 PM
เนื้อหาโดยสรุป..ผู้สร้างหนัง หาว่า รัฐบาล ไม่ไห้ความเป็นธรรม กับผู้ทีจะสร้างหนังแน้วโป้ๆ (โดนเซ็นเซอร์) ผู้สร้างหนังบางคนเลยไปทำหนังนวกุ๊กกิก
ผมอยาก ระดมความคิดเห็น  ว่า
1) ประเทศไทยจะล่มจมหรือไม่ หากไม่มีการ ส่งเสริม พัฒนา การสร้างหนังแนวโป้ๆ
2)เราควรออกมาประท้วงรัฐบาลกันดีใหม  เพื่อให้มีการสร้างหนังแนวโป้ๆ ส่งออกไปต่างประเทศเป็นรายได้  ทดแทนราคานมโค  หรือ ราคาพืชผลการเกษตร ที่ตกต่ำ
3)ในขณะที่ข้าราชการที่ทำงานใน 3 จว.ภาคใต้ โดนลอบทำร้าย คนแล้วคนเล่า  บางคนจะซื้อปืนขอ ป3 ยุ่งอยาก อาจไม่ผ่าน  หรือคนที่ มีอาวุธปืน แต่ไม่มีใบพกพา  เวลาจะไป   ทำงานในแต่ละวัน(บางครั้งต้องเข้าในเมือง)  ต้องชั่งใจ ถามตัวเอง ว่า กลัวโจร  หรือกลัวตำรวจ
เท่าที่ผมอ่านจากการเรียบเรียงเนื้อหาและเหตุผลประกอบของท่านเจ้าของกระทู้
ท่านแสดงความเห็นว่า ราชการ ไม่จำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรอันมีจำกัดมาจัดการหรือใส่ใจตอบสนองความต้องการของผู้สร้างหนังที่เรียกร้องการยกเลิกเซ็นเซอร์
หากควรจัดสรรทรัพยากรมาดูแลให้การขออนุญาตมีอาวุธปืนของประชาชนผู้สุจริตเป็นไปโดยสะดวกขึ้น...จะเหมาะสมกว่า

ผมเห็นด้วยกับการที่ราชการควรจะหันมาปรับปรุงเงื่อนไขการทำงานให้การขออนุญาตมีอาวุธปืนของสุจริตชนสะดวกขึ้นครับ
(และควรเพิ่มโควต้าปืนให้เหมาะสมกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น  เพื่อให้ราคาปืนลดลงด้วยครับ)

แต่ไม่เห็นด้วยที่เจ้าของกระทู้กล่าวในเชิงตำหนิกลุ่มผู้สร้างหนังที่เรียกร้องให้ยกเลิกการเซ็นเซอร์ (แต่หันมากำหนดเรทหนังและอายุคนดูแทน)
ตำหนิในเชิงที่ว่ากลุ่มผู้สร้างหนังอยากสร้างหนังโป๊แล้วมาให้ยกเลิกการเซ็นเซอร์
เหตุผลโดยรวมก็คล้ายกับที่คุณ mchaivis ที่ได้ยกไว้แล้ว
ขออธิบายเสริมตามมุมมองของตัวเอง

1. ราชการไทยมีทรัพยากรเพียงพอที่จะดูแลให้การขออนุญาตมีอาวุธปืนสะดวกและเป็นธรรมขึ้น  พร้อมๆกับการที่จะดูแลให้ประชาชนไทยผู้มีอาชีพสร้างหนังได้มีเสรีภาพในการแสดงออกทางศิลปะของตนเอง  รวมถึงให้ประชาชนไทยที่บรรลุนิติภาวะแล้วได้มีโอกาสเสพงานศิลปะแขนงภาพยนตร์โดยไม่ต้องมีคนของราชการมานั่งกำหนดว่าอะไรที่เขาเสพได้อะไรที่เขาเสพไม่ได้ เรื่องทรัพยากรของราชการไม่น่าเป็นปัญหา

2. คนที่จงใจสร้างหนังโป๊หนังลามกเพื่อหาเลี้ยงชีพ เขาไม่เคยแคร์กับกฏหมายเซ็นเซอร์อยู่แล้วครับ  เพราะเขาไม่เคยส่งหนังให้ราชการพิจารณา  ไม่ว่าจะเป็นบท  หรือภาพยนตร์ที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว  จะมีกฏหมายเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดขึ้น  หรือคงเดิม  หรือยกเลิกไปเลย  ล้วนไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว

3. คนที่จะดูหนังลามก  เขาก็ไม่แคร์กฏหมายเซ็นเซอร์หรอกครับ  เพราะดูคนเดียวหรือหลายคนในที่รโหฐานมันสนุกกว่าดูในโรงภาพยนตร์ที่เป็นสถานที่สาธารณะนะครับ  (คนจะดูหนังลามกนี่มีทุกเพศทุกวัยนะครับ  อายุ9 ขวบ ถึง 90 ก็เป็นคนที่ต้องการดูหนังลามกคล้ายๆกัน)  คนจะซื้อหนังลามกเขามีแหล่งซื้อครับ  แผ่นนึงเป็นหลักสิบเท่านั้น  เครื่องเล่นวีซีดีก็ราคาไม่แพงมาก  ไปเสียเงินดูหนังตามโรงอย่างน้อยหนึ่งร้อยบาทหรือร้อยยี่สิบบาท  ถ้าจะเสพหนังลามกให้สนุกและราคาย่อมเยาเข้าโรงหนังอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด

4. ถ้าราชการจะปราบปรามการสร้างหนังลามก  เพื่อผดุงศีลธรรมอันดีของประชาชน  จุดหลักไม่ใช่หนังโรงนะครับ  ควรไปเริ่มต้นตามแหล่งขายก่อน  เช่นแผงลอย  หรือตามเวปขายหนังลามก  แต่งานนี้หมาป่าว่ายากครับ  ทำพอเป็นพิธีดูจะสอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมมากกว่า  (เดี๋ยวคนเขาจะว่าท่านไม่ทำงาน)

5. เรื่องเสรีภาพในการสร้างสรรค์และเสพงานศิลปะนั้นเป็นเรื่องใหญ่นะครับ  บ้านเมืองที่เขาเจริญก้าวหน้าทางสติปัญญาและความคิดเขาเลือกที่จะเปิดกว้างมากกว่ามานั่งให้ราชการกำหนด  เรื่องจะมีการทำเสื่อมเสียศีลธรรมเพราะดูหนังนั้น  เรามีอายุเป็นตัวกำหนดนี่ครับ  ต่ำกว่า 18 ปีดูหนังบางเรื่องที่รุนแรงหรือมีฉากโป๊เปลือยฉากร่วมเพศในโรงไม่ได้  แต่เกิน 18 ปีก็ดูได้  เพราะถือว่าโตแล้วมีความคิดพิจารณาได้เองแล้ว  ไม่มีใครเสียคนเพราะดูหนังหรอกครับ  ถ้าจะเสียคนมันมีปัจจัยอื่นครับ  เสรีภาพในการสร้างสรรค์และการเสพสื่อนั้นโดยส่วนตัวผมให้คุณค่ามากครับ  ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์และเป็นเสรีชนอยู่บนโลกใบนี้  หากผมเป็นคนสร้างหนังผมไม่ต้องการให้มนุษย์หน้าไหนมาสั่งว่าผมทำอันนี้ได้ผมทำอันนี้ไม่ได้   หากผมเป็นคนเสพก็เช่นกันใครหน้าไหนก็ไม่ควรมีสิทธิ์มากีดกันผม

บางท่านที่อาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้สร้างหนังรังสรรค์ขึ้น  ท่านเลือกได้ว่าท่านจะไม่ดู  ไม่มีใครบังคับท่านได้นะครับ  ก่อนดูลองหาเรื่องย่อหรือบทวิจารณ์อ่านไปก่อน  หากเห็นว่าไม่ตรงกับศีลธรรมจรรยาที่ท่านยึดถืออยู่ท่านก็ไม่ควรไปดู   เรื่องลูกของท่านนั้นท่านควรสอดส่องเรียกร้องให้ราชการคุมเข้มเรื่องการตรวจอายุผู้ชม   หากเขาเข้มงวด  ท่านก็จะสบายใจว่าลูกท่านจะไม่เห็นฉากรุนแรงก่อนเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่  ช่วยกันเรียกร้องสอดส่องครับ

มีหนังหลายเรื่องที่ถูกแบน  หรือถูกระงับการสร้าง  ถูกตัด  อาทิ เรื่องของนักโทษการเมืองที่ถุกจับขังที่เกาะตะรุเตา  เรื่องแสงศตวรรษ ที่มีฉากที่เห็นคุณหมอผู้ชายมีอวัยวะเพศแข็งตัวมองเห็นได้ชัดจากภายนอกกางเกง  ฉากพระภิกษุนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลง  เหล่านี้ล้วนถูกตัด  แต่เจ้าของหนังเขาไม่ยอมให้ตัด  หากเขาเลือกที่จะไม่ฉายในโรงปกติแทน  บางท่านอาจบอกว่าแล้วทำไมผู้สร้างหนังต้องใส่ฉากนี้เข้าไปด้วย  ไม่ใส่แล้วจะตายหรือไง   ผมตอบไม่ได้หรอกครับ  แต่ผมเห็นว่าเจ้าของหนังเขามีเหตุผลในการสร้างสรรค์ฉากนั้นเข้ามา  แต่ผมมานั่งนึกว่าผมเห็นฉากเหล่านี้แล้วผมจะออกไปทำร้ายสังคมหรือ   ผมไม่มีสิทธิที่จะเสพ จะชื่นชมฉากหรือเรื่องราวแบบนี้ด้วยตัวผมเองหรือ   ผมมีวิจารณญานหรือสติปัญญาต่ำกว่าเจ้าหน้าที่กองเซ็นเซอร์หรือ

เขียนมาเสียยาว   ก็ขอย้ำสรุปความอีกทีว่า  เสรีภาพเป็นสิ่งสำคัญครับ   สำคัญมากสำหรับมนุษย์ที่เกิดมาบนโลกใบนี้   เป็นสิ่งที่ควรต้องต่อสู้ให้ได้มาและรักษาเอาไว้


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.pom ที่ มีนาคม 10, 2009, 01:17:45 PM
มาแอบอ่าน


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2009, 01:39:22 PM
ไหนๆ ก็คุยกันเรื่องหนังแล้ว ขอฝากเรื่อละครน้ำเน่าด้วยครับ เดี้ยวนี้ไร้สาระมากๆ

 * * ** นำเสนอแต่สิ่งเลวร้าย มอมเมา อิจฉาริษยา พ่อเกลียดลูก หลานฆ่าอา ไม่มีบทดี ก็หันมาทำละครเบาสมองจะดีกว่า

            นำเสนอความอัปยศของศีลธรรมต่อสังคม แทบทุกเรื่อง  สุดท้ายก็บอกว่า ธรรมะ ชนะ อธรรม แต่ๆๆๆ

            นำเสนอความชั่วช้าของจิตใจด้านมืดมาตลอด 2 เดือน แต่ตอบจบมีแค่ 1 ตอนประมาณ 15 นาทีได้มั่ง

            บางทีคนดูเข้าห้องอดดูอีก สรุปเลยไม่เห็นสิ่งดีๆที่นำเสนอ หรือไม่เห็นคำว่าธรรมะชนะอธรม

            ที่ผมพูดจาไร้สาระนี้ เพราะผมไม่ดูละครประเภทนี้  และไม่อยากให้ลูกหลานได้ดูด้วยครับ แค่นี้สังคมไทยก็

            พอแรงแล้ว ไม่อยากให้ละครเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มปัญหาให้สังคม  * ** *  *

            ด้วยความเคารพ  ::014::

       


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 10, 2009, 02:00:16 PM
ไหนๆ ก็คุยกันเรื่องหนังแล้ว ขอฝากเรื่อละครน้ำเน่าด้วยครับ เดี้ยวนี้ไร้สาระมากๆ

 * * ** นำเสนอแต่สิ่งเลวร้าย มอมเมา อิจฉาริษยา พ่อเกลียดลูก หลานฆ่าอา ไม่มีบทดี ก็หันมาทำละครเบาสมองจะดีกว่า

            นำเสนอความอัปยศของศีลธรรมต่อสังคม แทบทุกเรื่อง  สุดท้ายก็บอกว่า ธรรมะ ชนะ อธรรม แต่ๆๆๆ

            นำเสนอความชั่วช้าของจิตใจด้านมืดมาตลอด 2 เดือน แต่ตอบจบมีแค่ 1 ตอนประมาณ 15 นาทีได้มั่ง

            บางทีคนดูเข้าห้องอดดูอีก สรุปเลยไม่เห็นสิ่งดีๆที่นำเสนอ หรือไม่เห็นคำว่าธรรมะชนะอธรม

            ที่ผมพูดจาไร้สาระนี้ เพราะผมไม่ดูละครประเภทนี้  และไม่อยากให้ลูกหลานได้ดูด้วยครับ แค่นี้สังคมไทยก็

            พอแรงแล้ว ไม่อยากให้ละครเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มปัญหาให้สังคม  * ** *  *

            ด้วยความเคารพ  ::014::

       


ผมเห็นด้วยกับท่าน ChoRo ทุกประการนั่นแหละ  แต่ปัญหาคือผมแพ้ในศึกชิงความเป็นเจ้ารีโมตทุกครั้ง


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: mchaivis ที่ มีนาคม 10, 2009, 02:13:00 PM
ขอทำความเข้าใจเพิ่มเติมนะครับ
คนทำหนังไทยที่ฉายตามโรง ไม่มีใครทำหนังโป๊นะครับ
หรือใครคิดว่ามี ช่วยเตือนความทรงจำผมหน่อย
บอกชื่อเรื่องได้เลยครับ
หนังโป๊ตามความเข้าใจของพวกเราเป็นอย่างไร
คงไม่ต้องอธิบาย
เพราะฉะนั้น ประเด็นว่าคนทำหนังไืทยฉายโรง
อยากเลิกเซ็นเซอร์เพื่อทำหนังโป๊
ไม่ควรยกมาอ้างอีกต่อไป
ไม่เช่นนั้นยิ่งพูดยิ่งจะผิดประเด็น


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: สามก๊ง รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2009, 02:25:30 PM
สรุป คนทำหนังกับคนอยากมีปืนหัวอกเดียวกัน ;D...........เอ๊ะ...ใช่รึเปล่า ??? ???


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: ดิ โอลดิ์ สยาม ที่ มีนาคม 10, 2009, 03:04:49 PM
 :VOV: :VOV:อนุมัติ เด็กๆดูหนังจอ(เซนต์..เซอร์ๆ).... ผู้เฒ่าดูหนังจริง(ห้ามเซนต์) จึงจะเหมาะกับธรรมชาติ และกำแพง"วัฒนธรรมของมนุษย์"(ไม่ควร...กิน.อย่างมูมมาม...กาม.เยี่ยงสัตว์...กัดกัน.อย่างไร้สมอง..แฮ่ๆ..ขออภัย.. กลอนพาไป) นี่คือ เส้นแบ่งระหว่างธรรมชาติ กับความเหมาะสมดีงาม  ส่วนผมขออยู่กลุ่มผู้เฒ่า ยอมจ่าย ไม่เซนต์ครับ.. :D~ :D~


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: fink ที่ มีนาคม 10, 2009, 04:07:02 PM
ในขณะที่ ผู้เลี้ยงโคนม ต้องเอาน้ำนมมาเททิ้ง.....
ประชาชนเดือดร้อนรายได้น้อย  ....
ชาวบ้าน   ข้าราชการ  โดนฆ่า เหมือนผักปลา,,,
ผู้สร้างหนัง ต้องการความอิสระ  เปิดโลกทัศน์  เสนอมุมมอง  ให่มๆ  ตีแผ่ให้เห็นปัญาหาของ สังคม (ชาวนา จ่ายเงิน มาดูหนัง แล้วกลับไป ปฎิรุป  วิถีชีวิตของตัวเอง ไม่มีหนี้สิน ได้หรือครับ)
...สมัยหนึ่ง  หนังเรื่อง  เสียดาย สิบปีที่แล้ว  อ่านบท วิจารณ์  ท่านว่า เป็นการกล้านำเสนอ เอาปัญหาสังคมมาตี่แผ่ ให้สังคมรับทราบ แล้ว วันนี้ สังคม มันดีขึ้นใหมครับ,,
  ผู้สร้างหนังส่วนใหญ่ มีการศึกษา อยูในสังคม ชั้นสูง  ท่านเลี่ยงไปทำหนังแนวอื่น  เลี้ยงท้องไปก่อน  ได้ใหม
 ในขณะเดียวกัน  ผมเองและข้าราชการ ใน 3 จว.  ก็หาวิธีการ เอาตัวไห้รอด เลี้ยง ลูกเมียไปก่อน เช๋นเดียวกัน

เรื่องนี้ผมมีปัญหาบ่อยมากครับ
จนต้องขอกล่าวว่า กบว ปัญญาอ่อน

เด็กอมมือที่ไหนก็รู้ว่าไอ้ตรงที่มันเซ็นเซอร์ผู้ใหญ่เอาใส่ปากแล้วดูดมีควัน ปุ๋ยๆ มันคือบุหรี่
เวลาดูหนังเห็นบุหรี่มันไม่ได้ช่วยให้ความอยากสูบ อยากลองบุหรี่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเลย

พระเอกถือปืนวิ่งไล่ผู้ร้ายมา สู้กัน พระเอกทำปืนหลุดมือ ผู้ร้ายเอาปืนมาจ่อหัวพระเอก
เซ็นเซอร์ปืนซะ อ้างว่าเดี๋ยวเด็กเห็นเอาเป็นตัวอย่าง เด็กที่บ้านมันนี่มันโง่มากขนาดนี้เลยเหรอ
เด็กที่ผมรู้จักส่วนมากนั่งเล่าหนังเป็นฉากๆให้คุณปู่คุณย่าฟังเวลาท่านดูไม่รู้เรื่อง เห็นมันก็รู้ว่าเป็นปืนจ่อหัวทุกคน

การสร้างหนังมันเป็นศิลปะแล้วก็ไม่สามารถสร้างหนังอย่างอื่นไปก่อนได้
ถ้าอยากจะสร้างเรื่องนี้ก็ต้องสร้างเรื่องนี้ ไม่เห็นแปลกอะไร
การที่สังคมเปิดโอกาสให้แสดงศิลปะออกมาอย่างเต็มที่มันบอกถึงความเจริญและการพัฒนาแล้ว
ถ้าที่ไหนที่ยังมานั่งควบคุมจนเกินไป มันหลังเขา ไร้อารายธรรม
ในฝรั่งเศสฉากเลิฟซีนเวลาถ่ายกัน ถอดจริงถ่ายให้เห็นเรือนร่าง การสัมผัสจริง
แต่มุมกล้อง การจัดแสง ดีมาก ไม่ได้ถ่ายแช่ที่หน้านางเอกเมามัน ถ่ายย้ำที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งนานๆ
คนดูที่เจริญแล้วรู้สึกถึงอารมณ์รักใคร่ ไม่ได้ดูแล้วเกิดความกำหนัด หื่นกาม

หนังเรื่องเสียดายก็เป็นหนังที่ดี ดีจนน่าจะเอามาทำซ้ำอีก
ผมรู้จักหลายคนที่เพลาๆหลายๆเรื่อง หลังจากดูหนังเรื่องนี้ มันบอก สงสารแม่ว่ะ ถ้าต้องทิ้งเค้าอยุ่คนเดียว
แต่หลายคนดูแล้วก็ผ่านไป
เหมือนป้ายจราจรปักไว้ ใครทำตามมันก็มีความหมาย ใครขับผ่านไม่ทำตามมันก็เป็นแค่สังกะสีทาสี
หนังก็ได้แค่บอกทาง คนดูค้องคิดด้วย ไม่ใช่คอยให้จูงจมูกอย่างเดียว

แล้วส่วนเรื่องข้าราชการใน 3 จชต. และปัญหาอื่นๆในประเทศนี้ทุกปัญหาสำคัญทั้งนั้น
ไม่ได้หมายความว่าแก้เรื่องนี้เรื่องอื่นไม่ต้องแก้ แล้วการที่พี่น้องเกษตรกรเอานมมาเททิ้ง เรื่องของ3จชต.
ผมไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับการสร้างหนังยังไงขอโทษทีครับ ผมยังผูกเรื่องไม่ได้ซะที


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มีนาคม 10, 2009, 04:30:00 PM
ผมว่ามันก็เหมือนบุหรี่ครับ ....

คนไม่สูบ ทำอย่างไรก็ไม่สูบ ... คนสูบ ต่อให้ห้ามขายทั่วไทย เขาก็หามาสูบอยู่ดี .... คนไม่อยากให้คนอื่นสูบ ก็ควรทำเรื่องรณรงค์ ส่งเสริม ติดป้ายเตือน แบ่งอายุ ฯลฯ

เรื่องฉากโป๊ในหนัง (ไม่ใช่หนังโป๊ และจริง ๆ คนเซนเซอร์ไม่ได้เซนแต่ฉากโป๊อย่างเดียว ...) บางครั้งคนสร้างต้องการสื่ออารมณ์ของหนังให้ครบถ้วนจริง ๆ จึงไม่อยากตัด

ผมรู้จักหนังโป๊ครับ ดังนั้นผมน่าจะแยกแยะออกว่าหนังที่มีฉากโป๊นั้นเป็นอย่างไร  ::005::

ครั้งหนึ่งได้ดูหนังนอกกระแส ของฝรั่งเศส จำได้ว่าเป็นหนังกล่องด้วย .... แต่ผมจำชื่อไม่ได้ครับ .... มีฉาก "ญ. ถูกข่มขืนอย่างทารุณ" นานเกือบ ๑๐ นาที ..... และตอนจบของหนังก็มีฉากเพศสัมพันธ์ด้วยครับ ....

เรื่องนี้ผมดูจนจบ บอกได้ว่าอึดอัดมาก (ไม่ได้มีอารมณ์ทางเพศนะครับ) ... และสรุปเองว่า คนทำเก่งมาก ๆ และฉาก ๑๐ นาทีดังกล่าว ก็เป็นจุดที่ไม่ควรตัดออกเป็นที่สุด .... เพราะเป็นจุดเริ่มเรื่องราวของหนัง .... อารมณ์ของตัวเดินเรื่องมันเริ่มจากตรงนั้น .....

บางเรื่องผมดูได้เกินครึ่งชั่วโมงเล็กน้อย ต้องเลิกดู .... มัน X กันตลอด โดยผมยังดูไม่ออกว่า ผู้กำกับต้องการสื่ออะไร ....

ดังนั้นเรื่องมีเรตติ้งแล้ว ต้องเลิกเซนเซอร์หรือไม่นั้น ผมยังไม่มีความคิดแบบฟันธง ข้างใดข้างหนึ่งครับ เพราะผมเห็นว่าสังคมเรายังมีคนที่ไม่เข้าใจคำว่า "เสรีภาพ" อยู่มาก .... ผมคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจ (อ้าว!!! แล้วดันเอามาเขียน  :OO)

 ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มีนาคม 10, 2009, 04:37:18 PM
แล้วส่วนเรื่องข้าราชการใน 3 จชต. และปัญหาอื่นๆในประเทศนี้ทุกปัญหาสำคัญทั้งนั้น
ไม่ได้หมายความว่าแก้เรื่องนี้เรื่องอื่นไม่ต้องแก้ แล้วการที่พี่น้องเกษตรกรเอานมมาเททิ้ง เรื่องของ3จชต.
ผมไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับการสร้างหนังยังไงขอโทษทีครับ ผมยังผูกเรื่องไม่ได้ซะที

ผมว่าเรื่องของเรื่องคือ .... แทนที่จะเสียเวลามานั่งคิดแทนคนดูหนัง/คนทำหนัง ก็นำกำลังความคิด สติปัญญาในส่วนนี้ ไปในการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร หรือปัญหาความมั่นคงจะดีกว่า ....

น่าจะประมาณนี้ครับ  ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: mchaivis ที่ มีนาคม 11, 2009, 08:46:40 AM
แล้วส่วนเรื่องข้าราชการใน 3 จชต. และปัญหาอื่นๆในประเทศนี้ทุกปัญหาสำคัญทั้งนั้น
ไม่ได้หมายความว่าแก้เรื่องนี้เรื่องอื่นไม่ต้องแก้ แล้วการที่พี่น้องเกษตรกรเอานมมาเททิ้ง เรื่องของ3จชต.
ผมไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับการสร้างหนังยังไงขอโทษทีครับ ผมยังผูกเรื่องไม่ได้ซะที

ผมว่าเรื่องของเรื่องคือ .... แทนที่จะเสียเวลามานั่งคิดแทนคนดูหนัง/คนทำหนัง ก็นำกำลังความคิด สติปัญญาในส่วนนี้ ไปในการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร หรือปัญหาความมั่นคงจะดีกว่า ....

น่าจะประมาณนี้ครับ  ::007:: ::007::
ประเทศมีปัญหาเยอะครับ
คนที่รับผิดชอบก็มีเยอะเหมือนกัน
ปัญหาก็แก้ไปพร้อมๆกันได้
เรื่องเซ็นเซอร์ก็เกี่ยวกับกระทรวงวัฒนธรรม
ซึ่งไม่มีภาระหลักเกี่ยวกับปัญหานมหรือ 3 จังหวัดชายแดนใต้
แล้วถ้าหากคิดกันให้ดี
เรื่องการกีดกันสิทธิเสรีภาพ
เป็นรากเหง้าหนึ่งของหลายปัญหาเรื้อรังในบ้านเรา
การบอกว่าไปแก้ปัญหานั่นโน่นก่อน (ทั้งที่เป็นคนละความรับผิดชอบ)
มันเหมือนหนี ไม่พยายามแก้ปัญหา
สุดท้ายก็วกมาที่ทัศนคติของเจ้าหน้าที่รัฐเหมือนเดิม


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: artami ที่ มีนาคม 11, 2009, 09:30:24 AM
ประเทศชาติไม่ล่มจมหรอกครับ คนดีๆยังมีอีกเยอะ แต่ผมว่าไม่เห็นเกี่ยวกับขอป 3 เลยนะอันนั้นมันอยู่บุคคลมากกว่าไม่ว่าจะเป็นคนขอหรือข้าราชการที่เป็นคนอนุญาตว่าจะมีสติหรือสมองในการคิดวิเคราะห์มากกว่ากัน นะครับ อีกอันนึงผมอยากถามต่อว่าจะโกอินเตอร์ต้องแก้ผ้าด้วยหรอ เมื่อก่อนพระเอกหรือนางเอกจะจูบกันก็ใช้มุมกล้อง หรือจะมีฉากอย่างว่าก็แค่กอดแล้วเอนตัวนอนก็ตัดฉากไปก็เป็นอันรู้กันแล้วว่าได้เสียกัน แต่เดี๋ยวนี้เอะอ่ะก็ต้องจูบจริงไม่เห็นเกี่ยวกันเลย ส่วนตัวผมว่าอย่างนี้นะครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: mchaivis ที่ มีนาคม 11, 2009, 10:16:55 AM
ผมว่าเราต้องเริ่มจากประเด็นเดียวกันก่อนนะครับ
เพราะไม่เช่นนั้น มันจะวน พายเรือในอ่าง
เดี๋ยวสักพัก ก็วกมาเรื่องหนังโป๊อีก
ทำความเข้าใจกันตรงนี้นะครับว่า
การที่คนทำหนังต้องการให้ยกเลิกการเซ็นเซอร์
ไม่ได้เพื่อที่จะทำหนังโป๊นะครับ
เขาอยากทำหนังแบบนักการเมืองโกงบ้าง ตำรวจเป็นผู้ร้ายบ้าง
ซึ่งเดิมทางการห้ามครับ หนังไทยมันก็เลยมีแต่แนวอย่างที่เราเห็นๆกัน
แล้วประเด็นที่ว่ามานี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องโกอินเตอร์ด้วย
มันเป็นเรื่องของเสรีภาพในการทำงานศิลปะ
ส่วนจะศิลปะมากหรือน้อย ก็เป็นอีกประเด็นนะครับ
ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ
หลังจากคุยกันมานาน ระหว่างทางการกับคนในอุตสาหกรรมหนัง
ผลสรุปคือจะเลิกเซ็นเซอร์ แล้วก็หันมาใช้การจัดอายุคนดูแทน
แต่สุดท้าย กลับกลายเป็นว่า
นอกจากจัดเรตติ้งแล้ว ยังจะต้องมีการส่งบทหนังให้เซ็นเซอร์ก่อนครับ
ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้
ส่วนเรื่องหนังโป๊เป็นการอ้างขึ้นมาเพื่อให้คนสนับสนุนการจัดเรตติ้งหนังกลายเป็นผู้ร้ายครับ
ที่ผ่านมา คนทำหนังไทยที่ออกฉายตามโรง ไม่เคยมีใครทำหนังโป๊นะครับ
หรือใครว่ามี แย้งมาได้เลย
ส่วนจะเหมือนเรื่องขอป.3 หรือไม่
ผมจะเสนอแง่คิดให้พิจารณาครับ
การขอป.3 สำหรับประชาชนคนธรรมดา มีการกำหนดคุณสมบัติมากมายหลายข้อ
แต่สุดท้าย โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
การตัดสินใจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายทะเบียน
ซึ่งดุลยพินิจของคนก็ไม่เหมือนกันอีก อันนี้สำคัญนะครับ
เพราะจะมีให้ได้ยินตลอดว่า อำเภอนั้นขอ .45 ได้ อำเภอนั้นไมได้ ทั้งที่คุณสมบัติผู้ขอเหมือนกัน
ถึงที่สุดแล้ว ข้อกำหนดคุณสมบัติมันกลายเป็นว่าไม่สำคัญเท่ากับดุลยพินิจนายทะเบียนครับ
กฎเกณฑ์หลักเกณฑ์มีไว้เพื่อให้ทุกคนสามารถปฏิบัติเหมือนกัน จะได้ไม่เอาเปรียบกัน
ดุลยพินิจเซ็นเซอร์ ดุลยพินิจนายทะเบียน นี่คือจุดร่วมครับ
แล้วมันก็ไม่ใช่ปัญหาของตัวบุคคล
แต่มันเป็นปัญหาของระบบครับ
มันเรื่องใหญ่นะครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: a lone wolf ที่ มีนาคม 11, 2009, 11:07:58 AM
 :D
การแก้ผ้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่คนสร้างงานศิลปะเรียกร้องขออิสระที่จะใส่มันไว้ในเรื่องราวของหนัง
เพราะว่าเขาเชื่อว่าวันหนึ่งหากเขาจะต้องใส่ฉากแก้ผ้าเข้าไปในหนัง  มันจะทำให้เขาถ่ายทอดธีมที่เขาอยากจะถ่ายทอดให้กับโลก  ให้กับคนที่มาเสพงานเขาได้
มันจะทำให้เขาบรรลุเป้าหมายบางอย่าง  ให้คนซาบซึ้งกับกลวิธีการเล่าเรื่อง  หรือเข้าใจ  หรือสามารถถอดรหัสสิ่งที่เขาต้องการสื่อออกไปได้
คนสร้างงานศิลปะเขาจะกลัวอย่างหนึ่งครับ....เขากลัวเชย  กลัวเสี่ยว
การจะยัดฉากคนแก้ผ้าเข้าไปในหนัง  ยัดแบบไม่รู้ว่ายัดเข้าไปทำไม  ยัดแล้วมันไม่ช่วยให้หนังบรรลุถึงธีมรวมที่เขาต้องการสื่อสาร...คนดูเขาก็จะดูแคลนคนสร้างครับ
(อันนี้ไม่เกี่ยวกับหนังลามก  สร้างเพื่อความเสียวถ่ายเดียวนะครับ)
คนสร้างเขาจะอายครับ  เวลาถูกวิจารณ์ว่าสิ่งที่ใส่เข้าไปในหนัง  มันเป็นส่วนเกินเป็นติ่งเป็นหูด
ไม่ต้องส่งหนังไปโกอินเตอร์  ฉายแค่ในเมืองไทย  ก็อายไม่ต่างกัน

เคยอ่านหนังสือเรื่อง จัน ดารา ของประมูล อุณหธูปไหมครับ
เคยมีการสร้างเป็นหนังไทยมาแล้ว
ฉากที่คุณบุญเลื่อง  ขอให้จันเอาน้ำแข็งถูหลังในหนังสือน่ะงามเหลือขนาด
ให้ผมเป็นคนเขียนบทหนัง  แล้วถ่ายทอดฉากนี้เป็นภาพโดยไม่เห็นหลังเปลือยของคุณบุญเลื่อง  ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำได้อย่างไร
จะให้เห็นคุณบุญเลื่องดึงตัวจันเข้ามาหา  แล้วตัดภาพเป็นนอนกอดกันมีผ้าห่มคลุม เพื่อสื่อว่าเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว
คนที่เคยอ่านหนังสือเขาคงด่าผมกันขรม...ผมอาย
แต่ผมจะไม่เขียนให้คุณบุญเลื่องพลิกตัวมาให้เห็นร่างกายด้านหน้าทั้งตัวนะครับ...มันเกินจำเป็น...มันเสี่ยว
กรุณา...อย่าถามว่า...แล้วผมสร้างหนังเรื่องนี้ทำไม...หนังที่มีเรื่องราวอย่างอื่นมีให้ทำอีกตั้งเยอะ
ถ้าถามแบบนี้....ผมเอาตังค์ทำหนังไปเปิดร้านข้าวต้มดีกว่า

จริงๆแล้ว คนทำหนังเขาขอมากกว่าฉากแก้ผ้าครับ

หนังไทย...ถ้าเห็นข้าราชการโกงแล้วตอนจบไม่ถูกตำรวจจับ ทว่าลอยนวลหนีไปได้ไม่ต้องรับผลกรรม...เขาไม่ให้ท่านฉายตามโรงนะครับ

หนังไทย...ท่านมีภาพพระภิกษุหนุ่มนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลง...เขาก็ไม่ให้ท่านฉายตามโรงเพราะเสื่อมเสียแก่วงการสงฆ์

หนังไทย...ท่านถูกห้ามไม่ให้เห็นนายแพทย์หนุ่มเกิดอารมณ์ทางเพศกับผู้หญิงที่เขาชอบพอแล้วเห็นอวัยวะเพศแข็งตัวเป็นลำมองเห็นได้จากนอกกางเกง...เขาเกรงเสื่อมเสียกับศีลธรรมอันดีของผู้ชม (เดาว่าไม่ได้ตัดเพราะเกรงจะเสื่อมเสียแก่วงการแพทย์  เอหรือเกรงจะมีแพทย์มาประท้วงก็มิทราบได้ อิอิ) ทำไมกองเซ็นเซอร์ไม่คิดบ้างว่าผู้สร้างต้องการสื่อว่าคุณหมอที่เรากราบไหว้เวลาไปหาเขาเพื่อให้เขาวินิจฉัยรักษาโรคให้เรา  ความจริงก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเหมือนกับเรานี่แหละ  (แต่ถ้าหนังเรื่องนี้ถูกเอาไปฉายทางโทรทัศน์  จะเบลอฉากนี้  ผมสัญญาว่าจะไม่บ่นครับ เพราะคาดว่าพ่อแม่ที่นั่งดูกับลูกๆคงกระอักกระอ่วนเวลาลูกๆถามว่าอะไรอยู่ในกางเกง)

หนังไทย...ถ้าท่านถ่ายทอดเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจกันในหมู่คณะราษฏร์  เอาแบบมีชื่อเสียงบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงๆ  แล้วท่านทำถึงเลือดถึงเนื้อแบบที่ โอลิเวอร์ สโตน สร้าง JFK ท่านมีโอกาสสูญเงินหลายสิบล้านบาทที่ท่านลงทุนไป  เพราะเขาแบนหนังท่านทั้งเรื่อง  ผมก็มีข้อสงสัยอีกแหละว่า ทำไมสังคมอเมริกันเขาถึงตั้งคำถามกับประวัติศาสตร์จริงจังกันได้  แล้วสังคมไทยเรา  คนไทยเรา  เราเป็นชาติที่อ่อนแอขนาดทนการชำระประวัติศาสตร์ผ่านหนังกันไม่ได้เลยหรือ  เรามียีนส์ด้อยกว่าคนอเมริกันหรือ  ถ้าหากจะมีลูกหลานของคนที่ถูกสร้างภาพในหนังว่าเป็นคนไม่ดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย  ผู้สร้างก็ต้องรับผิดชอบไปขึ้นศาลล่ะครับ  เรามีกฏหมายหมิ่นประมาทประกาศใช้กันอยู่แล้วนี่ครับ  ไปพิสูจน์กันสิ  
แถมตรงหัวข้อนี้นิดนึง  ผมอยากให้มีคนสร้างหนังจากหนังสือเรื่อง "ความฝันของนักอุดมคติ" ของ มรว. นิมิตรมงคล นวรัตน จริงๆ ในนั้นมีเรื่องสั้นชื่อ "ชีวิตแห่งการกบฏสองครั้ง" ถ้าท่านได้อ่านท่านจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดของผู้เขียนทว่าหัวเราะอย่างขมขื่นไปพร้อมๆกัน

ขอจบด้วยถ้อยคำที่ไปจำขี้ปากฝรั่งมาหน่อยนะครับ ของ Alfred Whitney Griswold (คนในวัฒนธรรมไทยเขาไม่ค่อยเขียนอะไรแบบนี้กัน)

...In the long run of history, the censor and the inquisitor have always lost. The only sure weapon against bad ideas is better ideas. The source of better ideas is wisdom. The surest path to wisdom is a liberal education.



หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: a lone wolf ที่ มีนาคม 11, 2009, 11:14:35 AM
 :D


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มีนาคม 11, 2009, 11:45:36 AM
:D
การแก้ผ้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่คนสร้างงานศิลปะเรียกร้องขออิสระที่จะใส่มันไว้ในเรื่องราวของหนัง
เพราะว่าเขาเชื่อว่าวันหนึ่งหากเขาจะต้องใส่ฉากแก้ผ้าเข้าไปในหนัง  มันจะทำให้เขาถ่ายทอดธีมที่เขาอยากจะถ่ายทอดให้กับโลก  ให้กับคนที่มาเสพงานเขาได้
มันจะทำให้เขาบรรลุเป้าหมายบางอย่าง  ให้คนซาบซึ้งกับกลวิธีการเล่าเรื่อง  หรือเข้าใจ  หรือสามารถถอดรหัสสิ่งที่เขาต้องการสื่อออกไปได้
คนสร้างงานศิลปะเขาจะกลัวอย่างหนึ่งครับ....เขากลัวเชย  กลัวเสี่ยว
การจะยัดฉากคนแก้ผ้าเข้าไปในหนัง  ยัดแบบไม่รู้ว่ายัดเข้าไปทำไม  ยัดแล้วมันไม่ช่วยให้หนังบรรลุถึงธีมรวมที่เขาต้องการสื่อสาร...คนดูเขาก็จะดูแคลนคนสร้างครับ
(อันนี้ไม่เกี่ยวกับหนังลามก  สร้างเพื่อความเสียวถ่ายเดียวนะครับ)
คนสร้างเขาจะอายครับ  เวลาถูกวิจารณ์ว่าสิ่งที่ใส่เข้าไปในหนัง  มันเป็นส่วนเกินเป็นติ่งเป็นหูด
ไม่ต้องส่งหนังไปโกอินเตอร์  ฉายแค่ในเมืองไทย  ก็อายไม่ต่างกัน

เคยอ่านหนังสือเรื่อง จัน ดารา ของประมูล อุณหธูปไหมครับ
เคยมีการสร้างเป็นหนังไทยมาแล้ว
ฉากที่คุณบุญเลื่อง  ขอให้จันเอาน้ำแข็งถูหลังในหนังสือน่ะงามเหลือขนาด
ให้ผมเป็นคนเขียนบทหนัง  แล้วถ่ายทอดฉากนี้เป็นภาพโดยไม่เห็นหลังเปลือยของคุณบุญเลื่อง  ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำได้อย่างไร
จะให้เห็นคุณบุญเลื่องดึงตัวจันเข้ามาหา  แล้วตัดภาพเป็นนอนกอดกันมีผ้าห่มคลุม เพื่อสื่อว่าเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว
คนที่เคยอ่านหนังสือเขาคงด่าผมกันขรม...ผมอาย
แต่ผมจะไม่เขียนให้คุณบุญเลื่องพลิกตัวมาให้เห็นร่างกายด้านหน้าทั้งตัวนะครับ...มันเกินจำเป็น...มันเสี่ยว
กรุณา...อย่าถามว่า...แล้วผมสร้างหนังเรื่องนี้ทำไม...หนังที่มีเรื่องราวอย่างอื่นมีให้ทำอีกตั้งเยอะ
ถ้าถามแบบนี้....ผมเอาตังค์ทำหนังไปเปิดร้านข้าวต้มดีกว่า

จริงๆแล้ว คนทำหนังเขาขอมากกว่าฉากแก้ผ้าครับ

หนังไทย...ถ้าเห็นข้าราชการโกงแล้วตอนจบไม่ถูกตำรวจจับ ทว่าลอยนวลหนีไปได้ไม่ต้องรับผลกรรม...เขาไม่ให้ท่านฉายตามโรงนะครับ

หนังไทย...ท่านมีภาพพระภิกษุหนุ่มนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลง...เขาก็ไม่ให้ท่านฉายตามโรงเพราะเสื่อมเสียแก่วงการสงฆ์

หนังไทย...ท่านถูกห้ามไม่ให้เห็นนายแพทย์หนุ่มเกิดอารมณ์ทางเพศกับผู้หญิงที่เขาชอบพอแล้วเห็นอวัยวะเพศแข็งตัวเป็นลำมองเห็นได้จากนอกกางเกง...เขาเกรงเสื่อมเสียกับศีลธรรมอันดีของผู้ชม (เดาว่าไม่ได้ตัดเพราะเกรงจะเสื่อมเสียแก่วงการแพทย์  เอหรือเกรงจะมีแพทย์มาประท้วงก็มิทราบได้ อิอิ) ทำไมกองเซ็นเซอร์ไม่คิดบ้างว่าผู้สร้างต้องการสื่อว่าคุณหมอที่เรากราบไหว้เวลาไปหาเขาเพื่อให้เขาวินิจฉัยรักษาโรคให้เรา  ความจริงก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเหมือนกับเรานี่แหละ  (แต่ถ้าหนังเรื่องนี้ถูกเอาไปฉายทางโทรทัศน์  จะเบลอฉากนี้  ผมสัญญาว่าจะไม่บ่นครับ เพราะคาดว่าพ่อแม่ที่นั่งดูกับลูกๆคงกระอักกระอ่วนเวลาลูกๆถามว่าอะไรอยู่ในกางเกง)

หนังไทย...ถ้าท่านถ่ายทอดเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจกันในหมู่คณะราษฏร์  เอาแบบมีชื่อเสียงบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงๆ  แล้วท่านทำถึงเลือดถึงเนื้อแบบที่ โอลิเวอร์ สโตน สร้าง JFK ท่านมีโอกาสสูญเงินหลายสิบล้านบาทที่ท่านลงทุนไป  เพราะเขาแบนหนังท่านทั้งเรื่อง  ผมก็มีข้อสงสัยอีกแหละว่า ทำไมสังคมอเมริกันเขาถึงตั้งคำถามกับประวัติศาสตร์จริงจังกันได้  แล้วสังคมไทยเรา  คนไทยเรา  เราเป็นชาติที่อ่อนแอขนาดทนการชำระประวัติศาสตร์ผ่านหนังกันไม่ได้เลยหรือ  เรามียีนส์ด้อยกว่าคนอเมริกันหรือ  ถ้าหากจะมีลูกหลานของคนที่ถูกสร้างภาพในหนังว่าเป็นคนไม่ดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย  ผู้สร้างก็ต้องรับผิดชอบไปขึ้นศาลล่ะครับ  เรามีกฏหมายหมิ่นประมาทประกาศใช้กันอยู่แล้วนี่ครับ  ไปพิสูจน์กันสิ  
แถมตรงหัวข้อนี้นิดนึง  ผมอยากให้มีคนสร้างหนังจากหนังสือเรื่อง "ความฝันของนักอุดมคติ" ของ มรว. นิมิตรมงคล นวรัตน จริงๆ ในนั้นมีเรื่องสั้นชื่อ "ชีวิตแห่งการกบฏสองครั้ง" ถ้าท่านได้อ่านท่านจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดของผู้เขียนทว่าหัวเราะอย่างขมขื่นไปพร้อมๆกัน

ขอจบด้วยถ้อยคำที่ไปจำขี้ปากฝรั่งมาหน่อยนะครับ ของ Alfred Whitney Griswold (คนในวัฒนธรรมไทยเขาไม่ค่อยเขียนอะไรแบบนี้กัน)

...In the long run of history, the censor and the inquisitor have always lost. The only sure weapon against bad ideas is better ideas. The source of better ideas is wisdom. The surest path to wisdom is a liberal education.



ถูกใจครับพี่ .... บวกให้แล้ว 1 ... บ่าย ๆ จะบวกให้อีก 1 ... และตอนเย็น ถ้าไม่ลืมจะกลับมาบวกให้อีก 1 ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ มีนาคม 11, 2009, 03:24:57 PM
+ ให้ท่าน a lone wolf  และ mchaivis  คนละ 1 แต้ม...  กระจ่าง ชัดเจน........  ::002::
 
 


หัวข้อ: Re: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ มีนาคม 11, 2009, 09:23:36 PM
ในขณะที่ ผู้เลี้ยงโคนม ต้องเอาน้ำนมมาเททิ้ง.....
ประชาชนเดือดร้อนรายได้น้อย  ....
ชาวบ้าน   ข้าราชการ  โดนฆ่า เหมือนผักปลา,,,
ผู้สร้างหนัง ต้องการความอิสระ  เปิดโลกทัศน์  เสนอมุมมอง  ให่มๆ  ตีแผ่ให้เห็นปัญาหาของ สังคม (ชาวนา จ่ายเงิน มาดูหนัง แล้วกลับไป ปฎิรุป  วิถีชีวิตของตัวเอง ไม่มีหนี้สิน ได้หรือครับ)
...สมัยหนึ่ง  หนังเรื่อง  เสียดาย สิบปีที่แล้ว  อ่านบท วิจารณ์  ท่านว่า เป็นการกล้านำเสนอ เอาปัญหาสังคมมาตี่แผ่ ให้สังคมรับทราบ แล้ว วันนี้ สังคม มันดีขึ้นใหมครับ,,
  ผู้สร้างหนังส่วนใหญ่ มีการศึกษา อยูในสังคม ชั้นสูง  ท่านเลี่ยงไปทำหนังแนวอื่น  เลี้ยงท้องไปก่อน  ได้ใหม
 ในขณะเดียวกัน  ผมเองและข้าราชการ ใน 3 จว.  ก็หาวิธีการ เอาตัวไห้รอด เลี้ยง ลูกเมียไปก่อน เช๋นเดียวกัน
อยากเห็นแนวคิด และมุมมองของท่านเจ้าของกระทู้ ในด้านแก้ไขปัญหาด้วยครับ ว่าควรทำอย่างไร