เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 05:32:27 PM



หัวข้อ: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 05:32:27 PM
วันนี้ขอตั้งกระทู้เล่าเรื่องยาวๆ พร้อมภาพประกอบครับ

เครดิตภาพและเรื่องจากคุณ ตาทุ้ย จาก Tee-noi ซึ่งผมขอขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาเผยแพร่ให้รับทราบกัน ณ โอกาสนี้ครับ

(http://61.19.248.235/uploads/bf6beb2beb.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=bf6beb2beb.jpg)

จะเล่าถึงความเป็นมาของสงครามในลาวครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 05:38:21 PM
เรื่องที่มีคนจำนวนมากอยากทราบ
เพราะสงครามในลาว เป็นสงครามลับๆ ที่ดำเนินการโดย CIA

ข้อมูลต่างๆ จึงออกสู่สังคมแบบกระท่อนกระแท่นมาตลอด
แต่ขณะนี้เวลาผ่านมาสามสิบปี ปัญหาเรื่องความลับคงหมดไปแล้ว

ผู้เล่าเรื่องนี้ไม่ได้มีความสำคัญหรือเป็นบุคคลลึกลับเหมือนที่ท่านได้เคยดูหนังเจมส์บอนด์แต่อย่างใด
เพียงแต่มีโอกาสเข้าไปเป็น Local Staff ชอง CIA ในลาวเท่านั้นเอง คำว่า CIA ฟังแล้วคงเป็นเรื่องลึกลับและเป็นอะไรที่แตกต่างกัน
กับคนทั่วๆไป ความเป็นจริงแล้ว CIA เป็นหน่วยงานลับของสหรัฐที่มีอิทธิพลสูงเทียบเท่าระดับกระทรวงกลาโหม แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสแล้วผมว่า สมช.ของไทยเราไม่ได้แพ้ CIA ของสหรัฐเลยแม้แต่น้อย

เพียงแต่ของเขามีงบประมาณและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและเพียงพอโดยไม่ต้องขึ้นกับนักการเมือง จึงทำให้เขาสามารถทำงานได้อย่างอิสระและมีประสิทธิภาพสูง แต่การจัดการ การเลือกบุคคลากรก็ยังมีระบบเส้นสายหรือพรรคพวกมากกว่าคนเอเชียเราเสียอีก เช่นหน่วยที่ปฏิบัติการในลาว หัวหน้าเป็นอดีตนายทหารจากนาวิกโยธิน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ระดับ officer เกือบทั้งหมดของ CIA ตั้งแต่ปากเซจรดทางเหนือสุดของลาวจึงมีแต่อดีตนายทหารจากนาวิกโยธินเสีย 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการสนับสนุนด้านการรบ ทาง USAF หรือกองทัพอากาสของเขาก็ให้การสนับสนุนเต็มที่โดยมีฝูงบินทิ้งระเบิดชนิดใบพัดรุ่น A1-E Sky Raider,

และเครื่องบินปีกหมุน(เฮลิคอปเตอร์)รุ้น CH-3 ของ Sikorsky หรือที่เรียกว่า Jollygreen Giant ที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยกู้ภัยซึ่งทั้งหมดนี้ประจำอยู่ที่ฐานทัพนครพนมหรือที่พวก GI เรียกว่า NKP ส่วนที่ฐานทัพอุดรฯก็จะมีเครื่องบินเจ็ททิ้งระเบิดขนาดหนักรุ่น Phantom F-4Cคอยให้การสนับสนุนการรบภาคพื้นดิน โดยเครื่อง Phantom F-4C จะใช้เวลาบินจากฐานทัพอุดรฯถึงบริเวณเป้าหมายในเขตเซียงขวางหรือทุ่งไหหินประมาณ 15-20 นาที


นอกจากนี้ CIA ยังได้ว่าจ้างบริษัท แอร์อเมริกา ให้เป็นผู้สนับสนุนการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ เคลื่อนย้ายกำลังพล ส่งกำลังบำรุงให้แก่หน่วยต่างๆที่ปฏิบัติการในสมรภูมิลาวทั้งหมด

 โดยมีฐานที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณฐานทัพอากาศอุดรฯนั่นเอง แอร์อเมริกามีเครื่องบินชนิดต่างรวมแล้วประมาณ 120 ลำเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการลับในลาวโดยเฉพาะโดยมีนักบินส่วนใหญ่เป็นอดีตนักบินจากกองทัพอากาศสหรัฐที่เคยผ่านสงครามเวียตนามมาแล้ว

 และมีบางส่วนที่ไปจากกองทัพอากาศไทยซึ่งระยะหลังๆทางทอ.ไทยได้ออกกฎเหล็กโดยห้ามนักบินลาออก ไม่เช่นนั้นแล้วทอ.จะไม่มีนักบินประจำการเหลืออยู่เลยเพราะเงินเดือนหลักที่ทางแอร์อเมริกาจ่ายให้นั้นปาเข้าไปตั้ง 3 หมื่นไม่รวมค่าเสี่ยงภัยซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วเดือนหนึ่งอย่างน้อยก็รับไป 4-5 หมื่นบาท

ในขณะที่ราคาทองคำขณะนั้นตกบาทละ 450บาท เงินเดือนผู้ว่า 4400บาท ส่วน kicker และช่างเครื่องก็จะมีทั้งไทยและฟิลลิปปิน เครื่องบินที่แอร์อเมริกานำมาใช้ในการสนับสนุนการรบในลาวได้แก่ C-130, C-123, Vollpa, Pilatus Porter, Twin Otter, Caribou, Bell UH-1C, H-34, Twin Pack, Shinouk นอกจากนี้ยังได้จ้าง Air Continental มาสมทบอีกรายโดยมีเครื่อง DC-3 Dakota, DC-6 และเครื่อง Barron ของCessna เอาไว้รับส่ง VIP


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 05:40:16 PM
เพิ่มเติม เกี่ยวกับ Background ของประวัติศาสตร์ ที่มาของสงครามในลาว
เพื่อที่ผู้อ่าน จะได้เข้าใจแจ่มชัด

แผนที่ลาวตอนเหนือ ล่องแจ้ง (Long Tieng) อยู่แถวๆกลางซ้ายของภาพ
ส่วนที่แรเงาดำๆ คือ Plain de Jars หรือทุ่งไหหิน นั่นเอง
(ภาพจาก air-america.org)

(http://61.19.248.235/uploads/a887b9ac33.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=a887b9ac33.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 05:42:22 PM
ภาพ T-28D " เตซาวแปด " ของกองทัพอากาศลาว
ม้างานผู้มีบทบาทสูง ในสงครามครั้งนี้ ขณะจอดที่ล่องแจ้ง

(http://61.19.248.235/uploads/9eecfe1562.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=9eecfe1562.jpg)





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 05:47:38 PM
ส่วนอันนี้ผมขอเรียบเรียงคำพูดของเจ้าของเรื่องที่ส่งมาให้คุณ "ตาทุ้ย" มาลงเลยนะครับ ต้องขอขอบคุณความพยายามของท่าน เสธ. ผู้เรียบเรียงเรื่องนี้แล้วส่งมาให้ตาทุ้ยพิมพ์ เนื่องจากท่านยังไม่คุ้นกับการ Post

--------------------------------------------------------------------

ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวก่อนว่าเรื่องที่ผมเล่ามาตั้งแต่ต้น และที่กำลังจะเล่าต่อ
จะเป็นการเล่าเพื่อให้ท่านได้มองเห็นภาพรวมของ “สงครามลับในลาว” ไม่ใช่เรื่องการรบชนิดเลือดท่วมจอ
ซึ่งบางท่านอาจจะชอบอ่านเกี่ยวกับเหตุการณ์การสู้รบในสมรภูมิ

ซึ่งเพื่อไม่ให้ผู้เข้ามาอ่านในผิดหวัง ผมจะขอให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งมีหลายครั้งและต่างสถานที่กัน เข้ามาเล่าสู่ท่านฟัง วันก่อนผมเล่าถึงเรื่องบริษัท แอร์อเมริกาและบริษัทแอร์คอนติเนนตัลเข้ามามีบทบาท ในการส่งกำลังบำรุงให้แก่กองกำลังของ CIA ทั้งหมดในลาว

นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนจากกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยฐานทัพอุบลฯจะมีเครื่องบิน Spectre(อ่านว่า สเป็คเตอร์)
คือเครื่อง C-130 ติดปืนใหญ่ขนาด 105 มม จำนวน 2 กระบอกเพื่อใช้ปราบรถถังและยานยนตร์ทุกชนิดโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
ที่ฐานทัพอากาศนครพนม จะมีฝูงบินเฮลิคอบเตอร์ กู้ภัย CH-3 Jollygreen Giant


(http://61.19.248.235/uploads/9d063caba6.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=9d063caba6.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 05:49:57 PM
ซึ่งมีหน้าที่ช่วยเหลือนักบินที่ปฏิบัติการทิ้งระเบิดที่โดนยิงตก
ทั้งในเวียตนามและในลาว โดยจะมีเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดแบบใบพัดรุ่น A-1E Sky Raider คอยคุ้มกัน
เป็นชุดเดียวกันที่ไปรับกำลังพลและช่างเทคนิคฝรั่งที่รอดชีวิตจากการจู่โจมของหน่วยSapper เวียตนาม ที่ภูผาที
รวมทั้ง โยธิน (มหาจำลอง)ด้วย

ส่วนที่ฐานทัพอุดรฯจะมีเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดขนาดหนักรุ่น Phantom F-4C
คอยให้การสนับสนุนกำลังภาคพื้นดิน นอกจากนี้ที่อุดรฯยังเป็นศูนย์ฝึกนักบินลาวและม้ง(แม้ว)
ซึ่งดำเนินการโดยกองทัพอากาศสหรัฐ หลักสูตรการฝึก 6 เดือน เมื่อจบหลักสูตรทุกคนต้องเข้าประจำการในสมรภูมิทันที
นักบินลาวและม้งจะมีอายุระหว่าง 20-25 ปี ความรู้ขั้นต่ำ จบม.3 ก่อนเข้าเรียนศิษการบินทุกคนจะต้องเรียนภาษาอังกฤษ
กับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษของ CIA เป็นเวลา 3-6 เดือน ซึ่งอำนวยการสอนโดย อาจารย์ธงและอาจารย์กิติ
กับครูแหม่มภรรยาของ Norman(Case Officer ที่ล่องแจ้ง)ซึ่งเป็นหน่อเดียวที่มาจาก Green Beret
เพราะนอกนั้นเป็น Marine(นาวิกโยธิน)

ในกรณีที่พบเป้าหมายใหญ่ๆเช่นมีการเคลื่อนกำลังทหารหรือมีขบวนรถถัง รถบรรทุกเป็นจำนวนมาก
ก็จะใช้บริการของ B-52 จากฐานทัพอู่ตะเภา ส่วน เครื่อง T-28 หรือที่คนลาวเรียก “เตซาวแปด” จะติดธงชาติลาว
แต่นักบิน ช่างเทคนิค และเจ้าหน้าที่สรรพวุธที่ทำหน้าที่ติดลูกระเบิดจะมีเงินสนับสนุนพิเศษจาก CIA
นอกจากเงินพิเศษแล้วยังมีค่า”เที่ยวบิน”ในการทิ้งระเบิดอีกต่างหากเที่ยวละ 100 บาท
ซึ่งราคาทองคำในสมัยนั้นบาทละ 450 บาทเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นักบินลาวและม้งต่างก็แข่งกันทำเที่ยวบิน(Sorty)
คือเครื่องบินบรรทุกลูกระเบิดเสร็จแล้ว นักบินนำเครื่องขึ้นเพื่อทิ้งระเบิดที่เป้าหมายและบินกลับฐาน นี่คือ 1 เที่ยว
ซึ่งบางวันนักบินม้งบางคนโดยเฉพาะ “ร.อ.ลีลือ” นักบินคนโปรดของนายพลวังเปา เคยทำสถิติสูงถึงวันละ 8 เที่ยว

(http://61.19.248.235/uploads/fc5751baa4.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=fc5751baa4.jpg)


(ผมขออนุญาตแทรกเพิ่มเติม ภาพของ ลี ลือ คือคนทางขวาในภาพไม่สวมหมวก
ลี ลือ นี้เป็นลูกศิษย์ครูหมี เมื่อเป็นศิษย์การบินที่อุดร ครูหมีตั้งชื่อไทยให้ว่า " บุญเหลือ " : ตาทุ้ย)

แต่ในที่สุด ลีลือก็โดน ปตอ.เวียตนามสอยร่วงและเสียชีวิต ซึ่งทำให้วังเปาต้องซึมไปหลายวัน
นอกจากนั้นนักบินยังมีสิทธิเป็นเจ้าของปลอกจรวดและปลอกะกระสุนปืนกลอากาศ 20มม

ซึ่งนักบินทั้งลาวและม้งจะยิงทั้งจรวดและปืนกลอากาศแทบจะทุกเที่ยวบิน ทั้งๆที่บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกอาวุธดังกล่าว
แต่เมื่อยิงแล้วได้ตังค์ ใครเล่าจะปล่อยไว้...เมื่อเครื่องบินกลับจากการทิ้งระเบิด ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สรรพวุธ
ที่จะเก็บปลอกจรวดและปลอกกระสุนใส่กระสอบ รวบรวมไว้ พอตกเย็นก็จะมีเครื่องเข้าอุดรฯ
และนักบินที่ล่องแจ้งก็จะเปลี่ยนเวรกันเข้าอุดรฯเพื่อขายปลอกลูกปืนและปลอกจรวดโดยจะมีผู้รับซื้อรออยู่ที่สนาม



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 05:50:50 PM
เอาไว้มาต่อนะครับ...เรื่องยาวมาก

ไปธุระก่อน...


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 06:43:57 PM
ว้าววว...... :VOV:

ขอบคุณครับ...


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 06:50:42 PM
รออ่านอยู่ครับ ขอบคุณครับ....


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 07:47:04 PM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 08:02:41 PM
up


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 08:10:41 PM

       ปัจจุบันการรบเปลี่ยนแนวและรูปแบบไปมาก ทั้งยุทธวิธี และ อาวุธ ตลอดจนวิชาการ

       เรื่องเก่าๆเหล่านี้อ่าน ฟัง ไว้เป็นอุทาหรณ์ถึงความหฤโหดของสงครามและการรบเพียงเพื่อเอาตัวรอด



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: STECON ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 08:50:04 PM
up up


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 08:53:04 PM
up up

       ไม่ต้องรับอัพครับน้า ....... สายสืบแจ้งมาว่า จขกท.พากิ๊กคนที่ 4 ไปดินเนอร์  แต่หน่วยข่าวกรองบอกว่าคนที่ 5 แน่ะ



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 08:54:21 PM
ขอบคุณครับ ขอเก็บไว้อ่านครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: vichai01++รักในหลวง++ ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 09:04:31 PM
 ::014::ขอบคุณครับ จะรออ่านครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 09:07:12 PM
 ::014::ขอบคุณครับชอบครับ เรื่องราวสนุกดีครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: tip1976 - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 10:14:26 PM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: mambo ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 10:27:06 PM
 :) รออ่านครับ ชอบดูรูป


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: BIGFISH ที่ พฤษภาคม 10, 2009, 10:53:00 PM
ขอบคุณครับ ++
ที่นี่ ชอบๆ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: kaittisak291 ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:02:44 AM
 ;D จะคอยติดตามอ่านครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 10:37:12 AM
ขอบคุณมากครับ คุณ Siri_Pat ..

สงครามในลาว ถูกกล่าวถึงน้อยกว่า เวียตนาม และกัมพูชา..
ทั้งที่ความโหดร้ายของสงคราม ไม่น้อยกว่ากัน..  ในบางพื้นที่ถูกปูพรม จนหายไปทั้งเมือง  :~)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 10:51:16 AM
  อิิอิอิ ตี๋น้อย  คนเดียวกับวลี  "ไอ้ลูก ## ริมทางรถไฟโพธาราม  .... "  หรือเปล่าครับ   อิอิอิ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 10:53:02 AM
  อิิอิอิ ตี๋น้อย  คนเดียวกับวลี  "ไอ้ลูก ## ริมทางรถไฟบ้างโป่ง .... "  หรือเปล่าครับ   อิอิอิ

ขออภัยแก้ไข โพธาราม    ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:05:08 PM
มาต่อครับ...รับรองว่าต่ออีกยาว... ::008::


------------------------------------------------------------------------------------------------

พอรุ่งเช้าก็บินกลับล่องแจ้งและทำงานต่อ ในบรรดานักบินเป็นที่รู้กันว่า crew และนักบินของเครื่อง spooky
จะรวยกว่าเพื่อนทั้งหมดเพราะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการขายปลอกกระสุน เครื่องspooky ก็คือเครื่อง
C-47 หรือ ดาโกต้า ซึ่งนำมาติดปืนกล minigun 3 กระบอกเพื่อยิงสนับสนุนกำลังภาคพื้นดิน โดยเฉพาะเวลากลางคืน

(http://61.19.248.235/uploads/46d57004bd.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=46d57004bd.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/0e8fd4b9ee.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=0e8fd4b9ee.jpg)

ในหนึ่งนาที spooky จะพ่นกระสุนลงสู่เป้าหมายบนพื้นดินเป็น จำนวนถึง 6 พันนัดโดยบนพื้นดิน 1 ตารางฟุต จะโดนกระสุนจาก minigun ถึง 7 นัด  ฐานบินของ T-28 ในลาวมีทั้งหมด 5 แห่งด้วยกันได้แก่ หลวงพระบาง ล่องแจ้ง เวียงจันทร์ สะวันนะเขตและ ปากเซ...


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:09:36 PM
เนื่องด้วยปลอกจรวดและปลอกกระสุนเป็นพิษ เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนก็ได้เกิดขึ้นตรงหน้าตึก control
ของสนามบินล่องแจ้ง เมื่อประมาณกลางเดือนสิงหาคม ปี 2515

ขณะที่ เสธ. และ พ.อ.ซัวย่า ฝอ.3 ของวังเปา กำลังเดินไปที่ลานจอด เฮลิคอปเตอร์พร้อมกับลูกทีมของวังเปาเพื่อออกแนวที่ทุ่งไหหิน ก็มีเสียงดังโครมและเมื่อหันไปมอง ก็เห็นเครื่อง C-123 จอดขวางรันเวย์ตรงหน้าห้อง control พอดี ขณะเดียวกันบนท้องฟ้าก็มีร่มชูชีพพร้อมนักบินกำลังจะลงสู่พื้นดิน

พวกเราเดินย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ปรากฏว่าเป็นเครื่องบิน T-28 ชนเข้าตรงประตูหน้าด้านซ้ายของเครื่อง C-123 ขณะกำลังแท็กซี่จะตีวงเลี้ยวเพื่อตั้งลำบินกลับอุดรฯ

ส่วน T-28 ก็พึ่งจะบินกลับจากการทิ้งระเบิดเป้าหมายที่ภูเทิง ริมทุ่งไหหิน เป็นเที่ยวแรก ตุ๋ยเป็นคนเชียงใหม่ ทำหน้าที่เดินเอกสารระหว่างล่องแจ้งกับบก.อุดรฯ ต้องมาจบชีวิตลงในเช้าวันนั้น

เพราะเขานั่งใกล้ประตูหน้าด้านซ้ายพอดี ส่วนนักบิน T-28 ปลอดภัยเพราะจากการที่ เสธ.ได้คุยกับนักบิน
ซึ่งเป็นเด็กจากหลวงพระบางที่เคยร่วมงานกันเมื่อคราวที่เสธดำอยู่หลวงพระบางระหว่างปี 2512-2514 นักบินเล่าว่า

“ข้าน้อยไปเที่ยวอุดรฯเมื่อคืนนี้และหนักไปหน่อย”

นักบินกลับจากอุดรฯประมาณเจ็ดโมงเช้าและนำเครื่องออกทิ้งระเบิดเที่ยวแรก
และขากลับขณะที่ลงแตะพื้นปรากฎว่าจุดแตะพื้นอยู่กลางรันเวย์พอดี ขณะเดียวกัน C-123 ของแอร์อเมริกา
ก็โผล่ออกมาเพื่อตั้งลำบินขึ้น

“ด้วยเหตุนี้ข้าน้อยจึงแตะเบรกไม่ทันจึงปล่อยเลยตามเลย เอาชีวิตข้าน้อยไว้ก่อน”

และนี่ก็คือที่มาของเสียงดัง....โครมพร้อมกับนำเอาวิญญาณของ ตุ๋ย ไปด้วย....ขอให้ตุ๋ยจงไปดีเถิด...เสธ. ภาวนาในใจ
เพราะเสธ.ดำรู้จักตุ๋ยและครอบครัวของเขาเป็นอย่างดี....ส่วนนักบินลาวก็กลับไปนอนพักผ่อน และภายในวันเดียวกัน
ก็มีเครื่องT-28 ป้ายแดงบินตรงจากอุดรฯเพื่อมาทดแทนเครื่องที่พึ่งจะพังไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง....


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:17:52 PM
คราวนี้จะกล่าวถึงบทเริ่มของสงคราม ที่มีอเมริกา เข้าไปจุดชนวนเลยนะครับ

----------------------------------------------------------------------------------------

แผนที่เมืองลาว ตามเขตการปกครอง(Political Map) มาเผื่อใช้อ้างอิงครับ

(http://61.19.248.235/uploads/ad8d728638.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=ad8d728638.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:21:57 PM
จากการเมืองภายในลาว นับแต่สิ้นสุดสงครามโลก จนกระทั่งถึงการปฏิวัติของกองแล ในปี ๒๕๐๓(1960)

ขอย้อนไปในปี ๒๔๙๔(1951) ปีนั้นเป็นยุคแห่งสงครามเย็น ประธานาธิบดีทรูแมน เป็นผู้นำอเมริกา ในปีนั้น สงครามเกาหลี กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด (สงครามเกาหลี เริ่มตั้งแต่ปี ๒๔๙๓(1950) สงบศึกในปี ๒๔๙๖(1953))

ชายอเมริกันผู้หนึ่ง ร่างสูงใหญ่แต่ผอมเพรียวดูทะมัดทะแมง เดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทย ภายใต้การติดต่อผ่านเอกอัคราชฑูตอเมริกัน ด้วยบุคคลิกที่สุภาพ และเป็นนักฟังมากกว่านักพูด มีแต่แววตาที่อยู่หลังแว่นสายตากรอบดำของเขาเท่านั้น ที่จะบอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ชื่อของเขาตามพาสปอร์ต คือ เจมส์ วิลเลียม แลร์(James William Lair)
แต่ใครๆมักจะเรียกเขาว่า " บิลล์ " บิลล์ แลร์ อดีตทหารผ่านศึกจากสงครามโลก
ผู้เคยผ่านสมรภูมิ Battle Of The Bulg อันเลื่องชื่อ ผู้จงเกลียดจงชังคอมมิวนิสต์อย่างเข้ากระดูก

บิลล์เข้ามาเมืองไทย ในปีเดียวกับการจัดตั้ง SEA Supply หน่วยงานกึ่งเอกชน ซึ่งมีภารกิจช่วยเหลือ ในด้านต่างๆ บิลล์เริ่มต้นงานในไทย ด้วยภารกิจจาก CIA เพื่อเสาะหาสนามบินต่อระยะ สำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล เพื่อใช้สำหรับรองรับการเติมน้ำมัน หากต้องบินเข้าไปทิ้งระเบิดในจีน ในกรณีที่จีนรุกรานภูมิภาคนี้ (สนามบินหนึ่งในจำนวนนั้น น่าจะเป็นสนามบินน้ำพอง ขอนแก่น : ตาทุ้ย)

ภาพสนามบินน้ำพองในปัจจุบัน ( ภาพของ Thai Flying Club)

(http://61.19.248.235/uploads/63ee612942.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=63ee612942.jpg)





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: คนแปลกหน้า - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:27:23 PM
ขอบคุณครับ จะรออ่านจนถึงตอนจบ ::002::


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:27:44 PM
บิลล์ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับบุคคลสำคัญในเมืองไทยมากมาย ทั้งในวงการทหารและการเมือง
แต่เมื่อลองประเมินความเป็นไปได้แล้ว เขาพบว่าบรรดาคีย์แมนทางทหาร ยังไม่ให้ความสำคัญ
กับการต่อต้านการขยายตัวของคอมมิวนิสต์มากนัก เขาจึงได้หันไปทางหน่วยงานตำรวจ
ภายใต้การแนะนำของชนชั้นสูงของไทย

และต่อมา บิลล์ได้พบรัก และแต่งงานกับสุภาพสตรีจากวงสังคมชั้นสูงของกรุงเทพ ซึ่งเป็นน้องสาวภริยาของ พล.อ.อ. สิทธิ เศวตศิลา อดีตเสรีไทย ผู้สนิทแนบกับหน่วย OSS (Office Of Strategic Service) ซึ่ง OSS ก็คือหน่วยข่าวกรองต่อต้านญี่ปุ่นในสงครามโลก
ต่อมาหลังสงครามจึงกลายเป็น CIA

ซึ่งเท่ากับบิลล์เป็นคู่เขยกับ พล.อ.อ. สิทธิฯ สิ่งนี้ทำให้เขาเป็นที่รู้จัก และเข้าสมาคมกับสังคมชั้นสูงได้ดี อีกทั้งยังเป็นการปิดบังภารกิจแท้จริงของเขาด้วย

ล่วงมาถึงปี ๒๔๙๖(1953) ประธานาธิบดีทรูแมนของอเมริกา พ้นจากตำแหน่ง ดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ นโยบายของอเมริกา ต่อการต่อสู้คอมมิวนิสต์ เริ่มชัดเจนมากขึ้น รายงานต่างๆ ที่บิลล์ ส่งไปยัง บก.ของ CIA ทำให้อเมริกา เห็นความสำคัญ ต่อการใช้ประเทศลาว เป็นสมรภูมิ เพื่อขัดขวางการขยายตัว ของลัทธิคอมมิวนิสต์


ในห้วงเวลานั้น จอมพล ป. พิบูลสงคราม กุมอำนาจถือหางเสือรัฐนาวาไทย ซึ่งแม้ว่าไทยจะได้รับ " ความช่วยเหลือทางทหาร " จากอเมริกา ในรูปแบบต่างๆ มากโขอยู่ แต่นโยบายของจอมพล ป. ก็ยังไม่อยากพาประเทศ เข้าไปวุ่นวายกับกิจการของประเทศอื่น ในภูมิภาคนี้และเช่นเดียวกัน อเมริกาก็ไม่ปลื้ม กับบทบาทของจอมพล ป. เท่าใดนัก ภาพเก่าๆ สมัยจอมพล ป. ยังกอดกันกลม กับฮิเดกิ โตโจ ยังตามหลอกหลอนผู้นำอเมริกาอยู่

ที่กรมตำรวจไทย ในขณะนั้น " อั้งเผ่า " พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ เป็นผู้กุมบังเหียนความสงบภายใน อธิบดีเผ่า เห็นด้วยกับแนวคิดของเขา ที่จะต่อต้านการขยายตัวของคอมมิวนิสต์ แนวคิดการจัดตั้งหน่วยขนาดเล็ก แต่ขีดความสามารถสูง ทำการหาตระเวนข่าวตามตะเข็บชายแดน จึงปรากฎเป็นรูปร่างขึ้น ในพื้นที่ " ตำบลบ่อฝ้าย " ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ ของ อ.หัวหิน

มีสนามบินสำหรับทำการฝึกพลร่ม การยังชีพในป่า และปัจจัยของสงครามพิเศษครบถ้วน ภายใต้การฝึก โดยครูฝึกจากหน่วยสงครามพิเศษอเมริกา(Special Force Unit : Green Baret) (ก่อนที่พลร่มจะมาอยู่ที่บ่อฝ้าย ได้ใช้พื้นที่ของค่ายเอราวัณ ลพบุรี มาก่อน แต่พื้นที่บ่อฝ้ายเดิม
CIA ก็ใช้เป็นพื้นที่ฝึก-เตรียมคน สำหรับสงครามลาวอยู่แล้ว)

โดยที่บิลล์ มีเพื่อนคู่คิด และที่ปรึกษาคนสำคัญ คือ " ประเนตร " (หรือชื่อจัดตั้ง " ลี วัง ") คอยเป็นพี่เลียง ประสานงานทุกอย่างให้
(พล.ต.ท. ประเนตร ฤทธิ์ฤาชัย อดีต ผบช.ตชด.ช่วงปี ๒๕๒๓-๒๕๒๔ ที่ท่านเสธ.ดำ เคยกล่าวถึงไว้แล้ว)

(http://61.19.248.235/uploads/3d50c37842.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=3d50c37842.jpg)

" พารู " (Police Aerial Resupply Unit :PARU) คือชื่อจัดตั้งเป็นครั้งแรกของหน่วยนี้ ซึ่งปรากฎเป็นรูปเป็นร่าง ในปี ๒๔๙๘(1955) ระยะแรก พารูมีกำลังพลอยู่ในระดับกองร้อยเท่านั้น ต่อมาจึงขยายตัวเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันเป็นหน่วยระดับกองบัญชาการ คือกองบัญชาการ ตำรวจตระเวนชายแดน และค่ายฝึกพารูเดิม ปัจจุบันกลายมาเป็นค่ายนเรศวร ของตำรวจ ตชด. ในปัจจุบัน

ตำรวจไทย " กระโดดร่ม " ก่อนทหาร และภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ " กองทัพตำรวจ " ติดอาวุธครบครัน มีทั้งอำนาจการรบ และกฎหมายอยู่ในมือ ที่พร้อมจะรับใช้รัฐบาล กำจัดศัตรูทางการเมือง

ปี ๒๕๐๐(1957) จอมพลสฤษฎิ์ปฏิวัติ จอมพล ป. ขอลี้ภัยไปที่ญี่ปุ่น และจบชีวิตลงที่นั่น ส่วนในลาว ความวุ่นวายระหว่างลาวสามฝ่าย ยังคงดำเนินต่อไป มีการสู้รบระหว่างฝ่ายกลาง+ขวา และฝ่ายซ้าย หลายครั้ง(ใครส่งอาวุธให้ ?) แม้จะมีความพยายามในการเจรจากันก็ตาม
(ประเทศลาวในขณะนั้น มีประชากรอยู่ไม่น่าจะถึง ๒ ล้านคน)

หลังการปฏิวัติของจอมพลสฤษฎิ์ " กองทัพตำรวจ " ที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกร ก็หงอยลงในทันที

แต่การดำเนินงานของบิลล์ ยังคงเดินหน้าต่อไป



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:29:50 PM
อันนี้แถม...

ตัวจิกซอว์ที่เกี่ยวในสงครามลับปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่หลายคนยกเว้น "Tony Poe" ผู้มีศักดิ์เป็นหลานเขยของ"วังเปา"
และเป็นหมายเลข 2 ของผู้บัญชาการ CIA ในสงครามลาว(Pat Landry) ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคประจำกายเมื่ออายุ 72 ปี

ปัจจุบัน "คุณแสง" หลานสาวของวังเปา ยังพำนักอยู่ในประเทศไทยโดยมีธุรกิจบ้านเช่าอยู่ที่ถนนศรีชมชื่น หลังโรงเรียนสตรีอุดรฯ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:30:34 PM
อ่านกระทู้นี้แล้วคิดถึง สยุมภู ทศพล กับ ก้องหล้า สุรไกร ;D


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:35:51 PM
การก้าวขึ้นสู่อำนาจของจอมพลสฤษฎิ์ มิได้ทำให้เกิดอุปสรรคต่องานของ CIA ในไทย
แต่ในทางตรงข้าม จอมพลสฤษฎิ์ กลับเห็นความสำคัญ ของภัยคุกคามอันใหม่ คือลัทธิคอมมิวนิสต์
ซึ่งแม้ว่าสงครามภายในจีน จะสงบลงด้วยการถอยร่นของคณะก๊กมินตั๋ง ไปสู่เกาะไต้หวัน ตั้งแต่ปี ๒๔๙๒(1949)
ซึ่งหน่วยทหารบางส่วนของก๊กมินตั๋ง ยังกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามตะเข็บชายแดนไทย – พม่า
เช่น กองพล ๙๓ ของจีนคณะชาติ (ภายหลังได้ย้ายมาอยู่ที่ดอยแม่สลอง จ. เชียงราย)

จึงเป็นภารกิจของ SEA Supply และเป็นภารกิจแรกๆ ที่อเมริกาจะต้องให้การสนับสนุน
ต่อการมีตัวตนของกองพล ๙๓ อดีตสหายศึก เมื่อครั้งต่อสู้ญี่ปุ่นในสงครามโลก แม้จะมีงานหลายด้าน
แต่บิลล์ แลร์ ก็ยังคงเดินทางเข้าๆออกๆ ระหว่างลาวและไทย เพื่อเก็บข้อมูลและวางแผน
สำหรับยุทธศาสตร์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ถึงตรงนี้ ขอพาท่านผู้อ่าน ออกจากไทยและลาว เพื่อให้เห็นภาพรวมที่กว้างขึ้น

ห่างออกไปทางตะวันออกไม่มาก ความวุ่นวายของการเมืองภายในในเวียดนาม ก็กำลังดำเนินอยู่
นับแต่ฝรั่งเศสสถาปนากษัตริย์บ๋าวได๋ ขึ้นสู่บัลลังก์ เมื่อสงครามโลกยุติลง ในปี ๒๔๘๘(1945)
โดยหวังว่าบ๋าวได๋ จะเป็นศูนย์รวมชาติ ช่วยให้ฝรั่งเศสรักษาสถานะของตนไว้ได้ แต่หลายปีผ่านไป
บ๋าวได๋ไม่มีคุณสมบัตินั้น ฝ่ายเวียดมินห์ ยังคงทำการสู้รบต่อต้านฝรั่งเศสอย่างได้ผล
คู่ขนานไปกับขบวนการประเทดลาว เวียดมินห์เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ฝรั่งเศสอ่อนแอลง

หลังจากฝรั่งเศสทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ที่จะรบกับขบวนการเวียดมินห์ โดยการส่งกำลังทหาร เข้าสู้รบ
ใน “ ปฏิบัติการคาสตอร์ “(Opération Castor) คือการสถาปนาที่มั่นทางทหาร ที่เดียน เบียน ฟู
เพื่อสกัดกั้นการแพร่ขยายอิทธิพลของเวียดมินห์ เข้าไปในลาว

(http://61.19.248.235/uploads/f35defcb14.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=f35defcb14.jpg)

แต่แล้วในที่สุด วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๔๙๗(1954) โอเปราซียง กาสตอร์ ก็จบลง
ด้วยความพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า ของฝรั่งเศส ซึ่งนำไปสู่การเจรจาหยุดยิงชั่วคราว
และสนธิสัญญาที่เจนีวา ที่จะแบ่งเวียดนามออกเป็นเหนือและใต้ ตามแนวเส้นขนานที่ ๑๗
ทางเหนือปกครองโดยรัฐบาลเวียดมินห์ (Democratic Republic of Vietnam : DRV)
นอกจากนั้น สนธิสัญญายังมีข้อกำหนด
ที่ทั้งสองฝ่าย จะต้องไม่มีกองกำลังต่างชาติอยู่ในประเทศ(ยกเว้นฝรั่งเศส) เพื่อป้องกันมือที่สาม
เป็นการเดินหมาก “ กั๊ก “ ของฝรั่งเศส ได้เนียนที่สุด

ฝรั่งเศสยังคงทิ้งความระยำของตนเอาไว้ ตั้งแต่ชายฝั่งอ่าวตังเกี๋ย จนถึงเขาพระวิหาร

สนธิสัญญาที่เจนีวา ข้างต้น กำหนดให้มีการลงประชามติในอีกสองปีถัดมา คือในปี ๒๔๙๙(1956)
เพื่อให้คนเวียดนาม ได้กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง แต่อเมริกามองว่า หากปล่อยให้เวียดนาม
มีการเลือกตั้ง ฝ่ายคอมมิวนิสต์ของโฮจิมินห์ ก็จะได้รับชัยชนะในที่สุด
อเมริกา จึงไม่รับรองสนธิสัญญาดังกล่าว และก็ไม่มีการลงประชามตินั้นจนปัจจุบัน

อเมริกานั้น “ เล็ง “ ภูมิภาคนี้ไว้นานแล้ว แต่รอจังหวะของ “ ตาอยู่ “

อเมริกาไม่รับรองสนธิสัญญา ฯ แต่กลับผลักดันให้มีการประชุมที่มะนิลาในปี ๒๔๙๗(1954)
ปีเดียวกับการลงนามสนธิสัญญา เป็นการ “ ตัดหน้า “ เนื้อหาการประชุมที่มะนิลา และร่วมลงนามกัน
ในวันที่ ๘ กันยายน ๒๔๙๗(1954) เนื้อหาก็เพื่อจัดตั้งองค์กรความร่วมมือ ระหว่างภูมิภาค
คือ “ องค์การสนธิสัญญาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ ( South East Asian Treaty Organisation : SEATO)
ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก ๘ ชาติ ได้แก่ อเมริกา ไทย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปากีสถาน อังกฤษ ฝรั่งเศส
และฟิลิปินส์, SEATO เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๙๘(1955)

อยากให้สังเกตตรงนี้สักนิดครับ ว่าบรรดาชาติสมาชิกรุ่นแรกใน SEATO นั้น
มีไทยเพียงชาติเดียว ที่อยู่บนแผ่นดิน ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า อเมริกาให้ความสำคัญกับประเทศไทย
ในการเป็นฐานที่มั่น ที่จะต่อกรกับการคุกคามจากคอมมิวนิสต์

และนี่คือที่มา ของข้อตกลง Thanad – Rusk Communique ในปี ๒๕๐๕(1962)
ซึ่งจะขอกล่าวภายหลัง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ส่วนเหตุการณ์ในเวียดนาม หลังจากฝรั่งเศสแพ้หมดรูปที่เดียน เบียน ฟู
CIA หนุนโงห์ ดินห์ เดียม ให้ลงเลือกตั้ง และพยายามทุกวิถีทางอย่างเปิดเผย ที่จะให้ฝ่ายเดียมชนะ
โดยเฉพาะการส่ง พ.อ. Edward Lansdale ลงไปช่วยเดียมอย่างเปิดเผย ในที่สุดเดียมชนะตามความคาดหมาย
เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้สกปรกจนฝ่ายตรงข้ามรับไม่ได้ และมีการบอยคอตก่อนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น
เดียมจึงชนะไปด้วยคะแนนท่วมท้นกว่า ๙๐ % เพราะมีแต่คนที่ชอบเดียม ไปลงคะแนน
เขาขึ้นเป็นประธานาธิบดีของเวียดนาม ในปี ๒๔๙๘(1955) แต่ฝ่ายเวียดมินห์ ไม่ยอมรับการเลือกตั้งนี้

หลังเลือกตั้งไม่นาน เดียมถือโอกาสปฏิวัติเงียบ บีบให้กษัตริย์บ๋าวได๋ลงจากบัลลังก์
และลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศในที่สุด งานของอเมริกาในเวียดนาม บรรลุผลในขั้นแรกแล้ว

พักเหตุการณ์ในเวียดนามไว้แค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวงง เอาเป็นว่าเรามาถึงเหตุการณ์ในปี ๒๕๐๐(1957)



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:37:37 PM
บ้านของลาวใน สุวรรณเขต ปี 1967(๒๕๑๐)

(http://61.19.248.235/uploads/a72ec18dbc.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=a72ec18dbc.jpg)



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:42:49 PM
เริ่มต่อกันที่ปี ๒๕๐๐(1957)

เดือนกันยายน ในขณะที่เหตุการณ์ในลาว ยังคงทรงตัว แต่รัฐบาลเจ้าสุวรรณภูมา
(คือฝ่ายขวา+กลาง)ไม่มีเสถียรภาพ และไม่อาจบริหารรัฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะที่ฝ่ายซ้ายคือขบวนการประเทดลาว เข้มแข็งขึ้น จากการสนับสนุนของโฮจิมินห์

๑๖ กันยายน ๒๕๐๐(1957) ในประเทศไทย จอมพลสฤษฎิ์ ทำการยึดอำนาจ
จากรัฐบาลจอมพล ป. ทำให้จอมพล ป. ต้องหนีออกทางเขมร และลี้ภัยไปที่ญี่ปุ่น

ในระหว่างปีนั้น บิลล์ แลร์ ได้ส่งรายงานหลายฉบับ รายงานความพร้อม ของหน่วยพารู
ที่เขาได้จัดตั้งขึ้น และเน้นย้ำความสำคัญที่อเมริกา จะต้องมีปฎิบัติการบางอย่างในลาว
บิลล์เดินทางเข้าออกระหว่างลาวกับกรุงเทพเป็นประจำ เพราะงานของ SEA Supply
ซึ่งมีภารกิจทางตอนเหนือของไทย ก็หนักหนาอยู่

ล่วงมาจนถึงปี ๒๕๐๓(1960)

ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย ที่บิลล์สามารถสร้างเครือข่ายเพื่อการต่อต้านคอมมิวนิสต์
แต่เขายังสามารถเข้าถึงบุคคล " ระดับสูง " ของรัฐบาลลาว ได้เป็นอย่างดี

ขณะนั้นรัฐบาลลาว ยินยอมให้บิลล์นำกำลังพารู เข้ามาช่วยดูแลความสงบ
และฝึกสอนทหารลาว ในการใช้อาวุธและเครื่องมือสื่อสาร

ที่ลาว บิลล์พยายามมองหาปัจจัยที่จะจัดตั้งกองกำลังขนาดเล็ก แต่กำลังทหารลาวนั้นอ่อนแอเกินไป
อ่อนทั้งการฝึก และอาวุธยุทธภัณฑ์ แต่เขาได้รับการแนะนำให้รู้จัก " ตุ๊บิลี "
หรือชื่อที่พวกฝรั่งเศสตั้งให้ว่า " โทบี้ ลีฟุง " ผู้นำม้งสมัยอาณานิคม

บิลล์พยายามศึกษาโทบี้ ถึงขีดความสามารถ ที่เขาจะนำชนชาติม้ง เข้ามาเป็นกำลัง
ซึ่งโทบี้ ยังขาดคุณสมบัติในข้อนี้ และโทบี้ ก็ไม่ใช่ผู้นำที่เข้มแข็ง

แต่ในที่สุด เขาก็ได้พบกับผู้นำทหารม้ง ยศพันตรี " วัง เปา "

(http://61.19.248.235/uploads/31d21efaab.png) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=31d21efaab.png)

(http://61.19.248.235/uploads/5453887544.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=5453887544.jpg)


ผู้ซึ่งมีคุณสมบัติ ตามที่บิลล์และประเนตร เห็นว่าเหมาะสมที่สุด
บิลล์ได้รับการยืนยันรับปากจากวังเปา ว่าหากอเมริกาสนับสนุนด้านการฝึกและอาวุธ
วังเปาสามารถจัดตั้งกองกำลังม้ง ขนาด ๑๐,๐๐๐ คน ทางตอนเหนือของลาวได้

บิลล์เริ่มมองเห็นทาง เขาเสนอแผนงานจัดตั้งกองกำลังม้ง ซึ่งฝึกโดยพารูชาวไทย
และแผนนี้ ได้รับการอนุมัติในเวลาต่อมา ชื่อว่า " ปฏิบัติการ โมเมนตั้ม "

ซึ่งการแทรกซึมเข้าไปในลาวนี้ บิลล์อาศัยภาพของนักบุญจากตะวันตก
ในรูปแบบโครงการช่วยเหลือทางด้านการเกษตรกรรม ดังนั้นเขาจึงต้องมีผู้ช่วย

Edgar ' Pop ' Bouell ชายวัยเกษียณ ชาวไร่จากรัฐอินเดียน่า ถูกส่งมาช่วยงาน


บูลรู้ดีว่าเขามาทำงานอะไร ? และทำให้ใคร ? ภารกิจของเขาคือสนับสนุนด้านเกษตรกรรม
การแพทย์ การช่วยถ่ายทอดด้านเทคนิคการเกษตรสมัยใหม่ ให้แก่ชาวม้ง



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:48:13 PM
จากตอนที่แล้ว เรื่องเดินไปถึงปี ๒๕๐๓(1960)

ในขณะที่ยุทธศาสตร์ของ CIA ในการเตรียมการทำสงครามลาว กำลังดำเนินไปอย่างเป็นระบบ
แต่ที่อเมริกา เป็นช่วงผลัดแผ่นดิน ปธน.ไอค์เซนฮาวร์ หมดวาระลง ทิ้งยุทธศาสตร์สงครามเย็น
และการต่อต้านคอมมิวนิสต์ ไว้ให้รัฐบาลใหม่สานต่อ


หลังการเลือกตั้งปลายปี อเมริกาได้ ปธน. ใหม่เป็นคนหนุ่มในวัย ๔๓ จอห์น เอฟ เคนเนดี้(JFK)
ซึ่งเข้ารับตำแหน่ง ในปี ๒๕๐๔(1961) ซึ่งก่อนหน้านั้น ฟิเดล คาสโตร นักปฏิวัติประชาชน ทำการปฏิวัติ
ยึดอำนาจรัฐบาลบาติสต้าของคิวบา และตั้งตนเป็น ปธน. ซึ่งมีนโยบายเอนเอียงไปทางโซเวียต


เดือนเมษายน ๒๕๐๔(1961) CIA ได้เตรียมการที่จะจัดการกับคิวบา โดยฝึกคนคิวบา
เพื่อยกพลขึ้นบกที่ " อ่าวหมู "(Bay Of Pigs)แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากการสนับสนุนไม่ดีพอ
CIA โทษว่าเป็นเพราะเคเนดี้ลังเล และเหตุการณ์นี้ ทำให้คาสโตร ประกาศอยู่ข้างโซเวียตเสียเลย
บรรดาความช่วยเหลือ ซึ่งก็คือสารพัดอาวุธต่างๆของโซเวียต หลั่งไหลเข้าสู่คิวบา หน้าบ้านของ CIA เอง
พอปลายปี CIA ก็เลยคิดแผนใหม่ " ปฏิบัติการพังพอน"(Operation Mongoos)ตั้งค่ายฝึกพลพรรคชาวคิวบา
เพื่อส่งไปทำการก่อการร้าย โครงการนี้นำโดย พ.อ. Edward Lansdale คุ้นๆชื่อนี้ไหมครับ ?


Edward Lansdale (ภาพเป็นของ Spartacus Education)

(http://61.19.248.235/uploads/a1d408c846.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=a1d408c846.jpg)


นี่ละ CIA ตัวกลั่น ก็คนนี้ละครับ คือคนเดียวกับที่เข้าไปอยู่เบื้องหลังการขึ้นสู่ตำแหน่ง
ของโง ดินห์ เดียม Operation Mongoos ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะเคเนดี้ไม่ให้การสนับสนุน

ปลายปี ๒๕๐๔(1961)จึงเป็นวิกฤติการณ์คิวบา สหรัฐทำการปิดล้อมคิวบา เมื่อเครื่องบินตรวจการณ์สหรัฐ
พบว่ามีการสร้างฐานยิงขีปนาวุธในคิวบา และมีเรือสินค้าโซเวียต ลำเลียงขีปนาวุธส่งให้คิวบา
สหรัฐจึงทำการปิดล้อม ห้ามเรือสินค้าโซเวียต เข้าในอ่าวคิวบาอย่างเด็ดขาด
ณ ห้วงเวลานั้น กิจกรรมของ CIA ในอเมริกากลาง หนาแน่นมาก เพื่อเตรียมการเข้าสู่สงคราม


ขณะนั้นทั้งโลกจับตาดูวิกฤติคิวบา ว่าอาจเป็นชนวนของสงครามโลกครั้งที่สาม

แต่ในที่สุด ด้วยนโยบายของเคเนดี้ และการสนับสนุนของ UN (อู ถั่น ชาวพม่า เป็นเลขา)
โซเวียตยอมเจรจา ถอนขีปนาวุธออกไป โดยสหรัฐรับปากว่าจะไม่แทรกแซงคิวบา
เหตุการณ์นี้มาสงบเอาในกลางปี ๒๕๐๕(1962) ทั้งโลกโล่งอก ชื่นชม ปธน. หนุ่มของสหรัฐ
ว่าเป็นผู้ไม่ฝักไฝ่สงคราม

แต่ CIA ยังคงมีความพยายามไม่ลดละ โดยเสนอแผนบุกเวียดนามต่อเคเนดี้
เพื่อช่วยเดียม ในการต่อต้านคอมมิวนิสต์

" ในเมื่อเราไม่บุกคิวบา ทำไมเราจะต้องไปบุกเวียดนาม ซึ่งห่างออกไปค่อนโลก "
เคเนดี้ตอบคำถามพวกนายพลในเพนตากอน ท่ามกลางความชื่นชมของประชาชน
หนังสือพิมพ์วิจารณ์เคเนดี้อย่างติดตลก เมื่อเขาออกเสียงเรียกชื่อประเทศลาวว่า " ลา - โอส "




หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:52:09 PM

ย้อนกลับเข้ามาที่กรุงเทพ ในปี ๒๕๐๕(1962)
------------------------------------------------------------------------------------

ระหว่างที่วิกฤติคิวบา กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น
CIA ปรับกำลังในเอเซีย เนื่องจากสามารถขยายงานและเครือข่าย ในภูมิภาคนี้ได้อย่างกว้างขวาง
บรรดา " มือทำงาน " คนสำคัญสองคนของ CIA ถูกเรียกมาทำงานในไทยและเวียดนาม

J.Vinton " Vint " Lawrence บุรุษลึกลับ ผู้เข้ามาปฏิบัติงานในลาว ช่วงปี ๒๕๐๕ - ๒๕๐๗
เพียงสองปี จึงอาจไม่มีบทบาท และคนรู้จักเขามากนัก ส่วนอีกคนหนึ่งคือ

Anthony Poshepny " โทนี่ โพ "

(http://61.19.248.235/uploads/7615a57c13.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=7615a57c13.jpg)


อดีตนาวิกโยธินอเมริกัน ผู้เคยผ่านสมรภูมินรกที่ อิโว จิมา ในสงครามโลก
แล้วจึงต่อด้วยภารกิจต่อต้านข่าวกรอง ในสงครามเกาหลี ตามด้วยภารกิจโค่นล้มรัฐบาลซูการ์โน
ในอินโดนีเซีย แต่ CIA ล้มเลิกแผนนี้เสียก่อน โทนี่ โพ จึงถูกเรียกมาที่กรุงเทพ
ในภารกิจของ SEA Supply ซึ่งช่วงแรกๆเขาทำหน้าที่มือรองของแลร์ ประสานกับกองพล ๙๓

โทนี่ โพ เป็นตำนาน น่าสนใจที่จะค้นคว้าประวัติชีวิตของบุคคลผู้นี้
ทราบว่าท่าน เสธ.ดำ เคยร่วมงานกับโทนี่ โพ อย่างใกล้ชิด มีเอกสารกล่าวว่าชีวิตของ โทนี่ โพ
คล้ายกับตัวละคร พ.อ. Walter E. Kurtz (แสดงโดย Marlon Brando) ในภาพยนต์เรื่อง Apocalypse Now!
ของผู้กำกับ Francis Ford Copola ตรงที่เขาเข้าไปรบร่วมกับม้งอย่างใกล้ชิด
จนดูเหมือนเขาเป็นผู้นำ เป็นพระเจ้าของม้ง


มีผู้บันทึกว่าครั้งหนึ่ง โพตั้งรางวัลตาม Body Count โดยให้ม้งตัดใบหูของข้าศึก เมื่อสังหารข้าศึกได้
มาแลกรางวัล ๕,๐๐๐ กีบจากเขา เรื่องดำเนินไปจนกระทั่งวันหนึ่ง เขาไปพบเด็กชายชาวม้ง
ไม่มีหูทั้งสองข้าง เมื่อเขาถามล่าม ล่ามตอบว่า " ก็พ่อมันตัดใบหู ไปแลกเงินจากคุณไง "



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 02:59:31 PM
มาว่ากันต่อ ในเรื่องสำคัญ ซึ่งจะทำให้ท่านผู้อ่านทราบว่า
ไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง กับสงครามในลาว และสงครามเวียดนามอย่างไร ?

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในปี ๒๕๐๕(1962) สถานการณ์ขณะนั้นคือ วิกฤติคิวบาสงบลง
ในลาวมีรัฐบาลผสมสามฝ่าย มีการสู้รบระหว่างกันเกิดขึ้นหลายแห่ง พารูของไทย
เข้าไปปฎิบัติงานในลาวอย่างได้ผล ส่วนในเวียดนาม มีการแบ่งประเทศออกเป็นเหนือและใต้
โดยภาคเหนือมีรัฐบาล DRV ของลุงโฮ ภาคใต้มีรัฐบาล ปธน.โง ดินห์ เดียม


อเมริกาเบนเข็มยุทธศาสตร์ต้านคอมมิวนิสต์ มายังเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งแม้ว่าขณะนั้น มีการจัดตั้งองค์การ SEATO ขึ้นมาหลายปีแล้ว
แต่ความร่วมมือทางทหารอย่างจริงจัง ยังไม่ปรากฎชัด


ภายหลังจากที่ได้มีการหารือในด้านยุทธศาสตร์กันหลายครั้ง รัฐบาลไทย(จอมพล สฤษฎิ์)
ก็ส่ง พ.อ. ถนัด คอมันตร์ รมต. ต่างประเทศขณะนั้น ไปยังวอชิงตัน เพื่อเจรจากับ
นาย Dean Rusk รมต. ต่างประเทศสหรัฐ(รัฐบาลเคเนดี้) และได้ร่วมลงนาม
ในข้อตกลง Thanad - Rusk Joint Communique (1962) ซึ่งมีผลผูกพัน
ระหว่างประเทศไทยและอเมริกาเท่านั้น (ข้อตกลงนี้ซ้อนกับข้อตกลงจัดตั้ง SEATO แต่มีผลผูกพันมากกว่า)


ในข้อตกลง Thanad - Rusk Joint Communique (1962)นี้ จะเป็นผลให้ไทยและอเมริกา
ผูกพันเป็นพันธมิตรกัน ในยุทธศาสตร์ต่อต้านคอมมิวนิสต์ โดยไทยจะได้รับการช่วยเหลือทางทหาร
จากอเมริกา และอเมริกา สามารถใช้แผ่นดินในอาณาเขตประเทศไทย ในการจัดตั้งฐานทัพหรือหน่วยทหาร

ซึ่งข้อตกลงดังกล่าว เอื้ออำนวยให้การดำเนินงานของ CIA ในไทย สะดวกขึ้นมาก
นอกจากนั้น ยังมีข้อตกลง THAI - US Special Logistic Agreement(1963) ในปีถัดมา

ข้อตกลงนี้ สาระคือไทยตกลงยอมให้อเมริกา เข้ามาสร้างถนนและท่าเทียบเรือในประเทศไทย " เพื่อสนับสนุนด้านการขนส่ง "

ซึ่งหลังจากลงนามกันแล้ว เราจึงมีถนนสายบางนา - ตราด,
ถนนมิตรภาพ(สระบุรี - อุดร), และถนนสายกบินทร์บุรี สมัยก่อน ถนนในเมืองไทย เป็นแบบที่ต้องลงหิน
แล้วบดอัด- ราด Asphult

อเมริกา นำวิธีทำถนนแบบใหม่เข้ามา(เรียกอะไรไม่รู้อีกเหมือนกัน ) แต่ทำได้ไว และถนนเรียบมาก


ตอนนั้นใครๆ คิดว่า อเมริกาใจดีจัง มาทำถนนให้ฟรีๆ แต่ที่จริงแล้ว ถนนเหล่านี้ คือเส้นทางลำเลียง
และส่งกำลังบำรุง สู่ฐานทัพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตาคลี โคราช อุดร นครพนม ฯลฯ ซึ่งจะโยงไปจากสัตหีบ
อันเป็นท่าเรือหลัก ที่สินค้าและอาวุธยุทธภัณฑ์ ถูกลำเลียงเข้ามา

ขอให้สังเกตตรงนี้สักนิด คือ Thanad - Rusk Joint Communique (1962) และ
THAI - US Special Logistic Agreement(1963) นี้เกิดขึ้นก่อนการลอบสังหารเคเนดี้

นั่นคือยุทธศาสตร์ของอเมริกานั้น กำหนดแน่นอนแล้วว่าจะต้องทำสงครามเวียดนาม

แต่เมื่อเคเนดี้ไม่เห็นด้วยในปี ๒๕๐๖(1963) และเมื่อเคเนดี้ตายแล้ว
รอง ปธน. Lyndon B. Johnson(LBJ) ขึ้นเป็น ปธน.แทน

ภาพ LBJ ของ Wikipedia

(http://61.19.248.235/uploads/0cbc8bebfb.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=0cbc8bebfb.jpg)





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:02:01 PM
โครงการสงครามเวียดนาม จึงเดินหน้าต่อไป, LBJ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ปธน. ในปี ๒๕๐๗(1964)
เขาพูดกับบรรดาผู้สนับสนุนว่า " ให้ตำแหน่งประธานาธิบดีกับผม แล้วผมจะมอบสงครามให้กับคุณ "

สงครามเวียดนาม ลั่นกลองศึกขึ้นแล้วในปีนั้น

มีผู้กล่าวว่า สงครามหลักในภูมิภาคนี้ คือสงครามเวียดนาม โดยมีสงครามในลาวและเขมร
เป็นละครคั่นฉาก(Sideshow) แต่ความรุนแรง มิได้น้อยไปกว่ากันเลย

เพียงแต่ในลาวนั้น เป็นสงครามลับ ซึ่งถูกค้ำคอด้วยข้อตกลงระหว่างรัฐบาลสามฝ่าย
ที่จะต้องไม่มีกองกำลังต่างชาติ อยู่ในดินแดนลาว แต่เอาเข้าจริงแล้ว
ทุกฝ่ายก็ละเมิดข้อตกลงนี้หมด นี่ละครับสงคราม

ภาพทิวทัศน์เมืองวังเวียง
ดินแดนอันสงบสุขแห่งนี้ กำลังจะลุกโชนด้วยไฟสงคราม(ภาพเป็นของ Wikipedia)

(http://61.19.248.235/uploads/992fb34fd0.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=992fb34fd0.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:09:40 PM
ภาพสำคัญจากคุณ "ทะเลสาบ"

(http://61.19.248.235/uploads/60a8ca188f.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=60a8ca188f.jpg)

สำหรับคณะนายทหารไทยชุดในรูปภาพ เป็นคณะจากไทยเข้าไปเยือนล่องแจ้ง
คนที่2 จากขวาคือ"นายเทพ"(พล.ท.วิทูรย์ ยะสวัสดิ์)
คนที่ 4 จากขวาคือรองผบ.บก.ผสม333 "นายธน" พล.ท.ธนดิษฐ์

ส่วน ฝรั่งสูงๆ นั้น Vinton Lawrence คนที่ยืนด้านขวาวังเปาเข้าใจว่าเป็นอดีตผบ.ทบ.ท่านหนึ่ง ส่วนขวามือ Vinton
คือ "นายเพชร" พล.อ.ไพทูรย์ อิงคะตานุวัฒน์ Vinton เป็น Operation Chief ของ AB-1(บก.CIA ที่อุดรฯ)
เป็นอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ มีหน้าที่ออกเยี่ยม Site ต่างๆในลาว



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:13:53 PM
แผนที่ประกอบ เป็นแผนที่สเกล ๑ : ๒๕๐,๐๐๐ บริเวณที่มีการสู้รบรุนแรง

(http://61.19.248.235/uploads/8070c1137c.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=8070c1137c.jpg)

บริเวณบ้านผาขาว (LS-14) และบ้านนา (LS-15) ก็เป็นจุดที่มีการรบรุนแรง
ก่อนที่ม้งจะย้ายมาตั้งมั่นที่ล่องแจ้ง

ส่วนอันนี้เป็นภาพแผนที่ข้างต้น แต่ขยายบริเวณเมืองล่องแจ้ง(LS-20A) และซำทอง (LS-20)
จะมองเห็นแนวเนินสกายไลน์( Skyline Ridge ) เหนือเมืองล่องแจ้ง

(http://61.19.248.235/uploads/353e2b5551.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=353e2b5551.jpg)



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:18:21 PM
ท่านเสธ.ดำ ฝากไฟล์แผนที่มาโพสท์ครับ เป็นแผนที่เสกล ๑ : ๕๐,๐๐๐
บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของล่องแจ้ง ซึ่งก็คือพื้นที่ Plain de Jars หรือทุ่งไหหิน
แสดงที่ตั้งหน่วย กองพัน BE-103 และภูเสือ , ภูเทิง (ตาทุ้ย)

(http://61.19.248.235/uploads/74f6e527f4.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=74f6e527f4.jpg)


ได้ทราบว่าแผนที่บางแผ่น ไม่แน่ใจว่าแผ่นนี้ด้วยหรือเปล่า ?
ยังมีคราบเลือดติดอยู่

ถ้าท่านใดยังไม่คุ้นกับการใช้แผนที่ อาจจะงงๆ ขอให้สังเกตจุดสำคัญ
คือบริเวณวงกลมสีแดง บนนถนนหมายเลข ๕ อันนั้นคือ " ลัท ฮวง "( Lat Houang : LS-9)
หากงงว่าลัท ฮวง อยู่ตรงไหน ? ก็ขอให้ย้อนดูแผนที่ ๑ : ๒๕๐,๐๐๐ ข้างบน

ตั้งหลักกันที่ บ้านผาขาว(LS-14) ด้านล่างค่อนไปขวาเล็กน้อย

แล้วดูแผนที่แผ่นนี้ต่อไปครับ

(http://61.19.248.235/uploads/96798c575d.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=96798c575d.jpg)

แผนที่แผ่นนี้ ก็คือแผ่นต่อด้านขวาของแผ่นแรก จะเห็นลัท ฮวง( LS-9) อยู่บริเวณมุมบนขวา
และบ้านผาขาว (LS-14) อยู่ในแผนที่แผ่นเดียวกันนี้ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้-ใต้ ของลัท ฮวง
ซึ่งเมื่อถอดเสกล-วัดระยะแล้ว ก็จะพบว่าลัท ฮวง อยู่ห่างจากบ้านผาขาว ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๓๐ ไมล์
หรือห่างจากล่องแจ้ง ประมาณ ๒๕ ไมล์ครับ

ลัท ฮวง เคยเป็นที่มั่นของทหารม้ง ก่อนที่จะแตกมารวมกันล่องแจ้ง




หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:25:22 PM
คำบอกเล่าของท่านเจ้าของแผนที่ ถึงที่มาของคราบเลือดบนแผนที่

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ท่าน เสธ.ดำ ได้เก็บแผนที่ 1:50,000 ชุดนี้ไว้ เป็นแผนที่ที่ใช้ประจำตัวขณะปฏิบัติงานอยู่ล่องแจ้งร่วมกับ"วังเปา"
และเล่าให้ตาทุ้ยฟังถึงความเป็นมาของแผนที่ชุดนี้

วันที่ฝ่าย เสธ. ซึ่งได้แก่กรมผสมที่ 13(GM-13) ซึ่งนำลงมาจากน้ำยู้ 3 กองพัน และ BC ต่างๆ อีก3-5 BC
(ทหารไทยอาสาฯ) รวมทั้งทหารม้งและ SGU จากสะวันนะเขตอีก 3 กองพันถูกกองกำลังเวียตนามซึ่งมีทั้งปืนใหญ่
และรถถังทุ่มกำลังเข้าตีพร้อมๆกัน

ทำให้ฝ่ายเราไม่สามารถต้านทานได้เพราะแต่ละกองพันได้รับความเสียหายหนัก

เวลาประมาณบ่าย 2 โมงของเดือนกันยายน เสธ.ดำ ได้ขึ้น ฮ.UH-1Cของ Air America พร้อมกับ พ.อ.ซัวย่า ฝอ.3ของ "วังเปา"
Mr.Ray Lau จากน้ำยู้ Mr.Ham Bone case officer ของม้งเพื่อค้นหาทหารที่แตกมาจากทุ่งไหหิน

นักบินมองเห็นแผ่นผ้าสัญญาณตัว I สีส้มซึ่งเป็นทหารของ GM-13 จึงได้ลดระดับลงเพื่อรับผู้บาดเจ็บ

ขณะที่นักบินกำลังลดเพดานลงเหลือประมาณ 300 ฟิตก็มีเสียงปืนเล็กยิงขึ้นมาไม่ต่ำกว่า100นัด
ขณะเดียวกัน Ham Bone ซึ่งนั่งอยู่ด้านซ้ายติดกับผมก็โดนกระสุนที่ต้นขาขวาและเสียเลือดไปมาก
เสธ.ดำ จึงแจ้งให้นักบินทราบ และนักบินก็ได้รีบนำเครื่องร่อนลงฉุกเฉินที่ ผาดง(LS-5) ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 10 กม.

ฮ.อีกลำจากล่องแจ้งได้รีบบินมารับ Ham Bone และส่งเข้าอุดรฯภายในวันเดียวกัน นับว่าโชคดีที่เครื่องบินไม่ได้รับความเสียหาย
เพียงแต่เป็นรูพรุนนับรูกระสุนได้ร่วมร้อยรู....

ด้วยเหตุนี้ เสธ.ดำ จึงเก็บแผนที่ชุดนี้เอาไว้ดูเล่นเมื่อยามคิดถึง Ham Bone เพราะอย่างน้อยก็มีคราบเลือดของเขาติดไว้ให้


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:31:26 PM

อเมริกา นำวิธีทำถนนแบบใหม่เข้ามา(เรียกอะไรไม่รู้อีกเหมือนกัน ) แต่ทำได้ไว และถนนเรียบมาก


ตอนนั้นใครๆ คิดว่า อเมริกาใจดีจัง มาทำถนนให้ฟรีๆ แต่ที่จริงแล้ว ถนนเหล่านี้ คือเส้นทางลำเลียง
และส่งกำลังบำรุง สู่ฐานทัพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตาคลี โคราช อุดร นครพนม ฯลฯ ซึ่งจะโยงไปจากสัต***บ  
อันเป็นท่าเรือหลัก ที่สินค้าและอาวุธยุทธภัณฑ์ ถูกลำเลียงเข้ามา






แหม... แม้แต่คำว่า "สัตหีบ" ยังโดนบล๊อค สุดยอดเลย ไอซีที ;D


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:35:51 PM
ภาพ บ้านนายพลวังเปา และเมืองล่องแจ้งในขณะนั้น(ภาพเป็นของ aircommandoman.com)

(http://61.19.248.235/uploads/b942fa1d78.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=b942fa1d78.jpg)

ส่วนภาพนี้เป็นบ้านนายพลวังเปาเช่นกัน สภาพเมื่อปีที่แล้ว (ท่านเสธ.ดำ เอื้อเฟื้อภาพ)

(http://61.19.248.235/uploads/48b7e92032.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=48b7e92032.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:41:11 PM
ภาพ Ramp ปลายรันเวย์ สนามบินล่องแจ้ง ภาพเล็กเป็นภาพ " ลี ลือ "

(http://61.19.248.235/uploads/fec4e9f505.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=fec4e9f505.jpg)


อันนี้น่าจะเป็น Ramp ของ บ.เล็กตอนกลางรันเวย์ ใกล้ บก.สิงหะ เพราะมองเห็นเนินสกายไลน์

(http://61.19.248.235/uploads/30c8bef919.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=30c8bef919.jpg)

เห็นเครื่องปอร์ตเตอร์แล้วเลือดลมมันฉีดแรง มันเป็น บ. มหัศจรรย์ ที่ใช้ทางวิ่งสั้นมาก


ภาพตลาดเมืองล่องแจ้ง

(http://61.19.248.235/uploads/b2b8423e5f.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=b2b8423e5f.jpg)






หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:46:52 PM
" Report Final, clear to land ! " มองเห็นเนินสกายไลน์อยู่ด้านขวามือครับ
(ภาพเป็นของ grjenkin)

(http://61.19.248.235/uploads/4023530297.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=4023530297.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/ab18eda72f.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=ab18eda72f.jpg)

-------------------------------------------------------

ลักษณะของเมืองล่องแจ้ง

-----------------------------------------------------------------------
ล่องแจ้งเมื่อปี2513-2515 มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 3 หมื่นคนโดยเป็นชาวม้ง 95% ที่เหลือก็มาจากเผ่าต่างๆ
ลักษณะทางภูมิศาสตร์จะเป็นที่ราบลุ่มอยู่ในหุบเขา มีพื้นที่ส่วนที่เป็นที่ราบ (มีเนินเตี้ยๆอยู่บ้าง) ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
ด้านทิศเหนือเป็นแนวสันเขาติดต่อกันยาวคล้ายกำแพงกั้นหุบเขาซึ่งเรียกว่า skyline เป็นแนวป้องกันข้าศึกได้เป็นอย่างดี

บ้านของ"วังเปา"ซึ่งถ่ายไว้เมื่อประมาณปี 2513 โดยนักบินหน่วยกู้ภัยจากฐานทัพนครพนม
จะสังเกตุเห็นว่ารอบๆบ้านซึ่งเป็นทั้งกองบัญชาการจะมีบ้านของชาวม้งอยู่เต็มไปหมด
วัสดุที่ชาวบ้านนำมาทำที่อยู่อาศัยก็จะได้มาจากลังบรรจุลูกระเบิด จรวด ลังลูกปืนใหญ่ และลังสัมภาระต่างๆที่มาจากอุดรฯ

เป็นบ้านหลังเดียวกันแต่ถ่ายเมื่อปลายปี 2551(ขอสงวนแหล่งที่มาของรูป)
จะเห็นได้ว่าบ้านของชาวม้งที่ปลูกอยู่รอบๆบ้านท่านนายพลได้หายไปหมด
ปัจจุบันทางการลาวใช้บ้านดังกล่าวเป็นสำนักงานควบคุมการก่อสร้างเขื่อนน้ำเทิน 3 มีการติดตั้งจานรับดาวเทียมไว้บนหลังคาบ้าน

สนามบิน เครื่องบินทุกลำจะถูกบังคับให้ลงจากทางทิศตะวันออกเท่านั้นเพราะทิศตะวันตกเป็นภูเขาสูงชัน
ส่วนนักบินม้งคนที่อยู่ในรูปคือ ร.อ.ลีลือ "ยอดนักบิน" ของวังเปาผู้ที่เคยทำสถิตินำเครื่องขึ้นทิ้งระเบิดถึง 8 เที่ยวต่อวันมาแล้ว
ก่อนที่จะเสียชีวิตเพราะโดนยิงตก

ตลาดที่อยู่รอบๆสนามบิน และรูปสนามบินซึ่งถ่ายจาก ฮ.ของหน่วยกู้ภัย เครื่องบินจะลงจากทิศทางนี้
และที่เห็นเป็นกลุ่มอาคารด้านมุมซ้ายของทางวิ่งลง คือบก.สิงหะของทหารไทยอาสาฯ
และเรือนพักของบรรดาผู้ตรวจการหน้าประจำกองพันต่างๆของทหารไทย


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:51:27 PM
ฝูงบินเตซาวแปด " เจ้าผาขาว " ของม้ง ( ภาพเป็นของ Raven.org)

(http://61.19.248.235/uploads/2d1817c01a.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=2d1817c01a.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/48e5187582.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=48e5187582.jpg)


นักบินลาวคนหนึ่งที่เป็นหน้าตาของกองทัพอากาศลาว " ท้าวคำผุย มะนีวัน "
(คือคนเดียวกับภาพแรกๆ ที่ยืนคู่กับ ลื ลือ)

(http://61.19.248.235/uploads/1189bf6fd5.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=1189bf6fd5.jpg)

นักบินลาวที่ปากเซ

(http://61.19.248.235/uploads/39eb3bfbe5.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=39eb3bfbe5.jpg)





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 03:56:58 PM
การรบที่ทุ่งไหหิน และอาณาบริเวณ มีอยู่หลายครั้ง และการรบส่วนใหญ่ก็อยู่ในบริเวณนั้น
แต่จุดแรกๆที่มีการรบ น่าจะอยู่ทางตะวันออกของทุ่งไหหิน แล้วฝ่ายขวา - กลาง ก็ถอยมาเรื่อย

มาปักหลักซดกันในบริเวณทุ่งไหหิน และพื้นที่รอบๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ โดยมีล่องแจ้งเป็นปราการหลัก
ยันกันอยู่หลายปี การสูญเสียส่วนใหญ่ก็อยู่ในบริเวณนี้ ทหารไทยตายและสูญหายไปประมาณ ๒,๕๐๐ คน

เท่าที่สืบค้นดู การที่ฝ่ายไทยต้องถอนตัวส่วนใหญ่ เกิดจากไม่มีรถถัง
ส่วนทางฝ่ายเวียดนามเหนือ ใช้รถถถัง PT - 76 เข้ามานำการเข้าตี

(http://61.19.248.235/uploads/9a8bf8e406.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=9a8bf8e406.jpg)




"คำสั่งให้รักษาทุ่งไหหินไว้ให้ได้"

ทั้งนี้เพราะทุ่งไหหินเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จะทำให้เวียตนาม และลาวคอมมิวนิสต์สามารถบุกถึงเวียงจันทร์
และสามารถยึดครองประเทศลาวได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้ฝ่ายเราจึงได้วางกำลัง เพื่อตั้งรับการบุกของฝ่ายลาวคอมมิวนิสต์
และทหารเวียตนามเหนือไว้รอบทุ่งไหหินในระหว่างปีพ.ศ.2514-2515

แต่เนื่องด้วยฝ่ายเวียตนามได้ทุ่มกำลังกว่า 6 หมื่นนายพร้อมรถถังและปืนใหญ่บุกผ่านสามแยกศาลาภูคูน
และยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของทุ่งไหหินไว้ได้ และฝ่ายเราไม่สามารถต้านทานการบุกครั้งนั้นได้เพราะไม่มีรถถังไปสู้กับทหารเวียตนาม
ประกอบกับขวัญและกำลังใจของทหารฝ่ายเราตกต่ำมาก

เพราะทหารไทยอาสาฯ จำนวนหลายกองพันถูกฝ่ายข้าศึกตีแตก รวมทั้งฐานยิงปืนใหญ่155มม.หลายฐานถูกโจมตีอย่างหนัก
และต่อเนื่องจนไม่สามารถรักษาฐานยิงไว้ได้ แม้จะได้รับการสนับสนุนการทิ้งระเบิดจากกองทัพอากาศสหรัฐอย่างหนักหน่วง

แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งการทุ่มกำลังบุกของฝ่ายเวียตนามได้ ในที่สุดเมื่อประมาณเดือนตุลาคม ปีพ.ศ.2515
กองกำลังของ GM-13 จำนวน 3 กองพัน BG-303 จากสะวันนะเขต และทหารไทยอาสาฯ ทุกกองพัน
ก็ได้ถอนกำลังออกจากทุ่งไหหินอย่างสิ้นเชิงโดยกำลังส่วนหนึ่งถอยมาตั้งหลักอยู่ที่ ผาดง LS-5




หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 04:03:24 PM
(http://61.19.248.235/uploads/2f52580cf0.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=2f52580cf0.jpg)


(http://61.19.248.235/uploads/8746a2c50c.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=8746a2c50c.jpg)

ภาพที่ ๑ และ ๒ เป็นภาพของ โทนี่ โพ ผู้เป็นตำนานแห่งนักรบในสงครามลาว เคยได้รับบาดเจ็บจากการรบหลายครัง
โพจบตำนานชีวิตของนักรบแท้ๆอย่างสงบ เมื่อ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๖(2003)
ในภาพที่ ๑ โพคือคนสวมแว่นตา มีเด็กขี่คอ


ภาพที่ ๓ และ ๔ เป็นภาพของหน่วย SGU

(http://61.19.248.235/uploads/ee5069813d.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=ee5069813d.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/ac12561d59.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=ac12561d59.jpg)


(http://61.19.248.235/uploads/19d24856bf.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=19d24856bf.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 04:08:23 PM
(http://61.19.248.235/uploads/b012b7ac3b.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=b012b7ac3b.jpg)

ภาพทุ่งไหหินภายใต้ปีก"นกกระเต็น"(Raven)


(http://61.19.248.235/uploads/20dbd69cc8.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=20dbd69cc8.jpg)

ทหารไทยอาสาฯที่สนามบินล่องแจ้ง



(http://61.19.248.235/uploads/9f924197c6.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=9f924197c6.jpg)

Ramp T-28 ของนักบินม้งที่สนามบินล่องแจ้ง



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 04:18:02 PM
ผู้ชี้เป้า

------------------------------------------------------------------

ฝูงนกกระเต็นติดจรวดฟอสฟอรัสขาว (White Phosphorus)
กำลังบินเพื่อแยกย้ายกันค้นหาเป้าหมายให้แก่เครื่องบินทิ้งระเบิด T-28 ของกองทัพอากาศลาวและม้ง
A-1E Sky Raider ของหน่วย Air Commando จากฐานทัพอากาศนครพนม และPhantom F-4C จากฐานทัพอากาศอุดรฯ

(http://61.19.248.235/uploads/86c2f56529.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=86c2f56529.jpg)

นักบินRaven ในยุคแรกของสงครามจะมาจากกองทัพอากาศสหรัฐ
ส่วนใหญ่เคยผ่านสงครามเวียตนามมาแล้ว

แต่ต่อมาเมื่อประมาณปี 2513
นักบินลาวและม้งมีชั่วโมงบินและประสบการณ์มากขึ้น จึงมีการฝึกให้ลงมาบินเครื่องบินชี้เป้านกกระเต็น
หรือ Raven แทนฝรั่ง แต่การทำงานของทั้ง T-28 และ Raven ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมและสนับสนุน
จากกองทัพอากาศสหรัฐอยู่ดี



(http://61.19.248.235/uploads/c16cf5fd26.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=c16cf5fd26.jpg)

นักบินลาวและนักบินม้งทั้งหมดจะผ่านการฝึกหลักสูตรการใช้ภาษาอังกฤษและการบินทิ้งระเบิดจากฐานทัพอุดรฯ
หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆทั่วลาว

โดยมีกองทัพอากาศสหรัฐเป็นผู้จัดการทั้งหมดเช่นฝึกช่างเครื่อง เจ้าหน้าที่สรรพวุธติดจรวด ลูกระเบิด ส่วนเบี้ยเลี้ยง
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ทาง ซี.ไอ.เอ.เป็นเจ้าภาพทั้งหมด นักบินลาวและม้งที่ล่องแจ้งจะมีรายได้มากกว่าที่อื่น

เพราะมีรางวัลต่อเที่ยวให้ 100 บาทและปลอกจรวด กระสุนปืนกลอากาศ 20มม.ก็ตกเป็นของนักบินและทีมงานทั้งหมด
โดยเฉลี่ยแล้วนักบินที่ล่องแจ้ง จะมีเที่ยวบินโดยเฉลี่ยวันละ 4 เที่ยวต่อคน
(เครื่องบินติดลูกระเบิดบินขึ้น ทิ้งระเบิดต่อเป้าหมาย บินกลับฐาน เรียกว่า 1 เที่ยวบิน หรือ 1 sorty)


(http://61.19.248.235/uploads/e3917dc5db.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=e3917dc5db.jpg)

นักบินRaven และผู้ช่วยชี้เป้าจากหน่วยภาคพื้นดิน(Back Seater)


(http://61.19.248.235/uploads/da95a5a3a8.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=da95a5a3a8.jpg)

นักบินRaven ฝรั่งจะมีประสบการณ์สูง บินต่ำไม่กลัว ปตอ.ข้าศึกและเมื่อค้นเจอเป้าหมายแล้วจะรีบดึงเครื่องขึ้น
ทำมุมและดำลงเพื่อยิงจรวดชี้เป้าฟอสฟอรัสขาว(White Phosphorus) ขณะเดียวกันเครื่องบินทิ้งระเบิดซึ่งบินวนรออยู่แล้ว
ก็จะผลัดกันดำลงและปลดลูกระเบิดเพื่อทำลายเป้าหมายอย่างสนุกสนาน


(http://61.19.248.235/uploads/aa411cc0b4.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=aa411cc0b4.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/d9bf014769.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=d9bf014769.jpg)

เมื่อทิ้งระเบิดเสร็จแล้วนักบินRaven ก็จะเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน
แต่บางครั้งก็ไม่สามารถบินเก็บภาพได้จึงต้องใช้บริการของเครื่องบินถ่ายภาพทางอากาศโดยเฉพาะ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 04:23:35 PM
(http://61.19.248.235/uploads/c21c2608d6.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=c21c2608d6.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/62e80f24cd.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=62e80f24cd.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/c422929866.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=c422929866.jpg)

นับตั้งแต่ เสธ.ดำ เข้าไปสู่สมรภูมิรบในลาว ได้เห็นการทิ้งระเบิดแทบจะเรียกได้ว่าทุกวัน
ถ้าไม่มีการสู้รบติดพันซึ่งทหารภาคพื้นดินจะต้องขอการสนับสนุนจาก T-28 หรือ A-1E Sky Raider
หรือแม้กระทั่งจากฝูงบินโจมตีทิ้งระเบิดขนาดหนัก Phantom F-4Cจากฐานทัพอุดรฯ

ส่วนวันไหนไม่มีการสู้รบเจ้านกกระเต็นหรือ Raven ก็จะต้องขึ้นบินลาดตระเวณทางอากาศ (Air Reconnaissance)
เพื่อค้นหาเป้าหมายโดยการติดต่อกับกำลังภาคพื้นดิน

และหน่วยหาข่าวหลังแนวข้าศึก เมื่อพบเป้าหมายแล้วก็จะเรียกใช้บริการจากฝูงบิน T-28, Sky Raider หรือ Phantom F-4C
แล้วแต่ขนาดของเป้าหมาย แต่เอาเป็นว่ามีงานเข้าทุกวันไม่เคยเว้น

ส่วน B-52นั้นจะใช้ก็ต่อเมื่อพบการเคลื่อนไหวของข้าศึกระดับกรมขึ้นไป
หรือขบวนยานยนต์ลำเลียงทหาร ยุทโธปกรณ์และขบวนรถถัง

การทิ้งระเบิดของ B-52 ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบินชี้เป้าเช่นเจ้านกกระเต็น
แต่จะใช้ข้อมูลจากหน่วยข่าวซึ่งจะรายงานพิกัดที่ตั้งของข้าศึกผ่านcase officer ของ ซี.ไอ.เอ.
หรือไม่ก็จากภาพถ่ายทางอากาศของเครื่องบินตรวจการณ์ทางอากาศ(สมัยนั้นดาวเทียวยังไม่ได้รับการพัฒนา)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 04:27:00 PM
เครื่องบินA-1E Sky Raider ประจำการอยู่ฐานทัพนครพนม

(http://61.19.248.235/uploads/ac0e873322.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=ac0e873322.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/3eb9834cec.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=3eb9834cec.jpg)


นักบินจากกองทัพอากาศสหรัฐเตรียมพร้อมที่จะนำเครื่องขึ้นปฏิบัติการทันทีที่ได้รับคำสั่ง

(http://61.19.248.235/uploads/ab1cec8214.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=ab1cec8214.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/40bb3261eb.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=40bb3261eb.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 04:31:00 PM
และบางครั้งก็พลาดท่าโดน ปตอ.ข้าศึกต้องลงฉุกเฉินกลางทุ่งไหหิน

(http://61.19.248.235/uploads/aec8574907.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=aec8574907.jpg)



เครื่องบิน A-1E Sky Raider จากฐานบินนครพนมพลาดท่าโดนปตอ.ข้าศึกยิงสวนขณะทำการทิ้งระเบิดบริเวณทุ่งไหหิน

(http://61.19.248.235/uploads/bebdb96b62.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=bebdb96b62.jpg)


บางครั้งก็โดน ปตอ.37มม ซึ่งเป็นกระสุนชนิดแตกอากาศแต่ถ้าไม่โดนจุดสำคัญนักบินก็ยังพอประครองเครื่องกลับฐานได้

(http://61.19.248.235/uploads/0a485f298a.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=0a485f298a.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 04:39:00 PM
โชคดีที่สามารถนำเครื่องบินลงฉุกเฉินในเขตยึดครองฝ่ายเรา และมีเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของ Air America อยู่ในบริเวณนั้นพอดี
จึงรีบลงไปรับนักบินขึ้นมาทันเหตุการณ์พอดี

(http://61.19.248.235/uploads/dc7e48bfa5.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=dc7e48bfa5.jpg)

หมายเหตุ : นักบินลาวจะใช้"นกกระเต็น"เป็นนามเรียกขาน(call sign)ของเครื่องบินชี้เป้า ส่วนนักบินสหรัฐจะใช้"Raven" เป็นนามเรียกขาน
และ T-28 จะใช้คำว่า"เจ้าผาขาว" ส่วนนามเรียกขานของนายพลวังเปาคือ "ดาวขาว"



เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดขนาดหนักในสมัยนั้น (2510-2516) Phantom F-4C ถือว่าสุดยอดแล้ว F-4C มีฐานอยู่ที่อุบลฯ
ซึ่งจะรับงานทิ้งระเบิดโจมตีในเวียตนามและเส้นทางโฮจิมินโดยเฉพาะ และอีกแห่งหนึ่งคือที่ฐานทัพอุดรฯ
ซึ่งจะรับงานทิ้งระเบิดโจมตีทั้งในเวียตนามและในลาว

(http://61.19.248.235/uploads/e193ed04cd.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=e193ed04cd.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/58326a3e60.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=58326a3e60.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/143ae9f281.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=143ae9f281.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/91e0872926.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=91e0872926.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/326d84558c.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=326d84558c.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/49308ca0bb.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=49308ca0bb.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/df77e99e6e.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=df77e99e6e.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: คนแปลกหน้า - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 04:58:34 PM
ต้องยกข้าวมากินหน้าจอเลยครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 06:00:10 PM
ภาพนกกระเต็น ทำ Low Operation
เวลาตรวจการณ์ เขาจะบินกันต่ำๆ อย่างนี้ละครับ

(http://61.19.248.235/uploads/d57753d684.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=d57753d684.jpg)


ภาพนี้เป็นภาพใบปลิว ที่ฝ่ายอเมริกาทิ้งลงไป เพื่อทำ ปจว.

(http://61.19.248.235/uploads/ae0a66944b.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=ae0a66944b.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 06:05:51 PM
การทำงานของ"Raven" หรือ "นกกระเต็น"
------------------------------------------------------------------

เมื่อนักบินค้นพบเป้าหมายแล้วก็จะรีบไต่เพดานขึ้นอย่างต่ำ 2-300 ฟิต
เพื่อทำมุมและรีบยิงจรวดควันฟอสฟอรัสขาว(white phosphorus)ไปยังเป้าหมายบนพื้นดิน
เมื่อจรวดที่ยิงลงไปกระทบพื้น ก็จะระเบิดพร้อมกับส่งกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นสู่อากาศ
ทำให้เครื่องบินทิ้งระเบิดซึ่งบินวนรออยู่แล้วสามารถมองเห็นเป้าหมาย


ต่อจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของฝูงบินทิ้งระเบิดที่จะรับงานต่อคือผลัดกันดิ่งลงเพื่อทิ้งระเบิดลงบนเป้าหมาย
ส่วนนักบินชี้เป้า Raven ก็จะฉากออกไปคุมเชิงอยู่ห่างๆ หลังจากเครื่องบินทิ้งระเบิดเที่ยวสุดท้ายเสร็จภารกิจ
ต่อจากนั้นเจ้า Raven ก็จะบินเข้าไปสำรวจผลงาน
 
ถ้ายังมีข้าศึกหลงเหลืออยู่หรือมีการยิงสวนขึ้นมา นักบินชี้เป้า Raven ก็จะทำการยิงจรวดเพื่อชี้เป้าหมายอีกครั้ง
และเครื่องบินทิ้งระเบิด ก็จะดิ่งลงและยิงจรวดหรือปืนกลอากาศ20มม.ใส่เป้าหมายเพื่อเป็นการเก็บงาน
ตามปกติ นักบินจะไม่ใช้จรวดหรือยิงปืนกล แต่จะเก็บไว้รอผลสำรวจจาก Raven เสียก่อน


ภาพนี้จะเห็นได้ว่าเจ้านกกระเต็นได้เตรียมจรวดควันขาวฟอสฟอรัสบรรจุเต็มอัตราเพื่อออกปฏิบัติการชี้เป้า

(http://61.19.248.235/uploads/6f05ebb3dc.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=6f05ebb3dc.jpg)



นักบิน(นอกเครื่องแบบ)จากกองทัพอากาศเหล่านี้แต่ละคนมีชั่วโมงบินและประสบการสูงมาก
แต่ละวินาทีของนักบินเหล่านี้เสี่ยงกับการถูก"สอย"จากข้าศึกตลอดเวลา

เพราะหน้าที่ของเขาอีกอย่างก็คือ"บินล่อเป้า" เพื่อยั่วยุให้ข้าศึกซึ่งอยู่บนพื้นดินเปิดเผยตำแหน่ง
แต่ข้าศึกมักจะรู้ทันและหดหัวอยู่ในที่กำบัง



บรรดา Raven หรือนักบินเดนตายเหล่านั้น แต่ละคนเหมือนนักบินหลุดโลก
เพราะในภารกิจบ้าระห่ำที่ต้องบินลงต่ำเพื่อพิสูจน์ทราบที่ตั้งข้าศึก จนเป็นการล่อเป้ากลายๆ

เมื่อนักบินไฟท์เตอร์ พบกับนักบินราเวน พวกไฟท์เตอร์มักจะยกนิ้วให้กับราเวน
ว่านี่คือนักรบผู้กล้าตัวจริง ความบ้าระห่ำของพวกราเวน เป็นตำนานเล่าขานมาจนปัจจุบัน

ดูความบ้าระห่ำของพวกเขาอีกภาพนะครับ ใครหน๊อ...มันช่างคิดขึ้นมาจริงๆนะ
ภาพนี้เขาบอกว่า " O-1 Nape " ซึ่ง Napeก็คือเนปาล์ม(ระเบิดเพลิง)

(ภาพของ Raven.org)

(http://61.19.248.235/uploads/8ea2c214c0.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=8ea2c214c0.jpg)

เอาเครื่องที่ความเร็วไม่ถึง ๑๖๐ น๊อต มาทิ้งระเบิดเนปาล์มแบบโอท๊อป !
ทั้งคนทำและคนทิ้งคงจะระห่ำสุดขีดเลยจริงๆ



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 06:11:16 PM
เครื่องบินทิ้งระเบิด T-28 "เจ้าผาขาว" กำลังบินขึ้นจากสนามบินล่องแจ้ง

(http://61.19.248.235/uploads/2ce4900a2a.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=2ce4900a2a.jpg)

ส่วนภาพล่างคือการทำงานของ T-28 ซึ่งเมื่อ "นกกระเต็น" ชี้เป้าให้แล้วก็จะผลัดกันดิ่งลงและปลดลูกระเบิด
ให้ตรงเป้าหมายครั้งละ 2 ลูก และนักบินจะรีบดึงคันบังคับเพื่อเชิดหัวขึ้นและทำการบินวนเพื่อต่อคิว
ในขณะที่เครื่องบินลำถัดไปก็จะดิ่งลงเพื่อปลดลูกระเบิดใส่เป้าหมาย

ทำอย่างนี้จนลูกระเบิดหมดและรอฟังผลการรายงานจากการสำรวจของเจ้า "นกกระเต็น"
ถ้าผลเป็นที่พอใจนั่นคือไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากข้าศึก T-28 ทุกลำก็จะบินกลับฐานทันที

แต่ถ้า "นกกระเต็น" ตรวจพบว่ายังมีข้าศึกเคลื่อนไหวอยู่หรือเป้าหมายไม่ได้ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
นักบิน T-28 จะต้องออกอาวุธที่เหลือคือจรวดและปืนกลอากาศ 20มม.ลงสู่เป้าหมายให้หมด
การทิ้งระเบิดของฝูงบิน T-28 ในลาว แม้จะมีผู้บังคับฝูงเป็นนักบินลาวหรือม้งก็ตาม ก
ารปฏิบัติการทิ้งระเบิดก็ยังต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของนักบิน Raven จากกองทัพอากาศสหรัฐอยู่ดี....


เพราะเมื่อตกเย็นและทุกคนบินกลับฐานอย่างปลอดภัย ลูกพี่(อเมริกัน) ก็จะยกเบียร์เย็นๆ ที่แช่ไว้เป็นลังๆ ออกมาเลี้ยงลูกทีม
(นักบินลาวและม้ง) โดยไม่จำกัด ทำให้ลูกทีมหายเหนื่อยและม่วนซื่นอย่างสุดขีด.....

(http://61.19.248.235/uploads/7ff3cd245c.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=7ff3cd245c.jpg)



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 06:13:49 PM

         เยี่ยมครับ + 1  ให้ จขกท.



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 06:26:35 PM

กลับมาสู่ยุคปัจจุบันอีกครั้ง

ภาพเมืองล่องแจ้งในปัจจุบัน  เป็นภาพถ่ายของ ท่านเสธ.ดำ ครับ ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

(http://61.19.248.235/uploads/3c863169a3.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=3c863169a3.jpg)

แนวป้องกันเมืองล่องแจ้งโดยธรรมชาติ "สกายไลน์"


(http://61.19.248.235/uploads/e04d26bdb0.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=e04d26bdb0.jpg)

อีกมุมของหัวสนามบินด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 06:31:05 PM
(http://61.19.248.235/uploads/bb09d3b465.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=bb09d3b465.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/839f9a914b.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=839f9a914b.jpg)

หมู่บ้านบริเวณใกล้เคียงสนามบินล่องแจ้ง


(http://61.19.248.235/uploads/c9c68f8cfa.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=c9c68f8cfa.jpg)

บ้านท่านนายพลวังเปาอีกมุมหนึ่ง


(http://61.19.248.235/uploads/bf9c338bad.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=bf9c338bad.jpg)

อีกมุมหนึ่งของโรงเรียนล่องแจ้ง


(http://61.19.248.235/uploads/98bc217d55.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=98bc217d55.jpg)

สภาพ Runway สนามบินล่องแจ้งปัจจุบัน






หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 09:54:45 PM
+1 ให้ ท่าน จขกท. แล้วครับ ::014:: ::002::


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 11, 2009, 11:19:36 PM
+1...  ::002:: ครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 12:05:51 AM
อยากไปเที่ยวที่ลาวตอนเหนือจริง ๆ ครับ...


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: mrt ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 09:25:36 AM
+1 เช่นกันให้ จขกท. เช่นกันครับ
ต้องยกข้าวมากินหน้าจอเลยครับ
ชอบกระทู้ของท่านนี้ครับ เห็นภาพเลย(ผมก็ยกมากินหน้าจอเช่นกันครับ อ่านเจอสำลักข้าวพุ่งเลยครับ)  ;D  ;D


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: nine รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 09:31:15 AM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 10:43:08 AM
ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้มากๆ ครับ...

อ่านหนังสือของสยุมภู ทศพล... หรือดูหนังเรื่อง... แอร์ อเมริกา... จะจินตนาการภาพได้มากขึ้นครับ...


...จริงๆ แล้วอ่านหนังสือของสยุมภู ทศพล... ผมจินตนาการภาพต่างไปจากนี่มากครับ...


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 10:55:48 AM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 11:23:46 AM
ขอบคุณมากครับ คุณ Siri_Pat   + ให้แล้ว ๒ แต้ม ครับ.

อยากไปเที่ยวที่ลาวตอนเหนือจริง ๆ ครับ...

คิดเหมือนกันครับ ผมชอบบรรญากาศ แบบลาวทางเหนือ

เคยขับ 4x4 ผ่านด่านห้วยโก๋น-น้ำเงิน ไปเที่ยว ผ่านเมืองหงสา ไปถึงริมโขง ที่เมืองปากเบง
ท่าเรือที่จะต่อล่องลงหลวงพระบาง อีก ๗ ชม.

ครั้งเมื่อผ่านแดนเข้าไป ได้รับคำเตือน ว่าลาวเหนือยังเป็นเขตที่มีอันตราย จากขบวนการลาวฝ่ายขวา . :D


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 11:48:54 AM
ขอบคุณครับ ขอเก็บไว้อ่านนะครับ จริงๆแล้วผมเคยอ่านเจอเรื่องทหารไทยที่ไปทำหน้าที่ประสานงานกับนักบินด้วยครับ เสียดายจำชื่อท่านไม่ได้
รู้สึกท่านอยู่จนถึงสนามบินแตกเลยนะครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: จินตา <Jinta> ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 12:36:02 PM
ขอบคุณครับ +1


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 12:46:30 PM
การรบที่ ภูผาที

------------------------------------------------------------------------------

เรื่องสนามบินนาซู และเรื่อง sapper บุกสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิคอเมริกันที่ภูผาที LS-85

สนามบินนาซู LS-272 ตั้งอยู่ที่บ้านซ่อนห่างจากล่องแจ้งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 60 กม.
เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสนามของ USAID ขนาด 200 เตียง(สนาม) เพื่อรองรับทหารม้งของวังเปา
ที่บาดเจ็บจากการสู้รบ เพราะที่ล่องแจ้งจะไม่มีโรงพยาบาล ดังนั้นทหารม้งที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ
จะถูกนำส่งโรงพยาบาล USAID ที่บ้านซ่อนหรือนาซูโดยทางเครื่องบินซึ่งใช้เวลาบินจากล่องแจ้งถึง LS-272 ไม่ถึง 10 นาที

เรื่อง sapper บุกขึ้นไปสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิคชาวอเมริกันบนภูผาที LS-85 เมื่อต้นปี 1968 นั้น
ผมขอท้าวความถึงความเป็นมาของภูผาที LS-85 อีกครั้งเพื่อท่านผู้อ่านหลายท่านที่ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้มาแต่ต้น
จะได้มองเห็นภาพโดยรวมอีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 12:51:08 PM
ในขณะที่การสู้รบในเวียตนามและการโหมทิ้งระเบิดโดยกองทัพอากาศสหรัฐต่อเป้าหมายทางทหารในเวียตนามเหนือ
เวียตนามใต้และในลาวกำลังดำเนินไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรง

ภูผาที LS-85 จึงถูกกำหนดให้เป็นสถานีติดตั้งอุปกรณ์นำล่องในการทิ้งระเบิดของเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐ
(Radar Bombing Control System)โดยภูผาทีอยู่ห่างจากฮานอยมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 120 ไมล์

ส่วนคุณสมบัติของอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์ดังกล่าวมีความสามารถในการชี้เป้าให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด
โดยนักบินไม่จำเป็นต้องมองเห็นเป้าด้วยสายตา แต่โดยการนำล่องของอุปกรณ์ดังกล่าวนักบินก็จะสามารถ
ทิ้งระเบิดบนเป้าหมายได้ในทุกสภาพกาลอากาศ

ด้วยเหตุนี้ทางเวียตนามเหนือจึงมองเห็นอันตรายจากการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวบนภูผาทีและได้วางแผน
เพื่อทำลายฐานเรด้าบนภูผาทีซึ่งทางกองทัพอากาศสหรัฐได้ทำการติดตั้งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 1967
และถูกหน่วยกล้าตายของเวียตนามเหนือประมาณ 30 นายบุกขึ้นไปสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิค
ของกองทัพอากาศสหรัฐเสียชีวิต 11 นายเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 1968


การที่หน่วยกล้าตายของเวียตนามสามารถฝ่าด่านระวังป้องกันของทั้งทหารม้งและทหารไทย
ซึ่งมี ร.อ.จำลอง ศรีเมือง (นามเรียกขานคือ "โยธิน") วางกำลังอยู่รอบๆบริเวณที่ตั้งของอุปกรณ์นำร่อง
และที่พักของเจ้าหน้าที่เทคนิคอเมริกันเข้าไปสังหารเจ้าหน้าอเมริกันได้ถึง 11 นาย

ก็เพราะความหละหลวมของทหารม้ง ซึ่งตามแผนรักษาความปลอดภัยแล้ว ทหารของ พ.ต.ซัวย่า
ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับวังเปาเป็นผู้คุมกำลังทหารม้งประมาณ 200 นายอยู่ตรงทางขึ้นด้านทิศใต้ของที่ตั้งอุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์
และทหารไทยจำนวน 2 หมวดอยู่ห่างจากที่ตั้งอุปกรณ์และที่พักของเจ้าหน้าที่อเมริกันประมาณ 150 เมตร

แต่เนื่องด้วยธรรมชาติของทหารม้งเมื่ออยู่ที่ไหนนานๆ เข้าก็จะละเลยการลาดตระเวณและจะลาพักเพื่อไปเยี่ยมญาติ
ซึ่งจะเห็นได้ว่ารอบๆภูผาทีจะมีชาวม้งทำไร่และอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง เรื่องระเบียบวินัยไม่ต้องพูดถึงเพราะเขาจะอยู่กัน
เหมือนชาวบ้าน

เพียงแต่แต่งชุดทหารและสะพายอาวุธประจำกาย แต่จิตใจก็ยังเป็นชาวบ้านอยู่
จากประสบการณ์ของ เสธ.ดำที่เคยฝึกทหารม้งและเคยอยู่กินกับทหารม้งมาแล้วจึงรู้ทันทีว่า
หน่วยกล้าตายของเวียตนาม (sapper) ไม่ต้องใช้ฝีมือก็สามารถบุกทะลุทะลวงถึงที่พัก
ของเจ้าหน้าที่เทคนิคของอเมริกันได้โดยง่าย


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 12:56:55 PM
ยุทธวิธีการรบของทหารเวียตนาม
--------------------------------------------------------------

จากการที่ผมเคยสอบปากคำเชลยที่จับได้ระหว่างการสู้รบที่ทุ่งไหหิน ทำให้รู้ว่าทหารเวียตนามจะฝึกหน่วยกล้าตายขึ้นมาหน่วยหนึ่ง
ซึ่งเรียกว่า "ดั๊กกง" (duc conc) โดยหน่วยนี้จะใช้กำลังเพียง 5-10 คนต่อชุดปฏิบัติการ มีความสามารถในการกู้กับระเบิด
และบุกจู่โจมต่อที่มั่นข้าศึก

แต่ในความเป็นจริงทหารม้งหรือทหารลาวรวมทั้งทหารอาสาสมัครไทยฯ จะวางกับระเบิดบุคคล
โดยโยงสายสะดุด (trip wire) ไว้ลอยๆ ซึ่งง่ายต่อการเก็บกู้โดยข้าศึก


ดังนั้นหน่วยดั๊กกงจึงสามารถกู้กับระเบิดได้อย่างง่ายดายเพราะดั๊กกงไม่สวมรองเท้า แต่จะนุ่งกางกางขาสั้น
พร้อมอาวุธประจำกาย และที่ดั๊กกงแต่ละคนจะต้องพกติดตัวก็คือดินระเบิดคล้ายๆ TNT คนละ 8-10 ก้อน
ก้อนละประมาณครึ่งปอนด์พร้อมเชื้อปะทุถ่วงเวลาประมาณ 3 วินาทีติดตัวทุกคน


ในคืนที่เกิดเหตุ ทหารเวียตนามได้ระดมยิงปืนใหญ่ขึ้นมาเพื่อกดหัวฝ่ายเราไว้ (pin down) และทำลายขวัญ

ทันทีที่เสียงปืนใหญ่สงบลง ดั๊กกงจำนวน 30-40 คนได้บุกขึ้นหน้าผาด้านทิศใต้ของที่ตั้งอุปก่รณ์นำร่อง
ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.ซัวย่า การเกาะฐานก็คือเฝ้าตรวจ สังเกตุการเคลื่อนไหวของฝ่ายเรา

ดังนั้นเมื่อทหารเวียตนามได้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกำลังพลบนภูผาทีแล้ว จึงได้สั่งการให้ดั๊กกงบุกขึ้นไป

โดยยิงปืนใหญ่นำร่อง และสามารถสังหารอเมริกันได้ถึง 11 นายโดยมีการปะทะกับทหารม้งและทหารไทยเพียงเล็กน้อย
เนื่องจากดั๊กกงได้ใช้ความเร็ว และคล่องตัวกว่าจู่โจมเข้าถึงที่พักและห้องปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เทคนิคอเมริกัน
ได้อย่างรวดเร็ว และได้ใช้ดินระเบิดโยนเข้าใส่ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็รีบถอนตัวภายในคืนนั้นเลย...


จะเห็นได้ว่าเมื่อถึงเวลาเช้าไม่ปรากฎว่ามีทหารเวียตนามหลงเหลือให้เห็นอยู่บนฐานที่ตั้งอุปกรณ์นำร่องแม้แต่คนเดียว



ภูผาทีมองจากเครื่องบินกองทัพอากาศสหรัฐ

(http://61.19.248.235/uploads/c6d8d01173.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=c6d8d01173.jpg)


(http://61.19.248.235/uploads/20b7011867.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=20b7011867.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/bd60e70453.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=bd60e70453.jpg)




หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 01:00:45 PM
สนามบินขึ้นลงระยะสั้นบนภูผาที (STOL = Short Take-off Landing)

(http://61.19.248.235/uploads/9e09239798.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=9e09239798.jpg)



การขนย้ายอุปกรณ์นำร่องจากฐานทัพอากาศสหรัฐนครพนมไปยังภูผาทีเมื่อปลายปี 1967

(http://61.19.248.235/uploads/afbce54f85.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=afbce54f85.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/2acda01e8b.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=2acda01e8b.jpg)



กล่องอุปกรณ์นำล่องชิ้นแรกกำลังถูกย้ายจากเครื่องบิน ซึ่งนำมาลงที่สนามบินซำทอง LS-20 เพื่อนำขึ้นไปติดตั้งบนภูผาที

(http://61.19.248.235/uploads/620b14c435.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=620b14c435.jpg)








หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 01:03:12 PM
การติดตั้งอุปกรณ์นำร่อง

(http://61.19.248.235/uploads/78bbd6a1b8.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=78bbd6a1b8.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/875ec3fc3e.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=875ec3fc3e.jpg)

(http://61.19.248.235/uploads/0bda5bc8dd.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=0bda5bc8dd.jpg)



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 01:07:22 PM
(http://61.19.248.235/uploads/da0ae98fd3.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=da0ae98fd3.jpg)

อีกมุมหนึ่งของภูผาที



(http://61.19.248.235/uploads/148168c1ff.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=148168c1ff.jpg)

ทหารม้งบนผาทีส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยเด็ก



(http://61.19.248.235/uploads/0b9d3e9cc4.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=0b9d3e9cc4.jpg)

เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว


(http://61.19.248.235/uploads/180c9edd56.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=180c9edd56.jpg)

ภาพจากจอเรด้าแสดงถึงจุดที่ตั้งของทหารเวียตนาม ซึ่งกดดันทหารม้งและทหารไทยบนภูผาที
ก่อนหน่วยดั๊กกงจะบุกขึ้นไปสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิคชาวอเมริกัน





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 01:10:45 PM

ตำนานของนักรบปิศาจ.....

-------------------------------------------------------------

มีคำถามมากมาย เกี่ยวกับ " ดั๊ก กง " เข้ามา เช่นการบังคับบัญชา , การสื่อสาร, ความเป็นอยู่,
เสบียงกรัง , ขนาดของหน่วยและจำนวน ที่ดั๊กกงใช้เข้าตีต่อหนึ่งเป้าหมายระดับกองร้อยหรือกองพัน
สภาพเชลย หรือศพของดั๊กกง ที่ฝ่ายเราจับ หรือสังหารได้ ฯลฯ


ขอส่งผ่านคำถามเหล่านี้ มายังท่านเสธ.ดำ เลยนะครับ เพราะท่านได้สัมผัสของจริงมาแล้ว


ตำนานของ " นักรบปิศาจ " เป็นที่กล่าวขานเลื่องลือ ถึงความทรหด กล้าตายแบบลืมชีวิต
ที่เคเซิน เวียดนาม ทหารอเมริกันเล่าว่า ก่อนค่ำพวกเขาได้วางเคลย์โมร์ไว้รอบฐาน หันหน้าออก

พอตกดึก พวกดั๊กกงลอบเข้ามาใกล้ฐานแล้วกลับหน้าเคลย์โมร์หันเข้าในฐาน (กล้าขนาดนั้น)
โดยที่ทหารอเมริกันไม่รู้ พอเริ่มเข้าตี ก็เลยกลายเป็นว่า อเมริกันกดระเบิดใส่ตนเอง แสบจริงๆ


(http://61.19.248.235/uploads/65e3d60c63.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=65e3d60c63.jpg)

ศพของเวียดกง



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 01:15:22 PM
ผู้สัมผัสกับ "ดั๊ก กง"

--------------------------------------------------------------------------------------------


สำหรับผม (เสธ.ดำ) แล้วคุ้นเคยกับเชลยที่จับได้และเมื่อทำการสอบสวนและสร้างบรรยากาศเป็นมิตรกับเขาแล้วไม่น่ากลัวเลยครับ

ส่วนใหญ่ที่จับได้ในลาวจะเป็นทหารเวียตนาม อายุอยู่ระหว่าง 20 - 25 ปี รูปร่างเล็ก ซีดผอม แต่แกร่งน่าดู
พวกนี้จะถูกฝ่ายการเมืองล้างสมองให้เกลียดฝ่ายเราและอเมริกา

โดยทุกคนจะเข้าใจว่าอเมริกาคือลูกพี่ใหญ่ของผู้รุกราน ส่วนทหารลาว ทหารม้งและทหารไทยนั้นเป็นลูกสมุน
(ลูกแหล่ง) ของจักรวรรดินิยมอเมริกา (สำนวนคอมมิวนิสต์)

ดังนั้นพวกเขาจะต้องขับไล่ให้ออกไปจากดินแดนลาวให้ได้ (เวียตนามขอมีเอี่ยวด้วย)


-------------------------------------------------------------------


การฝึกใช้อาวุธไม่มีอะไรพิเศษ ทุกคนมีอาวุธประจำกายคือ AK-47 มีดสั้น และดินระเบิดคล้าย TNT คนละ 8-10 ก้อน
ก้อนละครึ่งปอนด์พร้อมเชื้อปะทุถ่วงเวลา 3-4 วินาที

การติดต่อสื่อสารกับหน่วยเหนือใช้วิทยุสนามคล้าย HT-2 ของฝ่ายเราแต่หนักกว่า การแต่งกายจะนุ่งกางเกงขาสั้น
เสื้อแขนยาว ทั้งชุดใช้สีดำ

การจัดกำลัง ขึ้นอยู้กับขนาดและขีดความสามารถของเป้าหมาย ถ้าเป้าหมายระดับกองพัน จะต้องใช้กำลังดั๊กกงถึง 3 ชุด
ชุดละ 6-8 คน พวกนี้จะมีความอดทนสูงมาก เพราะการเฝ้าเกาะฐานข้าศึกท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ

เขาจะสามารถเฝ้าทนจนกระทั่งภารกิจสำเร็จ ส่วนเสบียงอาหารทุกคนจะได้รับแจกอาหารก้อน
คล้ายข้าวกล้องบดผสมถั่วลิสง มีรสหวานเล็กน้อย ก้อนโตเท่ากำปั้น ผสมน้ำนิดหน่อยก็กินเป็นอาหารได้ 1 มื้อ
คนหนึ่งจะพก 8-10 ก้อนโดยใส่สายสะพายมัดติดตัว

หมอ USAID บอกผมว่ามีสารเสพติดผสมอยู่ด้วยแต่ไม่ทราบว่าจะใช่อัลเฟตตามินที่อยู่ในยาบ้าหรือเปล่า...


-----------------------------------------------------------------





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 01:24:23 PM
ความเห็นของผู้สัมผัสกับ "ดั๊ก กง"

---------------------------------------------------

ความเห็นส่วนตัวของผม (เสธ.ดำ) ดั๊กกงไม่ได้เก่งกล้าหรือมีขีดความสามารถเหนือมนุษย์แต่อย่างใด
ถ้าเจอกับหน่วยรลพิเศษจากลพบุรีของเราผมรับรองได้เลยว่าคงไม่รอดกลับไปแน่นอน...
เพราะตัวก็เล็ก ความสามารถเฉพาะตัว นอกจากความอึดและกล้าตายแล้ว ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว
แต่ที่เราฟังดูแล้วน่ากลัวเพราะ .......................

ข้อที่ 1.

รบกับทหารอเมริกันในเวียตนาม เวียตกงถือว่ารบกับหมู ยกเว้นหน่วยรบพิเศษ (หน่วย Green Beret)

เพราะทหารราบอเมริกันแม้จะอยู่ในสมรภูมิก็จะต้องกินอาหาร C-ration คืออาหารที่แพ็คเป็นกล่อง 4 เหลี่ยม
ประกอบด้วยเนื้อกระป๋อง meat ball คล้ายๆลูกชิ้นเนื้อวัว ขนมปังกรอบ เนยแข็ง เนสกาแฟ คอฟฟี่เมต
และน้ำตาลทราย ตบท้ายด้วยผลไม้กระป๋องหรือ ฟรุ้ทเค้กกระป๋อง

นี่คืออาหารหลักของทหารอเมริกันในสมรภูมิที่เรียกว่า ซี.เรชั่น(C-ration) และหนักไปกว่านั้นอีกก็คือ B-ration
ก็คือปรุงสดๆจาก messhall (ครัวทหาร) แล้วก็ห่อด้วยกระดาษฟอยล์อลูมิเนียมเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงร้อน
หรืออุ่นอยู่เสมอ B-ration จะถูกนำไปส่งถึงแนวรบสัปดาห์ละครั้งพร้อมเบียร์เย็นๆ อีกต่างหาก...

เสธ.ดำอยู่กับหน่วย Green Beret หรือหน่วย Special Force ของสหรัฐเป็นเวลา 3 ปีเต็ม
และได้สัมผัสกับเมนูเหล่านี้จึงรู้รสชาติดี ในขณะที่ดั๊กกงกินข้าวผสมถั่วบด
ซึ่งไม่ต่างกับเพ็ทดีกรีเลย แต่คุณภาพการรบนั้นต่างกันมาก ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจ
ที่ทหารอเมริกันต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในระหว่างสงครามเวียตนาม


----------------------------------------------

ข้อที่ 2

เมื่อดั๊กกงมาเจอทหารลาว ทหารม้ง หรือแม้แต่ทหารไทยอาสาในสมรภูมิลาว จึงเกิดอาการหึกเหิมเพราะรู้ทางกันอยู่
ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผมทำงานอยู่ในสมรภูมิร่วมกับทหารเหล่านี้

ด้านขวัญและกำลังใจของฝ่ายเรานับว่าต่ำมาก การรบก็ไม่รู้รบเพื่อใคร โดยเฉพาะทหารลาว และม้ง
จะรับเงินเดือนและสวัสดิการไม่เต็ม ทหารจะรับครึ่งหนึ่ง พร้อมกับข้าวสารจาก USAID เดือนละ 50 กก.

ส่วนที่เหลือทางกรรมการหรือผู้ไม่ประสงค์จะออกนามจะเป็นผู้รับไป....
ดังนั้นเมื่อมีการเข้าตีโดยฝ่ายข้าศึก เขาก็เตรียมพร้อมที่จะถอนตัวทันทีเพื่อไม่ให้ "เจ็บตัว"

ดังนั้นจะเห็นได้หลายต่อหลายครั้งที่ทหารไทยถูกหลอกและโดดเดี่ยวโดยฝ่ายเรากันเอง
เพราะเข้าใจว่าทหารลาวหรือทหารม้งยังประจำอยู่ใกล้ๆ ก็มีความรู้สึกอุ่นใจ
อย่างน้อยก็มีหน่วยข้างเคียงอยู่ใกล้ๆกัน

แต่พอข้าศึกถล่มปรากฎว่าไม่มีวี่แววของการต่อสู้เพราะเพื่อนเราได้สามัคคีกัน "โตนหนี" ไปตั้งแต่กลางวันเรียบร้อยแล้ว....

-----------------------------------------------------



ส่วนทหารไทยอาสาสมัครนั้น การเข้าสู่สมรภูมิลาวเป็นไปตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลภายใต้การนำของเจ้าสุวรรณภูมา
โดยทาง CIA เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ส่วนการฝึกนั้นใช้ครูฝึกจากหน่วยรบพิเศษกองร้อยที่ 46 ของสหรัฐซึ่งมีกองบัญชาการอยู่ในศูนย์สงครามพิเศษ ลพบุรี
โดย พ.ท. บาร์เทล เป็นผู้บังคับบัญชา ค่ายฝึกตั้งอยู่ที่กาญจนบุรี และที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
โดย ใช้หลักสูตรเดียวกันกับทหาร SGU ลาว (Spcial Guerrilla Unit) ระยะเวลาการฝึก 45 วัน

เมื่อเข้าสู่สมรภูมิส่วนใหญ่จะถูกวางกำลังให้เป็นฝ่ายตั้งรับเสียมากกว่า เช่นเมื่อกองพัน....
ถูกนำไปวางไว้บนยอดเขาสักแห่งหนึ่ง การส่งกำลังบำรุงมีทางเดียวคือทางอากาศ
เช่นโดยเฮลิคอปเตอร์หรือโดยเครื่องบินปีกหมุน ปอร์ตเตอร์หรือทวินอ้อตโต้ชนิดสองใบพัด

ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้าว ส่งน้ำ อาวุธกระสุนก็ต้องใช้เครื่องบินเท่านั้น............

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ข้าศึกรู้ตำแหน่งพิกัดของฝ่ายเรา และเมื่อมีการยิงปืนใหญ่ ค.82 หรือจรวด 122มม.
ฝ่ายข้าศึกจะใช้กระสุนไม่เกิน 3 นัดเพื่อปรับทางปืน

หลังจากนั้นก็จะยิงถล่มฝ่ายเราด้วยความแม่นยำเพราะเราตกเป็นเป้านิ่งตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าฐาน

หวังว่าท่านผู้อ่านจะนึกภาพออกว่าทำไมฝ่ายคอมมิวนิสต์จึงรบชนะ..
ทั้งสมรภูมิลาว เขมรและเวียตนาม เชื่อว่าทุกท่านมีคำตอบอยู่แล้วครับ....



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 03:41:33 PM
ขอบคุณมากครับ คุณ Siri_Pat   + ให้แล้ว ๒ แต้ม ครับ.

อยากไปเที่ยวที่ลาวตอนเหนือจริง ๆ ครับ...

คิดเหมือนกันครับ ผมชอบบรรญากาศ แบบลาวทางเหนือ

เคยขับ 4x4 ผ่านด่านห้วยโก๋น-น้ำเงิน ไปเที่ยว ผ่านเมืองหงสา ไปถึงริมโขง ที่เมืองปากเบง
ท่าเรือที่จะต่อล่องลงหลวงพระบาง อีก ๗ ชม.

ครั้งเมื่อผ่านแดนเข้าไป ได้รับคำเตือน ว่าลาวเหนือยังเป็นเขตที่มีอันตราย จากขบวนการลาวฝ่ายขวา . :D
ผมกำลังหาข้อมูลของแขวงหลวงน้ำทากับแขวงพงสาลี่อยู่ครับพี่โรด ... หากขับ 4x4 ไปได้คงต้องไปทางสบรวก เชียงราย เข้าบ่อแก้ว ติดชายแดนจีน...ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นเพื่อนผมที่ไปทำธุระกิจที่หลวงพระบางบอกว่ายังมีลาวขาวอยู่บ้างแต่ไม่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ เพราะขาดการสนับสนุนครับ.... ;D


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: @_จั๋วน้อย_@ ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 04:19:09 PM
ได้สาระดีมากๆ คับ  +1 แต้มครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: narongt ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 05:03:58 PM
http://www.laoveterans.com/ (http://www.laoveterans.com/)

http://www.laoveterans.com/photo6.html (http://www.laoveterans.com/photo6.html)

(http://www.khunnamob.info/board/photo/mXT0HkNN/Tf3ofieRminus.jpg)

LIMASITE 85



HMONG CIA SPECIAL FORCES-LIMASITE 85-CIA WANTED 100 HMONG
AND 100 CIA COMPUTER TECHS TO STOP 50000 VIETCONG TROOPS-FINALLY
CIA BOMBED OWN BASE TO STONE AGE

http://politics.spiceday.com/viewthread.php?tid=3117&extra=&page=1 (http://politics.spiceday.com/viewthread.php?tid=3117&extra=&page=1)

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=174648 (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=174648)

-NOTE SMALL HMONG BOY IN BACKGROUND-CIA
USED CHILD SOLDIERS TO FIGHT COMMUNISM


(http://www.khunnamob.info/board/photo/mXT0HkNN/9PoV7fBXminus.jpg)
(http://www.khunnamob.info/board/photo/mXT0HkNN/KcTlsQ5Qminus.jpg)
Site 85's location in northern Laos was roughly 120 Miles from Hanoi,
or the distance between San Diego and Los Angeles, CA.
The existence and location of Site 85 was declassified in 1983.
(http://www.khunnamob.info/board/photo/mXT0HkNN/icayEy5cminus.jpg)
It was then shipped to NKP (Nakhon Phanom  RTAFB, Thailand)
and became TSQ-81 code name "BROMO".
(http://www.khunnamob.info/board/photo/mXT0HkNN/icaP9zGhminus.jpg)
Photos Courtesy of
Col. Gerald Clayton


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: ss_aong ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 06:56:06 PM
ขอบคุณครับอ่านกี่รอบก็ยังได้ความรู้สึก  ผมก็ชอบเสธดำ นะ ^_^


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 06:57:14 PM
ภาพประกอบชัด ได้บรรยากาศ
เรื่องเล่าเรียบเรียงได้ดี ชวนติดตาม หาสำนักพิมพ์แล้ว.........รวมเล่มเถอะครับ ::002:: ::014::


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 08:09:21 PM
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ
+๑ ให้เลยครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 12:38:26 AM
บวกให้อีก ๑ แต้ม... สำหรับท่านเจ้าของกระทู้ครับ...


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 08:46:13 AM
บวกให้คุณ narongt  อีกหนึ่งแต้มครับ...


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 08:54:00 AM
สนามบิน ล่องแจ้ง จำติดหูติดตามานานแล้ว เป็นที่หมายปองของเวียตกง โดนลูกยาวบ่อยมาก ;D


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 12:19:18 PM
ติดตามอ่าน ด้วยความพัวพัน


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:02:41 PM
แถม

----------------------------------------------------------------------


วันก่อนได้พูดถึงดั๊กกง (sapper หรือหน่วยกล้าตายของเวียตนาม) ลอบขึ้นฐานที่มั่นของทหารสหรัฐในเวียตนาม
และจัดการหันด้านหน้าระเบิดสังหารบุคคล "เคลย์โมร์" (Claymore Antipersonnel Mine) เข้าหาที่ตั้งของทหารสหรัฐ
และเมื่อกดสวิทช์ (magneto switch) หวังสังหารข้าศึก ปรากฎว่าฝ่ายทหารสหรัฐเองต้องรับกรรมแทนข้าศึก
เพื่อให้ผู้อ่านมองเห็นภาพการทำงานของระเบิดสังหารบุคคล "เคลย์โมร์" จึงมีรูปมาให้ดูประกอบ...


(http://61.19.248.235/uploads/c09795c45a.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=c09795c45a.jpg)

นี่คือโฉมหน้าของระเบิดสังหารบุคคล "เคลย์โมร์"(Claymore Antipersonnel Mine รุ่น M18A1)


ในสงครามเวียตนามทหารอเมริกันใช้มากโดยเฉพาะใช้วางไว้รอบฐานที่มั่น
เพราะถือได้ว่าเป็นกับระเบิดสังหารบุคคลที่มีประสิทธิภาพสูง มีขนาด 6" x 10" x 2"
รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าโค้ง ทำด้วยไฟเบอร์ ด้านหน้าประกอบด้วยลูกปืน (เหมือนลูกปืนจักรยาน) ขนาดเท่าเม็ดลูกเดือย
จำนวน 600 ลูกอัดด้วยเรซิ่น มีช่องว่างสำหรับบรรจุดินระเบิด C-4 หนึ่งปอนด์พอดี

ด้านหน้าตรงส่วนโค้งมีตัวหนังสือภาษาอังกฤษเขียนไว้ว่า " FRONT " บรรทัดล่างเขียนว่า "TOWARD ENEMY"
ซึ่งบอกไว้อย่างชัดเจนว่าให้หันด้านหน้าไปยังข้าศึก ส่วนด้านบนมีช่องเสียบเชื้อปะทุไฟฟ้า 2 ช่อง (กันเหนียว)
ซ้ายและขวา มีสายไฟยาว 30 เมตรมาให้ด้วยพร้อมกับ magneto สำหรับจุดระเบิด


(http://61.19.248.235/uploads/3d8d630169.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=3d8d630169.jpg)

เมื่อกดสวิทช์ magneto ระเบิดจะทำงานโดยมีระยะหวังผล 50 เมตรเป็นมุมกว้าง 60 องศา
ระยะอันตราย 100 เมตร มุมกว้าง 180 องศา







หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:07:15 PM
ยุทธการตีชิงศาลาภูคูณ

-----------------------------------------------------------------------

กกล.วีพี เปิดยุทธการตีชิงศาลาภูคูน เพื่อเอาคืนจากฝ่ายลาวซ้าย หลังจากขับไล่ลาวซ้ายไปแล้ว
ในบันทึกบอกว่า ทาง กกล.วีพี ได้ส่ง กรม ร.๒๐๓ ( BC 617,618 ) เข้ายึดที่มั่นบริเวณตอนใต้ของศาลาภูคูน(LS-206)
ห่างจากทางแยกประมาณ ๑ กม.


จุดที่น่าจะเคยเป็นที่ตั้งของ BC 617,618 สงสัยว่าจะเป็นเนินหลังบ้านสีขาวตามภาพ

(http://61.19.248.235/uploads/37afd79140.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=37afd79140.jpg)



--------------------------------------------------------------------------


สามแยกศาลาภูคูนแห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายเราและฝ่ายเวียตนามต้องการควบคุมไว้ให้ได้
เพราะเป็นจุดที่เวียตนามสามารถนำกำลังทหารราบบุกถึงเวียงจันทร์ได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ดังนั้นจึงผลัดกันรุกผลัดกันรับระหว่างกองกำลังฝ่ายเรากับฝ่ายคอมมิวนิสต์ในระหว่างการสู้รบ
สุดท้ายก่อนที่ฝ่ายเวียตนามจะทุ่มกำลังเข้ายึดสามแยกศาลาภูคูนไว้ได้โดยสิ้นเชิง
ได้มีกำลังทหารไทยอาสาตั้งรับอยู่จำนวนหนึ่งกรม

ซึ่งหัวหน้า FAG หรือผู้นำอากาศยานหน้าของกรมทหารไทยอาสาที่มีนามเรียกขานว่า "Spotlight"
จะมาเล่าสู่ผู้อ่านฟังถึงการสู้รบกับทหารเวียตนามเหนือ ....


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:15:37 PM
ขอนำเรื่องของท่าน FAG :  Spotlight มาลง
เรื่องราววีรกรรมของทหารเสือพราน ในสงครามลาว โดยท่านสปอตไลท์

การถ่ายทอดประวัติศาสตร์ สู่เยาวชนคนรุ่นหลัง เพียงเพื่อให้ได้มีการเปิดเผยวีรกรรม
ของนักรบนิรนาม ให้คนรุ่นหลังได้ทราบ ได้ตระหนักถึงชาติ ถึงการต่อสู้กับภัยของชาติที่ผ่านมา


------------------------------------------------------------------------------------------

การรบที่เมืองกาสี-ศาลาภูคูน ซึ่งเป็นบันทึกของท่าน Spotlight

ยุทธการเมืองกาสี-ภูคูน เป็นการรบในช่วงเกือบท้ายสงคราม ก่อนการหยุดยิงในอีก ๑ ปีถัดมา
ซึ่งเป็นช่วงที่มีการรบรุนแรง เพราะต่างฝ่ายต่างก็จะชิงพื้นที่ครอบครองให้ได้มากที่สุด

-------------------------------------------------------------------------------------------------







หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:18:41 PM
ยุทธการเมืองกาสี-ศาลาภูคูณ
(ลิม่าไซด์ 153 LS-153 - ลิม่าไซด์ 260 LS-260)  

โดย สปอตไลท์

-----------------------------------------------------------------

ในช่วงระยะเดือนธันวาคม 2515 ข่าวการหยุดยิงทั้งในเวียดนาม และในลาวมีออกมาเป็นระยะๆ
ฝ่ายเราก็โหมโจมตีเพื่อจะยึดพื้นที่คืนได้มากที่สุด

โดยส่งกำลังพลโจมตีเพื่อยึด ทุ่งไหหิน ซึ่งก็ได้รับการต่อต้าน อย่างเหนียวแน่นจากข้าศึก
กำลังส่วนหนึ่งเข้าทั้งกำลังภาคพื้นดินและทางอากาศ ข้าศึกก็ขยายแนวการสู้รบ โดยเข้าไปโจมตีศาลาภูคูณ
อันเป็นทางสามแยกถนนสาย 13-4/7 ยุทธศาสตร์สำคัญ ที่จะเข้าสู่เมืองหลวงพระบาง ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
และถ้าหากลงทางด้านใต้ศาลาภูคูณ ก็จะเป็นเมืองกาสี ที่จะเข้าสู่เมืองวังเวียง และเวียงจันทน์


เพราะฉะนั้นแยกศาลาภูคูณ ถนนสาย 13 เชื่อมกับถนนสาย 4/7 ที่มาจากเมืองสุย และเชื่อมต่อไปทุ่งไหหินได้
ทางกองกำลังพิเศษ วีพี (กกล.พิเศษ วีพี) ที่ล่องแจ้ง จึงจัดกำลังใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 3 กรม ทหารราบ คือ

- กรม.ร.201 เข้าตีเมืองสุย
- กรม.ร.202 เข้ายึดบ้านหินตั้ง ภูผาไซ และภูล่องมาศ
- กรม.ร.203 เข้าตีเมืองกาสี ศาลาภูคูณ


ปลายเดือนธันวาคม 2515 กองกำลังประเทศลาว ผสมกับกองกำลังเวียดนามเหนือ โจมตีกองกำลังทหารชาติลาว
ที่รักษาทางแยกศาลาภูคูณแตกและรุกไล่ลงทางใต้สู่เมืองกาสี ทางกองกำลังพิเศษ วีพี. จึงมีคำสั่งให้ กรม.ร.203
อันประกอบไปด้วย บีซี.617 และ บีซี.618 เคลื่อนกำลังไปเมืองกาสีในวันที่ 9 – 10 ม.ค.2516
โดยใช้เฮลิปคอปเตอร์ ซีนุก (CH-47) ขนกำลังทั้ง 2 กองพันไปลงเหนือเมืองกาสีไป 5 กิโลเมตร


โดย ทก.กรม.ร.203 ตั้งอยู่ที่เมืองกาสี เพื่อร่วมประสานกับกองกำลังทหารชาติลาวในเบื้องต้น นายพล.อ.กุประสิทธิ์ อภัย
ซึ่งเป็นเสนาธิการทหารของลาว และนายพล.จ.อาด สะพังทอง แม่ทัพภาค 5 เป็นผู้มาประสานการวางแผนที่จะตั้งรับ
และเข้าตีโต้ข้าศึกต่อไป ทางฝ่ายไทยนอกจากฝ่ายอำนวยการ กรม.ร.203 แล้ว ทางฝ่ายเสนาธิการจาก บก.ล่องแจ้ง
และหัวหน้าเพชร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (คือ จอมพลถนอม กิติขจร) ในขณะนั้นได้มาร่วมประชุมด้วย





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:23:26 PM

----------------------------------------------

ในวันที่ 12 มกราคม 2516 ในขณะที่ทั้ง กองพัน บีซี.617, 618 กำลังจัดกำลัง ปรับภูมิประเทศ
เพื่อทำบังเกอร์ หลุมบุคคลอยู่นั้น รถถังของข้าศึก 3 คัน วิ่งฝ่าหมอกที่ลงจัดในตอนเช้า ไล่ยิงทหารชาติลาว
ถอนมาจากศาลาภูคูณ

โดยไม่รู้ว่า ทหารเสือพราน 2 กองพัน ตั้งอยู่ ณ ที่นั้นด้วย ฝ่ายทหารชาติลาวก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิง
ในขณะที่ข้าศึกไล่ยิงด้วยความย่ามใจ เพราะกำลังทหารราบ ย่อมสู้รถถังไม่ได้อยู่แล้ว.........


ทั้ง บีซี.617,618 เพิ่งจะปรับกำลังจากค่ายน้ำพอง ขอนแก่น และมีหน่วยล่ารถถังประจำอยู่ในกองพัน
มีอาวุธต่อสู้รถถัง คือจรวดเอ็ม 72 สำหรับทำลายรถถังโดยตรง จึงช่วยกันระดมยิง
พร้อมอาวุธประจำการ เอ็ม.16 เอ็ม.79 ปืน ค. ไปยังจุดหมายก็คือรถถังทั้ง 3 คันนั้น

ปรากฏว่า รถถัง 2 คัน ถูกทำลายจนเสียหาย ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ และอีกคันหนึ่ง
ยิงโดนถังน้ำมันระเบิด จับข้าศึกเป็นเชลยได้ 1 คน เสียชีวิตอยู่คารถถังอีก 3 คน
ทั้งหมดเป็นเวียดนามเหนือ ส่วนรถถังอีกหนึ่งคันหลบหนีไปได้
ทำให้ขวัญและกำลังใจของทหารดีขึ้นมาก เพราะทั้ง 2 กองพัน โดนศึกหนักมาตลอด

ตั้งแต่การรบที่แนวสกายลายน์ และได้สูญเสียผู้บังคับกองพัน บีซี.617 หัวหน้าภูวงค์ ที่เนินชาลีวิสกี้ โดยถูกซุ่มโจมตี
ขณะไปช่วยผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกล้อม หัวหน้าสุมน ผบ.พัน.บีซี.618 ที่เนินชาลีอัลฟ่า โดยถูกลูกยาว ค.82 ของข้าศึก
พร้อมทหารอีกหลายคน

จากนั้นก็กรำศึกเข้าโจมตียึด ทุ่งไหหิน คืนที่สนามบินลาดเสน คังโค้ ไม่สำเร็จจนต้องถอยกลับ ป่าดง
และมาปรับกำลังใหม่ที่ ชำทอง ภูผาไซ แล้วจึงถูกส่งมาที่เมืองกาสี

------------------------------------------------------------------------------------


การถล่มรถถังได้ และขับไล่ข้าศึก 1 กองพัน ที่เป็นกำลังหนุนเข้าโจมตี ถอยกลับไปสร้างขวัญ
และกำลังใจให้กับเหล่าทหารเสือพราน ทั้ง 2 กองพัน เป็นอย่างมาก ทาง บก.กกล.พิเศษ วีพี.
มอบรางวับให้ กองพันละ 20,000.- บาท พร้อมคำชมเชยมาที่ทาง กรม.ร.203

ทางสกาย-มอบเบียร์มา 20 ลัง เป็นของขวัญที่สามารถทำลายรถถังได้ ทางข้าศึกยังคงยิงรบกวนมาเป็นครั้งคราว
ซึ่งโดนฝ่ายเราตอบโต้ จนต้องถอนตัวกลับไปทุกครั้งที่เข้าโจมตีโฉบฉวย (RAIDS) จึงมีแต่การยิงรบกวน
ด้วยอาวุธหนัก โดย ค.82 จรวด 122 มม. แต่ก็ไม่สามารถทำลายขวัญฝ่ายเราได้

--------------------------------------------------------------------------------------------------


กำลังทหารชาติลาวได้ปรับกำลังใหม่ และตกลงกับฝ่ายไทยว่าจะเป็นผู้เข้าตีนำหน้าตามเส้นทางสาย 13
โดยทหารชาติลาว กรมที่ 31 จากเมืองกาสี สู่ศาลาภูคูณ และ กรมที่ 11 จะตีจากทางด้านเมืองหลวงพระบาง
มุ่งสู่ศาลาภูคูณ กองกำลังฝ่ายไทย กรม.ร.201 เข้ายึดเมืองสุย จะเป็นการคุมเส้นทาง 4/7 จากเมืองสุย และทุ่งไหหิน
ป้องกันการส่งกำลังทหารและอาวุธ เสบียงให้กับข้าศึก ที่ยึดศาลาภูคูณอีกทางหนึ่ง
พร้อมกำลังทางอากาศจะช่วยสนับสนุนการโจมตีทิ้งระเบิด แหล่งรวมพล และการส่งกำลังบำรุง

เมื่อข้าศึกโดนกดดันทั้ง 3 ทาง จึงต้องถอนตัวออกไปทางตะวันออก จึ.เอ็ม. (กรม).31 จึงรุกไล่ออกไปถึงนาน่าน
9 กิโลเมตร ห่างจากแยกศาลาภูคูณไปทางตะวันออก โดยยึดภูสูงอันเป็นพื้นที่สูง จุดยุทธศาสตร์สำคัญไว้ได้
โดยมีการต้านทานจากข้าศึกเบาบางมาก






หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:28:46 PM
ไม่ต้องรีบลงนะครับ....แบบว่ากำลังรออยู่.... ;D


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:31:59 PM
---------------------------------------------------------

ในราวกลางเดือน มกราคม 2516 มีคำสั่งจาก กกล.พิเศษ ให้ กรม.ร.203 เคลื่อนย้ายกำลังพลไปทดแทน
เพื่อรักษาพื้นที่ จี.เอ็ม (กรม.31) ตามที่ได้ตกลงไว้กับ นายพล กุประสิทธิ์ อภัย

บี.ซี.618 เป็นกองพันแรกที่เคลื่อนที่จากที่ตั้ง บริเวณเมืองกาสี ไปศาลาภูคูณ พร้อม ทก.กรม.ร.203
โดยใช้ ฮ.ชีนุก (CH-47) มาทำการขนทหารพร้อมยุทธโธปกรณ์ไปลงที่สนามบิน ลิม่าไซด์ 260 (LS-260)
ซึ่งอยู่ทางใต้ของ แยกศาลาภูคูณ ประมาณ 1 กิโลเมตร ติดถนนสาย 13


----------------------------------------------------------------

เสียขวัญ

ในขณะที่จะทำการเคลื่อนย้าย บี.ซี.617 ตาม บี.ซี.618 อาสาสมัครทหารเสือพราน บี.ซี.617 ซึ่งมีส่วนหนึ่ง
เป็นทหารเก่า ที่ยังไม่จบภารกิจ และกร่ำศึกมาตั้งแต่สกายลายน์ ต่อเนื่องการเข้าตี ทุ่งไหหิน
และประสบความสูญเสียมาตลอด...............

 
กับการพบประสบการณ์รถถังไล่เหยียบที่ทุ่งไหหิน มาพบรถถังที่เมืองกาสีอีก แม้จะยึดได้ แต่ความฝังใจก็ยังมีอยู่
ประกอบกับกำลังใหม่ที่เข้ามาทดแทนซึ่งฝึกจากน้ำพอง เพียง 3 เดือน ได้ยินทหารเสือพรานเก่าเล่าให้ฟัง
ก็จินตนาการตามความกลัวก็เกิดขึ้น อีกทั้งเจ้าหน้าที่โครงซึ่งเป็นประจำการส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ใหม่
การปกครองจึงทำได้ไม่ดีพอ ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้


เมื่อรู้ว่าจะต้องเคลื่อนย้ายเข้าไปยึดศาลาภูคูณ จึงไม่ยอมไป กำลังบางส่วนลงจากฐานมุ่งหน้าไปเมืองกาสี
เพื่อจะเข้าสู่วังเวียง ซึ่งเป็นที่ส่งกำลังบำรุงในขณะนั้น เมื่อทหารไม่มีวินัย และมีอาวุธครบมือ ก็เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง
ทั้งผู้บังคับกองพัน ผบ.ร้อย และระดับผู้นำทั้งหมดพยายามเหนี่ยวรั้งก็ไม่เป็นผล

ทางฝ่ายอำนวยการกรม หัวหน้าพันสี ฝอ.3 กรม หัวหน้าเขียม ฝอ.2 และรอง ผบ.กรม รองธงทอง ต้องนั่ง ฮ.ไปสกัด
เพื่อไม่ให้เดินทางต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลานานในการพูดให้เข้าใจและเชื่อฟังคำสั่ง


แต่ทั้งหมดยืนยันจะไม่ไป ศาลาภูคูณเด็ดขาด ในขณะเดียวกันทาง บก.กกล พิเศษ วี.พี. ได้รับรายงาน
รอง ผบ.พัวหน้าเต็ม และ สธ.3 จึงเดินทางมาสมทบในการเจรจา ในที่สุดก็ตกลงจะให้เคลื่อนกำลังกลับล่องแจ้ง
โดยสับเปลี่ยนกับ บี.ซี.619 (นาวิกโยธิน) ที่ ชำทอง ให้ บี.ซี.619 ไปศาลาภูคูณแทน


แต่กรรมวิธีที่จะส่งทหาร บี.ซี.617 กลังไปชำทอง เป็นไปด้วยความยากลำบาก
กว่าจะปลดกระสุนออกจากปืน เอ็ม.16 เก็บลูกระเบิดมือ และอาวุธอื่นๆ ได้ ก็กินเวลานาน
เพราะทุกคนจะไม่ยินยอม ส่วนทาง ฮ.ชีนุก ที่มาขนย้าย ก็ให้ถอดแมคกาซีน พร้อมเคลียร์กระสุน
ออกจากลำกล้องก่อนขึ้นเครื่อง ระเบิดมือก็ให้เก็บใส่กล่อง พร้อมสวมลวดนิรภัย
หรือเอาเทปรัดก่อน

ที่ต้องทำเช่นนี้ก็ทราบกันในระดับอำนวยการว่า จำเป็น เพื่อป้องกันการจี้เครื่องบินกลับประเทศไทย
เพราะกำลังส่วนใหญ่อยู่ในความเครียด ความกลัว จึงอาจจะทำอะไรที่ไม่อาจคาดคิดได้ จึงต้องป้องกันไว้ก่อน
กว่าจะเรียบร้อย เป็นงานเหนื่อยหนัก ไม่เฉพาะผู้เขียน แต่รวมถึงฝ่ายอำนวยการทุกท่าน เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา
ข้าศึกก็เกาะติดอยู่ไม่ห่าง โชคดีที่ไม่มีการโจมตีด้วยอาวุธหนักแต่อย่างใด


----------------------------------------------------------------------








หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:37:41 PM
เปิดศึก
-----------------------------------------------------------------


เพราะถ้ามีการควบคุมกำลังพล ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะอ่อนวินัยอยู่แล้ว
ประสบการณ์ของผู้เขียน เมื่อตอนแตก ชำทอง จาก บี.ซี.606 และ 608 เวลาที่ทหารเกิดเสียชีวิต – เครียด – กลัว
และอยู่ในสถานการณ์คับขัน ข้าศึกรุกใส่ตามติด ปะทะกันตลอดเวลา


ไม่ว่าฝ่ายอำนวยการ ผบ.พัน รอง หรือ ผบ.ร้อย ผบ.หมวด จะออกคำสั่งให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าตามยุทธวิธี
ก็ไม่มีใครยอมปฏิบัติ แต่เมื่อลูก ค.82 อาร์.พี.จี.ของข้าศึกตกมากลางกลุ่ม ทุกคนก็จะแตกฮือ วิ่งออกไปทุกทาง
อย่างไร้ทิศทางด้วยความตื่นกลัว “ตื่นวัว ตื่นความยังยอหยุด” ตื่นคนไม่มีอะไรหยุดได้
ตัวใครตัวมัน โชคดีที่ไม่เกิดขึ้นเพราะถ้าเพียงกระสุน ค.82 หรือ อาร์.พี.จี. ตกมาสักนัดเดียวก็คงจะโกลาหลกันไม่น่าดูแน่นอน


ในที่สุดการสับเปลี่ยนก็จบลงไปได้ด้วยดี บี.ซี.619 ขึ้นไปรักษาศาลาภูคูณ โดยอยู่รอบสนามบิน และคุ้มครอง
ฐานปืนใหญ่ 155 มม." โกลด์ฟิงเกอร์ "

บี.ซี.626 ถูกส่งมาเพิ่มเติมอีก 1 กองพัน เคลื่อนย้ายจากภูผาไซไปยึดภูสูง อยู่ทางตะวันออกของศาลาภูคูณไป 9 กิโลเมตร
ติดกับนาน่าน ที่ข้าศึกยึดครองไว้อย่างเหนียวแน่น ในขณะที่กำลังทั้งหมดมาถึง และดัดแปลงภูมิประเทศ
ทำหลุมบุคคล-บุคคลต่อเนื่อง บังเกอร์อยู่นั้น ข้าศึกก็เริ่มต้อนรับเรา ...............................


โดย...จุดหมายที่ ทก.กรม. และ บี.ซี.619 ที่รายล้อมรอบสนามบิน ด้วยปืนใหญ่ขนาด 122 มม. และจรวด 122 มม.เป็นร้อยนัด
แต่ไม่ได้ทำอันตรายฝ่ายเราแต่อย่างใด เป็นการยิงทำลายขวัญฝ่ายเรามากกว่า ฐานปืนใหญ่ โกลด์ฟิงเกอร์
ตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ 155 มม. ตามคำสั่งของฝ่ายอำนวยการกรม ข้าศึกก็เงียบสงบเมื่อ “นกกระเต็น” แอล-19 เครื่องบินตรวจการณ์
และชี้เป้า ซึ่งนักบินชาติลาวเป็นนักบินได้เข้ามาตรวจการณ์ พร้อมสั่งเครื่องบิน ที-28 มาถล่มแถวนาน่าน ที่ตั้งของข้าศึก


ทำให้ทางข้าศึกต้องหยุดยิงไปแต่ในตอนกลางคืน ยังมองเห็นแสงไฟจากรถ พุ่งตรงมาทางที่ตั้งของข้าศึกทางตะวันออก
ซึ่งทำความกังวลให้กับ ผู้การกรม และเสนาธิการกรม เพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่ามีการส่งกำลังบำรุง อาวุธ กระสุน
และกำลังพลเข้ามาเพิ่มเติม จะทำให้ขวัญของทหารที่อยู่แนวหน้าประจัญกับข้าศึกจะเสียขวัญ จึงสั่งให้ออกลาดตระเวนรอบที่ตั้ง
และสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของข้าศึก พร้อมรายงานมายังกรมเพื่อเตรียมการตอบโต้


นกกระเต็น ซึ่งมาทำหน้าที่แทน ราเว่น ก็จะบินมาตรวจการณ์ให้ทุกวันตามคำขอ เมื่อพบข้าศึก
ก็จะเริ่มโจมตีทางอากาศด้วยเครื่องบิน ที-28่ เจ้าผาขาว เป็นชื่อโค๊ตของเครื่องบิน มีการประทะกันประปราย
เมื่อลาดตระเวนรอบฐาน หรือจุดที่เห็นการเคลื่อนไหวของข้าศึก






หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 01:41:04 PM

-----------------------------------------------------------------------

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2516 ข้าศึกประมาณ 1 กองพัน เข้าตี บี.ซี.626 ที่ภูสูง โดยการกระหน่ำยิงด้วยปืนใหญ่ 122 มม.
จรวด 122 มม. ปืน ค.120 ค.82 และกำลังพลบุกยิงกระหน่ำด้วยปืนเล็ก ตามยุทธวิธีของฝ่ายเวียดนามเหนือ
และขบวนการประเทศลาว...............


ทหารเสือพราน บีซี.626 ซึ่งปรับกำลังมาใหม่จากน้ำพอง ประกอบกับเห็นแสงไฟของรถข้าศึกก็กลัวว่าจะเป็นรถถัง
จึงถอนตัวในตอนกลางคืน ไปรวมกับ บีซี.616 ที่ศาลาภสูคูณ เครื่องบินสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ “สปุกกี้”
เข้ามาในพื่นที่ภูสูง และกราดปืนกลอากาศเข้าใส่ข้าศึก ทำให้ข้าศึกหยุดการติดตามโจมตี บีซี.626 ในขณะถอนตัว
การสูญเสียจึงน้อยมาก................



วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2516 กรม.ร.203 ได้สั่งให้ บีซี.618 ที่ศาลาภูคูณเคลื่อนกำลังเข้าตีเพื่อยึดที่มั่นในบริเวณภูสูงคืน
โดยมีปืนใหญ่ 155 มม. จากฐานยิง “โกลด์ฟิงเกอร์” ยิงสนับสนุนการโจมตี มีเครื่องบินตรวจการณ์ “นกกระเต็น” เฝ้าบินสังเกตการณ์
การเคลื่อนไหวของข้าศึกและใช้กำลังทางอากาศฝูงบิน ที-28 “เจ้าผาขาว” ทิ้งระเบิดใส่ที่มั่นของข้าศึก

พร้อมกำลังของ บีซี.618 รุกเข้ายึดที่มั่นที่ภูสูงคืนจากข้าศึก ซึ่งต้องถอนกำลังกลับไป...........


ฝ่ายเรายึดพื้นที่คืนได้ทั้งหมดในวันที่ 9 ก.พ.16 มีกำลังพลบาดเจ็บบ้างไม่มากนัก
ก็ส่งกลับไปรักษาที่ล่องแจ้งและอุดรฯ ตามอาการหนักเบาของบาดแผลในการสู้รบ


ภาพของ FAG Spotlight ขณะทำหน้าที่ในสมรภูมิ ที่ศาลาภูคูน

(http://61.19.248.235/uploads/0f3836e248.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=0f3836e248.jpg)







หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 09:56:11 PM
สุดยอดครับ :VOV:...


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: kai850 ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 10:46:30 PM
ได้ความรู้ มองเห็นภาพชัดเจนครับ :VOV: :VOV:


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 10:57:47 AM

-----------------------------------------------------------------------

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2516 ข้าศึกประมาณ 1 กองพัน เข้าตี บี.ซี.626 ที่ภูสูง โดยการกระหน่ำยิงด้วยปืนใหญ่ 122 มม.
จรวด 122 มม. ปืน ค.120 ค.82 และกำลังพลบุกยิงกระหน่ำด้วยปืนเล็ก ตามยุทธวิธีของฝ่ายเวียดนามเหนือ
และขบวนการประเทศลาว...............


ทหารเสือพราน บีซี.626 ซึ่งปรับกำลังมาใหม่จากน้ำพอง ประกอบกับเห็นแสงไฟของรถข้าศึกก็กลัวว่าจะเป็นรถถัง
จึงถอนตัวในตอนกลางคืน ไปรวมกับ บีซี.616 ที่ศาลาภสูคูณ เครื่องบินสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ “สปุกกี้”
เข้ามาในพื่นที่ภูสูง และกราดปืนกลอากาศเข้าใส่ข้าศึก ทำให้ข้าศึกหยุดการติดตามโจมตี บีซี.626 ในขณะถอนตัว
การสูญเสียจึงน้อยมาก................



วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2516 กรม.ร.203 ได้สั่งให้ บีซี.618 ที่ศาลาภูคูณเคลื่อนกำลังเข้าตีเพื่อยึดที่มั่นในบริเวณภูสูงคืน
โดยมีปืนใหญ่ 155 มม. จากฐานยิง “โกลด์ฟิงเกอร์” ยิงสนับสนุนการโจมตี มีเครื่องบินตรวจการณ์ “นกกระเต็น” เฝ้าบินสังเกตการณ์
การเคลื่อนไหวของข้าศึกและใช้กำลังทางอากาศฝูงบิน ที-28 “เจ้าผาขาว” ทิ้งระเบิดใส่ที่มั่นของข้าศึก

พร้อมกำลังของ บีซี.618 รุกเข้ายึดที่มั่นที่ภูสูงคืนจากข้าศึก ซึ่งต้องถอนกำลังกลับไป...........


ฝ่ายเรายึดพื้นที่คืนได้ทั้งหมดในวันที่ 9 ก.พ.16 มีกำลังพลบาดเจ็บบ้างไม่มากนัก
ก็ส่งกลับไปรักษาที่ล่องแจ้งและอุดรฯ ตามอาการหนักเบาของบาดแผลในการสู้รบ


ภาพของ FAG Spotlight ขณะทำหน้าที่ในสมรภูมิ ที่ศาลาภูคูน

(http://61.19.248.235/uploads/0f3836e248.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=0f3836e248.jpg)







 ::002::ท่านนี้แหละครับที่ผมเคยอ่านเจอ  ;D

จะตามอ่านต่อไปครับ ::014::



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 12:48:03 PM
ยุทธการตีชิงศาลาภูคูณ ภาคสุดท้าย  

--------------------------------------------------------------------------------------------

มาต่อกันนะครับ....

บีซี.618 พยายามที่จะรุกคืบหน้า แต่ก็ได้รับการต้านทานอย่างเหนียวแน่น ในเวลากลางคืนยังมีแสงไฟหน้ารถ
วิ่งมาจากทางด้านตะวันออก (เมืองสุย) เป็นขบวน

ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าต้องเป็นการส่งเสบียง อาวุธ กระสุน และกำลังพล เพิ่มเข้ามาอย่างแน่นอน
เพราะช่วงการหยุดยิงเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น ข้าศึกจึงพยายามเปิดศึกที่จะยึดพื้นที่ให้มากที่สุด
เพื่อความได้เปรียบก่อนมีการหยุดยิง ...........


ทาง กรม.ร.203 ได้ขอให้ทางกำลังทางอากาศช่วยทิ้งระเบิดถล่มเส้นทางเพื่อสกัดไม่ให้ข้าศึกเพิ่มเติมกำลังพล
อาวุธ กระสุนเข้ามาในพื้นที่ และสิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุด คือ "รถถัง" .......

ซึ่งถ้าหากรถถังปรากฏขึ้น ขวัญของทหารเสือพรานเราจะเสียขวัญ และจะคุมกันไม่อยู่อีก
ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วทั้งในทุ่งไหหินและในศึกชำทอง ที่ผู้เขียนก็อยู่ในเหตุการณ์


ทางสกาย-เคสออฟฟิชเซอร์ มร.จั้งยาร์ด (Junkyard) ได้นำเสนอหน่วยเหนือตามคำขอ
เอฟ 111 จึงได้มาถล่มเส้นทาง หลังจากที่เจ้าหน้าที่สกาย (ซี.ไอ.เอ.) ได้นำภาพถ่ายทางอากาศ
มาให้ดูประกอบแผนที่ว่า เราจะให้ทิ้งระเบิดเส้นทางในจุดไหนบ้าง กำหนดเสร็จโดยเห็นชอยทั้งสองฝ่าย



----------------------------------------------------------



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 12:52:35 PM


----------------------------------------------------

ในเวลากลางคืน เอฟ.111 จำนวน 3 ลำ ก็ทิ้งระเบิดได้ในเส้นทางที่เลาะริมเขา ในขณะที่ข้าศึกกำลังลำเลียงเสบียงอาหาร
อาวุธ กระสุน และกำลังพล ข้าศึกเสียหายมากพอสมควร ถนนถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่สกาย นำภาพถ่ายทางอากาศมาให้ดู
หลังจากเครื่องบินทิ้งระเบิดถล่มไปแล้ว เป็นระยะทางยาวและยากที่จะซ่อมแซมคืนจากความเสียหายของถนนที่ปรากฏในภาพ

 
ซึ่งก็เรียกขวัญและกำลังใจของทหารเสือพรานทุกกองพันให้กลับคืนมา และมีความมั่นใจมากขึ้น
บีซี.618 ส่งหน่วยลาดตระเวน ออกไปรอบฐานและมีการจัดหน่วยซุ่มโจมตี (Ambush) หน่วยระวังภัย (Outpost)
ในเวลากลางคืนช่วยสกัดข้าศึก ไม่ให้สามารถเข้ามาเกาะติดฐานได้...............
 

ข่าวเรื่องสัญญาหยุดยิง สงบศึกก็มีมาตลอดเวลา ผู้เขียนได้รับการถ่ายทอดจากหัวหน้า ซี.ไอ.เอ. (เคสออฟฟิสเซอร์)
ว่า เฮนรี่คิสซิงเจอร์ กำลังเจรจาอยู่ที่ฝรั่งเศสกับฝ่ายเวียดนามเหนือ และน่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแน่นอน...........


เพราะฉะนั้น ในช่วงนี้ต้องชิงความได้เปรียบในการยึดพื้นที่เพิ่มเติม และรักษาที่ยึดได้ไว้แล้วให้ได้
เพื่อความได้เปรียบเพราะเมื่อมีสัญญาหยุดยิงแล้ว จะทำได้ลำบากเพราะกำลังสนับสนุนทางอากาศจะน้อยลง
มีได้เท่าที่จำเป็น............

และให้สำรวจเรื่องอาวุธ กระสุนของทุกหน่วย ให้สั่งเพิ่มให้มีปริมาณมากพอที่จะได้ป้องกันตัวเอง
ให้ดำเนินการจัดเก็บกระสุนให้เป็นระเบียบ และปลอดภัยโดยเฉพาะกระสุนปืนใหญ่ 155 และ 105 มม.
ซึ่งมีอย่างละ 2 กระบอกที่ฐานปืน โกลด์ฟิงเกอร์ เพื่อไว้ยิงสนับสนุนในช่วงเวลาที่กำลังทางอากาศยังมาไม่ถึง
หรืออากาศปิด ......


ซึ่งทางฐานปืนใหญ่โกลด์ฟิงเกอร์ ก็ตอบสนองเป็นอย่างดี โดยการจัดเก็บไว้เป็นระเบียบ และปลอดภัย
จึงให้หน่วยทำการยิงทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อทำยอดการเบิกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ................


---------------------------------------------------------------------------------

ในบางระยะการรับฟังข่าว ทางวิทยุเสียงจากปักกิ่ง ซึ่ง “ขบวนการประเทศลาว” ดำเนินการร่วมกับทางจีนและเวียดนามเหนือ
มีการพูดถึงสหาย ภูมี (ภูมี วงศ์วิจิตร) สหายหนูปั๊ก (บ้างหนูฮัก) สหายไกรสอน (ไกรสอน พรมวิหาร) บ่อยครั้งมาก
ในช่วงก่อนจะมีเจ้าสุภานุวงศ์และพันเอกเดือน ที่เป็นฝ่าย “ขบวนการประเทศลาว” และเป็นหัวหน้าเท่านั้น
นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงการนำในขบวนการประเทศลาวอย่างเงียบๆ ..........................

ซึ่งทั้งหมดเกิดจากอิทธิพลของทางเวียดนามเหนือ ซึ่งสนับสนุนบุคคลที่มีเชื้อสายเวียดนาม หรือเอนเอียงในทางเวียดนามเหนือ








หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 12:58:14 PM


ขวัญและกำลังใจของฝ่ายข้าศึก


------------------------------------------------------------------------


ในพื้นที่ศาลาภูคูณ กำลังฝ่ายข้าศึก ประมาณ 21 กองพันราบ และปืนใหญ่ 1 กองพัน ที่ประจันหน้ากับฝ่ายเรา 1 กรม
(3 กองพันทหารราบ 1 กองร้อยปืนใหญ่)

กำลังส่วนใหญ่ของข้าศึกเป็น ขบวนการประเทศลาว แต่ผู้บังคับกองพัน และรองผู้บังคับกองพัน (ฝ่ายการเมือง)
จะเป็นเวียดนามเหนือ บางกองพันรวมไปถึงผู้บังคับกองร้อย (จากปากคำของเชลยศึก).............


และการบังคับบัญชา ระเบียบวินัยจะเข้มข้นมาก ถ้าหากทหารคนใดผิดคำสั่ง หรือมีท่าทีที่จะหลบหนีจะถูกสอบ
หากว่าหนีจะถูกยิงทิ้งทันที มีการอบรมทุกเช้าให้เกลียดชัง จักรวรรดินิยม อเมริกา และผู้รับใช้ (หมายถึงทหารไทย)
และทหารลาว ฝ่ายนิยมกษัตริย์ เป็นการล้างสมองอยู่ทุกวัน.........
 

ที่จำเป็นต้องทำเพราะทหารของขบวนการประเทศลาว ตรากตรำกับการรบมาเป็นเวลาหลายปี สุญเสีย บาดเจ็บไปก็มาก
เกิดความเบื่อหน่าย และไม่มีโอกาสไปเยี่ยมครอบครัว หรือรู้ข่าวของครอบครัวเลย ดังนั้นเมื่อมีโอกาส
จะเข้ามอบตัวหรือหนีทัพทันที


ประกอบกับในบางครั้งก็ประสบความอดอยาก เพราะการส่งกำลังบำรุงทำไม่ได้ ทางขบวนการประเทศลาว
ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของฝ่ายเวียดนามเหนือ จึงต้องมีการปลุกขวัญให้เกิดความเกลียดชังศัตรู
และรักชาติ เสียสละเพื่อมวลชน ตามความเชื่อของลัทธิคอมมิวนิสต์


ซึ่งก็ได้ผลส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งซึ่งเบื่อหน่ายสงครามเพราะถูกหลอกก็หาโอกาสที่จะเข้าหาฝ่ายกษัตริย์ โดยเข้าสวามิภักดิ์
มอบตัวกับฝ่ายเราพร้อมอาวุธ หรือปะทะแล้วยอมแพ้ง่ายๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยิงทิ้ง จากพวกเวียดนามเหนือ


----------------------------------------------------------------------------------------


ตรึงกำลัง


ทาง กรม.ร.203 ได้ออกคำสั่งให้ทั้ง 3 กองพัน สั่งหน่วยลาดตระเวนออกรอบฐานในเวลากลางวัน และให้ตั้งจุดซุ่มโจมตี
พร้อมเป็นหน่วยระวังป้องกันไปในตัว เพื่อกันไม่ให้ข้าศึกเข้ามาเกาะอยู่ใกล้ฐานได้

ซึ่งก็ได้ผลดีเพราะมีการปะทะกัน โดยเฉพาะเมื่อยิ่งใกล้วันทำสัญญาหยุดยิง การปะทะในระหว่างลาดตระเวน
ก็เพิ่มมากขึ้น ต่างฝ่ายต่างพยายามที่จะรุกคืบหน้า เพื่อยึดพื้นที่ให้มากที่สุดที่จะทำได้ ฝ่ายรักษาที่มั่นก็พยายาม
ผลักดันให้ออกไปนอกพื้นที่ จึงเป็นช่วยเวลาที่ตรึงเครียดทั้งฝ่ายเราและข้าศึก...........
 

ในที่สุด การลงนามในสัญญาหยุดยิง ระหว่างฝ่ายขบวนการประเทศลาว (คอมมิวเนิสต์) และฝ่ายรัฐบาลก็กระทำขึ้น
ที่เมืองเวียงจันทร์ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.16 โดยไม่มีฝ่ายเวียดนามเหนือ และเอมริกันลงนามด้วย เพราะต่างฝ่ายต่าง
ปฏิเสธว่า ไม่เคยมีทหารฝ่ายตนอยู่ในลาว

 
รวมทั้งไทยก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเป็นสาเหตุที่สงครามครั้งนี้ที่จริงแล้ว คือ ทหารไทย (อาสาสมัครทหารเสือพราน)
รบกับทางเวียดนามเหนือโดยตรง ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย และจีน ทั้งอาวุธ กระสุน เสบียงรบ พร้อมที่ปรึกษา

ฝ่ายเรา ก็มีทางอเมริกันเป็นผู้สนับสนุนทั้งเครื่องบินรบ การโจมตีทิ้งระเบิดทางอากาศ ซึ่งมากกว่าในเวียดนามถึง 2 เท่า
(ทิ้งระเบิดในลาวมากกว่า 2 ล้านตัน – ในเวียดนามประมาณ 1 ล้านต้น) ในข้อตกลงเซ็นสัญญานั้นมีบางข้อสำคัญ คือ

1. ให้หยุดยิง หรือหยุดรบทันที และประจำอยู่ ณ ที่ตั้งในปัจจุบัน
2. ให้หยุดการทิ้งระเบิดทางอากาศทันที
3. ให้เตรียมตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่

ในทางการเมืองก็เจรจากัน ในสนามรบก็รบกันไป ต่างฝ่ายต่างละเมิดข้อสัญญาหยุดยิง
ประกาศหยุดยิงวันที่ 22 ก.พ.16 วันรุ่งขึ้นข้าศึกก็ปรากฏตัวประกาศการยึดพื้นที่ โดยการชักธงขึ้น
ในจุดตรงกันข้ามกับที่ตั้งฝ่ายเรา ปรากฏตัวให้เห็นเป็นบางส่วน เพราะยังกลัวว่า ฝ่ายเราจะโจมตี









หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 01:05:47 PM

เปิดศึกครั้งสุดท้าย

........................................................... ....................................


ในตอนเย็น วันที่ 23 ก.พ.16 เวลาประมาณ 18.30 น. ข้าศึกระดมยิง บีซี.618 ร้อย 1 ฐาน บี.เจ ด้วยปืนใหญ่ 122 มม.
นับได้ 333 นัด ฝ่ายเราเสียชีวิต 1 นาย นอกนั้นปลอดภัย


เราโต้ตอบด้วยปืนใหญ่ 155 มม. แต่ฐานปืนข้าศึกอยู่เกินระยะยิง ฝ่ายเราจึงขอเครื่องบิน “สปุกกี้” ซี-47
ติดปืนกลอากาศออกมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเวลา 20.30 น. ข้าศึกจึงยุติการยิงในเวลา 03.30 น.

วันที่ 24 ก.ย.16 หลังจากเครื่องบินกลับแล้ว ข้าศึกระดมยิง บีซี.626 ที่ฐาน บราโว ปาป้า ปราโววิสกี้
และบราโวอัลฟ่า ด้วย อาร์.พี.จี.50 ลูก พร้อมปืนเล็กแมค-47 (อาริก้า) และปืนกลหนัก

ฝ่ายเราขอปืนใหญ่ 105, 155 มม. จากฐานปืนโกลด์ฟิงเกอร์ ยิงตอบโต้พร้อม ค.42 จนข้าศึกต้องถอนตัวกลับไป
ไม่ทราบความเสียหายของข้าศึก


-----------------------------------------------------------------------------------


ในเวลา 05.00 น. มีข้าศึกประมาณ 1 กองพัน เข้าโจมตี บีซี.618 ฐานบราโว-จูเลียต ภูธาตุ และฐานบราโววิคเตอร์ ภูสูง
ด้วยอาวุธนาๆ ชนิดพร้อมปืนใหญ่ ฝ่ายเราตอบโต้ด้วย ค.42 ปืนใหญ่ 105, 155 มม. อยู่ประมาณ 4-5 นาที ข้าศึกจึงถอนตัว
เข้าไปในหุบเขา ฝ่ายเราปลอดภัย

ในตอนเช้าขอกำลังทางอากาศเข้าสนับสนุนโดยเครื่องบินตรวจการณ์ แอล-19 "นกกระเต็น" เข้ามาในพื้นที่บริเวณ ภูธาตุ
ภูสูง และให้ ที-28 เข้าโจมตีข้าศึกที่เคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณนั้น พร้อมส่งกำลังภาคพื้นดินจาก บีซี.618 ออกลาดตระเวน
กวาดล้างข้าศึก


ได้พบคลังอาวุธของข้าศึก รถถังใหญ่ และคลังย่อย อีกหลายแห่งในบริเวณนั้นพบกระสุนปืนใหญ่ 122 มม.
ประมาณ 7 ตัน กระสุนปืน ปตอ.12.7-6 ตัน กระสุนเอเค-47 2 ตัน เคโม 50 ลูก ทีเอ็นที 200 กรัม 20 ลัง
น้ำมันเบ็นซิน 4 ถัง (200 ลิตร) ข้าวสาร 4 กระสอบ รถยนต์บรรทุก 1/2 ตัน 1 คัน และที่พิเศษสุดๆ คือ
จรวด 122 มม. 50 ลูก ซึ่งไม่เคยยึดได้จากที่ใดเลยในสภาพสมบูรณ์ รวมน้ำหนักกระสุนที่ยึดได้กว่า 40 ตัน
ทางหน่วยเหนือสั่งให้ทำลายทิ้ง เพราะจำนวนมากเกินกว่าที่จะนำมาเก็บรักษาไว้ ขนมาแต่ จรวด 122 มม.
ส่งให้ บก.ฉก.วีพี.ที่ล่องแจ้ง เพื่อส่งกลับกองทัพ เพื่อการศึกษาบางส่วน ทางหน่วยเหนือได้มอบรางวัลให้ 10,000.- บาท


---------------------------------------------------------------------------


ในตอนเย็นเวลา 16.00 น. ชุดลาดตระเวนของ บีซี.618 ได้ปะทะกับข้าศึกที่มาดักซุ่มโจมตี ฝ่ายเราขอปืนใหญ่ยิงสนับสนุน
และต่อสู้ด้วยอาวุธประจำกาย คาดว่าข้าศึกก็ได้รับความเสียหายจึงถอนตัวไป เราปลอดภัย ในวันต่อๆ มา
ก็มีการปะทะและยึดอาวุธกระสุน ได้มากเพิ่มขึ้น กรม.ร.203 ให้ทุกกองทัพออกลาดตระเวนกวาดล้างในพื้นที่รับผิดชอบ
เพื่อกดดันข้าศึกไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ มีทหารขบวนการประเทศลาว เข้ามาสวามิภักดิ์รวม 8 นาย
ส่งตัวให้ทาง ทชล.ภาค 5 และนำส่งที่ ผาขาว 2 คน เพื่อทำการสอบสวนหาข่าว

บีซี.619 นำทีมโดย ฝอ.3 กองพัน นำทหาร 1 หมวด พร้อมเจ้าหน้าที่แฟ็ก ซู๊ ไม่สามารถติดต่อ
ทางวิทยุได้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ จึงได้กลับมาที่ฐาน ท่ามกลางความเป็นห่วงของทางกองพันและกรม
ทุกคนปลอดภัยดี และไม่พบการเคลื่อนไหวของข้าศึกในหุบเขาก็วางใจไปได้ด้านหนึ่ง แต่ไปพบถ้ำซึ่งมี
ความยาวประมาณ 800 เมตร สามารถบรรจุทหารได้ 1 กองพัน เป็นที่ซ่อนอย่างดี พบกระสุนอาร์ก้า
และอาร์พีจีจำนวนหนึ่ง และแคร่นอนไม้ 2 แคร่ มีสายโทรศัพท์วางอยู่หน้าถ้ำ

ข้าศึกปรากฏตัว 2 คน ในขณะนั้นและยิงปืนเล็ก และอาร์พีจีใส่ชุดลาดตระเวน และวิ่งหนีไปหลังจากทาง
ฐานปืนโกลด์ฟิงเกอร์ ยิงปืนใหญ่ 105 และ 155 มม. สนับสนุนตามคำร้องขอจากหน่วยลาดตระเวน
ทาง SKY (ซี.ไอ.เอ.) มีคำสั่งห้าม อเมริกัน เคสออฟฟิชเซอร์ ขึ้นแนวตั้งแต่วันหยุดยิง


และผู้เขียนได้รับเลื่อนขึ้นเป็น ฟิลด์เลียองออฟฟิชเซอร์ ทำหน้าที่แทน รับผิดชอบ กรม.ร.203
ในทุกๆ ด้าน ทั้งการส่งกำลังบำรุง อาวุธ กระสุน การรายงานตรงสู่ บก.ที่ล่องแจ้ง ประสานทาง
กรม ทาง กองทัพ ดูแลทีมแฟ็กทั้ง 6 คน โดยเลื่อนให้ฟลายรอด ขึ้นเป็นผู้ช่วยฝ่ายยุทธการแทนผู้เขียน


---------------------------------------------------------------------





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 01:10:32 PM



-------------------------------------------------------------------------

ทางสกาย (SKY) ก็มีนโยบายลดจำนวน ซี.ไอ.เอ. ลง พร้อมทั้งจำนวนแฟ็ก (FAG ผู้นำการโจมตีทางอากาศ)
ทั้งๆ ที่มนความเป็นจริงการสู้รบก็ยังคงดำเนินเป็นปกติ บางครั้งจะรุนแรงกว่าก่อนมีสัญญาหยุดยิง
กำลังพลของทหารเสือพราน ก็อยู่ในแนวโน้มของการลดลงเช่นกัน ทางด้านภาคใต้ที่ ปากเซ ฝ่ายเวียดนามเหนือ
ก็ยกกำลังพล 1 กองพล พร้อมรถถัง และปืนใหญ่เข้าโจมตีที่ราบสูง โบโลเวนส์ เมืองปากซอง (ปากข่อง)
ในวันที่ 22 ก.พ.16

บีซี.601 และ บีซี.627 ทนการกดดันของข้าศึกไม่ได้ ต้องถอนตัวไปอยู่บ้าริก แสดงให้เห็นเจตนาของข้าศึก
ที่วางแผนการในการยึดพื้นที่ไว้เป็นอย่างดี และทุ่มเทกำลังพลเข้าดำเนินการ และทำสำเร็จตามความมุ่งหมาย
กับเป้าหมายที่วางเอาไว้.....

ในระหว่างการรบที่ยังดำเนินไปที่เหมือนหรือหนักกว่าปกติ ทางศาลาภูคูณก็มีหัวหน้า เพชร (พล.ท.ไพฑูรย์ อังคตนุวัฒน์)
ที่ปรึกษาทางทหาของรัฐมนตรีกลาโหม  (จอมพล ถนอม กิติขจร) ได้ขึ้นมาที่ศาลาภูคูณ และประจำอยู่ 3 เดือน
ท่านเป็นนายทหารที่เป็นนักรบเต็มตัว แม้ในขณะนั้นมียศเป็น พลตรี และเป็นที่ปรึกษาของ นายกรัฐมนตรีและ
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ซึ่งความเป็นจริงท่านอยู่ที่ เวียงจันทน์ หรือหลวงพระบาง ได้อย่างสบายๆ แต่ด้วยความเป็นนักรบ
ท่านก็มาอยู่ในแนวหน้า และออกตรวจเยี่ยมทหารในแนวหน้าเป็นประจำ แม้ในขณะที่มีการปะทะหรือข้าศึกยิงปืนใหญ่ถล่มฐานพวกเราอยู่


-----------------------------------------------------------------------


ในบางครั้งท่านจะเป็นคนสั่งปืนใหญ่ให้ยิงโต้ตอบด้วยตนเอง หัวหน้าเพชร ขึ้นไปตรวจแนวหน้า
เห็นเสื้อผ้า รองเท้าทหาร ไม่อยู่ในสภาพที่ดีก็สั่งให้ขอขึ้นไปทางหน่วยเหนือ ตัวท่างเองก็พูดกับ มิสเตอร์แพทเลนดีร์
หัวหน้าสกาย (ซี.ไอ.เอ.) ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ของทุกอย่างส่งมาตามคำขอ เร็วกว่าปกติตามจำนวนที่ขอไป
ทั้งกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. 105 มม. และปืน ค. กระสุนเอ็ม.16 และทุกชนิดที่ขอก็จะได้รับอนุมัติตามคำขอ
สร้างขวัญและกำลังใจให้กับทาง กรม.ร.203 และทหารเสือพรานทั้ง 3 กองพันเป็นอย่างมาก ผู้การ กรม.ร.203 หัวหน้าจวน
 (พ.อ.ยง ศรีนพคุณ) ย้ายกลับล่องแจ้ง และให้หัวหน้าพันยง (พ.อ.ยุทธนา รูปขจร) ขึ้นมาทำหน้าที่แทน


ในการปฏิบัติการในลาวซึ่งเป็นโครงการปิดลับ จึงไม่มีการเรียกยศ และชื่อจริงในระดับผู้บัญชาการ ก็จะเรียกว่า "นาย"
ตามด้วยชื่อโค๊ต และ "หัวหน้า" ในระดับเสนาธิการ และผู้บังคับบัญชา ตามด้วยชื่อโค๊ต ฉะนั้นผู้เขียนจึงขอเรียก
(หัวหน้าเพชร) ว่า นายเพชร เพื่อเป็นการให้เกียรติท่าน และตามความเป็นจริงในสนามรบ


----------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 01:17:22 PM

ยุติศึกศาลาภูคูณ

--------------------------------------------------------------------------------------

นายเพชร สั่งให้ทาง ฝอ.3 กรม หัวหน้าพันสี เรียนผู้บังคับกองพันเข้ามาประชุมร่วมเพื่อชี้แจง วางแผน ทั้งการรุก และการถอย
ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รับทราบ และเห็นการเตรียมการถอนตัว เมื่อสถานการณ์ถูกกดดัน และเห็นว่าไม่สามารถจะรักษาฐานไว้ได้
 
ตลอดมามีแต่การสั่งให้สู้ตาย ห้ามถอน และก็เป็นดังนั้นคือ ตาย และบาดเจ็บ เสียหายยับเยิน นับแต่ทุ่งไหหิน
จนมาถึงยุทธการซำทอง


ในการรุกก็วางแผนให้ทุกกองพันเข้าตีเป้าหมายตามที่กำหนด โดยมีอาวุธหนักประจำกองพันและปืนใหญ่ 155 มม. 2 กระบอก
105 มม.2 กระบอก จากฐานยิงโกลด์ฟิงเกอร์ ยิงสนับสนุนเบิกทาง และให้ทหารราบบุกเข้าตีตามจุดกำหนด
 
คือใช้อำนาจการยิงข่มข้าศึกในขณะที่ภาคพื้นดินรุกเข้าสู่เป้าหมาย ในกรณีนี้ที่ข้าศึกเข้าตีฝ่ายเราด้วยกำลังพลจำนวนมาก
สนับสนุนด้วยอาวุธหนัก จนไม่สามารถต้านรับได้ ให้ถอนตัวไปยังจุดนัดพบที่ 1 รวบรวมปรับกำลังเพื่อกลับเข้าตีโต้
หากข้าศึกรุกไล่ตามตีด้วยกำลังอาวุธที่เหนือกว่า ก็ให้ถอนตัวไปยังจุดนัดพบที่ 2 ที่กำหนดไว้ และรวบรวมปรับกำลังเพื่อตีโต้อีกครั้ง
เพื่อรักษาชีวิตกำลังพลให้มากที่สุด

จึงเป็นนิมิตรที่ดี ผู้บังคับกองพันทุกคนต่างดีใจ เพราะทุกคนต่างรับทราบและมีประสบการณ์ที่ให้สู้ตาย
ถ้าถอนตัวออกมาอาจโดยขึ้นศาลทหารว่า หนีทัพต่อหน้าอริราชศัตรู ซึ่งโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต เพราะเป็นยามศึกสงคราม
ขวัญและกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชาจึงดีมาก พร้อมทั้งยุทธปัจจัยต่างๆ ก็ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยเหนืออย่างดี
ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า อาหาร และการรักษาพยาบาล
 

ทั้ง 3 กองพัน ส่งหน่วยลาดตระเวนในเวลากลางวัน ก็ปฏิบัติงานได้ผลมาก ยึดอาวุธ กระสุนของข้าศึกเป็นจำนวนมาก
เท่ากับเป็นการตัดกำลังข้าศึก ในอันที่จะเข้าโจมตีฝ่ายเรา ตามที่ทางข่าวกรองแจ้งมาให้เตรียมพร้อม ข้าศึกมีเป้าหมายที
จะยึดศาลาภูคูณ ยุทธศาสตร์สำคัญของทางแยกที่จะไปสู่หลวงพระบางและเวียงจันทน์


ในตอนกลางคืนก็ส่งหน่วยระวังป้องกัน (Outpost) เป็นหน่วยซุ่มโจมตีในตัวออกปฏิบัติการทำให้การเคลื่อนไหวของข้าศึก
ที่จะมาเกาะติดฐาน หรือสอดแนมความเคลื่อนไหวฝ่ายเราทำได้ยากลำบาก และในตอนกลางคืนยังมีปฏิบัติการทางอากาศ
เข้าโจมตีตามการร้องขอเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของข้าศึกเป็นครั้งคราว ส่วนถนนที่ให้ F-111 โจมตีทำลายเส้นทางนั้น
ข้าศึกซ่อมเสร็จภายใน 2 อาทิตย์เพราะในตอนกลางคืนเห็นแสงไฟรถวิ่งเป็นขบวนในการส่งกำลังบำรุง ความสามารถของ
เวียดนามเหนือ ในการสร้างทางมีขีดความสามารถสูงมาก ผู้เขียนมีประสบการณ์เมื่อตอนอยู่ชำทอง ที่ข้าศึกตัดถนนขึ้นเขา
ให้รถถังมาจ่อยิง บีซี.606 จนเราแตกกระเจิง และรถถังเหล่านั้นก็วิ่งเข้าเหยียบ บีซี.610 จนต้องถอนตัว รถถังข้าศึกลุยต่อถึง
สกายลายน์ ก่อนที่จะโดนทำลาย


เครื่องบินตรวจการณ์ฝ่ายเราพยายามบินเข้าไปตรวจดูตามที่เราแจ้ง แต่ก็ประสบกับการป้องกันอย่างเหนียวแน่น
โดย ปตอ.ขนาด 12.7 กระหน่ำยิงหลายกระบอก ต้องบินในระดังสูง ซึ่งก็ยากที่จะตรวจการณ์ได้ ครั้งหนึ่ง นายเพชร
จะกลับล่องแจ้งเพื่อไปอุดรฯ ผู้เขียนจึงขอเครื่องบินปอร์ตเตอร์มารับ หลังจากบินขึ้น นายเพชรให้นักบิน บินไปทางตะวันออก
ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังข้าศึก ที่บริเวณ นาน่าน ทางนักบินเรียนท่านว่ามี ปตอ.12.7 ของข้าศึกตามที่ได้รับแจ้งก่อนขึ้นบิน


แต่นายเพชรก็ยืนยันให้บินไป จะรับผิดชอบเองและจะพูดกับแพทแลนดีร์ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น ปรากฏว่าเมื่อเข้าเขตของข้าศึก
ปตอ.12.7 มม. ก็ระดมยิง โดนปีกเครื่องบินนัดหนึ่งทะลุ ทางใต้ท้องเฉี่ยวอเมริกันเคสออฟฟิชเซอร์ ที่ดูแลพวกม้ง ที่ปีกโดนยิงทะลุ
น้ำมันไหลออก นักเบินจึงบินกลับทันที หลังจากที่แจ้งให้ผู้เขียนทราบว่าโดนยิง แต่ก็กลับถึงล่องแจ้งโดยปลอดภัย เป็นเรื่องเล่าขานกัน
ในหมู่นักบินถึงนายพล สวมหมวกหางกระรอกเหมือนเสือพราน (เดวี คลอกเกร็ต) ในหนังเรื่องความกล้าหาญ ที่เสี่ยงบินเข้าไปในเขตยึดครองของข้าศึก

ผู้เขียนต้องติดตามนายเพชร ขึ้นแนวเพื่อตรวจเยี่ยมทหารในแนวหน้าตลอดเวลาที่อยู่ด้วย ในบางครั้งก็ต้องจัดเครื่องบิน
หรือเฮลิปคอปเตอร์ ติดตามไปหลวงพระบาง เพื่อประสานกับทาง ทชล.ภาค 5 และฝ่ายการข่าวของเราที่หลวงพระบาง
ทุกครั้งที่ไปจะซื้อข้าวหมูแดงและกับข้าวใาฝากฝ่ายอำนวยการที่ กรม.ร.203 ทุกครั้ง และนายเพชรจะเป็นคนทำอาหารเอง
และนายจะนั่งร่วมวงอาหารด้วยทุกครั้ง พร้อมเล่าเรื่องต่างๆ ให้พวกเราฟังในเรื่องการรบที่ นาคัง ที่อยู่กับนายพลกองแล
การเข้าตีภูกูดตอนที่อยู่เมืองสุยและเกร็ดสงครามอื่นๆ เพราะนายเพชร เดินทางไปทุกภาคของลาว จึงทราบเรื่องต่างๆ
ด้วยตนเอง เป็นความรู้ทั่วไปให้กับพวกเราที่ได้รับฟังในระหว่างทานอาหาร และหลังอาหาร


กรม.ร.203 ยึดพื้นที่ ศาลาภูคูณ จนถึงเดือน ธันวาคม 2516 จึงได้รับคำสั่งให้มอบพื้นที่ให้กองกำลัง ทชล. และม้ง
ของนายวังเปาดูแลรับผิดชอบรักษรพื้นที่ต่อไป

ในบางระยะเวลาที่ยึดครองพื้นที่ศาลาภูคูณ ได้ทำหน้าที่และมีผลงาน
ในการกวาดล้าง ยึดอาวุธ ยุทธโธปกรณ์ ทำลายข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก มีทหารฝ่ายขบวนการประเทศลาวเข้าสวามิภักดิ์จำนวน 8 คน

ซึ่งทาง กรม.ร.203 ส่งมอบให้ทาง ทชล.ภาค 5 เพื่อกรรมวิธีในการไต่สวนหาข้อมูลจากเฉลยศึก นับได้ว่า กรม.ร.203
ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จสมบูรณ์ ได้รับคำชมเชยจากทุกฝ่าย อันประกอบด้วย ซี.ไอ.เอ. ทาง ทชล.ภาค 5 และนายพลวังเปา
ผู้เขียนเองขอเทิดเกียรติของท่านนายทหารทั้งฝ่ายอำนวยการกรม และทางกองพันเท่าที่มีอยู่ในบันทึกไว้ ณ ที่นี้

หน.พันยง ผบ.กรม.ร.203 (พล.ต.ยุทธนา รูปขจร)
หน.ธงทอง รอง ผบ.กรม.ร.203 (พ.อ.สนั่น เทียนทอง)
หน.พันสี ฝอ.3 กรอม.ร.203 (พล.อ.ประเสริฐ พรรคเจริญ)
หน.เขียม ฝอ.2 กรม.ร.203 (พล.ท.พิทยา ศิลากร)

และ ผบ.พัน บีซี.618, บีซี.619, บีซี.626
บีซี.618 ผบ.พัน หน.ฉัตรไชย (ร.อ.ทรัพย์ ศรีจันทร์)
บีซี.618 เอ ผบ.พัน หน.ชินวุธ (พ.ต.มงคล วงศ์เกรียงไกร)
ฝอ. หน.ชัยพร (พล.ต.ทศพร นิยมค้า)
บีซี.619 ผบ.พัน หน.ธนะเดช (พล.ร.อ.สุพันธ์ ศุภสมุทร)
รอง ผบ.พัน ฉัตรแก้ว (ร.อ.บรรจง สุวรรณกาสี)
ฝอ.3 (น.ต.ศิรินาก จันทร์เรืองฤทธิ์)
บีซี.626 ผบ.พัน หน.มรรค (พ.ต.ประสิทธิ์ เขมะรุจิ)
รอง ผบ.พัน. หน.มณพก (ร.อ.หาญ ติยะโคตร)
ปืนใหญ่ ฐานโกลด์ฟิงเกอร์ (Gold Finger) BA.636

FAG ประจำ กรม ร.203 ประกอบด้วย
Spotlight ประจำ ทก.กรม (Field Liaison Officer)
Flyrod ประจำ ทก.กรม (Operation Assistant)
Popcorn ประจำ บก.พัน
Applepie ประจำ บก.พัน
Supperstud ประจำ บก.พัน
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทั้ง 3 กองพัน
Sunburn ประจำ บก.พัน
Subway ประจำ บก.พัน


------------------------------------------------------------------------------




หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 01:20:46 PM
เอาไว้มาต่อเรื่อง

ปฏิบัติการนักรบนิรนาม 333 (2504-2517)
เขียนโดย สปอทไล้ท์  

---------------------------------------------


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: krajong ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 02:00:51 PM
พี่ครับ FAG มันย่อมาจากอะไรครับ เห็นมาตั่งแต่ยุค สยุมภู ทศพล แล้วครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 03:18:29 PM
 
เอาไว้มาต่อเรื่อง

ปฏิบัติการนักรบนิรนาม 333 (2504-2517)
เขียนโดย สปอทไล้ท์  

แหมพี่ก็มี กั๊ก ด้วย 
ขอเป็น กลม ไม่ได้เหรอครับ
---------------------------------------------



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 03:44:00 PM
+1 ครับ  ;D


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 03:51:57 PM
อ่านจบแล้วครับ +ให้อีก ๑ เลยครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 03:57:50 PM
 คนกลางในภาพคือท่าน FAG Spotlight  สมัยปัจจุบัน.......
 
  เครดิต ตาทุ้ย แห่งเวบ ตี๋น้อย........   ::014::

   
            (http://www.pixnice.com/upload/files/dm1zjn2dzkjmjnozu4nm.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/)
 


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 11:01:33 PM
คนกลางในภาพคือท่าน FAG Spotlight  สมัยปัจจุบัน.......
 
  เครดิต ตาทุ้ย แห่งเวบ ตี๋น้อย........   ::014::

  
            (http://www.pixnice.com/upload/files/dm1zjn2dzkjmjnozu4nm.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/)
 

โคตรเท่เลยครับ ด้วยความเคารพ....

อยากให้ท่านมานั่งเล่าด้วยตัวท่านเองเลย และถ้ายิ่งมีโอกาสได้ซักถามด้วยตัวเอง คงต้องใช้เวลาซักวันนึงมั้งครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: at75 ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 02:12:53 AM
คำว่า FAG  ที่ถูกต้อง น่าจะเรียก ว่า FAC ที่มาจากชื่อเต็มว่า forward air control  นะครับ แปลเป็นภาษาไทยว่า ผู้นำอากาศยานหน้า

 ฐานบินที่นครพนม

http://www.nkpcommandos.com/Laos.html

http://www.nkpcommandos.com/NKPRTAFB.html

http://video.aol.com/video-detail/general-vang-pao-and-the-hmong-army/555881446

http://www.talkingproud.us/HistoryBirddog.html

http://www.talkingproud.us/HistoryBirddog13.html


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 10:33:33 AM
คำว่า FAG  ที่ถูกต้อง น่าจะเรียก ว่า FAC ที่มาจากชื่อเต็มว่า forward air control  นะครับ แปลเป็นภาษาไทยว่า ผู้นำอากาศยานหน้า

http://www.talkingproud.us/HistoryBirddog13.html

:D
(http://img10.imageshack.us/img10/3669/23rdtasspatch.jpg) (http://img10.imageshack.us/my.php?image=23rdtasspatch.jpg)

==> http://www.angelfire.com/in/Laos/


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: krajong ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 11:03:33 AM
ข้อมูลชัดเจนอย่างยิ่งครับ ขอบพระคุณครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: นิ น น า ท ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 11:46:03 AM

    ผมขออนุญาตลงลิ้งค์จากต้นฉบับจริงให้อ่านได้ต่อเนื่องในคราวเดียวน่าจะเข้าท่ากว่านะครับ..

http://teenoi.freeforums.org/topic-t444.html  เชิญผู้สนใจได้เลยครับ

ไม่ต้องรอ แล้วยังไม่ต้องลำบากคุณ Siri_Pat ไป copy มาให้อ่านอีกด้วย..เพราะคุณตาทุ้ย จขกท.

แจ้งให้ทำลิ้งค์ได้เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันเพื่อนสมาชิก อวป.จะได้อ่านคำถามหรือแง่มุมอื่นๆ อย่างครบถ้วนจาก

ในกระทู้อันนี้ของเว็บตี๋น้อย หรือหลากหลายจากกระทู้อื่นๆได้อีกด้วยนะครับ เพราะมีเรื่องราวที่น่าสนใจ

พร้อมทั้งลิ้งค์อื่นๆอีก นอกเหนือจากนี้มากมาย.. ฮาร์ดคอร์ ไม่ควรพลาดครับ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์และไม่ผิดกติกาของเว็บ อวป. นะครับ

ด้วยความชัดเจนและจริงใจเสมอมา




หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 11:47:08 AM
ข้อมูลชัดเจนอย่างยิ่งครับ ขอบพระคุณครับ

หวัดดีครับคุณ krajong เราเคยเจอกันที่สนามนวมินทร ไงครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 02:10:26 PM

    ผมขออนุญาตลงลิ้งค์จากต้นฉบับจริงให้อ่านได้ต่อเนื่องในคราวเดียวน่าจะเข้าท่ากว่านะครับ..

http://teenoi.freeforums.org/topic-t444.html  เชิญผู้สนใจได้เลยครับ

ไม่ต้องรอ แล้วยังไม่ต้องลำบากคุณ Siri_Pat ไป copy มาให้อ่านอีกด้วย..เพราะคุณตาทุ้ย จขกท.

แจ้งให้ทำลิ้งค์ได้เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันเพื่อนสมาชิก อวป.จะได้อ่านคำถามหรือแง่มุมอื่นๆ อย่างครบถ้วนจาก

ในกระทู้อันนี้ของเว็บตี๋น้อย หรือหลากหลายจากกระทู้อื่นๆได้อีกด้วยนะครับ เพราะมีเรื่องราวที่น่าสนใจ

พร้อมทั้งลิ้งค์อื่นๆอีก นอกเหนือจากนี้มากมาย.. ฮาร์ดคอร์ ไม่ควรพลาดครับ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์และไม่ผิดกติกาของเว็บ อวป. นะครับ

ด้วยความชัดเจนและจริงใจเสมอมา





ขอบคุณที่ช่วยทำ Link ไปให้นะครับ เพราะเครื่องคอมพ์ผม พอใส่ Link ในเวปนี้แล้ว เครื่องจะ แฮงค์ จน Post ต่อไม่ได้ครับ และไม่รู้เป็นอะไรสมัครเวป ตี๋น้อย ไม่ได้ เลยไม่สามารถเขาไปขอคุณตาทุ้ย นำข้อความมานำเสนอในนี้..

แต่ผมให้เครดิต คุณตาทุ้ย และ เวป ตี๋น้อย เอาไว้ตั้งแต่ต้นกระทู้แล้วนะครับ ตามธรรมเนียม  


และผมพอจะมีภาพสงครามในลาวอยู่บ้างจากญาติผู้ใหญ่ (เดี๋ยวเอาไว้มาลง รอ Scan Film ก่อน) ถ้าผมสมัครเวป ตี๋น้อย ได้แล้ว
ขอทุกท่านตามไปดูได้เลยนะครับ






หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: นิ น น า ท ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 10:10:39 PM

   ..ผมขอแนะนำอย่างยิ่งให้อ่านกระทู้ "ภูผาที ใครหนีทัพ?? โดยตาทุ้ย"

ในเว็บตี๋น้อย เดียวกันนี้ด้วยครับจะได้ครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ และครบรสชาติ..

สำหรับทุกท่านที่ชื่นชอบ "สงครามลับในลาว" ต้องห้ามพลาด.. เด็ดขาด

http://teenoi.freeforums.org/topic-t70.html?highlight=%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5

เครดิตเว็บตี๋น้อย และคุณตาทุ้ย จขกท เช่นกันครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ พฤษภาคม 20, 2009, 03:04:46 PM
จ.นครพนม จัดงานวันระลึกความสัมพันธ์ไทย– เวียตนาม ในโอกาสวันคล้ายวันเกิด อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ประจำปี2552 (20/5/2009)
 ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์วันที่19 พฤษภาคมของทุกปีชาวไทยเชื้อสายเวียตนามจ.นครพนมร่วมกันจัดงานวันระลึก เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอดีตประธานาธิบดีโฮจิ ครบรอบ119ปี ณ หมู่บ้านมิตรภาพไทย–เวียตนาม บ้านนาจอก จ.นครพนม โดยนายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานการจัดงานวันระลึกความสัมพันธ์ไทยเวียตนาม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ซึ่งคณะกรรมการปฏิบัติการหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียตนาม ร่วมกับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายเวียตนามในจ.นครพนม ร่วมจัดขึ้นโดยมี นายเหวียน ยวีฮึง เอกอัคราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียตนาม ประจำประเทศไทย นายตรั่น เหวียนตรึก กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียตนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายกสมาคมไทย-เวียตนาม และชาวไทยเชื้อสายเวียตนาม ทุกจังหวัด เดินทางมาร่วมสักการะอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์เป็นจำนวนมาก บ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นหมู่บ้านที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของประเทศเวียดนามระหว่างปี พ.ศ. 2467–2474 ในยุคของสงครามอินโดจีน และสงครามเวียดนามโดยเฉพาะในชุมชนบ้านนาจอก สถานที่แห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นสถานที่ที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ได้เดินทางเข้ามาอยู่นานถึง7ปี มีการใช้พื้นที่ดังกล่าวนี้ เป็นศูนย์ประสานงานวางแผนการกอบกู้เอกราชจากประเทศฝรั่งเศส ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ชาวไทยเชื้อสายเวียตนาม จึงได้จัดกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย–เวียตนาม เพื่อรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ หมู่บ้านนาจอกได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนามโดยดำริของฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายก รัฐมนตรี ภายในหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนามได้มีการจัดนิทรรศการ แสดงประวัติการทำงานและการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ของท่านโฮจิมินห์สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่มีความสำคัญยิ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ส่งผลให้การกู้ชาติประสบผลสำเร็จ ด้วยความสำคัญของบ้านนาจอก จังหวัดนครพนม จึงถือเป็นคุณูปการสำคัญในการกอบกู้อิสรภาพให้แก่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนตราบเท่าทุกวันนี้


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 20, 2009, 03:25:58 PM
ดีครับเรื่องเก่าๆๆเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้วครับ


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 20, 2009, 04:07:02 PM
ครับท่านสหายตุ๊ ที่จริงน่าเรียกว่า ท่านอดีตประธานาธิบดี เหงวียน ไอ กว๊อก ตามชื่อเดิมของท่าน

ผมอยากทราบประวัติตอนที่ โฮจิมินห์ตัวจริง เสียสละตนเองเพื่อการกู้ชาติของเหงวียน ไอ กว๊อก ไม่ทราบว่าสหายคุ๊พอมีประวัติช่วงนี้หรือไม่   


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 20, 2009, 05:37:49 PM

   ..ผมขอแนะนำอย่างยิ่งให้อ่านกระทู้ "ภูผาที ใครหนีทัพ?? โดยตาทุ้ย"

ในเว็บตี๋น้อย เดียวกันนี้ด้วยครับจะได้ครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ และครบรสชาติ..

สำหรับทุกท่านที่ชื่นชอบ "สงครามลับในลาว" ต้องห้ามพลาด.. เด็ดขาด

http://teenoi.freeforums.org/topic-t70.html?highlight=%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5

เครดิตเว็บตี๋น้อย และคุณตาทุ้ย จขกท เช่นกันครับ

ขอบคุณ ครับ อ่านแล้วติดเลยครับ ::014:: ::002::


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มิถุนายน 24, 2010, 08:31:29 PM
ขอบคุณครับที่เอามาให้อ่านพึ่งเจอกระทู้นี้ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 25, 2010, 05:53:52 PM
Link ที่ท่านๆ ให้มาเข้าไม่ได้แล้วครับ (หรือ ว่าต้องสมัครสมาชิกก่อน) รบกวนด้วนครับ อ่านกำลังติดลม  :~) :~) :~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มิถุนายน 25, 2010, 08:16:07 PM
 ::014::ขอบคุณจขกท.ครับ +


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: maxgti ที่ มิถุนายน 26, 2010, 10:03:13 AM
ได้ความรู้มากจริงๆ  ว่างๆจะอ่านให้ครบเลย ;D




อยากให้มีคนโพสท์กันมาอีกครับ 8)





หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: ko_kloy212 ที่ มิถุนายน 26, 2010, 11:13:09 AM

    ผมขออนุญาตลงลิ้งค์จากต้นฉบับจริงให้อ่านได้ต่อเนื่องในคราวเดียวน่าจะเข้าท่ากว่านะครับ..

http://teenoi.freeforums.org/topic-t444.html (http://teenoi.freeforums.org/topic-t444.html)  เชิญผู้สนใจได้เลยครับ

ไม่ต้องรอ แล้วยังไม่ต้องลำบากคุณ Siri_Pat ไป copy มาให้อ่านอีกด้วย..เพราะคุณตาทุ้ย จขกท.

แจ้งให้ทำลิ้งค์ได้เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันเพื่อนสมาชิก อวป.จะได้อ่านคำถามหรือแง่มุมอื่นๆ อย่างครบถ้วนจาก

ในกระทู้อันนี้ของเว็บตี๋น้อย หรือหลากหลายจากกระทู้อื่นๆได้อีกด้วยนะครับ เพราะมีเรื่องราวที่น่าสนใจ

พร้อมทั้งลิ้งค์อื่นๆอีก นอกเหนือจากนี้มากมาย.. ฮาร์ดคอร์ ไม่ควรพลาดครับ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์และไม่ผิดกติกาของเว็บ อวป. นะครับ

ด้วยความชัดเจนและจริงใจเสมอมา




เข้า linkไม่ได้ครับท่านประธาน spd 7# รออ่านมันช่องนี้แหละ +1 จขกท  :VOV:  ::014::


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มิถุนายน 26, 2010, 03:53:43 PM
 ::014::เชิญอ่านเรื่องจริงอิงนิยายไปพลางๆก่อนครับ
http://www.thailandroverclub.com/board/index.php?topic=1552.0 (http://www.thailandroverclub.com/board/index.php?topic=1552.0)

http://www.thaipoliceshootingclub.com/forum/index.php?PHPSESSID=de71bac595cc881d58b9f6fbcf4f14a2&topic=303.0 (http://www.thaipoliceshootingclub.com/forum/index.php?PHPSESSID=de71bac595cc881d58b9f6fbcf4f14a2&topic=303.0)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว
เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 26, 2010, 05:29:51 PM
ขอบคุณครับ  ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ตาแฉะแน่ คราวนี้  :D~ :D~ :D~ :D~ :D~