เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สืบเนื่องจากกระทู้ ่อย่าเก็บ Glock ไว้ในรถ :'(
อยากให้เพื่อนๆ พี่ ที่มีประสบการณ์ในการเริ่มสอนเกี่ยวกับปืนให้เด็กๆ มาแลกเปลี่ยนความรู้และแนววีธีการสอนกันครับ
ส่วนตัวผมคิดจะเริ่มสอนให้ลูกชายอายุ 7 ขวบ ก็ไม่แน่ใจว่าดีหรือยัง หรือรอเมื่อไรดี
แต่เค้าทราบนะครับว่าผมมีปืน ก็จะคอยบอกเค้าว่า ถ้าเห็นอย่าหยิบจับนะ ถ้าเราไม่ใช่เป็นคนหยิบให้ เพราะอาจจะมีลูกกระสุน อันตราย
มีGlock ใช้อยู่เหมือนกันครับ กลัวเหมือนกันว่าเค้าจะคิดว่าเป็นของเด็กเล่น เดี๋ยวนี้เลยไม่ซื้อปืนของเล่นที่มีรูปร่างเหมือน หรือใกล้เคียงของจริงเลยครับ
ตามความเห็นของผม ควรที่จะให้เด็กๆ ได้รู้จักนะครับ ว่าทำอย่างไรให้ปลอดภัย หยิบมาต้องเคลียร์กระสุนออกก่อน คือยึดแบบตัวเองที่สมัยเด็กๆ จะได้เห็นผู้ใหญ่ทำกันนะครับ ตอนแอบมาหยิบเล่น เลยเช็คดูบ้าง
แต่สำหรับลูกตัวเอง ยังตัดสินใจไม่ได้เลยครับ ว่าจะเริ่มอย่างไรดี  และคิดว่ากระทู้นี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆท่านครับ :)

ผมว่าควรให้เด็กรู้จักตั้งแต่แบเบาะเลยดีมั้ยครับ  อย่างผมยิงปืนตรั้งแรก  8ขวบเอง ตอนนั้นยิงปืนแก๊ปครับ แบกปืนยังไม่ใหวเลย  เด็กยุคนี้นะครับ เช่นเด็กในเมืองน่ะ เคยเห็นในหนังก้ออยากลองเล่น  ไม่มีใครให้คำแนะนำ โดยเฉพาะพ่อแม่ที่ต้องทำงานจนไม่มีเวลาเลี้ยงลูก นี่แหละสำคัญครับ 8)

      ผมว่าอายุสัก 6 ขวบ เราก็ควรเริ่มสอนได้แล้วหละครับ  เด็กประมาณนี้กำลังอยากรู้อยากเห็น  และพอที่จะรับรู้ได้ระดับหนึ่ง  ผมว่าสอนให้รู้จักถึงกฎแห่งความปลอดภัย  การใช้งานเบื้องต้น  การทำความสะอาด  พาไปสนามด้วยเวลาที่เราจะไปยิงปืน  ให้ลองฟังเสียง  บอกให้เห็นถึงความอันตรายของกระสุนที่ยิงออกไป  อาจจะเริ่มใช้จับหรือยิงเลยก็ได้  หากมีปืนอัดลมก็เริ่มสอนให้ยิงหากไม่มีปืนอัดลม ก็ขอแนะนำว่าให้เขายิงปืนยาวลูกรดดีที่สุดครับ  เอาแบบพาดแท่น  หรือพาดกระสอบทราย แล้วให้เขานั่งยิง   เด็กขนาดนี้ผมว่ายังไม่ควรให้ยิงปืนสั้น   หากเขาสนใจจริง ๆ อยากยิงปืนสั้น  เรามองดูแล้วเขาน่าจะจับปืนได้  ยกปืนได้  กำปืนได้โดยไม่หลุดมือ   ลองให้เขาหัดเล็ง  หัดเหนี่ยวไกปืนดูก่อน   อย่าเพิ่งให้ยิงจริง   จนว่าเราจะมันใจว่าเขาจะสามารถควบคุมปืนได้  ก็ลองให้เขายิงก็ได้(ใส่ลูกที่ละนัดนะครับ  เพื่อความปลอดภัย)  โดยเราต้องอยู่ใกล้เขาหน่อย   แต่ก็ไม่ควรให้ยิงปืนที่มีขนาดกระสุนใหญ่ เอาแค่ .22 ก็พอ หากไม่มี .22 ก็ใช้ .38 ก็ได้ แต่ควรเป็นลูกซ้อม ขนาดใหญ่กว่า .38 อายุขนาดนี้ไม่แนะนำครับ

ผมว่าเราควรสอนเขาเมื่อเขาพร้อมและให้ความสนใจปืน............ก๊าบ

สำหรับผม มีลูกสองคน 7 ขวบกับ 3 ขวบ  ทั้งสองคนเวลาผมล้างปืน ถ้าเขาเข้ามาดูผมก็จะให้ช่วยเอากระสุนเก็บใส่กล่องบ้าง หรือหยิบโน้นหยิบนี่ตลอด พร้อมกับสอนเรื่องความปลอดภัยว่าปืนนี้ของจริง เป็นของพ่อ ถ้าอยากเล่นอยากจับให้บอก ถ้าแอบมาเล่นเองจะตีและไม่ให้เล่นอีก  เป็นอย่างนี้ตลอด เดี๋ยวนี้คนโตเป็นผู้ชายไม่ค่อยสนใจแล้ว มีแต่คนเล็กที่เป็นผู้หญิงที่มาขอเล่นปืนตอนล้างครับ คนโตผมพาเข้าสนามไปยิงตอนอายุ4ขวบ เป็นปืนยาว .22 ครับ พาดยิง ปัจจุบันก็พาเฉพาะคนโตไปด้วยครับ คนเล็กยังไม่ค่อยกล้าพาไปด้วยเพราะซนกว่าคนพี่ จะไปสองก็ไม่ไหว คงอีกสักพักคงชวนแม่มันไปซ้อมมือมั่ง 
  จะเริ่มเมื่อไหร่ผมว่าขึ้นอยู่กับเด็กครับ คิดถึงตอนเป็นเด็ก พ่อซ่อนเสียอย่างดี ผมแอบเอาไปพกไปยิงจนลูกไม่เหลือเกือบสองปีปืนไม่มีลูก พ่อถึงได้รู้.....

มิมีภรรยาและลูกครับ เลนมีแต่ประสบการณ์ของตัวเอง

ตอนผม 5 ขวบพ่อผมฝึกผมยิงปืน แล้วพาไปยิงที่สนาม รด. ใช้ปืน CZ .22LR ลูกเลื่อนบรรจุกระสุนทีละนัด ยิงแต่ปืนยาว .22 ทั้งลูกเลื่อนและเซมิออโต้มาจนอายุ 11-12 ปีถึงหัดปืนลูกโม่รูเกอร์ Police Service six .38 และลูกซองเรมิงตัน 1100 ครับ

ตั้งแต่เด็กก็รู้ว่าปืนเป็นของที่จับได้เวลาผู้ใหญ่ส่งให้ อยากดูอยากเล่นเมื่อไหร่ก็ไปขอได้ ม่เคนรู้สึกอยากแอบหยิบมาเล่นเอง ตั้งแต่เด็กผมรู้สึกไปว่าปืนก็เหมือนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านอย่างหนึ่ง และนึกว่าทุกบ้านก็มีและพ่อทุกคนก็พาพวกเด็กๆ ไปยิงปืนกันทั้งนั้น ญาติๆ ก็เห็นมีกันทุกบ้าน จนพอเรียน รด. เพื่อนบางคนบอกว่าเพิ่งเคยยิงปืนครั้งแรกยังแปลกใจเลยครับ ถามไปถามมา อ้อ หลายคนที่บ้านไม่มีแฮะ

มิมีภรรยาและลูกครับ เลนมีแต่ประสบการณ์ของตัวเอง เช่นกัน ;D ;D

ตอนเด็กก็วิ่ง 5-6 ขวบ ก็วิ่งเล่นแถววงเหล้าก็เริ่มได้เห็นผู้ใหญ่
เนี่ยหล่ะครับ..ที่นำปืนเอามาโชว์ได้จับก่อนตอนนั้นละครับ
เริ่มชอบมานาน...แต่ไม่เคยลองที่บ้านพ่อแม่ไม่นิยม......
เริ่มเรียนจริงจังตอนเรียน รด. เนี่ยหล่ะครับ.... ;D ;D

มีภรรยาแต่มิมีลูกครับ เลนมีแต่ประสบการณ์ของตัวเอง อีกคน ;D ;D

คือสมัยเด็กสัก ๔-๕ ขวบ ได้ไปบ้านเพื่อนพ่อครับ วันนั้นไม่รู้ว่าผู้ใหญ่เขาทำอะไรกัน ปล่อยเด็กอย่างเรานั่งเล่นที่ห้องรับแขก เห็นปืนลูกโม่ใส่อยู่ในซองหนังเปิดไกมีสายรัดนกอย่างดี ด้วยความอยากรู้อยากเห็น (เพราะชอบดูหนังคาวบอย) แต่ไม่กล้าหยิบเพราะกลัวโดนดุ เลยใช้แต่นิ้วล้วงไปเหนี่ยวไกเล่น ... โชคดีเหนี่ยวไม่ไปเพราะมีสายรัดนกคาดอยู่

มาหัดยิงปืนจริง ๆ ตอน ม.๒ ครับ เหตุเพราะตอน ป.๖ ช่วงปิดเทอม รร.ประจำที่อยู่เขามีประเพณี (ของเด็ก ๆ) ที่จะไม่เอาของกลับบ้าน โดยการชูขึ้นแล้วร้องว่า "ชวด ๆ" ... ใครอยากได้ก็เรียกเอา (แล้วโยนให้ ข้ามหัวกันเป็นที่สนุกสนาน ... ส่วนใหญ่เป็นหนังสืออ่านเล่นกับกระดาษทิชชู่) ... พอดีได้หนังสือ อวป. ฉบับไหนไม่ทราบ ปกอะไรไม่ทราบ (เพราะภาพสีถูกแกะออกหมดแล้ว) จำได้ว่าทดสอบ "โคลท์ คอมมานโด" ... อ่าน ๆ ทั้งเล่มแล้วถึงรู้ว่า เมืองไทยนี้มีของน่าเล่น ที่ประชาชนเล่นได้อีกอย่าง (เด็ก ๆ ชอบ รถถัง เครื่องบิน เรือรบครับ) เลยหา อวป. อ่านมาเรื่อย ๆ จน ม.๒ ถึงได้พบทางสว่างจากครูสอนศิลปะที่ รร. ว่า ไปยิงที่ รด. สิ ...  :o :D :D

สรุปว่า สอนเมื่อเขาอยากรู้ครับ  ;D

 ::)  สำหรับเด็กผู้ชาย  ถ้าเขาเข้ามาป้วนเปี้ยนเยี่ยมๆมองๆในเวลาที่ผมล้างปืนหรือตรวจความพร้อมของปืนเมื่อไหร่  ผมก็จะสอนเขาเมื่อนั้น  เพราะวิสัยของเด็กผู้ชายมักจะชอบปืนเป็นปรกติ เมื่อเขาแสดงท่าทีสนใจก็จะสอนให้ทันที  แต่สอนแบบน้ำหยดลงตุ่ม ค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อน 

ส่วนเด็กผู้หญิงก็เช่นกัน แต่โดยอุปนิสัยที่ไม่เหมือนกับเด็กผู้ชาย ผมจะเป็นฝ่ายเรียกเขามาแล้วสอนเขาครับ  ;)  แต่ก็คงจะต้องมีอายุสัก 4 ขวบขึ้นไปแล้ว

ผมถือว่าเด็กชายกับเด็กหญิงต่างกันโดยเพศอยู่แล้ว  การให้การเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนก็ย่อมต้องต่างกันด้วยครับ

 :)
ครับ
อาวุธปืนในเด็ก ผมคิดว่าน่าจะสอนเขาให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
การใช้งานเป็นอย่างไร
วิธีที่ปลอดภัยต้องทำอย่างไร
สิ่งที่ไม่ต้องทำมีอะไรบ้างครับ
เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยครับ
สุดท้ายพาเขาไปสนามเพื่อฝึกหัดจริงครับ
 :)

 ;D สอนลูกสาวตอนครบ 10 ขวบครับ เพราะเห็นว่าเค้าสามารถรับรู้และใส่ใจในความปลอดภัยได้ ลูกสาวผมไม่เคยจับปืนขึ้นมาเล่นถ้าไม่ได้ขออนุญาตจากผมเลยครับ ;D

ผมก็ยังไม่มีลูกและภรรยาเหมือนกับคุณ LAW ครับ แต่จากประสบการณ์ของตัวเองเริ่มเล่นโดยเห็นพอถอดกระสุนออกเพื่อเก็บ เพราะพ่อไม่ชอบเล่นปืนเลยไม่อยากให้ลูกเล่นตามเพราะพ่อมีประสบการณ์ทำปืนลั่นใส่พื้นบ้านจากชั้น 2 ลงมาชั้น 1 เพราะไม่เคลียร์กระสุนก่อนหยิบมาดู(ไม่รู้กฎแห่งความปลอดภัย) ส่วนแม่ไม่อยากให้เล่นเพราะเมื่อก่อนตอนเป็นเด็กอารมย์ร้อน จึงพยายามหัดเป็นคนอารมย์เย็น และพอทำงานหาเงินเองได้แม่จึงอนุญาติ ก่อนมีก็ศึกษากฏแห่งความปลอดภัย ศึกษาวิธีการยิงตอนอายุ 12 ปี และเก็บเงินค่าขนมมาซื้อหนังสือปืนอ่านตอนอายุ 14 ปี และแอบนำปืนยาวของพ่อไปซ้อมยิงนอกเมืองโดยยึดหลักความปลอดภัย และพออายุ 20 ปี แม่ก็อนุญาติให้แอบเอาปืนพ่อไปแข่งได้
    สรุปนะครับ ถ้าหากเด็กสนใจเมื่อไหรจึงควรจะสอนโดยสอนกฏแห่งความปลอดภัยก่อนครับ 

อันนี้ขอลอกของเพื่อนบางส่วนและเพิ่มเติมอีกบางส่วน
เอาจากประสบการณ์ตัวเองนะครับ

สอนเมื่อเขาสนใจและทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกะสภาพวุฒิภาวะของเขาด้วย
ถ้าเด็กมีวุฒิภาวะพร้อมก็โอเค
แต่วุฒิภาวะไม่พร้อม เด็กสนใจยังไงผู้ใหญ่ก็ควรระมัดระวัง
อย่างผมยิงครั้งแรกปืนลูกกรดลูกเลื่อนตั้งกะ7ขวบ
แต่พ่อสอนให้รู้จักปืนตั้งกะ6ขวบเพราะเห็นว่าเราสนใจ
เริ่มจากสอนเรื่องถอดกระสุนใส่กระสุนเข้าแม็ก
ใส่แม็กเข้าปืน และขึ้นลำ
ถ้าต้องการเคลียร์ปืนให้ปลอดภัยก็ใช้ขั้นตอนทวนกลับ
ถอดลูกเลื่อนออกจากปืนทำความสะอาด ดูกลไกการทำงานของลูกเลื่อน
ลองซ้อมเล็ง รวมถึงสอนความปลอดภัยต่างๆ
และทำความสะอาดปืนทั้งกระบอก อยู่1ปี

วันดีคืนดี พ่อก็ให้ยิงจริง โดยไม่บอกล่วงหน้า
ผ่านครับ ผมสอบผ่าน
อ้อ...สอนเด็กให้รู้จักกลไกของปืนนี่ ถ้าเด็กมีหัวทางช่าง นึกภาพการทำงานของปืนออก เป็นเรื่องที่ดี
อย่าให้เด็กทราบเพียงแค่ เหนี่ยวไกแล้วก็เปรี้ยง  แบบนี้อันตรายครับ เรื่องเซฟสมควรสอนเป็นเรื่องแรกๆ
หวังว่าเด็กของคุณคงจะเก่งกว่าคุณพ่อในอีกไม่ช้า

.......... ;D..ผมว่าถ้าจะสอน ก็ดูที่ตัวเขาครับ ถ้าเราหยิบปืนมาล้างมาเช็ด แล้วเด็กเขาเข้ามาดู  นั้นแหละครับ สอนเลย แปลว่าเขาพร้อมสำหรับเรื่องนี้แล้ว  ...  ;D ;D ;D ถ้าเด็กไม่สนใจสอนให้ตายไม่กีวันก็ลืมครับ.. ;)

สอนเมื่อเด็กรับเรื่องที่สอนได้  น่าจะแปดขวบขึ้นไป

พี่ๆทุกท่านได้ตอบไปหมดแล้ว แถมตนเองก็ไม่มีภูมิความรู้ที่จะตอบด้วย(เพราะต้องขวนขวายไปเรียนยิงปืนด้วยตัวเอง) จริงๆแล้วตนเองยิงปืนครั้งแรกก็ตอน รด.ครับ

1.ยิงปืนลูกกรดครั้งแรก ตอน รด.ปี2 ผ่านปืนยาวเจเกอร์
2.ยิงปืนสงครามครั้งแรก ตอน รด.ปี3 ผ่านปืน เอช.เค33(ปรับการยิงแบบทีละนัด หรือ ยน.)
3.ยิงปืนสงครามครั้งแรกในระบบยิงชุด(ยช.) ตอน รด.ปี4 ผ่านปืน เอช.เค33
4.ยิงปืนพกเซมิ-ออโตฯ ครั้งแรกผ่านปืน ปพ.86(โคลท์มิลี่ทารี่) ตอน รด.ปี5
5.ยิงปืนพกลูกโม่.38 ครั้งแรก ผ่านปืน สมิธฯ สเตนเลส ของนายสนาม สยป.ตร ตอนเรียนยิงปืนพกเบื้องต้น(ช่วงต้นกรกฎาฯที่ผ่านมา)
6.ยิงปืนพกเซมิ-ออโตฯ ขนาด 9 มม. ครั้งแรก ผ่านปืนของพี่มะขิ่น(ซีแซด75 คอมแพ็ก) ตอนไปมิตติ้งชาว อวป.ที่สุพรรณครับผม

ต้องกราบขอโทษที่ตอบไม่ตรงกับหัวกระทู้ครับ ขอบคุณครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

อิ อิ  การเรียนรู้ทุกชนิด

ปัจจุบัน  เราใช้เด็กเป็นศูนย์กลาง   ครับ

เมื่อเด็ก อยากเรียนรู้....โดยไม่จำกัดอายุครับ
เพียงแต่ เราอาจจำกัด ปริมาณแห่งการเรียนรู้นั้น ๆ ครับ

อาทิ  ถ้าเค้ายังเด็กเกินไป ที่จะยิง...จริง ๆ ได้
ก็ให้เค้าหัดถือ หัดจับ ไปก่อนไงครับ

เหมือน ๆ อีตาซับในไงครับ
ล้างไปก่อนแล้วค่อยยิงจริง....


ก๊าก............

ผมคาดไว้ว่า...
เราจำเป็นที่จะต้องสอนให้เด็กเรียนรู้เรื่องอาวุธปืน

ในส่วนของ  "อานุภาพ" และ "ความปลอดภัย" ควบคู่กันไปครับ
ตัวอย่างเช่น...ให้เค้าลองใช้ก้อนหินเขวี้ยงแกลลอนใส่น้ำ  หรือใช้หนังสติ๊กยิงแกลลอนไกล ๆ ก่อน

ซึ่งเค้าจะเห็นเองว่า...เค้าต้องใช้หินกี่ก้อน กระสุนดินเหนียวกี่นัด
ในการทำให้แกลลอนล้ม หรือยิงก้อนดินเหนียวให้ถึงแกลลอนน้ำ

แต่เมื่อเค้า ยิง....ด้วยกระสุนเพียง....นัดเดียว 
มันกลับทำให้เป้าหมายแตกกระจายออกไปได้......

การยิงแต่เป้ากระดาษ  เป็นการฝึกฝนที่ดีครับ สำหรับความแม่นยำ

แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว  ผมเห็นว่า "อานุภาพ" เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เด็กจะต้องเรียนรู้ครับ

เรียนรู้ใน อานุภาพ ของกระสุนปืน 
 



ล่อซ๊า.............


จากนิ้วที่จิ้มแป้น....


 
 

ผมยังไม่มีลูกอ่ะครับ  ;D  แต่ผมก็เห็นด้วยกับหลายๆท่านว่าต้องดูที่เด็กว่าพร้อมหรือเปล่าครับ เวลาสอนต้องเน้นความปลอดภัย  และให้เด็กสนุกกับการยิงปืนครับ  ;D  

ผมมีลูกชายสองคน.........9 ขวบ กับ 6 ขวบ...........ตอนนี้ยิงปืนลูกกรด .22 scout (ซึ่งผมต้องซื้อให้)ได้แล้ว คนโตไม่ต้องพูดถึง คล่องเลย ............คนเล็ก ตอนนี้ บรรจุกระสุนใส่แม๊ก ยัดแม๊กเข้าตัวปืน เปิด-ปิดลูกเลื่อนได้เอง.......และที่สำคัญ รู้จักเอานิ้วพาดโกร่งไก เมื่อยังไม่ยิงได้แล้ว.........

ผมเริ่มสอนเขา เมื่อเขาทั้งสองเริ่มเข้ามาสนใจ เวลาผมล้างปืนที่บ้าน..............เริ่มมาขอจับ มาลูบคลำ.........เลยสอนเสียเลยทั้งความปลอดภัยและการยิง การบรรจุกระสุน(แต่ไม่สอนการถอดประกอบ)...........และสอนไว้ว่า.........ปืนของพ่อ เป็นปืนจริงๆ ยิงคนตาย ถ้าหนูอยากจับ อยากเล่น ให้มาขอพ่อ......พ่อจะให้หนูจับ หนูเล่น........แต่ถ้าหนูมาจับหรือมาเล่นปืนของพ่อ โดยไม่ขออนุญาต พ่อจะไม่ให้หนูจับปืน จะไม่สอน จะไม่ให้ยิงปืนตลอดไป

ลูกชายสองคน ............ ผมต้องพาไปยิงลูกกรดพาดแท่น ที่ ศรภ. อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง (ม่ายงั้นจะมีการทวงถาม).................ทำมาตอนนี้ก็ปีกว่าแล้วครับ

ผมเคยลองทดสอบ โดยการเอาทั้งปืนสั้นและปืนยาว(ไม่มีกระสุน)........วางทิ้งไว้ในบ้าน ทั้งบนโต๊ะทำงาน  หัวเตียง หรือพิงผนังไว้............แล้วคอยจับสังเกตุ ปรากฎว่าทั้งสองคน แค่มองดูแล้วจากไป หรือไม่ก็ไม่สนใจเลย...................มีบ้างบางครั้งเดินมาบอกว่า พ่อลืมปืนไว้ครับ เอาไปเก็บในตู้ด้วย เดี๋ยวเป็นสนิม ;D ;D.......เขารู้ว่าตู้นี้เป็นตู้ปืนพ่อ

แต่ปกติ ผมจะเก็บแบบมิดชิดเลย............ต้องระวังไม่ให้พลั้งเผลอโดยเด็ดขาด ถึงแม้ว่าลูกชาย เริ่มที่จะเรียนรู้เรื่องปืนบ้างแล้ว

ผมมีลูก 2 คน ได้สอนแต่ลูกสาวคนโต เพราะลูกชายคนเล็กป่วย ตอนเด็ก ๆ ลูกสาวไม่เคยสนใจเรื่องปืนเลย ผมยิงปืนที่บ้านเป็นประจำ (ทั้งปืนลม และ ยิงแห้ง) แค่หยุดดู ถามสองสามคำแล้วก็ไป คงเป็นเพราะเขาเห็นผมเล่นมาตั้งแต่ยังเด็กมาก ๆ แต่ผมหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าต้องสอนให้ลูกยิงปืนเก่งให้ได้ พออายุครบ 11 ปีก็พาไปเรียนที่ชมรมยิงปืนของเมือง (เขารับอายุ 11 ขึ้นไป) จำได้ว่าเสียค่าเรียนแค่ 12 เหรียญต่อเทอม เขามีปืน/กระสุน/โค๊ช ให้เสร็จเรียบร้อย แค่เอาตัวไปเรียนเท่านั้น เริ่มจาก Smallbore Rifle ยิงอยู่ได้ 2 ปี (รวมทั้ง Summer ด้วย ปรกติตอน Summer เด็กที่นี่จะหยุดพักผ่อน ผมก็ไปส่งไว้กับครูยิงปืน ส่วนผมแยกไปยิงปืนสั้น) อายุประมาณ 13 เลื่อนขั้นจาก Marksman, Sharpshooter, Expert มาเป็น Distinguish Expert เด็กนี่พอทำอะไรมีคนให้กำลังใจ คอยชม คอยแนะนำ เขาจะตั้งใจ พยายามทำจนเต็มความสามารถ  พอผมเห็นว่ายิงปืนยาวได้ถึงขั้นสูงสุดของเด็กแล้วก็เริ่มสอนให้ยิงปืนสั้น ช่วงนั้นผม Active มาก ออกตระเวนแข่งยิงปืนเกือบทุกสัปดาห์ พอไปแข่งที่ไหนก็ไปกันทั้งครอบครัว บางทีก็ควบการ Camping ไปด้วย ผมก็พยายามขยั้นขยอให้ลูกลงแข่งด้วยทุกครั้ง เป็นเพื่อนกัน เพราะธรรมดาเขาก็ต้องรออยู่แล้ว เสียเวลาเท่ากัน แข่งปืนสั้นอยู่ประมาณปีนึงได้ เนื่องจากผลการยิงทุกครั้งจะต้องส่งไปที่ศูนย์ใหญ่ของ NRA พอยิงได้ดี ทาง NRA เสนอขอตัวให้ไปฝึกที่ Olympic Training Center อยู่ที่ Colorado Spring ทางชมรมยิงปืนของเมืองพอทราบข่าวก็ดีใจมาก ขอสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สรุปแล้วไปฝึกที่ Olympic Training Center อยู่สองสัปดาห์ ก่อนจบหลักสูตรเขาจัดแข่งขัน ลูกสาวผมได้เป็นที่ 2 ของเด็กทั้งหมดใน Sub-Junior Division (คนไปจากทั่วอเมริกา) ก็จัดว่าประสพความสำเร็จไปขั้นหนึ่ง  มาช่วงหลังแกเรียนหนังสือหนักมากเรื่องยิงปืนก็เลยหดหายไป มาบอกผมตอนหลังว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้ชอบยิงปืนหรอก แต่ที่ทำไปเพราะอยากจะเอาใจพ่อ ปัจจุบันลูกสาวอายุ 29 (จะ 30 อยู่อีกไม่กี่เดือน) จบแพทย์แล้ว เวลาผมชวนไปยิงปืนก็ยังพยายามชวนลูกไปยิงด้วยอยู่เสมอ ๆ ครับ
 

ผมยังไม่มีแฟน ;Dก็ขอตอบจากประสบการของผมนะครับ สนใจอาวุธปืนอย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอน ม1.เพราะเข้าไปเรียนในกรุงเทพหาหนังสืออ่านได้ง่ายกว่าต่างจังหวัด....พ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไร สนับสนุนให้ผมสนใจในเรืองนี้ด้วยซ้ำ พอสัก ม2แม่ก็ซื้อปืนอัดลมแบบ ที่สมัยนี้อันละไม่เกิน 100 บาทให้แต่สมัยนั้นก็ตกเกืยบ ๆ 500 บาท ผมก็เอามาฝึก พอปิดเรียนก็ได้ยิงของจริงก็ตอนนั้นครับ น่าจะสักอายุ 14-15 ได้ ยิงครั้งแรกก็ .22 ของแม่ หลังจากนั้นก็ เล่น .45 ของพ่อ ข้ามขั้นไปหน่อย ส่วนเรืองข้อมูลเรืองความปลอดภัยผมก็อาศัยอ่านใน หนังสือเอา ก็อวปนั้นแหละครับ +หนังสือที่ซื้อมาด้วย แต่ผมโชคร้ายหน่อย ตรงที่โดนเพือนและญาติในวัยเดียวกันล้อว่าบ้าปืน อยากเป็นแรมโบ้ อะไรประมาณนั้น จนเรียนมหาลัยก็ยังไม่วายโดนล้อแต่พอถึงวิชา"การพูด"ผมก็เอาเรืองนี้ไปพูดใครจะว่ายังไงก็ช่างผมมันหน้าด้านครับไม่แคร์55555....

น่ารักดีครับ  :D

ขอแถมอีกนิดครับ เมือง Dallas ที่ผมอยู่ปัจจุบัน  ชมรมยิงปืน Dallas Pistol Club มีโค๊ชปืนสั้นที่เก่งมาก คือ Coach Wong คนนี้ปั้นนักกีฬายิงปืนไปโอลิมปิคมาหลายคนแล้ว  ย้ายจาก OTC Colorado Spring มาอยู่ที่นี่ นักยิงปืนไทย คุณเอ็กซ์ (จักกฤษณ์)  ก็ยังเคยมาฝึกกับแกอยู่พักนึง ถ้าใครมีลูกหลานทางนี้ที่สนใจการยิงปืน ส่งมาเรียนได้ครับ ค่าเรียนเทอมละ $25 เท่านั้นเอง มาแต่ตัวก็ยังได้ อุปกรณ์ เป้า กระสุน มีให้พร้อม

ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ว่าควรสอนตั้งแต่กี่ขวบ แต่ถ้าเด็กมีความสนใจอย่าไปบ่ายเบี่ยง...สอนไปเลย สอนให้รู้...ให้เป็นและสอนหลักของความปลอดภัยด้วย
ตัวเองเริ่มยิงปืนครั้งแรกตอนประถม(ไม่แน่ใจว่าป.อะไร)ตามพี่ชายเข้าไปสนามรด. โดยเริ่มจากปืนอัดลม(ไม่แน่ใจว่าสั้น/ยาว) ซึ่งในขณะนั้นสนามรด.มีปืนลมให้เช่า/ยืมด้วย
ช่วงม.ต้นก็ยิงที่บ้าน(ชานเมืองกทม.เมื่อเกือบ20ปีที่แล้วเลยไม่ค่อยมีเพื่อนบ้าน)ด้วยปืนสั้นขนาด.22 สลับกับปืนสั้นอัดลม(ปืนเป็นของเพื่อนพี่ชาย) เป้าก็จะเป็นกระป๋องต่างๆ
พอจบม.ปลายช่วงนั้นค่อนข้างว่างจึงไปเรียนยิงปืนของสนามรด. นี่แหล่ะค่ะคือจุดเริ่มต้นของการยิงปืน โดยที่ผู้ปกครองก็ไม่ได้สนับสนุนเลยแม้แต่นิดเดียว...แต่ดันทุรัง...555 ;D

 ;D แปลว่าปัจจุบันอายุรุ่นราวคราวเดียวกะผม... ;D

จ๊าก...โดนจับได้เลยเรา...ไม่จริ๊ง...ไม่จริง...อันนี้โอแค่เอามาเล่าเล่นๆอย่าเอามาคำนวณสิค่ะพี่หมอ

อ้าว.........คุณโอ ผ่าน "สามแยกลาดพร้าว"   มุ่งสู่แยก"หลักสี"แล้วหรือครับ ;D

ผมนึกว่า พึ่งผ่าน "วงเวียน 22 กรกฎา"เสียอีก :P

หน้ายัง เด้ง อยู่เลย ;D ;D ;D ;D ;D

แฮ่ๆๆๆ
แต่อีตา51นี่ เข้าเขตคลองห้า  รังสิตแย้วครับพี่มะขิ่น

จำไว้เลยนะ อีตา51
แค้นนี้ต้องชำระ
อีตาสองทีสองพัน

จริงๆแล้วเจ้าของกระทู้ถามเรื่องหัดเด็กยิงปืน
อีตา51(เพื่อนอีตามะเอ็ม)
เค้าถนัดเรื่องหัดเด็กอายุไม่ต่ำกว่า18ปียิงปืนม๊าก...มาก
ต่ำกว่านั้น เค้าม่ายหัดให้ง่ะ
เค้าบอกอันตราย เดี๋ยวติดคุก

สาวอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังชอบยิงไปชิมไป ก็มักจะ "เต่งตึง" แบบนี้ล่ะครับ คุณมะขิ่น  ;D

ว่าแต่............เวลาสอนเด็ก หรือ ให้เขาสอน

ต้องทำหน้าเป็น   งู เมาม้า ขนาดหนักแบบนี้หรือเปล่า ;D ;D ;D



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

   ยังไม่มีลูกมีเมียครับ ;D เลยไม่รู้ว่าจะสอนตอนไหน ;)
   แต่มีประสบการณ์ ครับ  เพื่อนบ้านเอาปืนลูกโม่แต่งไกเบาใส่กระสุนไว้ พร้อมยิง  ซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าครับ
เช้าวันหยุด วันนึง ลูกชายวัยสามขวบ  แอบไปหยิบมาเล่น  กำปืนสองมือเหมือนในหนัง  เล็งไปที่หลังของพ่อครับ ???
แม่เดินมาจากหลังบ้านร้องเสียงดังลูกชายเลยหันไปดู  >:( หลอกล่อ กันอยู่พักใหญ่ลูกชายถึงยอมวางปืน
ถ้าวันนั้นเด็กเหนี่ยวไกเพราะความไม่รู้  ก็คงเกิดการสูญเสียขึ้นครับ
      ::)ผมว่าเด็กๆน่าจะรู้ความตั้งแต่สามขวบหรือตั้งแต่พูดได้ครับ  ถ้าเค้าสนใจ  สอนได้เลยครับ ไม่น่าจะจำกัดอายุ ;D ;D

นี่คือ ท่ายิง ปืนลูกซองที่ ถูกต้อง

จำไว้นะหนู....... ;D ;D ;D ;D

ซาบายจาย........

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ขอบคุณค่ะพี่มะขิ่นที่ชมโอว่าหน้าเด้ง เรื่องอายุเนี่ย ยังไงๆขอรถติดอยู่แถวลงทางด่วนดินแดงนานๆดีกว่าค่ะ ไม่ยอมไปหลักสี่แหงๆ พวกพี่ๆนำไปก่อนนะคะ ;D

เห็นแล้วนึกถึงโฆษณาเลยครับพี่โหน่ง เหมือนๆๆๆ
สรุปว่านายซับ คิดได้ยังว่าจะเอาเงินไปทำไร

ตาย....
งานนี้ตาย...
คิดว่าจะทะเลาะกะอีตา51
โดนพี่มะขิ่นเล่นซ้า.....
โธ่......เวงกำ....
ท่านทัดมาลามาตามหลังอีกแน่ะ
 :D ;)

น๊าน........พาดพิงครับ........มีชื่อออกอากาศ  ต้องฟ้องครับ..

ตอนนี้เริ่มหัดเก็บก่อนครับ.....



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

  :Dป่วนไปทุกกระทู้ ;D
 ผมเริ่มสนใจกีฬายิงปืนอย่างจริงจังตามนิสัยเด็กผู้ชายก็ตอนอายุประมาณ14 คับ ;) ตอนนั้นก็เริ่มจากอ่านนิตยสาร อวป. นี่แหละครับ แหล่งความรู้ ;D  ผมอ่านอวป.ตอนนั้น ยอมรับครับ ได้ประโยชน์เต็มที่เลย  ได้เรียนรู้ความปลอดภัย เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง ถึงยังจะไม่เคยจับปืนจริงมาก่อนก็ตาม ;D
 ต่อมาไม่นาน ยิงปืนจริงครั้งแรกที่งานกาชาด อายุก็ราวๆนี้ 14-15   เป็นปืนลูกโม่.22...โอ้โอ ครั้งแรก ตื่นเต้นมาก  ได้จับปืนจริงครั้งแรก :o .22  5นัด 40 บาท  ตอนนั้นประสพการณ์ ความรู้น้อย(ตอนนี้ก็ยังน้อยอยู่) ก็เลยนึกว่า "อ่ะหูว ทำไมถูกจัง แค่นัดละ8บาทเอง"  ที่ไหนได้ ราคาจริงๆแค่3บาท :P  ยิงไม่ได้เรื่องเล้ย  5นัด เข้าเป้า2นัด อีก2นัดอยู่วงขาว อีกนัดหลุดเป้า :-[ 555
 พอกลับบ้านก็โทรไปหาป๊ะป๋า บอกว่าไปยิงปืนมาแล้ว  หนุกมากกกก ;D  หลังจากนั้นเค้าเห็นว่าผมสนใจจริงๆ เลยเอาปืนS&W 36-1 ของเค้ามาให้ลอง 8)  พ่อผมเค้าก็เอาปืนกระบอกนี้มาเก็บในลิ้นชักโต๊ะทำงานไว้ เอาไว้ให้ผมฝึกมือ :D  ครั้งแรก เรียกไปดู  กวักมือเฉยๆ ไม่พูดอะไร  ไอ้เราก็ใจเต้นตุ้บๆ นึกว่าทำอะไรผิด จะเรียกไปสั่งสอนรึ  เพราะหน้าขรึมมากๆ นิ่งมากๆ :oเสียวสันหลังวาบ  ที่ไหนได้ พอเค้าหยิบปืนออกมา โอ้ววว!!! ดีใจจริงๆ ;D  หลังจากนั้นก็ไปนั่งเล่น ไปเหนี่ยวไกยิงแห้งแชะ  แชะ ไปวันๆ ;D ง่ะ!!!  ไกแข็งชิบเป๋งเลย แถมหน้าไกก็แกะลายกันลื่น  เหนี่ยวไกแต่ละทีเจ็บนิ้วจริงๆ  เค้าก็เลยเอาปืนไปแต่งไก้ให้เบาลงมาหน่อย ;)  ดันสับไม่ค่อยจะแตกอีกแน่ะ :P  จากนั้นไม่กี่วันก็เข้าสนามจริงๆ เป็นเรื่องเป็นราวไป  เช่า.22 ยิงก่อน เพราะเพิ่งเริ่ม ยิง.38เลยเดี๋ยวจะสยองซะ ;D  เล่น.22 อยู่ช่วงนึง  ขาประจำ เซียนสนามก็เอา.38 มาให้ลอง :o  ติดใจๆ หนุกมากๆ ครั้งแรก ;D อิอิอิ ตั้งแต่นั้นเลยยิง.38 มาเรื่อย จนอยากลองออโต้มั่ง ก็เลยเช่าสนามยิง เพราะไม่มีออโต้ ;D ;D ;D

เรื่องจะสอนให้ยิงเมื่อไหร่นั้น ต้องดูความพร้อมของตัวเด็กก่อนครับ

ญาติผู้ใหญ่ผมท่านหนึ่ง เป็นคนชอบปืนมาก มีสะสม ประมาณ 40 กว่ากระบอก ตัวท่านเองมีนิสัยกล้าบ้าบิ่น พอลูกท่านอายุ 7-8 ขวบ ท่านจับมาสอนยิงปืนเลยครับ สมัยนั้นไม่นิยมใช้ที่ป้องกันเสียง พีี่ๆผมยังไม่พร้อม และตัวพ่อก็ดุแบบนักเลงลูกทุ่ง เวลายิงเสียงดังหูอื้อ ปืนก็หนัก ใช้ลูกโม่ .357 ลำกล้อง 6" ยิงลูกซ้อม.38 ผลปรากฏว่า ลูกพี่ลูกน้องผม คนโตอายุ 40 คนรอง 30แก่ๆ เกลียดปืนไม่ชอบปืนเลยครับ วางไว้บนโต็ะแม้ชำลองมอง ยังไม่อยากมอง มีลุกชายคนเล็กเท่านั้นที่ชอบแต่ชอบแบบคนซนคนทะโมนครับ พอท่านตายลูกเมียท่านก็ขายปืนทิ้งเกือบหมด

เมียผมและพี่ๆน้องๆเธอ  ก็ไม่ชอบปืน เนื่องจากสมัยเด็ก แถวบ้านเวลาไปงานบุญ มักยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นประจำ เธอตกใจเสียงปืน เข็ดหลาบไปนาน เมียผมที่สอนยิงปืนใด้บ้างเพราะเธอกลัวภัยรอบตัวเท่านั้น ถ้าชวนไปยิงเล่นซ้อมมือ มักจะปฎิเสธเสมอ พี่ชายเธอพึ่งรับราชการเป็นตำรวจ ก็พึงมาหัดชอบปืนเมื่อเร็วๆนี้  นี้ขนาดญาติผู้ใหญ่ล้วนแต่เป็นคนชอบปืนทั้งนั้น

มีเพื่อนอยู่คนครับพี่โทน
ตอนเด็กๆร้องกระจองอแง
ญาติผู้ใหญ่ รำคาญเลยจับไปใส่ในโอ่งข้างบ้าน(ไม่มีน้ำ)
กะขู่ให้เข็ดหลาบ
ที่ไหนได้ ร้องหนักกว่าเดิม จนต้องไปเอาออก

โตขึ้นมา เธอไม่อยากเข้าใกล้โอ่ง...
เกลียดโอ่งฝังใจ ตั้งกะนั้นมา
สมัยเรียนมหาลัย เพื่อนคนราชบุรีจะพาเที่ยวที่โรงปั้นโอ่งมังกร เพราะไม่ทราบว่าเธอกลัว
วงแตกเลยครับ

    สอนตอนอายุประมาณ 16-17 กำลังดีเลยครับ ตอนสอนก็คุยกับเค้าตลอดนะครับว่าปืนมีประโยชน์หรือให้โทษอย่างไร  (รุ่นนี่แล้วคงไม่ต้องสอนมากแล้วครับ คิดเองได้) แล้วปืนก็ต้องเก็บไว้ให้ดีด้วยนะครับ อย่าให้หยิบง่ายมากนักนะครับเดี่ยวเค้าจะเอาไปใช้ในทางที่ผิด...

ลูกผมอายุแค่สองขวบกว่าผมยังไม่รู้ว่าจะเริ่มสอนแกยังไง  แต่พออ่านกระทู้นี้แล้วพอจะรู้ว่าจะสอนยังไง  ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ;D

งั้นก็แสดงว่า  อาจมีบางท่านโดนจับไปอยู่ใกล้ ๆ กรงงู...............ครับ

เจอ....งู....เป็นต้องซัดด้วย  ฟ๊าบบบบ...อาร์ม.....ทุกทีเยย.....อิ อิ

งานหน้าสงสัย...โดนอาร์พีจี...แหง๋ม ๆ อิ อิ

ไง.....นู๋ซับฯ  มีตัณหา.....เหรอ....อิ อิ

พ่อเน็ทเตาถ่าน..........

คำก็เตาถ่าน สองคำก็เตาถ่าน
แล้วเธอล่ะยะ แน่จริงเข้าเน็ตวันนี้สิยะ ธ่อ......
ไม่อยากจะเซด..
ฟ้าบอาร์มรึ จะยิงเป้าเลื้อยถูก

อีตา51 วันนี้ถูกล่ามโซ่ติดกะขาโต๊ะกินข้าวรึป่าวยะเธอ

 ตอบในฐานะคนมีลูกแล้ว ละกันครับผมว่าสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ ที่ว่าเรามีปืนเมื่อไร เพราะ เดียวนี้สื่อต่างออกมาค่อนข้างมากเด็กไม่รู้หลอกครับว่าปืนจริงปืนเก๊  ผม เองที่ บ้านจะไม่นิยมซื้อปืนให้เด็กเล่นผม เองก็จะไม่ซื้อ ให้ ถ้าจะซื้อผมจะไม่ซื้อพวกที่เหมือนของจริง เนื่องจากโดย วุฒิภาวะของเด็กคง ไม่สามารถแยกออกว่าของจริง ของปลอม แต่ที่แน่ ๆ ผมจะสอนเขาทุกครั้ง ที่ เอาปืน เด็ก เล่นมายิงใส่กันว่ามันเป็นการไม่ดีไม่ถูกต้อง  สิ่งที่เด็ก ต้อง เรียนรู้ คือ สิ่ง ไหนควรหรือไม่ควร  พฤติกรรมใด ๆที่ควรหรือพฤติกรรมใดที่ไม่ควร :)   การใช้งานโดยพื้นฐาน  ความรุนแรง ของ อาวุธ ปืน ผม เอง ก็ เหมือน กับ พี่ ๆหลาย ท่าน ครับ จะพยายามสอนว่าสิ่งนี้ ควรเล่น หรือ ไม่ แล้ว แกก้ จะไม่มาหยิบ ครับ แก จะเล่น ก็ แต่ของแกเอง ถ้าวันไหน เขา มีท่า ทางสนใจมากหน่อย และผมมีเวลา ก็ จะสอนแก ครับ ให้ แก เรียนรู้สิ่งที่ถูกจาก  เราดีกว่า ให้ แกไป เรียนรู้ สิ่ง ที่ผิดๆ  เกี่ยวกับอาวุธปืนใน ภาพยนต์ :D
     

พี่มีขันติดีจริงๆครับ  ผมสิเวลาคนมาล้อ มีอยู่ครั้งหนึ่ง อายุ17 น้าเอาปืนมาอวด( มีลูกด้วย ) แต่มีใอ้ปากหมาน ข้างบ้าน เดินมา  ล้อ  "เฮ้ย บ้าปื๋นตึงผะกุ๋นบ่า เฮ้ย ปื๋นนี่ยิง ฮู้ ขี้ฮายังบ่าเข้า " ( คำเมืองนะครับ  แปล  เฮ้ย บ้าปืนทั้งตระกูลเลยเว้ย ปืนห่านี่ยิงตูดกูยังไม่เข้าเลย )   อีวิล ฟิวส์ขาดคว้า 9 มม ไล่ยิงเลยดีที่ไม่โดนมิเช่นนั้นคงมิใด้มานั่งจิ้มในนี้หรอกครับ   เฮ้อ  เย็นใด้ก้อดีนะครับ ;D ;D ;D ;D

ยกกระทู้นี้ขึ้น แก้เซ็งกับบบรยากาศหลังปีใหม่

มีความเห็นเหมือนเพื่อนสมาชิกหลายๆท่านครับ  โดยเฉพาะพี่มะขิ่ม คือผมไม่ปิดบังลูกบอกเขาตามตรงว่าปืนมันอันตรายถ้าใช้โดยประมาทขาดความยั้งคิค ยั้งทำ มีอุทาหรณ์ใดที่เป็นตัวอย่างก็จะเล่าให้เขาฟังครับ  ส่วนในเรื่องพาไปหัดยิงปืนนั้นผมก็เคยพาเขาไป  เมื่อตอนเขายังเด็กให้หัดยิงปืนลูกกรดก่อน  แต่เดี๋ยวนี้ชวนไปสนามยิงปืนกลับไม่อยากจะไปแล้วบอกว่าหนวกหู  แต่ก็มีบางโอกาสที่เขาอยากจะยิงก็พาไปป็นบางครั้งครับ  เด็กถ้ายิ่งบอกว่าปืนไม่ดี มันอันตราย โดยที่ไม่อธิบายว่าไม่ดีอย่างไร  อันตรายอย่างไร  ในความคิดผมๆคิดว่าถ้าอย่างนั้นมันยิ่งอันตรายมากกว่าครับ..........

ขึ้นอยู่กับความพร้อม...ของผู้เรียน..และ...ผู้สอน...

ข้างบ้านมันแจ๋วจริงครับ  ;D ;D ;D ถือปืนอยู่ในมือยังกล้าแซวขนาดนี้  ;D ;D ;D

สอนเมื่อเขาพร้อมที่จะเรียนรู้ 8) 8) 8)

ทุกท่านโชคดีที่มีลูกที่ดีครับ  :)

เพื่อนบ้านของผม ครั้งนึงมีการทะเลาะกับลูกชาย
ลูกโกรธและโมโห พรั้งปากพูดไปว่า "ถ้ามีปืนจะเอาไปยิงพ่อ"
ผู้เป็นพ่อจำคำพูดนั้น...  เรื่อยมาจนถึงบัดนี้ จึงไม่สนใจจะซื้อปืนไว้ใช้งาน
อีกเลย ( เรื่องนี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว )  :-\

ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองว่ามีความคิดอ่านเป็นอย่างไร